ลมหายใจของ
สิงโตจีนในนิยายแฟนตาซีควรได้รับการปั้นแต่งเหมือนตัวละครสำคัญ ไม่ใช่แค่สัตว์ประดับ
การวางสัญลักษณ์สิงโตจีนให้มีพลังต้องเริ่มจากการเข้าใจระดับชั้นของความหมาย: ผู้พิทักษ์เชิงศาสนา สัญลักษณ์อำนาจของราชวงศ์ และตัวแทนของพลังธรรมชาติอันดุร้าย ความรู้สึกของคนในเมืองที่เห็นรูปปั้นสิงโตหน้าอารามหรือขบวนเชิดสิงโตในตลาด สามารถถ่ายทอดเป็นบรรทัดของเนื้อเรื่องได้ เช่น ฉากที่กองทัพยืนอยู่ใต้เงาของสิงโตหิน ถือเป็นการบอกว่าอำนาจนั้นถูกสถาปนาไว้แล้ว และใครท้าทายจะต้องเผชิญความโกรธที่มีรากมาจากประเพณี
เมื่อนำสิงโตเข้ามาเกี่ยวข้องกับ
เวทมนตร์ ให้คิดเรื่องการเชื่อมโยงระหว่างรูปและชื่อ: สีของขนอาจบอกชนิดของธาตุ รอยแผลบนกรงเล็บบอกประวัติการต่อสู้ และเสียงคำรามอาจเป็นคาถาที่แผดเผาผู้บุกรุก วิธีนี้ช่วยให้สิงโตไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์ แต่กลายเป็นตัวละครที่มี “ความทรงจำ” ของโลก. ผมมักจะยกตัวอย่างจากฉากในตำนานจีนโบราณอย่าง 'ไซอิ๋ว' ที่สัตว์วิเศษมักมีพฤติกรรมสะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับเทพเจ้า เพื่อให้ผู้อ่านรับรู้ว่าการให้รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ สามารถทำให้สิงโตดูน่าเชื่อและมีน้ำหนักในเนื้อเรื่อง
สุดท้าย อย่าให้สิงโตมีความหมายเพียงด้านเดียว การใส่ความขัดแย้ง เช่น สิงโตที่ครั้งหนึ่งเป็นผู้พิทักษ์แต่ถูกกล่าวหาว่าทรงพลังจนกลายเป็นภัยคุกคาม จะทำให้โครงเรื่องมีมิติ และเมื่อผู้อ่านพบตัวตนของสิงโตในหลายบทบาท ทั้งผู้พิทักษ์ ผู้พิพากษา และเหยื่อของการเมือง เรื่องราวจะมีความเข้มข้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ