แน่นอน สปาร์คจะไม่มีทางยอมรับว่าสิ่งที่เขาให้นั้นมันเป็นเพียงสร้อยคอปลอมที่มีมูลค่าเพียงสองพันเดอลลาร์เท่านั้นถ้าเขายอมรับ ความพยายามครั้งก่อนนี้ของเขาก็จะสูญเปล่าเป็นแน่ จริงไหม?เขายืนขึ้นทันที และชี้ไปที่แคสแซนดรา แล้วพูดว่า “ผมไม่รู้ว่าคุณกับขยะนั่น อเล็กซ์ เขาให้คุณยืนหยัดเพื่อเขาหรือเปล่า คุณเป็นใครกันแน่ถึงได้มาสงสัยเครื่องประดับที่ผมให้ คุณรู้ไหม ว่าฉันเป็นใคร?"แคสแซนดราเยาะเย้ยและกล่าวว่า “แน่นอน ฉันรู้ว่าคุณเป็นใคร คุณเป็นเด็กเหลือขอนิสัยเสียที่พยายามแย่งชิงทรัพย์สินของครอบครัวอเล็กซ์ พูดกันตามตรง ทุกสิ่งที่คุณมีอยู่ในตอนนี้มันก็เป็นของโดโรธี คุณฉกฉวยทรัพย์สมบัติของเธอและตอนนี้ยังมีหน้ามามอบของปลอมให้เธออีก เครื่องประดับจอมปลอมนั่นคุณมอบให้เพื่อใช้แลกกับร่างกายของเธอ คุณมันช่างหน้าด้านมาก”ในตอนนี้นั้นเธอเชื่อในอเล็กซ์ ร็อคกี้เฟลเลอร์เธอยังเรียกเขาว่าพ่อและเธอยังยืนหยัดเพื่อเขาอีกด้วยสปาร์คถอนหายใจอย่างเย็นชา “คุณเอาแต่พูดว่าคุณขายสร้อยคอ รักแห่งเมืองปาฏิหาริย์ แล้วคุณขายมันให้ใครล่ะ?”แคสแซนดราตอบว่า "ขายให้..."ขณะที่เธอกำลังจะบอกพวกเขาว่าคืออเล็กซ์ ทันใดนั้น เธ
ขณะที่แกสตันเริ่มจำชายชราที่ยืนอยู่ข้างหลังของเขาได้ การแสดงออกทางสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมากชายชราเป็นผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์ และเป็นอัลฟ่าแห่งโลกใต้ดิน ท่านเล็กซ์—เล็กซ์ กันเธอร์!เขาไม่กล้าที่จะต่อล้อต่อเถียงกับท่านเล็กซ์ ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยังคงให้ความสำคัญกับชีวิตของตัวเขาเองแกสตันยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ขณะที่เขากำลังรวบรวมสติ เขายิ้มและกล่าวคำขอโทษทันที “ท่านเล็กซ์ ผมเสียใจจริง ๆ ผมต้องขออภัยด้วย ไม่รู้ว่าเป็นท่าน! ได้โปรดยกโทษให้ผมสำหรับสิ่งที่ผมเพิ่งพูดไป ผมรู้ว่าท่านเป็นคนใจกว้าง โอ้ ผมชื่อแกสตัน ที่ท่านส่งคนมาเรียกผมมาที่นี่ จุดประสงค์ของการประชุมครั้งนี้เพื่อมอบหมายงานเพิ่มเติมให้ผมหรือบางทีเพื่อเลื่อนตำแหน่งให้ผมเป็นผู้จัดการหรือเปล่าครับ? ผมสัญญาว่าผมจะทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถเลยครับ"ใบหน้าของท่านเล็กซ์ย่นลงเล็กน้อย ดวงตาของเขาเคร่งขรึมและเย็นชาเขาพูดด้วยเสียงโมโนโทนว่า "เราไปคุยกันที่ห้องประชุมเถอะ"เมื่อแกสตันเห็นว่าท่านเล็กซ์ไม่ได้ลงโทษหรือโมโหอะไรเขาเลย เขาก็รู้สึกปีติยินดีอย่างยิ่ง แม้ว่าท่านเล็กซ์นั้นจะไม่สามารถซ่อนความโกรธข
ท่านเล็กซ์เตะแกสตันและตะโกนว่า “ตอนนี้มันสายเกินไปแล้วที่จะมาร้องขอความเมตตา! ลากมันออกไปแล้วจับมันไปถ่วงน้ำซะ”การ์ดรักษาความปลอดภัยพุ่งไปข้างหน้า ในขณะเดียวกันความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ของแกสตันนันมันได้เอ่อล้นออกมา เขาคำนับหมอบลงกับพื้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนหน้าผากของเขาแตกและเริ่มมีเลือดไหลนองออกมา แกสตันตะโกนว่า “ท่านเล็กซ์ ได้โปรดไว้ชีวิตผมด้วย! ลุงจอห์น ช่วยด้วย! ผมรู้ว่าผมผิดได้ทำผิดไปแล้ว ผมสำนึกผิดแล้ว นายท่านอเล็กซ์ครับ ได้โปรดให้อภัยผมด้วย!”การทนดูการกระทำนั้นมันช่างเป็นเรื่องยากมาก ๆ สำหรับจอห์น เกตส์ ที่จะอดทนดูได้ แต่เขาก็ไม่สามารถคัดค้านอะไรได้เลยสักคำอเล็กซ์ชำเลืองมองไปที่แกสตันและพูดว่า “ไว้ชีวิตเขา เขายังอาจจะมีประโยชน์สำหรับเรา”เมื่อได้ยินคำพูดของอเล็กซ์ ความกตัญญูกตเวทีก็ถูกจารึกไว้ทั่วใบหน้าของจอห์น เขาเตะแกสตันอย่างรวดเร็วและพูดว่า “ขอบคุณนายท่านอเล็กซ์เดี๋ยวนี้เลย จำเอาไว้ว่านับจากนี้ไปเขาจะเป็นเจ้านายของแก!”แกสตันลุกลี้ลุกลนหมอบลงกับพื้นพร้อมกับพูดว่า “ขอบคุณครับ! ขอบคุณมาก ๆ นายท่านอเล็กซ์!”ท่านเล็กซ์ไม่สามารถซ่อนความโกรธเคืองในน้ำเสียงได้และกล่าวว่า "ส
คุณหนูโดโรธีเชื่อมั่นในตัวอเล็กซ์ แต่สิ่งที่อเล็กซ์พูดนั้นมันก็ยากที่จะเชื่อ ที่สำคัญที่สุด เขาใช้เวลาถึงสิบเดือนที่ไม่อยู่กับร่องกับรอย และความทรงจำนั้นมันยังคงตราตรึงอยู่ในใจของเธออเล็กซ์จ้องไปที่สปาร์คอย่างเย็นชา ก่อนจะพูดขึ้นว่า “อีกครั้งแล้วกับการโกหก ฉันต้องการเห็นมันจนกว่าที่นายจะหยุดโกหกเสียที นายคิดว่าคำโกหกของนายนั้นไร้ที่ติหรือเปล่า? นายจะใช้กลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ เพื่อบังคับให้ฉันหย่ากับโดโรธีหรือ? ตลกอะไรเบอร์นั้น! จอห์น เกตส์ แห่งกลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ ใช่ไหม? เขาพึ่งมาคุกเข่าต่อหน้าของฉัน เพื่อร้องขอความเมตตาเอง”ทุกคนต่างหัวเราะ แม้แต่โดโรธีก็ยังรู้สึกผิดหวังในตัวของอเล็กซ์ด้วย เธอคิดว่าเขากำลังโกหกอยู่สปาร์คหัวเราะเสียงดัง “อเล็กซ์ ฉันไม่นึกเลยว่านายจะเห็นภาพลวงตานั่นจริง ๆ และนายอาจจะมีอาการประสาทหลอนด้วย คุณจอห์น เกตส์ จากกกลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ เนี่ยนะที่เขาจะมาคุกเข่าต่อหน้านาย? ทำไมนายไม่บอกเลยล่ะว่าท่านเล็กซ์ทำงานให้กับนาย?”อเล็กซ์ยิ้มเยาะ 'ใช่ ท่านเล็กซ์ กันเธอร์ ทำงานให้กับฉัน'อย่างไรก็ตาม ยังไม่ถึงเวลาที่จะเฉลยความลับนี้เขามองไปที่คุณหนูโดโ
เมื่อแกสตันได้รับโทรศัพท์ เขากำลังเข้ารับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลหน้าผากของเขาแตกและใบหน้าของเขาปูดบวม ทั่วร่างของเขามีแต่รอยฟกช้ำสีน้ำเงินและสีม่วงทุกครั้งที่เขารู้สึกเจ็บปวด เขาจะสาปแช่งสปาร์คในใจ ถ้าไม่ใช่เพราะช่วยไอ้เจ้าเล่ห์นั่น เขาก็คงไม่มาตกอยู่ในสถานะปัจจุบันของเขาหรอก เขาแทบจะไม่รอดจากการถูกจับไปถ่วงน้ำเมื่อเขาได้ยินสปาร์คถามเขาเช่นนั้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอยากที่จะด่า อย่างไรก็ตาม เขาจำคำสั่งของอเล็กซ์ได้และบอกสปาร์คว่า “อย่ามาถามคำถามอะไรฉันมากมาย ฉันไม่มีคำตอบให้นายหรอก ฉันกำลังจะไปต่างประเทศ นายจัดการกับสถานการณ์นี้ด้วยตัวเองเลย”คลิก! แกสตันกดวางสายสปาร์ค และปิดโทรศัพท์เพื่อไม่ให้เขาสามารถติดต่อได้อีก สปาร์คโกรธมาก เขานั้นเต็มไปด้วยไฟแห่งความโกรธ แกสตันเอาเงินไปแล้วแต่กลับไม่ทำตามที่ตกลงกันไว้ อย่างไรก็ตาม แกสตันเป็นหลานชายของจอห์น เกตส์ ผู้มีอำนาจ บุคคลที่เป็นผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ และสปาร์คไม่มีความกล้าพอที่จะทำอะไรกับแกสตันและไม่นานเขาก็ถึงบ้าน บ้านของครอบครัวร็อคกี้เฟลเลอร์เป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ ในวันเกิดปีที่เจ็ดของอเล็กซ์ วิลเลียม ร็
เมื่อพวกเขาออกจากคฤหาสน์ ต้นตระกูลของแอสเส็กซ์ สปาร์คก็จ้องมองคุณท่านบิลอย่างชื่นชม “คุณปู่ครับ ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคุณปู่มีเส้นสายถึงขนาดที่สนิทสนมกันกับท่านเล็กซ์ แถมยังจัดการช่วยให้เขาเซ็นสัญญาพันล้านดอลลาร์ได้อย่างรวดเร็ว! ไม่น่าแปลกใจที่คุณมั่นใจว่าหญิงชราจะยอมรับข้อเสนอของพวกเรา!”คุณท่านบิลส่ายหัวและพูดว่า “ไอ้สัญญาพันล้านดอลลาร์นั่น ปู่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลยสักนิดเดียว”“หืม? ถ้าเป็นอย่างนั้น ทำไมคุณปู่ถึงได้พูดว่า…” สปาร์คเอ่ยถามด้วยความสงสัย“ฉันก็แค่พูดไปตามน้ำเท่านั้นแหละ” คุณท่านบิลพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่สปาร์คจะทันได้พูดจนจบประโยคของเขา “โชคชะตาลิขิตสิ่งต่าง ๆ มาให้เราในวันนี้ ปู่ไม่ได้คาดหวังว่าครอบครัวแอสเส็กซ์จะทำธุรกิจร่วมกับกลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ ได้ ดูเหมือนว่าจะต้องมีผู้ที่มีอำนาจยื่นมือเข้ามาช่วยพวกเขาไว้ มันจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีสำหรับหลานที่จะแต่งงานกับคุณหนูโดโรธี เราอาจจะสามารถเชื่อมต่อหาช่องทางธุรกิจกับกลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ ผ่านทางหลานได้ในอนาคต"สปาร์คยิ้มและพยักหน้าเห็นด้วย ความสงสัยนั้นผุดขึ้นมาในหัวของเขาทันที ว่าใครบ้างที่จะสามารถช่วยครอบคร
“เจ้าสาวอะไรเหรอ?” โดโรธี ถาม คุณหนูเอ็มม่ายิ้มและพูดว่า “เธอไม่รู้เรื่องเลยจริง ๆ เหรอ? น่าทึ่งมาก! แล้วพบกันเร็ว ๆ นี้นะ ยังไงก็ขอแสดงความยินดีล่วงหน้าด้วยแล้วกัน!” สายตาของโดโรธีและอเล็กซ์สบตากัน พวกเขารู้ว่าต้องมีอะไรบางอย่างที่ไม่ดีกำลังจะเกิดขึ้นแน่ ๆ อเล็กซ์รู้สึกไม่ค่อยดีเมื่อเห็นสปาร์คอยู่ในห้องโถง นี่ก็เกือบจะสี่ทุ่มแล้วและมีผู้คนจำนวนมากอยู่ในห้องจัดเลี้ยง คุณท่านโจแอนน์กับแก้มที่มีสีเลือดฝาดในชุดสีขาวดั่งพระจันทร์ที่ยืนอยู่ใต้แสงไฟ เธอยื้นแขนทั้งสองข้างของเธอออกและทุก ๆ คนในห้องโถงก็เงียบ “วันนี้เป็นวันครบรอบสิบห้าปีของการก่อตั้งแอสเส็กซ์ ดิฉันขอขอบคุณหุ้นส่วนทางธุรกิจของพวกเราสำหรับการเข้าร่วมของคุณในค่ำคืนนี้” แปะ...แปะ... แปะ… (ปรบมือ) ฝูงชนต่างพากันปรบมือ “ตามปกติแล้วกิจกรรมของเราในวันนี้คือรุ่นเล็กของตระกูลแอสเส็กซ์จะได้รับรางวัลตามผลงานของพวกเขา แต่ครั้งนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเพราะวันนี้เรามีผู้ชนะเพียงคนเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ...” คุณท่านโจแอนน์ตั้งใจที่หยุดชั่วขณะ จากนั้นแสงก็ส่องไปที่ โดโรธี “โดโรธี! หลานสาวคนสวยของฉัน” “โดโรธีได้เ
คุณท่านบิล ร็อคกี้เฟลเลอร์ ทำให้อเล็กซ์รู้สึกอับอาย เขานึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสิบเดือนที่แล้วซึ่งวิลเลียมพ่อของเขาก็ต้องอับอายเช่นกัน เขาพูดว่า “คุณปู่ ทำไมคุณต้องโกหกด้วย? ผมไม่เข้าทั้งวิลเลียมและผมเป็นครอบครัวของคุณ แต่ทำไมเราถึงดูขวางหูขวางตาของท่านนัก?” “ทำไมงั้นเหรอ? ก็เพราะแกทั้งคู่เป็นคนสร้างแต่ความเสื่อมเสียให้กับผู้คนไงล่ะ!” พึมพำ อเล็กซ์รู้สึกใจสลายราวกับมีดแทงทะลุมันลงไป น้ำตาไหลอาบแก้ม “โดโรธี ได้โปรดเชื่อผม ผมไม่เคยโกหก” อเล็กซ์มองไปที่โดโรธีด้วยสายตาที่อ้างว้างและทำอะไรไม่ถูก แต่โดโรธีกลับตบหน้าเขาและพูดทั้งน้ำตาว่า “คุณทำให้ฉันรู้สึกผิดหวัง ฉันคิดว่าคุณจะเปลี่ยนแล้ว แต่คุณกลับดูน่ารังเกียจและไร้ยางอายมากกว่าเดิม คุณมันคนโกหกที่แย่มาก ฉันไม่ไหวกับคนอย่างคุณแล้ว” เธอถอดแหวนแต่งงานโยนใส่อเล็กซ์ แหวนโดนที่ใบหน้าของอเล็กซ์ แล้วกลิ้งลงไปกับพื้น ใบหน้าของอเล็กซ์เปลี่ยนเป็นสีซีด คำพูดของโดโรธีดังอยู่ในหูของเขา เธอเคยบอกอเล็กซ์ว่าจะไม่มีทางที่จะใส่แหวนวงนั้นกลับไปที่นิ้วของเธอ ถ้าหากในวันหนึ่งเธอถอดมันออกไปอีกครั้งการดูถูกเหยียดหยามและการดูถูกจาจากแขกเป็