공유

ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง
ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง
작가: suniki

บทนำ

작가: suniki
last update 최신 업데이트: 2025-01-13 18:24:09

คนเราเมื่อตายแล้วไปไหน เป็นคนถามยอดฮิตที่คนเป็นยังหาคำตอบไม่ได้ว่าเมื่อ ตาย แล้ว วิญญาณจะไปที่ไหนต่อ

ส่วน กมลเนตร สาวไทยวัย 28 ปี พบว่าเมื่อตัวเธอตายวิญญาณไม่ได้ขึ้นสวรรค์หรือลงนรก แต่กลับมาอยู่ในร่างของแมวจรผู้อดอยาก ผิดยุคผิดสมัย

ฟังไม่ผิด เธอตื่นขึ้นมาในร่างแมวจรจัด หลังเรือล่มในทะเลจากการเที่ยวในวันหยุดยาว ยอมรับว่าความรู้สึกของการเดินสี่ขา ความรู้สึกของการเป็นสัตว์ที่ไร้เจ้าของ ไม่ทำให้เธอรู้สึกแย่มากกว่าการพบว่ายุคที่อยู่ไม่ใช่ยุคปัจจุบัน

ในเมื่อตอนเป็นคนเธอก็กำพร้าพ่อแม่ เติบโตมาจากบ้านเด็กกำพร้า พอเรียนจบมัธยมปลายก็ออกมาอยู่หอพัก ทำงานหนักจนสายตัวแทบขาดหาเงินส่งตัวเองเรียนจนจบ ทุกคืนเมื่อกลับถึงห้องพักความโดดเดี่ยวกัดกินหัวใจจนรู้สึกชาชิน แม้จะมีคุณแม่ในบ้านเด็กกำพร้าและเพื่อนจากในนั้นคอยถามข่าวคราวแต่ทุกคนต่างก็ต้องดิ้นรนในแบบของตัวเอง นอกจากถามไถ่ทุกข์สุข ก็ไม่สามารถช่วยเหลือ หยิบยื่นโอกาสอะไรให้

ในช่วงแรกนอกจากตกตะลึง ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงมาอยู่ในร่างแมวน้อยไร้เรี่ยวแรง กมลเนตรก็หม่นหมองอยู่สักพักแล้วทำใจได้อย่างรวดเร็วตามประสาคนที่ปรับตัวตามสถานการณ์ได้ทุกเวลา ถึงจะมีช่วงเวลาให้นึกถึงชีวิตในชาติก่อน มันยังมีหลายอย่างที่เธออยากลองทำ แต่ไม่มีโอกาสได้ทำเนื่องด้วยเวลาและเงินทองไม่เอื้ออำนวย

ยังดีที่ความคิดว่าตนโดดเดี่ยวถูกขจัดลงเมื่อพบว่าแท้จริงแล้วแมวที่เธอมาสวมร่างมีแม่ แม่แมวสีขาวดวงตาสีเทามักทอดกายนอนให้นมด้วยท่าทีสิ้นเรี่ยวแรง ร่างกายผอมโซมองเห็นกระดูกสีข้างเป็นแพ แววตาสีเทาไร้ประกายแห่งชีวิต เธอคิดว่าหากไม่มีลูกแมวตัวน้อยเป็นดั่งความหวัง แม่แมวตัวนี้คงไร้แรงพยุงฝืนมีลมหายใจต่อไปได้

แม่แมวเองมีร่างกายผอมแห้ง แม้แต่น้ำนมก็ไหลเพียงเล็กน้อยให้ดื่มกินพออยู่ท้อง กว่าหกเดือนในร่างของลูกแมว กมลเนตรนับว่าทำได้ดี อย่างน้อยก็พบแม่แมวอยู่เคียงข้างทุกครั้งเมื่อหันกลับไป

ชีวิตใหม่ในร่างแมวดำเนินตามประสา ไม่ยากไม่ง่าย สำนึกในช่วงขณะนั้นขอเพียงกินอิ่มท้อง นอนหลับสบายโดยเบียดซุกหาไออุ่นของกันและกัน นับว่าความเดียวดายจากก้นบึ้งได้รับการเยียวยา

ไม่รู้สวรรค์กลั่นแกล้งไม่อยากให้เธอมีความสุขในสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวนี้หรืออย่างไร เย็นวันนั้นเธอเดินตามแม่แมวเพื่อไปยังตลาดเพื่อฝึกฝนวิชาย่องเบาเช่นทุกวัน

ตอนกำลังวิ่งข้ามถนนกลับมีรถม้าคันหนึ่ง วิ่งด้วยความเร็วมาจากไหนไม่ทราบได้ เธอที่เดินตามยังอยู่บริเวณริมถนน ต่างจากแม่แมวที่ยืนอยู่กลางถนน หากร่างกายแข็งแรงคงหลบพ้นวิถีอันตรายนี้อย่างง่ายดาย แต่ด้วยกำลังอ่อนแรงจากความหิว ไหนจะร่างกายป่วยไข้สะสม ไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

วินาทีแห่งความเป็นตายมักเชื่องช้า กมลเนตรเห็นชัดเต็มสองตา เท้าม้าเหยียบลงบนหลังของแม่แมว ก่อนล้อรถม้าจะเหยียบซ้ำอีกครั้ง ร่างแมวสีหม่นขนยาวที่มีขนร่วงเป็นกระจุกไม่น่ามอง กำลังนอนหายใจรวยรินอยู่กลางถนน กมลเนตรไม่รู้ว่าตัวเองส่งเสียงร้องยังไงออกไป แต่ความรู้สึกเจ็บปวดจากการสูญเสียคนที่รักเพียงคนเดียวไป ทำให้ร่างแมวของเธอสั่นไปทั้งร่าง

ฝุ่นจากรถม้าปลิวหายไปแล้ว คงไว้เพียงความเงียบสงัด เสียงร้องครวญครางของแมวน้อยดังไปทั่วบริเวณป่า กลางถนนอันแสนขรุขระปรากฏสองร่างนอนทอดกัน หนึ่งสิ้นใจนอนจมกองโลหิต อีกหนึ่งไม่แยแสต่อกองเลือดนอนคลุก อิงแอบราวต้องการส่งคำอ้อนวอนหวังให้แม่รับรู้และตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ความน่าเวทนานี้หากใครมาได้เห็นได้ยิน คงจับกระแสความเศร้าเสียใจจากเสียงร้องของมัน....

หนึ่งปีแล้วสำหรับร่างใหม่แสนทรุดโทรม เบื้องหน้าของแมวสี่ขา การมองเห็นกำจัดระยะทำให้รู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้างในช่วงแรก แต่เมื่อยอมรับได้ก็พอมองข้ามไป และใช้ความได้เปรียบของแมวกระโจนขึ้นที่สูง เป็นตัวช่วยให้ระยะการมองกว้างขึ้นอีกหน่อย

ตลาดเช้าแสนคึกคักยังคงเหมือนเดิม ผู้คนสวมชุดจีนโบราณ อาคารบ้านเรือนแปลกตา ยานพาหนะนอกจากเกวียนวัวก็มีรถม้า ผู้คนทั้งชายหญิงออกมาเดินจับจ่ายข้าวของ เพื่อนำกลับไปทำอาหารให้คนที่เรือน

ทหารในชุดลาดตระเวนบ้างขี่ม้า บ้างเดินย่ำตรวจดูความเรียบร้อยไปทั่วเมือง ร้านอาหาร โรงเตี๊ยม เหลาขึ้นชื่อสุดหรูที่รวบรวมเหล่าคนมีเงินมากมายเข้าใช้บริการ กลิ่นอาหาร เสียงพูดคุยของเหล่าพ่อค้าแม่ขาย ช่วยทำให้อากาศเย็นของช่วงเช้านี้ไม่หดหู่จนเกินไป

“เนื้อตุ๋นมาแล้ว เนื้อตุ๋น เนื้อตุ๋นแสนอร่อย” เสียงพ่อค้าร้านเนื้อตุ๋นดังขึ้นพร้อมกับกลิ่นหอมของเครื่องเทศผสมกลิ่นเนื้อ เมื่อยามเปิดฝาหม้อโชยไปทั่วบริเวณ ช่วยดึงความอยากอาหารของผู้คนแถวนั้น รวมถึงก้อนขนสีขาวที่มีสีกระดำกระด่าง มีบางจุกหลุดร่วงเกิดจากการต่อสู้กับแมวเจ้าถิ่นเมื่อหลายวันก่อน มันนอนหมอบอยู่บนกำแพงของจวนสักหลังหนึ่ง ดวงตาสีเทาจับจ้องเพียงหม้อเนื้อตุ๋นเพื่อรอโอกาส

กมลเนตรกลืนน้ำลายลงคอเมื่อกลิ่นหอมนั้นดึงความหิวจนเสียงท้องร้องโครกคราก จมูกสีชมพูขยับสูดดมกลิ่นเนื้อ พร้อมลิ้นสีชมพูแลบออกมาเลียปากเมื่อรู้สึกน้ำลายสอ ความมันแวววาวในหม้อตุ๋น ก้อนเนื้อติดมันหลายก้อนลอยเบียดในหม้อ

ด้วยกลิ่นอันแสนโอชะ ลูกค้าตรงเข้ามาล้อมร้านขายเนื้อตุ๋นเจ้าอร่อยประจำตลาด เจ้าของร้านยิ้มแย้มตักเนื้อตุ๋นใส่ถ้วยของลูกค้า คิดเงินว่องไว ปากยังคงตะโกนอวดอ้างความอร่อย บ้างหันมาพูดคุยกับลูกค้าอย่างเป็นกันเอง กมลเนตรดูลาดเลามาหลายวันแล้ว

ร้านอาหารในตลาดฝั่งตะวักตกนางก็สร้างวีรกรรมไว้จนต้องหลบหนีมา เจ้าของร้านเหล่านั้นถูกขโมยจนจับตามองของกินในร้านไม่วางตา หากมีหมาหรือแมวจรเดินผ่านหน้าร้านจะรีบสาดน้ำไล่ทันที เธอยังไม่อยากโดนสาดน้ำไล่หรือทุบตี จึงเสี่ยงเดินมาหากินที่ร้านขายอาหารฝั่งตะวันออก มีปัญหากับเจ้าถิ่นจนฟัดกันขนกระจุยกระจาย ก่อนคว้าชัยชนะมาได้ด้วยร่างกายสะบักสะบอม

ขอแค่เนื้อชิ้นเดียวก็เพียงพอให้อิ่มท้องไปทั้งวัน นางคิดอย่างหมายมาด ทุกครั้งที่เจ้าของร้านตักเนื้อให้ลูกค้าจะมีชิ้นเนื้อใหญ่บ้าง น้อยบ้างติดอยู่ในกระบวย แค่ต้องรอจังหวะที่เจ้าของร้านเผลอพูดคุยกับลูกค้านานสักหน่อย

ดวงตากลมสีเทาวาววับ ตอนนี้แหละ!

ร่างผอมแห้งของแมวขาวกระโดดลงจากกำแพง ย่องกริบไปยังถาดวางกระบวยข้างหม้อต้ม ยืนสองขายื่นปากคาบชิ้นเนื้อขนาดพอดีได้ ก็วิ่งแนบหายไปจากตรงนั้นโดยไม่มีผู้ใดมองเห็น

หากการขโมยไม่ถูกจับได้ก็จะมีโอกาสย้อนกลับมาอีกครั้ง หากถูกจับได้ตั้งแต่แรกครั้งที่สองอย่าหวังจะมีโอกาส ด้วยเหตุนี้หมาแมวจรในตลาดจึงผลัดเปลี่ยนไปตามร้านต่าง ๆ เพื่อให้เจ้าของร้ายคลายความระวังจึงทำการขโมยอาหารรอบต่อไป

กมลเนตรอยู่ในร่างแมวมาหนึ่งปี เรียนรู้สิ่งเหล่านี้มาอย่างเชี่ยวชาญ พอท้องอิ่มหนังตาก็เริ่มหย่อน นางใช้เล็บเกาะเกี่ยวตามกำแพงผุพังอย่างชำนาญ ที่นอนประจำตลอดหนึ่งปีมานี้คือบนคานไม้ของวัดร้าง เดินวนหาตำแหน่งเหมาะแล้วขดตัวนอนหลับ สายลมโชยช่วยให้การนอนหลับพักผ่อนหลังอิ่มท้องสบายขึ้น

แสงนวลจากจันทร์กระจ่างเต็มดวงช่วยขับความมืดยามค่ำคืน วัดร้างกลางป่าอยู่ห่างจากเมืองหลวงเพียงหนึ่งเค่อ วันนี้ปรากฏผู้มาเยือนพร้อมกลิ่นอายฆ่าฟัน กลิ่นคาวเลือดทำให้ก้อนสีขาวบนคานไม้ตื่นจากการหลับไหล ยืดเหยียดขับไล่ความเมื่อยขบพร้อมอ้าปากหาวเมื่อการนอนถูกรบกวน

เบื้องล่างปรากฏว่ามีบุรุษผู้หนึ่ง ในชุดผ้าไหมปักลายดูสูงค่า โซเซทิ้งตัวพิงกำแพงวัดอย่างคนหมดแรง มือซ้ายยกขึ้นกุมบาดแผลฉกรรจ์ตรงหน้าท้อง มือขวากระชับดาบคู่ใจไว้มั่น นัยน์ตาสีรัตติกาลกวาดมองรอบวัดร้างอย่างคนระวังตัว ไร้ซุ่มเสียงหลุดรอดแม้บาดแผลจะมีเลือดไหลนอง

มีเพียงสายลมแรงพัดกวาดใบไม้แห้งจากต้นไม้ใหญ่ข้างนอกวัดเกิดเสียงแสกสาก กลบเสียงฝีเท้าของกลุ่มคนซึ่งกำลังวิ่งมาทางนี้ หากแต่เขามิใช่คนธรรมดาจึงได้ยินชัดถึงการมาเยือนของศัตรู บาดแผลยังคงมีเลือดไหล คมอาวุธเคลือบด้วยพิษร้ายทำให้ร่างกายกำยำอ่อนแรง กระนั้นก็ยังคงประคองสติไว้มั่น

ชายชุดดำปกปิดใบหน้ามิดชิดก้าวออกมาจากรอบทิศ ล้อมคนเจ็บไว้ตรงกลาง กลิ่นไออันตรายผสมกลิ่นคาวเลือดรุนแรงจนแมวสีขาวบนคานขนชี้ฟูตามสัญชาติญาณ ดวงตาสีเทาจับจ้องฉากตรงหน้าด้วยใจระทึก

หลี่ไต้ซวนบดฟันจนกรามขึ้นสัน ข่มความเจ็บปวดจากพิษและบาดแผลทั่วร่าง ยืดกายเหยียดหลังตรง นัยน์ตาสีรัตติกาลมองนักฆ่าทั้งสี่คนนิ่ง แม้จะคล้ายจนตรอกในสายตาของเหล่านักฆ่า แต่ในสนามรบเขาคือแม่ทัพใหญ่ แม้จะบาดเจ็บจนแทบพยุงร่างไว้ไม่ไหม ก็ยังเหยียดกายยืนเต็มความสูง เผชิญหน้ากับทหารกล้าจากแคว้นศัตรู ไม่หวั่นเกรงแม้ความตายจ่อรออยู่ตรงหน้า

แมวขาวหลบอยู่บนคาน โผล่มาเพียงใบหูและดวงตาเพื่อมองการต่อสู้อันเร้าใจ อุทานกับตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อเห็นฝีมือแสนเก่งกาจของบุรุษในชุดผ้าไหม ดวงตาสีเทาเป็นประกายไม่คิดว่าจะมีละครสนุกมาให้รับชมก่อนนอน

ไต้ชินอ๋องคำรามเสียงเหี้ยม ยามพลิกข้อมือหนึ่งครั้งพรากชีวิตได้หนึ่งคน กายแกร่งห้าวหาญอย่างชาตินักรบไม่หวั่นระย่อต่อมือสังหาร เพียงสิบลมหายใจจากสี่เหลือเพียงสอง พวกมันต่างลอบสบตากันให้พุ่งเข้าใส่ทั้งสองทาง ไม่ว่าอย่างไรคืนนี้ต้องบั่นคอของท่านแม่ทัพใหญ่คนนี้ให้ได้

แง้ว! นิสัยไม่ดี กล้าเล่นทีเผลอ

“อ๊าก!”

กมลเนตรตกใจกับการกระทำของตนเอง เมื่อนอนหมอบลุ้นกับการต่อสู้อยู่ดี ๆ ปรากฏว่าร่างกายกระโจนพรวดออกจากที่ซ่อน ใช้กรงเล็บตะกุยหน้าของมือสังหารคนหนึ่งจนผ้าปิดหน้าหลุดร่วงจึงกระโดดหายไปในความมืด เพราะเหตุนี้ทำให้ไต้ชินอ๋องสามารถจัดการมือสังหารผู้กำลังร้องครางจากบาดแผลถูกข่วนเลือดซึมจนสิ้นลม

มือสังหารอีกคนอาศัยจังหวะทีเผลอเงื้อดาบขึ้นทางด้านหลัง แต่ดาบคู่ใจของไต้ชินอ๋องกลับเสือกแทงทั้งที่เขายืนหันหลังทะลุหน้าท้อง ชายหนุ่มบิดข้อมือควานเนื้อจนมันกระอักเลือดล้มลงสิ้นใจอย่างรวดเร็ว

ร่างหนาซวนเซจนต้องใช้ปลายดาบทิ่มพื้น ประคองร่างกายมิให้ทรุดล้ม เสียงคำรามจากความหงุดหงิดดังขึ้นในลำคอ เขาพยุงตัวเองไปนั่งพิงกำแพงวัด หลังตรวจสอบบริเวณโดยรอบแล้วว่าปลอดภัยจึงหลับตาเพื่อพักเอาแรง

เนิ่นนานกว่าสิบลมหายใจ ความอุ่นชื้นบนหลังมือทำให้ดวงตาคมลืมขึ้นเพื่อมองสาเหตุสัมผัสอ่อนนุ่มแสนจั๊กกะจี้ คิ้วหนาเลิกขึ้นแล้วจึงหลับตาลงอีกครั้ง ไม่สนใจเจ้าก้อนขนสีขาวอมเหลือง เมื่อเห็นว่าเขาไม่สนใจหรือขับไล่กมลเนตรจึงมีความกล้ายกเท้าหน้าแตะ ๆ หน้าขาแกร่ง เหยียดกายมองใบหน้าหล่อเหลาจนดวงตาพร่า

คนอะไรหล่อวัวตายความล้ม ถึงจะซีดไปหน่อยก็ยังดูดีจนลมหายใจสดุด กะว่าจะใช้ความหล่อทำให้คนเห็นตายเพราะลืมหายใจ ล่อลวงใจคนขาดแคลนความรักอย่างข้ามาก ฮือ

เพื่อปฏิบัติการณ์อันแสนยิ่งใหญ่ กมลเนตรสะบัดหน้าจากความลุ่มหลงในใบหน้าฟ้าประทาน ใช้หัวถูไถหลังมือที่ยังคงจับดาบไม่ยอมปล่อยแม้ว่าลมหายใจจะรวยรินเต็มที เรียกให้เปลือกตาของคนเจ็บเปิดขึ้นอีกครั้ง

ครานี้จับมองก้อนขนสีขาวแสนน่าเกลียด กำลังถูไถส่วนหัวและสีข้างเพื่อออดอ้อน แววตาสีเทากลมแป๋วจดจ้องราวกำลังเรียกร้องให้เขาเมตตา

ไต้ชินอ๋องแค่นยิ้มละความสนใจจากสิ่งมีชีวิตแสนน่าเกลียด หากเป็นเขาในเวลาปกติอย่าหวังว่าจะมีสัตว์สักตัวกล้าเข้าใกล้ หรือหากเข้าใกล้ก็คงถูกจับโยนออกไปทันทีด้วยความรำคาญ คนที่สังหารคนราวผักปลาอย่างเขา จะหวังให้มีความเมตตาเอ็นดูสัตว์ที่แสนอ่อนแอแถมยังไร้ประโยชน์จนทำให้ชีวิตยุ่งยาก

กลมเนตรจับได้ถึงความไร้อารมณ์ของคนตัวโต แต่เพื่อชีวิตสุขสบายนางต้องมัดใจเขาให้ได้ ดูชุดที่เขาสวมใส่สิ ดูก็รู้ว่าร่ำรวยมากแค่ไหน หากนางถูกรับเลี้ยงคงไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารหรือแม้แต่ที่หลับนอน

แมวสีขาวพยักหน้าหงึกหงักอย่างหมายมาด ผละจากไปเพื่อการบางอย่าง ความนุ่มตรงหลังมือหายไปแล้ว ไต้ชินอ๋องเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง คิดว่าแมวตัวนั้นคงยอมแพ้หลังไม่ได้รับความสนใจจากเขา

ดีแล้ว เขาไม่อยากถูกสิ่งใดก็ตามมารบกวนในช่วงเวลานี้

ทว่าไต้ชินอ๋องกลับคาดผิด ฝีเท้าเบากริบถูกเขาจับได้ตั้งแต่มันเดินเข้ามาในระยะการได้ยิน เพราะหลังคาส่วนใหญ่ผุพังจนแสงจากจันทร์เต็มดวงส่องนำทาง ในวัดร้างจึงไม่มืดขนาดนั้น การกระทำอันแปลกประหลาดของแมวน้อยแสนน่าเกลียดถูกแววตาเรียบเฉยจับจ้อง

กมลเนตรเมินแววตาราวนักล่าของว่าที่เจ้านาย วางต้นหญ้าสามต้นที่วิ่งออกไปขุดมาตรงหน้าชายหนุ่ม เท้าหน้าเปื้อนดินตบต้นหญ้าเบา ๆ ราวกำลังบอกว่าให้เขาใช้มัน

สมุนไพรห้ามเลือด?

ความราบเรียบในแววตาปรากฏความสนใจขึ้นชั่วครู่ มองสมุนไพรสามต้นบนพื้นนิ่ง จนกระทั่งเสียงร้องเล็ก ๆ ดังขึ้น พร้อมใบหน้ากลมป้อมเชิดสูงราวภูมิใจกับความดีความชอบของตนเอง ทำให้มือหนาเปื้อนเลือดหยิบสมุนไพรห้ามเลือดขึ้นมาเคี้ยว

ระหว่างนั้นก็จัดการคลายปมสายรัดชุด อวดกล้ามเนื้อล่ำ ๆ ต่อหน้าลูกแมวตาแป๋วอย่างไม่นึกอาย ใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดคราบเลือดออกลวก ๆ คายสมุนไพรในปากปิดปากแผลที่เริ่มมีสีม่วงคล้ำจากพิษ

กมลเนตรห่อปากเมื่อว่าที่เจ้านายถอดเสื้อต่อหน้านางอย่างไม่คิดอาย ในเมื่อเขาไม่อายแล้วไยนางต้องหลบตาหนีอาหารตาด้วย ช่วยไม่ได้ ตอนนี้นางเป็นแมวจะนั่งมองกล้ามของหนุ่ม ๆ ก็ไม่มีใครมาชี้หน้าตำหนิ

ไต้ชินอ๋องกระตุกมุมปากเมื่อเห็นแมวน้อยนั่งจ้องเขาตาไม่กะพริบ ลูกตาสีเทาเปล่งประกายไม่ยอมละจากเนื้อตัวส่วนบนที่เปลือยเปล่าของเขา ราวพบเจอของน่าสนใจ ลิ้นเล็ก ๆ แลบเลียริมฝีปากอย่างลืมตัว การกระทำราวมนุษย์ทำให้ท่านอ๋องใช้นิ้วชี้จิ้มหน้าผากของมันอย่างนึกหมั่นไส้

แต่การแว้งตัวกลับไป ยืนตัวโก่งขนฟู หางชี้ตั้ง ส่งเสียงขู่ฟ่อทำให้ชินอ๋องจับดาบข้างตัว ก่อนจะถอนหายใจ ผ่อนคลายความเกร็งลงเมื่อพบว่ากลุ่มคนมาใหม่คือคนของเขาเอง

กมลเนตรยืนเผชิญหน้ากับกลุ่มคนมาใหม่ที่มีจำนวนมากกว่าด้วยใจเต้นระทึก ก่อนจะสะดุ้งจนตัวโยนเมื่อถูกอุ้มจนตัวลอย พอหันกลับไปมองก็พบว่าเป็นว่าที่เจ้านายใช้มือตบหัวเบา ๆ เอ่ยว่า

“พวกเขาคือคนของข้า”

เท่านั้นอาการตัวเกร็งส่งเสียงขู่จึงหายไป กลายเป็นออดอ้อนยอมทิ้งน้ำหนักตัวครางในลำคออย่างสุขใจเมื่อถูกมือหนาขยับเกาคาง

องครักษ์ทั้งหมดต่างลอบมองตากันเมื่อเห็นสิ่งเหลือเชื่อตรงหน้า ท่านอ๋อง? กับ แมว? เนี่ยนะ!

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   โดนแมวงอน

    เมื่อมาถึงห้องทรงพระอักษร หงอี้ที่ยังไม่อยากเสวนากับชินอ๋องรีบดิ้นออกจากอ้อมแขนของเขา เดินนวยนาดไปหาบุรุษผู้ทรงอำนาจที่สุดในแคว้น แต่กลับแย้มสรวลเมื่อเห็นก้อนสีขาวเดินส่ายพวงหางเข้ามาคลอเคลียชายฉลองพระองค์หลี่ไต้ซานแย้มโอษฐ์ โน้มพระวรกายลงช้อนอุ้มหงอี้แล้วตรัสอย่างรู้ทันว่า “หงุดหงิดเจ้าหน้าตายอยู่ละสิ จึงเดินมาคลอเคลียข้าเช่นนี้”หากในเวลาปกติ การเดินมาออดอ้อนเช่นนี้มีแทบนับครั้งได้ ไม่หงุดหงิดน้องชายของเขาก็อยากได้บางอย่าง ครานี้พระองค์ทรงคาดเคาว่าเหตุผลข้อแรก แม้ชินอ๋องจะไม่แสดงออกทางสีหน้าแต่แววตาละห้อยที่มองตามหลังเจ้าตัวกลมก็ชัดเจนดีหงอี้วางคางบนไหล่หนาของฮ่องเต้ เมินเฉยคำถามเท่าทันนั้น ในคราแรกนางตื่นตัวอยู่บ้างเมื่อได้เข้าเฝ้าฮ่องเต้ บุคคลผู้ทรงอำนาจเหนือผู้ใดในแคว้นนี้ บารมีของเขาเรืองรองจนนางแสดงความนอบน้อมออกมาโดยธรรมชาติ จึงออกอาการเกร็งเมื่อถูกโอบอุ้มเมื่อนานวันเข้าความสนิทสนมเริ่มมากขึ้นความรู้สึกหวั่นเกรงหายไป กล้าอ้อนกล้าซุกมากขึ้น ยิ่งหลี่ไต้ซานปล่อยให้นางทำตามใจ โดยไร้ซึ่งโทสะแถมยังมีความสุขทุกคราเมื่อนางมาอยู่ใกล้ หงอี้จึงยิ่งได้ใจการถูกเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดีจาก

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   ไม่รู้ตัว

    แม้เมื่อวานชินอ๋องจะกลับมาพร้อมสตรีและยังดื่มน้ำผึ้งยามค่ำคืน จนกระทั่งล่วงเข้าวันใหม่ แต่พ่อบ้านรวมถึงคนสนิทไม่ได้เอ่ยปากถาม พวกเขาเพียงลอบส่งสายตาเพื่อพูดคุยกันว่าสตรีนางนั้นหายไปที่ใดแล้ว ในเมื่อท่านอ๋องกำลังเดินอุ้มหงอี้ที่หายตัวไปออกมาจากห้องสาวใช้ผู้เข้าไปปรนนิบัติถูกพ่อบ้านสอบซัก ได้ความว่าไร้เงาของสตรีที่ท่านอ๋องอุ้มเข้าห้องน่าแปลกเกินไป รวมถึงน่าเหลือเชื่อ คนทั้งคนจะหายไปโดยไม่มีผู้ใดพบเห็นเลยหรือการหายตัวไปของหงอี้ไม่ใช่เรื่องน่าสงสัย แมวตัวนี้ชอบเที่ยวเล่น ซุกซนตลอดเวลา หายตัวไปก็กลับมาเองได้ พวกเขาทั้งหมดเคยชินเสียแล้ว เมื่อคืนถึงถึงก็เพียงนึกห่วงเท่านั้น เช้านี้พบอยู่กับท่านอ๋อง เป็นอันว่าหายห่วงหงอี้กลับมาอยู่ในร่างแมวเพียงแค่คิดเท่านั้น นางยังนึกแปลกใจ ก่อนหน้านั้นเคยลองแล้วผลปรากฏว่าว่างเปล่า นางยังคงเป็นแมวสีขาวขนปุย แล้วเหตุใดจึงเกิดขึ้นมันได้รับการกระตุ้น?แล้วอะไรคือตัวกระตุ้น หงอี้ปวดหัวไปหมด ยิ่งคิดยิ่งใช้สมองมาก ความหิวยิ่งถาโถม เสียงท้องเจ้ากรรมดังเข้าหูชินอ๋อง จนเขาก้มมองเจ้าก้อนขนในอ้อมอกอย่างนึกสงสาร รีบหันไปสั่งสาวใช้จัดโต๊ะอาหาร จับนางเข้าประจำที่นมอ

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   เสียอาการ

    “อึก อ๊ะ อ๊า”ถูกเคี่ยวกรำมาหลายชั่วยาม เสียงครางแสนหวานจึงเปลี่ยนเป็นแหบแห้ง หงอี้ถูกจับนอนตะแคงโดยมีร่างใหญ่ซ้อนประชิดด้านหลัง เรียวขาพาดบนแขนแกร่ง แอ่นอ้ารับการป้อนความเสียวจากท่อนกายใหญ่ที่ยังคงสอดเข้าออกอย่างพลิ้วไหวน้ำหวานเจิ่งนองจนรู้สึกแฉะตรงหว่างขา เม็ดเสียวเต่งบวมสั่นริกจากการขยี้ของท้องนิ้วสาก ยิ่งเขาดันเนินชายเข้าลึกนางยิ่งกระสันจนตัวกระตุก แอ่นบั้นท้ายเข้าหาราวนางโลมแสนร่าน กระหายรสสวาทไม่รู้อิ่ม“ขะ ข้า อ๊ะ ซวนจ๋า~ ช้าหน่อย อื้อ อ๊า”ทรมานเหลือเกิน...รัญจวนเหลือแสนกับราคะที่เขาปรนเปรอให้ไม่หยุดพัก“บอกให้ช้าลงแต่เจ้ากลับแอ่นรับไม่น้อยหน้า”“ฮึก อ๊า”“น้ำหวานของเจ้า ไหลอาบข้าจนเปียกแฉะ แมวน้อยแสนร่าน” เนินชายของเขาที่มีขนหยาบแห้งและเปียกวนกันเช่นนี้มาหลายชั่วยาม ถึงจะฉีดน้ำคาวออกไป อีกสักพักลำกายใหญ่ก็กลับมาขยายพองคับโพรงอุ่นให้เขาสร้างความหฤหรรษ์กับนางอีกครั้งวาจาแสนลามกขับความร้อนจนใบหน้าร้อนผ่าว เขินอายเหลือเกินกับความจริงที่เขากล่าวออกมา แต่กลีบบุปผากลับขมิบรัว ราวกับว่ากำลังประจานความคิดแท้จริงของนางให้เขารับรู้ว่าชอบมากแค่ไหนหลี่ไต้ซวนคำรามเมื่อนางทั้งดูดดึงและเ

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   หงอี้ของเขา

    หงอี้ร้อนวูบวาบตรงจุดประสานเชื่อม ความกระสั่นซ่านไต่ระดับ รู้สึกถึงเขามากกว่าทุกสิ่ง รอบกายราวถูกหยุดเวลาเอาไว้มีเพียงนางและเขาที่หลงระเริงในห้วงราคะ เอวคอดยกตามติดทุกการถอดถอน คล้ายกับว่าไม่ต้องการให้เขาหนีห่าง ร้อนผ่าวจนใบหน้าแทบไหม้เมื่อสบตาหยอกล้อของเขามันเร็วขึ้น เร็วขึ้นจนร่างเคลื่อนคลอนทรวงอิ่มไหวยวบยาบตามจังหวะขึ้นลง จนต้องประคองไว้ในอุ้งมือ นวดเคล้นเนื้อล้นผ่านง่ามนิ้ว แทรกท่อนกายผ่านความอ่อนนุ่ม ให้เนื้อของเขาและนางเสียดสีกันครั้งแล้วครั้งเล่าความคับแน่น เจ็บตึงในร่องแคบเลือนหายไป เหลือเพียงความซ่านกระสันยามความใหญ่โตแทรกผ่าน ขาเรียวอ้ากว้างยิ่งกว่าเดิมนั่นทำให้เขาเข้าถึงทุกอณูการรับรู้ จ้วงทะยานตามความอยากจนกลีบอ่อนยู่เข้ายู่ออก จนหงอี้หนีออกจากความเสียวซ่านไม่พ้นมันมากขึ้น...เสียวขึ้น...ไต่ระดับความเสียวจนแทบขาดใจน้ำเมือกลื่นของนางหลั่งริน ทำให้เขาเร่งเร้าจ้วงแทงราวไม่รู้จักเต็มอิ่ม หลี่ไต้ซวนจุมพิตหน้าผากมลชื้นเหงื่อ ตามด้วยดวงตาทั้งสองข้าง พวงแก้มนุ่ม ปลายจมูกเล็กโด่งรั้นก่อนจะหยัดนั่งตรงมองส่วนประสาน เอวหนาลดความเร็วลง กระทั้นแกนกายเคลือบน้ำหวานสีใสและเลือดสีแด

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   ยังไม่พอ

    ไต้ชินอ๋องแทบทะยานมาที่เรือนนอน ตอนเปิดประตูใช้เท้า ตอนปิดก็ยังใช้เท้ากระแทกปิดเสียงดังปัง ร่างบางในห่อผ้าอยู่ไม่สุข มือน้อยเลื้อยออกมาสอดเข้าสาบชุดลูบไล้ผิวเนื้อของเขา สัมผัสราวถูกขนนกปัดผ่าน สร้างความวาบหวามจนต้องข่มเสียงครางแสนพอใจแม้ความคิดจะอยากจับนางทุ่มลงบนเตียง ตามด้วยคร่อมทับทรมานให้สาสมกับความต้องการในอก แต่เขาสนใจอย่างอื่นมากกว่า จึงต้องสะกดความร้อนรุ่มวางหญิงสาวผู้อ้างตัวว่าคือหงอี้ แมวขี้เซาที่เขาเลี้ยงไว้ข้างกายตลอดสามปีเมื่อเป็นอิสระ หงอี้ใช้มือปัดผ้าคลุมออกอย่างนึกรำคาญ นางร้อนแทบตายแล้วแต่ชินอ๋องยังใช้มันห่อตัว ไยต้องทำถึงขนาดนี้ด้วยนางก็แค่แมวตัวหนึ่งอุ้มไว้ในอกอย่างเปิดเผย มีสิ่งใดน่าอายกันนัยน์ตาสีเทากลม แวววาวจากแรงปรารถนา มองใบหน้าแดงก่ำของพ่อตัวร้ายหยาดเยิ้ม ยังคงไม่เข้าใจอยู่เหมือนเดิมนางแค่แอบดื่มสุราเองมิใช่หรือ ความร้อนในร่างกายโดยเฉพาะส่วนนั้นมาจากไหนหงอี้สับสนแต่ร่างกายไม่รักดีกลับเอนกายลงบนเตียงเย็นชืด บิดเร่าอย่างชอบใจ ชินอ๋องหายใจหอบกับภาพยั่วราคะของสตรีบนเตียง ผ้าปูสีดำตัดกับผิวกายนวลลออ เส้นผมสีเทาออกเงินกระจายไปทั่วหมอนใบใหญ่“อื้อ...เย็นจัง”บ

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   ฤทธิ์กำหนัดเล่นงาน

    บรรยากาศแสนหนักอึ้งบนโต๊ะของชินอ๋องหมดไป หงอี้จึงมีความคิดอยากลองชิมสุรา ว่าก็ว่าเถอะ นางเมื่อครั้งยังเป็นกมลเนตรชื่นชอบการเติมแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดมาก ยี่ห้อไหนคนว่าดี ผสมแบบไหนคนว่าเด็ด เป็นต้องขอลองเสมอพออยู่ในร่างแมวความชอบจึงถูกงดเว้นไป หงอี้อาศัยจังหวะที่สองหนุ่มเผลอยื่นอุ้งเท้าหน้าจุ่มลงในจอกสุรา ยกขึ้นใช้ลิ้นแตะ ๆ เพื่อทดลองรสชาติ ลิ้นน้อย ๆ สีแดงเลียอุ้งเท้าหน้าชวนให้คนมองรู้สึกจั๊กจี้อู้ววว รสชาติใช้ได้เลย ฤทธิ์ไม่แรงเท่าไหร่ ถือว่าพอแก้ขัดอาการเปรี้ยวปากได้หลังจากนั้นความสนใจทั้งหมดของนางจึงอยู่ที่จอกสุราตรงหน้า ลิ้มรสชาติแสนคิดถึงอย่างสุขใจ ดวงตากลมหลับพริ้มอย่างมีความสุข ความเร็วของการจุ่มอุ้งเท้าก็เพิ่มขึ้น เผลออีกทีสุราเต็มจอกก็เหลือเพียงครึ่งหนึ่งตายละ ซวนจะรู้ไหมทำไงดี ๆความกังวลส่งผลให้นางไม่ได้นอนเฉยอีกต่อไป ลุกขึ้นกลอกตามองไปมาอย่างใช้ความคิด ก่อนจะ..“หงอี้ ซุกซนอีกแล้วหรือ” ไต้ชินอ๋องบ่นไม่จริงจังนักออกมา เมื่อพบว่าจอกสุราของตนเองหกคว่ำ เมื่อมองดูตัวการกำลังส่งเสียงอย่างรู้สึกผิด จึงเรียกสาวใช้แถวนั้นมาเก็บกวาด สาวใช้รีบเช็ดสุราและเปลี่ยนจอกใหม่พร้อมเติมสุรา

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status