หน้าหลัก / รักโบราณ / คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์ / บทที่ 26 เสียงปริศนาในตรอกกำแพง

แชร์

บทที่ 26 เสียงปริศนาในตรอกกำแพง

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-20 15:53:56

ทั้งสองวิ่งมาไกลพอสมควร ลู่มู่เฉินรู้สึกหายใจไม่ทันเพราะวิ่งไม่ทันหลี่เฟิ่งเซียน แม้ตอนเริ่มแรกจะเป็นเขาที่จับมือนางวิ่งก่อน ครั้งเห็นว่าเขาแทบจะหายใจไม่ออก ทั้งแถวนี้ก็เริ่มไม่มีคนแล้วด้วย หลี่เฟิ่งเซียนจึงหยุดให้เขาพักหายใจ คล้ายว่าทั้งสองคนจะเผลอวิ่งเข้ามาในตรอกกำแพงแห่งหนึ่ง แม้ยังมีแสงไฟรำไร แต่ก็ยังไร้ผู้คน

“ต่อไปอย่าทำเช่นนี้อีก” เขาตักเตือนนางพร้อมกับหายใจหนักๆ 

“เกี่ยวกับเจ้าที่ใดกัน” นางดื้อ ไม่ยอมฟัง

“มันอันตราย ข้าเป็นห่วง” 

เขายังคงพูดเช่นนั้น พร้อมกับลมหายใจที่ขาดเป็นห้วงๆ เสียงของเขาที่ปกติทุ้มต่ำอยู่แล้ว ยามนี้ยิ่งทุ้มต่ำลงไปอีก เมื่อพูดพร้อมลมหายใจที่เหน็ดเหนื่อยเช่นนั้น หลี่เฟิ่งเซียนก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าเหตุใดจึงทำให้นางรู้สึกแปลก หัวใจเต้นแรงย่อมเป็นเรื่องปกติยามวิ่งเร็ว แต่ความรู้สึกปั่นป่วนบริเวณท้องน้อยยามได้ยินเสียงของเขา นางไม่รู้จักมาก่อน

“อ้า อ้า แรงอีก อื้อ ข้ารู้สึกดีมาก อา..” และเสียงหญิงสาวปริศนาเสียงหนึ่งที่ฟังแล้วคล้ายเจ็บปวดมาก แต่กลับบอกว่ารู้สึกดีก็ดังแว่วมาแต่ไกล

“อื้อ อ้า เช่นนี้เจ้าชอบสินะ ซี๊ดด...” เสียงผู้ชายที่เหน็ดเหนื่อยและทุ้มต่ำดังเช่นลู่มู่เฉินตอบกลับเสียงปริศนาเมื่อครู่ แม้ในใจของหลี่เฟิ่งเซียนแล้ว เสียงนั้นจะไม่ไพเราะเท่าเสียงของลู่มู่เฉินก็ตาม แต่ก็สร้างความสงสัยให้กับนางมาก

“อ๊า แรงอีก อ๊า ..ข้ารู้สึกดียิ่ง ตีข้าแรงๆ... แรงอีก ..กระแทกเข้ามาเลย”

หลี่เฟิ่งเซียนสงสัยมากเข้าไปอีก ก็ในเมื่อนางพูดว่ารู้สึกดี แต่กลับเรียกร้องให้อีกฝ่ายตีแรงๆ กระแทกแรงๆ เช่นนี้ต้องเกิดเรื่องผิดปกติขึ้นแน่ หลี่เฟิ่งเซียนสาวเท้ากำลังจะเดินไปทางต้นเสียงเพื่อจะเข้าไปช่วย แต่ลู่มู่เฉินกลับรีบคว้าแขนนางไว้ พร้อมกับส่ายหัวว่าไม่ควร

“ข้าต้องไปดู..” นางพูดไม่จบเขาก็ยกมือมาปิดปากของนาง 

ที่ตรอกนี้แสงไฟน้อยมาก แต่นางกลับเห็นว่าหน้าของลู่มู่เฉินกำลังแดงมาก ตรงหูแทบจะลุกเป็นไฟได้

“ทำไม” นางกระซิบถาม 

แต่ลู่มู่เฉินกลับทำเพียงส่ายหัวจับมือนางพยายามพาออกไปจากที่นี่ หลี่เฟิ่งเซียนไม่เข้าใจ ปกติเขาเป็นคนใจดีมาก ยามนี้รู้ทั้งรู้ว่าในตรอกถัดไปมีหญิงสาวกำลังเจ็บปวด ทั้งถูกตีทั้งถูกกระแทก แถมผู้ชายที่ตบตีคงใช้แรงไปไม่น้อย เขาถึงได้หอบจนเหน็ดเหนื่อยเช่นนั้น เป็นขนาดนี้แล้วลู่มู่เฉินยังไม่ยอมให้นางเข้าไปช่วยอีกหรือ 

“อ้า..อ้า โอ้วว อื้อ แรงๆ” หญิงสาวคนนั้นยังคงตะโกนด้วยความเจ็บปวด หลี่เฟิ่งเซียนไม่อาจปล่อยไปเช่นนี้

“ไม่ต้องห่วง ข้ามีวรยุทธ์” นางพูดเช่นนั้นก่อนจะสะบัดมือของเขา และหันหลังวิ่งเร็วๆไปทางตรอกถัดไป ลู่มู่เฉินทั้งหวาดกลัวและเขินอาย เขารู้ดีว่าที่ตรอกนั่นกำลังเกิดสิ่งใดขึ้น แต่อย่างไรก็ยังต้องวิ่งตามนางไป

ภาพที่หลี่เฟิ่งเซียนเห็นคือ ท่ามกลางแสงสลัว นางเห็นไม่ชัดแต่ร่างเงาหนึ่งกำลังจับหญิงสาวที่ร้องอย่างเจ็บปวดนั่งคร่อมตรงเอวของเขา ร่างเงาที่สองกำลังคร่อมอยู่บนร่างของหญิงสาวและร่างเงาแรก ยังมีร่างเงาที่สามที่ยืนจับบางอย่างตรงเอวพยายามยัดใส่ปากของหญิง

หลี่เฟิ่งเซียนโมโหถึงขีดสุด นี่มันไม่ได้มีเพียงคนเดียว แต่กลับมีถึงสามคนที่กำลังทำร้ายหญิงสาวผู้นั้น ฟังจากเสียงแล้วหญิงโชคร้ายผู้นี้ไม่ใช่เด็กๆแล้ว 

“พวกเจ้าหยุดนะ!!” นางตะโกนออกไป

ชายทั้งสามต่างหยุดมือในสิ่งที่กำลังทำอยู่ ลู่มู่เฉินวิ่งมาถึงรีบเอามือปิดหน้านางไว้ แต่นางไหนเลยจะยอมได้ นางต้องช่วยหญิงโชคร้ายผู้นั้น 

“มู่เฉิน เจ้าปล่อยข้า” นางบอกเขาน้ำเสียงไม่พอใจยิ่ง

แต่เขากลับใช้มือซ้ายทั้งแขนรวบนางมากักขังที่อก มือขวายังคงปิดตานางไว้อย่างมิดชิด แม้นางจะพยายามแกะมือของเขาแล้วแต่กลับสู้แรงของคนที่วิ่งไม่ทันนางไม่ได้เลย

“มู่เฉินเจ้าคนชั่ว ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!!” นางออกคำสั่ง

“พวกเจ้ายังไม่รีบไปอีก” ลู่มู่เฉินตะโกนบอกคนร้าย

หลี่เฟิ่งเซียนไม่เห็นว่าเกิดสิ่งใดขึ้น แต่นางได้ยินเสียงคนวิ่งหนีไป นางโมโหอย่างยิ่ง ต่อให้เป็นมู่เฉินที่นางชื่นชอบ เรื่องนี้ก็ไม่อาจปล่อยไปเช่นนี้ 

หลี่เฟิ่งเซียนยกมือกระทุ้งไปที่สีข้างของลู่มู่เฉิน เขาเจ็บจี๊ดจนต้องปล่อยมือจากนาง

“เอ๊ะ ๆ พวกเจ้าอย่าพึ่งไป จ่ายเงินข้ามาก่อน กลับมาเดี๋ยวนี้นะพวกสารเลว” หญิงคนนั้นที่ถูกทำร้ายเมื่อครู่กลับพูดออกมาเช่นนี้ 

หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกสงสัยจับใจ แต่ยังคงวิ่งไปจนใกล้ถึงตัวหญิงคนนั้น เหมือนจะไล่ตามชายสามคนนั้นไม่ทันแล้ว นางจึงหยุดลงตรงด้านหน้าของหญิงคนนั้น นางเปลือยเปล่า ไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้น แม้แสงไฟจะไม่สว่างมาก แต่ก็ยังมองเห็นว่านางมีรอยฟกช้ำที่ใบหน้าและตามลำตัว

“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” หลี่เฟิ่งเซียนถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง 

เพราะบนตัวไม่มีเสื้อผ้าเลย หลี่เฟิ่งเซียนจึงถอดเสื้อตัวนอกของตัวเองให้หญิงคนนั้นคลุมตัว

“ชิ เพราะเจ้าคนเดียวเลย!!” หญิงคนนั้นกลับโมโหใส่นาง ทั้งยังตีมือของนางที่ถือเสื้อยื่นไปให้

“คืนนี้ข้าอุตส่าห์ได้ลูกค้ามากถึงสามราย เพราะเจ้าพวกมันหนีไปหมดแล้ว เงินก็ยังไม่ให้ข้าสักอีแปะ สารเลวนัก” นางชี้หน้าด่าหลี่เฟิ่งเซียน

คราแรกหลี่เฟิ่งเซียนยังรู้สึกงุนงงไม่เข้าใจ เห็นอยู่ว่านางมาช่วยหญิงคนนั้น แต่นางกลับถูกตีมือ ยังถูกด่าอีก แต่หลังจากถูกด่าไปแล้วหลี่เฟิ่งเซียนก็เริ่มเข้าใจเรื่องราว

หญิงคนนี้กำลังขายตัว สิ่งที่พวกเขาทำเมื่อครู่ คือเรื่องที่นางไม่เคยรู้จักมาก่อน เรื่องเช่นนั้นยังสามารถทำได้ทีเดียวสามคน หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกหนาวยะเยือกในหัวใจ

ระหว่างที่หลี่เฟิ่งเซียนกำลังงุนงง ลู่มู่เฉินวิ่งเข้าไปใกล้จนเห็นว่าหญิงขายตัวผู้นั้นกำลังยกมือจะตบหน้าของหลี่เฟิ่งเซียน เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปหยุดเอาไว้

“หน็อยแน่ พวกเจ้าช่างดีนัก เงินตั้งยี่สิบอีแปะของข้า ถูกพวกเจ้าทำลายหมดแล้ว ทำลายคืนที่งดงามของข้าไม่พอ ยังจะคิดทำร้ายข้าอีก ข้าจะไปตีกลองฟ้องศาล” หญิงขายตัวโวยวาย

 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 55 เข้าหอครั้งละสามสี่คน

    “ข้าเป็นผู้ชายเหตุใดจะมองไม่ออกว่าเขาหวั่นไหวกับท่านแทบแย่ แต่พยายามเก็บอาการ ข้าไม่รู้ว่าท่านกับเขาผิดใจอันใดกัน แต่ลองพูดคุยกับเขาตรงๆ เขาย่อมต้องเข้าใจท่านอยู่แล้ว” จ้าวเหลียงให้คำแนะนำหลี่เฟิ่งเซียนหัวใจระส่ำไม่เป็นจังหวะ นางทำเรื่องเลวร้ายไปมากมายเช่นนั้น ยังจะมีเรื่องเข้าใจผิดอันใดอีก แต่หากเป็นดั่งที่จ้าวเหลียงพูดจริง นางควรทำเช่นไรดี อยากลองพูดคุยจริงจังกับเขาสักครั้ง แต่ก็กลัวว่าหากเขาตอบว่าชื่นชอบหญิงในชุดขาวผู้นั้น นางควรทำอย่างไร แต่หากเขาชอบนางอย่างที่จ้าวเหลียงพูดจริงๆ และนางปล่อยไปเช่นนี้ ดีแล้วแน่หรือ“ข้าต้องไปก่อนนะ” พูดแล้วหลี่เฟิ่งเซียนก็เดินออกจากห้องพักของจ้าวเหลียงทันที อยากรีบไปหาสามีของตัวเองเพื่อพูดคุยให้รู้เรื่องนางไปรอเขาที่หน้าประตูจวน เพียงไม่นานก็เห็นรถม้ากำลังใกล้เข้ามา นางรอจนกระทั่งรถม้าจอด เขาเปิดประตูออกมา นางคล้ายว่าไม่ได้เห็นเขามาหลายวันมาก คิดถึงเขาจนอยากวิ่งเข้าไปกอด แต่นางไม่กล้าหลี่เฟิ่งเซียนพบว่าเขากำลังมองมาที่นางเช่นกัน คล้ายว่าเขาจะขมวดคิ้วและทำหน้าโกรธ จู่ๆ นางก็กลัวที่จะเข้าไปหาเขา จึงเลือกที่จะหนีออกมาอย่างรวดเร็วลู่มู่เฉินรู้สึกเจ็

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 54 เมา

    หลี่เฟิ่งเซียนเดินออกไปจากห้องนานแล้ว แต่เขายังคงนั่งมองมือซ้ายของเขา เขาเริ่มรู้สึกเสียใจที่วันนั้นตัดสินใจหักมือข้างนั้น คิดอีกที หากเขาไม่ทำเช่นนั้นคงไม่สามารถรอดมามีความสุขเช่นนี้ได้ แต่ความสุขเช่นนี้ดีแน่แล้วหรือ เขาคิดกลับไปกลับมาอยู่เช่นนั้นทั้งคืน บ่าวชายที่มาช่วยเขาเช็ดตัว เขาก็จำหน้าไม่ได้หลังจากเรื่องวันนั้น หลี่เฟิ่งเซียนก็หลบหน้าเขา แต่มีหยวนหยวนส่งน้ำแกงปลาและน้ำแกงไก่มาให้เขาทุกเช้า เขาเองแม้จะเริ่มคิดถึงนางมากแต่ไม่กล้าไปหานางที่ห้อง เพราะความอับอายที่ลูกผู้ชายคนหนึ่งต้องถูกจู่โจมอย่างสิ้นท่า ไร้การต่อต้านแม้นางจะพูดว่านางเป็นคนผิด แต่เขารู้ดีว่าไม่ใช่ หากวันนั้นเขาไม่ยินยอมจริงๆ นางตัวเล็กเพียงนั้นจะถึงขั้นขืนใจเขาได้หรือ เขาประเมินความต้องการของเขาผิดไป ไม่นึกว่าจะต้องการนางมากถึงขั้นขาดสติ ปล่อยให้เรื่องราวเช่นนั้นเกิดขึ้นต่อมาลู่มู่เฉินยังได้ยินพ่อบ้านพูดว่านายหญิงผู้เฒ่าร้อนใจจนทำอะไรไม่ถูก เพราะจู่ๆ หลี่เฟิ่งเซียนก็กลับไปเที่ยวหอเข่อซินอีกแล้ว ท่านพ่อบ้านขอให้เขาช่วยพูดกับคุณหนูใหญ่ว่าไม่ควรไปเที่ยวสถานที่เช่นนั้นอีกเพราะนางแต่งงานแล้วแต่เมื่อเขาเดินไปถึงหน้า

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 53 ตื่นตะลึง (NC)

    หลี่เฟิ่งเซียนหันไปมองแท่งหยกที่นางกำไม่มิดนั้น กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ตัดสินใจยกก้นขึ้นและจับท่อนหยกร้อนของเขาถูไปมา ยามนี้ผลท้อของนางเต็มไปด้วยน้ำแห่งความสุขแล้ว‘เพียงลูบคลำเจ้านี่ ข้าก็สามารถหลั่งน้ำแห่งความสุขได้แล้วหรือ’ นางสงสัย จำได้อาหงบอกว่าเช่นนี้นางจะเจ็บน้อยลงลู่มู่เฉินรู้ทันทีว่านางคิดจะทำอะไร ถึงเขาจะอยากให้นางทำ และต้องการมากเพียงใด แต่มโนสำนึกของเขาและความตั้งใจของเขายังคงทำให้เขามีแรงจะดึงสติกลับมาได้“อย่า อย่าทำเช่นนี้” เขาขอร้องอย่างร้อนรน“เจ้าไม่อยากเสียใจภายหลังหรอกนะ เชื่อข้าเถิด เฟิ่งเอ๋อร์” เขาอ้อนวอนนาง แต่หลี่เฟิ่งเซียนใช้มือข้างหนึ่งยันเขาไว้ บังคับไม่ให้เขาลุกขึ้นหนีไปไหน มืออีกข้างของนางก็จับแท่งหยกร้อนนั่นถูไปมาที่ร่องกลีบดอกไม้ของนาง ก่อนที่นางจะออกแรงดันตัวเองลงไป หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกได้ถึงความดุดันของท่อนหยางร้อนลวกของเขาที่กำลังดุนดันเข้าไปในร่องกลีบดอกท้อ“พอแล้ว ขอร้อง อย่าทำเช่นนี้ อย่า” เสียงต่ำแหบพร่าของเขาขอร้องให้นางหยุด ในขณะที่อีกใจหนึ่งของเขากำลังรอให้นางดันตัวลงมากอดรัดเอ็นอุ่นนั้นไว้ เพียงแค่นางถูไถโลมเล้าเคล้าคลึงไปมา ความนุ่มลื่

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 52 ข้าจะเบามือ (NC)

    เขาพลิกตัวอยากจะกระโดดหนีลงไปด้านล่าง แต่เพียงแค่เขาเอียงตัวนางก็ใช้เท้าเล็กๆของนางเหยียบลงมาที่ไหล่ของเขา ดันให้เขาพลิกตัวประชันหน้ากับนางตรงๆ เขาอยากมีแรงมากกว่านี้เพื่อดันเท้านั้นให้หลุด น่าเสียดายที่วันนี้เขาอ่อนแอมากกว่าทุกที เขายังได้รับบาดเจ็บจากการทดลองยาอยู่ และภาพภรรยาตัวเปลือยเปล่า งดงามจนเขาตกตะลึง ลืมว่าต้องหนีสองมือถูกมัดไว้พ่ายหลัง ยิ่งดันให้ช่วงสะโพกแอ่นขึ้น ท่อนหยกร้อนของเขาชูชันแสดงตัวอย่างกับต้องการบอกให้นางรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร มันชูชันสูงใหญ่ดั่งเสาค้ำสวรรค์ก็ไม่ปาน หลี่เฟิ่งเซียนตาโต จ้องมองหัวใจสั่นไหว ลู่มู่เฉินงอขาและพยายามหนีบเจ้านั่นเอาไว้ แต่ยามนี้มันขยายใหญ่จนปิดไม่มิด ภาพที่นางอ้าขาเหยียบไหล่เขาเอาไว้ แม้งดงามจนเขาถอนสายตาไม่ได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาในฐานะบุรุษผู้หนึ่ง อย่างไรเขาก็ไม่อาจรับตัวเองได้ เขาอ้าปากเพื่อหายใจ หลับตาแน่นเพื่อลดทอนความอับอายในใจหลี่เฟิ่งเซียนมองดูเจ้าสิ่งนั้นแล้วตกใจไม่น้อย ในใจนางนึกถึงตอนเขาป่วยและนางเช็ดตัวให้เขา มันยังเล็กมากเท่านิ้วเท้าหัวแม่โป้ง แต่ยามนี้มันชูชันจนแทบจะใหญ่เท่าข้อมือของนาง! หลี่เฟิ่งเซียนเริ่มหายใจไม

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 51 จู่โจมร้อยแผน (NC)

    แต่ครั้งเข้าไปในห้องของตัวเองและเห็นพวกรูปต่างๆ ที่อาหงวาดขึ้นเพื่อการเรียนรู้เหล่านั้น ในใจนางเกิดความรู้สึกหึงหวงอย่างบอกไม่ถูก ไม่ใช่ว่าเขาไม่ยอมเข้าหอกับนาง เพราะหญิงแพศยานั่น!!...พวกเขาไปถึงไหนกันแล้ว!! มิน่าเขาถึงได้เชี่ยวชาญมาก เพียงจูบก็ทำให้นางสามารถหลั่งน้ำแห่งความสุขได้ เขาอาจจะเคยทำกับผู้อื่นมาก่อน เขาถึงทำเช่นนั้นได้อย่างเชี่ยวชาญ นางยอมไม่ได้ นางต้องรีบรวบหัวรวบหางเขา!! ทนรอให้เขายินยอมด้วยตัวเองไม่ได้แล้ว!!หลี่เฟิ่งเซียนวิ่งไปถึงหน้าห้องของเขา เห็นว่าด้านในยังมีแสงไฟอยู่ นางผลักประตูเข้าไปไม่บอกกล่าวไม่เคาะประตู“เจ้า เจ้าเข้ามาได้อย่างไร” ลู่มู่เฉินเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เขากำลังใส่เสื้อผ้า นางก็ผลีผลามเข้ามา เขาตกใจ รีบร้อนใส่เสื้อให้เรียบร้อย แต่เชือกผูกเอวอยู่บนโต๊ะ เขายืนอยู่ใกล้เตียงนอน จึงทำได้เพียงใช้มือจับสาบเสื้อคลุมตัวยาวเอาไว้หลี่เฟิ่งเซียนเห็นว่าเขายังแต่งตัวไม่เรียบร้อย แผนในใจของนางผุดขึ้นมาเป็นร้อยแผน คำพูดของอาหงดังก้องอยู่ในหู‘หากเจ้าทำให้เขาภูมิใจมากพอ เขาจะเอ็นดูเจ้ามากขึ้น’นางหันไปปิดประตูลงกลอน ยังเดินไปปิดหน้าต่างที่เขาแง้มเอาไว้รับลมด้วย“เจ้า เจ้า

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 50 ภรรยาผู้อื่นยืนอยู่ตรงนี้

    เรื่องราวในคืนนั้น ความหอมหวานที่เขากอดกกนาง รสจูบ ความนุ่มนิ่มนุ่มนวล ทุกอย่างทำให้เขาไม่กล้าเดินไปที่เตียงนั่น แม้บนเตียงนั้นจะเปลี่ยนผ้าปูผ้าห่มใหม่ทั้งหมดแล้วก็ตาม เขายังคงรู้สึกว่ากลิ่นหอมหวานจากตัวนางยังคงติดอยู่ที่จมูก'ตัวเจ้าหอมมาก' คำพูดของหลี่เฟิ่งเซียนลอยมา นางเคยพูดชมเขาเช่นนั้นหลายครั้งแล้ว เขาไม่แน่ใจว่านางได้กลิ่นอันใดทั้งที่บนตัวเขามีแต่กลิ่นยา เขาเองก็อยากจะบอกกับนางว่า 'ตัวเจ้าหอมน่ากินมาก' เพราะบนตัวของนางมีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายดอกไม้ผสมกลิ่นบางอย่างคล้ายหนิวหน่าย[1] ต้มผสมน้ำผึ้ง เป็นอาหารของชาวอิ่นตู้ที่เขาเคยได้ลิ้มลองเมื่อครั้งยังท่องเที่ยวไปทั่ว มันอร่อยและหอมติดจมูก ดังนั้นเมื่อเขาได้กลิ่นนี้จากตัวนาง เขาจึงรู้สึกน้ำลายสอ อยากจะกลืนกินครั้งแล้วครั้งเล่า เสียดายก็แต่เขาพูดออกไปเช่นนั้นไม่ได้ ในที่สุดลู่มู่เฉินก็ดึงผ้าห่มจากเตียงและลงไปนอนบนพื้นแทน เขาไม่รังเกียจที่จะนอนบนพื้นเพราะเขาเคยนอนในที่ที่ลำบากมากกว่านี้ พื้นแข็งๆที่ทำจากไม้ขัดมันอย่างดี ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการนอนหลับของเขาลู่มู่เฉินนอนหลับด้วยความยากเย็นเพราะมัวแต่คิดถึงนาง ในขณะที่หลี่เฟิ่งเซียนแทบ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status