Share

เข้ามาทำไม

last update Last Updated: 2024-10-03 14:13:24

“แล้วตั้งแต่นั้นมา ก็มีเสียงร่ำลือเรื่องดึกดื่นได้ยินเสียงคร่ำครวญของ พระสนมมารดาขององค์ชาย หรือบางทีก็มักมีคนเห็นเงาวูบวาบ”

กุ้ยอิงพูดที่ขึ้นด้วยท่าที หวาดกลัว หว่านหนิงขมวดคิ้ว

ลี่หยาง ฟุบหน้าลงบนโต๊ะร่างอักษรหลับสนิท ฮ่องเต้และขันทีข้างกายฝานกงกงเดินเข้ามาพร้อมกัน

คนหนุ่มเพิ่งจะแต่งชายาเข้ามาในตำหนักเมื่อคืนคงจะอดนอน เอาเบาะมา

ฝานกงกงรีบไปหยิบเบาะมาจากแท่นบรรทม ฮองเต้ยกคอของลี่หยางขึ้นเบาๆ สอดเบาะไปรองศีรษะไว้ให้อย่างอ่อนโยน

“ปล่อยเขานอนไปให้พอ ห้ามใครปลุก”

ฝานกงกงยิ้ม รวบเก็บกระดาษม้วนไว้ให้อย่างเรียบร้อย ก่อนจะปิดห้องปล่อยให้ลี่หยางหลับอยู่ตรงนั้น ก็จะไม่อดนอนได้อย่างไรในเมื่อทั้งคืนใจเต้นตุมๆต่อมๆตลอดคืน ทั้งหักห้ามใจด้วยบางครั้งก็อยากจะลองแต่อีกใจก็ไม่กล้า

ตำหนักร้อยดาว

ฮองเฮาในอาภรณ์เต็มยศสวยสง่า แม้อายุจะล่วงเลยไปวัยกลางคนแล้วก็ตาม เดิน เข้ามาในเขตตำหนักร้อยดาวที่สะอาดสะอ้าน ต้นไม้ใบหญ้าผลิดอกออกใบเขียวชอุ่ม ด้วยมีคนดูแลรดน้ำใส่ปุ๋ย นางกำนัลเดินตามเข้ามาถึงแปดคนข้างละสี่คน

แทบจะไม่ต้องเดินเองด้วยซ้ำไป

“ฮองเฮาเสด็จจจจ”

 หว่านหนิง อิงไถกับกุ้ยอิง รีบเดินมาประสานมือคุกเข่าตรงหน้า ก้มหน้านิ่ง

“ชายาห้าหว่านหนิง ถวายพระพรฮองเฮา”

“ลุกขึ้นได้”

หว่านหนิง ลุกขึ้นแล้วถอยหลังไปยืนก้มหน้าห่างออกมาสองสามก้าว กุ้ยอิงกับอิงไถ ยังคุกเข่าอยู่กับพื้น

“ ชายาเจ้าห้าหน้าตาน่าเอ็นดู ตามธรรมเนียมต้องยกน้ำชาให้ข้าเช่นไรถึงละเลย เห็นทีที่ข้ามานี่เพราะมาให้เจ้ายกน้ำชาให้ถึงตำหนักร้อยดาวเช่นนั้นหรือ”

“ฮองเฮาโปรดอภัย หว่านหนิงไม่รู้ธรรมเนียมแต่จะว่าไป ก็หามีใครมาเตือนเรื่องสำคัญเพียงนี้ จะว่าเรื่องนี้สำคัญก็สำคัญไม่น้อยเรื่องปากท้องยิ่งสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน แต่หว่านหนิงแต่งเข้ามาวันแรกต้องไปหาข้าวกินในห้องเครื่องลำพัง ไร้ผู้ใดบอกกล่าวเรื่องไม่ยกเครื่องเสวยมาที่ตำหนักร้อยดาว กว่าจะได้กินก็เกือบเลยเวลาอาหารกลางวันเกรงว่าหากเป็นอย่างนี้คงไม่พ้นเจ็บไข้”

“แต่เดิมเป็นเจ้าห้าที่อยู่ที่นี่เพียงลำพัง ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย จึงไม่มีนางกำนัลขันที ไม่มีเห็นด้วยตาจะเชื่อคำร่ำลือว่าจงหว่านหนิงลูกสาวขององค์หญิง ..หว่านหวงลู่ผู้ปราดเปรื่องจะวาจาฉะฉานไม่แพ้มารดา”หว่านหนิงยิ้มหวานก้มหน้าประสานมือ

“หว่านหนิงมิกล้า เพียงแต่เรื่องปากท้องในวังหลวงไม่น่าให้บกพร่องได้ องค์ชาย ห้าแม้เป็นองค์ชายปลายแถวแต่ก็คือองค์ชาย ไม่มีทางกลายเป็นกุลีหรือทาสไปได้การกินอยู่นับว่าสำคัญหากไม่ใช่หว่านหนิงที่มาประสบแต่เป็นแขกบ้านแขกเมืองที่พบเห็นเกรงว่าจะเป็นเรื่องเล่าขานสนุกปากกันไปเปล่าๆ ”ฮองเฮายิ้มเย็น

“คราวหน้าข้าสั่งให้เขายกเครื่องเสวยเพิ่มมาที่นี่อีกสักชุด เจ้าว่าดีหรือไม่.. พอใจหรือไม่”

น้ำเสียงเหมือนยอมอ่อนข้อให้แต่ใครจะรู้ภายในใจนาง

“ฝ่าบาท ทรงเมตตามีบัญชาให้จัดเครื่องครัว และวัตถุดิบในการทำเครื่องเสวยมาส่งให้หว่านหนิงทำเครื่องเสวยให้องค์ชายเอง ขอบพระทัยฮองเฮาที่ทรงเมตตา”

“เจ้าจงใจว่ากล่าวข้า เพื่อที่จะอวดว่าฝ่าบาททรงให้ในสิ่งที่เจ้าต้องการแล้วเช่นนั้นหรือ”แววตาขึ้งโกรธ

“ฮองเฮา จะถือสานางไปทำไมกันนางยังเด็กพูดจาตามความคิดมิได้เสแสร้งเช่นนั้นจึงจะได้ชื่อว่าเป็นคนตรง ในวังหลวงแห่งนี้มีแต่คำหลอกลวง ฮองเฮาอย่าบอกข้านะว่าชอบคำหลอกลวงของผู้คนรอบกาย”

ฮ่องเต้เดินมาพร้อมกับฝานกงกง คนทั้งหมดในที่นั้นย่อตัวถวายพระพรรวมทั้งหว่านหนิง

“ฝ่าบาท จะเสด็จไม่เห็นบอกหม่อมฉัน จะได้ให้คนเตรียมการต้อนรับ”ฮองเฮารีบพูดขึ้นอย่างเกรงใจ”

“ข้าออกเดินเล่นลัดเลาะมา หาได้ตั้งใจมาที่นี่ไม่ แต่ก่อนไม่มีผู้ใดย่างการยตำหนักร้อยดาว บัดนี้กลับคึกคักอย่างไม่น่าเชื่อ”

“หม่อมฉัน มอบขันทีให้มารับใช้ที่นี่ จึงตั้งใจมาดูว่าเขาทำให้ขายหน้าที่วางใจให้เขามารับใช้หรือไม่”พูดความจริงครึ่งหนึ่งความเท็จเสียครึ่งหนึ่ง

“เงยหน้าเจ้าขึ้นมาให้ข้าดูหน้าเจ้าชัดๆ ”

หว่านหนิงลุกขึ้นเงยหน้าขึ้นช้าๆ ฮ่องเต้มองใบหน้าผุดผาดงดงามของ หว่านหนิงยิ้มๆ

“เจ้าห้าไม่เคยพบเจอชื่นชอบสาวใด ป่านนี้จะแยกแยะได้หรือยังว่าชายาของเขา งดงามกว่าหญิงใด”ฝานกงกงประสานมือตรงหน้า

“เกรงว่า คงจะได้รู้แล้วพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาทจากที่เห็นหลับฟุบไปเมื่อคืนคงอดนอน”ฮ่องเต้ยิ้ม หว่านหนิงเขินอาย

“หว่านหวงลู่ สบายดีใช่หรือไม่”

“ท่านแม่สบายดีเพคะ”

“เจ้าใบหน้าละม้ายนางไม่น้อย คิดถึงสมัยก่อนวิ่งเล่นหยอกล้อขี่ม้าล่าสัตว์ล้วนเป็นหว่านหวงลู่ที่สอนข้า”หว่านหนิงยิ้มหวาน

“ท่านแม่ พูดถึงฝ่าบาทให้ฟังบ่อยๆ ”

“ข้าคิดถึงนางไม่น้อย”ฮองเฮาเชิดหน้าขึ้นด้วยความรู้สึกอิจฉา

“หว่านหนิง เร่งทำความสะอาดตำหนักร้อยดาวคงอีกนานกว่าจะได้กลับไปเยี่ยม บ้านตะกูลจง”

“ฮองเฮาส่งคนช่วยนางเก็บกวาดหน่อยก็คงจะดี ตำหนักใหญ่หลายสิบห้องคงไม่สะดวกนักหากจะเก็บกวาดด้วยคนไม่กี่คน”

“ได้เพคะ พรุ่งนี้หม่อมฉันส่งคนให้มาช่วยนางเก็บกวาดชั่วคราว”

แม้จะไม่เต็มใจแต่ก็ต้องรับปาก หว่านหนิงประสานมือตรงหน้าคารวะฮองเต้ที่เดินเอามือไพล่หลังชมนกชมไม้จากไปทันที 

การมาของฮองเฮาในวันนี้ นับว่าแพ้พ่ายยับเยินอย่างที่ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้มาก่อนเริ่มตันก็แพ้พ่ายแก่นาง ประเมินนางต่ำไป นางถอดแบบมารดามาเสียทั้งหมด ไม่ว่ากิริยาหรือคำพูดจาที่พูดให้คนคล้อยตามได้ไม่ยากและพูดให้คนอื่นเกรงกลัวและรู้สึกผิดในสิ่งที่คิดจะทำหรือทำลงไปแล้ว

เหนื่อยเต็มทนใช้พลังงานเยอะ ทั้งทำความสะอาดตำหนักและเสาะหาคำพูดที่เหมาะสมมาใช้กับฝ่าบาทและฮองเฮา หว่านหนิงหย่อนตัวลงในอ่างน้ำอุ่นโรยด้วยกลีบดอกไม้ที่อิงไถเตรียมไว้ให้ นอนแช่น้ำหลับตานิ่ง อิงไถกับกุ้ยอิงไปเตรียมของสำหรับทำเครื่องเสวยเย็น ปล่อยให้หว่านหนิงนอนแช่น้ำคิดถึงใบหน้าซีดขาว กับคำพูดเมื่อคืนว่า...รอให้ข้ากล้ากว่านี้... หว่านหนิงอมยิ้ม                 

 ลี่หยางเดินเข้าในตำหนักถอดเสื้อคลุมออก ไม่รู้สึกถึงความสดชื่น ตั้งใจจะอาบน้ำให้รู้สึกดีขึ้น ถอดเสื้อผ้าเปลือยกายล่อนจ้อนลืมไปเสียสนิทหรืออาจจะไม่คิดว่าจะมีใครอยู่ในนั้น เปิดผ้าม่านออกเดินเข้าไปข้างอ่างไม้ ตกใจสุดขีดเมื่อเห็นหว่านหนิงในร่างเปลือยเปล่านอนแช่น้ำอยู่ ดึงผ้าม่านมาคลุมตัวเปล่าเปลือย หว่านหนิงลุกขึ้นจากน้ำด้วยความตกใจ ร่างเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์มีเพียงหยดน้ำเกาะพร่างพราว

“องค์ชาย ท่านเข้ามาทำไม”ตกใจไม่น้อยคิดว่าอีกคนกำลังจะทำเรื่องอย่างว่า

เจ้า...เจ้าเจ้า ข้าไม่ได้มาทำอะไรเจ้า ….ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าเจ้าอยู่ในนี้ในสภาพแบบนั้น

พูดได้เพียงแค่นั้น รีบหันหน้าหนีหว่านหนิงจับผ้าผืนใหญ่มาคลุมตัวไว้จน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตำหนักร้อยดาวชายากาวใจ   ตบท้าย

    เกี้ยวสีแดงถูกหามส่งเข้าวังในตอนเย็นย่ำวันหนึ่ง หว่านหวงลู่รู้ดีว่าไม่ต้องมาส่งหว่านหนิง สิ่งที่หว่านหนิงต้องการคือการเข้าไปในตำหนักร้อยดาวแบบเงียบๆ ก็ในเมื่อลี่หยางมิได้เป็นที่สนใจ และไม่ได้มีพิธีรีตองอะไร“คุณหนู ข้าเห็นทีต้องกลับแล้วเช่นกัน ท่านนั่งรออยู่ในห้องบรรทมขององค์ชายห้า เพียงครู่คาดว่า องค์ชายคงเสด็จในไม่ช้าเพราะมิได้มีการเลี้ยงฉลอง งานแต่งอย่างที่ควรจะเป็น “แม่สื่อที่มีหน้าที่เดินนำเกี้ยว ตามธรรมเนียมเอ่ยขึ้นเมื่อมาถึงตำหนักร้อยดาว“ท่านป้ากลับไปเถิดข้าทำใจไว้แล้ว ว่าต้องเป็นแบบนี้ หลายอย่างไม่เกินคาดหมายนัก”แม่สื่อยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะถอยออกไปทันทีหว่านหนิงยืนนิ่งหน้าตำหนักรกร้างไม่มีการเลี้ยงฉลองไม่มีแม้กระทั่งการคารวะบรรพบุรุษ หรือญาติผู้ใหญ่มีเพียงส่งตัวหว่านหนิงเข้ามาในตำหนักร้อยดาวเพียงลำพัง“ท่านแม่ หว่านหนิงจะพยายามให้ถึงที่สุด”สูดลมหายใจเข้าลึกๆผลักบานประตูเข้าไปช้าๆ ภาพเบื้องหน้าคนผู้หนึ่งในอาภรณ์สีแดงรูปร่างสูงโปร่ง แต่ซูบผอมปากคอคิ้วคางแม้จะรับกับใบหน้าคิ้วดกดำผิวขาวจนกลายเป็นซีด ริมฝีปากบางแต่ทว่าซีดขาว หากมีสีเลือดกว่านี้ บุรุษผู้นี้อาจจะนับได้ว่าหล่อเหลาเราเ

  • ตำหนักร้อยดาวชายากาวใจ   จบ

    หว่านหนิงในอาภรณ์เต็มพระยศในแบบของฮองเฮา ยืนเคียงข้างลี่หยางฮ่องเต้รูปงามแต่ใจเดียวสมกันราวกิ่งทองใบหยกมือข้างขวาถูกมือของลี่หยางเกาะกุมไว้ จุดธูปเทียนบูชาสวรรค์และบรรพบุรุษ เตรียมที่จะขึ้นนั่งบัลลังก์มังกร ฉีกวนลี่ยืนอยู่ข้างหน้าสวมมงกุฎสีทองอร่ามลงบนศีรษะของลี่หยาง“นับแต่นี้เจ้าคือฮ่องเต้แคว้นจ้าวองค์ใหม่ ลี่หยางฮ่องเต้พ่อหวังว่าเจ้าจะทำนุบำรุงศาสนาและปกป้องดูแลราษฎรดุจลูกหลานของเจ้า”ฝานกงกง ยื่นตราประทับของฮ่องเต้ ให้ฉี่กวนลี่ที่มอบมันให้กับลี่หยางหน้ามุขสูง ทั้งสองคนลี่หยางและหว่านหนิงยืนเคียงข้างกันเสียงแซ่ซ้องจากราษฎรดังไปทั่วลานกว้าง ลี่หยางยิ้มกว้าง ชีวิตเขาแม้ผ่านความลำเค็ญมากมายเพียงใดแต่เมื่อมองย้อนกลับไปกลับคิดว่ามันเป็นเพียงเรื่องราวที่เป็นบทเรียนสอนใจเท่านั้นต่อจากนี้ ชีวิตขององค์ชายห้าผู้อับเฉามีพร้อมแล้วซึ่งความสุขและครอบครัวในวันนั้นลี่หยางนั่งซุกอยู่ในมุมมืด เดียวดายเหน็บหนาวความมืดปกคลุมไปทั่วบริเวณท้องไส้ปั่นป่วนด้วยความหิว ในคืนไหว้พระจันทร์ที่หลายคนต่างสนุกสนาน แต่เขากลับเดียวดาย ครึ่งหลับครึ่งตื่นเด็กหญิงตัวอ้วนป้อมยกมืออุ่นขึ้นลูบใบหน้าเบาๆ แล้ววางขนมไหว้พระ

  • ตำหนักร้อยดาวชายากาวใจ   วันที่หิมะหยุดโปรยปราย

    ลี่หยาง สืบเสาะหาสมุนไพรนานาชนิดมาบำรุงร่างกายให้หว่านหนิงทั้งสมุนไพรสำหรับช่วยให้การคลอดไหลลื่น และสุมนไพรบำรุงร่างกายทั้งทารกในครรภ์และตัวหว่านหนิงเอง อาหารทุกอย่างล้วนถูกลี่หยางชิมเสียก่อน ท่องจำเรื่องราวอาหารคาวหวานที่หว่านหนิงกินว่าสิ่งใดทำให้แพ้ท้อง สิ่งไหนที่หว่านหนิงไม่ชอบ วันว่าง ก็จะฝึกการนั่งการนอนและการหายใจ ตำราต่างๆ มากมายนำมากองรวมกัน ลี่หยางใช้เวลาทั้งหมดในการอ่านตำราเกี่ยวกับการตั้งครรภ์“ลี่เจินส่งสาสน์เรื่องการสถาปนาฮ่องเต้ของเแค้วนเหว่ย”“ส่งของกำนัลยังแคว้นเหว่ย ความจริงข้าอยากให้ไท่จือเดินทางเข้าร่วมงานพิธีในครั้งนี้ หากแต่ไท่จือเฟยใกล้จะคลอดเต็มที คงไม่เหมาะนักที่จะให้ไท่จือเดินทางแรมเดือน”“ฝานกงกง อาสาเดินทางนำของกำนัล ร่วมแสดงความยินดีกับองค์ชายสิบสองลี่เจิน”ฉีกวนลี่พยักหน้าเห็นด้วย“ลูกคิดว่ารอให้ไท่จือเฟยคลอดองค์ชาย จึงจะส่งสาสน์ให้ลี่เจินและอันฝูร่วมเฉลิมฉลองแสดงความยินดีอีกครั้ง ลูกเองก็คิดถึงลี่เจินไม่น้อยอยู่ต่างแคว้นต้องปรับตัว คงลำบากมากหน่อย”“ลี่เจินไม่นานก็จะขึ้นนั่งบัลลังก์ เป็นเขาที่จัดการบางอย่างได้ดีกว่าที่ข้าคิดไว้”ฉีกวนลี่ชื่นชมลี่เจิน ออกนอก

  • ตำหนักร้อยดาวชายากาวใจ   ค่อนข้างเสียใจ

    "หญิงผู้หนึ่งที่ยอมแต่งกับองค์ชายที่มีดวงพิฆาตไม่สนใจเสียงร่ำลืออีกทั้งพยายามฉุดดึงและสร้างองค์ชายที่แข็งแกร่งยอมทนลำบากเพื่อรอวันที่สวยงามวันที่ฟ้าสดใส แต่เมื่อวันนั้นมาถึงกลับต้องถูกปล่อยให้เดียวดายในตำแหน่งที่สูงส่ง"องครักษ์วิ่งเข้ามาข้างใน"ฝ่าบาทไท่จือเฟยเป็นลมหมดสติ อยู่ข้างๆ ที่ไท่จือคุกเข่าอยู่"ฉีกวนลี่ลุกขึ้นยืน ฝานกงกงถลาออกไปด้านนอกพบลี่หยางกำลังเขย่าร่างไร้สติของหว่านหนิง ปากก็ร้องเรียกหาหมอหลวง หยาดฝนยังโปรยปรายไม่หยุดลี่หยางและหว่านหนิงเปียกปอนร่มที่ถือมาถูกกางกันฝนให้ลี่หยางแต่ตัวเองยอมเปียกฝน ลี่หยางพยายามจะลุกขึ้นยืนทั้งที่ปวดหัวเข่าเพราะคุกเข่าอยู่เสียนาน"พาไท่จือเฟยเข้าไปข้างในตำหนักก่อน"ฉีกวนลี่พูดขึ้นดังๆ ลี่หยางมองสบตาฉีกวนลี่สายตาเจ็บซ้ำ ฝานกงกงช่วยพยุงทั้งสองคนให้ลุกขึ้นพาเข้าไปด้านใน"ตามหมอหลวง"ฉี่กวนลี่ออกคำสั่งด้วยเสียงอันดังฝานกงกง เตรียมอาภรณ์ชุดใหม่ให้ลี่หยาง"ให้ห้องเครื่องต้มน้ำขิงแล้วนำมาที่นี่ทันที"ตำหนักฮ่องเต้บังเกิดความวุ่นวายไม่น้อย หมอหลวงถือหลวมยาเข้ามา ลี่หยางถลาเข้าไปข้างๆหว่านหนิง"ไท่จือเฟยเป็นอย่างไรบ้าง แล้วลูกของข้าล่ะ"ฉีกวนลี่หันขวั

  • ตำหนักร้อยดาวชายากาวใจ   ยอม

    “ข้า..ข้า..ข้ากำลังจะเป็นพ่อเจ้าได้ยินไหม ลูกของเรา”หว่านหนิงยิ้มบางๆ ยกมือขึ้นลูบที่ท้องอย่างทะนุถนอมตอนที่55ยอม"เจ้าเป็นสิ่งมีค่าที่สุดเท่าที่ข้าเคยมีบัดนี้กับให้สิ่งมีค่าที่สุดแกข้าเพิ่มเติม อย่างนี้จะไม่ให้รักเจ้าได้อย่างไร"กอดประคองหว่านหนิงแน่น"ท่านพี่ท่านกับลูกก็คือสิ่งเดียวที่ข้าหวงแหนที่สุด"ลี่หยางกลับพูดน้อยลงกว่าเดิม เขามีเรื่องให้ทำมากมายแต่รอยยิ้มกลับเพิ่มมากขึ้น เฝ้ามองหว่านหนิงทุกอย่างก้าว จะนั่งหรือเดินต้องคอยประคอง ดังกลัวว่าจะหกล้ม“กุ้ยอิงกับอิงไถต่อแต่นี้อย่าให้ไท่จือเฟยทำงานใดใดในตำหนักร้อยดาว พวกเจ้าต้องมั่นดูแลอย่าให้ไท่จือเฟยต้องลงมือทำสิ่งใดไม่อย่างนั้นข้าคงต้องสั่งลงโทษเจ้าทั้งสอง อีกไม่นานข้าจะหานางกำนัลที่ไว้ใจได้สักหลายคนหน่อยมาคอยดูแล ไท่จือเฟย”หว่านหนิงยิ้ม“ข้าให้หมอหลวงส่งยาบำรุงที่ดีที่สุดมาที่ตำหนักร้อยดาวข้าตั้งใจเคี่ยวยาให้เจ้าด้วยตัวเอง”“ท่านพี่จะทรงลำบากไปไย”“เพื่อเจ้า เรื่องเล็กน้อยเพียงนี้ เมื่อเทียบกับสิ่งที่เจ้าทำเพื่อข้าอีกทั้งยังอุ้มท้องลูกของข้า ทนลำบากอยู่หลายเดือนเรื่องที่ข้าทำจึงถือว่าเล็กน้อยเหลือเกิน”"อีกอย่างข้าเห็นท่าน หาซื้อผ

  • ตำหนักร้อยดาวชายากาวใจ   ไร้คำกล่าว

    “องค์ชายน้อยอยู่ในครรภ์ของเจ้าแล้วตอนนี้ ข้าจะทูลให้เสด็จพ่อยกเลิกกฎการมีชายารองและแต่งตั้งสนมมากมายให้เกิดเรื่องวุ่นวายเหมือนที่ผ่านมาเสียที”หว่านหนิงซุกหน้าลงบนอกกว้างที่บัดนี้กับอบอุ่นมิได้เย็นชาเหมือนที่ผ่านมา อ้อมกอดที่กระชับแน่นทั้งคืนไม่เขินอายหรือแอบประคองกอดเหมือนเมื่อครั้งแต่งเข้าตำหนักร้อยดาวใหม่ๆ“หว่านหนิงไม่ขอสิ่งใดขอเพียงได้เคียงข้างเช่นนี้ทุกค่ำคืน” หว่านหนิงตกใจใน คำพูดของตัวเองไม่น้อย ก่อนหน้านั้นยังคิดว่าการแต่งเข้าตำหนักร้อยดาวเป็นการตกนรกหรือไร แต่มาวันนี้กลับรู้สึกว่าตำหนักร้อยดาวแห่งนี้เป็นดั่งสวรรค์ เมื่อมีลี่หยางประคองกอดอยู่อย่างนี้ทุกค่ำคืนทั้งคืนหว่านหนิงสวมเสื้อคุลมมังกรสีน้ำเงินเข้มให้ลี่หยาง ใบหน้าหล่อเหลาช่างดูเหมาะกับเสื้อคลุมมังกรเหลือเกิน เหล่าขุนนางราชสำนักคุกเข่าส่งเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญ“ไท่จือทรงพระเจริญ พันปี”หว่านหนิงยิ้มอย่างเป็นสุข ลี่หยางหันสบตากับหว่านหนิง ส่งยิ้มกว้างกว่าทุกครั้งที่หว่านหนิงเคยเห็นมา“เจ้าคิดว่าได้อย่างนั้นหรือ การที่เจ้าจะตัดสินใจสิ่งใดโดยใช้ความรู้สึกของตัวเองตัดสิน”“เสด็จพ่อ ฝ่าบาทลูกเห็นทีจะ ขอสละตำแหน่งไท่จือ”หว่านหนิ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status