ค้นหา
ห้องสมุด
หน้าหลัก / รักโบราณ / จารใจทุรยศ / Chapter 13. ความจริงหรือความฝัน

Chapter 13. ความจริงหรือความฝัน

ผู้เขียน: เพลงมีนา
2025-03-04 21:29:48

            เด็กสาวถามตัวเองแล้วม้วนตัวแหวกว่ายในสายน้ำ เสียงหัวเราะเยาะ สายตาที่มองอย่างเวทนา หรือแม้แต่ก้อนหินที่ปาใส่เพราะใบหน้ามีรอยแผลอัปลักษณ์น่าเกลียดนี้ แม้บาดแผลเหล่านี้จางลงกว่าก่อนมาก แต่...นางไม่อาจลืมทุกความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้เลย และมันเป็นสิ่งที่ผลักดันให้นางอดทนเพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไป

            ท่านพ่อปกป้องนาง ไต้ซือซู นายท่านรอง และยังมี...ชายผู้นั้น...

รวมทั้งใครต่อใครมากมายที่ดีกับนาง เพื่อให้นางได้เติบโตมีชีวิตอยู่ต่อไป นางจะต้องมีชีวิตที่ดีมีความสุขให้สมกับที่พวกเขาช่วยเหลือนางมาตลอด

            อากาศที่เก็บไว้ใกล้หมด แม้จะนับถือตนเองที่ดำน้ำเก่งกาจขึ้นทุกวันแต่นางมิใช่ปลา ถึงอย่างไรก็ต้องโผล่ขึ้นมาหายใจ

            ร่างบางโผล่ขึ้นจากใต้น้ำ อ้าปากสูดเอาอากาศเข้าเต็มปอด ทว่าร่างของนางกลับถูกรวบกอดจากด้านหลัง หญิงสาวเอี้ยวตัวหันไปมองกลับพบดวงตาร้อนแรงคู่หนึ่งจับจ้อง  พร้อมกับริมฝีปากบางที่ครอบครองริมฝีปากของนาง    

ดวงตากลมเบิกตากว้างฉายแววตระหนก

นี่ความฝันหรือความจริง

เหตุใดเป็นเขา!

            เพราะทะนงในฝีมือตนเองจึงพลาดพลั้งเสียท่าอย่างน่าอับอายเช่นนี้

            เจอหญิงบ้าตามตื๊อยัดเยียดตำแหน่งสามี เขาต้องหลบหนีเพราะไม่อยากทำร้ายสตรี แต่เมื่อประมือกันถึงรู้ว่านางมีวรยุทธ์ไม่ด้อยกว่าเขาเลย ด้วยความที่ไม่ต้องการทำร้ายสตรีเขาจึงออมมือ แต่กลายเป็นตนที่ถูกนางซัดผงสีขาวใส่ใบหน้า เขาเผลอสูดเข้าไปอึกหนึ่งแล้วรีบกลั้นหายใจ

            ‘นี่มันอะไรกัน’

          ‘พิษราคะ’

‘อะไรนะ!’

‘ผงปลุกกำหนัด’

          ‘เจ้าเป็นบ้าหรือไร! เอายาถอนพิษมา!’

            หญิงสาวหัวเราะร่าแล้วชี้ที่ใบหน้าตนเอง ‘ข้าไง ยาถอนพิษของเจ้า!’

            ‘เจ้า!’

          ‘ก็ข้าชอบเจ้า อยากได้เจ้าเป็นสามี เพราะฉะนั้นเจ้าสามารถใช้ร่างกาย

ของข้าได้เต็มที่เลย

          ‘เจ้ามันเสียสติไปแล้ว!’

            เขาเห็นท่าทีจริงจังของนางแล้วคิดว่าตนคงได้รับพิษจริงๆ แต่จะให้เอาสตรีเสียสติเช่นนี้เป็นภรรยา เขาไม่ยินยอมเด็ดขาด อาศัยจังหวะนางเผลอจึงใช้วิชาตัวเบาลอบกระโจนหนีออกมา กระนั้นยังได้ยินเสียงนางตะโกนไล่หลัง

            ‘นี่! ภายในสามวันถ้าเจ้าไม่ได้เสพสังวาส เจ้าจะเลือดออกจากทวารทั้งห้าตายสถานเดียว ทางที่ดีมาให้ข้า ซูหลี่น่า ถอนพิษให้เถอะ!’

            เขาไม่ได้หันกลับไปอีก คนอย่างเขา ‘สวินเย่ว์’ จะหาสตรีร่วมหลับนอนมิใช่เรื่องยาก เพียงปรายตาก็มีสตรีคลานขึ้นเตียงแล้ว แต่เขาเป็นคนช่างเลือกและเรื่องมาก ทว่าตอนนี้เขาอยู่ในป่าเขา เดิมทีคิดว่าจะทนต่อความรู้สึกปรารถนาอันรุนแรงนี้ได้ ทว่ามันไม่ใช่เพียงแค่นี้ พละกำลังของเขาถดถอยไปเรื่อยๆ ดวงตาพร่าเลือนมองเห็นไม่ชัดเจน

            นี่มันยาปลุกกำหนัดชนิดใดกันแน่!

            เพราะต้องคอยหลบและกลบเกลื่อนร่องรอยของตนมิให้หญิงบ้าผู้นั้นตามตัวเขาพบ กว่าจะออกจากภูเขามาได้ก็กินเวลาไปสองวันแล้ว มุ่งหน้าออกมาเห็นเพียงหลังคาหมู่บ้านขนาดเล็กอยู่ห่างๆ กันราวยี่สิบหลังคาเรือน หมู่บ้านเล็กขนาดนี้คงไม่มีหญิงคณิกาหรือนางโลม หญิงชาวบ้านที่ไหนจะยอมขายตัวให้เขาได้เล่า จากนี้เข้าเมืองหลวงต้องใช้เวลาเท่าไหร่กัน

            เพราะดวงตาที่มองแทบไม่เห็นและร่างกายที่ร้อนรุ่ม เมื่อประสาทสัมผัสที่เหลืออยู่รับรู้ว่ามีแหล่งน้ำอยู่ใกล้ๆ เขาจึงไม่ลังเลที่จะลงไปแช่น้ำ หวังให้ความเย็นของสายน้ำช่วยลดทอนความร้อนรุ่มในร่างกาย ทว่าในขณะที่ดวงตาพร่าเลือนเหมือนมีหมอกจางๆ บดบังดวงตา เขากลับเห็นเรือนร่างเกือบเปลือยเปล่าของหญิงสาวแหวกว่ายในสายน้ำ แรกทีเดียวเขาสะบัดศีรษะไปมา มันอาจเป็นภาพหลอนเพราะฤทธิ์ยาบ้าๆ นั้นก็เป็นได้ จนกระทั่งแรงกระเพื่อมของผิวน้ำที่มากระทบเขาทำให้ชายหนุ่มรับรู้ได้ว่ามีคนว่ายน้ำอยู่ใกล้เขา

แม้มองเห็นไม่ชัดแต่ภาพที่ปรากฏตรงหน้าชวนหลงใหล เส้นผมยาวสลวยในสายน้ำราวกับแพรไหมที่คลี่คลุมเรือนร่างขาวผ่องดุจหยกใส ร่างนั้นดำผุดดำว่ายราวกับเป็นมัจฉาตัวน้อย ยามนางโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำเพื่อหายใจ เสียงหัวเราะสดใสปานระฆังเงินก็ดังขึ้น ก่อนนางจะดำน้ำลงไปอีกครั้ง ครั้งนี้นางดำน้ำลงไปนานกว่าครั้งก่อน จนเขาคิดว่านางอาจจมน้ำหรือเป็นตะคริวจึงรีบพุ่งร่างของตนไปทิศทางที่เห็นนางดำน้ำ ทว่านางกลับโผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำพอดี ราวกับไม่อาจบังคับร่างกายของตนได้ เขายื่นมือไปกอดรัดร่างอ่อนนุ่มไว้แนบอก เพียงนางเอี้ยวตัวหันมามอง เขาก็โน้มหน้าลงประกบริมฝีปากที่เผยอขึ้นของนางเข้าให้แล้ว

ดวงตากลมเบิกกว้างฉายแววตระหนก

นี่นางฝันไปใช่ไหม

เหตุใดเป็นเขา!

            ‘สวินเย่ว์! เขามาทำอะไรที่นี่!’

            ร่างของเธอถูกรวบกอดราวกับจะรัดแน่นเข้าไปในร่างกายใหญ่โตทำให้เสิ่นฉางซีได้สติ

            ‘ประเดี๋ยวนะ! ปาก! เขาประกบปากนางอยู่’

            พอได้สติ เสิ่นฉางซีก็พยายามดิ้นรนขัดขืน ออกแรงสะบัดตัวออกจากวงแขนที่กอดรัดได้ ว่ายน้ำถอยห่างจากระยะที่เขาจะเอื้อมมือถึง

            “แม่นาง”

            น้ำเสียงเจือความเจ็บปวดของเขาทำให้เสิ่นฉางซีขมวดคิ้ว

เขาจำนางไม่ได้สินะ...

มีแต่นางที่เคยเห็นเขา แม้จะมองไกลๆ นางไม่เคยลืมเลือนเขาเลย รูปร่างของเขาสูงใหญ่ขึ้น ใบหน้าคมคาย คิ้วกระบี่ ริมฝีปากบาง ดวงตา...ดวงตาคู่นั้นที่เคยมองผู้อื่นอย่างหยิ่งยโสเป็นฝ้าขาวราวกับมีหมอกจางๆ ในดวงตา

            ดวงตา?

            “ท่าน...ถูกพิษหรือ?”

            คำถามของนางทำให้เขาได้สติ เป็นฝ่ายถอยห่างจากนาง แต่ไม่คิดว่าหญิงสาวจะว่ายน้ำกลับมาใกล้เขา

            “อย่าถูกตัวข้า!”

            เสิ่นฉางซีผวาเฮือก แต่พอคิดว่าในวัยเด็ก เขาก็ชอบตวาดเช่นนี้ นางกลับเม้มปากกลั้นหัวเราะขบขัน เขายังเหมือนเดิม เขาจำนางไม่ได้ก็ไม่เป็นไร นางไม่ใช่สิ่งที่น่าจดจำอยู่แล้ว  เด็กอัปลักษณ์อย่างนาง อย่าจดจำได้เลยเป็นดี

            ถูกแล้ว หากเขาจำได้ว่านางคือเด็กอัปลักษณ์คนนั้น เขาคงไม่ประกบปากกับนางกระมัง

            เสิ่นฉางซีเม้มริมฝีปาก พลางสั่งตัวเองไม่ให้คิดถึงเรื่องเมื่อครู่ แม้ตนเองมีเพียงเอี๊ยมบังทรงและกางเกงชั้นใน แต่ดูท่าทางเขาจะมองนางไม่ค่อยชัด

            “คุณชาย” นางเรียกเขาเบาๆ “ดวงตาของท่าน...”

            เพราะเห็นเขาถอยห่าง นางจึงรีบว่ายน้ำเข้าไปใกล้ ไม่สนใจเสียงตวาดเมื่อครู่ เพียงยื่นมือไปแตะท่อนแขนของเขา นางตกใจถึงกับชักมือกลับ หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นตระหนก

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป