“ข่วนได้แต่ห้ามกัด เพราะจะกระตุ้นให้ฉันคลั่งมากกว่าเดิม ไม่อยากเจ็บตัวก็…อย่ากระตุ้น” คนหนึ่งที่แอบรักเขามาโดยตลอด แต่เพราะฐานะเพียงเด็กในบ้าน ความคิดนี้...เธอจึงไม่กล้าแม้แต่จะคิด เขา....ที่หลงรอยยิ้มแรกของเธอ แต่ก็เป็นเพราะเขาอีกนั่นเอง ที่ทำให้รอยยิ้มนั้นของเธอ หายไป.... วันนี้ เขาอยากได้รอยยิ้มนั้นคืนมา ไม่สิ.... เขาอยากได้ทั้งหมด ทั้งรอยยิ้ม และตัวเธอ เขาไม่มีทางยอมปล่อยเธอไป และเขาต้องได้ครอบครองทั้งหมด..... “เธอเห็นอะไร ได้ยินอะไรบ้างพูดมาสิ” “ม่ะ…ไม่ค่ะ ไม่ได้ยินอะไรเลย” “โกหก เธอได้ยินแน่ ๆ” “อาย….คุณเจษคะ อายขอโทษอายจะไม่พูดค่ะ อายจะ…ว๊าย!!”
ดูเพิ่มเติม“หากเลือกได้อีกครั้ง ฉันจะไม่เดินไปเปิดประตูบานนั้น”
คอนโดหรูใจกลางเมือง
“อ๊ะ คุณเจษคะพอเถอะค่ะ อายต้องรีบไปเรียนแล้วนะคะ อ๊ะ”
คนตัวโตไม่แม้แต่จะฟังเมื่อร่างแกร่งและแท่งเอ็นร้อน ๆ นั้นยังคงคาอยู่ในกายของเธอในยามเช้าตรู่เช่นนี้ วันนี้เป็นวันที่ต้องเลือกสถานที่ฝึกงานเพราะ “ชลเนตร” นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังปีสามต้องรีบไปมหาวิทยาลัย
“อาาา….อยู่เฉยๆ ฉันยังไม่เสร็จ…อย่าดื้อสิอาย”
“อือ….อึ๊ย!!”
เธอได้แต่ครางเสียงสั่นเพราะทั้งเสียวและเจ็บเนื่องจากรับศึกหนักจากเขามาเกือบทั้งคืน และในเช้าวันนี้เมื่อเธอกำลังจะก้าวลงจากเตียง หมอหนุ่มอายุสามสิบ “เจษบดินทร์” หรือหมอเจษซึ่งเธอเคยนับถือเขาเป็นเหมือนพี่ชายที่รู้จัก เป็นรักครั้งแรก และเจ้านายคนหนึ่งของเธอในเวลานี้ไม่ยอมปล่อยให้เธอลุกจากเตียงไปง่าย ๆ
เสียงกระแทกของเอ็นร้อน ๆ ที่กระแทกเข้ามาไม่ยั้งเมื่อเขาจับเธอหันหลังพร้อมกับตบไปที่บั้นท้ายจนแดงไปพร้อม ๆ กับบีบเคล้นจนเป็นรอยแดง
“อาา……”
สิ้นสุดเสียที……เสียงครางทุ้มต่ำค่อย ๆ หยุดลงพร้อมกับน้ำรักที่ถูกพ่นเข้ามาในตัวเธออีกครั้ง อายก็ค่อย ๆ ดึงชุดนอนของเธอและลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็วด้วยเรี่ยวแรงที่เหลือน้อยเต็มที น่าอิจฉาคุณหมอที่ไม่ต้องตื่นไปทำงานในวันนี้เพราะเป็นวันหยุดของเขา
“น่าสมเพชจังเลยนะอาย”
ชลเนตรมองตัวเองในกระจกห้องน้ำ เนื้อตัวที่เต็มไปด้วยรอยกัด จูบและจ้ำแดง ๆ ฝีมือคุณหมอหนุ่มตั้งแต่เมื่อคืนและเมื่อเช้านี้ ไม่มีครั้งไหนที่เธอจะได้เดินออกจากห้องไปดี ๆ ได้เลย
สาวน้อยในวันยี่สิบสองเร่งรีบอาบน้ำและแต่งกายในชุดนักศึกษาที่ถูกเตรียมเอาไว้ในห้องนอนเล็กอีกห้องซึ่งเขาจัดเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ มิใช่ว่าเขาสนใจเธอแต่เป็นเพราะไม่ต้องเป็นภาระในการไปส่งเธอต่างหาก
“จะไปแล้วเหรอ”
“ค่ะ”
“วันนี้จะกลับบ้านหรือเปล่า”
“คุณพ่อบอกแล้วค่ะว่าให้ไปช่วยป้านิ่มจัดงานเลี้ยงวันเกิดคุณท่าน”
“เชอะ งานน่าเบื่อ”
“อายไปก่อนนะคะ”
“อย่าลืมเอาเงินที่โต๊ะไปด้วย”
“…..”
“ได้ยินหรือเปล่า”
“ค่ะ”
ชลเนตรเดินออกมาพร้อมกับกระเป๋าผ้าที่ใส่อุปกรณ์และเอกสารการฝึกงาน เธอหยิบกระเป๋าสะพายเล็ก ๆ ที่วางข้างนอกไปด้วยพร้อมกับหันไปเห็นธนบัตรปึกใหญ่ที่เขามักจะเอาวางไว้ให้
“ไม่ใช่เมียเก็บสักหน่อย”
เธอคว้าเงินนั้นขึ้นมาเก็บเอาไว้ในกระเป๋า คุณหมอเจษมักจะทำเช่นนี้บ่อย ๆ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่อายก็ไม่เคยจะปฏิเสธเพราะเธอเคยทำแล้ว
“ทำไมไม่เอาเงินไป”
“อายไม่ต้องการ คุณหมอปล่อยอายไปได้ไหมคะ”
“ทำไม เธอหาเรื่องเอง มาตอนนี้อยากถอนตัว ไม่ง่ายแบบนั้นมั้ง”
“คุณหมอคะ!! อายบอกแล้วว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจ!!”
ครั้งนั้นทำให้เธอคลานลงเตียงแทบไม่ได้ ใครจะคิดว่าหมอสูตินรีเวชโรงพยาบาลชื่อดัง ดีกรีอาจารย์แพทย์สุดหล่อ เนี้ยบ พูดน้อยแต่ฝีมือการรักษาติดท็อประดับประเทศ
อีกทั้งเขายังเป็นทายาทของผู้บริหารบอร์ดของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังอีกสามแห่ง เป็นที่หมายปองของสาว ๆ ครึ่งเมืองหลวงจะเป็นคนที่มีรสนิยมบนเตียงที่รุนแรงและดุดันถึงขนาดนี้
มหาวิทยาลัย
“อาย….ที่รัก เราได้ไปที่เดียวกัน ดีใจจังเลย”
“รินก็ไปที่โซรีไนท์เหรอ”
“ใช่ ๆ จะได้เห็นการทำงานจริงสักทีสินะ ใครจะไปรู้งานนี้อาจจะได้เจอดารานายแบบหล่อ ๆ แล้วกระโดดล้มทับ
จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าจะได้เป็นเจ้าหญิงเสียอย่างนั้นเลย”“หึหึ เห็นรุ่นพี่บอกว่าที่นั่นฝึกงานโหดมากนะ ใช้เด็ก ๆ ฝึกงานแทบจะไม่ได้กินไม่ได้นอนเลยล่ะ แล้วงานนอกสถานที่ก็ไปบ่อย ๆ ด้วย”
“ข้อดีคือได้เที่ยว ข้อเสียก็คือถ้ามีแฟนก็เสี่ยงจะทะเลาะกันได้เลยล่ะ แต่เอาน่า สามเดือนเอง”
“อืม”
“อาย…แล้วแบบนี้พ่ออายจะเป็นห่วงหรือเปล่า แล้ว….อีตาหมอซาดิสม์นั่นล่ะ บอกเขาหรือยัง”
ชลเนตรเซ็นเอกสารที่เหลือโดยไม่ได้มองหน้า “ไอรินทร์” เพื่อนสาวคนสนิทคณะนิเทศศาสตร์เหมือนกัน เรื่องของเธอและหมอเจษ มีเพียงรินคนเดียวที่รู้ความเป็นมาเพราะเธอเคยขอความช่วยเหลือไอรินทร์ที่มีประสบการณ์เรื่องนี้ในวันแรกที่เธอพลาดมีอะไรกับคุณหมอเจษ
“ยัง แค่ฝึกงานเขาน่าจะไม่มีปัญหา”
“หึ อีตานี่ก็แปลก ทำเป็นเย็นชาเป็นก้อนหินแต่ดันไม่ยอมปล่อยแก ถึงจะหล่อแต่นิสัยแบบนี้….อาย..เราขอโทษนะ ไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
มือของอายสั่นเล็กน้อยเมื่อพูดถึงเขา
“ไม่เป็นไรเราเริ่มชินแล้ว ที่สำคัญที่รินพูดก็ไม่ผิดเลยนี่นา เราก็แค่….ลูกของคนขับรถของพ่อของเขา”
“อาย….ไม่เอาสิอย่าคิดแบบนั้น ดาวคณะอย่างอายจะหาผู้ชายดี ๆ สักกี่คนก็ได้ จำไม่ได้เหรอตอนที่ได้ตำแหน่งดาวใหม่ ๆ แม้แต่รองเท้ายังมีคนคอยถือให้เลยนะ”
“มันเป็นอดีตไปแล้วล่ะเลิกคุยเถอะ เอกสารเสร็จแล้ว เย้!! เอาไปส่งอาจารย์กันเถอะ”
เมื่อเห็นว่าอายยิ้มได้ รินจึงตบไหล่เพื่อนเบา ๆ และยิ้มตอบกลับไป
“ไปกัน”
เมื่อส่งเอกสารเสร็จก็เกือบเที่ยงพอดี วันนี้อายไม่มีเรียนและเธอก็ตกลงกับรินว่าจะไปซื้อชุดใหม่เพื่อเตรียมที่จะไปฝึกงานในบริษัทโฆษณาที่ไปฝึกงาน แม้ว่าส่วนใหญ่จะสวมชุดนักศึกษาก็ตาม
“ชุดนี้สวยดีนะอาย เหมาะมากเลย เอาไปด้วยสิ”
“อืม สวยดี”
พวกเธอซื้อของมามากพอสมควร ล่วงเลยเวลามานานพอสมควรจนเกือบเย็น อายจึงได้ขอตัวแยกกับรินเพื่อจะเรียกรถกลับไปที่บ้าน ซึ่งเป็นบ้านของหมอเจษที่อยู่ใจกลางเมืองย่านรถติด
“ถึงไหนแล้ว”
“ตอบสิ”
เสียงเตือนมือถือของอายดังเกือบทุก ๆ ห้านาทีซึ่งเธอไม่ได้สนใจกดเข้าไปอ่านเพราะรู้ดีว่าเป็นใครที่ส่งมา ไม่นานเมื่อเห็นว่าเธอไม่รับเขาจึงต้องโทรเข้ามา อายจนปัญญาเมื่อขึ้นไปนั่งบนรถแล้วจึงกดรับสายเขา
“ค่ะคุณเจษ”
“ทำไมไม่อ่านข้อความ”
“อายพึ่งจะหารถกลับบ้านได้ค่ะ”
“อยู่ที่ไหน”
“ตอนนี้…เอ่อ….ใกล้ถึงบ้านแล้วค่ะ”
“ตู๊ด ๆ ๆ”
สายถูกตัดไปอีกครั้งซึ่งเป็นเรื่องปกติเพราะคนอย่างหมอเจษเป็นคนไม่ค่อยมีความอดทนอยู่แล้วอายจึงไม่นึกแปลกใจสักนิด เขาคงแค่อยากตรวจดูว่าเธออยู่ที่ไหนและกลับบ้านหรือยังเท่านั้น
บ้านนิรัชภักดี
รถแท็กซี่จอดหน้าประตูใหญ่ของคฤหาสน์หรูใจกลางเมืองพร้อมกับสายตาที่จ้องมองอย่างสนใจของคนขับรถที่มองไปยังประตูรีโมตอัลลอยด์บานใหญ่ตรงหน้า
“โอ้โห บ้านหลังใหญ่จริง ๆ คุณหนูอยู่ที่นี่เหรอครับ”
อายเปิดกระเป๋าพร้อมหยิบเงินค่าโดยสารออกมาให้คนขับรถ แม้ว่าจะเคยชินกับเหตุการณ์นี้แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีเพราะที่นี่คือจุดเริ่มต้นปัญหาของเธอ
“ไม่ใช่บ้านหนูหรอกค่ะ บ้านเจ้านายน่ะ”
“อ่อ งั้นหรอกเหรอ”
“ไม่ต้องทอนนะคะ”
“โอ้ ขอบคุณมากครับ สวยแล้วยังใจดีอีก”
อายเดินลงมาพร้อมกับถุงจากร้านที่เธอและรินไปซื้อของมาวันนี้ เธอเดินไปเดินเข้าประตูเล็ก ๆ พร้อมกับสแกนลายนิ้วมือเพื่อเปิดมันออก
เมื่อเดินเข้าไป สายตาหนึ่งที่มองเธอมาจากชั้นสองก็ทำให้อายสะดุดเพราะผู้ชายสวมเชิ้ตสีขาวริมกระจกห้องที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดแต่เธอไม่แม้แต่จะเหลือบมองขึ้นไป
เธอเดินไปด้านหลัง ซึ่งเป็นเรือนของคนรับใช้ซึ่งมีห้องสำหรับเธออยู่ที่นั่น แต่ไม่ทันที่จะเดินเข้าไปเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาก่อนจนอายต้องข่มใจก่อนจะกดรับ
“ค่ะ”
“เดินขึ้นมาข้างบนนี้ก่อน”
“แต่ว่าอายจะเอาของไปเก็บ”
“ให้เวลาแค่สามนาที”
“เมียชอบกินอะไรก็ชอบด้วยน่ะถูกแล้ว ไม่ขัดใจเมียคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตปลอดภัย”“ใครสอนมาคะเนี่ย”“คิดเอาเองได้หรอกน่า อยากกินอะไรอีกไหม”“อืม ไปเดินทางนั้นกันค่ะ หนักไหมคะมีแต่ของอายทั้งนั้นเลยแบ่งมาให้อายถือบ้างก็ได้”“ไม่ต้องหรอก อายจับมือพี่ไว้ก็พอ”“ไม่พอหรอกค่ะ”เธอกอดแขนเข้าพร้อมกับพิงไปที่ไหล่ของเขาและเดินไปด้วย หมอเจษถึงกับชอบใจกับท่าทางแบบนี้ของอาย ไม่คิดว่าภรรยาของเขาจะน่ารักขนาดนี้ น่ารักจนเขาคลั่งรักเธอไม่หยุดเลยในแต่ละวัน นึกไม่ถึงว่าเธอเข้ากับงานและพนักงานที่โรงพยาบาลได้รวดเร็วและงานที่เธอทำก็ยอดเยี่ยมทุกงาน ดีจนทีมบริหารคนอื่น ๆ ต่างชื่นชมและยอมรับเธอได้ในเวลาอันสั้น“อายพี่อยากลองกินอันนั้น”“น้ำพริกกุ้งเสียบ พี่เจษกินกะปิได้เหรอคะ”“อยากลองนี่ ซื้อไปหน่อยสิ”“ได้ค่ะ หิวน้ำหรือยังคะ ไปซื้อน้ำกัน เอาน้ำมะพร้าวไหมคะ”“ไม่เอา ขอน้ำมะนาวสดก็แล้วกัน ไม่เอาหวานนะขอเปรี้ยว ๆ หน่อย”อายถึงกับหันมามองหน้าเขาอีกครั้ง นี่เขาแปลกเกินไปหรือเปล่า โดยปกติหมอเจษจะดื่มแค่น้ำแร่และน้ำมะพร้าวแต่วันนี้กลับสั่งให้เธอไปซื้อน้ำมะนาวที่เปรี้ยวจนเข็ดฟันเนี่ยนะ“พี่เจษแน่ใจเหรอคะว่าจะกิน…น้ำมะนาว
หลังจากงานหมั้นจบสิ้นไป อายและหมอเจษใช้เวลาอีกเกือบสองสัปดาห์ที่จะจัดการงานที่คั่งค้างเอาไว้ให้เรียบร้อยก่อนจะจองตั๋วและที่พักในโรงแรมสุดหรูเพื่อเป็นพรีฮันนีมูนของทั้งคู่ เมื่อถึงกำหนดการเดินทางทั้งคู่ก็บินมาถึงภูเก็ตตามเวลาโรงแรม“สวยกว่าที่รีวิวบอกเอาไว้อีกนะคะ”“นั่นสิ สวยมากเลย อายเปลี่ยนใส่บิกินี่สิ เร็ว ๆ เข้า”“พี่เจษ ไหนบอกจะพาไปเดินเที่ยวก่อนไงคะ รถก็เช่ามาแล้วไม่ใช่เหรอบิกินี่อะไรนี่พึ่งมาถึง เราพักตั้งสี่วันอายยังไม่ได้อยากเล่นน้ำตอนนี้เสียหน่อย”“ก็อยากเห็นเมียใส่ชุดว่ายน้ำนี่ อุตส่าห์พาไปซื้อ หรือเอาแบบนี้ ลองไปหาซื้อชุดในเมืองดีไหม อาจจะมีแบบแปลก ๆ กว่าที่พี่ซื้อมา”“คุณหมอ!! ไม่เอาสิคะไม่หื่นตอนนี้ทำไมคุณจ้องแต่จะกินอายคะเนี่ย”หมอเจตแปลงร่างเป็นหมอหื่นไปแล้วหลังจากที่ผ่านงานหมั้นมา ก็คู่หมั้นสาวของเขาน่ากินเสียขนาดนี้มีหรือที่เขาจะหักห้ามใจไหว และยิ่งตอนนี้เขาไม่ต้องเสียเวลาฉีดยาคุมให้เธอแล้วดูเหมือนว่าทั้งผิวและรูปร่างเธอจะน่าจับไปซะทุกส่วน“หยุดเลย นั่นมืออยู่ที่ไหนปล่อยเลยอายจะเก็บของ”“เมียจ๋า แต่ผมหิวแล้วนะ”“ก็โทรไปสั่งมากินก่อนอายจะเก็บของอ๊ะ…พี่เจษ ที่บอกว่าหิ
งานหมั้นหลังจากเรียนจบแล้ว พิธีหมั้นถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายแต่หรูหราและเชิญเพียงญาติและเพื่อนสนิททั้งสองฝ่ายเท่านั้น ส่วนงานสมรสในอีกสองเดือนข้างหน้านั้นจะจัดให้ยิ่งใหญ่และสมเกียรติอีกครั้ง“อีกรูปหนึ่งนะครับ เจ้าบ่าวเจ้าสาวชูแหวนหน่อยครับ”แน่นอนว่างานนี้หมอเจษต้องเรียกใช้บริการคุณอิฐ โมเดลลิ่งที่เคยทาบทามให้อายไปเป็นนางแบบในสังกัดของเขา แม้ว่าจะไม่ได้ร่วมงานกับอายแต่เรื่องสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาล อิฐและบริษัทที่อายเคยฝึกงานอยู่ได้ไปเกือบทั้งหมดเพราะอายเป็นคนดูแลเรื่องการประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาลในฐานะผู้บริหารคนหนึ่งของโรงพยาบาลเต็มตัว“ขอให้ลูกทั้งสองรักใคร่กลมเกลียวเหนียวแน่นจนแก่เฒ่า เจษต้องดูแลน้องให้ดีให้สมกับที่พ่อวัตรเขาไว้ใจมอบน้องให้นะลูก”“ครับพ่อ”“ขอบคุณค่ะพ่อ”“ไปไหว้พ่อวัตรไป”ทั้งคู่ขยับมาทางพ่อวัตรที่เอาแต่เช็ดน้ำตาจนช่างแต่งหน้าเริ่มซับน้ำตาให้ไม่ไหว ป้านิ่มและเด็ก ๆ ในบ้านเริ่มแซวเขาแล้วว่าเป็นแม่หรือพ่อ ทำไมร้องไห้เก่งกว่าเจ้าสาวเสียอีก“ฝากน้องด้วยนะครับ อายเป็นคนไม่ค่อยพูดและชอบคิดมาก บางทีก็ดื้อเงียบจากนี้ก็ฝากคุณหมอจัดการแทนผมด้วย แล้ว
“พี่เจษ ทำไมพี่…”“เดี๋ยวก่อนนะ ฟังให้จบนะเรื่องนี้พี่ไม่ได้เป็นคนเริ่ม”อายหันหน้าหนีและนั่งกอดอกไขว่ห้างเหมือนที่เขาทำ หมอเจษที่เริ่มกลัวว่าอายจะโกรธเริ่มมานั่งที่พื้นตรงหน้าเธออีกครั้ง“ฟังก่อนนะ วันนั้นจำได้ว่าพี่กลับบ้านมาก่อน แต่เธอขับรถตามพี่มาที่บ้าน เธอตามตื้อพี่อยู่นานแล้วพี่ไม่รู้จะสลัดยังไงเลยใช้วิธีนี้ และวันนั้นก็เป็นโอกาสดีเพราะพี่เห็นว่าอายกลับมาแล้วก็เลยใช้ป้านิ่ม…..”“อะไรกันเนี่ย ….ทั้งหมดนั่น….”“ใครใช้ให้อายเย็นชากับพี่ก่อนล่ะ”“เปล่าสักหน่อย อาย…..”เขาพุ่งตัวไปจูบเธอทันที นับตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ตัวเธอในห้องนี้เขาไม่เคยจูบเธอเลยสักครั้ง วันนี้เขาจะทำทุกอย่างเพื่อชดเชยเรื่องความผิดในครั้งแรกที่เขาทำให้เธอกลัวและตกใจ“อาย…พี่ขอโทษที่ใช้แผนการที่ไม่ดีกับอาย แต่พี่อยากให้อายรู้ว่าพี่ในตอนนั้น คลั่งรักอายมากขนาดไหนถึงกับยอมใช้แผนสกปรกนั่นเพื่อให้ได้อายมาครอง”“พี่เจษรักอายตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”“ยังต้องถามอีกเหรอ ตั้งแต่วันที่ยื่นร่มให้ด้วยสายตาเย็นชาในคืนนั้นทำให้พี่สลัดภาพอายออกไปไม่ได้เลย”อายจูบตอบเขาทันที ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้ทั้งคู่เริ่มไม่สนใจเรื่องอื่นแล้วน
หมอเจษไม่เคยทำเรื่องแบบนี้มาก่อน ภาวัตรจากที่ตกใจอยู่แล้วตอนนี้หัวใจเขาแทบจะวายให้ได้เมื่อคนที่เคยเย่อหยิ่งในศักดิ์ศรีราวกับคุณชาย พูดน้อยและไม่ค่อยแสดงออกเรื่องความรู้สึกอย่างหมอเจษถึงกับนั่งคุกเข่าและขอให้ยอมรับเขาในฐานะแฟนของลูกสาว“คุณหมอครับ อย่าทำอย่างนี้เลยครับ โธ่ คุณท่านครับช่วยผมที”“นายคิดว่ายังไงล่ะ จนกว่านายจะตอบตาเจษนั่นแหละ ตกลงว่านายยอมรับเรื่องนี้ได้หรือเปล่า รังเกียจลูกชายฉันไหมที่ไปจะเป็นลูกเขยนาย”“ปัดโธ่คุณท่านอย่าพูดแบบนั้นสิครับ ผมมีหรือจะรังเกียจคุณหมอ แต่ลูกสาวผม…”“หนูอาย หนูรักตาเจษหรือเปล่า”ทั้งสามคนหันมามองหน้าอายพร้อมกัน ตอนนี้ความกดดันทำไมย้ายมาที่เธอแล้วล่ะ ก่อนหน้านี้เธอแทบจะอยู่นอกวงสนทนาเลยไม่ใช่เหรอ“เอ่อ…หนู….”“ลุงวัตรครับ อายเป็นของผมแล้ว ผมรักอายผมอยากอยู่กับเธอ ลุงวัตรยกอายให้ผมนะครับผมสัญญาว่าจะดูแลอายไปชั่วชีวิตครับ”คนเป็นพ่อทั้งสองคนต้องตกใจเมื่อหมอเจษเป็นคนพูดออกมาอย่างชัดเจนว่าเขากับอายเป็นอะไรกัน และรวบรัดเรื่องสู่ของให้ตัวเองอีกด้วย ในเมื่ออายไม่พูดเขาก็จะพูดแทนเธอทุกอย่างเอง“อะแฮ่ม…ผู้หญิงเขายังไม่พูดอะไรเลย แกรู้ได้ยังไงว่าเขาจะแต่ง
หมิวตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด เธอคบกับหมอเจษมาก่อนทำไมจะไม่รู้ถึงความโหดของเขา แม้ว่าเขาจะไม่เคยพูดและไม่เคยหาเรื่องใครก่อน แต่ถ้าลองได้ไปแตะต้องหรือไปยุ่งกับเขา รับรองได้ว่าคนที่หาเรื่องไม่มีทางจะได้อยู่อย่างเป็นสุขอีก“คุณ….คุณ…”“ทำไมล่ะ คุณเริ่มกลัวขึ้นมาแล้วงั้นเหรอ ผมมีทางเลือกให้คุณหากว่าคุณยอมรับได้”หมิวหันไปมองเขาทันทีแม้ว่าจะเป็นทางเลือกไหนเธอก็คงต้องยอมฟังและยอมทำตามเงื่อนไขของเขาเสียแล้วหากยังคิดที่อยากจะอยู่ที่นี่ต่อ“คุณ….มีเงื่อนไขอะไร”“ผมจะไม่แจ้งความก็ได้….”“เจษคะ คุณพูดจริง ๆ เหรอคะ”“แลกกับ….เมื่อกี้คุณบอกว่ายังไงนะ กราบเท้าขอโทษ”“เจษคะ!! คุณคงไม่คิดที่จะให้หมิว…”“ตาเจษ นั่นมันก็ออกจะเกินไปหน่อยนะ”“พี่เจษคะ อายก็ไม่ต้องการค่ะ”“แหม คุณนี่โชคดีจริง ๆ ทั้งพ่อผมและแฟนผมใจดีกับคุณมาก”“เจษคะ คุณคงจะไม่…”“งั้นก็มีอีกทางเลือกหนึ่ง”“เจษคะ ขอแค่ไม่แจ้งความ…”“คุณไปเขียนใบลาออกไปซะ แล้วเลิกยุ่งกับผมเสียที”ราวกับฟ้าผ่าแสกหน้า เขาไม่หลงเหลือเยื่อใยให้เธอเลยสักนิดจริง ๆ ไม่คิดว่าผ่านไปไม่ถึงสี่ปีแต่เจษบดินทร์ที่เคยร้องไห้อ้อนวอนและขอร้องเธอในวันเก่านั้น ในตอนนี้เขากลายเป็
ความคิดเห็น