Share

บทที่ 14

Author: เอเวอร์กรีน ฉิน
เมื่อแกสตันได้รับโทรศัพท์ เขากำลังเข้ารับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล

หน้าผากของเขาแตกและใบหน้าของเขาปูดบวม ทั่วร่างของเขามีแต่รอยฟกช้ำสีน้ำเงินและสีม่วง

ทุกครั้งที่เขารู้สึกเจ็บปวด เขาจะสาปแช่งสปาร์คในใจ ถ้าไม่ใช่เพราะช่วยไอ้เจ้าเล่ห์นั่น เขาก็คงไม่มาตกอยู่ในสถานะปัจจุบันของเขาหรอก เขาแทบจะไม่รอดจากการถูกจับไปถ่วงน้ำ

เมื่อเขาได้ยินสปาร์คถามเขาเช่นนั้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอยากที่จะด่า อย่างไรก็ตาม เขาจำคำสั่งของอเล็กซ์ได้และบอกสปาร์คว่า “อย่ามาถามคำถามอะไรฉันมากมาย ฉันไม่มีคำตอบให้นายหรอก ฉันกำลังจะไปต่างประเทศ นายจัดการกับสถานการณ์นี้ด้วยตัวเองเลย”

คลิก! แกสตันกดวางสายสปาร์ค และปิดโทรศัพท์เพื่อไม่ให้เขาสามารถติดต่อได้อีก สปาร์คโกรธมาก เขานั้นเต็มไปด้วยไฟแห่งความโกรธ แกสตันเอาเงินไปแล้วแต่กลับไม่ทำตามที่ตกลงกันไว้ อย่างไรก็ตาม แกสตันเป็นหลานชายของจอห์น เกตส์ ผู้มีอำนาจ บุคคลที่เป็นผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ และสปาร์คไม่มีความกล้าพอที่จะทำอะไรกับแกสตัน

และไม่นานเขาก็ถึงบ้าน บ้านของครอบครัวร็อคกี้เฟลเลอร์เป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ ในวันเกิดปีที่เจ็ดของอเล็กซ์ วิลเลียม ร็อกกีเฟลเลอร์ พ่อของเขาใช้เงินก้อนเล็ก ๆ เพื่อซื้อคฤหาสน์แห่งนี้เป็นของขวัญวันเกิดให้อเล็กซ์ ที่น่าแปลกก็คือ เมื่อครอบครัวร็อคกี้เฟลเลอร์คนอื่น ๆ ย้ายเข้ามา อเล็กซ์และคุณหญิงบริตทานีก็ได้ถูกไล่ออกจากบ้านคฤหาสน์หลังใหญ่นี้ไป

ทันทีที่สปาร์คเข้าไปในคฤหาสน์หรู ปู่ของเขา คุณท่านบิล ร็อคกี้เฟลเลอร์ ก็ยิ้มให้เขา “หลานไปไหนมา สปาร์ค? ใบหน้าของหลานดูเคร่งเครียดและดูโกรธเคือง มีใครรบกวนหลานรักของปู่หรือ? ให้ปู่ช่วยเถอะ"

สปาร์คตอบกลับในทันทีว่า "อเล็กซ์!"

คุณท่านบิล ร็อคกี้เฟลเลอร์ ก็สบถออกมาอย่างเย็นชา “ไอ้ลูกหมาไร้ประโยชน์นั่นน่ะเหรอ เขาจะมายุ่งวุ่นวายกับหลานได้ยังไงในสถานะปัจจุบันของเขา?”

สปาร์คตกตะลึง “ลูกหมา? คุณปู่ครับ อเล็กซ์เป็นลูกชายของลุงของผมไม่ใช่เหรอ?”

คุณท่านบิลกระพริบตาและพยายามกลับลำ "ปู่หมายความว่าเขาเป็นไอ้สารเลวที่ปู่ไล่ออกจากบ้านนี้ไป บอกปู่ทีว่าเขามายุ่งยุ่มย่ามกับหลานรักได้ยังไง?"

สปาร์คจึงกล่าวว่า "ไอ้ขยะเหลือขอชิ้นนั้น เห็นได้ชัดว่ามันไม่มีความสามารถหรืออำนาจอะไรเลย แต่มันกลับปฏิเสธที่จะยอมรับสภาพและไม่ยอมหย่ากับคุณหนูโดโรธี ไอ้คนไร้ยางอาย ช่างน่าขยะแขยงสิ้นดี!"

ดวงตาของคุณท่านบิลเป็นประกาย “สปาร์ค หลานชอบคุณหนูโดโรธีคนนั้นใช่ไหม?”

สปาร์คยอมรับว่า "ใช่ครับ ผมต้องการที่จะแต่งงานกับเธอ"

หากการสนทนานี้เกิดขึ้นระหว่างปู่และหลานชายคนอื่น สปาร์คอาจจะถูกตบเพราะความต้องการที่จะแต่งงานกับพี่สะใภ้ของเขาเอง แต่บิลไม่ใช่ปู่ที่เหมือนกับปู่คนอื่น ๆ เขาหัวเราะ “สปาร์ค ในที่สุดหลานก็เติบโตแล้ว คุณหนูโดโรธี แอสเส็กซ์ ช่างสวยสง่างามจริง ๆ น่าเสียดายที่เธอแต่งงานกับอเล็กซ์ เนื่องจากหลานชอบเธอมากขนาดนั้น ปู่จะไปที่บ้านของครอบครัวแอสเส็กซ์ และช่วยคุณโน้มน้าวใจหญิงชราผู้อาวุโสของตระกูลแอสเส็กซ์ ปู่เชื่อว่าหลานจะได้รับความเมตตาจากเธอ”

“จริง ๆ เหรอครับคุณปู่? ขอบคุณนะครับ คุณปู่!” สปาร์คมีความสุขที่ได้ยินสิ่งที่คุณปู่ของเขานั้นพูด

“หลานคือหลานชายของปู่ ทำไมปู่ถึงจะไม่ช่วยหลานล่ะ ตราบใดที่หลานสามารถให้ทายาทตัวน้อย ๆ กับปู่ได้! อเล็กซ์นั้นมันช่างไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง มันเป็นความมืดมนของตระกูลร็อคกี้เฟลเลอร์ของฉัน ชื่อเสียงของพวกเราต้องมามัวหมองจากเขา มันย่อมไม่คู่ควรที่จะมีภรรยาเช่นนี้"

ในเวลาเดียวกัน อเล็กซ์เพิ่งส่งข้อความถึงท่านเล็กซ์ โดยสั่งให้เขาเซ็นสัญญาฉบับใหญ่กับโดโรธีโดยเร็วที่สุด

กลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ มีส่วนเกี่ยวข้องในทุก ๆ อุตสาหกรรม เพียงแค่เซ็นสัญญากับพวกเขา โดโรธีก็จะสามารถยืนหยัดอย่างภาคภูมิใจท่ามกลางบรรดาผู้อาวุโสในครอบครัวได้

ลองคิด ๆ ดูแล้ว สิ่งต่าง ๆ นั้นมันไม่ได้ง่ายสำหรับคุณนายแคลร์ในตระกูลแอสเซ็กซ์ ผู้อาวุโสของตระกูลในขณะนี้คือคุณท่านโจแอนน์คุณย่าของโดโรธี หญิงชรามีบุตรชายสามคน ได้แก่ เบนนีย์ แอนเดอร์สัน และเฮนรี่ แอสเส็กซ์ คุณนายแคลร์เป็นภรรยาของลูกชายคนสุดท้อง เฮนรี่ แอสเส็กซ์ เมื่อโดโรธีอายุสิบหกปี คุณนายแคลร์จับได้ว่าเขานอกใจไปคบชู้กับเลขาสาวของเขา และในวันรุ่งขึ้น เฮนรี่ก็หนีไปกับภรรยาน้อยของเขา ไม่มีใครเคยได้ยินข่าวคราวจากเขาเลยนับตั้งแต่นั้นมา และไม่มีใครรู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ หญิงชราตำหนิคุณนายแคลร์สำหรับการหายตัวไปของลูกชายคนสุดท้องของเธอ เธอไม่เคยชอบคุณนายแคลร์เลยตั้งแต่แรก และความคิดทัศนคติของเธอเกี่ยวกับคุณนายแคลร์ก็แย่ลงเรื่อย ๆ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โจแอนน์จึงไม่ชอบเบียทริซและโดโรธีด้วยเหตุผลเช่นนี้เอง

ในเวลาเพียงไม่นาน อเล็กซ์ก็ได้รับคำตอบจากนายท่านเล็กซ์ “ครับ นายท่าน สัญญามูลค่าพันล้านดอลลาร์จะเสร็จสิ้นกับคุณหนูโดโรธีในวันพรุ่งนี้ครับ”

อเล็กซ์นอนไม่หลับเพราะจิตใจของเขาเต็มไปด้วยความเสียใจ เขาเป็นหนี้โดโรธีมากมายและต้องการคุยกับเธอ เขารวบรวมความกล้าและไปที่ชั้นสองเพื่อตามหาโดโรธี ประตูถูกปลดล็อค และมันก็เปิดออก อเล็กซ์มองเข้าไปข้างใน “โดโรธี…” เขาตกใจเมื่อเห็นคุณนายแคลร์ออกมาจากห้องอาบน้ำโดยมีเพียงผ้าเช็ดตัวคลุมร่างกายของเธอไว้เท่านั้น

คุณนายแคลร์กรีดร้อง “ไอ้โรคจิต! ใครอนุญาตให้แกขึ้นมาที่นี่? แกตั้งใจจะทำอะไรในเวลาดึก ๆ ดื่น ๆ แบบนี้กันฮะ? ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!”

สิ่งนี้ทำให้เกิดความโกลาหลวุ่นวายครั้งใหญ่ในแอสเส็กซ์ วิลล่า

ในเช้าวันรุ่งขึ้น คุณท่านโจแอนน์กำลังทำการต้อนรับแขกที่ไม่คาดคิดทั้งสองท่าน ณ คฤหาสน์ ต้นตระกูลของแอสเส็กซ์ คุณท่านบิล ร็อคกี้เฟลเลอร์ ผู้อาวุโสของตระกูลร็อคกี้เฟลเลอร์ และสปาร์ค ร็อคกี้เฟลเลอร์ ผู้อำนวยการหนุ่มของบริษัท ร็อคกี้เฟลเลอร์ กรุ๊ป พวกเขามาเยี่ยมเยือนเธอ เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัท ร็อคกี้เฟลเลอร์ กรุ๊ป ที่ทรงอิทธิพลและมีอำนาจมากบริษัท แอสเส็กซ์ ก่อสร้าง จึงเป็นเพียงบริษัทเล็ก ๆ เท่านั้น

หญิงชรารู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากเมื่อรู้สาเหตุที่พวกเขามาเยี่ยมเยือนเธอ “คุณท่านร็อคกี้เฟลเลอร์ โดโรธีของเราแต่งงานแล้ว คุณแน่ใจหรือว่าหลานชายของคุณยังต้องการที่จะแต่งงานกับเธอ?” หญิงชราเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“ใช่ครับ ผมอยากที่จะแต่งงานกับคุณหนูโดโรธี!” สปาร์คพูดแทรก “ผมตกหลุมรักคุณหนูโดโรธีตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น นอกจากนี้ การแต่งงานของเธอกับอเล็กซ์มันยังเป็นเพียงแค่กระดาษใบเดียวเท่านั้น พวกเขาไม่เคยได้รับอนุญาตให้นอนด้วยกันด้วยซ้ำ”

คุณท่านโจแอนน์ตอบกลับว่า “ชื่อเสียงของคุณจะมัวหมองนะ ฉันมีหลานสาวอีกคนชื่อเอ็มม่า…”

สปาร์คส่ายหัวและพูดว่า “ผมต้องการแค่คุณหนูโดโรธีเพียงเท่านั้น”

คุณท่านบิล ร็อคกี้เฟลเลอร์ ยิ้มและพูดขึ้นว่า “คุณท่านโจแอนน์ ผมได้ยินมาว่าบริษัท แอสเส็กซ์ ก่อสร้าง ไม่ได้มีผลประกอบการที่ดีนักในช่วงนี้ และฉันก็ยินดีที่จะช่วยคุณเอาชนะความยากลำบากของคุณในครั้งนี้”

ขณะที่คุณท่านบิลกำลังจะจบประโยค แอนเดอร์สัน แอสเซ็กซ์ ลูกชายคนที่สองของคุณท่านโจแอนน์ก็วิ่งเข้ามาและพูดด้วยความตื่นเต้นว่า “คุณแม่! เราเพิ่งได้รับการยืนยันว่ากลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ จะลงนามในข้อตกลงมูลค่าพันล้านดอลลาร์กับพวกเรา!”

“โอ้ ข่าวดี ช่างเป็นข่าวดีเสียจริง ๆ...” หญิงชราปรบมือและพูดอย่างมีความสุข จากนั้นเธอก็มองไปที่คุณท่านบิล ร็อคกี้เฟลเลอร์ด้วยท่าทางมึนงง “คุณท่านร็อคกี้เฟลเลอร์ เยี่ยมมาก! คุณได้ดึงสายสัมพันธ์สำหรับกลุ่มบริษัทเธาซันด์ ไมล์ เพื่อให้เซ็นสัญญาธุรกิจกับเรา เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมอย่างมาก คุณท่าน ขอบคุณมาก ๆ ! ฉันจะรออวยพรสำหรับการแต่งงานครั้งนี้”

คุณท่านบิล ร็อคกี้เฟลเลอร์ ตกตะลึง เขาไม่รู้จักใครเลยแม้แต่น้อยในกลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ อย่างไรก็ตาม มันเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมที่โชคชะตามอบให้เขา คุณท่านบิลจึงกล่าวว่า “มันเป็นเรื่องเล็กน้อย ท่านเล็กซ์จากกลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ เป็นเพื่อนสนิทของผมเอง ผมเพียงแค่ขอความช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ จากเขาเอง ไม่มีอะไรมากเกินไปตราบเท่าที่เราจะสามารถช่วยเหลือตระกูลแอสเส็กซ์ได้”

คูณท่านโจแอนน์ยิ้มและพูดว่า “เยี่ยมมาก! สปาร์ค ฉันชอบคุณมาก พรุ่งนี้จะเป็นวันครบรอบของบริษัท แอสเส็กซ์ ก่อสร้าง ของพวกเรา เราจะจัดงานเลี้ยงฉลองขึ้น ทำไมฉันไม่ประกาศการแต่งงานของโดโรธีกับคุณในงานเลี้ยงวันพรุ่งนี้เลยล่ะ จริงไหม?”

สปาร์คดีใจมากและพูดว่า "ขอบคุณ ขอบคุณมาก ๆ ครับ คุณท่าน!"
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 200

    “คุณคิดว่าผมอยากรอจริง ๆ เหรอ? ค่าผ่าตัดอย่างน้อยก็ต้องหมดเกือบครึ่งล้าน อีกทั้ง ความเสี่ยงต่อการผ่าตัดก็สูงไม่น้อยเลยด้วย โอกาสรอดคือห้าสิบห้าต่อห้าสิบ ผมอาจจะตายระหว่างผ่าตัดก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะ? อีกอย่าง คุณเองก็รู้ว่าสภาพครอบครัวของผมเป็นยังไง ถ้ามีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นกับผม ทั้งแม่แล้วก็น้องสาวผมจะอยู่กันยังไง? แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความแล้ว ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ ผมมีพัสดุอีกเยอะต้องส่งตอนเที่ยงด้วย” เจ้าของร้านพลันถอนหายใจ พร้อมกับดวงตาเต็มซึ่งไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นโศกนาฏกรรมอีกเรื่องหนึ่ง “เดี๋ยวก่อน!” อเล็กซ์พูดขึ้น "นายเชื่อใจฉันไหมล่ะ?" ชายหนุ่มพลันนิ่งไปเกือบสามวินาที ทันใดนั้น เขาก็พลันเผยยิ้มและพยักหน้า "ฉันเชื่อ ในฐานะเพื่อนของคุณโยเวล คุณคงไม่มีเวลาว่างมาหลอกลวงคนต่ำต้อยอย่างผมหรอก” อเล็กซ์ยืนขึ้น “งั้นก็เชื่อใจฉัน แล้วฉันจะช่วยนายเอง” อเล็กซ์เดินเข้าไปและกางนิ้ว พร้อมกับวางนิ้วหนึ่งไว้เหนือขมับของชายหนุ่ม ตรงนั้นคือตำแหน่งของเนื้องอกซึ่งอยู่ใต้กะโหลกศีรษะของลุค ทันใดนั้น นิ้วของอเล็กซ์ก็ส่องประกายราวกับสีของหยก รา

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 199

    ในระหว่างนั้น ชายหนุ่มที่สำลักบะหมี่ก่อนหน้าก็หันกลับลงไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง "คุณหนูโยเวล... นักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย? จริงเหรอ?” ทันใดนั้นเอง ใครสักคนก็แอบหยิบโทรศัพท์ออกมาและค้นหาชื่อของนักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย ทว่า ทั้งรูปภาพและผลลัพธ์มากมายต่างก็ปรากฏขึ้นมา อันที่จริง มิเชลล์มักจะทำตัวเป็นเป้าสายตาของสาธารณะชน และไม่ได้พวกใจพวกปาปารัสซี่เท่าไหร่นัก อีกทั้ง คนในตระกูลโนเวลเองก็ไม่ได้สนใจในตัวมิเชลล์ด้วยเช่นกัน เธออยากจะเป็นอะไรก็เป็นไป ด้วยเหตุนั้น มันจึงเป็นเรื่องง่ายไม่น้อยเลยที่จะมองหาคนอย่างเธอ ไม่นานนัก ใครสักคนก็ตะโกนขึ้นมา... "มันเป็นความจริง! ทั้งหมดคือเรื่องจริง! เธอคนนี้คือคุณหนูโยเวลตัวจริงเสียงจริง คุณมิเชลล์ โยเวลยังไงล่ะ!” “ใช่แล้ว! ยังไงก็เถอะ คุณหนูโยเวลอุตส่าห์มากินสตูว์ถึงที่ร้านทั้งที ฉัน... ฉันชักอยากจะขอเธอถ่ายรูปหน่อยแล้วสิ” “นายตาบอดหรือยังไงกัน? ดูเธอสิ เธอกำลังโกรธอยู่นะ ทำไมถึงอยากเข้าไปขอเธอถ่ายรูปตอนนี้กันล่ะ?” หลังจากที่ชายคนนั้นตบตัวเองไปมากกว่าสิบครั้ง แจ็คก็พูดขึ้น "รู้จักผมด้วยงั้นเหรอ?" ชายคนนั้นพยักหน้า แจ็คถามขึ้นอีก

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 198

    อันที่จริง อเล็กซ์ต้องการที่จะรักษาแจ็คก็เพราะเขาช่วยตนในเรื่องเอกสาร ทันใดนั้น อเล็กซ์เผยยิ้มและกล่าวคำพูดออกมา “คุณเทรนต์ครับ การช่วยชีวิตใครสักคนอาจต้องใช้โชคชะตา แต่ถ้ามีกำลังสงสัยอะไรอยู่ ก็ไม่เป็นไรครับ คุณสามารถไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลได้ตลอดเวลาเลย แต่ยังไงเสีย คุณคงต้องรีบหน่อยแล้วแหละ เพราะนิ่วในไตของคุณตอนนี้อยู่ในตำแหน่งที่แย่มาก คุณอาจะติดเชื้อได้เลยล่ะ" ทว่า ทุกคนก็พลันหัวเราะออกมาอีกครั้ง 'นายไม่ได้ใช้เครื่องอัลตราซาวนด์หรือเครื่องเอ็กซ์เรย์เลยด้วยซ้ำ อีกทั้ง ชีพจรก็ไม่ได้ตรวจ นายจะรู้ได้ยังไงกันว่านิ่วในไตนั้นอยู่ในตำแหน่งดีหรือร้าย? นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์หรือยังไงกัน?' สำหรับคราวนี้ มิเชลล์เองก็พลันเบิกตากว้างเช่นกัน เธอเอาแขนพาดหน้าอกด้วยความสงสัย “อเล็กซ์ นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์ด้วยงั้นเหรอ?” อเล็กซ์ไม่สนใจเธอเลย ทว่า ไม่นานนัก แจ็คก็พูดขึ้น "คุณร็อคกี้เฟลเลอร์ครับ ผมเชื่อใจคุณ” ยังไงเสีย อเล็กซ์เองก็ไม่ได้จะใช้มีดผ่าตัดอยู่แล้ว ดังนั้น แจ็คจึงรู้สึกว่ามันก็คุ้มที่จะลอง อเล็กซ์ไม่พูดอะไรต่อ ไม่นานนัก เขาก็วางมือเอาไว้บนแผล พร้อมกับสอดพลังฉีเข้าไปในร่างกายของ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 197

    ผู้หญิงที่พูดขึ้นนั้นนั่งอยู่ข้างหลังอเล็กซ์ ดูเหมือนว่าเธอจะอายุราวสามสิบปีแล้ว ผู้หญิงคนนั้นได้ยินการสนทนาของพวกเขาตั้งแต่เข้ามานั่งใกล้ ๆ แล้ว ผู้หญิงคนนั้นนั่งฟังพวกเขาตั้งแต่ตอนที่มิเชลล์บอกว่าเธอจะจับพริสซิลล่ามาอยู่บนเตียงของอเล็กซ์ ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกดูถูกเหยียดหยามทั้งสองอย่างถึงที่สุด อันที่จริง เธออยากจะเรียกตำรวจมาจับพวกเขาด้วยซ้ำ แต่ทว่า เธอก็รู้สึกโล่งใจที่อเล็กซ์ปฏิเสธข้อเสนอไป ต่อมา เธอก็ได้ยินทั้งสองพูดถึงบริษัทเธาซันด์ลีฟ เธอได้ยินมิเชลล์พูดว่าตัวเองนั้นสามารถขอใบอนุญาตได้เลยเพียงแค่เอ่ยวาจา และทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็แทบจะพ่นสตูว์เนื้อรสเผ็ดออกมาทางปาก อันที่จริง เธอเองก็เพิ่งรู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทเธาซันด์ลีฟ สามีของเธอขายวัสดุก่อสร้างอยู่ที่นั่น แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายรายย่อยที่ทำงานภายใต้แฟรนไชส์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่เธอก็รู้ดีว่าเจ้าของบริษัทเธาซันด์ลีฟก็คือตระกูลโยเวล ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย อีกทั้ง บริษัทยังได้รับการโฆษณาเป็นอย่างดีอีกด้วย ทว่า สามีของเธอก็ได้แจกจ่ายวัสดุก่อสร้างอยู่ตั้งหลายร

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 196

    อันที่จริง เบียทริซเองก็กลัวว่าตัวเองจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดในมหาวิทยาลัยได้หากจะต้องเปิดโปงพวกเขาทั้งสอง ทันทีที่ทั้งคู่มาถึงลานจอดรถ อเล็กซ์ก็ตระหนักได้ว่ามิเชลล์นั้นซื้อรถสปอร์ตสุดหรูแอสตันมาร์ตินสีแดงให้กับตน โครงสร้างสุดเท่ของรถสปอร์ตคนนี้ค่อนข้างทันสมัย ​​แต่มันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ขับผ่านถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่ออย่างแน่นอน “โทษทีนะ พอดีฉันหารุ่น M8 ที่นายต้องการไม่ได้เลยน่ะ ตอนนี้ไม่มีรุ่นนั้นเหลืออยู่ในแคลิฟอร์เนียเลยด้วย ยังไงก็เถอะ นายก็ใช้คันนี้พลาง ๆ ไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวถ้าของเข้าแล้ว ฉันจะไปซื้อรุ่น M8 มาคืนให้” 'ดูเธอสิ ช่างมีน้ำใจเหลือเกิน' เธอสามารถซื้อรถหรูราคาหลายแสนได้ราวกับว่าซื้อลูกโป่ง “ก็ได้!” อเล็กซ์ไม่เรื่องมากกับเรื่องรถยนต์อยู่แล้ว ทั้งสองเดินทางไปยังร้านอาหารสตูว์รสจัดจ้าน มิเชลล์นึกประหลาดใจ “นายอยากทำกับฉันแบบนี้จริง ๆ เหรอ?” อเล็กซ์ตอบกลับ “ตอนแรกฉันจะรักษาพริสซิลล่า แต่เธอดันกลับบ้านไปก่อน ยังไงเสีย ตอนนี้เรามาสั่งอะไรง่ายๆ กินกันดีกว่า” “นี่นายกำลังพยายามตามจีบพริสซิลล่าอยู่หรือเปล่าเนี่ย? อันที่จริง ฉันช่วยนายได้นะรู้ไหม? ฉันทำให้เธ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 195

    “ดาวมหาลัยชนชั้นกลาง... เบียทริซ แอสเส็กซ์งั้นเหรอ?” “เธอคือ...” ทั้งแอนนาลิสและพริสซิลล่าต่างก็จ้องไปที่เบียทริซอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง หลังจากนั้น พวกเขาก็หันไปหาอเล็กซ์ จากท่าทีของทั้งสอง พวกเขาต่างก็รับรู้มาว่าอเล็กซ์เป็นแฟนของมิเชลล์ ไม่อย่างนั้น ทั้งสองจะรู้จักและจูบกันได้ยังไงล่ะ? ในตอนนี้ พวกเขาต่างก็คิดว่ามิเชลล์คงจะต้องตะคอกและทุบตีอเล็กซ์อย่างแน่นอน แม้แต่เบียทริซเองก็คิดเช่นนั้น เบียทริซเรียกอเล็กซ์ว่าพี่เขยก็เพื่อเปิดเผยตัวตนของเขาเอง อีกทั้ง เบียทริซเองก็ต้องการบอกกล่าวให้มิเชลล์รับรู้ว่าว่าอเล็กซ์เป็นชายที่แต่งงานแล้ว และแน่นอน เบียทริซในตอนนี้กำลังเล่นกับความรู้สึกของมิเชลล์อยู่ จากที่เบียทริซรู้เรื่องราวของมิเชลล์มา มิเชลล์จะต้องโมโหและทำร้ายอเล็กซ์อย่างแน่นอน แต่ทว่า กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย มิเชลล์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่นานนัก เธอก็กล่าวคำพูดขึ้น “เบียทริซ แอสเซ็กซ์ เธอเป็นน้องสะใภ้ของอเล็กซ์หรือยังไงกัน? เธอน่าจะบอกให้เร็วกว่านี้นะ! ยังไงก็เถอะ ถ้ามีใครเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเธอ ก็เอ่ยชื่อของฉันออกไปได้เลย แล้วฉันจะมาปกป้องเธอเอง!” "อะไรก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status