หลังจากนั้นประมาณหนึ่งอาทิตย์ พวกยมทูตก็มารับสัญญาการต่ออายุจากฉันไป ใครบอกว่ายมทูตต้องใส่ผ้าคลุมสีดำถือเคียวมาค๊อกประตูเอาวิญญาณไปกันนะ ที่ฉันเจอมีแต่หนุ่มหล่อมาดธุรกิจมารับสัญญาจากฉันไปโดยที่ไม่ลืมจะแจกนามบัตรยมทูตให้กับฉันอีกด้วย
‘สนใจทำสัญญากับยมทูตเขต1 ติดต่อได้ที่เบอร์ xxx และปรโลกสาขา 1 แถมฟรีไก่ทอด 1 ถัง’
“ทำงานกันเป็นทีมดีนะ ยมทูตพวกนี้”
“ใครมาหรอคะ”
จีราญาเอ่ยถามฉันในขณะที่ตัวเธอก็กำลังจัดเตรียมโต๊ะอาหารเช้าต้อนรับอทินซึ่งกำลังจะไปจัดงานโฆษณารถยนต์ของฉันด้วย ทั้งที่บอกว่าไม่ต้องทำ เธอก็ไม่ยอมฟัง ยัยเด็กเอาแต่ใจเอ้ย
“พวกยมทูตน่ะ แต่เธอไม่เห็นพวกเขาหรอก ถ้าตายไปแล้วก็อีกเรื่อง”
“นี่ยูโรตายไปแล้วหรอคะเนี่ย”
“เธออยากโดนฉันลบความทรงจำมากใช่ไหมล่ะ เดี๋ยวจัดให้เลย ชักเอาใหญ่แล้วนะ”
“อย่านะคะ ความทรงจำที่ไม่มีคุณ ฉันไม่เอาหรอกค่ะ ไม่ล้อแล้วก็ได้”
“งั้นสัญญามาว่าจะไม่บอกใครเรื่องฉัน”
“ถึงบอกใครไปก็ไม่มีใครเชื่อหรอกค่ะ อีกอย่างคุณไม่เคยบอกฉันเลยว่าคุณเป็นใคร”
“ถ้าฉันบอกแล้วมันจะเปลี่ยนอะไรได้”
“ฉันก็ได้รู้จักคุณมากขึ้น”
“ไม่จำเป็นต้องรู้จักฉันมากขึ้นหรอก เธอเป็นอิสระแล้ว ที่เหลือก็แค่ให้พ่อของเธอหาหนอนบ่อนไส้ในบริษัทให้เจอ ส่วนเรื่องอทินเธอไม่ต้องช่วยฉันแล้วก็ได้”
“ทำไมล่ะคะ อยู่ๆคุณเป็นอะไรไป”
แค่รู้สึกว่ามันแปลกๆไป....
“ฉันแค่รู้สึกว่าเธอไม่ต้องทำแล้วมันก็เท่านั้น”
“โกหก คุณเป็นอะไรกันแน่-”
“ งั้นฉันจะพูดตรงๆก็ได้ เธอกำลังชอบฉันใช่ไหม”
ทันทีที่ฉันตัดสินใจถามออกไป จีราญาก็ชะงักลงดื้อๆ เธอมีอาการล่นลานอย่างเห็นได้ชัด
“มะ...ไม่ใช่นะคะ”
“แล้วทำไมต้องหลบตาฉันด้วย”
“ฉันไม่ได้ชอบคุณ...”
“แล้วทำไมต้องเสียงสั่น”
“ฉันไม่ได้...”
“หยุดโกหกเถอะ เธอชอบฉัน ”
ยูโรไล่ต้อนอีกฝ่ายที่เบือนหน้าหนีตนก่อนจะใช้ฝ่ามือดันผนังห้องเอาไว้ไม่ให้จีราญาหันหน้าหนีไปไหนได้อีก
“ทำไมคุณต้องบังคับให้ฉันพูดด้วย”
“เพราะว่าถ้าเธอชอบฉัน ฉันคงต้องให้เธอไป ก่อนมันจะสายไปกว่านี้ ”
“แล้วทำไมฉันถึงชอบคุณไม่ได้ ”
“ เพราะมันไม่มีเหตุผลน่ะสิ ไม่ได้ก็คือไม่ได้ ”
“ แล้วคุณมาทำดีกับฉันทำไม.... ”
“ถ้าจะพลักไสกันแบบนี้... คุณมาช่วยฉันไว้ทำไมคะ....ทำไมถึงทำเหมือนว่า...ฉันมีค่า ”
"....ทำให้ฉันคิดไปเอง....ว่าฉันพิเศษ”
“ฉัน....”
“ฉันเกลียดคุณค่ะ ฉันเกลียดคุณที่สุดเลย! แบบนี้พอใจแล้วใช่ไหมคะ ฝากบอกคุณอทินด้วยว่าฉันอยู่ทานข้าวด้วยไม่ได้แล้ว...”
พูดจบฉันก็โดนคนร่างบางผลักออกพลางวิ่งร้องไห้ออกไปทันที ทำไมเธอดูเปราะบางจังนะ เผลอแปปเดียวก็ทำให้หัวใจเป็นรอยขึ้นมาแล้วสิ...ใช้ไม่ได้เลยนะฉันน่ะ....
“งานวันนี้มีอะไรไม่พอใจรึเปล่าครับ”
“ไม่นี่คะ มันดีมากเลย”
“จริงหรอครับ แล้วทำไมคุณถึงดูเศร้าจังเลยล่ะ”
อทินมองตามใบหน้าของยูโรซึ่งกลืนไม่เข้าคายไม่ออกก่อนจะหาตัวช่วยอย่างรันเวย์มาแทน
“อ่ะ นั่นรันเวย์นี่คะ”
“ครับ เขาก็อยู่ตรงนั้นมาตลอดนั่นล่ะ”
“เอ่อ จริงสิคะ คุณกับพายอาร์เป็นยังไงกันบ้างคะ”
ฉันรีบยิงคำถามใส่เขาทันที เพราะอทินจ้องจะจับผิดฉันอยู่ตลอด ถ้าเขาไม่ทำงานด้านออกแบบ ฉันก็คิดว่าเขาน่าจะไปได้ดีกับอาชีพนักสืบนะ
“เธอก็เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีครับ”
“อ่า เพื่อนร่วมงาน...”
“คุณยูโรช่วยมาดูรูปตรงนี้หน่อยสิคะ คุณคิดว่ามันโอเครึยัง”
พูดถึงก็เดินมาพอดี คนร่างสูง นัยต์ตาหวาน สวมชุดพนักงานขายที่ต้องทำเวลาตามคอนเซ็ปที่อทินวางไว้ให้
“ค่ะ ฉันคิดว่ามันโอเคแล้วนะคะ ทุกคนวันนี้ทำดีมากค่ะ พักกองได้”
เนื่องจากมันเป็นการโฆษณาชุดใหญ่ฉันก็เลยจ้างทีมงานมืออาชีพมาทั้งเซ็ต แน่นอนว่าทั้งหมดนี่ก็เพื่อให้ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันมากยิ่งขึ้น
“รินคุ นายทำอะไรซักอย่างสิ”
ฉันแอบกระซิบกระซาบคนร่างสูงซึ่งก็มาเป็นนายแบบโฆษณาในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน เขาทำหน้างงเล็กน้อยก่อนจะดีดนิ้วหนึ่งทีทำให้เสาไฟที่เป็นเหล็กล้มลงมาจะทับตัวพายอาร์จนอทินที่อยู่แถวนั้นพอดีต้องรีบวิ่งเข้าไปรับเอาไว้แทน
“แบบนี้เป็นไง ซีนโรแมนติก”
“โรแมนติกกับผีสิ อทินเขาเจ็บตัวไม่ใช่เหรอ”
“แหม เพื่อความรัก มันก็ต้องมีเจ็บตัวกันบ้างสิ ยันบ๊อง”
“คิดได้แต่เรื่องใช้กำลังสินะนายน่ะ”
“อย่าเพิ่งเอาแต่ว่า ดูนั่นก่อน”
พูดจบรินคุก็หันหน้าคนร่างบางไปทางพวกเขาทันที
“เจ็บมากไหมคะ! เพราะฉันแท้ๆ เลย”
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่เจ็บเลย โอ๊ย!”
“ค่อยๆ ลุกนะคะ ฉันจะพาคุณไปโรงพยาบาล”
พายอาร์ค่อยๆช่วยพยุงอทินขึ้นก่อนที่ทีมงานแถวนั้นจะรีบวิ่งเข้ามาช่วยเหลือพวกเขาด้วยเช่นกัน
“เห็นไหมล่ะ มันโอเค”
“พวกพระเจ้าหัวรุนแรง คิดได้แค่นี้สินะครับ”
รันเวย์! เขามาอยู่ข้างหลังพวกเราตั้งแต่เมื่อไร....
“นี่จิ้งจอกอ่อนไหวง่ายอย่างแกยังอยู่ดีอีกเหรอเนี่ย เธอไม่รำคาญบ้างรึไง ถ้าเธอโอเค ฉันเผามันแทนได้นะ เห็นแล้วมันขัดตา”
“หยุดเลยรินคุ เขาไม่ได้จะทำร้ายเราก่อนซะหน่อย ถ้านายทำเขา นายก็เป็นฝ่ายผิดนะ”
“นี่เธอเข้าข้างมันเหรอยูโร”
“พูดจาอวดดีได้ตลอดเลยนะครับ ทั้งที่ยังไม่ได้เป็นพระเจ้าเลยแท้ๆ ”
“อยากตายจริงๆ สินะ”
“หยุดเลยทั้งคู่นั้นแหละ ฉันขอสั่งให้พวกนายหยุดทะเลาะกัน แล้วคุมทีมงานที่นี่ด้วย ฉันจะพาพวกเขาไปหาหมอ”
“นี่เธอสั่งฉันอีกแล้วนะยูโร! ถึงไอ้จิ้งจกนี่จะฟังเธอ แต่ฉันไม่ฟังหรอกน่า นี่ได้ยินไหมเนี่ย”
“เธอเดินไปไกลแล้วครับ อีกอย่างผมเป็นจิ้งจอกไม่ใช่จิ้งจกนะ!”
“หนอยแน่ะ ไอ้ลูกหมาแกจะยังไงกับฉันห๊ะ”
“แกนั่นล่ะ อยากโดนหมากัดมากสินะ!”
หลังจากนั้นประมาณ 15 นาทีได้ ฉันก็พาอทินไปถึงโรงพยาบาลได้สำเร็จพร้อมกับพายอาร์ซึ่งมีอาการเป็นกังวลสุดๆ
“ไม่ต้องห่วงนะคะ คุณอทินเขาต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน มันไม่ใช่ความผิดของคุณเลยค่ะ”
เพราะมันเป็นความผิดของรินคุต่างหากล่ะ!
“แต่สาเหตุมันมาจากฉันนะคะ”
“อย่าคิดมากเลยค่ะ มันเป็นอุบัติเหตุนี่น่า”
“แต่ว่า...”
“ถ้าคุณยังรู้สึกไม่ดีอยู่ล่ะก็ ฉันมีทางแก้ให้นะคะ”
“อะไรคะ”
“รับผิดชอบคุณอทินสิคะ”
“คะ?”
“ถือว่าดูแลเขาในระหว่างที่เข้าเฝือกแขนอยู่ก็ได้ค่ะ ถ้าคุณยังรู้สึกผิดอยู่อ่ะนะ”
“จะดีเหรอคะ”
“ดีสิคะ ถ้าเป็นแฟนกันด้วยจะดีมากเลย”
“เมื่อกี้คุณยูโรว่าอะไรนะคะ”
แย่ล่ะสิ...ดันหลุดปากซะได้...
“เอ่อ คือว่า...”
“พายอาร์นี่เธอ ยอมโพล่หัวมาแล้วงั้นเหรอ!”
ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ ที่คนร่างบางลืมคำพูดของฉันไปแล้ว แต่ตอนนี้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของฉันกลับกลายเป็นคนที่บอกกับฉันว่า เธอเกลียดผู้หญิงที่ชื่อพายอาร์เป็นที่สุด ผู้หญิงที่ทำให้พี่ชายของเธอต้องนอนร้องไห้
“น้องเมล์...”
“ฉันไม่ใช่น้องคุณ!”