Home / โรแมนติก / คาถาพันธุ์ / บทที่ 8 ณิคออ่อน ผมคอวยแข็ง

Share

บทที่ 8 ณิคออ่อน ผมคอวยแข็ง

Author: inglada
last update Last Updated: 2025-06-06 17:48:38

“แหม เพื่อนก็จริงจังไปได้พวกกูแหย่เล่นเองน่า” พชรหัวเราะแห้งๆ ออกมาเมื่อสายตาของคาถาเข้มขรึมขึ้นเรื่อยๆ เหมือนอยากจะกระโดดเข้ามาฉีกเนื้อพวกเขาให้ขาดหลุดรุ่ยให้ได้

“เด็กๆ ของมึงเอาซุกไว้ดีแล้วใช่มั้ย?”

“ระดับมันไม่มีซุกหรอก เด็กใหม่ต้องยอมรับเองต่างหาก”

“พวกมึงก็ยังไม่หยุดพูดอีกนะ” เรือนส่ายหัวให้สองหนุ่มที่แม้จะบอกว่าแหย่เล่นและถูกคาถาจ้องเขม็งครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ก็ยังไม่หยุดพูดสักทีจนเขาล่ะกลัวว่าจะมีอะไรสักอย่างจากมือคาถาลอยไปปะทะหัวพวกมันน่ะ

“แต่ว่านะ ณิไม่ได้เป็นเด็กของเขาณิเป็นว่าที่ภรรยาต่างหาก” เด็กสาวเเย้งเสียงแผ่ว แม้ก่อนหน้านี้จะคิดว่าเขาต้องการผู้หญิงมาบำเรอตัวเองแต่ก็ไม่ได้อยากเป็นจริงๆ แถมเขายังบอกเองว่าให้เธอมาเป็นภรรยา

“ก็จริง”

“ก็จริงแล้วก็ช่วยหุบปากหมาๆ ของพวกมึงด้วย”

“โอเค ไม่แหย่แล้วเหมือนจะเริ่มโมโหจริงๆ แล้วสิ” อันเฟยพูดพลางยกแก้วเหล้าขึ้นกระดกดื่ม

คณิกามองพวกเขาด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ ดวงตากลมโตมองไปรอบๆ อย่างเบื่อหน่าย เบื่อหน่ายที่ไม่รู้จะคุยอะไรกับพวกเขาซึ่งเป็นผู้ชาย หากมีเพื่อนหรือมีผู้หญิงมานั่งคุยด้วยคงจะสนุกกว่านี้ไม่น้อย

“ณิดื่มด้วยได้มั้ย” เอ่ยถามคนข้างกายเพราะตอนที่มานั่งเขาสั่งน้ำผลไม้มาให้และคิดว่าเขาไม่อยากให้ดื่ม แต่ที่ถามเพราะคิดว่าหากได้ดื่มคงจะกล้าพูดคุยกับพวกเขาได้มากกว่านี้แน่นอน

“ไวน์?”

“ไม่ค่ะ อยากดื่มเหล้าเหมือนคุณ”

“เดี๋ยวเมา”

“ดื่มเหล้าก็ต้องเมาปะมึง” เรือนแย้งพร้อมเสียงหัวเราะในลำคอ คาถานิ่งเงียบไปพักหนึ่งแล้วหยิบแก้วกับเหล้ามาชงให้คณิกาแบบไม่แรงมากนัก หญิงสาวรับแก้วมาแล้วกระดกดื่มด้วยรอยยิ้มหวานๆ

“ปกติดื่มบ่อยมั้ยครับ”

“ตอนเรียนอยู่ต่างประเทศดื่มทุกวันเลยแต่กลับมาสี่ห้าเดือนนี้แทบไม่ได้ดื่มเลยค่ะ”

“อยู่กับมันได้ดื่มบ่อยๆ แน่ครับ ร้านเหล้า ผับ คลับ เลานจ์มันเข้าหมดแหละ ทุกวันด้วย”

“มีสาวๆ มานั่งด้วยหรือเปล่าคะ” เหล้าเข้าปากเเล้วก็เริ่มกล้าถาม

“อย่าให้ได้พูดเลยครับ”

“อยากพูดก็พูดเลยไม่ต้องมาเกริ่นนำเรื่องแบบนี้หรอก “เจ้าของเรื่องอย่างคาถากล่าวเสียงราบเรียบ เขาไม่กลัวอะไรอยู่แล้วเพราะไม่มีเรื่องจริงสักเรื่องจากปากคนพวกนี้น่ะ จงใจให้เด็กสาวข้างกายเขาเข้าใจผิดอย่างกับว่าเป็นเรื่องสนุกของพวกมัน

“มันไม่มีเรื่องสาวๆ หรอกครับ ทำแต่งานหามรุ่งหามค่ำจนเงินมันล้นบัญชีออกมาแล้ว ณิมาเป็นภรรยามันนี่ถือว่าเป็นผู้หญิงที่โชคดีมากเลยนะครับ”

“นานทีเลยนะครับจะพูดเรื่องดีๆ ของนายน้อย” อาติณที่นั่งจิบเหล้าแบบเงียบๆ เอ่ยขึ้นบ้าง แม้จะรู้ว่าเพราะถูกคาถาจ้องเขม็งรอบที่สามแล้วพชรถึงพูดเรื่องดีๆ ของนายน้อยและหากถูกมองเป็นครั้งที่สี่จะไม่ใช่แค่มองแต่อาจจะมีขวดเหล้าแก้วเหล้าลอยไปด้วยนี่สิ

“ยังไม่อยากหัวแตกว่ะ”

“อืม พวกคุณมีแฟนหรือยังคะ?” เสียงหวานเอ่ยถาม แก้มที่ขาวป่องก่อนหน้านี้เริ่มระเรื่อจากการดื่มแอลกอฮอล์แล้ว

“จะจีบรึไง”

“ไม่ใช่ค่ะ ณิแค่อยากมีเพื่อนบ้างถ้าพวกเขามีแฟนจะได้ทำความรู้จักกับแฟนพวกเขาไงคะ”

“น้ำหน้าอย่างพวกมันใครจะเอาไปทำผัว”

“ก็มีแหละ” เรือนยักไหล่ให้เบาๆ

“เดี๋ยวก็เลิกกัน”

“แช่งกู?” หันไปมองค้อนคาถาที่จู่ๆ ก็แช่งกันซะงั้น

“หึ “

“จะว่าไปณิก็ไม่มีเพื่อนเลยเนอะ” คณิการำพึงขึ้นเมื่อมองเพื่อนของคาถา มองไปรอบๆ ตัวล้วนแต่เห็นทุกคนอยู่กันเป็นกลุ่มกับเพื่อนตัวเอง

ต่างจากเธอที่ไม่มี เคยมีแค่เพื่อนในวัยเรียนที่พอเรียนจบก็แยกย้ายกันไม่ได้มีเพื่อนสนิทที่จะไปไหนมาไหนด้วนกันตลอด

“ว่าอะไรนะครับ” คาถาที่ได้ยินไม่ชัดเพราะคนข้างกายพูดเบาจึงต้องเอียงหูไปใกล้เธอ

“ณิบอกว่าณิไม่มีเพื่อนเยอะเหมือนคุณบ้างเลย” ครั้งนี้เธอพูดดังขึ้น ถอนหายใจออกมาเบาๆ ยกแก้วน้ำเมาขึ้นมากระดกดื่มอีกครั้ง

“เพื่อนผมก็เหมือนเพื่อนคุณนะ”

“แต่พวกเขาอายุเยอะกว่าณินะคะ”

“ถือว่าเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของณิได้ครับ” พชรเอ่ยแทรกขึ้น

“ใช่ๆ แต่ว่านะไอ้คาถามันมีน้องสาวด้วยนะรุ่นเดียวกับณิเลย”

“จริงเหรอคะ” หันไปถามคนข้างกายซึ่งเขาก็พยักหน้ารับ

จะว่าไปแล้วเธอก็ยังไม่ได้รู้จักอะไรเขาดีมากนักเลย มีแต่เขาที่รู้จักเธอดีแทบทุกอย่าง แต่ไว้ค่อยทำความรู้จักวันพรุ่งนี้ละกันเพราะตอนนี้นั้นคนรอบตัวเธอหมุนติ้วๆ ไปหมดแล้ว

“ชื่อบัวขวัญ อยู่คอนโดน่ะไม่ค่อยได้กลับบ้านหรอก”

“ณิจะได้เจอเธอมั้ยคะ?”

“ไม่อยากให้เจอหรอก มันดื้อ แสบ แรด”

“น่ารักด้วย” อาเฟยเอ่ยต่อท้ายประโยคของคาถาที่เมื่อพูดถึงน้องสาวแล้วเริ่มจะฉุนเฉียวขึ้นมาเพราะเจ้าตัวแสบนั่นดื้อกับพี่ชายเสียยิ่งกว่าอะไร

คาถาพี่ชายในวัยสามสิบสองที่นอกจากมีความเป็นผู้ใหญ่ในตัวสูงแล้วยังเข้มงวดกับน้องสาวที่มีอายุเพียงแค่ยี่สิบปีซึ่งอยู่ในวัยกำลังเที่ยว แน่นอนว่าก่อนหน้านี้สองคู่นี้มีปัญตบตีกันบ่อยๆ

จนขึ้นมหาวิทยาลัยบัวขวัญจึงออกไปเช่าคอนโดอยู่นอกบ้านแทน เพราะเธอค่อนข้างจะชอบอิสระ บัวขวัญเป็นผู้หญิงมั่นๆ สวยแซ่บ ปากจัด แต่คนในกลุ่มจะรู้ว่าเธอเป็นคนที่หวงพี่ชายอย่างคาถามากและหากรู้ว่าคาถาพาภรรยามาอยู่บ้านจะต้องมาสำรวจตรวจสอบว่าที่พี่สะใภ้แน่นอน

“แน่จริงก็เอาให้อยู่ดิ”

“มึงก็ไปท้ามันนะ ถึงวันที่ต้องเรียกมันว่าน้องเขยขึ้นมาล่ะกูจะหัวเราะให้ “เรือนว่าพลางยกแก้วเหล้าขึ้นมากระดกดื่ม ส่งเสียงหัวเราะหึหึในลำคอเมื่อเห็นอันเฟยหันไปเล่นหูเล่นตาใส่คาถา

“น้องสาวมึงออกจะน่ารัก”

“สำหรับมึงไง” พชรส่ายหัวเบาๆ ส่วนตัวเขากับบัวขวัญก็เหมือนๆ คาถา ไม่ลงรอยกันสักเท่าไหร่ เจ้าเด็กนั่นทะเลาะกับพี่ชายทีไรก็หันมาพาลเขาทุกรอบ

“เด็กอะไรไม่รู้แม่งโคตรแรดฉิบหาย อายุยี่สิบมีแฟนสิบกว่าคนมึงสู้ได้เปล่า” ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือความในใจเขาถึงได้พูดคำหยาบออกมาเยอะกว่าตอนที่พูดกับคณิกาซึ่งตอนนี้นั่งเท้าคางมองเขาด้วยรอยยิ้มหวานตาฉ่ำวาวอยู่

เธอชอบเวลาที่เขาอยู่กับเพื่อนแล้วเป็นตัวของตัวเองแบบนี้ มันดูน่ารักดี ไม่ใช่ว่าตอนที่อยู่กับเธอเขาไม่เป็นตัวของตัวเองนะตอนอยู่ด้วยกันเธอก็ชอบเขา ชอบที่เขาไม่แสดงแต่ปรับเปลี่ยนบทบาทให้เข้ากับคนที่พูดคุยด้วยน่ะ

เวลาที่พูดกับเพื่อนเขาจะไม่เก็บกักอะไร คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น แต่กับเธอเขาเลือกที่จะใช้คำพูดที่ไพเราะ มีความอ่อนโยนนุ่มนวลแม้ในบางครั้งจะดุหรือตำหนิเขาจะไม่พูดจาแรงๆ ใส่ แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเพิ่งเจอกันหรือเปล่านะเขาถึงยังให้เกียรติเธออยู่น่ะ

“ก็จะสามสิบแล้วต้องผ่านมาเยอะกว่าสิบคนดิวะ”

“ลากขึ้นเตียงอย่างเดียวอ่ะนะ” เรือนเย้าแหย่ หากนับกันจริงๆ ในกลุ่มนี้คนที่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนที่สุดคงจะเป็นเขาล่ะมั้ง ส่วนคนอื่นโดยเฉพาะคาถานั้นไม่เคยมีแฟนเลยสักคน ส่วนเรื่องลากขึ้นเตียงนั้นไม่ต้องพูดถึง มีกันทุกคน

“มึงก็พูดไป คาถาเมียมึงเมาแล้วนั่น” บุ้ยปากไปทางคณิกาที่ตอนนี้เอนศีรษะพิงหัวไหล่ของคาถาแล้ว ชายหนุ่มใช้นิ้วจิ้มลงบนแก้มนุ่มเบาๆ เธอจึงเงยหน้าขึ้นมามองเขาพร้อมฉีกยิ้มหวานให้จนเห็นฟันที่เรียงสวยแทบทุกซี่ในปาก

“งั้นกูกลับก่อน”

“เค ขับรถดีๆ”

“อืม” พยักหน้ารับยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มจนหมดแก้วแล้วพยุงตัวแฟนสาวให้ลุกขึ้นยืนจากนั้นก็จูงมือเธอพาเดินออกไปขึ้นรถ “จะอ้วกมั้ยครับ?” หันไปถามเธอหลังจากเข้ามานั่งในรถและกำลังจะคาดเข็มขัดนิรภัยให้

“ม่ายอ้วกค่า” ตอบเสียงยาน

“ถ้าจะอ้วกบอกนะครับ”

“ค่ะ” ยกมือขึ้นไปประคองใบหน้าคมไว้ตามด้วยจุ๊บริมฝีปากหนาเป็นสิบครั้งจนคนที่ถูกจูบถึงกับใจสั่น จับมือเธอออกแล้วสตาร์ทรถขับออกไปพยายามจะไม่สนใจกับสิ่งเร้าข้างกายที่มือไม้เธอเริ่มจะไม่อยู่สุขแล้ว

“กลับบ้านก่อนนะครับ”

“ณิเมาค่ะ”

“ผมเห็นครับ” ก่อนหน้านี้เขาก็พอดูออกว่าเธอเมาแต่อาจจะเพราะยังไม่สนิทจึงไม่กล้าพูดหรือทำอะไรจึงได้แต่มองหน้าเขา ยิ้มคนเดียว พิงไหล่เขาพึมพำอะไรอยู่คนเดียวไม่ได้โวยวาย นับว่าเป็นคนเมาที่ดีเยี่ยมคนหนึ่ง

“ณิคออ่อนดื่มนิดเดียวก็เมาแล้ว คุณคาถาแข็งมั้ยคะ?”

“แข็งครับ”

“คอแข็ง?”

“ค...ครับ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คาถาพันธุ์   บทที่ 34 สุดที่รักของคาถา The end

    บรรยากาศภายในโต๊ะที่เงียบสงัดราวๆ สิบนาที...“หนูกำลังอยู่ในช่วงฝึกทำอาหารคิดว่าถ้าทำอร่อยแล้วจะใส่กล่องมาให้พี่ทาน” “ไหนล่ะ?” “เพราะว่ามันยังไม่อร่อยเลยไม่อยากทำมาให้น่ะ” บอกด้วยรอยยิ้มเมื่อเขาพูดกับเธอแล้ว “แล้วนี่พี่คาถาทานข้าวหรือยังคะ?” “ไม่หิว” “อืม ดื่มกาแฟอย่างเดียวจะอิ่มเหรอเราไปทานข้าวที่ร้านอาหารกันดีมั้ยคะ เดี๋ยวหนูเลี้ยงเองค่ะ” “ทำไมไม่ไปทำงานที่บริษัท” นอกจากไม่ตอบเรื่องที่เธอถามแล้วเขายังเปลี่ยนเรื่องอีกด้วย คณิกาเม้มปากตัวเองเล็กน้อย ไม่ได้ไปทำงานที่บริษัท ใช่! เธอไม่ได้ไปทั้งที่เขาอนุญาตให้ไปทำได้ก็เถอะเพราะไปเจอหน้าเขาแต่เข้าไปคุยไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนไง เลยคิดว่าไม่ไปเจอน่าจะดีกว่า...“ไปก็ไม่ได้คุยกับพี่ หนูเลยไม่อยากไป” “ทำไมถึงไม่ได้คุย?” จ้องหน้าเด็กสาวที่มีท่าทางเริ่มประหม่าขึ้นมาจนมือที่วางอยู่บนโต๊ะถูกชักกลับไปวางบนหน้าตัก เธอหลบสายตาเขาทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังมองหน้าเขาอยู่“ก็เราเลิกกันแล้ว...” “...” “พี่คะเรากลับมาคบกันนะคะ หนูรู้แล้วว่าหนูรักพี่มากแค่ไหน มากจนกินไม่ได้นอนไม่หลับกระสับกระส่ายทุกวัน มองผู้ชายคนอื่นก็เป็นหน้าพี่ไปหมด ทำอะไรก็นึกถึงแต่ช่

  • คาถาพันธุ์   บทที่ 33 ง้อ

    เสร็จงานทุกอย่างแล้วไม่กี่วันต่อมาพวกเขาก็เดินทางกลับ เมื่อถึงบ้านคาถาก็ลงจากรถเดินตรงเข้าไปด้านในโดยไม่ได้เรียกหรือเอ่ยชวนคนตัวเล็กเข้าบ้านเลยแม้แต่น้อย“พี่คาถาคะ” และคณิกาไม่จำเป็นต้องรอให้เขาเชิญชวน เธอรีบวิ่งลงจากรถไปหาเขาที่พอได้ยินเสียงฝีเท้าเล็กวิ่งก็รีบหยุดเดินหันมามองเธอด้วยสายตาดุๆ เหมือนต้องการเอ็ดที่เธอวิ่ง“กะ ก็พี่ไม่รอหนู” อยู่ด้วยเกือบสองเดือนเธอเองก็เริ่มจะเข้าใจสายตาและการสื่อสารที่ไม่ต้องพูดของเขาแล้วล่ะ เขาไม่ได้พูดอะไรเดินตรงเข้าไปในบ้านทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาพร้อมหันไปรับแก้วน้ำจากแม่บ้านที่เดินนำมายื่นให้“เรากลับมาคบกันอีกครั้งได้มั้ย พะ พี่ให้โอกาสหนูอีกสักครั้งได้มั้ยคะ” คณิกาเดินไปหยุดด้านหน้าเขา เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือก้มหน้าลงไม่กล้าสบตาคนตรงหน้า แม้จะรู้ว่ามันไม่ใช่เวลาสมควรเพราะเขาเพิ่งเสียแม่ไปแต่ว่าอยากรีบคืนดีกับเขา อยากอยู่ปลอบใจเขาต่อ...“ถ้าบอกว่าไม่ได้” “...หนูรู้แล้วว่าคนที่หนูรักคือพี่ หนูรู้แล้วว่าตัวเองอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพี่” ” เพราะไม่มีผมหรือเพราะไม่มีเงินของผมกันแน่” “หนูไม่ได้เห็นแก่เงิน หนูขอโทษจริงๆ ขอโทษที่เอาแต่ใจงี่เงาไม่รู้จักโต หนึ

  • คาถาพันธุ์   บทที่ 32 ดูแลกันดีๆ

    ใช้เวลาในการเดินทางไปต่างประเทศเวลาค่อนข้างนาน เมื่อมาถึงก็มีรถมารอรับพวกเขาที่สนามบินไปส่งตรงยังบ้านสุดหรูของคุณปภาวีและสามีที่นั่น พวกเขาที่ว่านอกจากคาถากับคณิกาแล้วยังมีนับเพชรและอินทร์มาด้วย“พี่คาถาคะคุณป้าอยู่ไหนเหรอ” นับเพชรเดินไปควงแขนคาถาพร้อมเอ่ยถามทั้งที่ยังไม่มีใครเดินเข้าไปในตัวบ้านและมาพร้อมกันแน่นอนว่า...“ผมไม่รู้” จับมือของนับเพชรให้ออกแล้วดันตัวคณิกาให้เดินนำหน้าตามแม่บ้านเข้าไปในตัวบ้าน มีเสียงหัวเราะจากอินทร์ดังมาเล็กน้อยแต่เมื่อเข้ามาในตัวบ้านทุกคนต่างก็เงียบทันที“คุณแม่ล่ะครับ? “ชายหนุ่มเอ่ยถามผู้เป็นพ่ออย่างคุณจิรเมธ ซึ่งมีสีหน้าไม่ค่อยดีคงเพราะว่าเครียดเรื่องการป่วยของภรรยาและยังทำใจไม่ได้“นอนเล่นอยู่หลังบ้าน น้องณิแม่เขารอหนูอยู่นะ” “รอหนู?” “อืม พ่อฝากเอาน้ำส้มนี่ไปให้แม่ด้วยสิ” พูดจบก็ยื่นแก้วน้ำส้มในมือที่คาดว่าน่าจะมาเอาไปให้ภรรยายื่นให้คณิกาที่ก็รับมา จากนั้นคุณจิรเมธก็เดินออกไปนั่งหน้าบ้าน คาถาจึงจูงมือคณิกาพาตรงไปทางหลังบ้านโดยมีสองสาวเดินตามไปอย่างเงียบๆ“คุณป้าคะ คุณลุงให้เอาน้ำส้มมาให้ค่ะ” ร่างเล็กเดินไปนั่งยองข้างเก้าอี้โยกที่คุณปภาวีกึ่งนั่งกึ่

  • คาถาพันธุ์   บทที่ 31 เคียงข้าง

    มาถึงคอนโดคณิกาก็รีบเข้าห้องไปเก็บเสื้อผ้าในกระเป๋าโดยมีแม่นันท์เดินตามเข้ามาดูด้วยความเป็นห่วง “น้องณิเก็บผ้าจะไปไหนลูก” ถามพร้อมนั่งยองข้างบุตรสาวที่กำลังพับผ้าใส่กระเป๋าเดินทาง“ไปหาหาคุณแม่พี่คาถาค่ะพี่เขาจะพาไป ขึ้นเครื่องตอนหนึ่งทุ่มเดียวตอนห้าโมงเขาให้พี่อาติณมารับค่ะ” ร่ายยาวออกมาขณะที่มือกำลังพับผ้าอยู่ คนันท์มองบุตรสาวที่พับผ้าไปยิ้มไปก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้“คืนดีกับพี่เขาแล้วเหรอคะ?” “...เปล่าค่ะ” “แล้วทำไมถึงยิ้มแย้มแบบนี้” “แม่อยากให้หนูร้องไห้ทั้งวันทั้งคืนเลยเหรอคะ” “ไม่อยากแต่แม่แค่สงสัย เห็นยิ้มร่าเริงคิดว่าจะคืนดีกันแล้วซะอีก” “เดี๋ยวเดินทางไปหาคุณแม่เขา หนูจะค่อยๆ ง้อเขาอีกทีค่ะ” หันหน้ามามองแม่แล้วขยับไปโอบกอด “แม่ต้องเป็นกำลังใจให้หนูง้อเขาได้สำเร็จนะคะ” “จ้า แม่จะเป็นกำลังใจให้แต่ถ้าง้อเขาได้แล้วหนูต้องเป็นภรรยาที่ดีให้เขาด้วยนะ” “พูดแต่ให้หนูทำดีกับเขา แม่ไม่กลัวเขาจะทำร้ายหนูบ้างหรือไง” “น้องณิ หนูรู้มั้ย...พี่คาถาเขาเคยไปสู่ขอหนูจากพ่อกับแม่ด้วยนะ” น้ำเสียงที่อ่อนนุ่มของคนันท์เอ่ยบอกบุตรสาว ที่จริงคาถากำชับไม่ให้เธอบอกคณิกาแต่เธอคิดว่าบอกไปเจ้าเด็กน้อย

  • คาถาพันธุ์   บทที่ 30 เด็กดื้อขี้แย

    “เดี๋ยว” คาถาเอ่ยเรียกหญิงสาวตัวเล็กที่ยิ้มร่ากระโดดดี๊ด๊าด้วยความดีใจหลังจากที่เขาบอกให้เธอกลับไปเก็บเสื้อผ้าเพื่อจะเดินทางไปเยี่ยมคุณแม่ของเขา“คะ?” “ให้อาติณพาไป” “อืม ไม่เป็นไรคะหนูไปเองได้” พูดจบก็กึ่งเดินกึ่งกระโดดออกไปจากหลังบ้าน คาถาเรียกคนสนิทอย่างอาติณสั่งให้พาคณิกาไปเก็บเสื้อผ้าที่บ้าน ส่วนตัวเขาก็โทรไปบอกให้น้องสาวหาจองตั๋วในการเดินทางวันนี้ให้ และเตรียมจะขึ้นไปเก็บเสื้อผ้า...“คุณณิครับ นายน้อยบอกให้ผมพาไป” อาติณวิ่งตามร่างเล็กออกมาพร้อมเอ่ยเรียกไว้ คณิกากันมามองเขาตาใส่แป๋ว เธอหยุดนิ่งจ้องคนตรงหน้าด้วยแววตาสั่นระริกก่อนที่น้ำตาจะไหลลงมาอาบแก้มเนียนขาวสร้างความตกใจแก่อาติณเป็นอย่างมาก“ฮรึก! ฮือออออ!” “คะ คุณณิเป็นอะไรครับ ผะ ผมไม่ได้ทำอะไรเลย” ประโยคหลังเขาหันไปบอกคาถาที่เดินตรงมาอย่างรวดเร็วเหมือนกับว่าก่อนหน้านี้ยืนมองอยู่ เขาส่งสายตาดุให้คนสนิทแล้วถอยหลังหนีเล็กน้อย“เป็นอะไร” ร่างสูงเอ่ยถามคนตัวเล็กเสียงราบเรียบ พยายามใจแข็งกับเด็กสาวตรงหน้าให้ถึงที่สุดแม้ว่าภายในใจอยากจะถามจับตัวเธอหมุนดูว่าเป็นอะไรแค่ไหนก็ตาม“ผะ ผึ้ง ฮรึก! ผึ้งต่อย” ยกแขนให้ชายหนุ่มดูก็พบกับผึ้

  • คาถาพันธุ์   บทที่ 29 หนูท้อง

    “แม่คะ หนูรักเขานะ...” “รักเขาแล้วพูดแบบนั้นทำไม ลองเขาพูดว่าเบื่อหรือรำคาญลูกบ้างลูกจะรู้สึกยังไง” “เสียใจ...” “เขาก็เป็นคนนะน้องณิ หนูต้องเข้าใจความรู้สึกเขาด้วยสิลูก” คนันท์พูดอย่างตำหนิบุตรสาว ถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อเห็นสีหน้าที่เศร้าสร้อยของคณิกา “แล้วที่มาขังตัวเองอยู่แต่ในห้องนี่ได้อะไรมั้ย?” “...” ส่ายหัวให้แทนการตอบ“ลูกสาวแม่เป็นเด็กฉลาด แต่ทำไมเรื่องแค่นี้ไม่มีความคิดบ้างเลยนะ รู้ว่าขังตัวเองไว้ไม่ได้ประโยชน์แล้วทำไมไม่ไปหาอะไรทำที่มันได้ประโยชน์อย่างเช่นกลับไปทำงาน” “กลับไปทำงานเหรอ?” “ใช่ กลับไปทำงานบางทีอาจจะได้เจอเขาก็ได้นะ” “แล้วถ้าเจอเขากับผู้หญิงคนอื่นล่ะคะ” เขาย้ำกับเธอเสมอว่าอยากมีภรรยาอยากมีลูกและอยากสร้างครอบครัว ในเมื่อเธอทำให้เขาไม่ได้บางทีเขาอาจจะหาผู้หญิงคนอื่นมาทำหน้าที่แทนเธอ“แล้วอยากปล่อยให้เขาไปมีผู้หญิงคนอื่นมั้ยล่ะ?” “ไม่อยาก...” “ไม่อยากก็ยิ่งต้องกลับไปทำงาน ไปอยู่ใกล้ๆ เขา” “แม่คะ” “หื้ม?” “จริงมั้ยที่พ่อกับแม่ขายหนูให้คุณคาถา” ถามเสียงอ่อนๆ มันเป็นสิ่งที่เธออยากรู้อยากเข้าใจเหตุผลของแม่กับพ่อที่สุดเลย“หนูรู้ใช่มั้ยว่าบ้านเราล้มละลาย?”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status