เราเคยหลงใหลในเรื่องราวที่พาให้คนธรรมดาก้าวผ่านประตูสู่โลกที่ไม่ธรรมดา และถ้าต้องสรุป 'แดนพิศวง' แบบย่อ ๆ ก็ต้องบอกว่าเป็นนิทานการผจญภัยที่ผสมทั้งความฝันและฝันร้ายเข้าด้วยกัน
โครงเรื่องหลักมักเริ่มจากตัวเอก—ซึ่งอาจจะเป็นเด็กหรือวัยรุ่น—ถูกดึงเข้าไปยังสถานที่ที่กฎความจริงเปลี่ยนไป ทุกสิ่งกลายเป็นสัญลักษณ์: สัตว์พูดได้เป็นเพื่อนหรือผู้ทดสอบ ผู้ปกครองหรือเมืองที่คุ้นเคยหายไป ภารกิจของตัวเอกไม่จำเป็นต้องซับซ้อน เช่น หาเส้น
ทางกลับบ้าน หยุดการปกครองเผด็จการของผู้ครองแดน หรือตามหาเศษชิ้นความทรงจำ แต่แก่นคือการเติบโตด้านใน การเลือก และการเรียนรู้ว่าตนเองเป็นใคร
สิ่งที่ผมชอบคือความหลากหลายของฉากและตัวละครที่ทำหน้าที่เป็นบททดสอบให้ตัวเอกกล้าตัดสินใจ ในหลายเวอร์ชันจะมีไอเท็มหรือคำใบ้ที่เชื่อมเรื่องราวเข้าด้วยกัน การบรรยายมักเล่นกับตรรกะแบบฝัน—บางครั้งสนุก เหมือนฉากใน 'Alice in Wonderland' บางครั้งก็หม่น
เหมือนฝันร้าย—แต่ท้ายที่สุดเรื่องแบบนี้มักจบด้วยการยอมรับความจริงหรือการกลับบ้านที่มีมุมมองใหม่ ต่อให้สรุปสั้น ๆ แบบนี้ แดนพิศวงยังคงเป็นพื้นที่ที่ชวนให้คิดต่อและจินตนาการอยู่เสมอ