Share

บทที่ 13

Author: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
เดิมทีกู้หว่านเยว่ก็อยากไปซื้อของอยู่แล้ว ต่อไประหว่างทางถ้าหยิบอะไรออกมา ก็จะได้อ้างว่าเป็นของที่ซื้อมา

เมื่อได้ยินคำพูดของจางเอ้อร์ นางก็รีบกลับไปที่ห้องเพื่อหยิบตะกร้า

ตอนจะไป ซูจิ่งสิงที่อยู่บนเตียงก็ยัดกุญแจให้นาง

“เจ้าเอาอันนี้ไป หาโอกาสไปที่ลานบ้านเล็ก ๆ หลังตรอกอูอี มีของอยู่ข้างใน... เจ้าขนมันออกมาให้หมด”

ขณะที่พูดประโยคสุดท้าย ซูจิ่งสิงก็มองนางอย่างลึกซึ้ง

แต่กู้หว่านเยว่มัวแต่ตกใจจนไม่ได้สังเกตแววตาของเขา ผู้ชายคนนี้แอบซ่อนของไว้ที่นี่ด้วยหรือ?

สมกับเป็นตัวร้ายในนิยายที่มีสติปัญญาและวรยุทธ์เหนือกว่าฮ่องเต้สุนัขตัวนั้น ดูเหมือนว่าจะเตรียมทางหนีทีไล่ไว้แล้วสินะ

กู้หว่านเยว่อยากรู้อยากเห็นมาก “ท่านซ่อนอะไรไว้?”

“เห็นแล้วก็จะรู้เอง”

นักการยังคงรออยู่ข้างนอกประตู กู้หว่านเยว่ไม่สะดวกที่จะถามอะไรมากนัก จึงรับกุญแจมาแล้วรีบออกไป

“บางคนนี่หน้าไม่อายจริง ๆ ไม่รู้ว่าลับหลังแอบไปประจบประแจงอะไรนักการ ถึงได้ไปซื้อของกับพวกเราได้โดยไม่ต้องจ่ายเงิน”

เมื่อเห็นนักการไปลากรถ หลี่ซือซือก็พูดจาเหน็บแนมด้วยความอิจฉา

คนอื่น ๆ ในอีกหลายครอบครัวเห็นกู้หว่านเยว่ช่วยซุนอู่ไว้ ในใจก็รู้ถึงความสามารถของนาง จึงไม่ได้คิดว่ากู้หว่านเยว่ทำเรื่องน่าอับอาย ตรงกันข้าม พวกเขาต่างมองนางด้วยความชื่นชม

ถ้าสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับนักการได้ ระหว่างทางก็คงจะสะดวกสบายไม่น้อยเลย

กู้หว่านเยว่ไม่แม้แต่จะมองหลี่ซือซือ ก้าวเท้าเดินไปที่รถลาก ยื่นมือออกไปแล้วกระโดดขึ้นไปนั่งบนรถลากเพื่อหาที่นั่งที่ดีก่อน

ปล่อยให้หลี่ซือซือยืนกระทืบเท้าด้วยความโกรธอยู่ที่เดิม

“กระทืบอะไรนักหนา จะไปซื้อของไหม ถ้าจะไปก็รีบหน่อย ทำชักช้าอยู่ได้!”

จางเอ้อร์ตะคอกใส่หลี่ซือซือ

หลี่ซือซือตัวสั่นด้วยความกลัว รีบฝืนยิ้มแล้ววิ่งมา “ข้าไป ข้าไป...”

เพราะนางชักช้า จึงไม่มีที่นั่งบนรถลากแล้ว นางจึงทำได้เพียงวิ่งตามไปข้างหลังตลอดทาง ในใจก็ยิ่งเกลียดกู้หว่านเยว่เข้าไปใหญ่

“กู้หว่านเยว่นี่มันตัวซวย ตัวซวยจริง ๆ!”

เมื่อซูเช่อได้ยินคำด่าสาปแช่งของนางก็ขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องที่เอาแต่หาเรื่องกู้หว่านเยว่ จึงลืมขึ้นรถลาก เหตุใดถึงโทษคนอื่นได้...

ท่านแม่ยังให้เขาสนิทกับลูกพี่ลูกน้องอีก ผู้หญิงแบบนี้... เฮ้อ!

เมืองอูอวิ๋นเป็นเมืองเล็ก ๆ ไม่ค่อยเจริญ แต่โชคดีที่ข้าวสาร แป้ง ธัญพืช น้ำมัน และของจำเป็นในชีวิตประจำวันอื่น ๆ มีครบ

เนื่องจากถูกเนรเทศ พวกเขาคงไม่ซื้ออาหารสดใหม่ ทุกคนจึงเดินข้ามร้านอาหารไปยังร้านขายอาหารแห้ง ตั้งใจจะซื้อข้าวโพด มันเทศ และขนมปังชนิดต่าง ๆ ที่สามารถเก็บไว้ได้ระหว่างทาง

จางเอ้อร์พานักการไปซื้อของ แล้วนำของที่ซื้อมาไปวางบนรถลาก ส่วนคนอื่น ๆ ก็ใช้โอกาสขณะที่เขาซื้อของ หยิบเงินออกมาซื้อเสื้อผ้าและของใช้

หลี่ซือซือแม่ลูกสองคนต่างจากตระกูลซู พวกนางถูกเนรเทศมา แต่ไม่ได้ถูกยึดทรัพย์สิน จึงมีเงินติดตัวมาพอสมควร

เมื่อมาถึงร้านขายอาหารแห้ง นางซื้อของมากมาย และโยนของทั้งหมดให้ซูเช่อถือ

นางเหลือบมองกู้หว่านเยว่ด้วยหางตา แล้วพูดอย่างเสแสร้ง

“ได้ยินมาว่าตระกูลโหวตัดขาดกับเจ้าแล้ว เจ้าคงไม่มีเงินติดตัวสินะ อยากให้ข้าใจดีให้เจ้ายืมหน่อยไหม? ดูสภาพจน ๆ ของเจ้าสิ!”

“น้องสาว อย่าพูดเลย”

ซูเช่อได้ยินหลี่ซือซือด่ามาตลอดทาง ทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ

เขามองกู้หว่านเยว่ด้วยความสงสาร “พี่สะใภ้ ข้ายังมีเศษเงินอยู่นิดหน่อย เอาไปก่อนนะ ถือว่าเป็นการตอบแทนที่ท่านช่วยชีวิตหร่านหร่านไว้ตอนที่ถูกยึดทรัพย์”

“ไม่ต้องหรอก”

กู้หว่านเยว่ยิ้มให้ซูเช่อแล้วโบกมือปฏิเสธ ส่วนเงินนางก็ไม่ได้ขาดแคลน

ซูเช่อเห็นดังนั้นก็ไม่ฝืนอีกต่อไป ถึงอย่างไรทั้งครอบครัวต้องมาลำบากเพราะบ้านสาม เขาก็รู้สึกไม่ค่อยดีนัก อีกทั้งบ้านใหญ่ของพวกเขาก็มีเงินไม่มาก ในเวลานี้ก็ต้องเอาตัวเองให้รอดก่อน

กู้หว่านเยว่มองไปรอบ ๆ ไม่มีอะไรอยากซื้อ แต่เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย จึงแกล้งทำเป็นซื้อของเล็กน้อย

ส่วนใหญ่เป็นข้าวโพดและมันเทศ สามารถนำไปย่างกินระหว่างทางได้ รสชาติก็ไม่เลว

นางยังซื้อน้ำตาลแดงเล็กน้อย น้ำตาลแดงสามารถเติมพลังได้ ทหารที่ออกรบก็ขาดน้ำตาลแดงไม่ได้ ในช่วงเวลาสำคัญอาจจะดีกว่าอาหารเสียอีก

“สิ้นเปลืองเงิน มีเงินแต่ไม่ซื้ออาหาร ดันไปซื้อน้ำตาลแดง ตะกละ”

หลี่ซือซือกลอกตา “อ๋อ จริงสิ เจ้าอาจจะไม่มีเงินด้วยซ้ำ”

นางรอที่จะดูเรื่องตลกของกู้หว่านเยว่ แต่กลับเห็นกู้หว่านเยว่ค่อย ๆ หยิบตั๋วเงินห้าสิบตำลึงออกมาจากอก

มูลค่าของตั๋วเงินนั้นมากกว่าที่นางหยิบออกมาเสียอีก

“เจ้าเอาเงินมาจากไหน?” หลี่ซือซือมองด้วยสายตาดุร้าย ที่แท้นางแกล้งทำเป็นจนมาตลอด

“เรื่องของข้า”

กู้หว่านเยว่วางของที่ซื้อมาไว้บนรถลากด้วยกัน จากนั้นลูบกุญแจที่อยู่ในอกอย่างเงียบ ๆ เห็นว่าฟ้าเริ่มจะมืดแล้ว ถ้าไม่รีบไปเก็บของ ก็จะไม่มีเวลาแล้ว

นางก้าวไปหาแล้วกล่าวกับจางเอ้อร์

“พี่จางเอ้อร์ ข้าอยากไปซื้อของอย่างอื่นคนเดียว ของใช้สำหรับผู้หญิงน่ะ”

ขณะพูดประโยคนี้ กู้หว่านเยว่ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เพราะแค่ได้ออกมาซื้อของก็ถือว่าใจดีมากแล้ว

ถ้าจางเอ้อร์ไม่เห็นด้วย นางค่อยมาใหม่ตอนกลางคืน เพียงแต่ไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะออกจากเมืองอูอวิ๋นวันนี้หรือไม่ ถ้ามาอีกครั้งก็จะลำบากกว่าเดิม

แต่คาดไม่ถึงเลยว่าจางเอ้อร์จะพูดง่ายมาก “กลับมาภายในครึ่งชั่วยาม”

กู้หว่านเยว่รู้สึกซาบซึ้งใจ “ขอบคุณมาก”

นางเข้าใจว่านี่เป็นความไว้วางใจที่จางเอ้อร์มีให้นาง หยิบตะกร้าแล้วเดินไปที่ตรอกอูอี

“ท่านนักการ ข้าขอไปดูร้านเสื้อผ้าข้าง ๆ ได้ไหม?” หลี่ซือซือเข้ามาขอร้อง

ตอนที่นางออกเดินทางก็ไม่ได้เก็บเสื้อผ้าอะไรเลย เสื้อผ้าที่สวมก็เกือบจะขาดหมดแล้ว ซึ่งสำหรับคนที่รักสวยรักงามอย่างนาง นี่เป็นเรื่องที่ทนไม่ได้

“ฝันไปเถอะ!”

จางเอ้อร์ด่านางอย่างสาดเสียเทเสีย ทำเอาหลี่ซือซือน้ำตาคลอ

“ทำไมกู้หว่านเยว่ไปได้ แล้วข้าไปไม่ได้?”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ซูเช่อก็รู้สึกกลัว หลี่ซือซือถึงกับกล้าท้าทายท่านนักการ ไม่กลัวตายหรือ?

โชคดีที่จางเอ้อร์ไม่ชอบทำร้ายคน จึงไม่ได้ฟาดแส้ใส่นาง แค่หัวเราะเยาะ

“แม่นางกู้ช่วยท่านหัวหน้าไว้ เป็นผู้มีพระคุณต่อท่านหัวหน้า เจ้าเป็นหรือไม่? ไม่ส่องกระจกดูเลยหรือว่าตัวเองมีค่าแค่ไหน ต่อไปนี้ถ้าไม่สงบเสงี่ยม ก็อย่าหวังว่าจะได้ออกมาซื้อของอีก!”

ทางด้านนี้ กู้หว่านเยว่ทำตามคำแนะนำของซูจิ่งสิงจนไปถึงลานบ้าน จากนั้นหลบหายตัวเข้าไปในลานบ้าน ใช้กุญแจเปิดประตูห้องใต้ดินแล้วรีบวิ่งเข้าไป

เมื่อนางจุดเทียนให้แสงสว่างส่องไปรอบ ๆ หนังตาก็กระตุกอย่างแรง

ดีมาก สมกับเป็นผู้ชายของนางกู้หว่านเยว่!

ที่แท้ก็สะสมเสบียงและอาวุธไว้เต็มห้องใต้ดิน ไม่แปลกใจเลยที่ขณะค้นจวนอ๋อง ไม่มีอะไรในคลังสมบัติเลย ดูท่าจะรู้ล่วงหน้าแล้วรีบย้ายออกไปก่อนแล้ว

แต่ของเยอะขนาดนี้ ซูจิ่งสิงจะให้นางขนไปหมดเลยหรือ?!

ไม่สิ ผู้ชายคนนี้รู้ว่านางมีมิติวิเศษแล้วหรือ?

กู้หว่านเยว่รู้สึกหวาดระแวงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ปล่อยให้มือว่าง นางโบกมือเก็บของในห้องใต้ดินจนหมด

หลังจากที่แน่ใจว่าไม่มีอะไรเหลืออยู่แล้ว จึงหันหลังกลับแล้วออกไป

จากนั้นก็กะเวลาแล้วไปที่ร้านขายยา ให้หมอจัดยาสมุนไพรชนิดต่าง ๆ ตามที่นางสั่ง แล้วรีบกลับไปหากลุ่มหลัก

เหล่านักการได้ขนของขึ้นรถลากแล้ว

กู้หว่านเยว่วิ่งเข้ามา “ขอโทษที ขอโทษที ไปร้านขายยาจึงมาช้าแล้ว”

จางเอ้อร์เกาหัว “ไม่เป็นไร แม่นางกู้ขึ้นรถก่อนเถอะ พวกเรากำลังจะกลับโรงเตี๊ยมแล้ว”

“ได้” กู้หว่านเยว่ถอนหายใจ จากนั้นเอ่ยขึ้นมาทันที “จริงสิ ห่อยาสมุนไพรพวกนี้ให้ท่าน”
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
จีรพันธ์
สนุก ติดตาม ๆๆ
goodnovel comment avatar
วรรณดี ศาลาทอง
สนุกมากค่ะขอบคุณที่เปิดโอกาสให้ได้อ่านนิยายสนุกสนุกค่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1916

    ถึงแม้ข้างกายข้าจะไม่ขาดคน แต่ในเมื่อองค์หญิงน้อยเป็นผู้แนะนำ เช่นนั้นก็รับไว้ ให้เขาอยู่ทำงานกับข้าก็แล้วกันถูซื่อดีใจจนเนื้อเต้น “ขอบคุณท่านแม่ทัพ ขอบคุณองค์หญิงน้อย”ฮั่วหยุนกล่าว “เจ้าตามข้ามา”ถูซื่อพยักหน้า รีบเดินตามหลังอีกฝ่าย และจากไปพร้อมกันเมื่อเห็นฮั่วหยุนพาชาวบ้านเหล่านั้นจากไป กู้หว่านเยว่ก็มองไปยังซูจิ่งสิง “ท่านพี่ ตอนนี้พวกเราจะไปที่ไหนกัน?”“ข้ามีค่ายทหารอยู่ใกล้ ๆ พวกเราไปพักผ่อนที่นั่นกันก่อน”ซูจิ่งสิงกล่าวพลางหันไปสั่งการผู้ใต้บังคับบัญชาที่อยู่เบื้องหลัง ให้นำคบเพลิงมาจุดไฟเผาอุโมงค์เหมือง“ไปกัน”เมื่อเห็นเปลวไฟลุกโชนอยู่ด้านหลัง ซูจิ่งสิงก็ยื่นมือให้กู้หว่านเยว่ โอบนางขึ้นบนหลังม้าแล้วทะยานจากไปอย่างรวดเร็ว“นี่ พวกท่านรอข้าด้วยสิ” หนานโย่วตะโกนไล่หลัง รีบปีนขึ้นม้าอย่างทุลักทุเล จากนั้นตามพวกเขาไปทั้งสองคนขี่ม้าเร็วสีเงินขาวตัวเดียวกัน กู้หว่านเยว่ไม่เคยรู้สึกผ่อนคลายทั้งกายและใจเช่นนี้มาก่อน นางเอนกายพิงอกของซูจิ่งสิงอย่างเกียจคร้าน หรี่ตามองไปข้างหน้า สัมผัสถึงเสียงหัวใจที่เต้นอยู่ด้านหลังนางหันกลับมายิ้มอย่างสดใส ประกอบกับชายหนุ่มผู้เย็นชาและ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1915

    อย่างไรเสีย เขามายังที่ราบแห่งความโกลาหลก็เพื่อกู้หว่านเยว่ ย่อมไม่ทำร้ายสหายของนางอย่างแน่นอน“เก็บอาวุธทั้งหมดขึ้นมา”ซูจิ่งสิงออกคำสั่ง ทหารที่อยู่เบื้องหลังก็รีบเก็บธนูในมือ และถอยกลับไปอย่างพร้อมเพรียงกันหนานโย่วกลืนน้ำลาย รีบมายืนอยู่ข้างกายกู้หว่านเยว่เมื่อเห็นสายตาที่ไม่เป็นมิตรของซูจิ่งสิง เขาก็หัวเราะฮ่า ๆ พลางเอ่ยขึ้น “ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม สมกับที่เป็นหัวหน้าของกองทัพซินเยว่ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นจริง ๆ ”ซูจิ่งสิงละสายตากลับ “องค์ชายรองเกรงใจเกินไปแล้ว”เขามองไปยังกู้หว่านเยว่ “น้องหญิง เรื่องวุ่นวายใหญ่โตเพียงนี้ ตลาดมืดจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอนที่นี่ไม่ควรอยู่นาน พวกเรารีบไปจากที่นี่กันก่อนเถิด”กู้หว่านเยว่พยักหน้า “หนานโย่ว ท่านจะกลับไปก่อนพร้อมกับแม่ทัพฮั่ว หรือว่าจะไปกับข้า?”จุดประสงค์หลักของพวกเขาในครั้งนี้คือการช่วยชาวบ้านที่ถูกหลอกมา ตอนนี้ชาวบ้านได้รับการช่วยเหลือแล้ว ภารกิจก็ลุล่วง ถึงเวลากลับไปรายงานแล้วฮั่วหยุนวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว “องค์ชายรอง ขุมกำลังทางใต้นั้นเป็นแหล่งรวมคนสารพัดประเภท ไม่ใช่สถานที่ที่ควรจะอยู่นาน พวกเรารีบกลับกันเถิดพ่ะย่ะค่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1914

    อาจเป็นเพราะว่า พวกเขาทั้งสองคนเหมาะสมกันมากเกินไปทุกคนต่างรู้จักกาลเทศะ ไม่มีใครก้าวเข้าไปรบกวนกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงโอบกอดกันต่อหน้าผู้คนเนิ่นนานเป็นเวลาหนึ่งถ้วยชา พวกเขาต่างดื่มด่ำกับความรู้สึกที่ได้เป็นของกันและกันอย่างสมบูรณ์จนกระทั่งสติสัมปชัญญะกลับคืนมา ทั้งสองจึงคลายอ้อมกอดออกจากกัน แต่ก็ยังคงไม่ปล่อยมือ ทั้งสองยังคงจ้องมองอีกฝ่าย เพื่อค้นหาความเปลี่ยนแปลงของกันและกันในช่วงเวลาที่ไม่ได้พบเจอ“น้องหญิง เจ้าผอมลงแล้ว”ซูจิ่งสิงยื่นมือออกไป ปัดปอยผมข้างหูให้กู้หว่านเยว่อย่างอ่อนโยน สัมผัสได้ชัดเจนว่านางดูผอมลงไปไม่น้อย“ท่านพี่”กู้หว่านเยว่ยิ้มอย่างเขินอาย น้ำเสียงออดอ้อน “ท่านก็เปลี่ยนไปบ้างเช่นกัน”ดูสุขุมและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าแต่ก่อน ทั้งยังแผ่กลิ่นอายของการต่อสู้ที่โชกเลือดออกมาเล็กน้อยเมื่อคิดว่าเขามาถึงที่ราบแห่งความโกลาหลโดยไม่มีที่พึ่งพิง แต่กลับอาศัยเพียงตนเองจนกลายเป็นหัวหน้าของกองทัพซินเยว่ได้ในเวลาอันสั้น ในช่วงเวลานั้นคงต้องประสบความยากลำบากมาไม่น้อยกู้หว่านเยว่ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดใจ น้ำเสียงก็อ่อนโยนลงไปอีกสองส่วน“แต่ก็ยังคงเป็นสามีของข้า”แม้ว่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1913

    กู้หว่านเยว่ในยามนี้ ลืมไปแล้วว่าตนเองกำลังอยู่ในอุโมงค์เหมืองทางทิศใต้ นางลืมไปแล้วว่ารอบกายอาจมีอันตรายซ่อนอยู่ ในวินาทีที่ได้เห็นชายผู้นั้น ดวงตาของนางก็ไม่สามารถมองเห็นสิ่งอื่นใดได้อีก ราวกับว่าทั่วทั้งฟ้าดิน เหลือเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นในนัยน์ตาสีดำของนางฉายแววสงสัย ตกตะลึง ยินดี และสุดท้ายก็ถูกความรู้สึกอุ่นใจเข้ามาทำให้ทุกอย่างสงบลง“ซูจิ่งสิง ใช่ท่านหรือไม่?”นางขยับริมฝีปากแดงระเรื่อ เอ่ยชื่อที่ซ่อนลึกอยู่ในใจ และไม่กล้าแตะต้องมาโดยตลอดออกมาดวงตาทั้งสองจ้องมองชายที่อยู่ตรงหน้าอย่างแน่วแน่ น้ำเสียงแผ่วเบา ราวกับกลัวว่าทุกสิ่งตรงหน้าเป็นเพียงภาพลวงตา และถ้านางส่งเสียงดังขึ้นอีกนิด ภาพลวงตานี้ก็จะแตกสลายไปแม้ว่าหลายวันที่ผ่านมา นางจะคิดอยู่ตลอดว่า หัวหน้าของกองทัพซินเยว่จะเป็นเขาหรือไม่แต่เหตุผลกลับคอยย้ำเตือนว่า มันจะเป็นไปได้อย่างไร?เขายังคงยุ่งอยู่กับการดูแลราษฎรในต้าฉีและปกครองบ้านเมือง จะมาหานางได้อย่างไร จะข้ามผ่านป่าซิงโตวมาได้อย่างไร?อาจเป็นเพราะรับรู้ได้ถึงความตกตะลึงของกู้หว่านเยว่ ชายที่อยู่ตรงหน้าจึงไม่ได้รีบร้อน แต่กลับยกมือขึ้น ปลายนิ้วเรียวยาววางลงบน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1912

    “ระบบ ช่วยข้าตรวจนับสมบัติที แล้วนำของที่ดูออกว่าเป็นของโจรชัด ๆ ไปลงในแพลตฟอร์มซื้อขาย”กู้หว่านเยว่สั่งการ คนของหนานโย่วน่าจะมาถึงแล้ว“ขอรับ” น้ำเสียงของระบบพลันเปลี่ยนไปเล็กน้อยอย่างน่าประหลาดทหารม้าของกองทัพซินเยว่แข็งแกร่งอย่างหาที่เปรียบมิได้ เพียงครู่เดียว ก็สามารถกำจัดหน่วยลาดตระเวนที่ปากถ้ำได้ทั้งหมด ขณะนี้ ชาวบ้านที่อยู่ข้างในก็เพิ่งหาทางออกเจอและวิ่งออกมา เมื่อเห็นศพนอนเกลื่อนกลาดอยู่นอกถ้ำ ต่างก็ตกตะลึงกันไปหมด “คนตายแล้ว คนตายแล้ว!”“รีบหนีเร็ว!”ทุกคนต่างพยายามวิ่งออกไปข้างนอกหนานโย่วหายใจติดขัด เขามองไปยังคนของกองทัพซินเยว่ ที่สำคัญคือเขาไม่รู้ว่าคนเหล่านี้มาที่นี่เพื่ออะไร หากพวกเขามาเพื่อสังหารชาวบ้าน ก็คงไม่ดีแน่ยังดีที่ชายผู้เป็นหัวหน้าโบกมือ คนของกองทัพซินเยว่ก็ถอยออกไปอย่างพร้อมเพรียง เปิดทางให้ชาวบ้านเหล่านี้“กลับไปยังมาตุภูมิของพวกเจ้าเถิด ต่อไปอย่าได้ถูกหลอกอีก”ชายผู้นั้นเอ่ยปาก น้ำเสียงทุ้มลึกน่าฟังเป็นพิเศษเหล่าชาวบ้านเพิ่งจะตระหนักได้ว่า แท้จริงแล้วชายผู้นี้มาเพื่อช่วยพวกเขา ต่างก็รีบคุกเข่าลงกับพื้นทันที“ขอบคุณท่านแม่ทัพที่ช่วยชีวิตพวกเร

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1911

    วันนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทีแรกเหล่าสหายที่อยู่นอกอุโมงค์เหมืองก็หมดสติไปครึ่งหนึ่งโดยไร้สาเหตุ จากนั้นก็มีกองทัพหนึ่งกองทัพมาอีก หรือว่าพวกเขาไปล่วงเกินใครเข้าโดยไม่ตั้งใจ?หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนคิดไปในทิศทางเดียวกับหนานโย่วอย่างรวดเร็ว เขาคาดเดาว่าที่เป็นเช่นนี้อาจเป็นเพราะพวกเขาลักพาตัวคนที่ไม่ควรลักพาตัวหรือไม่ จึงทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตเช่นนี้“เฮ้ย!”หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนโบกมือทั้งสองข้าง พยายามจะเจรจา“อย่าเพิ่งวู่วาม มีอะไรก็พูดคุยกันดี ๆ พวกท่านต้องการอะไรก็บอกมาดูก่อนหากพวกเราพอจะทำให้ได้ ก็จะพยายามอย่างเต็มที่”เขาคิดว่า หากพลาดพลั้งจับคนของอีกฝ่ายมาผิด ก็แค่ปล่อยตัวไป ไม่จำเป็นต้องล่วงเกินกองทัพทั้งกองทัพ เพื่อคนเพียงคนเดียวหากเป็นที่รังเก่าของพวกเขาอย่างตลาดมืด แน่นอนว่าย่อมไม่กลัวกองทัพเพียงกองทัพเดียวทว่าวันนี้ในอุโมงค์เหมืองของพวกเขาเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมากเกินไป เขาจึงกังวลว่าอีกฝ่ายจะมีไม้ตายอยู่อีกสู้จับมือเป็นมิตรอาจจะดีกว่า ไม่แน่ว่าอาจได้สหายเพิ่มขึ้นมาอีกคนชายที่อยู่บนหลังม้าสีเงินขาวพลันยกมือซ้ายขึ้นเล็กน้อย ทหารม้าที่อยู่ด้านหลังก็หยุดลงอย่าง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status