เพลง 'อาบัตตาคัม' หลายชิ้นมีพลังในการสื่ออารมณ์ตัวละครอย่างละเอียดอ่อน แต่ถ้าต้องเลือกชิ้นเดียวที่สะท้อนอารมณ์ได้ชัดที่สุด ผมเห็นว่า '
ระลอกแห่งความทรงจำ' ทำหน้าที่นี้ได้โดดเด่นสุดๆ เพราะมันเป็นธีมที่ถูกเล่นซ้ำในหลายรูปแบบตลอดเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชันเปียโนเดี่ยวที่เปราะบางในฉากที่ตัวละครเผชิญกับการสูญเสีย หรือเวอร์ชันออร์เคสตราที่ขยายใหญ่ขึ้นในช่วงการเผชิญหน้าครั้งสำคัญ จังหวะของเมโลดี้และการเลือกใช้เครื่องดนตรีทำให้เราเห็นพัฒนาการภายในจิตใจของตัวละครชัดเจน โดยที่ไม่ต้องมีบทพูดมากมาย
เสียงไวโอลินเดี่ยวในช่วงต้นของ 'ระลอกแห่งความทรงจำ' ให้ความรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวเหมือนคนเดินอยู่ในความมืด เมื่อธีมนี้กลับมาในฉากที่ตัวละครต้องตัดสินใจบางอย่าง จะมีการเติมคอร์ดเบสหนักขึ้นและเครื่องลมเข้ามาเสริม จังหวะช้ากลายเป็นเร็วขึ้นเล็กน้อย แสดงถึงความสับสนและความเร่งรีบภายในใจ นอกจากชิ้นนี้แล้ว 'บทเพลงแห่งความเงียบ' เป็นอีกชิ้นที่ทำหน้าที่สะท้อนความนิ่งสงบและการยอมรับ หลังจากความเจ็บปวดผ่านไป เสียงแอมเบียนท์กับฮาร์ปบาง ๆ ในชิ้นนี้สร้างบรรยากาศที่ทำให้รู้สึกว่าแผลเริ่มปิด และมีความหวังเล็กๆ เติบโตขึ้น
ชอบที่นักแต่งเพลงใช้เทคนิคนำธีมเดียวกันมาปรับเปลี่ยนตามมู้ดของฉาก เช่นเมื่อมีฉากย้อนความทรงจำของตัวละคร ธีม 'ระลอกแห่งความทรงจำ' จะถูกย่อให้เหลือแค่เมโลดี้พื้นฐานกับเสียงสังเคราะห์บางเบา ทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่าความทรงจำนั้นเบาบางและพร่ามัว แต่เมื่อความทรงจำกลับมารุนแรงอีกครั้ง ธีมจะขยายเป็นคอรัสและเพอร์คัสชันหนัก ราวกับความรู้สึกนั้นพุ่งขึ้นมาใหม่ ความต่อเนื่องแบบนี้ทำให้ดนตรีไม่ได้เป็นแค่แบ็คกราวนด์ แต่กลายเป็นตัวบอกเล่าอารมณ์แทนบทพูดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฉากจบที่ธีมเดิมกลับมาในโทนที่อบอุ่นขึ้น เป็นหนึ่งในช่วงที่ทำให้ฉันขนลุก เพราะมันสื่อถึงการเยียวยาอย่างละเอียดอ่อน
ท้ายที่สุด ความยอดเยี่ยมของเพลงประกอบชิ้นนี้ไม่ใช่แค่เมโลดี้สวยงาม แต่เป็นการใช้ดนตรีเป็นตัวเชื่อมความรู้สึกระหว่างผู้ชมกับตัวละคร ทำให้เราเข้าใจแรงกระเพื่อมข้างในได้ลึกขึ้นทุกครั้งที่ธีมดังขึ้น ตอนฟังโทนเปลี่ยนจากเปียโนสู่ออร์เคสตรา ฉันรู้สึกเหมือนได้ยินภายในหัวใจของตัวละคร และนั่นแหละคือเหตุผลที่ทำให้ 'ระลอกแห่งความทรงจำ' เป็นชิ้นที่สะท้อนอารมณ์ตัวละครได้อย่างทรงพลังและตราตรึงใจ