เสียงเปียโนที่ค่อยๆ ไต่ขึ้นมาในฉากเปิดทำให้ฉันหยุดหายใจได้ทุกครั้ง เหตุผลไม่ใช่เพราะมันหวือหวา แต่เป็นเพราะเมโลดี้เรียบง่ายนั้นจับจังหวะอารมณ์ของตัวละครได้คมกริบ เพลงธีมหลักของ '
บริษัทรักอุตลุด' ทำหน้าที่เป็นเสมือนเส้นด้ายที่ร้อยฉากรักและความงุนงงเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะตอนที่ตัวเอกเดินกลับบ้านหลังจากวันแย่ๆ เมโลดี้นั้นจะซ้อนด้วยสตริงนุ่มๆ ที่ทำให้ฉากเปลี่ยนจากขำกลายเป็นเศร้าได้อย่างเนียน
นอกจากธีมหลักแล้ว ฉากฝนตกกลางเมืองมีบัลลาดช้าซึ่งเป็นอีกชิ้นที่ติดคอเรา เพลงนี้ใช้กีตาร์อะคูสติกกับเสียงร้องที่เบาบาง แต่การเรียงคอร์ดและการเว้นวรรคของเสียงร้องทำให้ทุกคำพูดในบทสนทนาดูหนักขึ้นกว่าเดิม ฉากหนึ่งที่ไม่มีบทพูดยาวๆ แต่เพลงฉุดให้คนดูเข้าไปในหัวใจตัวละครได้อย่างเต็มที่ นั่นคือพลังของเพลงประกอบที่ไม่พยายาม
สะกิดอารมณ์แบบชัดแจ้ง แต่ค่อยๆ เปลี่ยนความหมายของภาพ
สุดท้ายแล้วสิ่งที่ทำให้เพลงเหล่านี้โดดเด่นคือความเรียบง่ายและความตั้งใจของผู้แต่ง เราไม่จำเป็นต้องถูกล้อมด้วยซาวด์ยิ่งใหญ่เพื่อให้รู้สึกถึงความรักหรือความอึดอัด เพลงประกอบของ 'บริษัทรักอุตลุด' ใช้พื้นที่ว่าง จังหวะ และเสียงสังเคราะห์เล็กน้อยอย่างมืออาชีพ ทำให้หลายซีนที่ดูธรรมดากลายเป็นฉากที่ประทับใจติดตาไปได้นานๆ