Главная / LGBTQ+ / จะลูปไหนก็รักเธอ / บทที่ 26 แล้วไวรัสก็ระบาด

Share

บทที่ 26 แล้วไวรัสก็ระบาด

Aвтор: Me.Daisy
last update Последнее обновление: 2025-03-08 19:04:51

              เขียนโดยเพนนี  หลังจากนั้น 3 เดือน  ลูปที่ 6

              "เพนนีเป็นยังไงบ้าง"  แกรมม่าถามเมื่อเห็นสีหน้าฉันขาวราวกับกระดาษ 

              โธ่  ลืมปัดแก้มอีกแล้ว 

              "ก็ยังสบายดีค่ะ  เพนนีเคลียร์งานนี้เสร็จ  จะไปกินข้าวด้วยนะ"

              "แกรมม่ามีเรื่องจะบอก"  เธอทำหน้านิ่ง  จนฉันกลัวอีกแล้ว  ยังมีเรื่องอะไรที่น่ารู้ก่อนที่ฉันจะตายอีกไหมนะ  แต่ก็อีกเป็นปีๆ แหละนะ  "แกรมม่าจำได้ทั้งหมด  ทุกครั้งที่มีการวนลูป"

              "หะ?"  ฉันอุทาน  "ได้ยังไง"

              "แกรมม่าจดจำเรื่องทุกอย่างได้เพราะ  โธ่  อย่าทำหน้าตกใจขนาดนั้น  ก็แค่จำได้  ลุงกานเลยคุยกับแกรมม่าเพื่อยืนยันเรื่องของเพนนี  ตลอดเวลาที่เราวนลูป"

              "แล้วยังไงอีก"

              "หมายความว่าไง  ก็บอกไปทุกเรื่องแล้ว"  เธอก้มหน้าหงุด  รู้ว่าถึงฉันจะวนลูป  แต่ในใจก็มีเธอเสมอ  โดยเฉพาะก่อนหน้านี้  ฉันได้บอกรักเธอ  หน้าฉันเลยมีสีจัดขึ้นเมื่อนึกถึงเรื่องนี้

              "แล้ว...แล้ว...แล้ว"

              "แล้วอะไร"  แกรมม่าคงจะเขินจริงๆ

              "แล้วรักเพนนีบ้างหรือยัง"

              "เพนนีพูดเรื่องอะไร  แกรมม่าไม่เข้าใจ"

              "เพนนีบอกรักแกรมม่าแล้วนะ"

              "ก็รู้  จำได้ด้วย"

              "แล้วจะตอบว่ายังไง"

              เธอเงยหน้าขึ้นมองฉัน  สบตาฉันนิ่ง  น้ำตาคลอเบ้า  ให้ตายเถอะ  ไม่เข้าใจจิตใจเธอเลย

              "แกรมม่าเคยมีแฟน  แล้วจำได้ไหม  วันที่เธอตาย  เพนนีก็อยู่ในเหตุการณ์"

              "หะ?"  ตอนไหน

              "วันนั้นที่ร้านสะดวกซื้อ  เพนนีหยุดเวลาเพื่อช่วยขวัญไม่ให้โดนรถชน  แต่เธอก็ตายในร้านสะดวกซื้ออยู่ดี  เพราะการจับมือตอนหยุดพลัง  ทำให้แกรมม่าจำทุกครั้งที่วนลูปได้"

              ฉันนิ่งนึกไปนาน  แต่ก็จำได้ลางๆ ว่าเคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้น

              "แกรมม่าไม่เคยโกรธเพนนีเลย  แกรมม่าขอบคุณด้วยซ้ำที่เพนนีช่วยขวัญไว้  เธอได้ทำความดีก่อนตาย  เธอได้ช่วยคนอื่นก่อนตาย  เธอได้ตายอย่างคนดี"

              เธอสะอื้นแล้วร้องไห้ 

              "เพราะแบบนี้  เพราะเพนนีกำลังจะตายตามคำทำนาย   แกรมม่ายังลืมความรู้สึกที่คนรักตายไม่ได้  แกรมม่าไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก  ดังนั้น  เราอย่าสานต่อเรื่องนี้เลยนะ  เราเป็นแค่เพื่อนกันได้ไหม"

              ฉันไม่ตอบ  แต่ก้มหน้าลงอย่างท้อแท้  ภารกิจความรักล้มสลายลงต่อหน้าต่อตา  แล้วฉันก็เดินหายไป  หายไปจากหน้าเธอ

.

.

              ตอนนี้ฉันเหลือเวลาในชีวิตอีกแค่เกือบหนึ่งปีเท่านั้น  เมื่อสามเดือนก่อน  หมอแจ้งว่าฉันกำลังเป็นมะเร็งเต้านมระยะที่สี่  คิดดูสิ  เพิ่งรู้  แต่ก็เป็นระยะที่สี่แล้ว

              ให้ตายเถอะ  ฉันจะตายทั้งที่ยังสาว  ภาพจำทุกคนที่มีต่อฉันคือความสาว  ความสวย  โชคดีซะไม่มี  แต่ทำไมไม่รู้  น้ำตาแห่งความใจหายก็ไหลออกมา

              หมอบอกให้ทำใจ  แน่ละ  ใครจะไปทำใจได้

              ในปีนี้  การรักษามะเร็งไม่ใช่เรื่องยากเย็นอีกต่อไป  แต่ทำไมไม่รู้  ลองทุกวิธีแล้ว  ยังไม่สามารถรักษามะเร็งฉันได้

              ฉันมาทำงานที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วยความโรยแรง  แทบจะยืนไม่ไหว  แต่ขอโทษ  ปากยังสีสดอยู่นะ  เพราะฉันจงใจทาลิปมาเพื่อการนี้  ไม่อยากเห็นเพื่อนร่วมงานหดหู่  ฉันจะทิ้งทวน  ตายอย่างร่าเริงล่ะ

              การฉายรังสีในปีนี้  ไม่ทำให้ผมร่วง  การรักษาด้วยไวรัสออนโคลิติกก็รักษาฉันไม่ได้  ทำไมดวงดาวไม่เข้าข้างฉันเลย  ฉันอยากได้รับการตบรางวัลจากการทำความดี  สงสัยต้องรอชาติอื่น  เหมือนเคยมีคนเปรียบไว้ว่า  ผลกรรมเหมือนการปลูกต้นไม้  เราไม่รู้ว่าต้นไม้จะโตเมื่อไหร่  เพราะไม่รู้ว่าต้นไม้เป็นต้นอะไร  เลยได้แต่ต้องรอให้เหตุปัจจัยพร้อม  เท่านั้นเอง

              ลูกน้องของฉันเข้าสำนักงานด้วยความเร่งร้อน  จนลืมทำความเคารพฉัน 

              แหม  มันน่านัก

              "ขออนุญาตครับ"  เขาเอ่ย  แล้วก็พูดต่อโดยไม่รอให้อนุญาต  "ตอนนี้มีไวรัสแพร่กระจายในเมือง  ทำให้คนติดไวรัสมีอาการคล้ายหวัด  เมื่อยล้า  และปวดตัว  จนกระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมาครับ  โดยผู้ก่อการร้ายสวมชุดป้องกัน  แล้วฉีดไวรัสไปทั่วทั้งศูนย์การค้านิวสกายแล้วครับ  คาดว่าจะทำให้โรคระบาดเกิดขึ้นทั่วประเทศ  หากไม่มีการควบคุมครับ"

              "ตั้งทีมสวมชุดป้องกัน  ติดอาวุธ  แล้วเข้าไปเคลียร์พื้นที่"  ฉันเอ่ย  เรี่ยวแรงดูจะกลับมาอีกครั้ง

              "แต่มีอีกประเด็นครับ"  เจ้าของเรื่องแทรก  "คนที่สวมชุดป้องกัน  ไม่สามารถป้องกันไวรัสได้  ทำให้ผู้ก่อการร้ายเอง  ก็ติดเชื้อไวรัสนี้ไปด้วย  เราจึงทำได้แค่ปิดกั้นพื้นที่  และให้นักวิจัยค้นหายาต้านไวรัสไปก่อนครับ"

              เราทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้  เช่น  ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างๆ  และทุ่มกำลังเงินให้กับทีมวิจัย  นอกจากนั้น  ก็ได้แต่นั่งรออยู่ในอาคารสำนักงานของเรา

.

.

              หลังจากนั้นอีกเจ็ดวัน  นักวิจัยก็คิดค้นยาต้านไวรัสได้  แต่ทุกคนไม่กล้าเข้าไปในพื้นที่  เพราะกลัวไวรัสกันหมด  ถึงเวลาที่พระเอก  เอ้ย...นางเอกอย่างฉันจะออกโรงแล้ว

              "เดี๋ยวดิฉันไปเอง"  ฉันเอ่ยต่อหน้าลุงกานและตำรวจในห้องประชุม  "ทุกคนก็รู้ว่า  ดิฉันเหลือเวลาอีกไม่เท่าไหร่  ต่อให้ไวรัสเข้าไปทำร้าย  ก็คงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว"

              ฉันแทบจะได้ยินเสียงร้องไห้ในใจของตำรวจชายในห้องประชุม  มีพลังจิตเพิ่มอีกอย่างแล้วสินะ

              "ลุงจะไม่ห้ามแล้วกัน  ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ครั้งสุดท้ายของหนู  ถ้าหนูรอดกลับมา  ลุงอยากให้ไปรักษาตัวจนกว่าจะหายนะ  ไม่อนุญาตให้มาทำงานทั่งๆ ที่ยังป่วยแบบนี้อีกแล้ว"

              "ค่ะ ท่าน"

              ฉันทำความเคารพแล้วยิ้มให้ทุกคน  จากนั้นสาวเท้าไปสวมชุดป้องกัน  แต่ไปได้ไม่เร็วนัก  เพราะกำลังขาล้าเหลือเกิน  แต่ฉันไม่ลืมที่จะพกปืนเลเซอร์ไปด้วย

              ในศูนย์การค้านิวสกายเปิดแอร์เย็นเฉียบ  ทุกคนล้มลงนอนข้างทาง  คนที่ยังอยู่นอนร้องโอดโอย  ฉันหาโต๊ะเหมาะๆ  แล้วแกะวัคซีนในกล่องเหล็กออกมา  จากนั้นก็เดินไปฉีดยาให้ทุกคน  พวกเขาหลับไปเพราะหมดแรง  ทำให้ฉันตกใจ  เพราะไม่รู้ว่าวัคซีนจะได้ผลจริงไหม

              จากนั้นเมื่อเดินกลับมาที่เดิม  ผู้ติดไวรัสก็เริ่มขยับตัวได้มากขึ้น  พวกเขาเปลี่ยนจากนอนเป็นนั่ง  แล้วเดินเข้ามาหาฉัน 

              ในตอนนั้นเอง  เมื่อก้มลงมองวัคซีนในกระเป๋าเหล็ก  ก็พบว่าเหลือหลอดสุดท้าย  ฉันเดินไปฉีดให้เด็กชายคนหนึ่งที่นอนอยู่ใกล้บันไดเลื่อน  ก่อนฉีดฉันนึกถึงคำของนักวิจัย

              'ห้ามฉีดจนหมดนะครับ  คุณต้องเก็บไว้หลอดหนึ่งเพื่อตัวเอง  เพราะวัคซีนนี้ฉีดล่วงหน้าไม่ได้  ต้องฉีดเมื่อได้รับเชื้อเท่านั้น  ถ้าคุณติดเชื้อ  ใครจะรักษาคุณได้  ถ้าคุณไม่รักษาตัวเอง'

              แต่ว่า  ฉันกลัวเด็กจะตาย  ไหนๆ ฉันก็จะอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว  เมื่อฉีดวัคซีนเข็มสุดท้ายแล้ว  ฉันก็ล้มลง  ท่ามกลางผู้ติดเชื้อ!!

Продолжить чтение
Scan code to download App

Latest chapter

  • จะลูปไหนก็รักเธอ   บทที่ 29 เมื่อแสวงหารักที่ดีได้แล้ว(ตอนจบ)

    เขียนโดยเพนนี หลังจากนั้น 4 เดือน ลูปที่ 6 ฉันพาแกรมม่ามาที่ห้องพักบ่อยครั้ง พวกเราค่อนข้างหวานแหวว ตัวติดกันจนแทบจะแยกไม่ออก แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉันรู้สึกเปลี่ยนไปตั้งแต่มีเธอ นั่นคือ… อ้อยอิ่ง หุ่นยนต์แม่บ้านเอไอทำตัวแปลกออกไป อย่างที่ฉันสงสัยมาเสมอ ว่าเธอถูกใส่โปรแกรมให้รักเจ้านายเข้าไปด้วย หรือไม่วิวัฒนาการก็ทำให้เธอมีอารมณ์เหมือนมนุษย์ อ้อยอิ่งไม่ฮัมเพลงเวลาทำกับข้าว อ้อยอิ่งไม่รีบมาเวลาฉันเรียก และอ้อยอิ่งประชดประชันฉันบ่อยขึ้น “หุ่นยนต์เอไอ” ฉันเรียกเธอ “ค่ะ เจ้านาย” แทนที่จะต่อปากต่อคำให้ฉันเรียกชื่อเหมือนอย่างเคย แต่เธอกลับตอบรับอย่างไม่มีชีวิตชีวา “งอนเหรอ” “หุ่นยนต์ไม่สามารถมีความรู้สึกได้ นอกจากยินดีทำตามคำสั่งค่ะ และอ้อยอิ่งก็เป็นแค่หุ่นยนต์” ฉันต้องแคร์ไหมเนี่ย เอา ก็ได้วะ “ขอบคุณอ้อยอิ่งมาก ที่ทำงานรับใช้ฉันอย่างดีเสมอมา” ฉันไม่รู้จะจบประโยคนี้ได้อย่

  • จะลูปไหนก็รักเธอ   บทที่ 28 แล้วครอบครัวที่หายไปก็กลับมา

    เขียนโดยนิวตัน เมื่อ 16 ปีก่อน พ่อแม่ของเรามาที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าบ่อยๆ จนพี่เพนนีจำหน้าพ่อกับแม่ได้ เธอจะยิ้มกว้างทุกครั้งที่เห็นพวกท่าน เพราะท่านจะเข้ามาพูดคุยกับเด็กๆ ไม่เว้นแม่แต่กับเธอ เด็กในนี้จะโหยหาความรัก และอยากให้คนมาสนใจ อันที่จริง เพราะอยากจะมีโอกาสได้คุยกับพี่เพนนีด้วย แต่ไม่อยากให้มันโจ่งแจ้งนัก กระทั่งพ่อกับแม่เป็นห่วงพี่เพนนีมาก จนแม่ต้องร้องไห้ทุกคืน “เดี๋ยวผมจะไปอยู่กับพี่เพนนีเองครับ” ผมอาสา “เราเสียลูกสาวให้ส่วนรวมไปแล้ว ยังต้องเสียลูกชายไปด้วยเหรอคะคุณ” แม่ทำตาแดงๆ เหมือนจะร้องไห้ “ผมจะดูแลพี่เพนนี จะเอ็นเตอร์เทนจนพี่ต้องร้องขอพัก” ผมหัวเราะคิกคัก “ผมจะเล่าให้ฟังว่าเราทำอะไร กินอะไร นอนยังไงนะครับ แม่จะได้หายกังวล” หลังจากนั้นอีกสามวัน ผมก็เข้ามาอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ผมเป็นเด็กใหม่ที่ค่อนข้างอ้วน หลายๆ คนจึงเข้ามาบูลลี่ผม เพราะเด็กที่นี่หุ่นสมส่วนทุกคน “ไอ้เด็กอ้วนๆ มันจะโดนไม้เสียบๆ เสียบตูดซ้าย เสียบตูดขวา ร้อนจริงๆ ร

  • จะลูปไหนก็รักเธอ   บทที่ 27 วันรวมญาติของเพนนี

    เขียนโดยเพนนี หลังจากนั้น 93 วัน ลูปที่ 6 ภาพรอบๆ ตัวฉันเป็นสีขาวโพลน แวบแรกฉันคิดว่า นี่คือสวรรค์หรือไม่ก็โลกหลังความตาย มีคนตายกี่คนที่จะกลับมาบอกเราว่า โลกหลังความตายเป็นอย่างไร แล้วภาพก็ค่อยๆ กระจ่างชัดขึ้น ฉันจึงเห็นว่าสวรรค์แห่งนี้ ดูเหมือนโรงพยาบาล "ตื่นแล้วเหรอ" "คอแห้งมากเลย" ฉันตอบกลับเสียงนั่นเบาๆ ก่อนจะเห็นว่าเป็นแกรมม่า เป็นแกรมม่าเวอร์ชั่นที่ไม่ได้เห็นนานแล้ว นั่นคือเวอร์ชั่นที่ไม่อมทุกข์ "รู้สึกอย่างไรบ้าง" ฉันสำรวจแขนขาตัวเอง ก็ยังผอมบางเหมือนเดิม แต่รู้สึกได้ว่ามีกำลังวังชายิ่งกว่าเดิม เหมือนได้รับยาเพิ่มพลังชีวิตอย่างไรอย่างนั้น "ก็ดี" "พูดให้เจาะจงหน่อย" "รู้สึกมีแรงมากขึ้น ตัวเบาขึ้น ไม่เหมือนเมื่อก่อน" "วิเศษมาก!!" แกรมม่าแทบจะตะโกน "ตอนนี้เพนนีหายแล้วนะ เพนนีจะไม่ตายแล้ว" "ว่าไงนะ บุญช่วยงั้นเหรอ" ฉันเอ่ยอย่างใสซื่อ ไม่รู้จะนึกเรื่องไหนได้อีกแล้ว "เพนนีจะไม่ตายจ

  • จะลูปไหนก็รักเธอ   บทที่ 26 แล้วไวรัสก็ระบาด

    เขียนโดยเพนนี หลังจากนั้น 3 เดือน ลูปที่ 6 "เพนนีเป็นยังไงบ้าง" แกรมม่าถามเมื่อเห็นสีหน้าฉันขาวราวกับกระดาษ โธ่ ลืมปัดแก้มอีกแล้ว "ก็ยังสบายดีค่ะ เพนนีเคลียร์งานนี้เสร็จ จะไปกินข้าวด้วยนะ" "แกรมม่ามีเรื่องจะบอก" เธอทำหน้านิ่ง จนฉันกลัวอีกแล้ว ยังมีเรื่องอะไรที่น่ารู้ก่อนที่ฉันจะตายอีกไหมนะ แต่ก็อีกเป็นปีๆ แหละนะ "แกรมม่าจำได้ทั้งหมด ทุกครั้งที่มีการวนลูป" "หะ?" ฉันอุทาน "ได้ยังไง" "แกรมม่าจดจำเรื่องทุกอย่างได้เพราะ โธ่ อย่าทำหน้าตกใจขนาดนั้น ก็แค่จำได้ ลุงกานเลยคุยกับแกรมม่าเพื่อยืนยันเรื่องของเพนนี ตลอดเวลาที่เราวนลูป" "แล้วยังไงอีก" "หมายความว่าไง ก็บอกไปทุกเรื่องแล้ว" เธอก้มหน้าหงุด รู้ว่าถึงฉันจะวนลูป แต่ในใจก็มีเธอเสมอ โดยเฉพาะก่อนหน้านี้ ฉันได้บอกรักเธอ หน้าฉันเลยมีสีจัดขึ้นเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ "แล้ว...แล้ว...แล้ว" "แล้วอะไร" แกรมม่าคงจะเขินจริงๆ "แล้วรักเพนนีบ้างหรือยัง"

  • จะลูปไหนก็รักเธอ   บทที่ 25 ของใครก็ของคนนั้น

    เขียนโดยเรย์ หลังจากนั้น 8 วัน ลูปที่ 6 ภายหลังนาดาเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ อาจารย์เพนนีก็มาหาผมที่บ้าน และขอคุยกับผมตามลำพังในห้องรับแขก “อาจารย์เข้าเรื่องเลยละกัน” “มีนัดต่อกับพี่แกรมม่าเหรอครับ” ผมดักทาง เหม็นกลิ่นความรัก “ขอเขกหัวทีเถอะ ไอ้เด็กนี่” ไม่พูดเปล่า แต่ยกมะเหงกขึ้นมาด้วย แต่ผมหลบไวกว่า ผู้หญิงหรือจะไวสู้ผู้ชายได้ อาจารย์เลยทำหน้าเคร่งขึ้นมา “มานั่งให้ดีๆ” “ครับ” “ไปหาคุณฮาริสที่เพนเฮาส์ ไปต่อหน้าอาจารย์นี่แหละ” “ครับ” ผมสวมเสื้อสูท VR ส่วนอาจารย์เพนนีเปิดแท็บเล็ตส่วนตัวเพื่อติดตามบทสนทนาระหว่างเรา ผมขึ้นลิฟท์ไปแบบอารยชน ไม่ได้ไปในฐานะขโมยหรือผู้ร้าย ผมรู้จากคำบอกเล่าของอาจารย์เพนนีที่ว่า ผมกระตุ้นให้เกิดเรื่องร้ายแรงในประเทศเรา และกำลังจะทำให้คนบริสุทธิ์ต้องเดือนร้อนจำนวนมาก ถึงขั้นตายเลยเสียด้วยซ้ำ “ผมขอโทษครับ” ผมก้มกราบคุณฮาริสที่อยู่ในรูปร่างบลูค

  • จะลูปไหนก็รักเธอ   บทที่ 24 ผมมาเพื่อปลดแอกนาดา

    เขียนโดยฮาริส หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ ลูปที่ 6 ผมเข้าประชุมกับองค์กรระหว่างประเทศเพื่อขอปลดแอกประเทศนาดาจากประเทศมหาอำนาจและช่วยให้พ้นความยากจน เพื่อทำแนวทางใหม่สู่ความยั่งยืนและความเสมอภาค ในเวทีนี้ ผมคาดหวังว่าจะได้รับไอเดียดีๆ และพันธมิตรที่จะมาช่วยเหลือนาดาได้สำเร็จ ประธานในที่ประชุมกล่าวต้อนรับเรา และชี้แจงวัตถุประสงค์ในการประชุมวันนี้ ผมตื่นเต้นจนมือเปียก น้ำลายหนืด แถมปากแห้งไปหมด ถึงอย่างนั้น แต่ผมหันหน้าสี่สิบห้าองศาให้กล้องที่กำลังถ่ายทอดสดพวกเราอยู่ แหม ต้องขอบคุณเพื่อนนายแบบที่สอนทริคนี้ให้ผม ส่วนตัวผมกล่าวขึ้นแถลงเป็นคนถัดไป ผมซ้อมมาหลายวันกว่าจะกล้าขึ้นเวทีในวันนี้ ผมบอกตัวเองหลายรอบแล้ว ว่าผมคือพระเอกในวันนี้ พระเอกที่ทำทุกอย่างอย่างที่ควรเป็น เลิกเสียทีการสละเลือดเนื้อ เพื่อเอาชีวิตรอดในแต่ละวัน “ในประเทศของเรา ความยากจนเป็นปัญหาเศรษฐกิจที่สำคัญ เพราะเชื่อมโยงความไม่เท่าเทียมทางการศึกษาและสิทธิในการเข้าถึงโอกาสทางการปกครอง โดยเฉพาะเมื่อประเทศที่ปกครองเราอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status