คนทำผิดก็ต้องถูกทำโทษ...แต่บอสคะได้โปรดใจเย็น ๆ ********************************************************* คนตัวเล็กสั่นไปทั้งตัวเมื่อรู้ตัวว่าโดนจับได้และความผิดในครั้งนี้มันคือการถูกไล่ออกทั้งคู่ “ฉันขอโทษ ฉันเป็นคนขอทำงานนี้เองเพราะอยากได้เงิน คุณอย่าไล่พี่ยุพาออกนะไล่ฉันคนเดียวพอ” หญิงสาวพยายามยกมือไหว้ทั้งที่ไหล่ทั้งสองข้างยังถูกบีบไว้แน่น “ถ้าทุกคนที่ทำผิดพูดว่าขอโทษแล้วทุกอย่างจบ ป่านนี้คุกคงไม่มีใครอยู่ ฉันไม่คิดเลยว่ายุพาจะกลายเป็นคนแบบนี้ พรุ่งนี้ฉันจะไล่เธอกับยุพาออก”
더 보기ตอนที่ 1
แทบละลายเพราะสายตาบอส
“พนักงานคนใหม่ชื่ออะไร”
ภูเบศลูกชายท่านประธานบริษัทถามถึงหญิงสาวที่เขาเพิ่งเจอตอนที่มาถึงที่ทำงานในตอนเช้ากับหัวหน้าฝ่ายบัญชีด้วยอาการแสดงออกถึงความสนใจเป็นพิเศษ
“คนไหนคะ”
ยุพาถามตามซื่อเพราะเดือนนี้ที่แผนกของเธอมีพนักงานใหม่ถึงสองคน
“ก็คนนั้น เอ่อ...คนที่ตัวเล็ก ๆ อวบหน่อยๆ”
คนถามทำสีหน้าหงุดหงิดเมื่อรู้สึกว่าไม่อยากเจาะจงชัดเจนว่าคนที่เขากำลังถามถึงมีลักษณะอย่างไร
“ล้านนา ยุพาว่าคนที่คุณภูเบศหมายถึงน่าจะเป็นล้านนาค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”
ลูกน้องสาวถามออกไปเพราะกลัวว่าพนักงงานใหม่จะทำอะไรให้เจ้านายเธอไม่พอใจหรือเปล่าแต่เมื่อมองสบตาคนตรงหน้า ยุพาก็รีบพาตัวเองออกจากห้องท่านรองประธานทันที
“ไม่รู้ใครเป็นเจ้านายใครเป็นลูกน้องกันแน่”
ภูเบศบ่นพึมพำมือเท้าเอวส่ายหัวไปมาในความช่างซักไซ้ของลูกน้องคนสนิท
ภาพของหญิงสาวในชุดพนักงานของบริษัทที่ดูเข้ารูปทำให้เห็นหุ่นอันอวบอิ่มได้อย่างชัดเจนยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเจ้านายหนุ่มที่สุดแสนจะเจ้าชู้เป็นตัวพ่อของสังคมนักธุรกิจวัยหนุ่มไม่ยอมออกไปจากความนึกคิดเสียที
ล้านหน้าเป็นพนักงานใหม่ของที่นี่ เธอเข้ามาทำงานได้เพียงแค่สามวันเท่านั้นและยังอยู่ในช่วงทดลองงานจึงทำให้ภูเบศไม่มีโอกาสได้เจอกับเธอจนเมื่อเช้าทั้งคู่ขึ้นลิฟท์มาด้วยกันจึงทำให้เจ้านายสุดหล่อมีโอกาสได้เห็นหน้าพนักงานสาวคนใหม่เป็นครั้งแรก
“ผู้หญิงอะไรหุ่นกับท่าทางสวนทางกันจริง ๆ ”
ชายหนุ่มนั่งคิดถึงท่าทางของพนักงานใหม่ที่ดูเรียบร้อย ขี้อายเมื่อต้องอยู่กับผู้ชายในลิฟท์สองต่อสองแต่รูปร่างที่ได้ส่วนเว้าส่วนโค้ง อกอวบที่ดูใหญ่กว่าตัว ใบหน้าเล็กรูปไข่ ปากอวบอิ่มดูแล้วน่าจูบยิ่งนักทำให้ภูเบศถึงกลับรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนไปหมดตามปกติของพ่อเสือหนุ่มที่เห็นเหยื่อแล้วอยากจะลากเอามากินเสียให้ได้
ความเจ้าชู้ของภูเบศเป็นที่รู้กันของพนักงานแต่ถึงเขาจะเจ้าชู้แค่ไหนก็ยังไม่เคยมีพนักงานของที่นี่คนไหนได้กินพ่อคาสโนว่าตัวพ่อสักคน
“เธอไปทำอะไรให้คุณภูเบศไม่พอใจมาหรือเปล่า”
ยุพาเดินออกจากห้องเจ้านายก็รีบเดินมุ่งหน้ามาหาลูกน้องคนใหม่ทันที
“ไม่นะคะ หนูยังไม่เคยเจอท่านเลยค่ะ”
หญิงสาวส่ายหัวปฎิเสธตั้งแต่มาทำงานที่นี่เธอยังไม่มีโอกาสได้เจอท่านรองประธานเพราะตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงานเธอก็มีหน้าที่แค่นั่งหน้าคอมพิวเตอร์คอยทำเอกสารให้ยุพาเท่านั้น
“ไม่เคยเจอแต่ทำไมนะคุณภูเบศถึงพูดถึงลักษณะเธอได้ถูกทุกอย่างแต่ก็ช่างเถอะ! เอาเป็นว่าถ้าได้เจอก็ทำตัวดี ๆ เพราะตอนนี้เธอยังไม่ผ่านช่วงทดลองงาน คุณภูเบศเวลาโมโหขึ้นมาไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น พนักงานที่นี่ต่างพากันกลัว บทเวลาจะใจดีก็ดีจนใจหายแต่พอเวลาร้ายขึ้นมาก็ไม่เอาใครเหมือนกัน”
ล้านนาได้ฟังแล้วเริ่มรู้สึกกลัวเจ้านายของเธอขึ้นมาทันทีเพราะตอนนี้หน้าตาของเขาเป็นอย่างไรเธอยังไม่เคยรู้กลัวว่าจะเผลอไปทำไม่ถูกใจเข้า
เวลาของมื้อกลางวันพนักงานส่วนใหญ่ก็จะกินอาหารที่ร้านอาหารของตึกเพราะมีให้เลือกหลายอย่างราคาถูกอีกทั้งไม่ต้องเดินออกไปตากแดด
“เธอรู้จักคุณภูเบศไหม เราอยากเห็นหน้าจัง”
ล้านนาตัดสินใจถามเพื่อนพนักงานที่มาทำงานที่นี่ก่อนเธอได้เกือบเดือน เธอหวังว่าบางทีส้มโออาจจะมีหนทางทำให้เธอได้เห็นหน้าเจ้านายผู้น่ากลัวของยุพาได้บ้าง
“รู้จักสิ หล่อมากหล่อมาย หล่อจนไม่น่าจะมาเป็นนักธุรกิจน่าจะไปเป็นนายแบบมากกว่า”
ส้มโอชมไปกดโทรศัพท์หารูปให้เพื่อนด้วยท่าทางยิ้มเล็กยิ้มน้อยเหมือนกำลังมีความสุขที่ได้พูดถึงคนในภาพที่เธอส่งให้เพื่อนได้ดู
“เฮ้ย!”
ล้านนาถึงกับตกใจเมื่อรู้ว่าผู้ชายที่เธอขึ้นลิฟท์มาด้วยเมื่อเช้าคือเจ้านายของเธอเองแต่ทำไมเขาถึงไม่ลงชั้นเดียวกับเธอนะ
“ตกใจอะไร” ส้มโอถามอย่างยากรู้
“ไม่มีอะไรแค่เชื่อเธอแล้วว่าหล่อจริง”
ความกลัวเริ่มทำให้ล้านนากินข้าวไม่อร่อยเธอพยายามคิดว่าตอนอยู่ในลิฟท์เธอได้ทำอะไรให้เจ้านายโมโหไหมเขาถึงได้ถามถึงเธอกับยุพา
สิ่งที่หญิงสาวกลัวที่สุดคือการไม่มีงานทำเพราะแม่ของเธอต้องใช้เงินในการรักษาตัวด้วยอาการป่วยเรื้อรังต่อเดือนเป็นเงินหลายบาท พ่อของเธอก็ไม่ค่อยแข็งแรงทำงานไม่ได้ทำได้แค่ช่วยเธอดูแลแม่และขับรถพาแม่ไปโรงพยาบาลเท่านั้น ล้านนาจึงทำทุกอย่างที่จะได้เงินเพื่อไปรักษาและดูแลพ่อกับแม่ให้ดีที่สุด
เช้าวันนี้ล้านนามาถึงที่ทำงานเป็นคนแรกเหมือนทุกวันเพราะเธอชอบที่จะได้มานั่งเล่นที่บริษัทมากกว่าการอยู่ที่ห้องเช่าแคบ ๆ และสุดแสนจะร้อนอบอ้าวแบบนั้น
“มาแต่เช้าเลยนะ”
เสียงทุ้มฟังดูมีความน่ายำเกรงดังมาจากด้านหลังทำเอาหญิงสาวที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่เพลิน ๆ เพียงคนเดียวถึงกลับสะดุ้งด้วยความตกใจ
“เอ่อ...ค่ะ คุณภูเบศมีอะไรให้ฉันรับใช้คะ”
คนพูดเสียงตะกุกตะกักติดขัดเมื่อเห็นว่าเจ้าของเสียงคือเจ้านายที่เธอเพิ่งถูกเขาถามหาเมื่อวาน
“เสียงสั่นอะไรแบบนั้น ฉันดูดุจนเธอถึงกลับต้องพูดติดขัดเลยใช่ไหม”
ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำเนคไทสีแดงสองมือล้วงกระเป๋ามองหญิงสาวที่กำลังทำท่ากลัวเขาจนสั่นไปหมดด้วยสายตาที่หวานและดูเจ้าเล่ห์จนล้านนาไม่กล้าแม้แต่จะสบตาตอบ
“เปล่าค่ะ ฉันแค่ตกใจ”
“ชงกาแฟให้ฉันหน่อยเอารสแบบที่เธอชอบ ฉันดื่มฝีมือยุพาจนเบื่อแล้วอยากกินรสชาติใหม่ดูบ้าง”
ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่คล้ายกับนายแบบฝรั่งเดินกลับเข้าไปในห้องทำงานแล้ว หญิงสาวมองนาฬิกาอีกตั้งเกือบชั่วโมงกว่าที่พนักงานคนอื่น ๆ จะมาทำงาน ล้านนาไม่อยากเข้าไปอยู่กับเจ้านายแบบสองต่อสองในห้องทำงานเพราะสายตาที่เขามองเธอเมื่อครู่มันทำให้ล้านนารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะละลายอย่างบอกไม่ถูก
“รสชาติถูกใจ ชงกาแฟยังทำได้ถูกใจทำอย่างอื่นก็คงถูกใจแน่นอน”
ภูเบศพูดหยอดเพราะอยากรู้ว่าหญิงสาวตรงหน้าจะเล่นด้วยกับเขาไหมเพราะถ้าเธอพร้อมจะสนองเขาจะได้ไม่ต้องพูดอะไรมาก
“ฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”
พนักงานใหม่ลนลานกระสับกระส่ายเมื่อเจอคำพูดเจ้าชู้ เธอไม่อยากอยู่ในห้องนี้อีกแล้ว
“นั่งลง ฉันอยากรู้จักเธอให้มากกว่านี้แล้วก็ไม่ต้องปฎิเสธเพราะมันก็คือส่วนหนึ่งของงาน”
คนตัวเล็กไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาทำให้ตัวเธอเองสามารถออกจากห้องนี้ไปได้โดยที่ไม่ต้องผิดใจกับเจ้านาย
“เรียนจบที่ไหนมา บ้านอยู่ที่ไหนแล้วมีแฟนหรือยัง”
คำถามทำสุดท้ายทำเอาหญิงสาวชาวเหนือถึงกลับต้องเงยหน้าขึ้นมาสบตากับท่านรองประธานด้วยความแปลกใจที่คำถามแบบนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานจริง ๆ ใช่ไหม
“ไม่ต้องมามองหน้าเป็นคำถามแบบนี้ที่ฉันต้องถามเธอว่ามีแฟนหรือยังเพราะบางทีที่นี่เราก็มีงานหรือต้องไปสังสรรค์กันบ้างในช่วงหลังเลิกงานก็เลยต้องถามไว้ก่อนเดี๋ยวเธอจะมีปัญหากับแฟน”
“ไม่ค่ะ ฉันยังไม่มี”
หญิงสาวผู้กลัวการตกงานเป็นที่สุดรีบตอบแบบไม่สงสัยทันทีเพราะเธอกลัวว่าถ้าขืนเธอทำตัวมีข้อแม้มาก ๆ เธออาจจะไม่ผ่านช่วงทดลองงานก็ได้
ภูเบศได้คำตอบที่เขาอยากได้แล้ว คำถามต่อ ๆ ไปก็เป็นแค่เพียงข้ออ้างในการหาเรื่องคุยก็เท่านั้น
นาฬิกาบอกเวลาให้ชายหนุ่มรู้ว่าใกล้เวลาที่พนักงานคนอื่นจะมาถึง เขาจึงอนุญาตให้หญิงสาวตรงหน้ากลับไปทำงานได้เพราะไม่อยากให้พนักงานมาเห็นว่าเขาเรียกพนักงานใหม่เข้ามาคุยในห้องเป็นการส่วนตัว
ตอนที่ 12บอสใหม่ของโรงแรม วันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงเด็กน้อยคลอดออกมาเป็นหลานชายที่แสนจะตัวใหญ่มาก ทั้งที่แม่ก็ตัวนิดเดียว หน้าตาน่าชังบอกไม่ถูกเลยว่าเหมือนพ่อหรือแม่มากกว่ากัน ปู่กับตาก็เถียงว่าเหมือนตัวเอง หลานชายคนแรกพากันตื่นเต้นทั้งสองบ้าน “ต้องเลี้ยงบ้านนี้นะ บ้านผมไม่เคยมีลูกชายไว้คนต่อไปโตจะให้บ้านปู่ย่าเอาไปช่วยเลี้ยง” อนุสรณ์เขาอยากมีลูกชายแต่แม่ของใบหยกชอบที่จะมีลูกคนเดียวมากกว่า พอมีหลานชายแบบนี้อนุสรณ์ก็แสดงความหวงทันที “คนแรกเพิ่งคลอด วางแผนแบ่งคนที่สองกันแล้ว เดี๋ยวคอยดูคนอยากเลี้ยงวิ่งตามหลานไม่ทันห้ามโยนมานะ ทางนี้จะรอคนที่สองเด็กผู้หญิงเลี้ยงง่ายกว่าแน่ ๆ เพราะตอนตาภูวิ่งตามกันแทบ ไม่ทันไปโรงพยาบาลเกือบทุกเดือนต้องมีแตกมีหักเพราะความซน”
ตอนที่ 11ของขวัญที่ล้ำค่า เย็นนี้ใบหยกกลับบ้านด้วยท่าทีที่ดูเงียบเหมือนเธอกำลังรู้สึกอะไรบางอย่างที่ทั้งอนุสรณ์และภูษิตต่างไม่เข้าใจ มื้อเย็นบรรยากาศมีเพียงแค่เสียงพูดคุยของพ่อตากับลูกเขยส่วนลูกสาวเอาแต่นั่งเงียบและกินได้น้อยมาก “เป็นอะไรหรือเปล่าลูก ทำไมดูหน้าไม่ดีเลย เครียดเรื่องที่โรงแรมอะไรไหม มีอะไรให้พ่อกับภูช่วยก็บอก” อนุสรณ์ลึก ๆ ก็คิดว่าไม่ใช่เรื่องงานแต่ก็ไม่กล้าถามตามที่คิดจึงเลี่ยงถามเรื่องงานที่โรงแรมน่าจะดีกว่า “ไม่ค่ะพ่อ หยกแค่เบื่อ ๆ อาหารและช่วงนี้รู้สึกเหมือนอยากจะนอนอย่างเดียว หยกขอตัวไปอาบน้ำแล้วเข้านอนก่อนนะคะ” ใบหยกเดินขึ้นไปบนห้องแล้วก็เหลือแต่พ่อตากับ
ตอนที่ 10 ความจริง อนุสรณ์แอบดูความสัมพันธ์ของลูกสาวกับลูกเขยอยู่ห่าง ๆ เขาเริ่มสังเกตได้ว่าใบหยกไม่มีความไว้ใจให้สามีแต่เขาก็ยังติดที่สัญญากับภูษิตไว้แล้ว แต่ครั้นจะไม่พูดเลยก็กลัวว่าครอบของทั้งคู่จะไปไม่ถึงสุดทาง “ใบหยกมาคุยกับพ่อหน่อย” วันนี้หญิงสาวไม่ไปทำงานเพราะเธออาเจียรแต่เช้าและช่วงนี้รู้สึกอ่อนเพลียตลอด “ไม่สบายหรือท้อง” คนเป็นพ่อไม่อ้อมค้อมเพราะอาการแบบนี้แม่ของใบหยกก็เป็น ทำไมคนอาบน้ำร้อนมาก่อนจะดูไม่ออก “หยกท้องค่ะคุณพ่อ”คนท้องไม่มีประโยชน์อะไรที่จะโกหก หญิงสาวจึงพูดความเป็นจริง“แล้
ตอนที่ 9 พยายาม หุ้นทั้งหมดที่ภูษิตสัญญาไว้ว่าจะให้กับภรรยาเขาตัดสินใจที่จะทำทุกอย่างก่อนที่จะถึงวันเกิดของเธอ “ขอบคุณมากนะคะ ที่พี่ทำตามสัญญา ไว้หยกจะมีของขวัญให้พี่เหมือนกันเอาไว้ค่อยรู้พร้อมของขวัญวันเกิดที่พี่จะให้หยกก็แล้วกัน” วันนี้ภูษิตไม่ได้ไปที่โรงแรมของภรรยา เขาไปโรงแรมของเขา ชายหนุ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้กับรัชพลฟังถึงการที่ภรรยาของเขาเปลี่ยนไป “ภูจะเกี่ยวกับวันนั้นไหม ที่เดียร์มาหานายที่นี่ พนักงานที่ร้านอาหารเล่าให้ฟังว่าเมียนายเดินมานั่งโต๊ะด้านหลังนายและทำท่าไม่ให้พนักงานทักเธอ พนักงานคนนั้นก็เลยไม่สบายใจมาบอกเรา แต่เราไม่เห็นนายมีปัญหาอะไรกับใบหยกเลยไม่ได้เล่าให้ฟัง” ภูษิตพย
ตอนที่ 8เอาคืน ภูษิตแทบจะบินกลับบ้านด้วยความคิดถึงภรรยาและ อดแปลกใจไม่ได้ที่ใบหยกทำไมไม่บอกกับเขาว่าเธอจะกลับมาแถมตอนนี้ยังไม่ยอมรับโทรศัพท์อีก “คุณพ่อครับทำไมใบหยกกลับก่อนกำหนดไม่บอกผมเลย ทั้งที่รู้ว่าผมก็รออยู่” ภูษิตถามพ่อตาแต่เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ เพราะถามเสร็จเขาก็วิ่งขึ้นไปที่ห้องนอนที่อยู่ชั้นสองทันที ใบหยกกำลังยืนเก็บเสื้อผ้าและของฝากต่าง ๆ ที่เธอซื้อมาอยู่ “คิดถึงจังเลย ผมโทรศัพท์หาคุณ คุณก็ไม่รับรู้ไหมว่าผมทั้งคิดถึงทั้งเป็นห่วงเลย” ชายหนุ่มโอบกอดภรรยาทั้งหอมแก้มหอมหน้าผากและกลับมายืนกอดแน่นเหมือนเดิ
ตอนที่ 7รู้ใจตัวเอง คืนที่สามของการไม่อยู่ของภรรยาทำให้ชายหนุ่มนอนทบทวนทุกเรื่องที่เกิดจากที่คิดว่าตัวเองแต่งงานกับหญิงสาว เพียงเพราะต้องการล้วงความลับและทำเพื่อผลประดยชน์ของโรงแรมตัวเอง แต่ตอนนี่เขาแน่ใจแล้วว่าเขาหลงรักเธอตั้งแต่แรกเพียงแต่การหาผลประโยชน์จากเธอมันเป็นผลพลอยได้เท่านั้น ภูษิตเริ่มรู้สึกแล้วว่าตัวเองกำลังคิดผิด ผลประโยชน์เหล่านั้นไม่มีค่าเท่ากับความรักที่ใบหยกมีให้เขาและไม่มีคุณค่าเท่ากับความไว้ใจที่พ่อตามอบให้เขาเข้าไปดูแลโรงแรม ชายหนุ่มตัดสินใจว่าเย็นนี้เขาจะพูดความจริงทุกเรื่อง ให้อนุสรณ์ฟังและของให้พ่อตาให้อภัยเขา ช่วงเวลาอาหารมื้อเย็นเมื่อภูษิตเห็นว่าพ่อตากิ
ตอนที่ 6รู้สึกผิด “พี่ภูกลับมาแล้ว วันนี้หยกทำกับข้าวเย็นเลยนะคะ คุณพ่อก็ไม่ยอมกินก่อนบอกว่าจะรอพี่ภู อยากกินข้าวพร้อมหน้ากัน” ภูษิตกำลังคิดจะขอหย่ากับภรรยาในขณะที่ครอบครัวของเธอดีกับเขาทุกอย่าง “คุณพ่อครับ คุณแม่ผมฝากน้ำพริกมาให้พอดีวันนี้ผมแวะไปที่บ้านมา” ชายหนุ่มส่งถุงใส่กล่องน้ำพริกให้พ่อตาก่อนที่อนุสรณ์จะส่งให้ลูกสาวเอาไปจัดจาน เมื่ออยู่กันสองคนอนุสรณ์จึงมีบางอย่างอยากพูดกับลูกเขยโดยที่ไม่อยากให้ลูกสาวได้ยิน “ภูตอนนี้ที่โรงแรมมีปัญหามาก พ่อก็เว้นปล่อยให้ใบหยกเธอดูแลมานาน ถ้าจะเข้าไปตอนนี้ก็ลังเธอจะรู้สึกว่าพ่อไม่ไว้วางใจ เอาเป็นว่าพ่อจะบอกหยกว่าพ่
ตอนที่ 5ทุกอย่างสำเร็จ ใบหยกขายหุ้นให้กับสามีในราคาที่ถูกมากและแน่นอน เธอไม่กล้าที่จะเล่าเรื่องนี้ให้ผู้เป็นพ่อฟังเพราะเธอคิดว่าพ่อคงไม่เห็นด้วย แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อเธอไม่อยากมีปัญหากับสามี ตอนนี้รัชพลจัดการเรื่องการแสดงจนครบทุกอย่าง เมนูอาหารในช่วงชมการแสดงก็เป็นเมนูที่มากกว่าของทางนู้นแถมราคาถูกกว่า ลูกค้าฝรั่งเริ่มออกปากชมจนภูษิตเองก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังชนะโดยที่เขาลืมไปเลยว่าการชนะครั้งนี้คือการชนะภรรยาที่รักเขามากถึงได้ยอมเขาทุกอย่างแบบนี้ “พอเถอะเพื่อน เรื่องที่จะหาเกี่ยวกับผลประโยชน์ที่ให้บริษัททัวร์ นายก็ตัดสินใจมาเลย ตอนนี้ภาพนายในสายตา
ตอนที่ 4เข้าทางพ่อตา อนุสรณ์ไม่อยู่หลายวันลูกเขยที่จ้องล้วงข้อมูลก็สามารถเก็บไปได้มากแต่ยังไม่ได้ที่สำคัญและเขาคิดว่าจะต้องหารทางเข้าไปที่ห้องทำงานของพ่อตาให้ได้ ในเมื่อเขารู้แล้ว ว่าแฟ้มรายละเอียดอยู่ตรงไหน แผนแรกที่ภูษิตทำคือการให้รัชพลไปติดต่อชาวพื้นเมืองเพื่องจองคิวล่วงหน้าและให้ค่าจ้างในราคาที่แพงกว่าโรงแรมของ ใบหยกให้ซึ่งก็สำเร็จเพราะโรงแรมของใบหยกทำแค่สัญญาต่อเดือน ทางภูษิตจึงทำสัญญาสามเดือนเลย “มีการแสดงจากแค่ห้าที่ แบบนี้ไม่ได้นะ นายต้องไปหามาเพิ่มถ้ามีแค่นี้ คนที่เขามาพักนานอย่างพวกฝรั่งเบื่อตายเลย เพราะคืนหนึ่งก็ใช้การแสดงจากสองที่แล้ว” ร
댓글