LOGINการแต่งงานระหว่างฉันกับลอเรนโซ คอร์สิกา เจ้าพ่อมาเฟียผู้ทรงอิทธิพล เหมือนจะขาดก้าวสุดท้ายไปเสมอ หมั้นหมายมาห้าปี จัดงานแต่งงานมาแล้วถึงสามสิบสองครั้ง แต่ทุกครั้งก็ต้องล้มเลิกกลางคันเพราะอุบัติเหตุ จนกระทั่งครั้งที่สามสิบสาม พิธีดำเนินไปได้เพียงครึ่งเดียว ผนังโบสถ์ด้านนอกก็ถล่มลงมาทับร่างฉันจนต้องหามส่งห้องไอซียู กะโหลกศีรษะร้าว สมองกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ใบแจ้งอาการวิกฤตินับสิบใบถูกส่งออกมา... ฉันดิ้นรนอยู่บนเส้นด้ายแห่งความเป็นความตายถึงสองเดือน กว่าจะยื้อชีวิตกลับมาได้ ทว่าในวันที่ออกจากโรงพยาบาล ฉันกลับได้ยินบทสนทนาระหว่างลอเรนโซกับลูกน้องคนสนิท “นายน้อยครับ ถ้าท่านหลงรักนักเรียนทุนคนนั้นจริง ๆ ก็แค่ถอนหมั้นกับคุณหนูเคียร่าไปตรง ๆ เถอะครับ อำนาจของตระกูลคอร์สิกามากพอที่จะสยบข่าวลือพวกนั้นได้ ท่านจะสร้างอุบัติเหตุครั้งแล้วครั้งเล่าไปทำไม...” “เธอเกือบตายแล้วนะครับ” น้ำเสียงของลูกน้องคนสนิทเจือแววไม่เห็นด้วย ลอเรนโซเงียบไปนาน ก่อนจะเอ่ยปากขึ้น “ฉันเองก็ไม่มีทางเลือก... สิบปีก่อน คุณมอร์โตแลกชีวิตของเขากับภรรยาเพื่อช่วยฉัน บุญคุณนี้ ฉันชดใช้ได้แค่ด้วยสัญญาหมั้นหมายเท่านั้น” “แต่ฉันรักโซเฟีย นอกจากเธอแล้ว ฉันก็ไม่อยากแต่งงานกับใครทั้งนั้น” ฉันก้มมองรอยแผลเป็นที่พาดผ่านไปมาบนร่างกาย แล้วร้องไห้ออกมาอย่างเงียบงัน ที่แท้ความเจ็บปวดทั้งหมดที่ฉันต้องแบกรับ ไม่ใช่เพราะโชคชะตาเล่นตลก แต่เป็นเพราะแผนการอันแยบยลของคนที่ฉันรักหมดหัวใจ ในเมื่อเขาเลือกไม่ได้ ถ้าอย่างนั้น ฉันจะเป็นคนจบเรื่องทั้งหมดนี้แทนเขาเอง
View Moreมาดามเอลิซ่าส่งตัวฉันมารักษาที่ศูนย์พักฟื้นระดับท็อปแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งมีความเป็นส่วนตัวสูงมาก หลังจากถูกกรอกยานอนหลับเข้าไปจำนวนมาก ร่างกายที่ทรุดโทรมเพราะโรคมะเร็งอยู่แล้วของฉันก็แทบจะพังทลายลง เป็นมาดามเอลิซ่าที่มาช่วยฉันไว้ได้ทันเวลา ในวันนั้น ภาพที่ฉันจำได้แม่นคือ นายหญิงแห่งตระกูลคอร์สิกาผู้สง่างามและเข้มแข็งมาโดยตลอด กำลังคุกเข่าลงต่อหน้าฉัน น้ำตาไหลอาบสองแก้ม เอ่ยคำสารภาพผิดต่อฉันและต่อพ่อแม่ที่ล่วงลับไปแล้วของฉัน แต่เรื่องพวกนี้ สำหรับฉันแล้ว มันไม่สำคัญอีกต่อไป เนื้องอกในสมอง เปรียบเสมือนระเบิดเวลาที่ฝังลึกอยู่ภายใน ฉันอาจจะตายเมื่อไหร่ก็ได้ ความเสียใจเพียงหนึ่งเดียวก็คือ แหวนหยกที่พ่อทิ้งไว้ให้ มันแตกไปแล้ว ฉันเก็บรวบรวมเศษซากของมันอย่างทะนุถนอม ใส่ไว้ในกล่องกำมะหยี่ แต่ไม่ว่าจะพยายามต่อมันอย่างไร มันก็ไม่มีวันกลับคืนมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก หลังจากที่ฉันเข้ารับการรักษาได้สามเดือน ในที่สุดลอเรนโซก็ตามหาฉันจนเจอ ฉันรู้ว่า เป็นเพราะมาดามเอลิซ่าใจอ่อน ไม่เจอกันไม่กี่เดือน เขาดูซูบตอบลงไปมาก ปลายคางเขียวครึ้มไปด้วยตอหนวด นัยน์ตาแดงก่ำเต็มไปด้วยเส้
ลอเรนโซกลับมาที่โรงพยาบาล ทันทีที่โซเฟียเห็นเขา นัยน์ตาของเธอก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที เธอยกยิ้มมุมปาก “ลอเรนโซ ฉันรู้ว่าคุณไม่มีทางทิ้งฉัน...” เธอทำท่าจะเข้ามาควงแขนเขา แต่กลับถูกลอเรนโซเบี่ยงตัวหลบอย่างเย็นชา เขามองเธอ แววตาไร้ซึ่งความอบอุ่นเฉกเช่นวันวาน เหลือเพียงสายตาแห่งการจับผิดอันหนาวเหน็บ “เรื่องที่คุณฆ่าตัวตาย เป็นฝีมือเคียร่าบีบบังคับจริง ๆ เหรอ?” โซเฟียไม่คาดคิดว่าเขาจะถามเรื่องนี้อีก จึงแสร้งทำเป็นใจดีสู้เสือ “แน่นอนสิคะ! ลอเรนโซ คุณอย่าไปเชื่อคนอื่น ผู้หญิงพรรค์นั้น...” “ผมเช็กมาแล้ว” ลอเรนโซพูดแทรกขึ้นมา น้ำเสียงราบเรียบไร้คลื่นอารมณ์ มีเพียงความผิดหวังและความเหนื่อยล้าสายหนึ่ง “เคียร่าไม่ได้ติดต่อกับคุณโดยตรงเลย แล้วเธอบีบบังคับคุณยังไง ให้คุณฆ่าตัวตายในวันที่ผมตัดสินใจไปโบสถ์พอดีเป๊ะ?” “หมอบอกว่าความเข้มข้นของยาในเลือดคุณ ไม่ถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้เลยสักนิด การฆ่าตัวตายครั้งนี้ ดูเหมือนการแสดงที่วางแผนมาอย่างดีมากกว่า” น้ำเสียงของลอเรนโซเย็นชาลงเรื่อย ๆ ประโยคสุดท้าย เหมือนเขาพูดตอกย้ำความโง่ของตัวเอง จู่ ๆ เขาก็ตระหนักได้ว่าตัวเองโง่เขลาและน่าสมเพชเ
ลอเรนโซระดมกำลังคนเพิ่มขึ้น แทบจะพลิกแผ่นดินค้นหาไปทั่วเครือข่ายใต้ดินของเมือง แต่กลับไม่พบร่องรอยของเคียร่าแม้แต่น้อย ราวกับว่าเธอไม่เคยมีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้ ท้ายที่สุด เขาจำต้องบากหน้าไปหาแม่ของเขา ผู้กุมอำนาจที่แท้จริงคนหนึ่งของตระกูลคอร์สิกา “แม่ครับ แม่รู้ไหมว่าเคียร่าอยู่ที่ไหน? เธอหายตัวไป ผมหาเธอไม่เจอ” น้ำเสียงของลอเรนโซเจือความร้อนรนที่แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่ทันสังเกต มาดามเอลิซ่าปรายตามองเขาด้วยสายตาเย็นชา “ไม่ต้องหาแล้ว ในนามของตระกูลคอร์สิกา แม่ได้ยกเลิกสัญญาหมั้นหมายระหว่างลูกกับเคียร่าไปแล้ว ตอนนี้เธอไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับลูกอีกต่อไป” ประโยคนั้นเปรียบเสมือนค้อนปอนด์ที่ทุบลงกลางใจของลอเรนโซอย่างจัง เขารู้สึกวิงเวียนไปชั่วขณะ ก่อนจะโพล่งแย้งออกมาเสียงหลง “ยกเลิกงานหมั้น?! ทำไมครับ! นี่เป็นสัญญาที่ตระกูลมอร์โตแลกมาด้วยชีวิตนะ! พวกเราเคยให้สัตยาบันเลือดกันไว้!” มาดามเอลิซ่ายิ้มเยาะ “สัตยาบันเลือด? ลูกยังจำได้ด้วยเหรอว่านี่คือคำสาบานที่ลูกกรีดเลือดสาบานไว้? แล้วหลังจากนั้นลูกทำอะไรลงไปบ้าง?!” ลอเรนโซจุกจนพูดไม่ออก เขากัดฟันพูดอย่างดื้อรั้น “เคียร่าไม่มีทางยอ
พอได้ยินคำตอบ ใบหน้าของลอเรนโซก็ซีดเผือดลงทันตา! นับตั้งแต่ตอนที่ช่วยชีวิตโซเฟียจนถึงตอนนี้ ผ่านไปเกือบสองชั่วโมงแล้ว! ปริมาณยาที่เขากรอกลงไป... มากพอที่จะทำให้คนคนหนึ่ง... ภายในเวลาสองชั่วโมง... เขาผลักลูกน้องออกอย่างแรง วิ่งโซซัดโซเซออกจากโรงพยาบาล กระโดดขึ้นรถแล้วขับมุ่งหน้าไปยังวิลล่าของโซเฟียอย่างบ้าคลั่ง ตลอดทาง หัวใจของเขาเต้นรัวไม่หยุด มันเงียบเกินไป โทรศัพท์ของเขาไม่มีข้อความแจ้งเตือนใด ๆ เขากระหน่ำโทรหาเบอร์ของเคียร่า แต่มีเพียงสัญญาณสายไม่ว่างตอบกลับมา ประตูวิลล่ายังคงเปิดแง้มอยู่ ห้องรับแขกยังคงเละเทะ บนพื้นนอกจากขวดยาเปล่าและเศษซากแหวนหยกแล้ว ก็ไม่มีใครอยู่เลย ลอเรนโซหอบหายใจถี่ แทบจะตะโกนก้องร้องเรียก “เคียร่า?!” ไม่มีเสียงตอบรับ คนที่ถูกกรอกยานอนหลับไปครึ่งขวดจะหนีไปไหนได้? ลอเรนโซยืนนิ่งอยู่กับที่ ลางสังหรณ์ร้ายแรงถาโถมเข้ามาในสมองราวกับคลื่นยักษ์ เขานวดขมับที่ปวดตุบ ๆ เกลียดการขาดสติและความอำมหิตของตัวเองในตอนนั้น ถึงอย่างไร... เธอก็เป็นคู่หมั้นของเขา เป็นลูกสาวของผู้มีพระคุณ เป็นเด็กผู้หญิงที่เขาเคยปฏิบัติด้วยอย่างอ่อนโยนในความทรงจำวัยเด็