Share

ใต้อาณัติครั้งที่ 3

Author: LADY-ZOMBIE
last update Last Updated: 2024-12-20 22:41:07

ใต้อาณัติครั้งที่ 3 But without faith it is impossible to please him: for he that cometh to God must believe that he is, and that he is a rewarder of them that diligently seek him. (Hebrews 11:6)

แต่โดยปราศจากความเชื่อ เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นที่พอพระทัยพระองค์ เพราะว่าผู้ที่มาหาพระเจ้านั้นต้องเชื่อว่าพระองค์ทรงพระชนม์อยู่ และเชื่อว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ประทานบำเหน็จให้แก่คนเหล่านั้นที่แสวงหาพระองค์อย่างขยันขันแข็ง (ฮีบรู 11:6)

+++++

ฟาเบียนออกจากโรงพยาบาลในอีกหนึ่งเดือนต่อมา จริงๆ ฟาเบียนออกมาได้ตั้งแต่สัปดาห์แรก แต่โดนเรโมสั่งพักงานหนึ่งเดือนและกักบริเวณ เพราะกลัวว่าตัวเองจะไปก่อเรื่องอะไรอีกจนเสียงาน ทำให้ฟาเบียนทำได้เพียงต้องนอนแห้งในโรงพยาบาลอย่างช่วยไม่ได้ ส่วนเนโรที่ขับรถเข้ามารับตัวเองออกจากโรงพยาบาลในวันนี้มีสีหน้าเหม็นเบื่อ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงไม่สบอารมณ์ว่า “นาย ฟาเบียน นายจะเป็นคนเดียวที่ฉันจะไม่แข่งรถด้วยอีกแล้ว!” ฟาเบียนที่ได้ยินก็นิ่งไป ก่อนจะเอ่ยขอบคุณที่ช่วยตัวเองออกมาในวันที่เกิดเรื่อง ก่อนจะยักไหล่แล้วคาดเข็มขัดนิรภัย แล้วเอ่ยด้วยเสียงไม่ทุกข์ร้อนอะไรว่า

“ขอบคุณที่ช่วยออกมาในวันนั้น” เนโรเหล่ตามองฟาเบียนก่อนจะจิปากอย่างหงุดหงิด แล้วเอ่ยด้วยเสียงหงุดหงิดใจว่า

“นายมันจริงๆ เลยให้ตายสิ!” ฟาเบียนพิงศีรษะกับเบาะรถก่อนจะมองออกไปข้างนอก แล้วเอ่ยถามด้วยเสียงไม่ยี่หระนักว่า

“เนโร นายผ่านสัญญาระยะสั้นมาแล้วหรือยัง?” เมื่อได้ยินคำถาม คิ้วของเนโรก็ย่นลงก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงไม่คิดมากอะไรว่า

“แน่นอน ทำไมนายถึงถามฉันล่ะ?” เมื่อได้ยินสีหน้าของฟาเบียนก็แปลกไป ก่อนจะเม้มปากแล้วเอ่ยด้วยเสียงเบาลงว่า

“ต้องทำอย่างไรถึงได้ต่อสัญญาระยะยาวหรือ?” เมื่อได้ยินเนโรก็ขมวดคิ้วมองฟาเบียนเหมือนมองคนบ้า ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงกลั้วหัวเราะว่า

“นายป่วยหรือเพื่อน? หรือไอ้ที่เฉียดตายมาสองครั้งมันทำนายบ้าไปแล้วจริงๆ ?” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็เม้มปาก ก่อนจะถอนหายใจแล้วเอ่ยด้วยซังกะตายว่า

“คงแบบนั้น ฉันคงบ้าไปแล้วที่คิดจะทำงานที่นี่ต่อ” เมื่อได้ยินเนโรก็หัวเราะจนท้องแข็งก่อนจะปาดน้ำตาแล้วเอ่ยด้วยเสียงไม่คิดอะไรมากว่า

“โอเค ตอนแรกฉันคิดว่านายบ้า แต่ตอนนี้นายแม่งโคตรบ้าเลยเพื่อน!” เนโรหัวเราะชอบใจ ก่อนจะหยุดหัวเราะแล้วเปลี่ยนเป็นเสียงจริงจังว่า “ไม่มีคนปกติดีที่ไหนอยากทำงานที่นี่ต่อหลังเจอเรื่องแบบนายมาหรอกนะ”

“แล้วทำไมนายถึงต่อสัญญาล่ะ?” เมื่อได้ยินคำถามของฟาเบียนที่ย้อนถามตัวเอง เนโรก็ยักไหล่ แล้วเอ่ยด้วยเสียงทีเล่นทีจริงว่า

“เพราะเงินไงเพื่อน ชีวิตนี้ใครจ่ายเงินให้ฉัน ฉันก็มองว่าเขาเป็นพระเจ้าที่ต้องคอยรับใช้อยู่อย่างไรเล่า” เนโรพูดติดตลก แต่ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกลับไม่ได้ดูติดตลกแม้แต่น้อยมันแฝงไปด้วยความจริงจัง ทำเอาฟาเบียนมองเนโรค้างอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะหัวเราะ แล้วเอ่ยขึ้นว่า

“นั่นสิ ตอนนี้เรากำลังรับใช้พระเจ้าจริงๆ ” เมื่อได้ยินเนโรก็ยกยิ้มมุมปากกับมุกตลกที่ไม่ตลกของฟาเบียน แม้ชื่อของเจ้านายจะแปลว่า เทวดา แต่ไม่ได้หมายความว่าเจ้านายของพวกตนต้องเป็นเทวดาที่แสนอ่อนโยนหรือใจดี หากให้พูดเนโรคงนิยามเจ้านายของตัวเองว่าคงเป็น เทวดาตกสวรรค์มากกว่า...

“นายปล่อยมุกได้ห่วยแตกมากจริงๆ ฟาเบียน” ฟาเบียนยักไหล่ ก่อนจะเอ่ยถามซ้ำสองว่า

“บอกฉันหน่อยสิว่าฉันจะต่อสัญญาระยะยาวได้อย่างไร” เนโรเหล่ตามองฟาเบียน ก่อนจะย่นคิ้วแล้วเอ่ยด้วยเสียงจริงจังว่า

“นายจริงจัง?” เมื่อเห็นว่าฟาเบียนพยักหน้าตอบรับพลางมองตัวเองด้วยสายตาเด็ดเดี่ยวคล้ายตัดสินใจได้แล้ว เนโรก็มีสีหน้าบิดเบี้ยวก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงหงุดหงิดว่า “ฉันบอกก่อนนะว่าถ้านายทำสัญญานั้นแล้ว นายจะไม่สามารถถอนตัวออกจากที่นี่ได้อย่างง่ายๆ นายคิดดีแล้วหรือ?” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็สูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะมองเสี้ยวหน้าของเนโรที่กำลังขับรถแล้วเอ่ยด้วยเสียงจริงจังว่า

“ใช่ ฉันตัดสินใจแล้ว” เมื่อได้ยินเนโรก็จิปาก ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงไม่สบอารมณ์นักว่า

“โอเค ฉันรู้แล้วว่านายบ้า การต่อสัญญาทำได้เมื่อนายสิ้นสุดสัญญาฉบับแรก และต้องผ่านการทดสอบจากเลขาจอง” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็ขมวดคิ้ว ชายชาวเกาหลีใต้ที่ทำงานเป็นเลขาระเบียบจัดให้กับนายท่าน คนที่ทำงานทุกอย่างได้เรียบร้อยราวกับใช้ไม้บรรทัดตีเส้นไว้ คนที่ไม่ว่าฟาเบียนจะมองกี่ครั้งก็คิดว่าเจ้าตัวไม่น่าจะใช่เบต้าแต่ควรเป็นอัลฟ่ามากกว่า ใช่ เลขาจองเป็นเบต้า... เบต้าที่แข็งแกร่งกว่าอัลฟ่าทั่วไป

“เลขาจอง?” เนโรเหลือบตามองฟาเบียนอย่างเห็นใจ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงทำอะไรไม่ถูกว่า

“ใช่ และการทดสอบของเลขาจองไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะผ่านได้ง่ายๆ ” ฟาเบียนที่ได้ยินก็ย่นคิ้ว แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไรเนโรก็เอ่ยขึ้นมาก่อนว่า “เพราะฉะนั้นนายเตรียมใจเอาไว้ด้วยล่ะ โดยเฉพาะถ้าเป็นอัลฟ่าอย่างนาย” ฟาเบียนที่ได้ยินก็ขมวดคิ้วมองเนโรแต่เนโรส่ายหน้าหวือไม่ตอบอะไรเพิ่ม จนกระทั่งถึงคอนโดฯ

“เอาล่ะ ลูกพี่เรโมเรียกนายไปพบด้วย เพราะฉะนั้นเลิกมองหน้าฉันเหมือนตั้งคำถามได้แล้ว” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็เอ่ยขอบคุณเนโรที่มารับตัวเองออกจากโรงพยาบาล ก่อนจะเดินขึ้นไปที่ชั้นบนเพื่อไปพบกับเรโม

.......................

“นายเป็นคนแรกเลยนะที่ได้พักงานติดๆ กันแบบนี้” เสียงของเรโมเอ่ยขึ้นพลางจ้องมองฟาเบียนที่ก้มหน้ารับคำอย่างสงบ ก่อนที่จะเอ่ยต่อว่า “เพราะฉะนั้นนายคิดอย่างไรเรื่องลาออกจากงานก่อนหมดสัญญา แน่นอนว่าทางเราจะดูแลเรื่องเงินที่เหลืออีกครึ่งปีให้เอง” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็เงยหน้ามองเรโมด้วยสายตาตกใจ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงร้อนรนว่า

“คุณเรโม ผมไม่ได้อยากลาออกครับ ผมอยากทำงานต่อ!” เรโมที่ได้ยินก็ย่นคิ้วก่อนจะถอนหายใจแล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า

“จากผลงานของนายที่ผ่านมา นายคิดว่าฉันอยากจ้างนายต่อหรืออย่างไร?” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็เม้มปาก ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงสำนึกผิดว่า

“ผมขอโทษครับ” เรโมโบกมือไม่ได้ใส่ใจกับการขอโทษของฟาเบียน ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงที่เริ่มหงุดหงิดว่า

“นายไม่เหมาะกับงานที่นี่ ฉันจะพูดอย่างไรดี ฉันหมายถึงนิสัยของนายไม่เหมาะที่จะทำงานเป็นบอดีการ์ดของอะเลสซิโอ” ฟาเบียนเงยหน้ามองเรโมทันทีที่พูดจบ ก่อนจะกัดกระพุ้งแก้มเพื่อเรียกสติ แล้วเอ่ยด้วยเสียงเบาว่า

“ผมจะปรับตัวครับ” เรโมที่ได้ยินมองฟาเบียนด้วยสายตาราบเรียบไร้อารมณ์ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงที่ดังขึ้นกว่าเดิมว่า

“ฟาเบียน ที่นายต้องการทำงานต่อ เพราะรู้สึกผิดกับเปโดรใช่ไหม?” ฟาเบียนที่ได้ยินก็เบิกตากว้างเล็กๆ ก่อนจะเม้มปากไม่ได้พูดอะไร ทำเอาเรโมถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายเพราะเห็นคนแบบฟาเบียนมามากมาย แล้วเอ่ยต่อว่า “จริงสินะ ถ้าอย่างนั้นนายยิ่งไม่เหมาะที่จะทำงานที่นี่ เพราะฉะนั้นลาออกไปเถอะ เพื่อประวัติการทำงานที่ดีของตัวเอง” ฟาเบียนที่ได้ยินก็เม้มปาก ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเบาว่า

“ผมไม่อยากลาออกครับ ผมอยากทำงานต่อ ให้โอกาสผมได้ไหมครับคุณเรโม?” ฟาเบียนแทบจะยกมือไหว้อีกฝ่าย ก่อนที่เรโมจะโบกมือไม่สนใจ แล้วเอ่ยด้วยเสียงทำอะไรไม่ถูกว่า

“นายเป็นคนแรกเลยนะที่ดื้อด้านแบบนี้”

“.............” ฟาเบียนที่ได้ยินก็คอตก ก่อนที่เรโมจะเอ่ยด้วยเสียงจริงจังว่า

“เอาแบบนี้ ถ้านายอยากทำงานต่อไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรให้ได้ ฉันจะติดต่อเลขาจองให้ทำสัญญาฉบับที่สองของนายในเวลานี้เลย แต่ ...ถ้านายผ่านการทดสอบของเลขาจองไม่ได้ นายจะต้องถูกตราหน้าในประวัติการทำงานว่าถูกไล่ออกนะ? นายโอเคใช่ไหม?”

“!!!!!!!!!!!!” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็เงยหน้ามองอีกฝ่ายอย่างตกตะลึงก่อนจะยกยิ้มกว้างแล้วเอ่ยตอบรับอย่างดีใจว่า “แน่นอนครับผมจะทำให้สำเร็จอย่างแน่นอน!!!”

“.................” เรโมมองคนตรงหน้าด้วยสายตาราบเรียบไร้อารมณ์ ก่อนจะกดโทรศัพท์ส่งข้อความไปหาเลขาจอง แล้วได้เห็นคำว่าโอเคกลับมา พร้อมกับวันและเวลาสถานที่ที่ทำการทดสอบ พลางเอ่ยกับฟาเบียนด้วยเสียงจริงจังว่า “อีก 3 วันจะถึงวันทดสอบ นายไม่ต้องไปทำงาน แต่เตรียมตัวอยู่ที่นี่แหละ”

“ครับคุณเรโม” ฟาเบียนตอบรับอย่างกระตือรือร้น ก่อนจะถูกเรโมไล่ออกไป ฟาเบียนที่ยิ้มแย้มก็ค่อยๆ หุบยิ้มลงก่อนจะเม้มปากแล้วเดินกลับห้องไปด้วยสายตาและการตัดสินใจที่แน่วแน่

...........................

“ฟาเบียน?” เสียงเย็นชาของผู้นำแห่งอะเลสซิโอเอ่ยขึ้นในห้องทำงาน พลางเงยหน้ามองเรโมด้วยสายตาราบเรียบไร้อารมณ์ “ใคร?” เมื่อได้ยินเรโมไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะบอดีการ์ดมีเป็นร้อย ไม่แปลกที่เจ้านายจะจำชื่อของบอดีการ์ดคนหนึ่งไม่ได้

“คนที่เปโดรช่วยชีวิตไว้ครับ” เมื่อได้ยินเจ้าตัวก็พยักหน้ารับ คล้ายจะบอกว่าแล้วอย่างไรต่อ? ก่อนที่เรโมจะเอ่ยต่อว่า “เขาต้องการทำงานระยะยาวกับเราครับ” เมื่อได้ยินสีหน้าของแองเจโลก็เปลี่ยนไป ก่อนที่มุมปากจะยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยแล้วเอ่ยด้วยเสียงสนใจว่า

“แล้วอย่างไรต่อ?” เมื่อได้ยินเรโมก็เอ่ยต่อด้วยเสียงราบเรียบไร้อารมณ์ต่อไปว่า

“ผมเลยให้เลขาจองทำการทดสอบครับ” แล้วแองเจโลก็พยักหน้ารับ ก่อนที่เรโมจะเอ่ยต่อว่า “และเขาก็ผ่านการทดสอบครับ” เมื่อได้ยินสีหน้าของแองเจโลก็เปลี่ยนเป็นสนใจ ก่อนจะเอนหลังกับเก้าอี้พนักพิง แล้วเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า

“น่าสนใจ แล้วนายจะให้เขาทำงานที่ฝ่ายไหน?” เมื่อได้ยินเรโมก็เม้มปาก ก่อนจะเอ่ยตอบด้วยเสียงทำอะไรไม่ได้ว่า

“คงเป็นตำแหน่งเดิมที่เคยทำครับ เพราะไม่มีตำแหน่งไหนว่างอีกแล้วนอกจากตำแหน่งนั้น” เมื่อได้ยินแองเจโลก็พยักหน้าก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงสนใจว่า

“หมอนั่น เป็นอัลฟ่าใช่ไหม?” เมื่อได้ยินเรโมก็พยักหน้าตอบรับ ก่อนที่แองเจโลจะพยักหน้ารับ แล้วไม่ได้พูดอะไรต่อ ทำให้เรโมเข้ามารายงานเรื่องนี้และเรื่องอื่นๆ ต่อ ก่อนจะกลับออกไปในเวลาต่อมา

............................

การทดสอบของเลขาจองไม่ใช่เรื่องตลก ฟาเบียนที่ผ่านมันมาได้ทำได้เพียงรักษาแผลที่หน้าท้อง พักงานติดกันเป็นครั้งที่สาม ก่อนจะได้เปลี่ยนเป็นสัญญาตลอดชีวิต บอกได้คำเดียวว่าตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาโหดหินมาก ตอนนี้ฟาเบียนเข้าใจแล้วว่าทำไมตอนที่เนโรหรือคนอื่นๆ เอ่ยถึงเลขาจองถึงทำหน้าสยองกันทุกคน และเพราะแบบนั้นฟาเบียนเลยได้เริ่มงานอีกครั้งในสัปดาห์ต่อมา ที่หน้าที่เดิม ตำแหน่งเดิม แต่ที่เปลี่ยนไปคงเป็นคนที่นั่งร่วมทางด้วย “สวัสดีฉันชื่อคริสติน จะเป็นบัดดี้นายในวันนี้”

“ยินดีที่ได้รู้จัก ผมฟาเบียน” อีกฝ่ายเป็นชาวอเมริกันที่ทำงานแทนฟาเบียนตอนที่ต้องพักงานยาวติดๆ กัน และหน้าที่ขับรถในครั้งนี้จึงกลายเป็นของฟาเบียนเมื่ออีกฝ่ายพูดขึ้นว่า

“โอเค ฉันได้ยินเรื่องนายมาบ้าง เพราะฉะนั้นหน้าที่คนขับเป็นนายคนเดิม โอเคไหม?” ฟาเบียนพยักหน้ารับ ก่อนจะหยิบเอากุญแจรถมาจากคริสติน แล้วขึ้นไปประจำตำแหน่งที่ตัวเองเคยทำเมื่อเห็นว่าเจ้านายของตนเดินออกมาจากคฤหาสน์แล้ว โดยมีคริสตินเข้าไปนั่งประจำที่ข้างคนขับ “หวังว่านายจะไม่ซิ่งจนพาฉันเข้าโรงพยาบาลหรอกนะ” คริสตินพูดติดตลก ทำเอาฟาเบียนขำไม่ได้ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า

“แน่นอน นี่เวลาทำงานนะ” เมื่อได้ยินคริสตินก็ยกยิ้ม ก่อนจะจ้องมองฟาเบียนแกะลูกอมรสนมเข้าปาก แล้วเอ่ยถามด้วยความสงสัยว่า “นายติดลูกอมหรือ?”

“ประมาณนั้นผมแค่กินเพราะมันทำให้มีสมาธินะ” เมื่อได้ยินคริสตินก็พยักหน้ารับ ก่อนจะพยักหน้าเมื่อรถคันแรกเริ่มเคลื่อนตัวออกไป ก่อนที่ฟาเบียนจะขับตามไปอย่างสงบ

.......................

การทำงานวันแรกหลังจากได้พักงานติดต่อกันสามครั้งทำให้ฟาเบียนรู้สึกเมื่อยล้าเล็กน้อย และคริสตินเป็นผู้ฟังที่ดี หมอนั่นเป็นคนเก็บตัวและไม่ค่อยพูด ทำให้ฟาเบียนที่เหมือนจะเป็นพวกเดียวกันทำอะไรไม่ถูก เรียกได้ว่าการทำงานวันนี้ค่อนข้างอึดอัดเล็กน้อย ก่อนที่ฟาเบียนจะพ่นควันออกจากปาก พลางเท้ามือกับราวระเบียงห้องแล้วจ้องมองท้องฟ้าสีดำด้านบนด้วยสายตาเหม่อลอย แล้วขบคิดถึงเส้นทางที่ตัวเองเลือกเดิน

ในเป็นความจริงที่ฟาเบียนทำงานต่อเพราะรู้สึกผิดกับเปโดร แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือฟาเบียนอยากรู้ อยากรู้ว่าสิ่งที่เปโดรทำในสัญญาฉบับที่สองมีอะไรบ้าง และฟาเบียนก็ได้รู้ และมันไม่ใช่สิ่งที่ดีเลยแม้แต่น้อย และคงมีเพียงแค่คนบ้าเท่านั้นที่จะเซ็นสัญญาฉบับนี้ และใช่ ไม่ว่าจะเปโดรที่ตายไป หรือเนโร แม้แต่ตัวของฟาเบียนเองก็คงบ้า เพราะสัญญาฉบับที่สองระบุเอาไว้ว่า

‘.... เมื่อฝ่าย B เสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่จะได้รับการชดเชยเป็นจำนวนเงินมากกว่า 10,000,000 ยูโรต่อญาติที่ได้ระบุไว้ในตัวสัญญา’

ใช่สิบล้านยูโรหรือราวๆ สามร้อยล้านบาทไทย เพราะฉะนั้นเม็ดเงินนั้นทำให้ครอบครัวของเปโดรไม่ลำบากอย่างแน่นอน และใช่ ในช่องของการใส่ชื่อญาติฟาเบียนใส่ชื่อของพี่กาวีโน่และภรรยาของเปโดรไปทั้งหมด ช่วยไม่ได้ที่ฟาเบียนไม่มีญาติหรือคนใกล้ชิดคนอื่นแล้วนอกจากพี่กาวีโน่ที่ไทย เพราะฉะนั้นเมื่อฟาเบียนตายคนที่รับเงินจำนวนนี้จะเป็นครอบครัวของพี่กาวีโน่ และอีกครึ่งหนึ่งจะเป็นของภรรยาของเปโดร เพื่อชดเชยความรู้สึกผิดในใจ เพราะฉะนั้นฟาเบียนจึงไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมเปโดรถึงยอมตายได้ และใช่ คนอื่นๆ ก็คงยอมตายได้เพราะเม็ดเงินพวกนี้มันมหาศาลจริงๆ

เพราะเชื่อในพระเจ้าที่เรียกว่า ‘เงิน’

+++++

Lady Zombie

21/09/67

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • จบ Alessio’s Bodyguard ใต้อาณัติเทวดา (Omegaverse, Yaoi)   ใต้อาณัติครั้งสุดท้าย

    ใต้อาณัติครั้งสุดท้าย The grace of our Lord Jesus Christ be with you all. Amen. (Revelation 22:21)ขอให้พระคุณของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของพวกเรา จงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายทุกคนเถิด เอเมน (วิวรณ์ 22:21)+++++“Sentino Alessio” เสียงของแองเจโลเอ่ยขึ้นในตอนที่รับลูกชายมาจากมือของพยาบาล ที่พาเข้ามาในห้องพักฟื้นหลังฟาเบียนตื่นแล้ว ใช่ ฟาเบียนคลอดโดยการผ่าคลอด ก่อนที่ฟาเบียนจะอมยิ้มจ้องมองลูกชายตัวแดงๆ ย่นๆ ในอ้อมกอดของแองเจโล ก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงสงสัยว่า“เซนติโนแปลว่าอะไรครับ?” เมื่อได้ยินแองเจโลก็ยกยิ้มก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงอารมณ์ดีว่า“นักบุญตัวน้อย ชื่อน่ารักใช่ไหม?” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็พยักหน้ารับ ก่อนจะใช้นิ้วจิ้มแก้มย่นๆ ของลูกชายก่อนที่คุณหมอมิลเลอร์จะเดินมาส่งผลใบตรวจเพศรองของลูกชายครั้งแรกเกิดให้แด๊ดดี้และป่าป๊าดู ฟาเบียนรับมาก่อนจะมองใบหน้าของแองเจโลที่กำลังกอดลูกด้วยท่าทางมีความสุข ก่อนที่แองเจโลจะเงยหน้ามองฟาเบียนแล้วเลิกคิ้วถามว่ามีอะไร“ผลตรวจเซนติโนเป็นอีนิกม่าครับ” เมื่อได้ยินแองเจโลก็พยักหน้ารับ ก่อนจะยกยิ้มกว้าง พลางกดจูบที่หน้าผากของลูกชาย“เก่งมากเจ้าลูกชาย” ฟาเ

  • จบ Alessio’s Bodyguard ใต้อาณัติเทวดา (Omegaverse, Yaoi)   ใต้อาณัติครั้งที่ 19

    ใต้อาณัติครั้งที่ 19 And Adam knew Eve his wife; and she conceived, and bare Cain, and said, I have gotten a man from the LORD. (Genesis 4:1)และอาดัมได้ร่วมกับเอวาภรรยาของเขา และนางได้ตั้งครรภ์ และคลอดคาอิน และกล่าวว่า “ข้าพเจ้าได้รับชายคนหนึ่งจากพระเยโฮวาห์” (ปฐมกาล 4:1)+++++วันนี้แองเจโลกลับบ้านมาไวกว่าทุกครั้ง แม้งานจะกองท่วมหัว แต่รู้ดีว่าฟาเบียนคงมีเรื่องอยากคุยกับตัวเองต่อแน่ๆ ในระหว่างที่เดินขึ้นชั้นบนก็เอ่ยกับเรโมไปด้วยว่า “วันนี้ฉันจะไม่เข้ากาสิโน กับไปที่คลับ นายจัดการดูแลไปก่อนเลย”“ครับ” แล้วเรโมก็หยุดตามแล้วหมุนตัวเดินไปทางอื่น ในขณะที่แองเจโลยกมือขึ้นดึงเนกไทลง ก่อนจะเดินขึ้นไปบนชั้นสามโดยมีริคกี้ตามมาเฝ้าที่ทางขึ้นบันไดเช่นเดิม และเมื่อเข้าไปในห้องแองเจโลก็นิ่งไปเมื่อเห็นว่าประตูห้องนอนเปิดรออยู่ เลยเดินผ่านห้องนั่งเล่นในห้องนอน เข้าไปในห้องแล้วต้องพรูลมหายใจออกอย่างอึดอัดเมื่อกลิ่นฟีโรโมนกลิ่นกาแฟใส่นมภายในห้องมันคลุ้งไปหมด จนทำเอาเจ้าลูกชายเกือบตื่น ก่อนจะจ้องมองก้อนผ้าห่มบนเตียงด้วยสายตาอ่อนลง แต่ยังไม่ทันก้าวเท้าเข้าไปในห้องเสียงเย็นยะเยือกของคนในผ้าห่มก็ดังขึ้นเ

  • จบ Alessio’s Bodyguard ใต้อาณัติเทวดา (Omegaverse, Yaoi)   ใต้อาณัติครั้งที่ 18

    ใต้อาณัติครั้งที่ 18 So God created man in his own image, in the image of God created he him; male and female created he them. (Genesis 1:27)ดังนั้นพระเจ้าได้ทรงสร้างมนุษย์ในแบบพระฉายของพระองค์เอง ในแบบพระฉายของพระเจ้าพระองค์ได้ทรงสร้างเขา พระองค์ได้ทรงสร้างพวกเขาให้เป็นชายและหญิง (ปฐมกาล 1:27)+++++เรโมจ้องมองภาพที่ลูกน้องตัวเองเดินขยี้ตาออกมาจากสนามบินพร้อมเจ้านายตัวเองที่กำลังโอบเอวอีกฝ่ายเดินออกมาอย่างรักใคร่ด้วยสายตาปลาตาย ก่อนจะก้มหัวลงเพื่อทำความเคารพเจ้านายที่หนีหายหน้าไปเดือนกว่าโดยไม่บอกใครสักคนนอกจากเลขาจอง ด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ ก่อนที่ฟาเบียนจะขืนตัวแล้วเอ่ยเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า “เดี๋ยวผมไปนั่งคันหลัง”“ไม่ต้อง มานั่งกับฉันนี่แหละ” แล้วฟาเบียนก็โดนเจ้านายตัวเองลากไปขึ้นเบาะหลังอย่างงงๆ โดยมีเรโมปิดประตูโบกมือไล่บอดีการ์ดคนอื่นๆ ให้รีบๆ แยกย้ายเตรียมตัวเดินทางกลับคฤหาสน์อะเลสซิโอ โดยที่เรโมขึ้นไปนั่งที่ที่นั่งข้างคนขับอย่างริคกี้ที่กำลังเหลือบมองตัวเองด้วยสายตาเลิ่กลั่ก เพราะภาพจากเบาะหลังคือ เจ้านายตัวเองกำลังพูดเสียงสองกับฟาเบียนที่กำลังบ่นว่าตัวเองง่วงแค่ไหนด้วยสายตาเ

  • จบ Alessio’s Bodyguard ใต้อาณัติเทวดา (Omegaverse, Yaoi)   ใต้อาณัติครั้งที่ 17

    ใต้อาณัติครั้งที่ 17 He hath led me, and brought me into darkness, but not into light. (Lamentations 3:2)พระองค์ได้ทรงนำข้าพเจ้า และพาข้าพเจ้าเข้ามาในความมืด แต่ไม่เข้าในความสว่าง (เพลงคร่ำครวญ 3:2)+++++“คุณอยากให้ผมใส่เจ้านี่ตลอดเลยใช่ไหมครับ?” ฟาเบียนเอ่ยถามพลางชี้ไปที่ปลอกคอและสายโซ่ที่แองเจโลถืออยู่ในมือ แองเจโลเงยหน้ามองอีกฝ่ายก่อนจะตอบด้วยเสียงราบเรียบว่า“แล้วได้ไหมล่ะ?” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็ดึงสายโซ่มาจากมืออีกฝ่าย ก่อนจะเป็นฝ่ายใส่สายโซ่กับปลอกคอตัวเอง แล้วเอ่ยด้วยเสียงใจเย็นว่า“แล้วผมจะออกไปเดตกับคุณข้างนอกได้อย่างไรครับ?” เมื่อได้ยินแองเจโลก็มองใบหน้าของฟาเบียนก่อนจะเอ่ยตอบด้วยเสียงราบเรียบว่า“ก็ไม่ต้องออกไป ฉันจะดูแลนายทั้งหมดเอง” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็พยักหน้ารับ ก่อนจะเอนศีรษะพิงไหล่แองเจโล ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเบาว่า“แต่ผมอยากออกไปเดตกับคุณ มีหลายที่เลยที่ผมอยากไปกับคุณ ผมอยากสร้างความทรงจำมากมายกับคุณ มากกว่าการอยู่ในห้องกันสองคนแบบนี้” ใช่ สัญชาตญาณของอัลฟ่าที่อยากกักขังคู่เอาไว้ใต้ปีกทำไมฟาเบียนจะไม่เข้าใจ ตนเองก็เคยมีความคิดนี้ แต่เพราะฟาเบียนไม่ได้ทำไม่ได้หมายความ

  • จบ Alessio’s Bodyguard ใต้อาณัติเทวดา (Omegaverse, Yaoi)   ใต้อาณัติครั้งที่ 16

    ใต้อาณัติครั้งที่ 16 And when the thousand years are expired, Satan shall be loosed out of his prison, (Revelation 20:7)และเมื่อเวลาหนึ่งพันปีนั้นล่วงไปแล้ว ซาตานจะได้รับการปลดปล่อยออกจากคุกของมัน (วิวรณ์ 20:7)+++++แองเจโลจับลำคอของฟ้าที่กำลังฮีตด้วยสีหน้าเย็นชาไร้อารมณ์ ไม่ได้สนใจเลยว่ากลิ่นฟีโรโมนของอีกฝ่ายจะยั่วยวนมากแค่ไหน เพราะสำหรับอีนิกม่าอย่างแองเจโลแล้วนั้น ฟีโรโมนของโอเมก้าก็เหมือนน้ำหอมที่หวานเลี่ยนจนน่าพะอืดพะอมจนอยากอ้วกเพียงเท่านั้น เพราะฉะนั้นแองเจโลจึงไม่ได้รู้สึกอะไรกับฟีโรโมนโอเมก้าที่กำลังฮีต นอกจากความกรุ่นโกรธที่เห็นเมียตัวเองกำลังไปจูบกับคนอื่น ก่อนจะปรายตามองฟาเบียนที่กำลังพยายามยันตัวลุกขึ้นด้วยสีหน้าแดงก่ำ และฟีโรโมนที่กำลังผันผวนอย่างรุนแรง “แองเจโล?” เสียงพึมพำของอีกฝ่ายทำให้แองเจโลจิปาก ก่อนจะลากคอโอเมก้าที่กำลังฮีตออกจากห้องด้วยการคว้าหลังคอ แล้วเหวี่ยงลงกระแทกกับพื้นหน้าห้องนอน จนอีกฝ่ายกลิ้งกระเด็นกับพื้นอย่างหมดสภาพ“ฮึก ฮื่อ” อีกฝ่ายร้องไห้โฮเพราะกลิ่นฟีโรโมนของแองเจโลที่ฉุนจมูกจนน่าขนลุก และไหนจะโดนอีกฝ่ายเหวี่ยงกระเด็นล้มกับพื้นจนเจ็บไปทั้งตัวอีก

  • จบ Alessio’s Bodyguard ใต้อาณัติเทวดา (Omegaverse, Yaoi)   ใต้อาณัติครั้งที่ 15

    ใต้อาณัติครั้งที่ 15 And God shall wipe away all tears from their eyes; and there shall be no more death, neither sorrow, nor crying, neither shall there be any more pain: for the former things are passed away. (Revelation 21:4)และพระเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาทุก ๆ หยดจากตาของพวกเขา และจะไม่มีความตายอีกต่อไป หรือความโศกเศร้า หรือการร้องไห้ และจะไม่มีการเจ็บปวดใด ๆ อีกต่อไป เพราะว่าสิ่งต่าง ๆ ในกาลก่อนนั้นได้ผ่านพ้นไปแล้ว” (วิวรณ์ 21:4)+++++“มีอะไรหรือฟา?” แองเจโลเอ่ยพลางจับแขนของฟาเบียนแน่น เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของเหลือบตามองโอเมก้าที่ตัวเล็กกว่าตัวเองด้วยสายตาอันตรายทำเอาอีกฝ่าย ก้มหน้าหลบตาไม่กล้าสบตากับแองเจโล แต่สีหน้าของฟาเบียนกลับเปลี่ยนไป ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบปกติว่า“ไม่มีอะไรครับ แองเจโลไปหยิบของที่อยากทานก่อนได้เลย เดี๋ยวผมตามไปครับ” เมื่อได้ยินแองเจโลก็ยกยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตา ทำเอาฟาเบียนกลืนน้ำลาย ก่อนที่แรงบีบที่แขนจะแรงขึ้น แล้วหายไปเมื่อเจ้าตัวปลดมือออก แล้วเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบเย็นชาว่า“อย่านาน” แล้วแองเจโลก็จ้องเขม็งไปที่โอเมก้าร่างเล็กตรงหน้า แล้วเดินจากไป ทิ้งไว้เพ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status