คุณท่านบิล ร็อคกี้เฟลเลอร์ ทำให้อเล็กซ์รู้สึกอับอาย เขานึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสิบเดือนที่แล้วซึ่งวิลเลียมพ่อของเขาก็ต้องอับอายเช่นกัน เขาพูดว่า “คุณปู่ ทำไมคุณต้องโกหกด้วย? ผมไม่เข้าทั้งวิลเลียมและผมเป็นครอบครัวของคุณ แต่ทำไมเราถึงดูขวางหูขวางตาของท่านนัก?” “ทำไมงั้นเหรอ? ก็เพราะแกทั้งคู่เป็นคนสร้างแต่ความเสื่อมเสียให้กับผู้คนไงล่ะ!” พึมพำ อเล็กซ์รู้สึกใจสลายราวกับมีดแทงทะลุมันลงไป น้ำตาไหลอาบแก้ม “โดโรธี ได้โปรดเชื่อผม ผมไม่เคยโกหก” อเล็กซ์มองไปที่โดโรธีด้วยสายตาที่อ้างว้างและทำอะไรไม่ถูก แต่โดโรธีกลับตบหน้าเขาและพูดทั้งน้ำตาว่า “คุณทำให้ฉันรู้สึกผิดหวัง ฉันคิดว่าคุณจะเปลี่ยนแล้ว แต่คุณกลับดูน่ารังเกียจและไร้ยางอายมากกว่าเดิม คุณมันคนโกหกที่แย่มาก ฉันไม่ไหวกับคนอย่างคุณแล้ว” เธอถอดแหวนแต่งงานโยนใส่อเล็กซ์ แหวนโดนที่ใบหน้าของอเล็กซ์ แล้วกลิ้งลงไปกับพื้น ใบหน้าของอเล็กซ์เปลี่ยนเป็นสีซีด คำพูดของโดโรธีดังอยู่ในหูของเขา เธอเคยบอกอเล็กซ์ว่าจะไม่มีทางที่จะใส่แหวนวงนั้นกลับไปที่นิ้วของเธอ ถ้าหากในวันหนึ่งเธอถอดมันออกไปอีกครั้งการดูถูกเหยียดหยามและการดูถูกจาจากแขกเป็
“อะไรนะ? จริง ๆ แล้วท่านเล็กซ์พูดกับเขาในฐานะนายท่านอย่างนั้นเหรอ?” “อเล็กซ์ไม่ใช่คนที่ถูกขับไล่โดยตระกูลร็อคกี้เฟลเลอร์หรอกเหรอ? เขาจะเกี่ยวข้องกับท่านเล็กซ์ผู้ที่มีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ได้อย่างไร?” “อเล็กซ์เป็นเจ้าของบริษัทเธาซันด์ ไมล์ งั้นเหรอ? ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงเขาอาจจะเป็นคนที่รวยที่สุดในแคลอฟอร์เนียหรือจะเรียกได้ว่า รวยที่สุดในอเมริกาเลยก็ว่าได้” “โอ้พระเจ้านั่น เป็นข่าวใหญ่มาก มันวิเศษมาก” ทุกคนพากันตื่นตะลึง พวกเขากระซิบกันขณะที่มองขึ้นไปบนเวที ทั้งครอบครัวแอสเส็กซ์ตกตะลึง ร่างกายของคุณท่านโจแอนน์กำลังสั่นสะท้าน ดวงตาของคุณนายแคลร์วิ่งขึ้นมาจากหัวของเธอด้วยความประหลาดใจ โดโรธีปิดปากของเธอ เธอรู้สึกงงงวย อเล็กซ์มองไปที่ท่านเล็กซ์อย่างรู้สึกว่างเปล่าและถามว่า “ท่านเล็กซ์ คุณมาที่นี่ทำไม?” ท่านเล็กซ์ตอบว่า “นายท่านอเล็กซ์ ผมได้ยินเกี่ยวกับงานเลี้ยงประจำปีของตะกูลแอสเส็กซ์ ผมเลยมาเพื่อแสดงความยินดีและขณะเดียวกันก็มามอบสัญญาพันล้านดอลลาร์ แต่ไม่คิดว่าจะได้เห็นสิ่งนี้” อเล็กซ์มองไปที่โดโรธีและยิ้มอย่างขมขื่น “ผมขอโทษสำหรับสิ่งที่คุณได้เห็น” เขารับสัญญาม
ท่านแกสตัน คุกเข่าต่อหน้า คุณหนูโดโรธี ทันที “คุณหนูร็อคกี้เฟลเลอร์ ผมขอโทษ ผมขอให้คุณให้อภัย ผมตาบอดเพราะความโลภของผมและเอาเงินสิบห้าล้านดอลลาร์จาก สปาร์ค ไปทำการประมูลเพื่อจงใจให้เขาแสดงตัวราวกับว่าเขาเป็นฮีโร่ เขาต้องการแย่งคุณไปจากนายน้อยอเล็กซ์ ผมผิดไปแล้ว โปรดยกโทษให้ผมด้วย” ดวงตาของโดโรธีเต็มไปด้วยน้ำตาและเธอไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้ ขวับ! ท่านจอห์น คว้าสร้อยคอคุณนายแคลร์อย่างแรงแล้วโยนลงพื้นเพื่อทำลายมัน และพูดว่า “นี่เป็นการปลอมแปลงสร้อยคอ รักแห่งเมืองปฏิหาริย์ ของเรา ไม่เพียงแค่ผิดกฎหมาย แต่ยังเป็นการดูถูกบริษัทของเราอีกด้วย” ทุกคนตกใจกับการเปิดเผยทุกสิ่งที่ นายน้อยสปาร์ค พูดนั้นเป็นเรื่องโกหก คำกล่าวอ้างที่ไร้สาระทั้งหมดของอเล็กซ์เป็นเรื่องจริง แต่ทุกคนก็ยังสงสัยในตัวเขา ในขณะนั้นเอง อเล็กซ์รู้สึกท้อแท้ จิตใจของเขาเต็มไปด้วยภาพของโดโรธีพยักหน้ากับคำขอแต่งงานของสปาร์ค เขาปาดน้ำตาก่อนจะออกจากโรงแรมอย่างรวดเร็ว โดโรธีทุกข์ใจมากจนหายใจแทบไม่ออก คำสัญญาก่อนหน้านี้ของอเล็กซ์ดังขึ้นใจใจของเธอ “ผมเป็นหนี้คุณมากเกินไปในช่วงสิบเดือนที่ผ่านมา ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อต
อเล็กซ์เหมือนถูกแช่แข็ง เธอน่าทึ่งมากและความงามของเธอไม่ได้ซีดเซียวเมื่อเทียบกับโดโรธี แต่ร่างกายของคุณหมอเชอริลนังดูยั่วยวนกว่า อเล็กซ์รู้สึกเหมือนกำลังฝัน เขาคิดกับตัวเองว่า ‘หรือว่าเธอจะรู้ว่าสร้อยคอนั้นเป็นของแท้และมีมูลค่าถึงสามสิบล้านดอลลาร์? บางทีเธออาจจะเงียบ ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ตอนนี้กำลังไล่ตามเราอย่างจริงจัง!’ ขณะที่อเล็กซ์กำลังครุ่นคิดเขาสงสัยว่าถ้าคุณหมอเชอริลเหงาสำหรับคืนนี้ เขาควรจะเห็นด้วยกับคำชวนของเธอดีไหม? ในขณะที่เขานึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้หัวใจของเขาอยู่ในความปวดร้าวและเขาก็ไม่สามารถเอาชนะมันได้ เขาจึงตัดสินใจที่จะยอมรับคำชวนของคุณหมอเชอริล คุณหมอเชอริลกล่าวว่า “คืนนี้ฉันมีงานเลี้ยงอาหารค่ำรวมตัวเพื่อนร่วมชั้นเรียนและมีผู้ชายคนหนึ่งตามตื๊อฉันมาระยะหนึ่งแล้ว ฉันคิดว่าเขาน่ารำคาญ ฉันอยากให้คุณแกล้งเป็นแฟนของฉันและทำให้เขาเลิกตอแยฉันสักที คุณยินดีที่จะช่วยฉันไหมคะ?” อเล็กซ์สะดุ้งเล็กน้อย แต่ตอบอย่างยิ้ม ๆ ว่า “ผมเข้าใจแล้วว่านี่เป็นเพียงแค่การกำจัดตัวก่อกวน ได้ครับผมจะช่วยคุณเอง” เขามองร่างการที่เย้ายวนของเธอและร็สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็โล่งใจ เขาค
ในทันใดนั้นอเล็กซ์ก็รู้สึกถึงความสุขที่เกิดขึ้น ลึก ๆ ในใจของเขา เขาคิดว่าเมื่อพระเจ้าปิดประตูหนึ่งแต่ก็ยังเปิดอีกประตูหนึ่งให้ เชอริลต้องการที่จะออกไป แต่เธอขยับไม่ได้สักนิ้ว เธอรู้สึกเขินและหน้าแดง เมื่อพวกเขามาถึงชั้นหนึ่งก็เดินออกจากลิฟต์ คุณหมอเชอริลจ้องมองไปที่เขาและกระซิบว่า “อย่าคิดที่จะแต๊ะอั๋งฉันล่ะ” อเล็กซ์รู้สึกเสียใจและพูดว่า “เชอริล นั้นไม่ใช่ความผิดของผมนะ” เป็นเวลาห้าโมงครึ่งพวกเขาก็มาถึงที่ร้านอาหารอุระซาว่า มีลูกค้าไม่มากในร้านอาหาร แต่รถที่จอดอยู่ที่หน้าร้านอาหารล้วนเป็นรถหรูและระดับสูงซึ่งเป็นรถยนต์ที่มีมูลค่าหลายสิบล้าน “ร้านอาหารอุระซาว่าเป็นร้านอาหารที่แพงเป็นอับดับสองในการรับประทานอาหารในแคลิฟอร์เนีย” “ดูเหมือนว่าคุณจะมีเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่ร่ำรวยถึงได้นัดกันมารวมตัวกันที่นี่!” อเล็กซ์กล่าวด้วยรอยยิ้ม คุณหมอเชอริลหน้ามุ่ย “คนที่เชิญเรามาที่นี่ก็คือผู้ชายคนที่ฉันไม่ชอบมากที่สุดและคืนนี้คุณจะต้องจัดการเขาให้ได้!” “ได้เลย” อเล็กซ์ตอบ เขารู้ว่าผู้ชายที่เธอพูดถึงคือคนที่แอบชอบเธอ ในเวลานั้นเองก็มีคนจากด้านหลังตะโกนว่า “เชอริล!” อเล็กซ์เห็นชาย
เชอริลกับดวงตาที่งดงามของเธอซบหัวไปที่ไหล่ของอเล็กซ์พร้อมกับรอยยิ้ม “อืมใช่ อเล็กซ์เป็นแฟนของฉัน เธอคิดว่าไง? ระหว่างเราสองคนเป็นยังไงเหรอ? คุณหมอเชอริลสวยมาก ผู้ชายหลายคนคงใฝ่ฝันที่จะมีภรรยาแบบเธอ ทุกการเคลื่อนไหวของเธอสะกดหัวใจของผู้ชายทุกคนในห้อง เบนจามินมองดูอเล็กซ์ด้วยควาดเกลียดชังราวกับว่าเขาสามารถฆ่าอเล็กซ์ได้ด้วยสายตาของเขา คนอื่น ๆ ในห้องต่างสับสนและมองไปที่เบนจามิน จากนั้นชายคนนั้นก็กระโดดออกมาแล้วพูดว่า “เธอล้อเล่นใช่ไหมเชอริล แม้แต่คนตาบอดยังสารมารถเห็นได้ว่าเบนจามินมีความรู้สึกจริงจังกับเธอ เธอจะเลือกใครก็ไม่รู้ แทนที่จะเลือกเบนจามินได้อย่างไร?” บางคนในห้องก็พยักหน้าเห็นด้วย “ใช่เขาพูดถูก เบนจามินเป็นผู้อำนวยการหนุ่มของโกลเด้น ไลท์ กรุ๊ป บริษัทเขามีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ใครแต่งงานกับเขาอยู่ได้แบบสุขสบายไปตลอดชีวิต แล้วชายคนนี้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอ คือใครกัน การแต่งตัวก็ไม่ดี ถ้าเขาทำงานในไซต์ก่อสร้างเขาจะคู่ควรกับนางฟ้าอย่างเธอได้อย่างไร?” “ฉันยังดีกว่านายมาก ถ้าฉันยังไม่ควรได้รับโอกาสที่จะได้เป็นแฟนของเชอริล แล้วนายจะสมควรได้รับมันได้อย่างไร?” “เลิกล้อเล
ขณะที่เบนจามินเห็นคุณหมอเชอริลและอเล็กซ์กำลังเพลิดเพลินกับอาหารค่ำเขาก็มองไปที่อเล็กซ์ด้วยสายตาที่ดุร้าย เหตุผลหลักที่เบนจามินตั้งใจจะจัดงานรวมตัวกันครั้งนี้ก็คือต้องการตามตื๊อเชอริล เขาทนไม่ได้ที่จะเห็นคุณหมอเชอริลและอเล็กซ์มีความสุขกับช่วงเวลาอันแสนหวานของพวกเขาในมื้อค่ำ พวกขี้ประจบสอพอของเบนจามินสังเกตเห็นความโกรธแค้นของเขา จากนั้นพวกเขาก็หันไปมองที่คุณหมอเชอริลและอเล็กซ์ บริทนีย์กล่าวว่า “เฮ้ นายชื่ออเล็กซ์ใช่ไหม นายไม่เคยชิมอาหารอร่อยแบบนี้มาก่อน นายมักกินอาหารกลางวันที่ไซต์ก่อสร้างล่ะสิ? นายทำงานอะไรเหรอ? หลังจากที่อเล็กซ์กลืนเนื้อเสร็จเขาก็ตอบว่า “ผมไม่ได้ทำงานก่อสร้าง ผมว่างงานอยู่” ทุกคนหัวเราะ เบนจามินมองไปที่คุณหมอเชอริลด้วยความคิดลึก ๆ ในใจ เนื่องจากเบนจามินตามคุณหมอเชอริลมาหลายปีแล้ว เขาจึงรู้ว่าคุณหมอเชอริลเป็นคนมีจิตใจโอบอ้อมอารี เธอมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในการเลือกคู่ครองที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง คุณหมอเชอริลจะไม่เลือกคนที่ต่ำต่อยทางสังคมอย่างเช่นอเล็กซ์มาเป็นคู่ชีวิตของเธอแน่ เบนจามินคิดว่าบางทีคุณหมอเชอริลกับอเล็กซ์กำลังพยายามทดสอบความอดทนของเขา ดังนั้นเข
“บริทนีย์ เกิดอะไรขึ้น?” เบนจามินขมวดคิ้วขณะที่เขายืนขึ้นและถาม บริทนีย์พยายามปกปิดเสื้อผ้าที่ขาดจนเห็นผิวหนังของเธอ เธอชี้ไปที่ชายวัยกลางคนที่เดินเข้ามาและตะโกนว่า “ไอ้นั่นมันลวนลามฉัน” ชายคนนั้นตะโกนอย่างโกรธเกรี๊ยว “ยัยสารเลว ใครลวนลามเธอ เร็วเข้า เอาของฉัน...” ก่อนที่เขาจะพูดจบ ดีแลน มิเนตต์ ผู้ประจบของเบนจามิน ก็กระโดดเตะชายวัยกลางคนเข้าที่อก ชายคนนั้นล้มลงกับพื้น “ให้ตายสิ! ใครปล่อยไอ้บ้านี่มา ทำไมแกกล้าขืนใจบริทนีย์ ทำไมแกไม่ไปทำกับน้องสาวตัวเอง” ผู้ชายคนอื่น ๆ ก็ก้าวไปข้างหน้าเช่นกัน พวกเขาพากันรุมชกต่อยและเตะชายคนนั้น จากนั้นพวกเขาก็ไล่ชายคนนั้นออกจากห้องอาหาร ดีแลนหัวเราะและพูดว่า “แกมันไอ้ลูกนังสารเลว ให้ฉันสอนบทเรียนให้แก แกจะได้ไม่กล้าทำอีก!” “สุดยอดไปเลยดีแลน” ผู้คนต่างโห่ร้อง อเล็กซ์ส่ายหัว คนอื่นอาจจะไม่ได้สังเกตเห็น แต่เขาสังเกตเห็นว่าชายวัยกลางคนไม่ใช่คนธรรมดา ๆ เขาใส่เสื้อเชิ้ตสั่งทำด้วยมือจากอิตาลีที่มีกระดุมข้อมือดอกพลัมสีเข้มขนาดเล็ก พ่อของเขาเคยมีอยู่หนึ่งตัว เขารู้ว่ามันมีมูลค่าสามล้านดอลลาร์ สำหรับคนที่สามารถซื้อเสื้อตัวนี้ได้ก็คงจะไม่ใช