“ข้าเพียงอยากช่วยเจ้า ข้าเห็นว่าเจ้ากำลังทุกข์ทรมาน” หลี่เฟิ่งเซียนเสียงเบา พูดสิ่งที่อยู่ในใจ นางยังไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น
“หน็อย นางนี่ ทำข้าต้องเสียเวลา ทั้งยังเสียลูกค้าอีก ยังจะมีหน้าบอกว่าช่วยข้า สารเลวเอ๊ย ต่อไปข้าจะทำงานอีกเช่นไร ป่านนี้เจ้าพวกนั้นคงไปบอกใครต่อใครว่าข้าเรียกคนมาช่วย เงินก็ยังไม่ได้สักอีแปะ พรุ่งนี้ข้าจะกินอะไร!!”
หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกชาไปทั้งตัว นางคิดว่านางมาช่วยคน แต่กลับกลายเป็นนางมาทำให้เขาเสียงานเช่นนั้นหรือ มองดูหญิงขายตัวตรงหน้า ไม่ใส่เสื้อผ้า เสื้อนอกที่หลี่เฟิ่งเซียนยื่นให้ หญิงคนนั้นก็โกรธจนโยนทิ้งบนพื้น เหยียบย่ำอย่างไม่แยแส
ลู่มู่เฉินเห็นว่าหลี่เฟิ่งเซียนตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เขาสงสารนางจับใจ นางไม่ควรต้องมารับรู้เรื่องพวกนี้
"แม่นาง เดี๋ยวข้าจะ.."
"สารเลวหรือ เจ้าเอาร่างกายแลกเศษเงินไม่กี่อีแปะ ยังกล้าว่าข้าสารเลว เจ้ามันก็แค่เพียงคนไม่มีปัญญาหาเลี้ยงตัวเอง ไม่รักศักดิ์ศรีที่พ่อแม่ให้มา ทั้งตัวของเจ้ายังมีค่าไม่เท่าสุนัขที่บ้านของข้าเลย" หลี่เฟิ่งเซียนโกรธจัด ไม่รอให้ลู่มู่เฉินพูดให้จบ นางก็ตวาดเสียงดังใส่หน้าของหญิงขายตัว
"นังสารเลวนี่ ดูเสื้อผ้าที่เจ้าใส่สิ คนอย่างพวกเจ้า มันจะไปเข้าใจอะไร!!" พูดไม่พูดเฉยๆ
นางยกมือขึ้นตั้งใจตบหน้าของหลี่เฟิ่งเซียน แต่ลู่มู่เฉินไหวตัวทัน รีบดึงหลี่เฟิ่งเซียนมาไว้ด้านหลังของเขา ฝ่ามือนั้นจึงลงที่อกของเขาอย่างแรง
เพียงแต่คุณหนูใหญ่เช่นหลี่เฟิ่งเซียนจะยอมให้ใครมาทำร้ายนางง่ายๆเช่นนี้หรือ ยิ่งทำร้ายคนที่นางรักยิ่งยอมไม่ได้ แม้นางจะอยู่ด้านหลังของลู่มู่เฉิน แต่นางยังยกเท้าเตะออกไปที่ต้นขาเปลือยเปล่าของหญิงขายตัว
ลู่มู่เฉินตกใจ รีบหันมากอดหลี่เฟิ่งเซียนไว้ ป้องกันนางทำร้ายหญิงโชคร้ายคนนั้น และป้องกันหญิงโชคร้ายไม่ให้โดนตัวหลี่เฟิ่งเซียน เขาถูกหญิงขายตัวทั้งทุบทั้งตีที่ด้านหลัง หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมที่เขาปกป้องหญิงแพศยา แต่กลับไม่สนใจตัวเองที่ถูกนังสารเลวนั่นทุบตี
หลี่เฟิ่งเซียนจึงดึงเขามาไว้ด้านหลังและเตะไปทางหญิงคนนั้นอีกครั้ง นังคนนั้นล้มลงบนพื้นทันที หลี่เฟิ่งเซียนผลักลู่มู่เฉินออกไป รีบตามลงไปนั่งคร่อมร่างนั้นไว้ จัดการตบนางไปหลายครั้ง
ลู่มู่เฉินเห็นว่าไปกันใหญ่ จึงรีบไปดึงตัวหลี่เฟิ่งเซียนขึ้นมา จับมือทั้งสองเอาไว้ บังคับให้นางทำร้ายหญิงผู้นั้นไม่ได้อีก แต่ไม่นึกว่าหญิงขายตัวจะลุกขึ้น วิ่งมาจิกหัวของหลี่เฟิ่งเซียนกระชากอย่างแรง หลี่เฟิ่งเซียนเจ็บจนน้ำตาแทบร่วง รู้สึกน้อยใจที่สุดที่ลู่มู่เฉินห้ามนางทำร้ายผู้อื่น แต่กลับปล่อยให้ผู้อื่นทำร้ายนาง
แต่ทางด้านลู่มู่เฉิน ความโกรธสายหนึ่งพุ่งมาจนในหัวขาวโพลน มือขวาขย้ำไปที่คอของร่างเปลือยเปล่า ผลักทีเดียวร่างนั้นก็ติดกับกำแพง หญิงขายตัวตกใจ กระเสือกกระสนดิ้นรน สองมือพยายามแกะมือของลู่มู่เฉินที่คอ แต่เขาคล้ายขาดสติไปแล้ว แรงบีบจากมือผอมๆที่เต็มไปด้วยตุ่มใสและแผลถลอก ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าจะมีแรงมากได้เท่านี้ ชั่วอึดใจที่หญิงขายตัวรับรู้ว่าอีกฝ่ายตั้งใจจะฆ่านางจริงๆ นางหวาดกลัวจนมือไม้สั่นไปหมด
"มู่เฉิน หยุด! เจ้าต้องหยุด เจ้ากำลังจะฆ่านาง มู่เฉิน!!" หลี่เฟิ่งเซียนเองก็ตกใจไม่แพ้หญิงขายตัว
พอนางตั้งสติได้ก็รีบมาห้ามเขา ต้องเรียกอยู่หลายครั้งกว่าเขาจะเรียกสติคืนมาได้ ลู่มู่เฉินหันมามองหลี่เฟิ่งเซียน ก่อนจะค่อยๆปล่อยมือ
หญิงขายตัวทรุดลงกับพื้น หอบหายใจและไอหนักๆหลายครั้ง ก่อนจะเงยหน้ามองชายหญิงสารเลวคู่นั้น ที่ยามนี้นางผู้หญิงใช้สองมือประคองหน้าผู้ชายไว้และเอ่ยปลอบประโลมอย่างอ่อนโยน
"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร"
ชายคนนั้นมองตอบอย่างซาบซึ้ง นัยน์ตาเป็นประกาย
"ไม่เป็นไรอันใดกัน ข้าจะตายอยู่แล้ว" หญิงขายตัวตะคอกออกไป หลี่เฟิ่งเซียนหันมามองนาง สายตายังโกรธที่ถูกดึงผมไม่หาย
“วันนี้ ข้าหลี่เฟิ่งเซียนจะปล่อยเจ้าไปสักครั้ง วันหลังอย่ามาหาลูกค้าตามตรอกซอกซอยอีก ให้รับลูกค้าอยู่แต่ในบ้านของเจ้า เข้าใจหรือไม่” ลู่มู่เฉินมองหลี่เฟิ่งเซียนด้วยความประหลาดใจ นางไม่ใช่ว่ารักผมของนางมากไม่ใช่หรือ เหตุใดยามนี้กลับปล่อยคนที่ดึงผมของนางหลุดออกไปตั้งหลายเส้นเช่นนี้
"หลี่เฟิ่งเซียนหรือ คุณหนูใหญ่จวนแม่ทัพหลี่??!!" หญิงขายตัวถามอย่างคาดไม่ถึง
ลู่มู่เฉินรีบบังหลี่เฟิ่งเซียนไว้อย่างปกป้อง
“ที่แท้ก็เป็นเจ้านี่เอง ข้ายังนึกว่าเป็นพระโพธิสัตว์หรือเทพธิดาจากที่ไหน ที่แท้ก็เป็นหญิงแพศยาเช่นเจ้า ที่แท้ก็เป็นเจ้าที่ทำให้ข้าต้องตกอับถึงเพียงนี้ วันนี้เหล่าเหนียงไม่ได้ถลกหนังหัวเจ้าให้หายแค้น เหล่าเหนียงยอมตาย!”
นางพูดแล้วก็เก็บเศษหินแถวนั้น วิ่งเข้าใส่หลี่เฟิ่งเซียนอย่างไม่คิดชีวิต ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็ว ลู่มู่เฉินตกใจทำสิ่งใดไม่ได้ ไม่ทันคิดอะไรทั้งสิ้น ได้แต่หลับตาหันมากอดหลี่เฟิ่งเซียนไว้ในอก ปกป้องไม่ให้อีกฝ่ายทำร้ายนางได้ ก้อนหินทั้งหนักและแหลมคม ถูกทุบลงไปบนหลังของเขาอย่างจัง
แต่ทุบไปเพียงครั้งเดียวทุกอย่างก็เงียบลง ร่างของหญิงขายตัวล้มลงตรงนั้น แน่นิ่งไม่ขยับอีก ลู่มู่เฉินเปิดตามองว่าเกิดอะไรขึ้น
จ้าวเหลียงยืนหายใจหอบตกใจไม่น้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเป็นทหารกล้าที่ออกรบในสนามรบ เคยฆ่าคนมาตั้งเท่าไหร่ แต่เขาไม่เคยต้องรับมือกับหญิงคณิกาที่ไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้น ยังดีที่เขาตามหาพวกเขาจนเจอ
“พวกท่านมีกันสองคน กลับปล่อยให้นางทำเช่นนี้หรือ” แต่เขากลับตำหนิทั้งสองคนแทน
“ข้าไม่ทันคิด” ลู่มู่เฉินพูดเรียบๆ
“ไม่ทันคิด ไม่ทันคิด! เจ้ามันสมองหมู ทำข้าตกใจแทบตาย” หลี่เฟิ่งเซียนปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย ทั้งด่าเขาทั้งร้องไห้ นางตกใจมากกับสิ่งที่ลู่มู่เฉินทำ หากอีกฝ่ายถือดาบอยู่นางจะทำเช่นไร
ลู่มู่เฉินชะงัก เหตุใดนางจึงร้องไห้
“เจ้าบาดเจ็บหรือ หรือถูกดึงผมเมื่อครู่เจ็บมาก?” เขาถาม