“...คะ”
พริมพริตาถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง เงินมากมายขนาดนั้นหาทั้งชีวิตยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าจะได้ถึงครึ่งหรือเปล่า ชีวิตพนักงานออฟฟิศโลจิสติกส์ธรรมดาๆอย่างเธอ จะหาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากที่ไหนได้ กู้ธนาคารตั้งแต่ล้านแรกอาจจะยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แถมไม่ได้ไปทำงานนานเกือบอาทิตย์ขนาดนี้ เธอคงโดนเด้งไปแล้วเรียบร้อย สมัยนี้งานยิ่งหายากๆอยู่ด้วย
“ไม่มีปัญญาล่ะสิ”
มือหนายกก้านบุหรี่ขึ้นจุดติดไฟสูดเอาควันสีเทาเข้าปากและปลดปล่อยออกมาพร้อมกับลมหายใจหนัก โดยไม่ได้สนใจว่าในห้องจะมีคนนอนป่วยอยู่รวมด้วย
“ฉันหาได้ค่ะ…ฉันจะหามาให้ได้ ขอแค่คุณปล่อยฉันไป ฉันสัญญาว่าฉันจะจ่ายเงินคืนให้คุณทุกเดือนจนครบทุกบาททุกสตางค์แน่นอน”
หญิงสาวอ้อนวอนมาเฟียหนุ่ม พยายามพูดดีด้วยสุดชีวิต แม้จะไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะหาเงินมากมายขนาดนั้นมากจากไหนก็เถอะ แต่นั่นกลับทำให้มาเฟียหนุ่มแสยะยิ้มออกมากับความโลกสวยของเจ้าหล่อน
โรมินิกโน้มตัวเข้ามาใกล้ร่างเล็กที่อยู่บนเตียงนอน สองนิ้วคีบก้านบุหรี่ไว้ในมือ ลมหายใจเข้าออกของเขามันเต็มไปด้วยกลิ่นบุหรี่อ่อนๆชวนให้ขนลุกซู่ ทำให้คนตัวเล็กถึงกับถอยกรูดจนชิดพนักพิง หัวใจดวงน้อยยิ่งเต้นแรงมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อเขายังโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้กับหน้าหวานไม่หยุด
“จ่ายด้วยชีวิตของเธอสิ ชีวิตก็ต้องแลกด้วยชีวิต”
มาเฟียหนุ่มนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง นัยน์ตาสองคู่ประสานกัน นัยน์ตาคู่หนึ่งเต็มไปด้วยความสุขุม ดุดัน จริงจัง และเคียดแค้น ในขณะที่นัยน์ตาอีกคู่เต็มสั่นระริกไปด้วยความหวาดหวั่น
“...ว่าไงนะคะ”
“ชีวิตที่เสียไป เธอจ่ายแทนได้ไหมล่ะ”
พริมพริตาจ้องมองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ แล้วก็ต้องหลุบตาลงต่ำเพราะไม่อาจจะสู้สายตาคมที่จ้องมองกลับมาได้
แต่ในใจก็คิดไม่ตกกับสิ่งที่เขาพูดออกมา นั่นหมายความว่านอกจากเงินสิบล้านนั่นแล้ว พี่พีทยังฆ่าคนอีกงั้นเหรอ
ถึงเขาจะไม่ใช่คนที่แสนดีสักเท่าไหร่ แต่เธอก็ค่อนข้างมั่นใจพอสมควรว่าพี่ชายของเธอเขาไม่มีทางที่จะเลวร้ายถึงขั้นฆ่าแกงคนอื่นได้
“เรื่องเงินฉันจะเป็นคนรับผิดชอบเองค่ะ ส่วนเรื่องอื่นถ้าเขาผิดจริง ฉันจะเป็นคนเกลี้ยกล่อมให้เขายอมมอบตัวกับตำรวจเองค่ะ…”
“ตำรวจงั้นเหรอ หึ”
โรมินิกหัวเราะในลำคอ ถ้าความยุติธรรมมันมีจริงน้องสาวของเขาคงจะไม่ต้องจบชีวิตลงทั้งแบบนั้น และต่อให้มันยอมมามอบตัวจริง อย่างมากก็โดนแค่ข้อหาฉ้อโกงหรือข้อหาพื้นๆที่มันไม่ได้สาสมกันเลยสักนิด มันจะชดเชยกับความระยำที่มันทำให้ชีวิตสองชีวิตและคนรอบข้างอีกไม่รู้กี่ชีวิตที่ต้องเจ็บปวดเพราะความเห็นแก่ตัวของมันได้ยังไง
แล้วยังมาขอให้เขาปล่อยไปอีกอย่างนั้นเหรอ
สันมือหนาข้างที่ยังคีบก้านบุหรี่ไว้ในมือไล้วนไปตามมือเรียวเล็กของอีกฝ่ายทั้งที่ยังมีสายน้ำเกลือระโยงระยางอยู่ มาเฟียหนุ่มโน้มใบหน้าเข้ามาชิดกับหน้าหวานมากขึ้น จนพริมพริตาต้องเบนหน้าหนีไปเพราะความอึดอัดที่คับแน่นอยู่ในอก ริมฝีปากหยักหนาจึงเข้าไปกระซิบที่ข้างใบหูเจ้าหล่อนแทน
“ไอ้พี่ชายแมงดาของเธอมันหลอกให้ริสาแต่งงานกับมัน แล้วมันก็ชิ่งสินสอดเป็นสิบล้านไป มันทำให้ผู้หญิงที่แสนจะบริสุทธิ์คนหนึ่งต้องตาย”
“...”
“ตายพร้อมกับลูกในท้องของมันนั่นแหล่ะ!”
สิ้นเสียงคำรามนั้นโรมินิกก็กระชากสายน้ำเกลือที่ถูกเจาะติดอยู่กับหลังมือเรียว จนพริมพริตาต้องหวีดร้องออกมาเพราะความเจ็บปวดและตกใจในคราวเดียวกัน
ไม่พอแค่นั้นยังบีบคางเรียวเล็กให้หันมาสบสายตากับตัวเอง
“แล้วน้ำหน้าอย่างเธอจะชดใช้คืนให้ได้ไหมล่ะ!”
น้ำตาเอ่อล้นออกมาจากดวงตากลมโตด้วยความหวาดกลัวระคนกับความรู้สึกสับสน ผิดหวัง และไม่เข้าใจ เธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าพี่ชายของเธอจะทำเรื่องร้ายแรงขนาดนี้ได้
“ฉะ…ฉัน…เจ็บ”
เสียงหวานเอ่ยทักท้วง รู้สึกร้าวไปทั้งกรอบใบหน้า
“คุณปล่อยฉันไปเถอะ…ฉันจะหาเงินมาใช้หนี้ก้อนนั้นให้เอง และฉันจะให้พี่พีทมารับผิดชอบเรื่องทั้งหมดนี้แน่นอน ฉันสัญญา…”
พริมพริตาพูดพลางประนมมือเข้าหากันเป็นเชิงไหว้เว้าวอนขอให้อีกฝ่ายเห็นใจ หากแต่หัวใจที่เย็นยะเยือกเป็นน้ำแข็งของมาเฟียหนุ่มไม่ได้รู้สึกรู้สากับท่าทางน่าสงสารนั้นเลยสักนิดเดียว ในทางกลับกันมันกลับน่าสมเพชในสายตาเขาด้วยซ้ำ
“ได้โปรด…ฉันจะไ…อึก”
ข้อมือหนาคว้ามือที่ประนมเข้าหากันก่อนหน้าขึ้นไพล่กันเหนือศีรษะของร่างอรชร เสียงหวานที่พร่ำขอร้องของพริมพริตาถูกกลืนหายเข้าไปลำคอของอีกฝ่ายจนหมด ริมฝีปากหยักหนาประกบแนบชิดกับริมฝีปากเรียวเล็กตวัดดื่มความหอมหวานชุ่มฉ่ำในโพรงปาก
กลิ่นและรสชาติเจือจางจากนิโคตินที่ยังหลงเหลืออยู่ทำให้สมองของหญิงสาวหนักอึ้งไปชั่วขณะ มือเล็กพยายามดีดดิ้นออกจากการถูกพันธนาการด้วยมือแกร่งเพียงข้างเดียว ทว่ากลับไม่เป็นผล ร่างทั้งร่างก็ถูกกายใหญ่ทาบทับไว้ไม่สามารถที่จะขยับเขยื้อนตัวได้เลย
มาเฟียหนุ่มดับก้านบุหรี่ที่ยังติดไฟอยู่ลงกับโต๊ะไม้ข้างหัวเตียงโดยที่ไม่ได้สนใจสักนิดว่าจะทำให้เกิดรอยหรือไม่ ก่อนจะเลื่อนมาปลดปมเชือกเสื้อตัวบางที่ผูกติดอยู่ข้างเอวอรชรโดยที่ริมฝีปากยังคงตักตวงความหวานหอมจากคนตัวเล็กไม่หยุด ไม่ถึงเสี้ยวนาทีมือหนาก็เข้ากอบกุมทรวงอกคู่สวยได้อย่างง่ายดาย
เสียงหวานส่งเสียงทัดทานในลำคอ ร่างทั้งร่างถูกคนตัวโตกว่าพันธนาการไว้จนหมดหนทางปัดป้อง หน้าอกหน้าใจคู่สวยที่ไม่เคยได้มีใครสัมผัสหรือได้ยลโฉมมาก่อนถูกเขาขยำขยี้นวดเฟ้นราวกับเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเสียเอง
พริมพริตาหอบแฮกเมื่อถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ มันเป็นจูบที่ยาวนานเสียจนเธอแทบจะขาดอากาศหายใจตายอยู่รอมร่อ หญิงสาวรีบพับทบเสื้อให้เข้าที่และพยายามที่จะผูกกลับไปให้อยู่ในสภาพเดิม หากแต่ก็โดนรวบข้อมือเรียวไปก่อน
“ฉันมีวิธีที่ดีกว่านั้นอีก”
นัยน์ตาหวานวูบไหวระริก ไม่เข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ
“มันเอาน้องฉันจนท้อง ฉันก็เอาน้องมันคืนบ้าง เธอว่าเป็นไง”
“อะไรนะ…”
ไม่ทันที่พริมพริตาจะได้คัดค้าน ปลายข้อเท้าทั้งสองข้างก็ถูกรวบตึงและพาให้ร่างบอบบางถูกลากลงไปนอนราบกับเตียงนุ่ม ข้อมือเรียวยาวทั้งสองข้างถูกรวบไว้เหนือศีรษะไม่ต่างจากท่าทางเมื่อครู่นัก
โรมินิกทิ้งตัวทาบทับร่างกายสูงใหญ่ลงบนร่างอรชรของพริมพริตาอย่างไม่รีรอ ฝ่ามือหนาไล้วนไปตามบั้นเอวคอดละเลื่อนลงไปใต้อาภรณ์ตัวบางอย่างวาบหวาม กลิ่นหอมอ่อนบนเนื้อกายสาวชวนให้สันจมูกโด่งต้องลงไปซุกไซ้สัมผัสดื่มด่ำอย่างใกล้ชิดไปทั่วทั้งตัว ก่อนที่ริมฝีปากหยักหนาจะเลื่อนเข้าครอบครองยอดอกเอิบอย่างถือวิสาสะ
“ไม่! ไม่ใช่แบบนี้ ขอร้องล่ะ…อุบ”
ชายหนุ่มไม่ปล่อยให้คนใต้ร่างได้ประท้วงอะไรไปมากกว่านี้ เขาเป็นประเภทที่ไม่ชอบฟังเสียงแหลมเล็กของผู้หญิงให้รำคาญใจอยู่แล้ว มาเฟียหนุ่มจึงจัดการปิดริมฝีปากบางด้วยรสจูบที่เต็มไปด้วยความดุดันเกรี้ยวกราดอีกครั้ง
มือเล็กระรัวทุบรอบแผงอกกว้างเมื่อถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ พริมพริตาพยายามที่จะดันกายใหญ่ออกไปจากตัวเองและหวังจะให้เขาหยุดการกระทำอันวาบหวามและถือวิสาสะอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อนเช่นนี้เสียที แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเลยสักนิด เพราะยิ่งออกแรงมากเท่าไหร่ก็มีแต่เธอเองที่จะเหนื่อยหอบมากขึ้นเท่านั้น ด้วยพละกำลังและร่างกายของมาเฟียหนุ่มมันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเจ็บแม้แต่นิดเดียว
และเมื่อเสียงหวานจะคร่ำครวญหรืออ้อนวอนขอร้องให้ใครมาช่วยก็จะถูกริมฝีปากหนาช่วงชิงและดูดกลืนเสียงเหล่านั้นไปในลำคอจนหมดสิ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำได้แค่เพียงดิ้นพล่านอยู่ภายใต้ร่างแกร่งของคนเผด็จการเพียงเท่านั้น
“ไม่ อย…อย่า…”
เสียงหวานร้องห้ามทั้งที่แหบพร่าเมื่อคนบนร่างตัวเองกำลังจูบระเรื่อยลดริมฝีปากหยักหนาลงไปเข้าครอบครองยอดอกอิ่มอวบอีกครั้งราวกับราชสีห์ที่กำลังจัดการเหยื่อที่เพิ่งได้มาอย่างเอร็ดอร่อย พร้อมกับบีบขยำอกสวยอีกข้างจนแทบจะแหลกคามือไปด้วย โดยที่มือแกร่งอีกข้างไล้สัมผัสจากปลายนิ้วกลางวนเวียนอยู่รอบกลีบดอกไม้ที่เริ่มชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำเกสรที่ไหลเยิ้มออกมาเพราะถูกกระตุ้นสลับกับชักนิ้วเข้าออกช่องทางสงวนนั้นอย่างอุกอาจ
“แต่ร่างกายของเธอไม่เห็นปฏิเสธฉันแบบนั้นเลยนะ”
โรมินิกว่าในขณะที่ยืดตัวขึ้นเพื่อเตรียมจะสวมเครื่องป้องกันบนอาวุธอันเขื่องของตัวเองที่กำลังพองโตชูความเป็นชายต่อหน้าหญิงสาวที่นัยน์ตาสองข้างมีน้ำตารื้นไหลออกมาอีกรอบ
“ฉันขอร้อง…ได้โปรด”
โรมินิกได้แต่แสยะยิ้มเหี้ยมเกรียม เวลานี้ต่อให้เป็นพี่ชายของเธอสักสิบคนมากราบกรานขอร้องอ้อนวอนต่อหน้าก็หยุดเขาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
พริมพริตาตื่นขึ้นมาอีกทีในช่วงสายของอีกวัน ร่างกายเหนื่อยอ่อนเมื่อยขบไปทั้งร่าง ปวดจุกจนต้องยกมือขึ้นกุมหน้าท้องพร้อมกับขดตัวงอเป็นกุ้ง รู้สึกหนักอึ้งขยับขาทั้งสองของตัวเองไม่ได้เหมือนมีอะไรบางอย่างพาดทับไว้จนต้องหันไปมองที่มาของมัน ท่อนขาที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อกำลังพาดก่ายอยู่บนตัวของเจ้าหล่อนจากคนที่นอนหลับอยู่ด้านข้างดวงตากลมเบิกโพลงด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าตัวเองถูกกอดก่ายนอนหลับร่วมกับคนที่ไม่อยากจะเห็นหน้ามาแทบทั้งคืน ความทรงจำเมื่อคืนแล่นพล่านเข้ามาเป็นฉากๆ ตั้งแต่ในโซนผับด้านล่าง ในห้องน้ำ บนเตียง และข้างระเบียงหน้าต่างนั่นใบหน้าหวานร้อนเห่อแดงก่ำ จำไม่ได้ว่าทำไมตัวเองถึงยินยอมให้เขาทำอย่างนั้นไปได้ มิหนำซ้ำเธอยังเป็นคนที่ขึ้นขย่มบรรเลงเพลงสวาทให้เขาจนเกือบจะเสร็จสมอีกด้วย
มาเฟียหนุ่มอุ้มร่างอรชรออกมาจากห้องน้ำมุ่งตรงไปยังเตียงกว้างภายในห้องนอน ไม่ได้สนใจว่าหยดน้ำพราวจากเนื้อตัวของคนทั้งสองจะทำให้ห้องเปียกแฉะมากแค่ไหนโรมินิกวางร่างบอบบางลงนอนบนเตียงกว้างพร้อมกับเอาหมอนข้างมารองสะโพกมนไว้เพื่อให้โพรงสวาทเปิดอ้ารับตัวตนของเขาได้เต็มที่ ก่อนจะสวบใส่ลำกายอันใหญ่ที่ยังคงแข็งค้างอยู่อย่างนั้นเข้าไปทีเดียวจนเกือบสุดลำ“..อ๊ะ…อ๊าาา…เจ็บ…ซี้ด”เสียงหวานหลุดร้องไม่เป็นภาษา เมื่อมาเฟียหนุ่มสอดใส่อาวุธร้ายของตัวเองเข้ามาภายในคราวเดียว แม้ว่าทั้งสองเพิ่งจะผ่านการร่วมรักกันมาก่อนแล้วหนึ่งยก แต่ด้วยขนาดความคับแน่นของโพรงสวาทและขนาดลำกายใหญ่ยักษ์ก็ทำให้เจ้าหล่อนรู้สึกแสบขัดอยู่ดี&nb
มาเฟียหนุ่มย่อตัวนั่งลงบนส้นเท้าของตัวเองข้างขอบอ่างด้านนอกพลางดึงรั้งร่างบางเข้ามารับรสจูบบดขยี้ด้วยริมฝีปากหนา กลิ่นหอมอ่อนของวิสกี้ยังติดตรึงอยู่ในปากของเจ้าหล่อน ลิ้นสากร้อนเกี่ยวกระหวัดไปทั่วทั้งโพรงปากชิมความหอมหวานที่ยังคงหลงเหลืออยู่ หยอกล้อกวัดไกวลิ้นเรียวเล็กที่เงอะงะไม่เป็นงานมือหนาประคองท้ายทอยของหญิงสาวไม่ให้เคลื่อนตัวหนีรสจูบดุดันของตัวเองออกไปได้ หากแต่มืออีกข้างก็ถือวิสาสะล้วงผ่านเข้าไปภายใต้กระโปรงและชั้นในตัวจิ๋วที่อยู่ใต้น้ำเย็นจัดอีกทีฝ่ามือแกร่งไล้ไปตามปลีขา หว่างขาเรียว และหยอกล้อเนินอวบอูม เฉียดกลางกายสาวไปมา จนคนตัวเล็กสะดุ้งสะท้านเพราะความวาบหวิว มือเรียวเล็กกำสาบเสื้อของอีกฝ่ายไว้แน่นจนมันยับยู่ยี่ไม่เป็นทรงเดิมเพราะต้องการระบายความเสียวซ่านที่ได้รับ&
กลิ่นหอมอ่อนๆบนเนื้อกายสาวที่เอียงซบขนาบข้างกายอยู่ทำให้เขาเริ่มที่จะสกัดกั้นอารมณ์หื่นกระหายของตัวเองไม่ไหว มือสากไล้ไปตามเรียวขาอ่อน ปากก็พยายามที่จะซุกไซ้ดอมดมซอกคอเนียนระหงตามหาแหล่งที่มาของกลิ่นหอมเย้ายวนนี้เคร้ง!กระสุนปืนที่วิ่งตัดกระทบกับแก้วไวน์ทรงสูงบนโต๊ะจนมันแตกละเอียดเป็นเสี่ยงๆเรียกความสนใจจากคนทั้งหมดในอาณาบริเวณนั้นได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะคนบนโต๊ะที่วิถีของกระสุนนั้นห่างไปเพียงไม่ถึงคืบเสียงหวีดร้องตกใจดังระงมไปทั่วเมื่อไม่รู้ต้นตอที่มาของเสียง หลายคนก็ต่างพากันลุกหนีออกไป กลัวจะโดนลูกหลงเข้า แต่หลายคนก็ยังอยู่ประจำที่โต๊ะขอตัวเองเงียบๆเพื่อรอดูเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้
ผ่านไปเพียงไม่กี่วันบาดแผลที่ฝ่าเท้าของพริมพริตาก็เริ่มหายดี กลับมาสวมรองเท้าเดินเองได้ และกลับมาทำงานเป็นปกติได้ แม้ช่วงแรกๆจะส่งผลต่อการทรงตัวบนรองเท้าส้นสูงกว่าสามนิ้วอยู่บ้าง แต่ไม่นานอาการเหล่านั้นก็ทุเลาลงและเธอไม่อยากที่จะนั่งๆนอนๆอยู่ในห้องเพียงอย่างเดียว อยากออกมาทำงานหาเงินใช้หนี้ให้หลุดพ้นไปจากที่นี่ไวๆเสียยังจะดีกว่ายิ่งหยุดนานก็ยิ่งเท่ากับระยะเวลาที่ต้องหายใจอยู่ภายใต้ชายคาของที่นี่ไปอีกนานเท่านั้นด้วยเช่นกันพริมพริตามาเริ่มงานที่ผับโซนปกติเป็นเวลากว่าสามวันแล้ว วันนี้เป็นวันที่สามที่เธอมาเริ่มทำงานที่นี่ในฐานะพนักงานเสิร์ฟเครื่องดื่มต้องยอมรับว่าร
แสงแดดยามเช้าของอีกวันถัดมาส่องแสงเรืองรองมาจากระเบียงหน้าต่างกระจกใสบานใหญ่ผ่านผ้าม่านชั้นในสีขาวบางเข้ามาปลุกให้พริมพริตาที่นอนสลบไสลจากความเหนื่อยอ่อนมาทั้งคืนลืมตาตื่นขึ้นร่างบอบบางปวดระบมไปทุกสัดส่วน ทั้งเหนื่อยล้าจากการทำงานวันแรกและทั้งร้าวระบมเพราะความรุนแรงที่ต้องจำใจยอมรับแทบทั้งคืนหญิงสาวเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งปรือตามองไปยังหน้าต่างบานใหญ่อันเป็นที่มาของแสงยามเช้าที่ส่องผ่านเข้ามา ปกติแล้วมันจะถูกปิดทึบด้วยผ้าม่านสีเทาเข้มผืนหนาจนแสงแทบจะลอดเข้ามาไม่ได้ด้วยซ้ำ“ตื่นแล้วเหรอคะ ดิฉันมารีย์ค่ะคุณพริม”เป็นหญิงวัยกลางคนท่าทางใจ