บทที่ 3 ผู้บุกรุกจอมยั่ว
“ป้านวนคะ ป้านวน ป้าเห็นหมอนั่นหรือเปล่าคะ”
“หมอนั่น ใครคะคุณหนู” ป้านวนถามเพราะไม่รู้ว่าคนที่คุณหนูของเธอถามหมายถึงใคร
“ไฟค่ะ หมอนั่นของโรสหมายถึงไฟ” เธอขยายความ
“อ่อ คุณทนาย คุณหนูไปดูที่ห้องทำงานของคุณท่านหรือยังคะ”
“ไปมาแล้วค่ะ แต่ก็ไม่เจอใครแล้วโรสก็เดินวนรอบบ้านครบหนึ่งรอบแล้วแต่ก็ยังไม่เจอหมอนั่นอยู่ดี ป้ารู้หรือเปล่าคะว่าหมอนั่นอยู่ที่ไหน” เธอถามป้านวนอีกครั้งเพราะไม่รู้จะไปตามหาเขาได้ที่ไหนแล้ว
“ถ้าไม่อยู่ที่ห้องทำงาน งั้นก็น่าจะอยู่ที่บ้านค่ะ”
“บ้านเหรอคะ” โรสทวนคำพูดของป้านวน แล้วเธอจะไปตามหาเขาได้ยังไงเพราะบ้านเขาอยู่ไหนเธอก็ไม่รู้จัก
“ค่ะ บ้าน คุณหนูไม่ลองไปดูที่บ้านคุณทนายดูละคะไม่แน่อาจจะเจอคุณทนายก็ได้”
“จะไปดูได้ยังไงละคะ โรสรู้จักบ้านของหมอนั่นซะที่ไหน” เธอตอบป้านวนด้วยหน้าบูดๆ ป้านวนพูดยังกับว่าเธอรู้จักบ้านหมอนั่น
“ป้าลืมไปเลยค่ะ ว่าคุณหนูพึ่งจะกลับมา” ป้านวนพูดด้วยน้ำเสียงตกใจ ก่อนจะบอกทางไปบ้านของทนายหนุ่ม “บ้านของคุณทนายก็อยู่ติดกับบ้านเราตรงนี้เองค่ะ” ป้านวนชี้มือออกไปทางด้านซ้ายของกำแพงบ้าน “แต่ถ้าเดินออกไปทางหน้าบ้านมันจะไกล คุณหนูใช้ทางเชื่อมที่อยู่ตรงโรงจอดรถก็ได้ค่ะ ใกล้กว่ากันเยอะ”
หลังป้านวนบอกทางโรสก็รีบเดินออกมาจากบ้านแล้วตรงไปที่โรงจอดรถก่อนจะมองหาประตูทางเชื่อมทันที
“นั่นไงเจอแล้ว” เธอเดินเข้าไปที่บ้านของเขาโดยผ่านประตูทางเชื่อมที่ป้านวนเป็นคนแนะนำมา ก่อนจะเดินไปจนถึงตัวบ้าน บ้านของเขาเป็นบ้านสองชั้นหลังใหญ่แต่ก็ยังเล็กถ้าเทียบกับคฤหาสน์ของเธอ
“เป็นทนายรวยขนาดนี้เลยเหรอ ดีนะที่มีทางเชื่อมถ้าต้องเดินจากบ้านฉันมาถึงบ้านหมอนี่ฉันได้ตายพอดี แดดประเทศไทยร้อนเป็นบ้า” เธอแอบบ่นกับตัวเองก่อนจะเปิดประตูบ้านของเขาเข้าไปโดยไม่ได้ขออนุญาตใครเลย เพราะเธอไม่เห็นใครให้ขออนุญาต
“มีใครอยู่มั้ย” โรสส่งเสียงถามแต่ก็ไร้เสียงตอบรับ เธอเดินไปเปิดห้องนู้นห้องนี่จนทั่วทั้งชั้นหนึ่งอย่างกับเป็นบ้านของตัวเอง “บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้แต่ไม่เห็นมีใครอยู่ แต่บ้านไม่ได้ล็อกก็น่าจะมีคนอยู่สิ หรือว่า” เธอมองไปที่บันไดที่ขึ้นไปชั้นสอง ก่อนจะเดินขึ้นไปทันที
“แล้วห้องหมอนั่นคือห้องไหน” เธอมองดูประตูห้องก่อนจะเลือกเปิดห้องๆหนึ่งที่อยู่ใกล้ที่สุด
“โอ๊ะ เก่งจังเลือกถูกด้วย” เธอรู้ว่าห้องนี้เป็นห้องของเขาแน่ๆ เพราะโทนสีและบรรยากาศของห้องบ่งบอกว่านี่เป็นห้องของผู้ชาย เธอสอดส่ายสายตามองหาเจ้าของห้องแต่ก็ไม่พบเขา เธอเลยเข้าไปในห้องของเขาแล้วสำรวจห้องของเขาอย่างถือวิสาสะ ระหว่างที่กำลังสำรวจห้องของเขาอยู่เธอก็ได้ยินเสียงน้ำดังมาจากห้องน้ำ
“หรือว่าหมอนั่นอาบน้ำอยู่งั้นเหรอ” เธอไม่ลังเลเลยที่จะเดินผ่านห้องแต่งตัวของเขาแล้วไปหยุดที่หน้าประตูห้องน้ำ เธอยืนมองประตูห้องน้ำสักพักก่อนจะคิดแผนแกล้งคนที่อยู่ในห้องน้ำออก
เธอเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของเขาก่อนจะเปิดประตูแล้วดันเสื้อผ้าของเขาไปอีกฝั่งเพื่อให้มีพื้นที่พอทีเธอจะพาตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้นเพื่อซ่อนตัว
เธอพาตัวเองเขาไปอยู่ในตู้เสื้อผ้าแล้วปิดประตูตู้ให้เบาที่สุดแล้วเอาหูแนบกับตู้เพื่อฟังเสียงภายนอก เธออยากรู้นักว่าถ้าเขาเปิดประตูตู้เสื้อผ้ามาแล้วเจอเธอเขาจะตกใจแค่ไหน
“ไอ้บ้านั่นทำไมไม่เปิดตู้สักทีนะ” เธอบ่นเบาๆ เพราะเธอรออยู่นานเขาก็ยังไม่เปิดตู้เสื้อผ้าสักที หรือว่าเขาจะเตรียมเสื้อผ้าไว้ข้างนอก แล้วตอนนี้ก็แต่งตัวเสร็จแล้วใช่หรือเปล่า เธอเลยตัดสินใจจะเปิดประตูออกมาดู แต่ดันเป็นจังหวะเดียวกับที่เขาเปิดตู้เสื้อผ้าพอดี
“กรี๊ดดดดด” เธอร้องกรี๊ดเสียงดังไม่ใช่เพราะตกใจที่เขาเปิดประตูตู้เสื้อผ้า แต่เธอร้องกรี๊ดเพราะบางสิ่งบางอย่างที่กำลังจ่อหน้าผากเธออยู่ต่างหาก นี่เขามีปืนด้วยเหรอ
“เธอเองเหรอ” เขาพูดเสียงเรียบก่อนจะลดปืนลงหลังจากที่เห็นว่าเป็นใคร “มาทำอะไรที่นี่ แล้วเข้ามาในห้องนี้ได้ยังไง”
“นะ นายมีปืนด้วยเหรอ” โรสยังคงตกใจกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่อยู่ ก็เลยเผลอพูดตะกุกตะกัก
“แล้วเมื่อกี้เห็นว่าเป็นอะไรละ” ไฟยังคงตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง นั่นทำให้เธอที่ใจไปอยู่ที่ตาตุ่มในตอนแรกเริ่มได้สติ
“นายกล้าดียังไงถึงได้เอาปืนนั่นมาจ่อหัวฉันแบบนี้” ตอนนี้เสียงของเธอเลิกสั่นแล้ว และความมั่นใจก็กลับมาแล้วเพราะถ้าเขารู้ว่าเป็นเธอ เขาก็จะไม่กล้าทำอะไรแบบนั้นกับเธออีก เพราะฉะนั้นเธอก็ไม่จำเป็นต้องกลัวเขาอีก
“แล้วใครใช้ให้เธอไปอยู่ในนั้น โชคดีที่ฉันไม่ยิงออกไปไม่งั้นเธอคงกลายเป็นศพไปแล้ว” เขาบอกก่อนจะเดินเอาปืนไปเก็บในลิ้นชักตามเดิม
“นี่นายพูดกับฉันแบบเป็นกันเองเหรอ ทำไมไม่พูดแบบสุภาพกับฉัน” โรสถามออกไปหลังจากพึ่งสังเกตว่าเขาไม่ได้เรียกเธอว่าคุณหนูแบบในตอนแรก
“จำเป็นด้วยเหรอที่ฉันต้องพูดจาสุภาพกับผู้บุกรุก แล้วเธอยังไม่ตอบเลยนะว่ามาทำอะไรที่นี่” ไฟตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ติดจะโมโห
เวลาเธอได้ยินเขาพูดด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์แบบนี้ทีไร มันทำให้เธอหงุดหงิดและอยากเอาชนะเขาอย่างบอกไม่ถูก
“นายไม่รู้เหรอ ว่าฉันมาที่นี่ทำไม“ เธอเดินไปหยุดที่ข้างหลังเขาก่อนไปใช้มือบางลูบไปที่หลังของเขาเบาๆ “หุ่นนายนี่ดีจัง” เธอไล่มือบางลงมาเรื่อยๆ จนถึงขอบผ้าขนหนูที่พันอยู่ที่เอว ก่อนจะใช่นิ้วเล็กเกี่ยวที่ขอบนั่น และคิดว่าจะดึงออกแต่ก่อนที่เธอจะได้ทำอะไร เขาก็หันกลับมาแล้วจับมือเล็กของเธอไว้ก่อนที่เธอจะได้ทำอะไร
“เธอจะทำอะไร” เขาถามพลางจ้องหน้าคนมือซน ที่ตอนนี้กำลังใช้มืออีกข้างที่เป็นอิสระลูบไปที่อกเขาจนเขาต้องจับมือเธอทั้งสองข้างไปรวบไว้ที่ข้างหลัง
“ทำไม ฉันขอจับนิดจับหน่อยไม่ได้เลยเหรอแค่นี้ก็ต้องทำเป็นหวงด้วย” เธอพูดด้วยสายตายั่วยวน แต่เขาก็ยังไม่สนใจ
“บอกมา ว่ามาทำอะไร” เขาถามเธออีกรอบ เพราะเขาไม่อยากอยู่ในสภาพแบบนี้นานจนเกินไปเพราะการที่เขารวบแขนเธอไปไว้ที่ข้างหลังมันทำให้หน้าอกของเธอดันออกมาจนชนกับอกของเขา
“มาหานายไง ไม่ได้เหรอ” โรสพูดพร้อมกับจ้องหน้าชายหนุ่ม เขามองสำรวจเธอนิดหน่อยก่อนจะดันตัวเธอให้ถอยออกไป
“เธอคิดจะมายั่วฉันด้วยการแต่งตัวแบบนั้นเหรอ ฉันคงมีอารมณ์หรอก” เธอก้มมองเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่ก่อนจะแสดงสีหน้าหงุดหงิด วันนี้เธอใส่เสื้อยืดคอกลมสีดำพอดีตัวกับกางเกงขาสั้นธรรมดาเธอก็แค่แต่งตัวตามปกติเพราะตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะมายั่วเขาไง “จะบอกได้หรือยังว่ามาทำไม” ไฟถามย้ำอีกครั้ง
“ชิ ฉันจะมาบอกนายว่าคืนนี้นายต้องพาฉันออกไปข้างนอก” เธอบอกธุระของเธอออกไป เพราะเห็นว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะยั่วเขาต่อ
“ที่ไหน”
“P Club” เธอบอกสถานที่นัดเจอของเธอกับเพื่อนๆ
“อืม หนึ่งทุ่มเจอกัน” เขาพยักหน้าก่อนจะบอกเวลากับเธอ
“หนึ่งทุ่ม นายจะบ้าเหรอ ฉันนัดกับเพื่อนตั้งสี่ทุ่มจะแหกขี้ตาไปทำไมตั้งแต่หนึ่งทุ่ม” เธอวีนใส่เขาทันที เพราะคิดว่าเขากวนเธอ
“ฉันมีนัดกับลูกความที่นั่นตอนสองทุ่ม ถ้าเธอไม่ไปพร้อมฉันเธอก็ไปเองก็แล้วกัน”
“นี่นายจะบอกว่าที่ให้ฉันไปด้วยเพราะนายมีธุระงั้นเหรอ นี่นายลืมไปแล้วหรือเปล่าว่าพ่อฉันให้นายมาดูแลฉันเพราะฉะนั้นนายต้องทำตามที่ฉันสั่ง ไม่ใช่ฉันต้องทำตามนาย” โรสพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจอย่างมาก แต่เขาก็ดูจะไม่สนใจที่เธอพูด เขากอดอกก่อนจะยิ้มที่มุมปากแล้วพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“นี่คุณหนู ฉันว่าเธอเข้าใจอะไรผิดไปนะ พ่อเธอขอให้ฉันช่วยดูแลเธอ ไม่ได้ขอให้ฉันไปเป็นคนรับใช้เธอเพราะฉะนั้นฉันจะทำแค่ในสิ่งที่ฉันอยากทำ หนึ่งทุ่มเจอกันที่หน้าบ้านเธอ ถ้าเธอสายแม้แต่วิเดียวฉันจะไม่รอ แล้วก็ออกไปได้แล้ว” พูดจบเขาก็ลากเธอออกมาจากห้องโดยไม่เปิดโอกาสให้เธอได้พูดอะไรเลย เธอเลยได้แต่ชกลมชกฟ้าและด่าเขาตามหลังอยู่ที่หน้าห้องก่อนจะเดินกลับบ้านด้วยอาการหัวเสีย
ตอนที่ 50ราทำกันมั้ย NC 25++หลังจากงานเลี้ยงที่บ้านของสิจบลง โรสกับไฟก็ตัดสินใจกลับบ้านของเขา บรรยากาศในรถเงียบสงบ มีเพียงเสียงเพลงเบา ๆ คลออยู่ในความมืดของค่ำคืนที่อบอุ่นอย่างประหลาดเมื่อทั้งคู่มาถึงบ้าน ไฟเป็นฝ่ายจับมือโรสขึ้นไปยังห้องนอนของเขาอย่างเงียบ ๆ ไม่มีคำพูดใดเอื้อนเอ่ย แต่ทุกย่างก้าวของเขากลับหนักแน่นและมั่นคงราวกับเขาแน่ใจในทุกความรู้สึกของตัวเองทันทีที่ประตูห้องปิดลง ไฟหันมาหาเธอ“ไปอาบน้ำก่อนสิ” เขาพูดเบา ๆ ดวงตาอ่อนโยนจ้องมองเธอไม่วางโรสมองเขานิ่ง ๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าอย่างว่าง่ายแล้วหมุนตัวเดินเข้าห้องน้ำไปเสียงน้ำไหลเป็นจังหวะเดียวกับหัวใจของไฟที่เต้นอยู่เงียบ ๆ ข้างนอก เขานั่งลงที่ปลายเตียง ถอนหายใจเบา ๆ เหมือนกำลังตัดสินใจบางอย่างในใจไม่นานนัก โรสก็เดินออกมาจากห้องน้ำในชุดคลุมตัวเดิม ผมยาวเปียกเล็กน้อย เธอนั่งลงที่ปลายเตียงโดยไม่พูดอะไร“คราวนี้ฉันอาบบ้าง” ไฟพูดพร้อมลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำไม่ถึงสิบนาที ไฟก็เดินออกมา…ในสภาพที่มีเพียงผ้าขนหนูพันรอบเอว หยดน้ำยังเกาะพราวบนแผ่นอกและแขนแกร่งของเขาโรสนั่งอยู่บนเตียง มองเขานิ่ง ๆ ดวงตาเธอเปลี่ยนไป…
ตอนที่ 49นัดเจรจาครั้งที่สองช่วงสองวันที่ผ่านมา โรสรู้สึกว่าเธอชดชื่นกว่าในทุกวัน เพราะเธอตื่นขึ้นพร้อมความรู้สึกที่เหมือนกับปมแน่นในอกที่แบกมานานหลายปี…คลี่คลายลงแล้วการได้เล่าความจริงในอดีตให้ไฟฟังในคืนนั้น ทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองได้หายใจเต็มปอดอีกครั้ง ไม่ต้องหลบ ไม่ต้องฝืนเข้มแข็ง ไม่ต้องปั้นหน้าว่าไม่เป็นไรอีกต่อไปวันนี้โรสแต่งตัวสวยจัดเต็มเพราะว่าเธอมันนัดสำคัญ เธอเดินออกจากห้องนอนในชุดเรียบหรูพร้อมออกไปข้างนอก ไฟที่รออยู่ด้านล่างเงยหน้าขึ้นมองเธอพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น“พร้อมมั้ย?”“อืม” โรสพยักหน้าเบาๆ “ไปกันเถอะ”วันนี้ไม่ใช่วันของเธอโดยตรง แต่เป็นวันสำคัญของเพื่อนสนิทนั่นคือสิวันนี้เป็นวันนัดเจรจาหย่าระหว่างสิ กับสามีเก่าของเธอ ผู้ชายที่เคยทำให้สิร้องไห้มานับครั้งไม่ถ้วน และวันนี้โรสตั้งใจไว้ว่าจะเป้นวันสุดท้ายที่สิจะได้เจอกับอดีตสามีเฮงซวยของเธอเมื่อถึงศาล สิเดินทางมาพร้อมกับวี ผู้ชายที่ก่อนหน้านี้ไฟบอกว่าเป็นเพื่อนสนิทสิ แต่ช่วงนี้ดูเหมือนความสัมพันธ์ของทั้งสองดูจะเปลี่ยนไป โรสมองแววตาที่วีมองสิแล้วก็อดยิ้มไม่ได้“ตกลงวันนี้มาเจรจาเรื่องหย่า หรือว่ามาเปิดตัวว่าที่สามีใ
ตอนที่ 48อตีดที่เจ็บปวด"ตอนนั้นฉันอายุสิบห้า...และพัชชาก็เป็นเหมือนพี่สาวที่ฉันรักที่สุดคนหนึ่ง"โรสเริ่มพูดช้า ๆ เสียงของเธอนิ่ง แต่มีอะไรบางอย่างสั่นอยู่ในน้ำเสียงนั้น"เราสนิทกันมาก พัชชามักจะมาหาฉันที่บ้านบ่อย ๆ เพราะพ่อของเธอเป็นทนายประจำตัวของพ่อฉัน”โรสพูดเธอขยับตัวนิดหน่อย เพื่อให้เพื่อให้ไฟกอดเธอได้ถนัดขึ้น เพราะเธอต้องใช้ความกล้าอย่างมากที่จะเล่าเรื่องนี้“พัชชาเป็นคนใจดี ฉลาด แล้วก็...เหมือนรู้จักโลกมากกว่าฉัน เธอเป็นคนเดียวที่กล้าดุฉันในเวลาที่ฉันทำผิด ซึ่งต่างจากคนอื่นๆ ที่มักจะปล่อยผ่าน” พอเล่าถึงตรงนี้โรสก็ยิ้มออกมาเบาๆ เธอมีความสุขจริงในตอนนั้น“ฉันเคยคิดว่าเธอเป็นแบบอย่างของผู้หญิง ที่ฉันอยากเติบโตไปแล้วเก่งให้ได้ครึ่งของเธอ”ไฟยังคงลูบผมของโรสอย่างตั้งใจ ไม่ขัดจังหวะการเล่าของเธอแม้แต่นิดเดียว"จนวันหนึ่งฉันได้ยินมาว่าเธอกำลังจะแต่งงานกับทศ...ฉันไม่รู้ว่าความรู้สึกไม่สบายใจมันมาจากไหน แต่ทศไม่เคยทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัย เขาชอบมองฉันด้วยสายตา...ที่ฉันไม่สามารถอธิบายได้ แต่ฉันรู้ว่าไม่ใช่สายตาของคนดี"โรสกลืนน้ำลาย สีหน้าของเธอเริ่มเจ็บปวดมากขึ้น"ฉันไม่กล้าบอกพัชชา เพร
ตอนที่ 47ความสาเหตุของความเจ็บปวด หลังจากที่ไฟพาโรสมาอยู่ที่บ้านของเขา เวลาก็ผ่านไปเกือบหนึ่งอาทิตย์แล้ว เป็นหนึ่งอาทิตย์ที่โรสไม่ออกไปไหน เธอไม่กลับบ้านบ้านและไม่ออกไปเจอใคร ไฟมองดูโรสที่กำลังนั่งดูทีวีและทานผลไม้ที่แม่เขาเป็นคนปลอกให้ มันคงจะเป็นภาพที่เขารู้สึกมีความสุขที่สุด ถ้าภาพนี้มันเกินเพราะเธอคนนั้นมีความสุขจริงๆ ไม่ใช่เพราะฝืนมีความสุขแบบตอนนี้ “ผมกลับมาแล้ว” ไฟพูด หลังจากที่เขาเข้ามายืนอยู่ในบ้านได้สักพัก แต่ก็ไม่มีใครสนใจเขา โรสหันมามองไฟ “ฉันได้ยินเสียงรถแล้ว” เธอตอบ ก่อนจะหันไปมองทีวีตามเดิม ไฟเดินมานั่งที่โซฟา เขาวางกระเป๋าเอกสารไว้ที่โต๊ะ ก่อนจะมองโรสที่กำลังตั้งใจดูทีวี ส่วนแม่ของเขาก็ลุกขึ้นเดินเข้าห้องครัวเพื่อเตรียมอาหารเย็น โรสเคยอาสาเข้าครัวไปช่วยแม่เขาทำครัวอยู่ครั้งหนึ่ง แต่ด้วยความสามารถของเธอที่มีเยอะมากเลยเกือบทำครัวเขาไหม้ แม่ของเขาเลยสั่งห้ามไม่ให้หญิงสาวเข้าครัวโดยเด็ดขาด “วันมะรืนคุณสิมีนัทเจรจารอบที่สอง เธอจะไปด้วยมั้ย” “ไปสิ” โรสตอบโดยที่ไม่ยอมล่ะสายตาไปจาก
ตอนที่ 46ฉันไม่มีวันทิ้งเธอไฟมายืนอยู่หน้าบ้านของสิ ด้วยสีหน้าเหนื่อยล้าเมื่อคืนเขาเฝ้าอยู่ที่หน้าห้องของโรสทั้งคืนจนถึงเช้า แต่ช่วงที่เขากลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน พอเขากลับมาก็ไม่เจอโรสที่ห้องแล้ว เขารู้ว่าโรสอยู่ที่นี่ เพราะสิเป็นคนเดียวที่โรสจะหนีไปหาได้เวลานี้ประตูรั้วบ้านของสอเปิดออก สิยืนกอดอกมองทนายความของเธออย่างใช้ความคิด“ฉันควรจะให้คุณทนายเข้าไปดีมั้ย” เธอถามเสียงเรียบ“ผมแค่อยากเจอเธอ ให้ผมได้มีโอกาสได้อธิบายกับโรสหน่อยได้มั้ย”สิมองไฟนิ่งๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้าเบาๆ แล้วเดินหลบออกข้างเพื่อให้ไฟได้เดินเข้าไปในบ้าน แต่ก่อนที่ไฟจะเดินเข้าไป สิก็พูดขึ้นมา“เธอแค่กลัวค่ะ กลัวว่าจะต้องเสียคุณให้กับผู้หญิงคนนั้นไปอีกคน” “คุณมั่นใจได้เลย ผมจะไม่มีวันไปจากเธอ ต่อให้เธอไล่ผมแค่ไหนก็ตามไฟพูด เขาก้าวเดินเข้าไปในบ้านของสิด้วยความมั่นใจ โรสนั่งอยู่บนโซฟาเธอเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง มองดูสวนเล็กๆ ข้างข้างของสิด้วยสายตานิ่งๆ แสงแดดยามสายส่องลงกระทบผิวซีดของเธอ“โรส” ไฟเรียกเธอเบาๆโรสไม่ได้หันมา แต่เธอก็พูดกับเขาด้วยเสียงแผ่วเบา“ฉันรู้ว่านายไม่ได้ตั้งใ
ตอนที่ 45 ความเสียใจ อีกครั้ง“ใช่ ฉันรักพัชชา”สิ้นคำพูดของพ่อเธอโรสก็รู้สึกเหมือนฟ้าผ่าลงที่กลางตัวเธอ เธอชาไปทั้งตัว ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธและความเสียใจ“พ่อพูดว่าอะไรนะ” เธอถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ “พ่อบอกว่าพ่อรักมันเหรอ พ่อทำแบบนี้ได้ยังไง พ่อรักมันได้ยังไง”โรสถามเสียงดังด้วยความโมโห เธอหันไปมองพัชชาที่ร้องให้น้ำตานองหน้าด้วยแววตาโกรธแค้น ก่อนจะเดินเข้าไปหาพัชชาเพี๊ยะ! เสียงฝ่ามือของโรสที่กระทบเข้าที่แก้มซ้ายของพัชชาจนเกิดเสียงดัง จนพัชชาถึงกับเซ โรสกำลังจะเข้าไปตบพัชชาซ้ำอีกครั้ง แต่ไฟก็จับตัวเธอไว้ก่อน“ยัยโรส! หยุดเดี๋ยวนี้!”เสียงของอนุวัตดังก้องห้องนอน แต่มันไม่อาจดับไฟโกรธในหัวใจลูกสาวของเขาได้เลยโรสยืนตัวสั่น ดวงตาแดงก่ำมองพัชชาที่ก้มหน้าร้องไห้เงียบๆ อยู่ตรงหน้า ความอดทนของเธอหมดไปตั้งแต่วินาทีที่เห็นภาพที่ไม่ควรเห็นนั้น“เลิกเอาแต่ร้องไห้ได้แล้ว!” โรสคำราม ร่างกายสั่นเทิ้มด้วยแรงอารมณ์ “แกบอกมานะว่าแกทำอะไรพ่อฉัน พ่อฉันถึงได้หลงแก” โรสพยายามดิ้นออกจากอ้อมกอดของไฟ ที่รั้งตัวเธอไว้พัชชาสะอึก ตัวสั่นเหมือนเด็กน้อยที่ไร้ที่พึ่ง ใบหน้าชื้นไปด้วยน้ำตาแต่กลับไม่พูดตอบอ