แชร์

บทที่ 7 เมียคาถา

ผู้เขียน: inglada
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-06 17:48:09

บ้านคาถา…

ใช้เวลาจัดการตัวเอง ทานข้าวเช้าเก็บข้าวเก็บของเกือบสิบโมงเช้า เดินทางไปขึ้นเครื่องบินและมาถึงบ้านของคาถาในเวลาสามโมงเย็นกว่าๆ ร่างเล็กก็เดินมาทิ้งตัวนอนหมดสภาพอยู่บนโซฟากลางบ้านอย่างเหนื่อยล้า

เธอยังไม่ได้สำรวจอะไรมากนัก ยังไม่ได้ทำความรู้จักกับใครสักคนเพราะตอนนี้ลำพังแรงจะเดินยังไม่มีเมื่อเช้ากว่าจะได้อาบน้ำนั้นก็เกือบๆ สองชั่วโมงเห็นจะได้

“เดี๋ยวผมจะออกไปทำธุระข้างนอก”

“ณิต้องไปด้วยมั้ยคะ”

“อยากไปมั้ยล่ะ”

“ไว้วันอื่นได้มั้ยคะ ณิอยากไปแต่ก็อยากนอนพักมากเลย” คณิกาพูดพร้อมขยับไปนั่งใกล้คาถา ซบหน้าแนบต้นแขนเขาพร้อมหลับตาลง ใจนึงอยากสำรวจบ้านและออกไปทำงานกับเขา แต่อีกใจนึงอยากนอนหลับสักหนึ่งวันเต็มๆ มากกว่า

“ได้ครับ”

“ห้องนอนอยู่ไหนคะ ณิอยากไปนอนแล้ว”

“ให้ผมอุ้มมั้ยครับ” ถามร่างเล็กที่หยัดกายลุกขึ้นยืนทีหนึ่งก็หน้าเหยเกทีหนึ่ง เธอสั่นหัวให้เขาแทนคำตอบ คาถาจึงจูงมือเล็กพาขึ้นไปยังชั้นสองตรงไปยังห้องนอนของเขา

“กระเป๋าเสื้อผ้าณิล่ะคะ”

“ให้แม่บ้านเอาเสื้อผ้าออกไปซักให้ พวกของใช้กับเครื่องสำอางอยู่ในห้องแต่งตัว” ชายหนุ่มบอกพลางชี้นิ้วไปยังห้องแต่งตัว คณิกาพยักหน้ารับไม่ได้ซักไซ้อะไรต่อเดินไปทิ้งตัวนอนคว่ำลงบนที่นอน

“ที่จริงเสื้อผ้าณิซักมาหมดแล้วนะคะ”

“ผมรู้ครับ แต่ระหว่างนั่งเครื่องมาอาจจะมีฝุ่นเข้าไปเกาะ”

นั่งเครื่องบินสองสามชั่วโมงเองนะ ไม่ใช่สองสามปีสักหน่อย

“อืม ณิง่วง...” บอกเสียงเอื่อยๆ เปลือกตาหนักอึ้งเริ่มไม่ไหวแล้วจริงๆ ไม่เคยคิดว่าการมีเซ็กส์จะเป็นอะไรที่เหนื่อยล้ายิ่งกว่าการทำงานหนักเสียอีก คาถาเดินไปหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงของคณิกาแล้วเมมเบอร์ตัวเองลงไป

“ถ้างั้นก็นอนพักผ่อน ตอนมืดๆ เดี๋ยวผมให้อาติณมารับหรือถ้างานเสร็จเร็วก็อาจจะมารับเอง”

“รับไปไหนคะ”

“ไปดื่มครับแต่ยังไม่รู้ว่าจะที่ไหน”

“อ่อ โอเคค่ะ” ยกมือขึ้นทำโอเคให้เขา “ว่าแต่อาติณคือใครคะ?” อยากรู้อยากถามอยากคุยมากกว่านี้นะ แต่ตามันไม่ไหวง่ะ

“คนสนิทของผมที่ไปรับเราที่สนามบิน”

“อือ”

“...” มองคนตัวเล็กที่พลิกตัวนอนหงานหลับตาพริ้มไปแล้ว คาถายืนมองเธออยู่พักหนึ่งจนได้ยินเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของคนตัวเล็กจึงเดินไปหยิบรีโมทมาเปิดแอร์ไว้ให้เธอแล้วเดินออกไปทำงานของตัวเองปล่อยให้ว่าที่ภรรยาเด็กคนนี้นอนหลับไปอย่างสบาย

....

หลับพักผ่อนไปยาวๆ จนเกือบสองทุ่ม คณิกาก็ลุกไปอาบน้ำทำให้ร่างกายได้สดชื่นกว่านี้ เธอนุ่งผ้าขนหนูออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินสำรวจห้องนอนของคาถา ห้องนอนขนาดใหญ่กว่าห้องนอนที่บ้านเธอเป็นเท่าตัวเลยล่ะ สไตล์การแต่งห้องจัดไปทางโทนเทาดำซะเป็นส่วนใหญ่ สำรวจทุกอย่างเสร็จแล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าก็พบว่าชุดของเธอถูกแขวนไว้ในตู้สีขาวเรียบร้อยแล้ว

แกร่ก! เสียงประตูห้องถูกเปิดเข้ามาทำให้คณิกาละมือจากการเลือกเสื้อผ้าเดินไปดู ก็พบว่าเป็นคาถา เขามองเธอพร้อมยื่นเสื้อสูททำงานให้ซึ่งคนตัวเล็กก็รับมาแล้วนำไปใส่ตะกร้าผ้าไว้

“แต่งตัวนะ เดี๋ยวพาไปคลับ” คาถาพูดจบก็เดินไปยืนริมระเบียงนอกห้อง หยิบบุหรี่และไฟแช็กในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาจุดสูบ

คณิกายืนมองเขาอยู่ครู่หนึ่งแล้วเดินไปแต่งตัวเป็นเสื้อสายเดี่ยวสีขาวกับกางเกงยีนส์ขาสั้นจากนั้นก็เดินออกไปยืนข้างเขา

“ผมสูบบุหรี่อยู่”

“ณิเห็นค่ะ”

“เข้าไปรอในห้อง”

“คุณทำงานเหนื่อยมั้ยคะ ทำไมไม่พักก่อนแล้วค่อยไปวันอื่น”

“ผมทำงานทุกวันครับ” ก้มต่ำลงมองสำรวจชุดของคนตัวเล็ก เสื้อสายเดี่ยวที่รัดแนบแน่นจนหน้าอกของเธอโผล่ล้นขึ้นมาเกือบครึ่งเต้า เขาใช้นิ้วจิ้มในส่วนที่โผล่ขึ้นมาเบาๆ “ไปเปลี่ยนเสื้อครับ”

“แต่ว่าไปเที่ยวแบบนั้นก็ต้องแต่งตัวแบบนี้สิคะ”

“สายเดี่ยว เกาะอกหรือจะอะไรก็ใส่ได้ครับแต่ห้ามโชว์นม”

“...ก็ไม่ได้โชว์สักหน่อยเห็นนิดเดียวเอง”

“ไปเปลี่ยน”

“เปลี่ยนก็เปลี่ยน” พูดแล้วคณิกาก็เดินกลับเข้าไปในห้องแต่งตัวและได้เป็นเสื้อยืดครอปสีขาว เธอยืนมองสำรวจตัวเองก็พบว่าใบหน้ายังซีดเซียวอยู่จึงนั่งแต่งหน้าไปพอให้มีสีสันจากนั้นจึงเดินออกไปนั่งข้างคาถาที่กลับมานั่งบนโซฟาแล้ว

“ผมขอพักสายตาแปปหนึ่ง”

“ถ้าเหนื่อยไม่ต้องไปก็ได้นะคะ”

“ไปเจอเพื่อนครับ สักชั่วโมงสองชั่วโมงก็ยังดี” ตอบขณะที่ดวงตายังปิดสนิท คณิกาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นข้างคาถาที่จากนอนพิงโซฟาพอเธอมานั่งก็เปลี่ยนเป็นเอนตัวนอนหนุนตักเธอแทน

“ณิขอยืมโทรศัพท์คุณได้มั้ยคะ อยากได้ไลน์ ไอจี เฟสแล้วก็ทุกๆ อย่างของคุณไว้”

“...” หยิบโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงยื่นให้อย่างว่าง่าย คณิกาจึงทำการแลกเฟสบุ๊ค ไลน์ ไอจีของเขาไว้ เพราะก่อนหน้านี้เธอมีแค่เบอร์เขาและไม่ลืมที่จะเมมเบอร์ตัวเองใส่โทรศัพท์ไว้ให้เขาด้วย

คณิกาก้มมองคนที่นอนหนุนตัก เสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอบ่งบอกได้ว่าเขาหลับสนิทแล้วเธอจึงถือวิสาสะเช็คไลน์ เฟสและไอจีของเขาไปด้วย มีผู้หญิงทักหาเขาค่อนข้างเยอะและแทบจะทุกช่องทางแต่เขากลับไม่เคยตอบเพราะดูจากวันที่ที่ทักมา

และดูเหมือนว่าเขาจะไม่ค่อยได้เล่นโซเชี่ยลสักเท่าไหร่ มีเพียงไอจีที่ลงรูปบ้างมีผู้ติดตามหลักหมื่นนับว่าดังไม่เบาเลย ส่วนไลน์นั้นมีไว้สำหรับคุยงานแต่ก็ยังมีสาวๆ ทักมา และยิ่งเฟสบุ๊คนั้นแทบจะเป็นป่าช้าไปเลยเพราะไม่มีโพสต์รูปโปรไฟล์ถ้าให้เดาคงตั้งไว้ตั้งแต่สมัครครั้งแรกแถมเป็นทางการซะด้วยใส่สูทผูกเนคไท

ไนต์คลับ...

บรรยากาศที่ค่อนข้างครึกคื้น ผู้คนไม่เยอะแต่ก็ไม่น้อยเธอรู้มาจากคาถาว่าคลับนี้ต้องสมัครเป็นสมาชิกเท่านั้นถึงจะเข้ามาใช้บริการได้ ส่วนตอนนี้เธอนั่งอยู่ข้างเขาที่รอบๆ ตัวเป็นเพื่อนและคนสนิทของเขาซึ่งกำลังนั่งมองเธออยู่

“ดูเมียมึงจะเกร็งๆ นะ” หนึ่งในผู้ชายสี่คนเอ่ยขึ้น คณิกาหันไปยิ้มอ่อนๆ ให้เขา ไล่สำรวจพวกเขาที่มีความหล่อไม่แพ้กันเลยสักคน

คนที่พูดเมื่อครู่มีความเป็นผู้ใหญ่พอๆ กับคาถา ใบหน้าหล่อคมเข้มสายตาดูดุ ส่วนอีกสองคนก็หล่อดูดีไม่ต่างกัน มีความเป็นกันเองและดูขี้เล่นมากกว่าถาคากับผู้ชายคนนั้น และคนสุดท้ายซึ่งเป็นคนสนิทของคาถาบางมุมก็ดูเหมือนเจ้านายแต่บางมุมก็ดูเหมือนเด็กหนุ่มทั่วไป

“มันชื่อเรือน อายุเท่าผม ส่วนนั่นอันเฟยกับพะชร”

“ขอโทษนะครับ กูชื่อพชร (พะ-ชะ-ระ) ครับเพื่อน” พชรแก้ชื่อตัวเองที่มักจะถูกคาถาเรียกแบบผิดๆ จนพักหลังคนอื่นๆ คิดว่าเขาชื่อพะชรไปแล้ว

“อืม หนูชื่อคณิกานะคะ เรียกณิเฉยๆ ก็ได้” หญิงสาวแนะนำตัวกลับพร้อมรอยยิ้มหวานๆ

“ณิน่ารักกว่าที่ไอ้คาถามาเล่าให้พวกผมฟังอีกนะครับ” เรือนเอ่ยขึ้น ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยเมื่อถูกสายตาของคาถาจ้องเขม็งเข้าให้ ดูก็รู้ว่าเมียคนนี้มันรักและหวงขนาดไหนน่ะ ชมนิดชมหน่อยเป็นตาขวาง หึ!

“ขอบคุณค่ะ”

“ปกติแล้วณิทำงานอะไรอยู่เหรอครับ” อันเฟยถามต่อ

“ณิเพิ่งเรียนจบค่ะ”

“คิดดีแล้วใช่มั้ยครับที่มาอยู่กับมันน่ะ” พชรกล่าวพลางบุ้ยปากไปทางคาถา เขายกแก้วเหล้าขึ้นมากระดกดื่มมองคนข้างกายที่หันมามองเขาก่อนจะหันกลับไปพยักหน้าให้เพื่อนของเขา

“ชอบมันมั้ยครับ มันเจ้าชู้นะรู้หรือเปล่า”

“ก็ ชอบนะคะ” ตอบออกไปตามความรู้สึก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเขาเป็นคนแรกด้วยหรือเปล่าถึงเริ่มชอบเขาเข้าให้แล้วน่ะ

“ณิยังเด็กอยู่เลย จะตามทันมันเร้อ”

“ดูพวกมึงจะมีปัญหามากนะ” คาถาช้อนสายตาขึ้นไปมองเพื่อนๆ ปากหมาที่พูดไม่สร้างสรรค์เอาซะเลย เหมือนอยากให้เขามีปัญหากับว่าที่ภรรยตั้งแต่วันเเรกที่เข้ามาอยู่บ้านซะงั้น

“พวกกูแค่เป็นห่วงน้องเขา”

“เป็นห่วงตัวเองดีกว่านะ”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คาถาพันธุ์   บทที่ 34 สุดที่รักของคาถา The end

    บรรยากาศภายในโต๊ะที่เงียบสงัดราวๆ สิบนาที...“หนูกำลังอยู่ในช่วงฝึกทำอาหารคิดว่าถ้าทำอร่อยแล้วจะใส่กล่องมาให้พี่ทาน” “ไหนล่ะ?” “เพราะว่ามันยังไม่อร่อยเลยไม่อยากทำมาให้น่ะ” บอกด้วยรอยยิ้มเมื่อเขาพูดกับเธอแล้ว “แล้วนี่พี่คาถาทานข้าวหรือยังคะ?” “ไม่หิว” “อืม ดื่มกาแฟอย่างเดียวจะอิ่มเหรอเราไปทานข้าวที่ร้านอาหารกันดีมั้ยคะ เดี๋ยวหนูเลี้ยงเองค่ะ” “ทำไมไม่ไปทำงานที่บริษัท” นอกจากไม่ตอบเรื่องที่เธอถามแล้วเขายังเปลี่ยนเรื่องอีกด้วย คณิกาเม้มปากตัวเองเล็กน้อย ไม่ได้ไปทำงานที่บริษัท ใช่! เธอไม่ได้ไปทั้งที่เขาอนุญาตให้ไปทำได้ก็เถอะเพราะไปเจอหน้าเขาแต่เข้าไปคุยไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนไง เลยคิดว่าไม่ไปเจอน่าจะดีกว่า...“ไปก็ไม่ได้คุยกับพี่ หนูเลยไม่อยากไป” “ทำไมถึงไม่ได้คุย?” จ้องหน้าเด็กสาวที่มีท่าทางเริ่มประหม่าขึ้นมาจนมือที่วางอยู่บนโต๊ะถูกชักกลับไปวางบนหน้าตัก เธอหลบสายตาเขาทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังมองหน้าเขาอยู่“ก็เราเลิกกันแล้ว...” “...” “พี่คะเรากลับมาคบกันนะคะ หนูรู้แล้วว่าหนูรักพี่มากแค่ไหน มากจนกินไม่ได้นอนไม่หลับกระสับกระส่ายทุกวัน มองผู้ชายคนอื่นก็เป็นหน้าพี่ไปหมด ทำอะไรก็นึกถึงแต่ช่

  • คาถาพันธุ์   บทที่ 33 ง้อ

    เสร็จงานทุกอย่างแล้วไม่กี่วันต่อมาพวกเขาก็เดินทางกลับ เมื่อถึงบ้านคาถาก็ลงจากรถเดินตรงเข้าไปด้านในโดยไม่ได้เรียกหรือเอ่ยชวนคนตัวเล็กเข้าบ้านเลยแม้แต่น้อย“พี่คาถาคะ” และคณิกาไม่จำเป็นต้องรอให้เขาเชิญชวน เธอรีบวิ่งลงจากรถไปหาเขาที่พอได้ยินเสียงฝีเท้าเล็กวิ่งก็รีบหยุดเดินหันมามองเธอด้วยสายตาดุๆ เหมือนต้องการเอ็ดที่เธอวิ่ง“กะ ก็พี่ไม่รอหนู” อยู่ด้วยเกือบสองเดือนเธอเองก็เริ่มจะเข้าใจสายตาและการสื่อสารที่ไม่ต้องพูดของเขาแล้วล่ะ เขาไม่ได้พูดอะไรเดินตรงเข้าไปในบ้านทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาพร้อมหันไปรับแก้วน้ำจากแม่บ้านที่เดินนำมายื่นให้“เรากลับมาคบกันอีกครั้งได้มั้ย พะ พี่ให้โอกาสหนูอีกสักครั้งได้มั้ยคะ” คณิกาเดินไปหยุดด้านหน้าเขา เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือก้มหน้าลงไม่กล้าสบตาคนตรงหน้า แม้จะรู้ว่ามันไม่ใช่เวลาสมควรเพราะเขาเพิ่งเสียแม่ไปแต่ว่าอยากรีบคืนดีกับเขา อยากอยู่ปลอบใจเขาต่อ...“ถ้าบอกว่าไม่ได้” “...หนูรู้แล้วว่าคนที่หนูรักคือพี่ หนูรู้แล้วว่าตัวเองอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพี่” ” เพราะไม่มีผมหรือเพราะไม่มีเงินของผมกันแน่” “หนูไม่ได้เห็นแก่เงิน หนูขอโทษจริงๆ ขอโทษที่เอาแต่ใจงี่เงาไม่รู้จักโต หนึ

  • คาถาพันธุ์   บทที่ 32 ดูแลกันดีๆ

    ใช้เวลาในการเดินทางไปต่างประเทศเวลาค่อนข้างนาน เมื่อมาถึงก็มีรถมารอรับพวกเขาที่สนามบินไปส่งตรงยังบ้านสุดหรูของคุณปภาวีและสามีที่นั่น พวกเขาที่ว่านอกจากคาถากับคณิกาแล้วยังมีนับเพชรและอินทร์มาด้วย“พี่คาถาคะคุณป้าอยู่ไหนเหรอ” นับเพชรเดินไปควงแขนคาถาพร้อมเอ่ยถามทั้งที่ยังไม่มีใครเดินเข้าไปในตัวบ้านและมาพร้อมกันแน่นอนว่า...“ผมไม่รู้” จับมือของนับเพชรให้ออกแล้วดันตัวคณิกาให้เดินนำหน้าตามแม่บ้านเข้าไปในตัวบ้าน มีเสียงหัวเราะจากอินทร์ดังมาเล็กน้อยแต่เมื่อเข้ามาในตัวบ้านทุกคนต่างก็เงียบทันที“คุณแม่ล่ะครับ? “ชายหนุ่มเอ่ยถามผู้เป็นพ่ออย่างคุณจิรเมธ ซึ่งมีสีหน้าไม่ค่อยดีคงเพราะว่าเครียดเรื่องการป่วยของภรรยาและยังทำใจไม่ได้“นอนเล่นอยู่หลังบ้าน น้องณิแม่เขารอหนูอยู่นะ” “รอหนู?” “อืม พ่อฝากเอาน้ำส้มนี่ไปให้แม่ด้วยสิ” พูดจบก็ยื่นแก้วน้ำส้มในมือที่คาดว่าน่าจะมาเอาไปให้ภรรยายื่นให้คณิกาที่ก็รับมา จากนั้นคุณจิรเมธก็เดินออกไปนั่งหน้าบ้าน คาถาจึงจูงมือคณิกาพาตรงไปทางหลังบ้านโดยมีสองสาวเดินตามไปอย่างเงียบๆ“คุณป้าคะ คุณลุงให้เอาน้ำส้มมาให้ค่ะ” ร่างเล็กเดินไปนั่งยองข้างเก้าอี้โยกที่คุณปภาวีกึ่งนั่งกึ่

  • คาถาพันธุ์   บทที่ 31 เคียงข้าง

    มาถึงคอนโดคณิกาก็รีบเข้าห้องไปเก็บเสื้อผ้าในกระเป๋าโดยมีแม่นันท์เดินตามเข้ามาดูด้วยความเป็นห่วง “น้องณิเก็บผ้าจะไปไหนลูก” ถามพร้อมนั่งยองข้างบุตรสาวที่กำลังพับผ้าใส่กระเป๋าเดินทาง“ไปหาหาคุณแม่พี่คาถาค่ะพี่เขาจะพาไป ขึ้นเครื่องตอนหนึ่งทุ่มเดียวตอนห้าโมงเขาให้พี่อาติณมารับค่ะ” ร่ายยาวออกมาขณะที่มือกำลังพับผ้าอยู่ คนันท์มองบุตรสาวที่พับผ้าไปยิ้มไปก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้“คืนดีกับพี่เขาแล้วเหรอคะ?” “...เปล่าค่ะ” “แล้วทำไมถึงยิ้มแย้มแบบนี้” “แม่อยากให้หนูร้องไห้ทั้งวันทั้งคืนเลยเหรอคะ” “ไม่อยากแต่แม่แค่สงสัย เห็นยิ้มร่าเริงคิดว่าจะคืนดีกันแล้วซะอีก” “เดี๋ยวเดินทางไปหาคุณแม่เขา หนูจะค่อยๆ ง้อเขาอีกทีค่ะ” หันหน้ามามองแม่แล้วขยับไปโอบกอด “แม่ต้องเป็นกำลังใจให้หนูง้อเขาได้สำเร็จนะคะ” “จ้า แม่จะเป็นกำลังใจให้แต่ถ้าง้อเขาได้แล้วหนูต้องเป็นภรรยาที่ดีให้เขาด้วยนะ” “พูดแต่ให้หนูทำดีกับเขา แม่ไม่กลัวเขาจะทำร้ายหนูบ้างหรือไง” “น้องณิ หนูรู้มั้ย...พี่คาถาเขาเคยไปสู่ขอหนูจากพ่อกับแม่ด้วยนะ” น้ำเสียงที่อ่อนนุ่มของคนันท์เอ่ยบอกบุตรสาว ที่จริงคาถากำชับไม่ให้เธอบอกคณิกาแต่เธอคิดว่าบอกไปเจ้าเด็กน้อย

  • คาถาพันธุ์   บทที่ 30 เด็กดื้อขี้แย

    “เดี๋ยว” คาถาเอ่ยเรียกหญิงสาวตัวเล็กที่ยิ้มร่ากระโดดดี๊ด๊าด้วยความดีใจหลังจากที่เขาบอกให้เธอกลับไปเก็บเสื้อผ้าเพื่อจะเดินทางไปเยี่ยมคุณแม่ของเขา“คะ?” “ให้อาติณพาไป” “อืม ไม่เป็นไรคะหนูไปเองได้” พูดจบก็กึ่งเดินกึ่งกระโดดออกไปจากหลังบ้าน คาถาเรียกคนสนิทอย่างอาติณสั่งให้พาคณิกาไปเก็บเสื้อผ้าที่บ้าน ส่วนตัวเขาก็โทรไปบอกให้น้องสาวหาจองตั๋วในการเดินทางวันนี้ให้ และเตรียมจะขึ้นไปเก็บเสื้อผ้า...“คุณณิครับ นายน้อยบอกให้ผมพาไป” อาติณวิ่งตามร่างเล็กออกมาพร้อมเอ่ยเรียกไว้ คณิกากันมามองเขาตาใส่แป๋ว เธอหยุดนิ่งจ้องคนตรงหน้าด้วยแววตาสั่นระริกก่อนที่น้ำตาจะไหลลงมาอาบแก้มเนียนขาวสร้างความตกใจแก่อาติณเป็นอย่างมาก“ฮรึก! ฮือออออ!” “คะ คุณณิเป็นอะไรครับ ผะ ผมไม่ได้ทำอะไรเลย” ประโยคหลังเขาหันไปบอกคาถาที่เดินตรงมาอย่างรวดเร็วเหมือนกับว่าก่อนหน้านี้ยืนมองอยู่ เขาส่งสายตาดุให้คนสนิทแล้วถอยหลังหนีเล็กน้อย“เป็นอะไร” ร่างสูงเอ่ยถามคนตัวเล็กเสียงราบเรียบ พยายามใจแข็งกับเด็กสาวตรงหน้าให้ถึงที่สุดแม้ว่าภายในใจอยากจะถามจับตัวเธอหมุนดูว่าเป็นอะไรแค่ไหนก็ตาม“ผะ ผึ้ง ฮรึก! ผึ้งต่อย” ยกแขนให้ชายหนุ่มดูก็พบกับผึ้

  • คาถาพันธุ์   บทที่ 29 หนูท้อง

    “แม่คะ หนูรักเขานะ...” “รักเขาแล้วพูดแบบนั้นทำไม ลองเขาพูดว่าเบื่อหรือรำคาญลูกบ้างลูกจะรู้สึกยังไง” “เสียใจ...” “เขาก็เป็นคนนะน้องณิ หนูต้องเข้าใจความรู้สึกเขาด้วยสิลูก” คนันท์พูดอย่างตำหนิบุตรสาว ถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อเห็นสีหน้าที่เศร้าสร้อยของคณิกา “แล้วที่มาขังตัวเองอยู่แต่ในห้องนี่ได้อะไรมั้ย?” “...” ส่ายหัวให้แทนการตอบ“ลูกสาวแม่เป็นเด็กฉลาด แต่ทำไมเรื่องแค่นี้ไม่มีความคิดบ้างเลยนะ รู้ว่าขังตัวเองไว้ไม่ได้ประโยชน์แล้วทำไมไม่ไปหาอะไรทำที่มันได้ประโยชน์อย่างเช่นกลับไปทำงาน” “กลับไปทำงานเหรอ?” “ใช่ กลับไปทำงานบางทีอาจจะได้เจอเขาก็ได้นะ” “แล้วถ้าเจอเขากับผู้หญิงคนอื่นล่ะคะ” เขาย้ำกับเธอเสมอว่าอยากมีภรรยาอยากมีลูกและอยากสร้างครอบครัว ในเมื่อเธอทำให้เขาไม่ได้บางทีเขาอาจจะหาผู้หญิงคนอื่นมาทำหน้าที่แทนเธอ“แล้วอยากปล่อยให้เขาไปมีผู้หญิงคนอื่นมั้ยล่ะ?” “ไม่อยาก...” “ไม่อยากก็ยิ่งต้องกลับไปทำงาน ไปอยู่ใกล้ๆ เขา” “แม่คะ” “หื้ม?” “จริงมั้ยที่พ่อกับแม่ขายหนูให้คุณคาถา” ถามเสียงอ่อนๆ มันเป็นสิ่งที่เธออยากรู้อยากเข้าใจเหตุผลของแม่กับพ่อที่สุดเลย“หนูรู้ใช่มั้ยว่าบ้านเราล้มละลาย?”

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status