Home / LGBTQ+ / จะลูปไหนก็รักเธอ / บทที่ 7 ช่วยด้วยแฟนผมเป็นตัวประกัน

Share

บทที่ 7 ช่วยด้วยแฟนผมเป็นตัวประกัน

Author: Me.Daisy
last update Last Updated: 2025-03-01 19:03:49

              เขียนโดยเรย์  เมื่อ 2 วันก่อน

              ผมไม่เคยรู้เลยว่าสิ่งที่ทำมันมีจุดอ่อน  เพียงแค่ติดกล้องวงจรปิดไว้ในเพนท์เฮ้าส์  แล้วตามกล้องวงจรปิดในเมืองไปแต่ละตัว  ก็จะเจอได้ง่ายว่าผมล็อคเอาท์ที่บ้านหลังไหน   แถมเมื่อรู้ว่าบ้านหลังไหน  ก็จะรู้ด้วยว่าผมเป็นใคร  แต่ที่ผมแปลกใจคือ  สาวตุ๊กตาบาร์บี้รู้ทั้งรู้ว่าผมเป็นใคร  กลับเอาแฟนผมมาเป็นตัวประกัน

เอ  หรือเขาจะอยากให้ผมเจ็บด้วยกว่าทำร้ายแฟน  ให้เจ็บยิ่งกว่ามาหาผมถึงบ้าน  แล้วบังคับเอาเพชรไปจากผม

              อยากด่าเขาว่าชั่ว  แต่ผมก็ไม่ใช่คนดีอะไร  ผมเลยสงบปากสงบคำ

              "เรย์  ช่วยแอนน์ด้วย  เขาขู่ว่าจะฆ่าแอนน์  หรือทำอะไรที่จะทำให้เรย์ยิ่งกว่าตกนรกทั้งเป็น  เรย์ไปทำอะไรมา  ทำไมเขาถึงแค้นเรย์ขนาดนั้น"

              แอนน์พูดผ่านอวาตารรูปนินจาชาย  ปิดหน้าปิดตาเห็นแต่ดวงตาสีฟ้าสดใส  เจ้าของเพชรบังคับถ่ายคลิปวิดีโอแล้วส่งมาให้ผม  ผมเป็นห่วงแฟนนิดหน่อย  ถ้าแค่ทำให้ตายก็คงไม่มีปัญหาอะไรมากนัก  แค่สร้างทรัพย์สินขึ้นมาใหม่ด้วยน้ำพักน้ำแรง  หรือจะสายมืดแบบที่ผมทำ  และถ้าทำอย่างที่ขู่  ผมคิดไม่ออกเลย  ว่าเขาจะทำอะไรแอนน์  แต่ผมไม่ควรคิดน้อยเกินไป  ถ้าทำให้ตกนรกได้  แสดงว่าเขาคงไม่ใช่คนรวยธรรมดาๆ"

              ผมได้ยินมาว่าอาจารย์เพนนีเคยเป็นตำรวจมาก่อน 

              จริงด้วย!!

              ถ้าอย่างนั้นเธอต้องต่อสู้เก่งมากๆ  และด้วยเงินที่ผมได้มาจากการขายเพชร  ผมจะมีกองทัพเป็นของตัวเอง!  แต่ปรึกษาอาจารย์เพนนีก็คงไม่เสียหายอะไร

              ผมโทรตามอาจารย์เพนนีให้มาที่บ้าน  เธอตามเข้ามาในห้องนอน  ซึ่งแทบไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไร  มีแค่เตียงกับตู้อย่างละหนึ่งเท่านั้น

              "เธอหวังให้อาจารย์ทำอะไร"

              "สวมเสื้อสูท  ใส่แว่นตาVR แล้วต่อสู้เคียงข้างผม"

              "แล้วอาจารย์จะได้อะไร"

              "ช่วยแฟนผมได้แล้วอาจารย์อยากได้อะไรก็เชิญ  ผมกลัวคำขู่ที่มันจะทำให้แฟนผมตกนรกทั้งเป็น  ผมเป็นห่วงเธอ"

              "ถ้าอย่างนั้น  อาจารย์ขอให้เธอกลับไปเรียนให้จบม.หกก่อน  แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีว่าจะฝังอุปกรณ์เข้าสมองตลอดกาลก็ตามใจ"

              ผมอึ้งกับคำขอนั้น  ง่ายๆ อย่างนั้นเอง  แถมเป็นคำขอที่โคตรจะอาจารย์สุดๆ ก่อนหน้านั้นผมเล่าให้ฟังคร่าวๆ ว่าผมไปทำอะไรมา  และทำให้เกิดปัญหาอะไรมา  อาจารย์เพนนีฟังเฉยๆ แล้วรับปาก  ผมเองจะมีปัญหาอะไร

              "ครับ  ผมรับปาก"

              "เขานัดเราที่ไหน"

              "ที่เพนท์เฮ้าส์ที่  ที่เคยเก็บเพชรไว้"

              "แผนของเธอล่ะ"

              "อาจารย์สู้ตัวต่อตัวในห้องนั้น  ส่วนที่เหลือผมจัดการเอง"

              อาจารย์เพนนีชั่งใจอยู่พักหนึ่ง  เธอไม่รู้ว่า'ส่วนที่เหลือ'ของผมเป็นอย่างไร  แต่เธอรู้ว่างานนี้ไม่ธรรมดา

              "ตกลง  ทำตามสัญญาด้วย"

              "ครับ"

              เราล็อคอินเข้าไปในโลกเสมือน  ขึ้นลิฟท์ไปแทนที่จะปีนตึกเหมือนที่ผมเคยทำ  ประตูลิฟท์เปิดออกอย่างง่ายดาย  วันนี้ผมใช้อวาตารที่เป็นชายวัยผู้ใหญ่  ส่วนอาจารย์เพนนีใช้อวาตารเด็กเนิร์ด  ผมไม่เข้าใจทำไมต้องเด็กเนิร์ด  ทำไมไม่เป็นทหารหรือตัวละครธรรมดาๆ

              "ทำไมต้องเด็กเนิร์ดด้วยครับ"

              "อาจารย์ชอบให้นักเรียนเป็นเด็กเนิร์ด  ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอก"

              เธอหัวเราะ  ไม่ตื่นเต้นเลยสักนิดเดียว

              "อาจารย์แน่ใจนะครับที่จะต้องต่อสู้กับพวกมัน"

              "สิบรุมหนึ่งก็เคยมาแล้ว"

              "อาจารย์อยู่ข้างหนึ่ง"

              "ไม่  ข้างสิบสิ"

              ถ้ามีกลอง  ผมจะตี 'ตึง ตึง โป๊ะ' 

              ใจผมสบายขึ้นนิดหนึ่ง

              "เธอมีปืนไหม  ขออาจารย์สักกระบอกสิ"

              "นี่ครับ  ปืนเลเซอร์ที่ดีที่สุดของปีนี้"

              ผมวางปืนลงบนมืออาจารย์สาว  เธอยกขึ้นดูอย่างหลงใหล  แล้วเหน็บไว้ข้างเอว 

              ประตูห้องเปิดออกอย่างรวดเร็ว  แอนน์ถูกมัดอยู่กลางห้อง  มีบอดี้การ์ดจับเธอไว้  ใจผมเต้นแรงเมื่อเห็นอย่างนั้น  ถ้ามันทำอะไรเธอ  ผมไม่ปล่อยเอาไว้แน่

              "ไหนเพชร  เอามาแลกกัน  แค่นี้ก็จบ"  แม่สาวตุ๊กตาบาร์บี้เอ่ย 

              ผมหยิบกล่องในเป้ออกมา  โยนให้เธอ  ส่วนอาจารย์เพนนีดึงตัวประกันมาจากบอดี้การ์ด  อีกฝ่ายเปิดกล่องดู  แต่ไม่เจอเพชรอย่างที่คิดไว้  จึงชักปืนเลเซอร์ออกมา

              อาจารย์เพนนีเตะสูงไปที่ปืนเลเซอร์  แล้วหมุนตัว  จากนั้นก็ส่งแรงเตะทรงพลังใส่บอดี้การ์ด  เขาล้มลงนอนบนพื้น  แม่สาวบาร์บี้เดินเข้ามา  ใช้กำปั้นชกไปที่ท้องของอาจารย์เพนนี  เธอเอียงตัวหลบ  ส่วนผมเล็งปืนไปที่พวกนั้น  แต่เขากระโดดหลบอย่างว่องไว  เลเซอร์ทำให้ห้องไหม้ไปส่วนหนึ่ง

              "พวกเธอหนีไปก่อน"  อาจารย์เพนนีตะโกนบอก  ดันแอนน์ให้ออกจากห้องไปพร้อมกับผม  ผมไม่รอช้า  วิ่งลงบันไดหนีไฟ  ทิ้งอาจารย์เพนนีให้สู้กับพวกนั้นตามลำพัง

              ผมรู้ว่าผมไม่ใช่ลูกผู้ชาย

              ผมไม่รู้ว่าอาจารย์เป็นอย่างไรบ้าง  รู้แต่ว่าผมจะตายไม่ได้  ไม่งั้นเงินที่สะสมมาจะหายไปทั้งหมด  และตอนนี้ผมมีเงินหนึ่งบิทคอยน์แล้ว

              ผมลงมาถึงด้านล่างในเวลาอันรวดเร็ว  และแกะมัดให้แอนน์แล้ว  ผมลูบหัวเธอเบาๆ อย่างรักใคร่  เธอยิ้มอ่อนโยนให้ผม  เราไม่ค่อยคุยกัน  แต่มักแสดงออกว่ารักแบบนี้เสมอ

              บอดี้การ์ดเดินมาเป็นกองทัพจากข้างตึก  เจ้าของเพชรคงไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่คิด  ผมน่าจะทำการบ้านมาให้ดีกว่านี้หน่อย  พวกนั้นสวมสูทผูกเนคไทสีดำ  พร้อมแว่นกันแดด  หน้าตาเหมือนกันอย่างกะแกะ  ราวกับว่าอยากให้ผมเล่นเกมจับผิดภาพอย่างไรอย่างนั้น

              ตอนนี้อาจารย์เพนนีหอบอยู่ข้างๆผม  เราสามคนกับกองทัพบอดี้การ์ดกว่ายี่สิบคน  จะเอาอะไรไปสู้  วิ่งสิครับวิ่ง

              "เธอไม่มีแผนสำรองเลยเหรอ"  อาจารย์เพนนีถาม

              ผมยิ้มมุมปาก  เท่เกินไปแล้ว  ไอเรย์! 

จากนั้นเอาคอนโทรลเลอร์ออกมา  เรียกโดรนติดอาวุธนับร้อยตัวออกมา  ดูภายนอกเหมือนแมงมุมสีดำติดปีก  เสียง     โดรนบินดังหึ่งๆ  ผมยิงปืนเลเซอร์ที่ติดโดรนไปยังกลุ่มบอดี้การ์ด 

              "อย่าบอกนะว่าเธอขายเพชรเอาไปซื้อของพวกนี้"  อาจารย์เพนนีตะโกนแข่งกับเสียงหึ่งๆ ของโดรน  "เธอบ้าไปแล้วเหรอ  ถ้าแฟนเธอไม่มีเพชรไปแลก  เธออาจจะโดนทรมาณก็ได้นะ"

              "ผมก็แค่ใช้สัญชาตญาณในการคิดนะครับ"

              ความเป็นนักพนันในตัวผมออกมาอย่างเต็มที่  ถ้าไม่กล้าเสี่ยง  ผมคงไม่ขโมยของเจ้าพ่อ  ถ้าไม่กล้าเสี่ยง  ผมคงไม่ขายเพชร  ถ้าไม่กล้าเสี่ยง  ผมคงไม่คิดจะฝัง VR เข้าไปในหัวและอยู่ในโลกเสมือนตลอดชีวิต 

              นี่แหละ  ผมเอง

              ตอนนี้ตัดสินแล้วว่าผมเป็นฝ่ายชนะ  แอนน์เดินเข้ามาหาผม  ใจผมแกว่งนิดหนึ่ง  ไม่ว่าจะอยู่ในร่างอวตารแบบไหน  ผมก็รักเธออยู่ดี  เธอทำเรื่องที่ผมไม่คาดคิด  นั่นคือกระชากคอนโทรลเลอร์จากมือผม  วิ่งไปหาแม่ตุ๊กตาบาร์บี้  แล้วบังคับ   โดรนให้หยุดยิง

              "หมายความว่ายังไง"  ผมถามสุดที่รักของผม

              "เอาเพชรมาคืนเดี๋ยวนี้  ไม่งั้นเธอสองคนตายแน่"

              อะไรกัน  ทำไมแฟนผมถึงไปยืนเคียงข้างศัตรูและพูดประโยคนี้ออกมา

              "ขายไปแล้ว" 

              "แก  ไอ้เด็กเวร"  แม่สาวบาร์บี้กัดฟันกรอด  "ถ้าอย่างนั้นฆ่ามัน!"

              ฝูงโดรนกลับหลังหันมาหาพวกเรา!

              "วิ่งครับวิ่ง" 

              ผมตะโกน  พร้อมกับใจที่หนักอึ้ง  ไม่อยากคิดว่าแฟนผมจะเป็นพวกเขา  ไอ้โจรนั่น  ผมสินะที่เป็นโจร  เขาเอาแอนน์ไปเป็นพวกได้ยังไงกัน  ให้อะไรไป  เธอถึงได้ยอมเป็นพวกด้วย  ผมไม่มีสมาธิเลย  เห็นอาจารย์เพนนีวิ่งตามมาติดๆ 

              "เอาอาวุธออกมา"

              เธอสั่งผม  ผมเพิ่งคิดได้ว่าเรามีอาวุธอยู่ในคลัง  ก็ VR ไม่ต่างอะไรกับเกมนี่นา  ผมกดปุ่มเพื่อเข้าถึงอาวุธ  แล้วทยอยหยิบปืนกลออกมา  อาจารย์เพนนีหยิบอย่างพอใจ  แล้วหามุมตึก  จากนั้นเล็งปืนกลไปที่โดรน  ซึ่งตอนนี้บอดี้การ์ดวิ่งตามมาอีกโขยง  อาจารย์ยิง  จากนั้นมันก็ตกลงทีละลำพร้อมควันดำพวยพุ่ง

              บอดี้การ์ดหยุดเดินกระทันหัน  พวกเขาดูลังเล  นี่ก็คงจะมีเงินเก็บในโลกเสมือนไม่น้อยสินะ  ถึงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม  อาจารย์สุดที่รักของผม  เล็งปืนกลมาทางพวกนั้น 

              มีคนตายไปสองคน  ทั้งๆ ที่ไม่เห็นว่าอาจารย์เล็งปืนกลมาจากตรงไหน  พวกเขาเริ่มหวาดกลัว  เข้าใจจิตใจผมแล้วล่ะซี  ตอนเป็นหมาจนตรอกมันเป็นยังไง  ที่เหลือจึงยืนลังเลอยู่ตรงทางเท้า

              "ฆ่ามันให้หมด  ยืนทำอะไรเล่า"  ยัยตุ๊กตาบาร์บี้ออกคำสั่ง  สีหน้าน่ากลัว  แต่ไม่มีใครขยับ  แน่ละ  ผลประโยชน์ตนย่อมสำคัญกว่าเสมอ  พวกเขาหยุดแค่นั้น  แล้วทยอยล็อคเอาท์ออกไปหมด  บอดี้การ์ดพวกนี้  ถูกจ้างมาแบบไม่รู้ที่มาที่ไป  คนจ้างไม่ใส่ใจรายละเอียด  ไม่มีเดิมพัน  ไม่ได้ถามประวัติแต่ละคน  จึงไม่สามารถควบคุมพวกเขาได้เต็มร้อย

              เกมนี้ผมชนะ!

              ผมลิงโลดกับเงินที่อยู่ในบัญชี  แต่แฟนผมนี่สิ  ผมคงร้องไห้คิดถึงอ้อมกอดของเธอ  แต่ไม่นานก็คงหาคนใหม่มาแทนได้  เพราะตอนนี้ผม

              โครตรวย!

              แต่เรื่องมันยังไม่จบแค่นั้น  แม่สาวตุ๊กตาบาร์บี้ยื่นมือออกมา  เธอเลือกใช้ธาตุดินอีกครั้ง  เศษโดรน และเสาไฟฟ้าเริ่มขยับ  ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นวัตถุแข็ง  กำลังบินมาทางพวกเราสองคน  และเราหลบไม่ทันแล้ว!

              "อาจารย์เพนนี  กดปุ่มความสามารถที่ถูกซ่อนไว้  แล้วเลือกธาตุลมออกมา"  ผมออกคำสั่ง  อาจารย์เพนนีดูเงอะงะพักหนึ่ง  ก่อนเลือกพลังลมออกมา  "จัดการเธอเลย  ตรงนี้ไม่มีน้ำ  ผมเลยดึงพลังมาใช้ไม่ได้"

              อาจารย์เพนนีเลียนแบบท่าทางของผม  เธอเรียกพลังลมขนาดยักษ์  โคตรยักษ์  ซูปเปอร์ยักษ์ออกมา  ลมพายุหมุนเอาวัตถุทุกอย่างที่ไม่ได้ติดตั้งอย่างแข็งแรงเข้ามาในวงพายุ  เธอบังคับให้ลมพัดไปทางแม่สาวผมบลอนด์ 

              แน่ละ  เจ้าตัวเห็นพลังขนาดนั้น  ก็ต้องล่าถอยออกไป

              "ถามจริง"  อาจารย์เพนนีถามเมื่อคู่ต่อสู้ของเราหนีไปหมดแล้ว  "เธอซื้อพลังลมด้วยเงินเท่าไหร่เนี่ย"

              "เกือบหนึ่งในสามของค่าเพชรครับ"

              "ไม่เคยปรึกษาเลยจริงๆ"  เธอประหลาดใจและส่ายหัว  ยังไม่หมดคำถามแค่นั้น  "แล้วทำไมถึงไม่ใส่พลังให้ตัวเอง  มาให้ครูทำไม"

              "ผมเป็นเป้าหมายที่เขาต้องการฆ่าทิ้ง  แต่อาจารย์จะเป็นแผนสำรองของผมได้  ถือว่าเป็นค่าจ้างที่อาจารย์มาช่วยผมแล้วกันนะครับ"

              ฉลาดมากเรย์  แต่แกก็หนีความจริงที่ว่าโดนหักหลังไม่ได้อยู่ดี

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • จะลูปไหนก็รักเธอ   บทที่ 29 เมื่อแสวงหารักที่ดีได้แล้ว(ตอนจบ)

    เขียนโดยเพนนี หลังจากนั้น 4 เดือน ลูปที่ 6 ฉันพาแกรมม่ามาที่ห้องพักบ่อยครั้ง พวกเราค่อนข้างหวานแหวว ตัวติดกันจนแทบจะแยกไม่ออก แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉันรู้สึกเปลี่ยนไปตั้งแต่มีเธอ นั่นคือ… อ้อยอิ่ง หุ่นยนต์แม่บ้านเอไอทำตัวแปลกออกไป อย่างที่ฉันสงสัยมาเสมอ ว่าเธอถูกใส่โปรแกรมให้รักเจ้านายเข้าไปด้วย หรือไม่วิวัฒนาการก็ทำให้เธอมีอารมณ์เหมือนมนุษย์ อ้อยอิ่งไม่ฮัมเพลงเวลาทำกับข้าว อ้อยอิ่งไม่รีบมาเวลาฉันเรียก และอ้อยอิ่งประชดประชันฉันบ่อยขึ้น “หุ่นยนต์เอไอ” ฉันเรียกเธอ “ค่ะ เจ้านาย” แทนที่จะต่อปากต่อคำให้ฉันเรียกชื่อเหมือนอย่างเคย แต่เธอกลับตอบรับอย่างไม่มีชีวิตชีวา “งอนเหรอ” “หุ่นยนต์ไม่สามารถมีความรู้สึกได้ นอกจากยินดีทำตามคำสั่งค่ะ และอ้อยอิ่งก็เป็นแค่หุ่นยนต์” ฉันต้องแคร์ไหมเนี่ย เอา ก็ได้วะ “ขอบคุณอ้อยอิ่งมาก ที่ทำงานรับใช้ฉันอย่างดีเสมอมา” ฉันไม่รู้จะจบประโยคนี้ได้อย่

  • จะลูปไหนก็รักเธอ   บทที่ 28 แล้วครอบครัวที่หายไปก็กลับมา

    เขียนโดยนิวตัน เมื่อ 16 ปีก่อน พ่อแม่ของเรามาที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าบ่อยๆ จนพี่เพนนีจำหน้าพ่อกับแม่ได้ เธอจะยิ้มกว้างทุกครั้งที่เห็นพวกท่าน เพราะท่านจะเข้ามาพูดคุยกับเด็กๆ ไม่เว้นแม่แต่กับเธอ เด็กในนี้จะโหยหาความรัก และอยากให้คนมาสนใจ อันที่จริง เพราะอยากจะมีโอกาสได้คุยกับพี่เพนนีด้วย แต่ไม่อยากให้มันโจ่งแจ้งนัก กระทั่งพ่อกับแม่เป็นห่วงพี่เพนนีมาก จนแม่ต้องร้องไห้ทุกคืน “เดี๋ยวผมจะไปอยู่กับพี่เพนนีเองครับ” ผมอาสา “เราเสียลูกสาวให้ส่วนรวมไปแล้ว ยังต้องเสียลูกชายไปด้วยเหรอคะคุณ” แม่ทำตาแดงๆ เหมือนจะร้องไห้ “ผมจะดูแลพี่เพนนี จะเอ็นเตอร์เทนจนพี่ต้องร้องขอพัก” ผมหัวเราะคิกคัก “ผมจะเล่าให้ฟังว่าเราทำอะไร กินอะไร นอนยังไงนะครับ แม่จะได้หายกังวล” หลังจากนั้นอีกสามวัน ผมก็เข้ามาอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ผมเป็นเด็กใหม่ที่ค่อนข้างอ้วน หลายๆ คนจึงเข้ามาบูลลี่ผม เพราะเด็กที่นี่หุ่นสมส่วนทุกคน “ไอ้เด็กอ้วนๆ มันจะโดนไม้เสียบๆ เสียบตูดซ้าย เสียบตูดขวา ร้อนจริงๆ ร

  • จะลูปไหนก็รักเธอ   บทที่ 27 วันรวมญาติของเพนนี

    เขียนโดยเพนนี หลังจากนั้น 93 วัน ลูปที่ 6 ภาพรอบๆ ตัวฉันเป็นสีขาวโพลน แวบแรกฉันคิดว่า นี่คือสวรรค์หรือไม่ก็โลกหลังความตาย มีคนตายกี่คนที่จะกลับมาบอกเราว่า โลกหลังความตายเป็นอย่างไร แล้วภาพก็ค่อยๆ กระจ่างชัดขึ้น ฉันจึงเห็นว่าสวรรค์แห่งนี้ ดูเหมือนโรงพยาบาล "ตื่นแล้วเหรอ" "คอแห้งมากเลย" ฉันตอบกลับเสียงนั่นเบาๆ ก่อนจะเห็นว่าเป็นแกรมม่า เป็นแกรมม่าเวอร์ชั่นที่ไม่ได้เห็นนานแล้ว นั่นคือเวอร์ชั่นที่ไม่อมทุกข์ "รู้สึกอย่างไรบ้าง" ฉันสำรวจแขนขาตัวเอง ก็ยังผอมบางเหมือนเดิม แต่รู้สึกได้ว่ามีกำลังวังชายิ่งกว่าเดิม เหมือนได้รับยาเพิ่มพลังชีวิตอย่างไรอย่างนั้น "ก็ดี" "พูดให้เจาะจงหน่อย" "รู้สึกมีแรงมากขึ้น ตัวเบาขึ้น ไม่เหมือนเมื่อก่อน" "วิเศษมาก!!" แกรมม่าแทบจะตะโกน "ตอนนี้เพนนีหายแล้วนะ เพนนีจะไม่ตายแล้ว" "ว่าไงนะ บุญช่วยงั้นเหรอ" ฉันเอ่ยอย่างใสซื่อ ไม่รู้จะนึกเรื่องไหนได้อีกแล้ว "เพนนีจะไม่ตายจ

  • จะลูปไหนก็รักเธอ   บทที่ 26 แล้วไวรัสก็ระบาด

    เขียนโดยเพนนี หลังจากนั้น 3 เดือน ลูปที่ 6 "เพนนีเป็นยังไงบ้าง" แกรมม่าถามเมื่อเห็นสีหน้าฉันขาวราวกับกระดาษ โธ่ ลืมปัดแก้มอีกแล้ว "ก็ยังสบายดีค่ะ เพนนีเคลียร์งานนี้เสร็จ จะไปกินข้าวด้วยนะ" "แกรมม่ามีเรื่องจะบอก" เธอทำหน้านิ่ง จนฉันกลัวอีกแล้ว ยังมีเรื่องอะไรที่น่ารู้ก่อนที่ฉันจะตายอีกไหมนะ แต่ก็อีกเป็นปีๆ แหละนะ "แกรมม่าจำได้ทั้งหมด ทุกครั้งที่มีการวนลูป" "หะ?" ฉันอุทาน "ได้ยังไง" "แกรมม่าจดจำเรื่องทุกอย่างได้เพราะ โธ่ อย่าทำหน้าตกใจขนาดนั้น ก็แค่จำได้ ลุงกานเลยคุยกับแกรมม่าเพื่อยืนยันเรื่องของเพนนี ตลอดเวลาที่เราวนลูป" "แล้วยังไงอีก" "หมายความว่าไง ก็บอกไปทุกเรื่องแล้ว" เธอก้มหน้าหงุด รู้ว่าถึงฉันจะวนลูป แต่ในใจก็มีเธอเสมอ โดยเฉพาะก่อนหน้านี้ ฉันได้บอกรักเธอ หน้าฉันเลยมีสีจัดขึ้นเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ "แล้ว...แล้ว...แล้ว" "แล้วอะไร" แกรมม่าคงจะเขินจริงๆ "แล้วรักเพนนีบ้างหรือยัง"

  • จะลูปไหนก็รักเธอ   บทที่ 25 ของใครก็ของคนนั้น

    เขียนโดยเรย์ หลังจากนั้น 8 วัน ลูปที่ 6 ภายหลังนาดาเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ อาจารย์เพนนีก็มาหาผมที่บ้าน และขอคุยกับผมตามลำพังในห้องรับแขก “อาจารย์เข้าเรื่องเลยละกัน” “มีนัดต่อกับพี่แกรมม่าเหรอครับ” ผมดักทาง เหม็นกลิ่นความรัก “ขอเขกหัวทีเถอะ ไอ้เด็กนี่” ไม่พูดเปล่า แต่ยกมะเหงกขึ้นมาด้วย แต่ผมหลบไวกว่า ผู้หญิงหรือจะไวสู้ผู้ชายได้ อาจารย์เลยทำหน้าเคร่งขึ้นมา “มานั่งให้ดีๆ” “ครับ” “ไปหาคุณฮาริสที่เพนเฮาส์ ไปต่อหน้าอาจารย์นี่แหละ” “ครับ” ผมสวมเสื้อสูท VR ส่วนอาจารย์เพนนีเปิดแท็บเล็ตส่วนตัวเพื่อติดตามบทสนทนาระหว่างเรา ผมขึ้นลิฟท์ไปแบบอารยชน ไม่ได้ไปในฐานะขโมยหรือผู้ร้าย ผมรู้จากคำบอกเล่าของอาจารย์เพนนีที่ว่า ผมกระตุ้นให้เกิดเรื่องร้ายแรงในประเทศเรา และกำลังจะทำให้คนบริสุทธิ์ต้องเดือนร้อนจำนวนมาก ถึงขั้นตายเลยเสียด้วยซ้ำ “ผมขอโทษครับ” ผมก้มกราบคุณฮาริสที่อยู่ในรูปร่างบลูค

  • จะลูปไหนก็รักเธอ   บทที่ 24 ผมมาเพื่อปลดแอกนาดา

    เขียนโดยฮาริส หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ ลูปที่ 6 ผมเข้าประชุมกับองค์กรระหว่างประเทศเพื่อขอปลดแอกประเทศนาดาจากประเทศมหาอำนาจและช่วยให้พ้นความยากจน เพื่อทำแนวทางใหม่สู่ความยั่งยืนและความเสมอภาค ในเวทีนี้ ผมคาดหวังว่าจะได้รับไอเดียดีๆ และพันธมิตรที่จะมาช่วยเหลือนาดาได้สำเร็จ ประธานในที่ประชุมกล่าวต้อนรับเรา และชี้แจงวัตถุประสงค์ในการประชุมวันนี้ ผมตื่นเต้นจนมือเปียก น้ำลายหนืด แถมปากแห้งไปหมด ถึงอย่างนั้น แต่ผมหันหน้าสี่สิบห้าองศาให้กล้องที่กำลังถ่ายทอดสดพวกเราอยู่ แหม ต้องขอบคุณเพื่อนนายแบบที่สอนทริคนี้ให้ผม ส่วนตัวผมกล่าวขึ้นแถลงเป็นคนถัดไป ผมซ้อมมาหลายวันกว่าจะกล้าขึ้นเวทีในวันนี้ ผมบอกตัวเองหลายรอบแล้ว ว่าผมคือพระเอกในวันนี้ พระเอกที่ทำทุกอย่างอย่างที่ควรเป็น เลิกเสียทีการสละเลือดเนื้อ เพื่อเอาชีวิตรอดในแต่ละวัน “ในประเทศของเรา ความยากจนเป็นปัญหาเศรษฐกิจที่สำคัญ เพราะเชื่อมโยงความไม่เท่าเทียมทางการศึกษาและสิทธิในการเข้าถึงโอกาสทางการปกครอง โดยเฉพาะเมื่อประเทศที่ปกครองเราอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status