“มึงเห็นป้ายนั่นมั้ย”
นิ้วยาวชี้ตรงไปยันป้ายที่ตั้งไว้หน้าร้านดอกไม้โดยไม่สนใจรอยว่าจะยืนงงกับอะไรนักหนา ชายลูกน้องเองก็มองตามนิ้วของเจ้านายด้วยความว่าง่าย ก่อนจะค่อยๆ พยักหน้าตอบงงๆ "เห็นครับ " "ไปจดเบอร์ติดต่อมา " จบคำสั่ง เซบาสเตียนเดินไปขึ้นรถคันหรูพร้อมถือดอกไม้ในมือไปด้วยอย่างระมัดระวัง ปล่อยให้ลูกน้องยืนประมวลผลอยู่สักระยะ ก่อนจะเปิดกระจกรถตะโกนออกมาสั่งเสียงดัง “เร็วๆ ดิ๊!” “ครับๆ!” เสียงตะโกนของเจ้านายเรียกสติรอยกลับมาในชั่วขณะ รีบวิ่งไปจดเบอร์ติดต่อที่เขียนไว้บนป้ายให้ตามความต้องการของเซบาสเตียนด้วยความงุนงงที่ยังไม่เลือนหาย เมื่อเสร็จสมตามนั้นก็รีบวิ่งกลับมาขึ้นรถฝั่งคนขับ รอยเริ่มขับเครื่อนรถหรูออกไป “เป็นไงบ้าง หนี้วันนี้ที่กูใช้ให้มึงไปทวง” ในขณะที่รถกำลังแล่นไปตามทาง เซบาสเตียนที่นั่งพักสายตาพิงเบาะรถด้านหลังก็เอ่ยถามขึ้นมา “ระดับผม จะพลาดหรอครับ " “ดี” เขาพอใจกับคำตอบของรอยมาก เพราะลูกน้องคนนี้ไม่เคยทำงานพลาดในเรื่องแบบนี้ แม้เรื่องอื่นอาจจะดูโง่ไปบ้าง ทว่ารอยก็ยังเป็นลูกน้องคนสนิทในหลายๆ ด้าน เซบาสเตียนลืมตาขึ้น สายตากวาดมองช่อดอกไม้ที่อยู่บนตักพรางยิ้มบางๆ ออกมา “มึงขับเร็วๆ ดิ๊ เดี๋ยวดอกไม้กูเหี่ยวพอดี” เขาลุ่มหลงในเจ้าของของมัน พอๆ กัยบดอกไม้ช่อนี้ ครั้งแรกที่เพิ่งเคยเห็นหญิงสาวที่สง่าดึงดูดสายตาเขาได้มากถึงขนาดนี้ รอยรีบเร่งขับตามคำสั่งของเจ้านาย ไม่นายรถคันหรูก็ขับแล่นเข้ามาภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ เซบาสเตียนรีบก้าวเท้าลงรถไป ก่อนจะมุ่งเข้าไปในบ้านหลังมหึมาพร้อมช่อดอกไม้ในมือ ป้าแม่บ้านที่กำลังยืนเช็ดโต๊ะอยู่ในบ้าน เมื่อเห็นนายน้อยอารมณ์ดีเดินเข้ามาก็รีบเอ่ยทัก ดั่งว่ารู้ใจผู้เป็นนายว่าเขากำลังต้องการอะไร “อ้าวคุณชาย ให้ป้าเอาดอกไม้ไปใส่แจกันให้มั้ยคะ " "ฝากหน่อยนะครับ ใส่แล้วเอาไปไว้ที่ห้องผมทีนะครับ " “ได้ค่ะ” ป้าแม่บ้านพยักหน้ายิ้ม ก่อนจะเดินมาหยิบดอกไม้ไปจัดให้ตามที่นายต้องการ ในขณะที่เซบาสเตียนยืนยิ้มสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เมื่อในหัวเต็มไปด้วยภาพใบหน้าสระสวยของวิเวียน . . เช้าวันต่อมา... ตึก ตึก ตึก! รอย เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่ก้าวลงบันไดสูงมา ก็หันหน้าไปมองตามที่มาของเสียง ก่อนจะขมวดคิ้วเข้มมองดูผู้เป็นนายด้วยความประหลาดใจ เอ่ยถามขึ้นพร้อมแสดงสีหน้างุนงง " อ้าวบอส ทำไมวันนี้ตื่นแต่เช้าล่ะครับ ยังไม่ถึงเวลาเข้าบริษัทนะครับ " " ไปร้านดอกไม้เมื่อวาน " เซบาสเตียนไม่ตอบคำถามที่คาใจลูกน้อง ซํ้ายังเอ่ยสั่งชายตรงหน้าเสียงเรียบ เมื่อทั้งคืนเขาเอาแต่นอนคิดถึงหญิงในดวงใจ หากวันนี้ไม่ได้ไปเจอคงนอนไม่หลับเป็นแน่ "ครับ?" สิ่งที่คาใจยังไม่ถูกคลี่คลาย ผู้เป็นนายก็ถาถมเรื่องที่ต้องให้สับสนเข้ามาในหัวตนซํ้าอีก รอยขมวดคิ้วจนแทบผูกกันเป็นโบว์ มองหน้าเจ้านายด้วยแววตาไม่เข้าใจ ตั้งแต่ที่กลับจากร้านดอกไม้เมื่อวาน รอยก็ได้งงกับการกระทำแปลกประหลาดของเจ้านายไปแล้วร้อยรอบ “เร็วๆ กูไม่ชอบคนชักช้า” สิ้นสุดคำกล่าว ขายาวรีบก้าวไปยันรถคันหรูหน้าตาเฉย รอยที่ยืนงงก็ทำได้แต่รีบสาวเท้าเดินตามหลังผู้เป็นนาย ภายในรถที่เงียบสนิทกำลังแล่นอยู่กลางถนน ก่อนจะมีเสียงชายผู้ขับรถกล่าวขึ้นพรางเหล่ตามองกระจกหลัง “บอสไม่ทานมือเช้าหรอครับ” “ไม่ กูจะไปหาคุณวิเวียน” “คุณวิเวียน?” รอยเลิกคิ้วสงสัยขึ้นมาอีกครา ทำให้เซบาสเตียนเริ่มหงุดหงิด “มึงไม่ต้องอยากรู้ไปสะทุกเรื่องได้ป่ะ เป็นพ่อกูรึไง” “พ่อบอสสั่งให้ผมตามดูบอสครับ” “ยอกย้อนหรอ” สายตาคมนิ่งจ้องมองเข้าไปในบานกระจกหลัง รอยที่เผลอสบตาเข้าใส่ต้องรีบหลีกหลบสายตาที่ดุยิ่งกว่าเสือนั่นพร้อมยิ้มแหยๆ “ผมไม่กล้าหรอกครับ แฮะๆ" “ก็ดี ขับเร็วๆด้วย อีกห้านาทีให้ถึง” “ครับ? อีกห้านาที??” ชายลูกน้องใจแทบหล่น ปลายทางที่กำลังมุ่งไปไม่ใช่ไกล้ๆ แต่บอสผู้เอาแต่ใจก็สั่งดั่งกับว่าอยู่หน้าปากซอย พอสั่งเสร็จสิ้นก็หลับตาพิงเบาะรถไม่สนใจรอยผู้กำลังใจหายวับ อะไรจะไปสนใจคุณวิเวียนนั่นขนาดนั้น สงสัยต้องรายงานนายใหญ่! สายตาจ้องมองทาง ในขณะที่มือสองข้างคุมพวงมาลัยรถ แต่ทว่าในใจกลับคิดทรยศนายตนเอง เวลาผ่านไปเก้านาที รถคันหรูก็แล่นเข้ามาจอดหน้าร้าน เซบาสเตียนลืมตาขึ้นก่อนจะยกมือขึ้นมามองนาฬิกาเรือนหรูบนข้อมือ “มึงช้าไปสี่นาที หักเงินเดือนสี่พัน” “โห่ บอส!!” เซบาสเตียนไม่สนใจเสียงโวยวายของลูกน้อง เท้ายาวก้าวลงรถก่อนจะกวาดตามองไปยันหน้าร้านแต่ทว่าสิ่งที่เห็นก็ทำเอาคิ้วเข้มขมวดเข้ากัน “ยังไม่เปิด?” “เฮ้อ..รีบแทบตาย " รอยพึมพำเสียงเบาพอได้ยินแค่ตนเอง ในใจอยากจะบ่นเจ้านายให้หูชากันไปข้าง แต่ต้องระงับอารมณ์เอาไว้เมื่อเพิ่งจะถูกตัดเงินเดือนไปไม่ถึงห้านาที "เอาบุหรี่กูมาดิ๊ " เซบาสเตียนกล่าวพร้อมยื่นมือไปทางลูกน้องผู้รู้ใจ ไม่ถึงนาทีสิ่งที่เขากล่าวสั่งก็ถูกวางอยู่ในมือ ฟุ่ว~~ ควันบุหรี่กระจัดกระจายไปทั่ว คนร่างโปร่งที่น่าหลงไหลยืนพิงรถหรู สูบบุหรี่ในท่าทางสง่าจนสาวสวยรอบๆ ไม่สามารถเดินผ่านโดยไม่หันมองไม่ได้ ตึก ตึก ตึก ไม่นานเสียงฝีเท้าส้นสูงที่ก้าวเข้ามาใกล้ก็ดังขึ้น นำพาเซบาสเตียนหันมองตาม ก็ต้องรีบขว้างบุหรี่ทิ้งอย่างไวมือ เมื่อหญิงสาวตรงหน้าคือวิเวียน “เฉียดหน้าผมไปนิดเดียวเองครับบอส..” รอยรีบชักสีหน้ายิ้มประชดออกมาพร้อมคำบ่นมูมมาม เมื่อแท่งบุหรี่ที่เจ้านายโยนมานั้นเฉียดหน้าเขาไปเพียงน้อยนิด แต่ทว่าเซบาสเตียนกลับไม่สน เมื่อหันมองอีกทีเจ้านายก็ได้ก้าวขาไปยืนอยู่ตรงหน้าวิเวียนเสียแล้วกรี๊ดดดดด!! “ที่รัก..ฮึกก อดทนอีกนิดนะครับทูลหัว” “เบ่งอีกนิดเดียวนะคะคุณแม่” “ฮึกกก อร๊ายยย!” ภายในห้องคลอดที่บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวายและเสียงกรี๊ดร้องของคนบนเตียง ผู้เป็นสามีเองมองดูภรรยาแล้วเจ็บปวดหัวใจเหลือเกิน หากเป็นไปได้เขาอยากจะเป็นคนที่นอนอยู่บนเตียงนั้นด้วยซํ้า มือหนาคอยเช็ดเหงื่อจับมือและคอยลูบหัวทุยให้กำลังใจเธออยู่ไกล้ๆไม่ยอมห่าง เพียงเห็นความทรมานของเธอเขาไม่คิดอยากจะมีลูกอีกเลยด้วยซํ้า กรี๊ดดดด! อุแว้ อุแว้! เสียงกรี๊ดเฮือกสุดท้ายดังขึ้นก่อนจะดับลงและมีเสียงเด็กน้อยดังก้องขึ้นเรียกรอยยิ้มของคนทั้งห้องรวมถึงคนที่คอยรอลุ้นอยู่หน้าห้องก็ตาม “เก่งมากเลยที่รัก… เก่งมากครับ…“ มือหนายังคงคอยลูบหัวทุยเบาๆไม่หยุด ก้มหน้าจุ๊บเหม่งเธอเบาๆก่อนผู้เป็นแม่จะหมดสติไปทั้งรอยยิ้มและคราบนํ้าตาที่เปียกชุ่มสองพวงแก้ม . . . . . ”หลานรักของปู่~” “เจ้าจิ๋วของลุงงง” “เจ้าจิ๋วของหนูต่างหาก!” เสียงเกรี้ยวกราดถกเถียงกันดังแว่วเข้ามาในหูคนที่หลับไหลอยู่บนเตียง ก่อนเปลือกตาที่หนักอื้อจะค่อยๆลืมขึ้นมองภาพตรงหน้า ซึ่งเต็มไปด้วยรอยยิ้มของทั้งป๊า ซาร่าและโอท
“ที่รักตื่นพอดีเลย มาครับ ผมพาไปล้างหน้า” เซบาสเตียนเมื่อเดินเข้ามาในห้องก็กล่าวประโยคพาคนเพิ่งตื่นมึนงงอยู่บนเตียง ”วิทำเองได้ค่ะ ก็แค่ล้างหน้าเอง ทำไมต้องพาไป“ “ไม่ได้สิครับ เกิดที่รักลื่นแล้วคงตัวไม่อยู่ทำยังไง ให้ผมเฝ้าดีกว่า” ไม่พูดเปล่า เขารีบเดินแจ้นเข้ามาสอดมือเข้าไต้ขาเธอก่อนจะอุ้มพาเข้าห้องนํ้า จนคนที่ยังมึนๆจากการตื่นปฏิเสธไม่ทัน “เสร็จแล้วไปกินข้าวนะครับ ผมทำกับข้าวไว้เยอะเลย ผมไปเสริจกูเกิ้ลมาแล้วเค้าบอกว่าแต่ละอย่างดีต่อคนท้องมากๆ พอกินข้าวเสร็จแล้วเราไปฝากครรภ์กันนะครับ” วิเวียนที่ยืนแปรงฟันได้แต่ตั้งหูฟังเขาที่ยืนรออยู่ด้านหลังไปด้วย เขายืนรอเธออยู่แบบนั้นไม่ไปไหนจนเสร็จธุระแล้วลงมากินข้าว บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารอ่อนๆสารพัดที่เตรียมไว้เพื่อเธอโดยเฉพาะ จนวิเวียนต้องเงยหน้าถาม “แล้วคุณไม่กินหรอคะ” “ผมยังไม่หิวหรอก ที่รักกินให้อิ่มๆนะครับ เดี๋ยวผมกินต่อจากที่รักก็ได้” วิเวียนเงียบ ก้มหน้าตักข้าวเข้าปาก เพราะขืนมองหน้าแพรวพราวเขาต่อคงได้กลับไปเขินเหมือนตอนจีบกันแรกๆเป็นแน่ “ที่รักค่อยๆกินนะครับ เคี้ยวให้ละเอียดๆ“ เขาเหมือนพ่อที่คอยดูแลลูกสาวห้าขว
“ทำไมยังไม่กลับ…” คนรอก็ลุกรอนั่งรอยืนรอเดินรอวนอยู่แบบนั้นทั้งวันจนฟ้าเริ่มมืดก็ยิ่งใจคอไม่ดีเมื่อภรรยายังไม่ยอมกลับมาสักที หากจะไปตามก็กลัวเธอจะโกรธยิ่งกว่าเก่า แกร๊ก… เสียงประตูเปิดเหมือนหัวใจที่กระวนกระวายเมื่อครู่เลือนหายทันทีที่เห็นหน้าวิเวียน เซบาสเตียนรีบอมยิ้มแป้นเดินแจ้นเข้าไปรับคนที่เดินเข้ามา “ที่รัก“ ”เอ่อ… ที่รักเหนื่อยมั้ยครับ มานั่งก่อน“ รอยยิ้มดีใจกลายเป็นยิ้มเจื่อนทันทีเมื่อเห็นสายตานิ่งเรียบที่มองมาไม่เปลี่ยนสักที ”เดี๋ยวผมไปเอานํ้ามาให้นะ ที่รักนั่งรอก่อนนะครับ“ พูดแล้วรีบเดินแจ้นเข้าไปเอานํ้าในครัวดั่งว่ารีบร้อนกลัวเมียคอแห้งยังไงอย่างนั้น ส่วนวิเวียนนั้นได้แต่มองตามเงียบๆ เธอหนักใจอยู่ใช่เล่นกับสิ่งที่ตัดสินใจกำลังจะทำ ไม่ใช่เพื่อแก้แค้นหรือยังโกรธ แต่เพียงเพราะอยากจะมั่นใจเท่านั้น… “นํ้าครับ” แก้วนํ้าใสถูกยื่นให้กับคนบนโซฟา หญิงสาวรับมันมาอย่างว่าง่ายทว่าแทนที่เธอจะดื่มสักหน่อย กลับวางมันลงบนโต๊ะ คนมองก็เกิดน้อยใจก้มหน้างุดพร้อมรอยยิ้มที่หายไป “ฉันยังไม่หิวน่ะ” แต่พอได้ยินเสียงหวานของเธอเท่านั้นแหละ รีบเงยหน้ากลับมามองภรรยาตัวน้อยพร้อ
(สำหรับเมนูอาหารนี้นะคะ เราจะมาเริ่มจากการต้มนํ้าให้เดือดก่อน…) เสียงคริปทำอาหารในยูทูปดังแว่วออกมาจากโทรศัพท์มือถือของเซบาสเตียนที่ยืนตั้งหน้าตั้งตาทำตามอยู่ในครัว เป็นเวลาสามวันที่เขาหาข้ออ้างสารพัดมาต่อรองกับภรรยาเพื่ออยู่กับเธอต่อเพื่อดำเนินภารกิจง้อเมีย แล้วเช้านี้ชายหนุ่มก็วุ่นอยู่ในครัวคนเดียว ไม่รู้ว่านิ้วโดนมีดไปกี่ครั้ง เลือดซึมกี่ที่ เขาตั้งใจทำตามคลิปที่สอนจนเวลาผ่านไปเกือบสามชั่วโมง “ที่รักต้องชอบแน่ๆ” รอยยิ้มอิ่มใจปรากฏอยู่บนใบหน้าหล่อ เขายืนชื่นชมชามข้าวต้มฝีมือตัวเองที่ทำออกมาเป็นครั้งแรกในชีวิตสีหน้าภูมิใจ หากเธอเห็นต้องชอบแน่ๆ เพราะวิเวียนชอบกินข้าวต้มหมูสับมาก ”เอ๊ะ.. แต่ว่าเหมือนลืมบางอย่าง“ เซบาสเตียนขมวดคิ้วเหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้ ลืมอะไรไม่ลืม แต่เขาลืมทำข้าวต้มเผื่อตัวเอง!! “แต่ช่างเถอะ ที่รักอิ่มก็พอ” ชายหนุ่มหันกลับมาสนใจชามข้าวต้มตรงหน้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอิ่มใจ ก่อนจะยกไปวางบนโต๊ะ เป็นเวลาที่วิเวียนเดินออกมาจากห้องนอนพอดี “ที่รัก ผมทำข้ามต้มที่คุณชอบไว้ให้ กำลังร้อนๆเลย” เสียงทุ้มรีบเอ่ยเรียกภรรยาด้วยความตื่นเต้นอย่างลืมตัว ลืมไปว่
“ที่รัก…ฮึกก.. ผม——“ ”ไม่ต้องพูดแล้ว ฮึกก.. ไปโรงพยาบาล“ คนตัวเล็กโน้มตัวลงพยุงเขาลุกขึ้นจากพื้นทั้งนํ้าตา เสียงสะอื้นเบาๆสองคนประสานกันราวกับบทเพลงแห่งความเจ็บปวดที่ไม่มีใครได้ยิน “มีอะไรก็ค่อยๆคุยกันล่ะโยม“ ส่วนหลวงตาที่ยืนมองอยู่เงียบๆก็พอจะเข้าใจถึงสถานการณ์บ้างแล้วจึงกล่าวตักเตือนไปในทางที่ดีแล้วก้าวจากไป “ฮึกก..ที่รักหายโกรธผมแล้วใช่มั้ย” แววตาเขาที่มองเธอเต็มไปด้วยความหวัง เสียงที่ถามก็สั่นเครือเฝ้ารอคำตอบจากเธอ “บอกว่าอย่าเพิ่งพูดไง” “ครับ.. ฮึกก ผมจะฟังที่รัก” หญิงสาวเม้มปากแน่น เวลานี้เขาเหมือนเด็กที่กลัวแม่จะจากไปจึงยอมเชื่อฟังทุกคำพูด ภายในอกเกิดรู้สึกผิดที่แอบตำหนิเขาไปนิดๆ . . . . . “รบกวนคนไข้นอนลงก่อนนะครับ หมอต้องทำการฆ่าเชื้อให้ก่อน ดูแล้วน่าจะติดเชื้อแรงเลยล่ะครับ มีทั้งหินทั้งทรายเต็มไปหมด” เซบาสเตียนยอมนอนราบลงกับเตียงคนไข้ พื้นที่ที่เขาไม่ชอบที่สุด เงยหน้ามองวิเวียนที่ยืนดูอยู่ข้างเตียงตาแป๋วจนอีกคนต้องหลุบตาหนี “ที่รัก…” แต่แล้วเขาก็ยื่นมือไปจับชายเชื้อเธอเบาๆด้วยเสียงเรียกที่แผ่วเบาดั่งว่าเด็กน้อยที่กำลังอยากร้องขออะไรสักอ
“ไปเลยค่ะ” เสียงสั่นสะท้านเอ่ยบอกคนขับแท็กซี่ สองมือกำกันแน่นหวังให้หัวใจที่เริ่มอ่อนระทวยไม่พังทะลายลงง่ายๆ วิเวียนหลับตาลงเพื่อปิดกั้นตัวเองจากภาพในกระจกที่สะท้อนถึงเงาของเขาที่กำลังวิ่งตามรถเธอด้วยเท้าเปล่า “อย่าทิ้งผม.. ฮึกก” เขาตะโกนตามหลังเธอซํ้าๆจนแรงเสียงแทบเลือนหายกลับเข้าไปในหลอดคอ เซบาสเตียนวิ่งตามหลังออกมาด้วยเท้าเปล่าไม่สนเศษหินเศษทรายที่ทะลุผิวเนื้อ เลือดไหลซึมออกมาเป็นทางยาว ทว่าเขายังวิ่ง… วิ่งด้วยหัวใจที่ปวดร้าวยิ่งกว่าเท้าที่กำลังฉีกขาด “ฮึกก… ที่รักอย่าไป ฮึกกก“ เซบาสเตียนแทบจะทรุดอยู่กลางทาง แต่หัวใจกลับสู้ไม่ยอมลดละความพยายาม เขาจะมานั่งร้องไห้อยู่กลางถนนแบบนี้ไม่ได้ เมื่อนึกขึ้นได้ก็รวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายที่มีทั้งใจแล้วลุกขึ้นโบกแท็กซี่รีบตามหลังเธอไปอย่างไม่ยอมถอย รถแท็กซี่คันสีฟ้าที่นำหน้าอีกคนเข้ามาจอดเทียบท่าหน้าบ้านวิเวียนก่อนจะมีอีกคนที่ตามหลังเข้ามาไม่นานหลังจากนั้น วิเวียนรีบเดินเข้าบ้านในขณะที่มีเขาตามหลังมาด้วยเสียงเรียกเบาแผ่วสิ้นเรี่ยวแรง ”ที่รัก… ได้โปรดฮึกกก“ เท้าที่เจ็บแสบจนเดินได้ไม่ถนัด แต่เขาก็ยังดึงดันเดินตามเธอมาจนถึงเส้นทา