พอฟังครั้งแรกจะรู้เลยว่าเพลงประกอบของ '
วิกฤติวันสิ้นโลก' ถูกวางคอนทราสต์ระหว่างความ
อลังการและความเปราะบาง ทำให้คนติดใจได้ง่าย ๆ — ชิ้นที่ฮิตที่สุดมักจะเป็นสามประเภทหลักคือ 'ธีมหลัก' ที่มีจังหวะหนักแน่นและคอร์ดอบอุ่นแบบออเคสตรา, 'เพลงปิด' ที่เป็นเพลงร้องเต็มเวอร์ชันซึ่งจับอารมณ์เศร้าแต่มีความหวังอยู่เบื้องหลัง, และ 'บรรเลงเปียโน' หรือเพลงสั้นแบบอินเสิร์ทที่ใช้ในฉากเรียกน้ำตา เหล่านี้แหละที่มักถูกคลิปไวรัล ดนตรีรีมิกซ์ และคัฟเวอร์บนโซเชียลแชร์กันมากที่สุด เพราะแต่ละชิ้นทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์ของช่วงเวลาในเรื่องจนแฟน ๆ จำแม่น
ในแง่การหาแหล่งฟัง คุณสามารถเริ่มจากช่องทางสตรีมมิ่งหลัก ๆ ที่คนไทยใช้งานกันเยอะ เช่น Spotify และ Apple Music เพราะอัลบั้ม OST มักปล่อยเป็นเพลย์ลิสต์ทั้งชุด นอกจากนั้น YouTube มิวสิควิดีโอและเพลย์ลิสต์ของสำนักพิมพ์หรือค่ายเพลงก็เป็นที่ที่หาเวอร์ชันเต็มและทีเซอร์ได้สะดวก หากอยากได้คุณภาพเสียงสูงและสมบูรณ์ที่สุดให้มองหาซีดีหรือบ็อกซ์เซ็ตแบบลิมิเต็ดจากร้านค้าทางการ ซึ่งมักมาพร้อมกับแทร็กบอนัสดี ๆ หรือโน้ตประกอบการผลิต ส่วนผู้ใช้บริการสตรีมเพลงในไทยอีกหลายรายอย่าง Joox หรือ LINE MUSIC ก็มี OST ให้ฟังเช่นกัน และถ้าชอบเวอร์ชันอินดี้หรือคัฟเวอร์แบบอิสระ แพลตฟอร์มอย่าง SoundCloud หรือ Bandcamp มักมีผลงานของนักดนตรีอิสระให้ค้นหา
เวอร์ชันของเพลงที่ควรจับตามีทั้ง TV size (ขนาดสำหรับใช้ในอนิเมะ) กับ Full version (เวอร์ชันเต็ม) และ Instrumental/Orchestral ที่ให้มุมมองทางดนตรีต่างไป พีค ๆ บางทีอาจเป็นเวอร์ชันรีมิกซ์ที่นักประพันธ์หยิบธีมเดิมมาทำใหม่ให้ดนตรีดูทันสมัยหรือเข้ากับคลับ บางเพลงร้องโดยนักพากย์ตัวละครหลักก็กลายเป็นซิงเกิลฮิต ทำให้มิวสิกวิดีโอมีวิวเยอะ เก็บไว้เป็นเพลย์ลิสต์ตาม
สถานการณ์ได้ดี — ธีมกระตุ้นพลังสำหรับตอนตื่นเช้า, บรรเลงเปียโนสำหรับตอนทำงานเงียบ ๆ
โดยส่วนตัวแล้วผมมักเริ่มต้นที่ 'ธีมหลัก' เพื่อซึมซับพลังของเรื่อง แล้วค่อยสลับไปที่ 'เพลงปิด' เมื่ออยากนั่งทบทวนอารมณ์ ชอบที่สุดคือเวอร์ชันบรรเลงที่เล่นตอนดึกมันทำให้ฉากในเรื่องกลับมาเป็นภาพชัดเจนในหัว และการได้หาแผ่นจริงหรือฟังเวอร์ชันคุณภาพสูงบนสตรีมมิ่งก็ให้ความสุขแบบต่างกันไป ฉะนั้นถ้าจะเริ่มสะสม ให้เลือกเวอร์ชันที่ตรงกับความรู้สึกที่อยากเก็บไว้—สำหรับผม เพลงพวกนี้กลายเป็นตราประทับของความทรงจำในโลกของเรื่องไปแล้ว