“ทำไม! รังเกรียจพี่ขนาดนั้นเลย เธอไม่คิดถึงพี่หน่อยหรอกรีน พี่เห็นนะที่เธอร้องไห้ กรีนไม่ได้แพ้อะไรทั้งนั้นเรื่องแค่นี้โกหกพี่ไม่ได้หรอก เธอคิดถึงพี่ใช่ไหม..กรีนดูผอมเกินไปจริง ๆ นะ”
View Moreณ เมืองโตเกียว
กรีนนักธุรกิจสาวและยังเป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุน ผู้หญิงแกร่งที่มองหาอิสระในชีวิตเธอจึงทำงานอย่างบ้าคลั่งจนทำให้วันหนึ่งเธอรู้สึกอ่อนล้าทั้งกายและใจจึงบินมาญี่ปุ่นเพื่อทำอะไรตามใจตัวเองสักครั้งโดยไม่แคร์สายตาคนอื่น กรีนนักธุรกิจสาวทั้งยังควบตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการลงทุนเธอมีเป้าหมายในชีวิตคือต้องการอิสระทางด้านการเงินและมีความมั่นคงในชีวิตด้วยเหตุนี้ที่ผ่านมาเธอจึงพยายามตั้งใจเรียนตั้งแต่เด็กและทำงานอย่างบ้าคลั่งมาตลอดจนกระทั่งในที่สุดเธอก็รู้สึกอ่อนล้าไปทั้งกายและใจกรีนตัดสินใจบินมาญี่ปุ่นเพื่อหนีห่างจากสังคมที่เคยอยู่ หวังที่จะทำอะไรตามใจตัวเองเปิดโลกในเรื่องเซ็กส์ครั้งแรกสักครั้งโดยไม่ต้องแคร์สายตาคนอื่น ค่ำคืนนี้เธอนั่งอยู่ที่บาร์ชิว ๆ แห่งหนึ่งในโตเกียว เครื่องดื่มที่เรียงรายหลากหลายยี่ห้อ แสงสีและไฟสลัวพี่ส้มอ่อนสลับสีม่วงสีน้ำเงินไปมาสร้างความโรแมนติกชั้นดีแม้ผู้คนจะมากมายแต่เป้าหมายผู้ชายที่ตรงสเปคของเธอในค่ำคืนนี้ก็ยังคงดูไรวี่แวว “หึ!..นี้สินะชีวิตของฉันเอาไงดีว่ะคืนนี้ สงสัยคงต้องลองซื้อกินจริง ๆ สินะ” เธอพึมพำอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจเดินออกจากบาร์แห่งนี้เพื่อเปลี่ยนเป้าหมายผู้ชายคนใหม่ ตึก ตึก ตึก โอ๊ย! ขณะที่กำลังเดินออกไปจากบาร์เธอเดินปะทะร่างกายแข็งแรงของหนุ่มวัยกลางคน เธอกล่าวขอโทษกับหนุ่มตรงหน้าเป็นเวลาเดียวกันที่สายตาเธอปะทะกับสายตาคมที่มีเสน่ห์ชวนหน้าหลงไหล ความสูงอกแกร่ง หน้าตา บ้าจริง หนุ่มหล่อมองหน้าเธอพร้อมกล่าวขอโทษเธอเองก็ขอโทษเขากลับไปเช่นกันเธอและเขารับรู้ถึงแรงดึงดูดบ้างอย่างระหว่างกัน เขาจึงชวนเธอนั่งต่อที่บาร์เดิม ในเมื่อมีผู้ชายพี่หมายตาชวนเธอขนาดนี้มีหรือว่าเธอจะปฏิเสธเขา “เอ่อ..คุณชื่ออะไรครับ”(ภาษาญี่ปุ่น) หญิงสาวนิ่งไปสักพัได้แต่คิดในใจว่าลืมเรื่องภาษาไปเลย ชายหนุ่มที่เห็นว่าฉันนั่งยิ้มแห้ง ๆ ทำหน้างง ๆ ให้กับเขา เขาจึงสนทนาอีกครั้งเป็นภาษาอังกฤษเธอจึงตอบกลับไปทันที “ชื่อกรีนค่ะ” รอยยิ้มที่สดใสของหญิงสาวทำเอาชายหนุ่มตรงหน้านิ่งไปครู่นึง จากนั้นเธอและเขาก็คุยกันด้วยภาษาอังกฤษซึ่งชายหนุ่มบอกว่าวันนี้เขาโดนเพื่อนของเขาเทมาเลยหาที่มานั่งดื่ม ซึ่งหญิงสาวก็คิดว่าเขาคงไม่ได้มาแค่นั่งดื่มอย่างเดียวหรอกมั่งใครดูก็รู้ เธอได้แต่สงสัยว่าหน้าตาแบบนี้เขาจะมีแฟนหรือเปล่านะ แน่นอนว่าถึงเป้าหมายเธอคือหาชายหนุ่มสักคนที่พร้อมวันไนท์กับเธอแต่เธอก็ไม่ต้องการคนมีเจ้าของ ซึ่งตอนนี้หญิงสาวรู้สึกว่ายิ่งคุยกับชายหนุ่มตรงหน้ายิ่งน่าหลงใหลบวกกับน้ำเมาที่ทั้งสองคนดวลกันไม่ขาดสาย เธอเริ่มรู้สึกว่าเธอเมาได้ที่และเธอก็พร้อมเต็มที่สำหรับค่ำคืนนี้เช่นกัน เธอจึงชวนให้ชายหนุ่มไปต่อในใจเธอก็แอบคิดว่าเขาจะไปด้วยไหมนะ..ใจเธอเริ่มหวั่นไว ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเรียกพนักงานเช็คบิล หญิงสาวที่เห็นแบบนั้นก็รีบควักบัตรเครดิตของตนเพื่อจ่ายค่าเหล้าในคืนนี้ทันที ชายหนุ่มอมยิ้มที่มุมปากพร้อมกับใบหน้าที่นิ่ง ๆ เรียบเฉยและสบตากับเธอผิวขาวเนียน ผมดำสนิทคนนี้พร้อมเอ่ยปากปฏิเสธเธอและเปลี่ยนบัตรเครดิตสีดำพรีเมียร์ใบใหม่ของตนและคืนบัตรของหญิงสาวให้แกเธอ หญิงสาวรับบัตรมาก็เก็บไว้ในกระเป๋าแบบไม่ได้คิดอะไรเพราะตอนนี้ต้องเรียกว่าเธอเมาได้ที่ขั้นสุดเธอที่รู้สึกมึนอึนไปหมด หมับ หลังจากชายหนุ่มรับบัตรเครดิตของตนคืนมาจากบริกร จากนั้นก็ได้คว้าเอวบางของหญิงสาวพร้อมเดินออกจากร้านโดยชายหนุ่มได้เดินไปที่จอดรถวีไอพีและไปเปิดประตูรถคันหรูสีดำของชายหนุ่มให้เธอ เธอเองก็ไม่ได้มีท่าทีปฏิเสธแต่อย่างใด รถคันหรูจอดสนิทที่คอนโดของชายหนุ่มจากนั้นทั้งคู่ขึ้นไปยังห้องพักพร้อมกับความรู้สึกของเธอที่พอเอาเข้าจริงเธอก็รู้สึกกล้า ๆ กลัว ๆ ขึ้นมา “เธอจะมาปอดแหกกับเรื่องแค่นี้ไม่ได้นะกรีน” เธอที่พึมพำบอกกับตัวเองเพราะตอนนี้เธอมีความรู้สึกกล้า ๆ กลัว ๆ ขึ้นมาขึ้นมาในใจ “มีอะไรรึเปล่าครับ” “อ่อ ๆ..เปล่าค่ะ ” เขารู้สึกได้ถึงความผิดปกติของเธอ ในเมื่อเธอปฏิเสธก็ไม่อะไรที่จะกวนใจเข้าได้อีก พอถึงห้องพักชายหนุ่มตรงหน้าไม่รอช้าเริ่มจับเธอพิงกับโซฟาตัวโตที่อยู่ตรงกลางห้อง ทั้งสองคนต่างสบตากันและกัน ภายในใจหญิงสาวเธอรู้สึกว่าเขาหล่อเป็นบ้า จากนั้นมือหนาของเขาเลื่อนมือมาสัมผัสกับใบหน้าของเธอก่อนที่จะเลื่อนมือลงมาจับที่ผมแววตาหื่นกระหายของเขายิ่งทำให้เธอหวั่นใจ เขาเลื่อนมือสัมผัสไล่ระดับเลื่อนปลายมือสัมผัสไปทั่วร่างกายทำเอาเธอสยิวเสียวไปทั่วร่าง ใจเธอเริ่มสั่นไหวมากขึ้นไปเลื่อย ๆ หมับ เธอตัดสินใจใช้สองมือจับใบหน้าเขาขึ้นมา เขาเองก็ดูจะตกใจเล็กน้อยกับท่าทีของเธอ จากนั้นเธอก็รีบพุ่งเข้าจูบอย่างเร้าร้อนลิ้มลองรสชาติของเขาทันที ปลายลิ้นที่พุ่งเข้าหากันอย่างกระหายมันยิ่งสร้างแรงปรารถนาในตัวเขามากกว่าเดิม อื้ม~ จ๊วบ จ๊วบ อ๊าส์..จ๊วบ จ๊วบ รสชาติน้ำเมาทั้งริมฝีปากหนาของเขารสชาติจูบที่ดุเดือนครั้งนี้ต่างไม่มีใครยอมใครและได้ลิ้มลองรสชาติที่แปลกใหม่ใจพวกเขาตต่างก็เต้นรัว ๆ เธอรู้สึกว่าคนสองคนที่เพิ่งรู้จักกันเพียงไม่กี่ชั่วโมงนี่เธอพาตัวเองมาไกลขนาดนี้เลยหราเนี่ย เธอเริ่มเกิดความลังเลและเหมือนกับว่ากำลังทะเลาะกับตัวเองอยู่ จากนั้นมือหนาที่เริ่มเลื่อนมาจับขย่ำเนินอกทั้งยังใช้นิ่วเขี่ยสกิดปลายยอด เขาเริ่มออกแรงใช้มือหนาบีบคั้นหน้าอกและเริ่มออกแรงหนักขึ้นเลื่อย ๆ อ๊าส์..อื้ม..อ๊าส์ ซี๊ดส์…อ๊าส์ แม้แรก ๆ เธอก็แอบเจ็บอยู่บ้างแต่เธอก็รู้สึกดีปะปนสลับกันไป เขาที่ได้ยินเสียงครางของเธอ เขาค่อย ๆ ถอดเสื้อตัวนอกของเธอออกปลายนิ่วของเขาที่ผ่านเฉียดๆกับเนื้อร่างกายของเธอ ยิ่งทำให้เธอมีอารมณ์พลุ่งพล่านเสียวซ่านหนักกว่าเดิม เขาก้มลงบรรจงดูดดื่มลงบนยอดเม็ดบัวทั้งเลียละเลงวนบนปลายยอดทั้งขบเม้นเม็ดบัว อ๊าา..ซี๊ดส์ เสียวจัง..อื้ม เสียงเธอที่เผลอครางออกมาโดยที่ไม่รู้ตัวเองเลยว่าตอนนี้เธอนั้นหลุดลอยไปไกลเพียงใด มือที่ฉันไม่รู้จะเอาไว้ไหน เธอก็เกาะจิกที่โซฟาเอาไว้แน่น ๆ ขาทั้งสองข้างเริ่มเกร็งบิดเบียดกันไปเขาที่เห็นอาการของเธอแบบนั้นจึงกระซิบบอกให้เธอผ่อนคลายขึ้น “ไม่ต้องเกร็งนะครับ” เขาพูดปลอบประโลมเธอก่อจะขบเม้นและเลียที่ติงหูข้างขวาที่ถึงกระซิบเธอไปจากนั้นเขาก็เริ่มซุกไว้ต้นของเธอก่อนจะจูบปากบางเธออีกครั้งอย่างนุ่มนวลและหยอกเย้าอย่างเอาใจ ปลายลิ้นที่ถูกเขาสัมผัสถูกปลายลิ้นเธอบ้างไม่ถูกบ้าง เธอที่มีแรงปรารถนาอยู่แล้วก็พยายามเกี่ยวลิ้นของเขาไว้พอเขาก็ใจที่ได้หยอกเย้าก็กดจูบดูดดื่มอย่างเอาเป็นเอาตาย จ๊วบ จ๊วบ อื้ม..ซี๊ด อ๊าาส์ เขาจับมือเรียวของเธอให้สัมผัสที่หน้าท้องซิกแพคของเขา เธอที่ได้สัมผัสลูบไล้จนพอใจก็ใช้มือคล้องคอของเขาไว้ เมื่อเขาเห็นว่าเธอผ่อนคลายมากขึ้น เขาจึงเริ่มลูบไล้ไปมาที่ต้นขาและจับอ้าขาเธอให้กว้างก่อนที่จะสัมผัสตรงกลางกลีบงามและเนินกระสันของเธอ เธอสดุ้งตัวนิดหน่อยกับมือหนาที่ถูไถไปมา จากนั้นเขาเอามือล้วงเข้าไปในพื้นที่สงวนของเธอ เขาสัมผัสได้ถึงน้ำหวานไหลเป็นทางผ่านนิ่วมือหนาของเขาพอผมเห็นแบบนั้น ผมจับขาสองข้างของเธอให้กว้างมากพอและใช้มือกดเล็กน้อยไว้ไม่ให้เธอหุบขาเข้าหากันก่อนจะโน่มใบหน้าเลียตวัดกลีบยิ่งเพิ่มระดับความเร็วและความถี่เข้าไปที่ติ่งเสียวที่ทำเห็นอาการเธอมากที่สุดเป็นจังหวะรัว ๆ อะ อ้ะ อ๊าา~ เธอที่เสียวก็ครางไม่เป็นภาษาไม่หยุด ไม่นานร่างกายเธอก็กระตุกรัว ๆ บ่งบอกว่าในที่สุดเธอก็เสร็จสม ผมกินน้ำหวานที่ไหลมาเป็นทางได้ครบทุกหยด ก่อนจะขึ้นคร่อมเธอต่อ ก่อนจะโน้มตัวกระซิบเธอด้วยเสียงกระเส่า “พี่ขอนะ” สวบ! ตับ ตับ ตับ จบประโยคนั้นเธอก็พยักหน้างึก ๆ การเริงรักครั้งนี้เธอดูผ่อนคลายและเป็นความรู้สึกที่โหยหากันทั้งคู่ แม้จะมีบ้างครั้งที่เกร็ง ๆ อยู่บ้าง แต่สำหรับผมนั้นต้องบอกว่าติดใจในรสชาติบนตัวเธอเข้าแล้วจริงๆ ผมเริ่มเร่งจังหวะกระแทกทั้งถี่ ๆ ทั้งช้า ๆ เพื่อต้องการไม่ให้ตัวเองถึงที่หมายเร็วเกินไป ผมจับขาอีกข้างให้ซีกและยกมาพาดเอวผมไว้ข้างหนึ่งและกระแทกเธอต่อ ผมที่เสียวมากเช่นกันก็ได้แต่เงยหน้ามองเพดานก่อนจะหันหน้าไปบอกเธอด้วยเสียงกระเส่า “ เสียวมากเลยค่ะ กรีนช่วยครางชื่อพี่ได้ไหมกรีน” “พิ..พี่ไทกะกรีนขอลึกกว่านี้
ไทกะ กรีนเธอพาผมเดินอยู่หลายชั้นพอสมควร ผมสังเกตเห็นเธอเดินช้าลง เท้าเธอก็เริ่มแดงผิดปกติ เธอหันมายิ้มให้ผมก่อนทำหน้าตาละห้อย “พี่ว่าเท้ากรีนน่าจะเจ็บเท้านะ” “นิดหน่อยค่ะ น่าจะเดินเยอะไป เอางี้ดีกว่าเราไปซื้อร้องเท้าผ้าใบเปลี่ยนหน่อยน่าจะโอเคนะคะ” ผมพยักหน้าพร้อมมองหาร้านรองเท้าผ้าใบให้หลังจากเจอร้านผมก็พาเธอเข้าร้าน พนักร้านแนะนำและเลือกร้องเท้าให้เธอ เมื่อผมเห็นเท้าของเธอ ผมค่อนข้างตกใจว่าเธอทนเจ็บขนาดนั้นได้ยังไง หลังจากเลือกเสร็จพนักงานเอ่ยถาม “คุณผู้ชายรับด้วยไหมคะ คู่สองมีโปรโมชั่น ลด50% นะคะเป็นรองเท้าคู่รักด้วยนะคะรุ่นนี้ลิมิเต็ดสุด ๆ ค่ะ” พนักส่งสายตาให้ผมเพื่อที่เธอต้องการจะขายร้องเท้าให้ผม ผมกำลังจะปฏิเสธเธอไปแต่.. “ได้ค่ะ พี่ไทกะไซต์อะไรคะ? “รับนะคะ ถือเป็นของขวัญแทนคำขอบคุณ” ผมกำลังปฏิเสธเธอไป เธอกลับยิ้มสดใสพร้อมสายตาออดอ้อนผม..ทำขนาดนี้ใครจะกล้าปฏิเสธ ผมแจ้งไซต์พนักงานไปสักพักพนักงานหยิบรองเท้าคู่นั้นมาให้ผม “คุณผู้ชายจะรับกลับหรือจะใส่เลยคู่คุณผู้หญิงดีคะ?” “เดะผมใส่เลยครับ” เธอหันมาสบตา
“ไม่ร้อง ๆ ไม่ต้องร้องแล้วนะคะเด็กดี กูพาเธอไปพักก่อนนะ ราเมงก็กินเสร็จแล้วด้วย น่าจะไม่งอแงเท่าไรแล้ว” ไอ้ซา: เอ่อ ๆ พากลับเหอะว่ะ น่าจะเต็มกราฟสุดกว่านี้ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว อุ..อ้วกก~ เธอวิ่งเซ่เพื่อจะไปอ้วก พร้อมทั้งจะร้องไห้ ผมได้แต่แต่ลูบหลังให้เธอ หลังจากอ้วกเสร็จผมก็อุ้มเธอและพากลับห้องทันที จากนั้นก็ถอดรองเท้าและป้อนยาแก้เมาค้างให้ก่อนจะจัดการตัวเองให้เสร็จก่อนแล้วนอนข้าง ๆ เธอ วันนี้เธอเมาจนแทบไม่ได้สติทำให้ผมต้องอดมีอะไรไปด้วยเพราะจะให้ผมเอาตอนนี้ก็ดูจะไม่สมควรเท่าไร ช่วงเช้าวันถัดมา กรีน ฉันตื่นมาด้วยอาการปวดหัวอยู่ไม่น้อยเมื่อคืนฉันน่าจะดื่มหนักไปหน่อย อืมมม~~ จู่ ๆ พี่ไทกะก็เดินมาจูบริมฝีบางฉันเบา ๆ “อรุณสวัสค่ะ” “หนูยังไม่ได้ล้างหน้าแปรงฟันเลยนะคะ” ฉันทำหน้ามุ้ยใส่พี่เขา พี่เขากับทำหน้าระรื่นยิ้มอย่างอารมณ์ดี “ไม่เห็นเป็นไรเลย ยังไงพี่ก็รักกรีนนะคะ หิวรึยังให้พี่เอาอาหารมาให้ที่ห้องไหม” ฉันว่าเขาจะเล่นสมบทบาทเกินไปแล้วนะ เขาจะรู้บ้างไหม..ว่ามันทำให้คน ๆ นี้หวั่นไหวมาก หัวใจเริ่มเป็นของเ
“อากาศข้างนอกเย็นกรีนใส่เสื้อตัวหนาๆหน่อยนะ” “ค่ะ ทราบแล้วค่ะ” ผมยิ้มพร้อมส่ายหน้าเบา ๆ เธอจึงเลือกเสื้อผ้าที่ค่อนข้างจะแต่งตัวมิดชิดซึ่งผมก็มองว่ามันก็ดีแล้ว “พี่ไทกะทำรอยเยอะไปแล้วนะคะ ครีมก็จะหมดแล้วปิดไม่หมดแล้วเนี่ย แบบนี้ต้องโดนพี่ม่อนต้องล้อกรีนแน่ ๆ เยอะจนหนูปกปิดไม่หมดแล้วเนี่ย..หิวก็หิว” “ใครจะกล้าล้อ เดี๋ยวพี่จัดการเอง ไปเหอะไม่เป็นไรหรอกคะ” เธอหน้ามุ่ยเหมือนแอบงอน ๆ ก่อนจะเดินไปที่ริมสระน้ำที่พวกเพื่อนผมมันตั้งวงเปลี่ยนบรรยากาศไว้มารอดื่มชิว ๆ ให้แล้ว ไอ้ม่อน: อ้าวอยู่บ้านพักหรอ กูนึกว่ามึงไปข้างนอกเลยไม่ได้ไปตามนะ ไอ้ม่อน: สาวน้อยกินอะไรมาหรือยัง มา ๆ กินเหล้า เห้ย! กินข้าวกัน เธอยิ้มอย่างเขิน ๆ ก่อนที่ผมจะให้เธอนั่งลงข้าง ๆ ผม จากนั้นผมก็ตักอาหารให้เธอทันทีเพราะรู้ว่าตอนนี้เธอหิวมาก ๆ ไอ้เลย์: กูว่าน่าจะกินมาแล้วนะ..แต่กูหมายถึงไอ้ไทนะ ดูจากอาการไอ้คุณแฟนอารมณ์ดีหน้าบาน ส่วนสาวน้อยไอ้ม่อนก็หิวโซเชียว คุณแฟนมึงก็ให้น้องมันกินข้าวกินปลาหน่อยสิว่ะ หักโหมไปมันไม่ดีนะเว้ย ครืดด!! โอ้ย..ไอ้ห่าเดี๋ยวกูก็ตกน้ำหรอก แค่หยอ
“อ่อ..วันนี้ว่าจะพักอยู่ที่บ้านดีกว่าค่ะ กรีนนเห็นว่าพี่ ๆ มีงานกันไม่ใช่หรอคะ ขออยู่ที่บ้านดีกว่าค่ะ” ฉันหันหน้าไปสบตาพี่ไทกะก่อนจะยิ้มให้พี่เขาไป พี่ไทกะเองทก็ส่งสายตาหวาน ๆ ตอบฉันกลับทำเอาทุกคนออกอาการหมั่นไส้พวกเราขึ้นมาบ้าง พี่ม่อน: สาวน้อยยิ้มแบบนี้อีกแล้ว ตาย ๆ ไอ้ไทกะมันจะคลั่งรักเธอไปมากกว่านี้ไม่ได้นะสาวน้อย..ฮ่า ฮ่า พี่กันต์:ฉันกับไอยูไปรอที่ห้องประชุมก่อนนะ พวกแกค่อยตามมาแล้วกัน ขณะที่ทุกคนหัวเหราะขำขัน พี่กันต์นี้ก็แอบช็อตฟิวส์ทุกคนเบา ๆ เหมือนกันนะเนี่ย ทุกคนพยักหน้ารับทราบมีเพียงพี่ไทกะที่นั่งนิ่ง และมองหน้าฉันที่กินข้าวต่อ พี่ไทกะ: ไม่อยากไปไหนจริง ๆ หรอ พี่พาไปได้นะ “วันนี้กรีนขอพักก่อนดีกว่าค่ะ รู้สึกเพลีย ๆ แต่ก่อนจะบินกลับไทยกรีนขอรบกวนพี่ไทกะพาไปซื้อของฝากให้ลูกน้องหน่อยนะคะ” พี่ไทกะ: ได้สิคะ พี่เขาส่งรอยยิ้มและเอื้อมมือมาทัดผมให้ฉันเพราะกลัวว่าผมจะไปบังหน้าฉันและตกไปในชามข้าว พี่ไวท์: เหม็นความรักว่ะ! กูไปรอห้องประชุมนะ พี่ม่อนและพี่เลย์ก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย พี่เลย์: กูก็ว่าอย่างงั้น
ไอ้ไวท์:มึงก็เลยจับลินมานี้แทนอ่านะ ไอ้ซา: ไอ้สัส!..ไม่ได้จับเว้ย แค่พามาตั้งหลักก่อน “แล้วมันเกี่ยวอะไรกันกับมึงว่ะกูงง..โอ้ยยย” ผมที่พูดตรง ๆ ด้วยความสงสัย กรีนเธอหยิกแขนผมแรงพอสมควรก่อนจะทำหน้าดุซึ่งผมก็ลืมตัวไปว่าน้องลินก็อยู่ ไอ้ซา: กูคือกรรมการและผู้ถือหุ้นในบริษัทลินด้วย เกี่ยวยังไอ้ไท! กรีน: เราก็ต้องมีหลักฐานพอสมควรเหมือนกันนะคะ ยิ่งมีหน่วยงานรัฐโทษก็จะหนักกว่าบริษัทเอกชนกับเอกชน พูดตรง ๆ นะคะ กรีนไม่รับงานคนรู้จักเท่าไรค่ะ ถ้าเป็นเรื่องพวกมีความผิดอาญา..แต่กรีนเป็นที่ปรึกษาให้ได้ แต่ถ้าอยากได้จริงๆก็พอมีทาง เดี๋ยวกรีนแนะนำบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือให้นะคะ ผมหันไปกระซิบกับเธอทันทีที่อาสาช่วยพวกผม “ไม่สะดวกใจไม่ต้องรับก็ได้นะ” เธอยิ้มให้ผมบางๆ พร้อมพยักหน้าเบา ๆ กรีน:กรีนเต็มใจค่ะ ไอ้ซา: ได้ ๆ รายละเอียดพี่จะส่งให้เราอีกทีนะ เอกสารบางอย่างต้องใช้เวลาหน่อยนะ กรีน: ได้ค่ะ..เรื่องธรรมดา ไอ้เลย์: กูว่าเท่าที่ฟังแม่งแปลก ๆ นะ มึงเล่าหมดยังพวกมึงคิดเหมือนกูไหม ไอ้ซา: อืมใช่ แม่เลี้ยงลินเสน
Comments