Short
ข้ามพันธนาการรัก สู่ชีวิติใหม่

ข้ามพันธนาการรัก สู่ชีวิติใหม่

By:  ใบไม้Completed
Language: Thai
goodnovel4goodnovel
10Chapters
8views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

เพื่อนสนิทวัยเด็ก ที่เคยสัญญาว่าจะแต่งงานกับฉันทันทีที่เรียนจบมหาวิทยาลัย กลับคุกเข่าขอ “เจียงเหนียนเหนียน” คุณหนูตัวปลอมของตระกูล แต่งงานในวันรับปริญญาของฉัน ส่วน “กู้ฉีหราน” นักบุญแห่งเมืองหลวงในสายตาของทุกคน ก็สารภาพรักกับฉันหลังจากที่เพื่อนสนิทวัยเด็กของฉันขอแต่งงานสำเร็จ ห้าปีหลังแต่งงาน เขาอ่อนโยนกับฉันเสมอมา ตามใจเสียยิ่งกว่าอะไร จนกระทั่งฉันได้ยินบทสนทนาระหว่างเขากับเพื่อนสนิทโดยบังเอิญ “ฉีหราน ตอนนี้เหนียนเหนียนก็มีชื่อเสียงโด่งดังแล้ว นายยังจะแสร้งทำเป็นรักกับเจียงจิ่นต่อไปอีกเหรอ?” “ในเมื่อฉันไม่ได้แต่งงานกับเหนียนเหนียน อย่างอื่นก็ไม่สำคัญแล้ว อีกอย่าง ตราบใดที่ฉันยังอยู่กับเธอ เธอก็จะไม่สามารถไปรบกวนความสุขของเหนียนเหนียนได้” ส่วนพระคัมภีร์ล้ำค่าที่เขาเก็บรักษาไว้ ทุกหน้าล้วนจารึกชื่อของเจียงเหนียนเหนียนเอาไว้ “ขอให้เหนียนเหนียนหลุดพ้นจากความยึดติด ขอให้เธอมีกายใจที่สงบสุข” “ขอให้เหนียนเหนียนสมหวังในทุกสิ่งที่ปรารถนา และไร้ซึ่งความกังวลในรัก” ... “เหนียนเหนียน ชาตินี้เราคงไร้วาสนาต่อกัน ขอให้ชาติหน้าได้ครองคู่เคียงข้าง” ความฝันลม ๆ แล้ง ๆ ตลอดห้าปี สิ้นสุดลงในชั่วพริบตา ฉันสร้างตัวตนใหม่ขึ้นมา วางแผนจัดฉากการจมน้ำของตัวเอง นับจากนี้ไป ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหน เราอย่าได้พบเจอกันอีกเลย

View More

Chapter 1

บทที่ 1

หลังจากยืนยันรายละเอียดครั้งสุดท้ายของแผนแกล้งตาย ฉันก็วางสายไป

อีกเพียงสองวัน ฉันก็จะหายไปตลอดกาลอย่างที่พวกเขาต้องการได้แล้ว

ในขณะนั้นเอง กลิ่นไม้จันทน์หอมอ่อน ๆ ก็ลอยมาจากนอกประตู ฉันเงยหน้าขึ้นโดยสัญชาตญาณ และเห็นว่าเป็นกู้ฉีหราน

เขากอดฉันไว้ แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เมื่อกี้คุยโทรศัพท์กับใครอยู่เหรอ?”

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เรื่องงานที่แกลเลอรี” ฉันฝืนยิ้ม พยายามทำให้น้ำเสียงฟังดูเป็นธรรมชาติที่สุด

เขาประทับจูบลงบนเรือนผมของฉันเบา ๆ แล้วกระซิบว่า “ทำไมช่วงนี้ดูยุ่งจังเลยนะ เดี๋ยวตอนเย็นผมทำอาหารอ่อน ๆ ให้ทานนะ จะได้บำรุงกระเพาะ”

ฉันแต่งงานกับกู้ฉีหรานมาห้าปี เขาดีกับฉันเสมอมา อ่อนโยนและทะนุถนอมฉันอย่างที่สุด

ใคร ๆ ก็บอกว่า หากผู้ที่เปรียบดั่งพุทธบุตรได้ตกหลุมรักใครแล้ว ก็จะรักมั่นไปชั่วชีวิต

ฉันเองก็เคยคิดว่านี่คือความสุขของฉัน

แต่ในตอนนี้ ฉันถึงได้เข้าใจในที่สุดว่า การแต่งงานครั้งนี้ไม่ใช่ความสุขของฉัน แต่เป็นการปกป้องเจียงเหนียนเหนียนของเขาต่างหาก

กู้ฉีหรานลูบไหล่ของฉันเบา ๆ แล้วเอ่ยขึ้นมาว่า

“จริงสิ พรุ่งนี้บ้านตระกูลเจียงจะจัดงานเลี้ยงฉลอง บอกว่าเจียงเหนียนเหนียนท้องแล้ว และก็ถือโอกาสแสดงความยินดีที่เธอได้เข้าร่วมงานแสดงภาพวาดนานาชาติด้วย คุณไม่ต้องไปหรอกนะ เดี๋ยวผมเอาของขวัญไปให้แทนแล้วจะรีบกลับมาอยู่เป็นเพื่อนคุณ”

“ถ้าอย่างนั้นงานแสดงภาพวาดนั่น ฉันก็...”

แต่เขากลับพูดขัดขึ้นมา น้ำเสียงแม้จะอ่อนโยนแต่ก็แฝงไปด้วยความเด็ดขาดที่ยากจะปฏิเสธ

“งานแสดงภาพวาดนั่นคุณไม่ต้องเข้าร่วมหรอกนะ คุณเคยบอกว่าอยากมีลูกไม่ใช่เหรอ? ถือโอกาสนี้พักผ่อนบำรุงร่างกายอยู่ที่บ้านสักพักก็ดีเหมือนกัน”

ฉันหรี่ม่านตาลง เพื่อซ่อนความรู้สึกที่ปั่นป่วนอยู่ภายในใจ

เขาแต่งงานกับฉันมาหลายปี แต่เราก็ไม่มีลูกด้วยกันเสียที

ฉันเคยคิดว่าเป็นเพราะวาสนายังมาไม่ถึง แต่พอมาคิดดูตอนนี้ เกรงว่าจริง ๆ แล้วเป็นเขาเองที่ไม่เคยต้องการ

เกรงว่า ที่เขาไม่ยอมให้ฉันเข้าร่วมการประกวด ก็คงเป็นเพราะกลัวว่าฉันจะไปขวางทางของเจียงเหนียนเหนียนเท่านั้นเอง

เขาโน้มตัวลงจูบที่หน้าผากของฉัน ราวกับไม่ได้รับรู้เลยว่าหัวใจของฉันได้ดิ่งลงสู่จุดต่ำสุดแล้ว

“มะรืนนี้เป็นวันเกิดคุณ ผมเตรียมของขวัญเซอร์ไพรส์ไว้ให้คุณแล้ว ขอให้คุณมีความสุขในทุก ๆ ปี”

มีความสุขในทุก ๆ ปี

ฉันทวนคำพูดนั้นซ้ำ ๆ และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าคำพูดเหล่านี้มันช่างบาดหูเหลือเกิน

หลายปีที่ผ่านมา ทุกครั้งที่เขาอวยพรฉัน มักจะมีคำว่า “ทุก ๆ ปี (พ้องเสียงกับคำว่า ‘เหนียนเหนียน’)” อยู่เสมอ

และฉัน เพิ่งจะมาเข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำว่า “ทุก ๆ ปี” ก็ในตอนนี้นี่เอง

ที่แท้แล้ว คำอวยพรที่ออกมาจากปากของเขาเหล่านี้ ไม่เคยเป็นของฉันเลยสักครั้ง

“ได้สิคะ วันเกิดปีนี้ฉันก็มีแผนของฉันเหมือนกัน คุณต้องเจียดเวลามาอยู่กับฉันให้ได้นะคะ”

เขาพยักหน้า “แน่นอนอยู่แล้ว บ้านเราให้เสี่ยวจิ่นเป็นคนตัดสินใจ”

ฉันเงยหน้าขึ้น แล้วส่งยิ้มให้เขา

กู้ฉีหราน ต้องลำบากคุณแล้ว

คืนนั้น ฉันข่มตาหลับไม่ลง หลังจากค่อย ๆ ยกแขนของกู้ฉีหรานที่โอบรอบตัวฉันออก

ก็เผลอทำสร้อยประคำเม็ดโพธิ์ที่เขาพกติดตัวอยู่เสมอหลุด
Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
10 Chapters
บทที่ 1
หลังจากยืนยันรายละเอียดครั้งสุดท้ายของแผนแกล้งตาย ฉันก็วางสายไปอีกเพียงสองวัน ฉันก็จะหายไปตลอดกาลอย่างที่พวกเขาต้องการได้แล้วในขณะนั้นเอง กลิ่นไม้จันทน์หอมอ่อน ๆ ก็ลอยมาจากนอกประตู ฉันเงยหน้าขึ้นโดยสัญชาตญาณ และเห็นว่าเป็นกู้ฉีหรานเขากอดฉันไว้ แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เมื่อกี้คุยโทรศัพท์กับใครอยู่เหรอ?”“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เรื่องงานที่แกลเลอรี” ฉันฝืนยิ้ม พยายามทำให้น้ำเสียงฟังดูเป็นธรรมชาติที่สุดเขาประทับจูบลงบนเรือนผมของฉันเบา ๆ แล้วกระซิบว่า “ทำไมช่วงนี้ดูยุ่งจังเลยนะ เดี๋ยวตอนเย็นผมทำอาหารอ่อน ๆ ให้ทานนะ จะได้บำรุงกระเพาะ”ฉันแต่งงานกับกู้ฉีหรานมาห้าปี เขาดีกับฉันเสมอมา อ่อนโยนและทะนุถนอมฉันอย่างที่สุดใคร ๆ ก็บอกว่า หากผู้ที่เปรียบดั่งพุทธบุตรได้ตกหลุมรักใครแล้ว ก็จะรักมั่นไปชั่วชีวิตฉันเองก็เคยคิดว่านี่คือความสุขของฉันแต่ในตอนนี้ ฉันถึงได้เข้าใจในที่สุดว่า การแต่งงานครั้งนี้ไม่ใช่ความสุขของฉัน แต่เป็นการปกป้องเจียงเหนียนเหนียนของเขาต่างหากกู้ฉีหรานลูบไหล่ของฉันเบา ๆ แล้วเอ่ยขึ้นมาว่า“จริงสิ พรุ่งนี้บ้านตระกูลเจียงจะจัดงานเลี้ยงฉลอง บอกว่าเจียงเหนียนเหนียนท
Read more
บทที่ 2
ตอนที่เก็บสร้อยประคำข้อมือขึ้นมา ฉันรู้สึกว่าพื้นผิวของลูกปประคำมันดูแปลกๆฉันอาศัยแสงไฟสลัวๆ ลองมองดูดีๆ ถึงได้เห็นว่าบนลูกปัดแต่ละเม็ดมีตัวอักษรสลักอยู่เหนียนเหนียนในวินาทีนั้นเอง หัวใจของฉันก็แตกสลายโดยสมบูรณ์เช้าวันต่อมา ฉันพูดกับกู้ฉีหรานว่า “เรากลับไปบ้านตระกูลเจียงด้วยกันเถอะค่ะ”สีหน้าของเขาแข็งทื่อไปชั่วขณะ แต่ก็กลับมาสงบอย่างรวดเร็ว แล้วพูดเรียบ ๆ ว่า “ก็ได้ งั้นเราไปถึงที่นั่นแล้วก็มอบของขวัญให้เสร็จ แล้วกลับกันเลยนะ”ฉันรู้ว่าเขาไม่อยากให้ฉันไป เพราะกลัวว่าฉันจะไปรบกวนเจียงเหนียนเหนียนแต่ฉันแค่อยากจะกลับไปที่บ้านตระกูลเจียงเพื่อเจอหน้าครอบครัวเป็นครั้งสุดท้ายเพราะพรุ่งนี้ ฉันก็จะเตรียมตัวจากไปแล้วเมื่อมาถึงบ้านตระกูลเจียง แขกเหรื่อเต็มบ้านกำลังเฉลิมฉลองให้กับข่าวมงคลสองชั้นของเจียงเหนียนเหนียน ทั้งเรื่องการตั้งครรภ์และเรื่องที่เธอได้เข้าร่วมงานแสดงภาพวาดนานาชาติท่ามกลางฝูงชน เจียงเหนียนเหนียนถูกห้อมล้อมราวกับเป็นดาวเด่น ทุกคนต่างชื่นชมเธอ บอกว่าภาพวาดที่เธอส่งเข้าประกวดจะต้องได้รับรางวัลใหญ่อย่างแน่นอนแถมยังพูดถึงว่าภาพวาดนั้นยังได้รับลายเซ็นจารึกจากนักเข
Read more
บทที่ 3
กู้ฉีหรานดูเหมือนจะสังเกตเห็นความผิดปกติของฉัน เขาชะงักไปครู่หนึ่งแล้วจึงเอ่ยขึ้น“หรือว่าเรากลับกันตอนนี้เลยดีไหม? ไปหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจกัน”ฉันเงยหน้ามองเขา มุมปากโค้งขึ้นเล็กน้อย “งั้นก็ไปล่องเรือยอชต์กันค่ะ ล่องเรือตอนกลางคืน แล้วก็ดูพระอาทิตย์ขึ้นของวันพรุ่งนี้ด้วยเลย”หลังจากขึ้นรถ เขาก็เริ่มคุยกับฉันถึงแผนของวันพรุ่งนี้ “ผมเตรียมของขวัญวันเกิดเซอร์ไพรส์ให้คุณแล้วนะ รอให้จัดการธุระช่วงนี้เสร็จ แล้วเราค่อยวางแผนมีลูกกัน ดีไหม?”ฉันเพียงแค่ฟังเงียบ ๆ สายตาทอดมองออกไปนอกหน้าต่าง โดยไม่ตอบอะไรรถเพิ่งจะออกตัว โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเขารับโทรศัพท์ ขมวดคิ้วเล็กน้อย น้ำเสียงเจือความลำบากใจฉันหันไปมองเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ถ้าคุณมีธุระก็ไปก่อนเถอะค่ะ”เขาลังเลใจ “เสี่ยวจิ่น ผม...”“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไปรอคุณที่เรือยอชต์ก่อนก็ได้”ฉันมองไม่เห็นว่าใครโทรมา แต่ฉันรู้ว่าคนที่จะทำให้เขามีสีหน้าแบบนี้ได้ มีเพียงคนเดียวเท่านั้นหลังจากขึ้นมาบนเรือยอชต์ตามลำพัง ฉันก็หยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูโมเมนต์ในวีแชทของเจียงเหนียนเหนียนภาพที่เพิ่งโพสต์ใหม่ล่าสุดปรากฏขึ้น พร้อมกับแคปชัน
Read more
บทที่ 4
กู้ฉีหรานยืนตะลึงไป เสียงของเขาแหบพร่าขณะเอ่ยถาม “เป็นไปไม่ได้! ฉันกับเธอนัดกันไว้แล้วนะ อีกอย่างนี่ก็จะถึงวันเกิดเธอแล้ว อยู่ดี ๆ เธอจะเป็นอะไรไปได้ยังไง?”ผู้ช่วยทำหน้าลำบากใจ แล้วพูดเสียงเบาว่า “ท่านประธานครับ ตอนนั้นลูกเรือบอกว่าคุณผู้หญิงขึ้นเรือไปคนเดียว ดูเหมือนอารมณ์จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หลังจากนั้น...”“เป็นไปไม่ได้!” เขาพูดขัดคำพูดของผู้ช่วยขึ้นมาทันที น้ำเสียงดังขึ้นโดยไม่รู้ตัว “ฉันไม่เชื่อ! เธอจะขึ้นเรือไปคนเดียวได้ยังไง? ทำไมลูกเรือไม่โทรหาฉัน?”ผู้ช่วยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวัง “ท่านประธานครับ ลูกเรือบอกว่าพยายามโทรหาท่านทั้งคืน แต่ว่าโทรศัพท์ของท่าน...ดูเหมือนจะปิดเครื่องอยู่นะครับ”กู้ฉีหรานรีบก้มลงมองโทรศัพท์ของตัวเองทันที หน้าจอดำสนิทจริง ๆเขารีบกดปุ่มเปิดเครื่อง แล้วหันไปมองเจียงเหนียนเหนียน แววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา “เธอเป็นคนปิดเหรอ?”เจียงเหนียนเหนียนชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะรีบแก้ตัวทันที “อาหราน ฉันจะไปปิดมือถือพี่ได้ยังไง! อาจจะเผลอไปโดน หรือไม่ก็แบตหมดจนมันปิดไปเองก็ได้ พี่จะมาโทษฉันไม่ได้นะ” น้ำเสียงของเธอเจือความน้อยใจ ราวกับไม่รู้เร
Read more
บทที่ 5
ไม่มีใครรู้ว่าฉันซ่อนตัวอยู่ที่ไหน และก็ไม่มีใครรู้ว่า จริง ๆ แล้วฉันเตรียมใจที่จะอยู่คนเดียวไปจนแก่เฒ่าแล้วตอนที่ย้ายมาเมืองนี้แรก ๆ ฉันปฏิเสธที่จะพูดคุยกับใครไม่ว่าจะซื้อของ จ่ายค่าเช่าบ้าน หรือแม้แต่จ่ายค่าน้ำค่าไฟ ฉันจะพยายามใช้คำพูดที่สั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ผู้คนคิดว่าฉันเป็นคนเย็นชาและแปลกประหลาด นานวันเข้าก็เลยไม่มีใครสนใจฉันอีกซึ่งก็ตรงกับความต้องการของฉันพอดีฉันใช้เงินเก็บเปิดสตูดิโอสอนวาดภาพเล็ก ๆ ที่สอนเฉพาะเด็ก ๆครั้งหนึ่งฉันเคยคิดว่าพรสวรรค์ของฉันมีไว้เพื่อยืนอยู่ใต้แสงสปอตไลท์ในงานแสดงภาพวาด มีไว้เพื่อรับเสียงปรบมือและคำชื่นชมจากผู้คนนับไม่ถ้วนแต่ตอนนี้ ฉันแค่อยากจะวาดเส้นสายง่าย ๆ อย่างเงียบ ๆ และสอนเด็กไร้เดียงสาสักสองสามคนหนึ่งเดือนต่อมา คนจากบริษัทบริการแกล้งตายโทรมาบอกฉันว่า “ช่วงนี้กู้ฉีหรานกำลังตามหาคุณอยู่ครับ”“ตามหาฉันเหรอ?” ฉันหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดอย่างเย็นชา “ฉันตายไปแล้ว เขาจะมาตามหาฉันทำไม?”“เขาไปที่แกลเลอรีของคุณ แล้วก็พยายามติดต่อเพื่อนเก่า ๆ ของคุณด้วยครับ” พนักงานกล่าว “แต่วางใจได้เลย มาตรการป้องกันของเราแน่นหนามาก เขาไม่มีทางหาอะไรเจอ
Read more
บทที่ 6
เขาเริ่มหวนรำลึกถึงความหลัง แต่ฉันกลับค่อย ๆ เดินจากไปไกล“คุณครูครับ คุณครูกำลังดูอะไรอยู่เหรอครับ?” โจวจวิ้น เด็กชายตัวน้อยที่อยู่ข้าง ๆ ชะโงกหน้าเข้ามาดูด้วยความสงสัยฉันรีบปิดหน้าจอโทรศัพท์ แล้วพูดเสียงเบา “ไม่มีอะไรจ้ะ ภาพวาดลายเส้นของเธอยังไม่เสร็จเลยนะ รีบไปวาดต่อเถอะ”“คุณครูครับ” เขาเอียงคอถามฉัน “คุณครูไม่สบายใจหรือเปล่าครับ?”ฉันชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมา “ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ เธอคิดมากไปแล้ว”โจวจวิ้นวิ่งจากไป ฉันจ้องหน้าจอโทรศัพท์ในมืออย่างเหม่อลอยใช่ ฉันไม่สบายใจแต่ไม่ใช่เพราะคนเหล่านั้น แต่เป็นเพราะข่าวพวกนี้ดึงฉันกลับไปสู่อดีตที่เต็มไปด้วยคำโกหกและการทรยศหักหลังวันหนึ่ง ขณะที่ฉันกำลังสอนเด็ก ๆ อยู่ในสตูดิโอ ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาเขายืนอยู่ที่ประตู ในมือถือช่อดอกไม้ขนาดใหญ่“สวัสดีครับ ผมเป็นอาของโจวจวิ้น ผมชื่อโจวหยางครับ”“นี่สำหรับคุณครับ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ระมัดระวัง “จวิ้นจวิ้นชอบเรียนกับคุณครูมาก นี่เป็นน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ จากผมครับ”ฉันเหลือบมองดอกไม้เหล่านั้น พยักหน้า แต่ไม่ได้รับมา แล้วพูดเรียบ ๆ ว่า “ฉันไม่รับของขวัญค่ะ”เขาชะงักไปเล็กน้
Read more
บทที่ 7
”ลองดูเถอะครับ ภาพวาดของคุณมีค่าพอที่จะให้คนอื่นได้เห็นมากกว่านี้”คืนนั้น ฉันหยิบพู่กันที่ไม่ได้จับมานานออกมาบนผ้าใบ ท้องทะเลค่อย ๆ ปรากฏขึ้นอย่างช้า ๆ บนท้องฟ้าเป็นแสงแรกของยามรุ่งอรุณ ผิวน้ำระยิบระยับสะท้อนเงาของฉันเมื่อฉันตวัดพู่กันเป็นครั้งสุดท้าย ฉันก็พลันเข้าใจในทันทีว่า ภาพวาดนี้ไม่ได้วาดเพื่อเขา ไม่ได้วาดเพื่อใคร แต่เพื่อตัวฉันเองในวันแสดงภาพวาด ผลงานของฉันได้รับการยอมรับอย่างสูงจากคณะกรรมการพรสวรรค์ที่ถูกทอดทิ้งมานานหลายปี ในที่สุดก็ได้ปรากฏสู่สายตาชาวโลกอีกครั้งฉันคิดว่านี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่กลับไม่คาดคิดว่า “การกลับมา” ครั้งนี้จะทำลายชีวิตอันสงบสุขของฉันลงโดยสิ้นเชิงวันหนึ่งขณะที่กำลังสอน ฉันกำลังอธิบายเรื่องการจับคู่สีให้กับเด็ก ๆภายในสตูดิโอ แสงแดดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา เด็ก ๆ กำลังระบายสีกันอย่างเงียบเชียบ บรรยากาศทั้งหมดเต็มไปด้วยความสงบสุขที่ห่างหายไปนานทันใดนั้น ประตูสตูดิโอก็ถูกผลักเปิดออกอย่างแรง และมีคนหนึ่งพุ่งเข้ามา“เจียงจิ่น!”ฉันเงยหน้าขึ้น และตกตะลึงในทันทีคนที่พุ่งเข้ามาคือเจียงเหนียนเหนียน เธออุ้มท้องโต ใบหน้าซ
Read more
บทที่ 8
ยังไม่ทันสิ้นเสียง เธอก็พุ่งเข้ามาทันทีฉันใช้สัญชาตญาณปกป้องเด็ก ๆ ที่อยู่ข้างหลัง ทำให้หลบไม่ทัน ถูกมือของเธอคว้าเสื้อไว้แน่น เล็บของเธอข่วนแขนฉันจนเป็นรอยเลือดหลายรอย“หยุดนะ!” ฉันตวาด แต่เธอกลับเหมือนคนบ้า อารมณ์สูญเสียการควบคุมโดยสิ้นเชิง และผลักฉันล้มลงกับพื้นอย่างแรงพวกเด็ก ๆ กรีดร้องด้วยความตกใจโจวจวิ้นน้ำตาคลอเบ้า แต่ก็ยังแอบวิ่งเข้ามาใช้กำปั้นเล็ก ๆ ต่อยเธอไปหนึ่งที “อย่ามาตีคุณครูนะ!”เจียงเหนียนเหนียนชะงักไปเมื่อถูกต่อย จากนั้นก็ยิ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “ไอ้เด็กเวร แม้แต่แกก็กล้าแตะต้องฉันเหรอ?”เธอเงื้อมือขึ้นจะตบโจวจวิ้น ฉันรีบลุกขึ้นพุ่งเข้าไปปกป้องเขาไว้ และรับฝ่ามือนั้นแทนเขาอย่างจังความเจ็บปวดแสบร้อนแล่นไปทั่วหัวไหล่ แต่ฉันก็ยังคงปกป้องเด็ก ๆ ไว้แน่น พร้อมกับตะคอกเสียงดัง “พอได้แล้ว! เจียงเหนียนเหนียน ถ้าเธอยังเป็นแบบนี้อีก ก็รอให้กฎหมายมาจัดการเธอเถอะ!”เธอหัวเราะเยาะ ในแววตาเต็มไปด้วยการดูถูก “เจียงจิ่น เธอหนีได้ชั่วคราว แต่หนีไม่ได้ตลอดไปหรอก! วันนี้แหละฉันจะทำให้เธอต้องชดใช้!”ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังมาจากหน้าประตูโจวหยางพุ่งเข้ามาเขาไม่
Read more
บทที่ 9
แต่กู้ฉีหรานกลับไม่สนใจคำพูดของเจียงเหนียนเหนียนเลยแม้แต่น้อย สายตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่ฉันไม่ละไปไหนน้ำเสียงของเขาเจือไปด้วยการอ้อนวอน “เสี่ยวจิ่น ฟังผมนะ ผมเสียใจจริง ๆ ผมผิดเองที่ไม่เคยเห็นค่าคุณ ขอร้องล่ะ ให้โอกาสผมอีกครั้งได้ไหม”“โอกาสเหรอ?” ฉันหัวเราะเยาะ สายตาเย็นชา “กู้ฉีหราน ตอนนี้คุณยังคิดว่าตัวเองมีสิทธิ์มาพูดคำนี้กับฉันอีกเหรอ?”“ผมรู้ว่าผมผิด ผมไม่ควรละเลยคุณ ไม่ควรเชื่อคำพูดของคนอื่น ความผิดทั้งหมดเป็นของผมเอง ผมยินดีที่จะแก้ไข ขอร้องล่ะ ยกโทษให้ผมเถอะนะ...”น้ำเสียงของเขาค่อย ๆ แผ่วลง จนแทบจะเป็นการขอร้อง “ขอแค่คุณยอม ผมยอมทำทุกอย่าง”เมื่อเจียงเหนียนเหนียนเห็นดังนั้นก็ร้อนรนจนหน้าถอดสี เธอสะกดกลั้นความโกรธแล้วพูดแทรกขึ้น “อาหรานคะ พี่เคยบอกว่าพี่รักฉันคนเดียว พี่...”“หุบปาก!” กู้ฉีหรานพูดขัดเธอขึ้นมาอย่างเย็นชา ในแววตาเต็มไปด้วยความเย็นชาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “ฉันพูดกับเธอชัดเจนไปนานแล้ว ไม่ว่าเธอจะพูดอะไร มันก็ไม่เกี่ยวกับฉันอีกต่อไป”เจียงเหนียนเหนียนราวกับถูกตบหน้าอย่างแรง สีหน้าซีดเผือดในทันที เธอตะโกนอย่างไม่ยอมแพ้ “อาหรานคะ พี่จะทำกับฉันแบบนี้ไม่ไ
Read more
บทที่ 10
ในแววตาของเขาเต็มไปด้วยการอ้อนวอนและความต่ำต้อย ราวกับว่าขอเพียงได้อยู่ข้างกายฉัน เขาก็พร้อมจะยอมทุกอย่างในตอนนั้นเอง โจวหยางก็เอ่ยขึ้น น้ำเสียงสงบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความเฉียบคม “คุณกู้ครับ ถึงแม้ผมจะไม่ทราบเรื่องราวระหว่างพวกคุณ แต่ผมคิดว่า การที่จะอยู่ข้างกายคุณหรือไม่นั้น ก็คงต้องขึ้นอยู่กับความเห็นของเธอ คุณเอาแต่พูดถึงความรู้สึกของตัวเอง แต่คุณเคยคิดบ้างไหมว่า จริง ๆ แล้วเธอต้องการอะไรกันแน่?”กู้ฉีหรานชะงักไป อ้าปากค้าง แต่กลับพูดอะไรไม่ออกฉันมองเขา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่งแต่เด็ดเดี่ยว “กู้ฉีหราน ไม่ว่าจะอย่างไร ห้าปีนั้นมันก็ผ่านไปแล้ว ต่อให้ฉันยังมีชีวิตอยู่ ฉันก็คิดว่า...คุณไม่ใช่ทางเลือกของฉันอีกต่อไปแล้ว”สีเลือดบนใบหน้าของเขาค่อย ๆ จางหายไป แต่ฉันยังคงพูดต่อ “อย่าบีบให้ฉันต้องมองว่าทุกสิ่งทุกอย่างในอดีตของเราเป็นความผิดพลาดเลย หรือว่าคุณอยากให้ฉันตายไปจริง ๆ ถึงจะยอมปล่อยฉันไปอย่างสมบูรณ์?”“อย่า!” เขาพูดขัดฉันขึ้นมาทันที ในแววตาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าอย่างสุดซึ้ง น้ำเสียงเจือไปด้วยการวิงวอน“เสี่ยวจิ่น ผมผิดไปแล้ว ผมผิดไปแล้วจริง ๆ ขอแค่คุณอยู่ดีมีสุข อย่าจากผมไป
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status