รถหรูคันงามที่ใครๆ ต่างใฝ่ฝัน แล่นฝ่าความมืดมิดไปอย่างรวดเร็ว
วาววาเกาะที่นั่งแน่น จ้องมองเข็มไมล์ที่ทะยานขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความหวาดกลัว ความเร็วที่เกินร้อยยี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้หัวใจของเธอเต้นระรัวราวกับจะทะลุออกมาจากอก
บรืนนน!! บรืนนนน!!!
“ขับช้าลงหน่อยได้ไหมมมม!!?” วาววาร้องลั่นรถ
“กลัวอะไร ไม่ตายหรอก”
“คุณสิไม่ตาย แต่ฉันเป็นมนุษย์!”
เชนทร์หัวเราะในลำคอเบาๆ ยิ่งเห็นแววตาตื่นตกใจของวาววา ยิ่งกระตุ้นความสนุกให้เขา ฝ่าเท้าเหยียบเร่งความเร็วรถขึ้นอีกเล็กน้อย ราวกับต้องการยั่วเย้าให้เธอหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น
“ฉันอยากรู้ ตอนอันนานั่งในรถนี่ขับเร็วแบบนี้ไหม!!!?” เธอบ่นและยังคงจับจ้องไปข้างหน้าไม่คลาดสายตา
“ไม่นะ...เพราะอันนาคือคนพิเศษของผม” เชนทร์ตอบกลับด้วยรอยยิ้มอันลึกลับ
“แล้วนายเห็นฉันเป็นอะไร!?”
“เป็นคนขี้โวยวาย”
บรืนนนน!!!!
เสียงเครื่องยนต์คำรามดังกึกก้องไปทั่ว เมื่อเชนทร์เหยียบคันเร่งสุดแรง วาววาผวาจนตัวแข็ง มือทั้งสองกำแน่นที่เบาะรถ
“กรี๊ด!! จะฆ่ากันเหรอไง!!!”
...
..
เสียงล้อรถเสียดสีพื้นดังเอี๊ยด ขณะที่รถหรูค่อยๆ จอดนิ่งลงตรงหน้าสถานที่ที่วาววาได้กล่าวถึง
บรรยากาศยามราตรีที่ปกคลุมไปด้วยความมืดมิดยิ่งตอกย้ำความลึกลับน่าค้นหา ร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีดำก้าวลงจากรถ สายตาคมกริบกวาดมองไปยังพื้นที่ที่เคยเป็นร้านคาเฟ่เก่าที่ตอนนี้ป้ายประกาศขายใด้ถูกนำออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
วาววาในชุดเดรสเมอร์เมดสีแดงเปิดประตูรถออก มือของเธอเกาะขอบประตูรถแน่น ปลายเท้าแตะพื้นอย่างระมัดระวัง เธอพยายามหายใจเข้าลึกๆ เพื่อให้ใจสงบลง แต่ความรู้สึกหวาดกลัวจากการที่เชนทร์ขับรถเร็วปานสายฟ้าแลบเมื่อครู่ยังคงตามหลอกหลอนเธอไม่เลิก
“ฉันบอกคุณแล้วไงว่าที่นี่มีคนซื้อไปแล้ว”
เสียงใสกล่าวขึ้น แต่เหมือนเชนทร์จะไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย เขาหยิบมือถือขึ้นมาจ่อถ่ายรูปสถานที่ ปลายนิ้วกดจิ้มที่จอมือถือสองสามที ก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหูโทรคุยกับใครบางคน
“ผมส่งภาพกับโลเคชั่นไปให้แล้ว...อยู่รามสอง จัดการให้ผมด้วยครับ”
ติ๊ด!
วาววาส่งสายตามองเขาอย่างไม่เข้าใจ
“ผมขอยืมไอแพดของคุณไว้ก่อนได้ไหม?” เชนทร์หันมาถามวาววาที่ตอนนี้มีแต่ความสงสัยผ่านแววตาของเธอออกมา
“ได้ ยังไงซะตอนนั้นฉันคิดว่ามันจะพังเลยซื้อเครื่องใหม่ใช้แทนแล้วล่ะ ในเครื่องเก่านั่นก็แค่ไฟล์นิยายที่ตัวหนังสือมันกลายเป็นต่างด้าวจนอ่านไม่รู้เรื่องไปแล้ว”
“ขอบคุณนะ”
“ว่าแต่...นายจะทำอะไรในเมื่อที่ตรงนี้มีคนซื้อไปแล้ว?”
“ผมให้คนติดต่อซื้อที่นี่ในราคาสูงกว่าห้าเท่า”
รอยยิ้มมุมปากของเชนทร์เผยให้เห็นถึงความพึงพอใจในตัวเอง เงินทองที่มากมายมหาศาลทำให้เขาสามารถครอบครองทุกสิ่งที่ปรารถนาได้ราวกับเสกมันมา
“นี่สินะ...คลั่งรักของจริง” วาววาพึมพำ
เวลาล่วงเลยไปจนเกือบตีสาม เชนทร์ขับรถหรูมาจอดเทียบหน้าบ้านหลังใหญ่ของวาววาอย่างเงียบเชียบ บ้านที่เคยครึกครื้นเพราะเสียงหัวเราะของครอบครัว ตอนนี้กลับเงียบสงัด
วีวี่ที่แต่งงานแล้วจึงย้ายไปอยู่กับสามีของเธอ ซึ่งเป็นทายาทของธนาคารชื่อดังแห่งหนึ่งในประเทศไทย โดยพ่อแม่ของเธอกับเขาเป็นคนแนะนำให้รู้จักกัน
วาววาที่เหนื่อยล้ามาทั้งวัน ใบหน้าของเธอตอนนี้ซบลงกับเบาะหนังสีดำในรถ ดวงตาปิดสนิทราวกับเด็กน้อยหลับใหล ปากเล็กขยับเบาๆ เหมือนกำลังฝันดี เชนทร์สัมผัสได้ว่าเธอคงเสียพลังงานกับวันนี้ไปมาก
วาววาในตอนนี้ราวกับภาพซ้ำในความฝัน เขาคิดพลางเบือนหน้าหนี ความรู้สึกคุ้นเคยผุดขึ้นมาเมื่อนึกถึงครั้งที่ขับรถไปส่งอันนาที่บ้านขณะที่ตอนนั้นอันนากำลังหลับปุ๋ย เพราะความเหนื่อยล้าจากการทำงานหนัก
สายตาคมกริบหันกลับมามองด้านหน้ารถอีกครั้ง ก่อนจะเหยียบคันเร่งและเบรกกะทันหันจนรถสะบัด! หญิงสาวที่กำลังฝันหวานสะดุ้งโหยง ตกใจตื่นตัวแข็งทื่อ
“กรี๊ด! อะไรกัน!!!”
“ถึงบ้านคุณแล้ว”
วาววาสลึมสลือเพ่งมองรอบๆบริเวณ เมื่อเห็นประตูรั้วบ้านที่คุ้นเคย สติก็เริ่มกลับมา
“แล้วเมื่อกี้จะเหยียบเบรกเพื่อ!!!”
“เพื่อคุณ...โดยเฉพาะ” ริมฝีปากหนายกขึ้นเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
ดวงตากลมโตจ้องมองเจ้าแวมไพร์พระเอกในนิยายของเธอด้วยสายตาราวกับจะขยุ้มหัวเขาให้สาแก่ใจ
“ขับรถเร็วแบบนี้ หนีกระทิงรึไง!” ฝ่ามือเล็กเปิดประตูรถลงจากรถก่อนจะโผล่หน้ามาบอกลาเขาทิ้งท้าย “ขอบคุณที่มาส่งนะ ขอให้เจออันนาโดยเร็วแล้วก็ไม่ต้องมาเจอฉันอีก! บาย!!!”
ปัง!
ร่างอรชรในชุดเมอเมดสีแดงหางปลาก้าวเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว เธอไม่ลืมที่จะหันมามองบุคคลที่อุตส่าห์ขับรถมาส่งเธอ ฉีกยิ้มส่งท้ายด้วยการแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ก่อนจะสะบัดตัวเดินจากไป ปล่อยให้ใบหน้าแวมไพร์ที่จ้องมองเธอเดินไปไกลจนสุดสายตาเผยรอยยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวกับท่าทีแสบสันของเธอ
คฤหาสน์หลังงามมูลค่าร้อยล้านหลังนี้ดูราวกับหลุดมาจากเทพนิยาย เชนทร์ก้าวออกมาจากประตูบ้านกว้าง สัมภาระของเขาถูกคนขับรถนำไปเก็บไว้บนรถที่จอดรออยู่ด้านนอก พร้อมสำหรับการเดินทางในวันนี้ในจังหวะเดียวกัน เสียงฝีเท้าของใครบางคนกำลังเดินเข้ามาใกล้ เขาหันไปมอง เห็นอันนาเดินเข้ามาพอดี เธอยิ้มทักทายเล็กน้อย“สวัสดีค่ะคุณเชนทร์”“สวัสดีครับ”อันนาเฝ้ามองคนขับรถที่กำลังวุ่นวายอยู่กับสัมภาระของเชนทร์ อยู่ที่ท้ายรถ“คุณเชนทร์กำลังจะออกไปข้างนอกเหรอคะ?”“ครับ”“ขนของไปเยอะแบบนี้ สงสัยไปค่อนข้างนานเลยใช่ไหมคะ?” อันนาถามด้วยความสุภาพ“น่าจะประมาณสองสามอาทิตย์ครับ”ความรู้สึกเสียดายฉายชัดในแววตาของเธอ เมื่อนึกถึงวันที่ไม่ได้เจอเขาบ่อยเหมือนเคย“อ่อ คุณเชนทร์คะ... พอดีฉันทำขนมมาฝากหนูใบบัว" อันนากล่าวพร้อมยื่นถุงขนมมาใ
วาววาในฐานะผู้บริหารการตลาดกำลังเตรียมตัวสำหรับการประชุมสำคัญที่กำลังจะมาถึง แต่ในใจกลับว้าวุ่นไม่หาย เหตุการณ์ในวันที่เธอได้พบกับหญิงสาวคนนั้นที่มีลักษณะภายนอกตรงกับอันนาในนิยายที่เธอเขียนทุกประการยังคงวนเวียนอยู่ในหัวแม้ว่าเธอจะเป็นผู้บริหารที่แข็งแกร่ง แต่ความรู้สึกกังวลที่เกิดขึ้นในใจตอนนี้กลับทำให้เธอรู้สึกอ่อนแอแสงแดดยามสายสาดส่องลงบนใบหน้าคมสันของเชนทร์ ขณะที่เขานั่งอยู่ในสวน ในมือถือถ้วยกาแฟไว้ ดวงตาคู่สีน้ำตาลอ่อนธรรมชาติมองขึ้นไปยังท้องฟ้าสีคราม ก่อนจะยกถ้วยกาแฟขึ้นมาจิบช้าๆเสียงฝีเท้าเบาๆดังขึ้นมาจากประตูทางเข้าบ้าน เขาหันไปมองด้วยความสงสัยเล็กน้อย หญิงสาวร่างโปร่งสวมเดรสเรียบง่ายก้าวเข้ามา สายตาของทั้งคู่ปะทะกันเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่เธอจะก้มศีรษะลงเล็กน้อย ยิ้มอย่างสุภาพเพื่อกล่าวทักทายเชนทร์ยิ้มตอบกลับคุณครูอันนา ความรู้สึกคุ้นเคยมันคืบคลานเข้ามาในใจ ทำให้เขาต้องหยุดคิดทบทวนตัวเอง หรือจะเป็นเพราะในอดีตที่เขาหมกมุ่นอยู่กับการตามหาอันนาที่มีเชื้อสายลูกครึ่งและเป็นบรรณารักษ์เป็น
วันพักร้อนที่วาววาวางแผนไว้ว่าจะใช้เวลาพักผ่อนอย่างสบายๆ กลับต้องเริ่มต้นด้วยการวิ่งรอกเข้าออฟฟิศเพื่อจัดการงานด่วนด่วนที่เข้ามาแม้ว่าเธอจะอยากจะขี้เกียจอยู่บนเตียงนุ่มๆ แต่ความรับผิดชอบก็ผลักดันให้เธอต้องลุกขึ้นมาทำงานจนเสร็จสิ้น ก่อนจะขับรถตามโลเคชั่นที่เชนทร์ส่งให้เธอมา“ฉันมาถึงแล้วนะ”ทันทีที่วาววาจอดรถถึงจุดหมายก็กดโทรศัพท์หาเชนทร์เพื่อแจ้งให้เขาทราบ ไม่นานนัก ประตูรั้วก็ค่อยๆ เลื่อนเปิดออกอัตโนมัติ เผยให้เห็นสวนสวยที่ร่มรื่นและน้ำพุกลางวงเวียนที่พ่นละอองน้ำระยิบระยับ สวนดอกไม้หลากสีสันเบ่งบานสะพรั่งต้อนรับเธอเข้าสู่บ้านหลังใหญ่รถที่ขับโดยวาววาจอดนิ่งสนิท เธอค่อยๆ ก้าวลงจากรถและเงยหน้ามองขึ้นไปยังตัวบ้าน ร่างสูงสง่าของเชนทร์เดินลงมาจากบันไดอย่างช้าๆ ด้านข้างมีแม่บ้านหนึ่งคนในชุดกระโปรงสีฟ้ายืนคอยต้อนรับวาววาเงยหน้ามองบ้านหลังใหญ่นี้ที่เคยปรากฏในจินตนาการของเธอผ่านนิยายที่เธอเขียน ความหรูหราอลังการของทุกตารางนิ้วทำให้เธออ้าปากค้างไปเลยทีเดียว
ยามค่ำคืนแสนสงบ แสงดาวระยิบระยับแข่งกันบนผืนฟ้าสีดำสนิท มีเพียงเสียงคลื่นที่ซัดเข้าฝั่งเป็นจังหวะทำให้ค่ำคืนนี้ดูอบอุ่นใบหน้าหล่อเหลาสไตล์ตะวันตกยิ้มอย่างมีความสุขที่ได้ฉลองวันเกิดโดยผู้หญิงคนที่เขารักคนนี้เป็นคนจัดการและดูแลทุกอย่างจนทำให้ในค่ำคืนนี้ดูสมบูรณ์แบบที่สุดดินเนอร์ริมทะเลเต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติก วาววายิ้มร่า ขณะเดินเข้าที่พักไปหยิบเค้ก แต่ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกถึงฝ่ามืออบอุ่นโอบรอบเอวเบาๆ เมื่อหันไปสบตาเชนทร์ หัวใจก็เต้นรัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก“ขอบคุณสำหรับวันนี้นะครับ ผมมีความสุขที่สุดเลย” เขาโน้มตัวลงหอมแก้มเธอพร้อมกับกระซิบขอบคุณเบาๆที่ข้างหู“ฉันดีใจนะที่คุณชอบ” วาววาตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มที่สดใส “ปะ...ไปกินเค้กกัน ร้านนี้อร่อยนะฉันชิมแล้ว”“อร่อยจริงเหรอ?” เขาถามในขณะที่ยังไม่คลายกอดจากเธอ “ขอลองชิมหน่อยสิ”วาววาหยิบช้อนเล็กขึ้นมาเตรียมจะตักเค้กให้เขา แต่ก็ถูกร่างสูงจู่โจมกอดเธอจากด
“ผมถึงแล้วนะ”เชนทร์ก้าวลงจากรถคันหรูที่เพิ่งมาส่งเขา ทันทีที่เท้าสัมผัสพื้นรีสอร์ท เขาก็รีบโทรบอกวาววา สายตามองไปยังตัวอาคารที่เงียบสงบ ด้านในยังคงมืดมิดราวกับไม่มีใครอยู่คนขับรถของเขานำกระเป๋าใบเล็กวางให้เขาที่หน้าประตูทางเข้ารีสอร์ทนี้ ก้มหัวให้เล็กน้อยก่อนจะขับรถออกไป ทิ้งให้เชนทร์ยืนอยู่คนเดียวในความมืด“เดินเข้าไปรอด้านในได้เลย อีกไม่นานฉันก็จะถึงแล้วเหมือนกัน” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนใบหน้าสวยของวาววาขณะที่โกหกเขาไปอย่างหน้าตาเฉย เพราะแท้จริงแล้วเธอแอบอยู่ด้านใน แทบจะอดใจไม่ไหวที่จะเห็นสีหน้าของเขาเมื่อพบกับเซอร์ไพรส์ที่เตรียมไว้เชนทร์ผลักประตูเข้าไปในห้องที่มืดสนิท ทันใดนั้น เสียงเพลง Happy Birthday ก็ดังขึ้นจากความมืด
หลังจากทุ่มเททำงานหนักมาตลอดช่วงที่พ่อแม่ของผู้บริหารสาวไฟแรงอย่างวาววาไปทริปต่างประเทศ ในที่สุดวันนี้ท่านเจ้าของศูนย์การค้าก็กลับมาทำงานเสียทีวาววาลาพักร้อน และแทบทนรอไม่ไหวที่จะได้ตื่นสายๆ นอนขดตัวอยู่บนเตียง แล้วลืมเรื่องงานไปสักพัก..สายลมทะเลพัดโชยมาปะทะใบหน้าของวาววา ทำให้เธอรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที อันที่จริงเธอวางแผนพักร้อนเพราะรู้ว่าใกล้จะถึงวันสำคัญอย่างวันเกิดของเชนทร์เลยอยากที่จะเซอร์ไพรส์เขาหลังจากใช้เวลาตัดสินใจอยู่นาน ในที่สุดวาววาก็เลือกที่พักริมทะเลแห่งนี้ ด้วยคำแนะนำของมิเกลเพื่อนรักวาววาและมิเกลยืนคุยกันอย่างสนุกสนานริมชายหาด พลางยืนมองเหล่าพนักงานที่กำลังเตรียมงานอย่างขะมักเขม้นด้วยความตื่นเต้น และเธอหวังว่าทุกอย่างจะออกมาสมบูรณ์แบบ“เตรียมขนาดนี้ฉันนึกว่าแกจะขอคุณราเชนทร์แต่งงาน” มิเกลแซวหยอก“วันเกิดก็พอค่ะเพื่อน!” วาววาหัวเราะเบาๆ “ยังไงก็ขอบใจแกนะ ที่พักสวยมากเลย แถมยังลดราคาให้เหลือครึ่งเดียวอีก