“เอ่อ...” เธอพูดเสียงติดขัด หันไปมองหน้ามอม้าด้วยแววตาละห้อย
“เฮียอย่าทำหน้าตาเหมือนจะฆ่าหงส์แบบนั้นสิ” มอม้าบ่นให้ผมเสียงเอือมๆ ผมเลยมอบสายตาพิฆาตให้มันไป
“เล่ามา เสียเวลา” ขี้เกียจเปิดศึกน้ำลายกับไอ้ลูกน้องปีนเกลียวข้างๆ เลยหันไปไล่บี้เอากับผู้หญิงตัวเล็กตรงหน้าแทน
“คือ วันนั้นที่ตรอก ฉันไม่รู้ว่ามันคือที่ไหน แต่...” ยัยตัวเล็กพูดเสียงแผ่วเบา คล้ายกับกำลังนึกชื่อสถานที่
“ช่างสถานที่มัน เล่าเหตุการณ์มาเผื่อจำได้” ผมบอกปัดไปตามอารมณ์ที่เริ่มจะรำคาญการพูดคุยกับเพศแม่แบบนี้
“วันนั้นฉันกำลังจะโดนรุมข่มขืน แต่โชคดีที่คุณเข้ามาช่วยจัดการไว้ได้ทัน แต่ ฉันยังไม่ทันขอบคุณ คุณก็เดินหนีออกมาก่อน”
ฟังดูคุ้นๆ นะ เหมือนเมื่ออาทิตย์ก่อนผมจะไปตามหาไอ้หนอนบ่อนไส้ที่กล้ามาล้วงคองูเห่าถึงถิ่นด้วยการเอายามาปล่อยให้คนที่มาเสี่ยงดวงที่คาสิโนผม
ผมตามสืบจนรู้ว่ามันไปกลบดานอยู่แถวๆ อู่ขนส่งไทย-ฮ่องกง ของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผมพอจะรู้จักมักจี่ รอมันอยู่เกือบสามชั่วโมงแต่ไม่เห็นแม้แต่วี่แววมัน
สงสัยจะมุดหัวอยู่ใต้ดินหรือไม่ก็หนีหางจุกตูดกลับไปฟ้องไอ้พ่อหมาที่ส่งหมาเลียแข้งแบบ ‘ไอ้ดำ’ มาเป็นไส้ศึกที่ถิ่นผมแล้ว
“แล้วยังไง เธอตามหาฉันเพื่อ?”
เข้าใจว่าเคยช่วย แต่ไม่เข้าใจเธอจะตามหาผมทำไม
“เอ้า! ผมก็บอกเฮียแล้วไงว่าน้องหงส์จะมาตอบแท..น” ผมปรายตาดุๆ มองหน้ามอม้าที่มันกำลังเสือกเล่าในสิ่งที่ผมไม่ได้ถาม “แฮ่ๆ ลืมตัว มันอึดอัด”
อึดอัดกับผีสิ! ผมใช้สายตาด่ามัน ส่ายหัวเบาๆ กับความขี้เสือกของไอ้มอม้า
“ตอบ!!” ผมหันไปดุผู้หญิงที่น่าจะชื่อหงส์อะไรสักอย่างที่มอม้ามันเรียก เธอถึงกับสะดุ้งตัวโหยงเพราะตกใจเสียงผม
“หงส์ จะมาตอบแทนค่ะ มีคนเคยบอกว่าบุญคุณต้องทดทะ...”
“ไม่ต้อง!! ฉันไม่อยากได้อะไร” เธอพูดยังไม่ทันจบประโยค ผมเลยพูดตัดความรำคาญ ไอ้ตอบทงตอบแทนห่าเหวอะไรผมไม่ต้องการ ถ้ารู้ว่าจะมาพูดเรื่องไร้สาระพวกนี้ผมไม่ให้ไอ้มอม้าพาเข้ามาเด็ดขาด!
“เฮีย!” ไอ้มอม้าเรียกผมเสียงดัง
ปกติถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่สนิทมาใช้น้ำเสียงแบบนี้กับผม ยืนบนพื้นได้ไม่ถึงสามวิหรอกครับ นอนหมดสติที่พื้นแน่นอน
“แต่หงส์อยากตอบแทนบุญคุณจริงๆ นะคะ จะให้หงส์ทำอะไรก็ได้ หงส์ทำได้ทุกอย่าง ถ้าไม่ได้ตอบแทนหงส์คงอยู่ไม่สุขแน่ๆ เลยค่ะ”
อา~ น่ารำคาญเป็นบ้า ผมเบื่อผู้หญิงได้ยินมั้ย!
“ก็บอกอยู่ว่าไม่ต้อง!” ผมยืนยันคำเดิม
การที่ผมเข้าไปช่วยเธอที่ตรอกมืดๆ วันนั้นเพราะรู้สึกหงุดหงิดที่ไปยืนรอไอ้ดำแล้วไม่เจอตัวมัน จังหวะที่จะเดินกลับมาขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าตรอกตรงนั้น สองตาดันไปเห็นอะไรสนุกๆ น่ายืดเส้นยืดสาย เลยเดินเข้าไประบายอารมณ์หงุดหงิดนิดหน่อย
ไม่คิดว่าจะกลายมาเป็นบุญคุณช่วยชีวิตของยัยผู้หญิงตรงหน้าตอนนี้
“แต่ว่า” ดื้อจริงๆ ทำไมยัยนี่ถึงได้น่าหงุดหงิดแบบนี้กันวะ!
“เอาน่าเฮีย น้องหงส์เขาอุตส่าห์ตามหาเฮียตั้งหลายวันเลยนะ ไม่รู้กว่าจะเจอผม เธอผ่านอะไรมาบ้าง รู้อยู่หรอกว่าเฮียไม่ชอบผู้หญิงเพราะ...”
ตุ้บ! ผมตบโต๊ะดังลั่นเพื่อเบรกสิ่งที่ไอ้มอม้ากำลังจะล้ำเส้นเอ่ยมันออกมา
สิ่งที่ผมไม่อยากให้ใครมากระตุ้นมันในสมองส่วนลึกที่กักเก็บมันเอาไว้
“เฮียก็อย่าใจร้ายสิ หยวนๆ ให้เธอหน่อยเหอะ เห็นแก่ผู้หญิงตาฟ้าๆ ตัวเล็กๆ ที่กระตือรือร้นเสาะหาเพื่อทะ...”
“เออ! เอาที่มึงสบายใจเลยไอ้มอม้า กูยกให้มึงจัดการ”
ด้วยความรำคาญไอ้มอม้าที่ผมรู้นิสัยมันดี ถ้ามันคิดจะยื่นมือช่วยใครมันจะช่วยให้ถึงที่สุด เลยปล่อยให้มันจัดการเองตามใจชอบไปเลยแล้วกัน
‘เอาที่มึงสบายใจ แล้วก็ไสหัวออกจากห้องกูซะ!’
ผมบอกมันทางสายตา เราสองคนแค่มองตาก็อ่านใจกันออกแล้วไง ก็นะ สนิทกันมาตั้งเกือบสิบปี สนิทยิ่งกว่าพวกไอ้กรุงโซลซะอีก มีหรือเรื่องแค่นี้ไอ้มอม้ามันจะเดาความคิดผมไม่ออก
“ฉันส่งข้อความบอกคู่หมั้นเธอแล้วว่าเธอเปลี่ยนใจจะอยู่ที่นี่ต่อ”วะ ว่าไงนะ! นี่มันมากไปแล้วนะ ฉันไปตัดสินใจแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่“มากไปแล้วนะยูกิ” ฉันเผลอตัวเรียกเขาด้วยชื่ออีกแล้วแต่แทนที่ยูกิจะใส่ใจในเรื่องนั้นเขากลับนิ่งเฉย แต่แวบหนึ่งฉันกลับเห็นความตื่นเต้นกับสิ่งที่ฉันเรียกเขาก่อนหน้าในแววตาคู่คมนั้น“มากตรงไหน ใครจะยอมให้เมียตัวเองไปกับอิแค่คู่หมั้น” ยูกิยังคงเรียกฉันด้วยสรรพนามน่าอายนั้น ตกลงเขาต้องการอะไรจากฉันกันแน่“จะให้ฉันบอกอีกกี่ครั้ง ฉันไม่...”“หรือจะให้ฉันจัดให้อีกสักครั้ง หรือจะเหมายันเช้าดี เธอจะได้จำได้สักทีว่าร่างกายของเธอเป็นของใคร”“อ๊ะ อย่าเข้ามานะ ถอยไป”ยูกิพูดจบก็คุกเข่าค่อยๆ คลานขึ้นมาบนเตียงที่มีฉันนั่งอยู่บนนี้ สายตาเขามีแววความสะใจอยู่ในนั้น เขากำลังสนุกที่ไล่ต้อนฉันได้สำเร็จ“คนไม่มีหัวใจอย่างคุณอย่าเอาคำนั้นมาเรียกคนอื่นดีกว่า” ฉันเมินหน้าไปทางอื่น ไม่อยากมองหน้าผู้ชายที่กำลังเล่นตลกกับหัวใจฉันอีกแล้วฉันมีคู่หมั้นแล้ว เมื่อวันที่อยู่โรงพยาบาลเขาก็น่าจะเห็น และอีกอย่างเฮียเทียนบอกฉันว่าเขาเล่าเรื่องฉันกับเฉินฮ่งให้ยูกิฟังแล้ว แล้วดูสิ่งที่เขากำลังทำ
“นี่จะไม่เอาอะไรไปเลยเหรอหงส์” เสียงสิตาถามฉันฉันออกมาจากโรงพยาบาลสองวันแล้วล่ะ และวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ฉันจะอยู่ที่ยุกกี้คาสิโนแห่งนี้“ตอนมาก็มีแค่ตัวกับเสื้อผ้าชุดนี้ชุดเดียว อย่างอื่นมันไม่ใช่ของหงส์อยู่แล้วนี่”ถึงจะบอกสิตาไปแบบนั้น แต่ในใจฉันกลับปวดหนึบแปลกๆรู้สึกโหวงๆ เมื่อรู้ว่ากำลังจะไปจากสถานที่แห่งนี้ สถานที่ที่สอนฉันในหลายๆ อย่าง สถานที่ที่ทำให้ฉันได้เจอกับความรักครั้งใหม่ตอนที่ลืมคู่หมั้นตัวเอง และได้รับสิ่งตอบแทนที่สาสมที่บังอาจลืมแม้กระทั่งคู่หมั้นได้ลงคอ“แล้วจะกลับมาที่นี่อีกตอนไหนเหรอ” เจ๊ลิชาที่นั่งทำหน้าเศร้าอยู่ปลายเตียงถามฉันน้ำเสียงฟังดูหดหู่หลังจากที่ฉันกลับจากโรงพยาบาลฉันก็ได้คุยเรื่องเฉินฮ่งกับเฮียเทียน เขาเล่าให้ฉันฟังทุกอย่างว่าฉันกับเฉินฮ่งเราเพิ่งหมั้นกันได้หกเดือนก่อนที่ฉันจะมาอยู่ที่นี่และเขาก็ยังบอกอีกว่าที่เฉินฮ่งไม่ได้ออกตามหาฉันเพราะเขาเองก็มีเรื่องต้องทำ แต่ฉันจับผิดสีหน้าพี่ชายตัวเองได้ เหมือนเขากำลังปิดบังอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องที่ฮ่องกง“ไว้มีโอกาสเรานัดเจอกันที่อื่นดีไหมคะ” ฉันเลี่ยงที่จะตอบคำถามเจ๊ลิชาบางทีการออกจากที่นี่ในวันนี้อ
“…” เจอผมด่าหน่อยทำเป็นเงียบปาก“เพราะมึงนั่นแหละ ไอ้ตัวดี” ผมชี้หน้าคาดโทษกรุงโซลสายตาดุกร้าวแม้จะสืบสาวราวเรื่องที่มาของยานรกนั่นได้แล้ว แต่พวกเราเปลี่ยนแปลงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ได้อยู่ดี ผมกับไฉ่หงยังไงเราก็เป็นของกันและกันแล้ว“แล้วมึงจะเอายังไง” เฮียไททันหันไปถามไอ้เทียน“กูบอกมันแล้ว น้องกูว่าไงกูว่าตาม” ไอ้เทียนยืนยันคำเดิมที่เคยบอกผมให้ทุกคนฟัง “กูก็เคลียร์แล้ว” ผมรีบพูดออกไปคล้ายคนร้อนรน“เคลียร์? ไอ้สัส! เมื่อกี้มึงเรียกว่าเคลียร์เหรอวะ!” ไอ้เทียนขึ้นเสียงใส่ผมคำว่า ‘เคลียร์’ ของผมในสายตาไอ้เทียนคงเห็นว่าผมกำลังรังแกน้องมันอืม แต่ก็นะ เมื่อกี้ผมเกือบรังแกไฉ่หงอีกรอบอย่างที่มันคิดนั่นแหละ“เออ นั่นล่ะเรียกเคลียร์ น้องมึงยอมให้กูรับผิดชอบแล้ว”และนั่นคือบทสนทนาที่จบลงของลูกผู้ชายอย่างผม[End part]หลังจากพายุคลั่งของพวกผู้ชายหายไป ในห้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง มอม้ารับหน้าที่พาทิวลิปที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นตามฉันออกไปด้านนอก ทำให้ตอนนี้เหลือเพียงฉันกับแก้มใสสองคน“หงส์ เจ้ขอโทษ” เสียงขอโทษที่ฉันไม่รู้ต้นสายปลายเหตุถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากอมชมพูระเรื่อ“...” ฉันเงียบแต
[Lantian’s part]“พอ แยกๆ” เสียงคมเข้มของไททันดังขึ้น“กูบอกมึงว่ายังไง กูบอกว่ายังไงห๊ะ!” ผมตะคอกหน้าไอ้ยูกิ แม้พวกเพื่อนๆ ของมันจะแยกพวกเราออกจากกันแล้วก็ตามผมว่าจะไม่ระเบิดอารมณ์กับมันแล้วนะ แต่ครั้งนี้ไม่ไหว ใครเห็นผู้ชายคนอื่นกำลังคร่อมร่างน้องสาวตัวเองอยู่จะไม่ของขึ้นได้วะ ครั้งนั้นผมไม่รู้ไม่เห็นเลยดูว่าผมใจเย็นไม่ใส่ใจอะไรใช่ไหม มันถึงได้กล้าหยามหน้าผมแบบนี้“ถุ้ย!” เสียงถ่มน้ำลายของไอ้ยูกิดังขึ้นมันยกมือเช็ดเลือดตรงมุมปากที่ปริ่มออกมาเล็กน้อยออก สองตาคมเข้มของมันยังคงจ้องมองผม ไม่ใช่แววตาเกลียด โกรธ แต่มันมองผมด้วยสายตาธรรมดาๆ เหมือนกับชอบใจที่เห็นผมระเบิดอารมณ์ใส่มันแม่งเป็นมาโซคิสหรือไงวะ สงสัยจะชอบความเจ็บปวด“มึงขัดคำสั่งกู” ผมชี้หน้ายูกิ พร้อมจะกระโจนใส่มันอีกรอบแต่ติดตรงกรุงโซลมันรั้งแขนผมไว้ ส่วนอีกข้างเป็นเอฟวัน“คุยดีๆ สิวะ กัดกันยังกับน้องมึงถูกไอ้ยูกิจับกินงั้นแหละ” เสียงไททันที่อายุเยอะสุดพูดขึ้น ไอ้ห่า! สาบานว่ามึงไม่รู้ ดันมาเสือกพูดถูกจุดมากสัสสงสัยเมื่อกี้พวกมันคงไม่ทันเห็นว่าไอ้ยูกิกำลังคร่อมน้องสาวผมอยู่เพราะผมพรุ่งปรี่เข้าไปกระชากมันลงมาก่อนล่ะมั้ง “กร
เฮือก!สัมผัสกรุ่นร้อนจากริมฝีปากหนากำลังซุกไซ้อยู่ข้างซอกหู ความนุ่มชื้นของปลายลิ้นกำลังลากไล้ดูดดึงผิวเนื้อบริเวณลำคอระหงของฉัน“อ๊ะ! อย่าทำ อื้อ” ทั้งสั่งห้าม ทั้งข่มกลั้นเสียงครางที่น่าเกลียดของตัวเองสองตาเพ่งมองไปยังบานประตูห้องผู้ป่วย กลัวจะมีใครเปิดเข้ามาเห็นฉากที่น่าอายแบบนี้ “อื้อ เธอยังหอมเหมือนเดิม”ยูกิไม่ยอมปล่อยริมฝีปากออกจากลำคอขาวเนียนฉันตอนเอ่ยประโยคนั้น นั่นยิ่งทำให้ฉันเสียวซ่านจากการเสียดสีของริมฝีปากและลมหายใจกรุ่นร้อนที่ออกมาพร้อมคำพูดเขา“ฉันเกลียดคุณ” ข่มกัดฟันบอกเขาออกไปยูกิชะงักการกระทำ แต่ก็แค่ชั่ววินาที จากนั้นเขาก็เริ่มรวบมือทั้งสองข้างฉันไปกุมไว้ที่มือหนาเพียงข้างเดียวของเขา มือที่ว่างก็เริ่มสอดแทรกเข้ามายังชุดผู้ป่วยของโรงพยาบาล“อ๊ะ ไม่” ทั้งเสียงสั่งห้าม ทั้งเสียงน่าอายหลุดรอดจากปากฉันอีกครั้งไม่ได้นะ ฉันไม่อยากให้มันจบลงเหมือนเมื่อคืนอีกแล้ว“หยุดฉันให้ได้สิไฉ่หง เก่งยั่วนักไม่ใช่ ครั้งเดียวเธอไม่นับเองนี่”งั้นสินะ ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว ยูกิต้องการอะไร เขาต้องการให้ฉันบอกให้เขารับผิดชอบฉันสินะไม่มีทาง! ฉันเกลียดเขาแล้ว ความรู้สึกดีๆ ที่เคยมอบให้เขาม
“รีบตื่นขึ้นมาสิ มาปากเก่งด่าฉันอีกสิ ฉันอยากได้ยินเสียงด่าทอของเธอ”ความอุ่นวาบจากฝ่ามือหนาที่กำลังลูบไล้เส้นผมยาวหยักศกด้านหลังฉันช่างขัดกับคำพูดปากดีของยูกกิเสียจริง แต่การกระทำนั้นมันกำลังทำให้ความอ่อนแอเริ่มเล่นงานฉันอีกครั้งกึก พยายามกัดฟันไม่ให้เขาได้ยินเสียงสะอื้นไห้ของตัวเองเมื่อหลายชั่วโมงก่อน หลังจากที่เหตุการณ์เลวร้ายจบลงไปตอนไหนไม่รู้ รู้แค่ตื่นมาอีกทีฉันกำลังนอนอยู่ในห้องของตัวเอง เนื้อตัวที่คาวไปด้วยคราบต่างๆ ก่อนที่จะหมดสติหายไปจากเรือนร่างบนตัวมีเสื้อแขนยาวของฉันเองสวมทับอยู่ บ่งบอกว่ามีคนอุ้มฉันมาที่ห้องเช็ดล้างคาบสกปรกเหล่านั้นและเปลี่ยนชุดนี้ให้ตอนนั้นความรู้สึกมันตีรวนกันไปหมด ทั้งเสียใจ ดีใจ ที่อย่างน้อยคนที่เป็นคนทำร้ายน้ำใจของฉันคือคนๆ เดียวกับที่ดูแลฉันหลังจากทำเรื่องนั้นลงไปแต่จิตใจด้านลบมันมีมากกว่า ฉันเกลียดเขาไปแล้วความตื้นตันใจที่เขาเคยช่วยชีวิตไว้มันหายไปตั้งแต่เขาย่ำยีฉันเมื่อคืน ฉันจะถือซะว่าได้ตอบแทนบุญคุณเขาไปเรียบร้อยแล้ว และต่อจากนี้ไปฉันจะเลือกทางเดินของตัวเองและจะไม่กลับเข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตเขาอีกทางใครทางมัน นั่นคือสิ่งที่ฉันคิดได้ในต