Home / รักโบราณ / บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน / ตอนที่ 1 คุณหนูใหญ่จวนไป๋

Share

ตอนที่ 1 คุณหนูใหญ่จวนไป๋

Author: LiHong
last update Last Updated: 2025-02-02 17:44:53

ย้อนกลับไปก่อนมีราชโองการสมรสพระราชทาน

ตั้งแต่มารดาสิ้นใจ ไป๋หมิงเยว่ที่เคยเป็นที่หนึ่งของจวนก็ถูกลดฐานะลงกะทันหัน นางที่กลายเป็นบุตรสาวของอดีตภรรยาเอกก็คล้ายตายทั้งเป็น เพราะบิดายกฮูหยินรองขึ้นเป็นใหญ่ในเรือนหลังทันที น้องสาวคนรองของนางจึงโดดเด่นขึ้นมาบดบังรัศมีของคุณหนูใหญ่อย่างนางจนมิด

อำนาจจัดการในจวนล้วนตกอยู่ในมือฮูหยินคนใหม่กับบุตรสาวคนรองจนสิ้น บุตรสาวคนโตจากอดีตฮูหยินเอกจึงไร้ตัวตนเข้าไปทุกที ทุกวันบ่าวไพร่ยังแทบไม่เคยเห็นหน้า

งานเลี้ยงการเข้าสังคมล้วนเป็นฮูหยินที่เคยเป็นรองและน้องสาวผู้น่ารักสดใส บิดายังใส่ใจแค่พวกนางทั้งสอง

เมื่อฮูหยินรองให้กำเนิดบุตรชายอีกหนึ่งคน บรรยากาศภายในจวนไป๋สำหรับไป๋หมิงเยว่ยิ่งย่ำแย่

คุณหนูใหญ่จึงคล้ายถูกขังให้อยู่ตำหนักเย็นก็ไม่ปาน

เหล่าบ่าวไพร่เห็นเจ้านายทำเยี่ยงนั้นก็ยิ่งเกียจคร้านไม่นำพาต่อคุณหนูใหญ่ของจวนผู้นี้ พวกเขาพร้อมประจบสอพลอเฉพาะนายหญิงที่มีอำนาจในกำมือ ผู้อื่นไร้อำนาจจะต้องสนใจไปไย

กระนั้นไป๋หมิงเยว่ก็หาได้ใส่ใจบิดาและแม่เลี้ยงไม่ ยิ่งไม่ชายตาแลเหล่าบ่าวไพร่ในจวนที่เปลี่ยนไปมิใคร่นับถือหรือกริ่งเกรงนางเหมือนเดิมทั้งหลายเหล่านั้น เพราะนางยังมีนายน้อยหลี่เฟยเทียนอยู่ทั้งคน

ครอบครัวหลี่สนิทสนมกับครอบครัวไป๋มาช้านาน หลี่ทำการค้าใหญ่ ไป๋เป็นขุนนางท้องถิ่น สองสกุลผูกมิตรกัน บุตรชายและบุตรสาวต่างรักใคร่กลมเกลียวมาโดยตลอดตั้งแต่พวกเขายังเป็นเพียงเด็กหญิงและเด็กชายอายุน้อย

ไป๋หมิงเยว่กับหลี่เฟยเทียนสนิทสนมกันถึงขั้นคบหาดูใจอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ มารดาของไป๋หมิงเยว่ก่อนตายก็รับรู้และสนับสนุนเป็นอย่างดี หวังฝากฝังบุตรีอย่างหมดห่วง

“คุณหนูใหญ่ คุณชายหลี่มาถึงแล้วเจ้าค่ะ”

สาวใช้เข้ามารายงานต่อไป๋หมิงเยว่เหมือนเช่นเคย

“กำลังนั่งรออยู่ในศาลา คุณหนูใหญ่รีบไปเถิดเจ้าค่ะ อย่ามัวชักช้าอยู่เลย”

ไป๋หมิงเยว่เป็นสตรีเรียบร้อยที่อ่อนหวานนุ่มนวล กิริยาเนิบนาบเชื่องช้า แม้สาวใช้จะวิ่งตึงตังไร้มารยาทเข้ามา นางก็แค่ขมวดคิ้วเรียวงามน้อยๆ

“เหตุใดวันนี้เจ้าดูร้อนรนนัก”

“โธ่! คุณหนูใหญ่” จิ่นซินชักสีหน้ามึนตึงพลางกล่าว “บ่าวแค่รู้สึกว่าวันนี้สวนงามน่าชม ท่านควรออกไปเดินเล่นรับลมกับคุณชายหลี่ให้เร็วขึ้นหน่อยเจ้าค่ะ”

“อ้อ...เช่นนั้นเรารีบไปเถิด”

หญิงสาวกระชับชุดคลุมสีดำสวมทับสีขาวให้มิดชิดพลางลุกขึ้นอย่างกระตือรือร้นแม้ยังอ่อนแรงอยู่มาก

ช่วงนี้นางเจ็บป่วยบ่อยจนน่าแปลกใจเกินไปจริงๆ

ไป๋หมิงเยว่ยังคงไว้ทุกข์ให้มารดาผู้ลาลับเกือบสามปี ใบหน้าจึงซีดเซียวไร้เครื่องประทินโฉม เสื้อผ้าก็ไร้สีสัน

นางเดินนำหน้าสาวใช้คนสนิทออกมาทางศาลา สถานที่ซึ่งเป็นจุดนัดพบเสมอมาระหว่างบุรุษของนาง

ทว่าเมื่อมาถึงกลับเห็นไป๋ลี่ถิงนั่งอยู่ก่อนแล้ว

น้องสาวคนรองของนางนั่งอยู่กับบุรุษของนาง

พวกเขานั่งคุยกันโดยไม่มีนางนั่งร่วมบ่อยครั้งมากขึ้น เมื่อก่อนตอนยังเด็กอาจไม่รู้สึกอะไร ทว่ายามนี้กลับไม่ใช่

ไป๋หมิงเยว่หรี่ตามองเงียบงัน บัดนี้นางจึงได้เข้าใจว่าเหตุใดสาวใช้จิ่นซินถึงได้มีท่าทีร้อนรนนัก

จังหวะนั้น ไป๋ลี่ถิงที่หันมาเห็นพี่สาวชะงักไปเล็กน้อย นางรีบเก็บซ่อนพิรุธลุกขึ้นยืนยิ้มๆ ด้วยท่าทางอ้อนแอ้นพลางทักทายเสียงใส ดวงตากลมโตคู่นั้นดูน่ารักเป็นพิเศษ

“พี่ใหญ่มาแล้ว”

หลี่เฟยเทียนจึงหันมามองด้วยสีหน้าปกติคงรอยยิ้มอบอุ่นเป็นนิตย์ “เยว่เอ๋อร์มาแล้ว”

ไป๋หมิงเยว่คลี่ยิ้มอ่อนหวานไม่กล่าวอะไร

เมื่อเดินมานั่งลงในศาลา ผู้เป็นน้องสาวก็กล่าวลาแล้วรีบจากไปทันที

คงเหลือเพียงหลี่เฟยเทียนที่ยังมีรอยยิ้มทรงเสน่ห์ประดับบนใบหน้าหล่อเหลา

“พี่เทียนรอข้านานแล้วกระมัง”

ชายหนุ่มจับมือหญิงสาวมากุมเอาไว้อย่างนุ่มนวล “นานเท่าใด ข้าก็รอเจ้าได้”

พวงแก้มหญิงสาวแดงเรื่อ ไป๋หมิงเยว่อมยิ้มเขินอาย เลือกที่จะปัดความคิดไร้สาระซึ่งกำลังรบกวนจิตใจให้ตกไป

นางไว้ใจบุรุษของนาง...

ทั้งสองคุยกันด้วยถ้อยคำหวานหูเหมือนเคย

ยังนัดแนะกันเรื่องจัดการหมั้นหมายหลังพ้นช่วงไว้ทุกข์ให้มารดา ขอแค่ครบสามปีในอีกไม่กี่นาน เรื่องแต่งงานคงเกิดขึ้นทันที

ทว่าความไว้วางใจและหมายมั่นในความรักนั้น กลับกลายเป็นยาพิษกัดกินหัวใจไป๋หมิงเยว่ไม่เหลือดี

เมื่อค่ำคืนหนึ่งในเทศกาลลอยโคม ไป๋หมิงเยว่ได้บังเอิญเห็นหลี่เฟยเทียนยืนปล่อยโคมเคียงคู่กับไป๋ลี่ถิง

พวกเขาอยู่ด้วยกันเพียงสองต่อสองในมุมลับตา

ทั้งสองยืนอยู่ด้วยกันใต้เงาแสงสะท้อนจากโคมไฟ ต่างจับจ้องสายตากันและกันในระยะชิดใกล้

จากนั้นภาพการจุมพิตลึกซึ้งของชายคนรักกับน้องสาวของไป๋หมิงเยว่ก็ปรากฏเต็มสองตา

หลี่เฟยเทียนกับไป๋ลี่ถิงจูบกันแนบแน่น

ฝ่ามือยังกอบกุมกันไม่ปล่อย

เมื่อค่อยๆ ผละจากใบหน้ากันและกันอย่างเสียดาย เสียงสั่นเทาของฝ่ายหญิงก็ตัดพ้อกระเง้ากระงอดว่า

“เมื่อไหร่พี่เฟยเทียนจะบอกความจริงเรื่องของเรากับพี่ใหญ่เสียทีเล่าเจ้าคะ”

ฝ่ายชายก้มหน้าตอบเสียงพร่า “น้องลี่ถิงใจเย็นเถิด ให้เวลาพี่สาวเจ้าได้ทำใจสักหน่อย หากบอกออกไปยามนี้  ดีไม่ดีนางอาจทำใจไม่ได้ มารดาของนางเสียไปไม่ถึงสามปี ส่วนเจ้าเองยังต้องรอปักปิ่นอีกหลายเดือนมิใช่หรือไร หืม...”

“อืม...ก็จริง” หญิงสาวเงยหน้ากะพริบตากลมโตแลดูไร้เดียงสา

“แต่พี่เฟยเทียนต้องสัญญากับข้าว่าจะบอกปัดเรื่องหมั้นหมายกับพี่ใหญ่ไปเรื่อยๆ แบบนี้ ห้ามตบปากรับคำเด็ดขาด ต่อให้พี่ใหญ่ไม่ต้องไว้ทุกข์แล้วก็ตาม”

ชายหนุ่มคลี่ยิ้ม ปลอบเสียงทุ้มนุ่ม “ข้าก็บอกปัดมาตลอดอยู่แล้วอย่างไรเล่า เอาเป็นว่าเจ้าก็รีบโตเป็นหญิงงาม จะได้เป็นเจ้าสาวของข้าเสียที หลังปักปิ่นเลยเป็นไร?”

หยอกเย้ากันจบก็แนบชิดคลอเคลียใต้แสงจันทร์ ฝ่ายหญิงส่งเสียงออดอ้อน ฝ่ายชายคอยพะเน้าพะนอไม่ห่าง

ช่างเป็นภาพอันบริสุทธิ์งดงามหาใดเทียม

ไป๋หมิงเยว่ยืนมองภาพบัดซบนั้นด้วยสองตาแดงก่ำ สองหูอื้ออึง สมองขาวโพลน

น้ำตามากมายหลั่งรินอาบแก้มเมื่อใดไม่ทราบได้ หัวใจนางแหลกสลายไปแล้วโดยสมบูรณ์

หญิงสาวเก็บภาพบาดตาบาดใจนั้นเอาไว้เพียงลำพังแล้วขังตัวเองอยู่ในห้องหับปิดสนิท แม้หน้าต่างก็ไม่แง้มเปิด

นางร้องไห้จนสลบ น้ำตาแทบกลายเป็นสายเลือด ขดตัวอยู่มุมห้องราวกระต่ายน้อยบาดเจ็บ

เนิ่นนานผ่านไปยังค่อยๆ คล้ายกับหนูป่วยใกล้ตายเข้าไปทุกที

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 29 โดดเดี่ยวเดียวดาย3

    รุ่งอรุณมาเยือนหลิวไท่หยางทำทีกวาดใบไม้ที่เกลื่อนลาน หมายรอให้ซิงเยว่จัดการธุระส่วนตัวในยามเช้าเสร็จสิ้น กระทั่งเดินออกมานั่งรับแสงแดดริมระเบียง เขาจึงรีบเดินมาชักชวน“คุณหนู วันนี้อากาศดียิ่งนัก ไปเดินยืดเส้นยืดสาย ดีหรือไม่?”การออกกำลังแขนขาย่อมผ่อนคลายความตึงเครียด บรรเทาอาการอึดอัดกระสับกระส่ายจากการนอนไม่หลับ หลังจากนั้นค่อยกลับมาหลับยามกลางวันให้สบายตัวชายหนุ่มคิดในใจมิได้เอ่ยออกไป ทว่าซิงเยว่กลับเข้าใจได้โดยง่ายน่าแปลกนักที่บุรุษผู้หนึ่งจะเข้าใจผู้อื่นได้ดีปานนี้ หากเสี่ยวชางมีภรรยา นางผู้นั้นย่อมต้องเป็นสตรีที่มีโชค การได้บุรุษแสนดีมาครองย่อมเปรียบเสมือนได้ครองใต้หล้าซิงเยว่เริ่มคิดเรื่อยเปื่อยไปไกลเมื่อหลุดจากภวังค์เลื่อนเปื้อน นางก็พยักหน้ายิ้มๆ ให้กับบุรุษแสนดีที่จะมีภรรยาเป็นสตรีครองใต้หล้าหญิงสาวลุกขึ้นยืน “ไปกันเถิด เสี่ยวชาง”นางหันมาพยักหน้าอีกทาง “ตงอิง เจ้าเฝ้าเรือนเตรียมอาหารเช้าแล้วกัน”ตงอิงยอบกายรับคำไม่อิดเอื้อน “เจ้าค่ะ”หลิวไท่หยางปรารถนาเข้าไปโอบกระชับบ่าเล็กๆ แล้วจับมือนางเดินเล่นด้วยกันอย่างปลอบประโลมเหลือเกินแต่จนใจที่ทำไม่ได้เพราะยามนี้เขาเป็นเพ

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 29 โดดเดี่ยวเดียวดาย2

    จูซิ่วตวัดแขโอบลำคอซ่งเสวียนชิงเพื่อมิให้เขาผละจากไป ดวงตาของนางเว้าวอน แอ่นอกชิดอกของเขาอย่างเย้ายวนชวนหวาบหวิว โน้มใบหน้าประทับจุมพิต รำพันยามแนบกลีบปากคลอเคลีย“แม้ข้ามิใช่พี่โม่เหลียน แต่ข้าไม่เคยโกรธท่าน ไม่เลย ...ข้ารักท่าน ขอแค่ท่านรักข้า รักเพียงข้า...”ดวงตาคมเข้มทอประกายวูบไหว หัวใจในโพรงอกด้านซ้ายเต้นในจังหวะไม่ช้า ทั้งสั่นไหวอย่างรุนแรง ประหนึ่งหนุ่มน้อยได้เจอปีศาจสาวจอมล่อลวงให้ตกบ่วงห้วงมายาแบบกะทันหัน ทั้งกิริยาหวิวซ่านและคำพร่ำรำพันแว่วหวาน และยามนี้สองร่างเปล่าเปลือยกำลังกอดเกยอยู่ในท่วงท่าหมิ่นเหม่หวามไหว ไหนเลยยังต้องคิดยั้งใจอันใด ซ่งเสวียนชิงจึงก้มหน้าพรมจูบจูซิ่วอย่างดุดัน จับอีกฝ่ายแยกขาพร้อมเคลื่อนกายขยับเป็นจังหวะวสันต์ ก่อนจะตอกตรึงลึกซึ้งถึงอารมณ์อันเร่าร้อนม่านเตียงพลิ้วไหว เคล้าเสียงกระเส่าครวญคราง เปลวเทียนวูบไว สาดส่องภาพวาดสตรีบนโต๊ะเนิ่นนาน...เรือนหนึ่งเสพสมสุขสันต์ ทว่าอีกเรือนหนึ่งนั้นกลับเห็นเงาร่างเลือนรางของคู่รักในม่านฝันแม้เป็นเพียงภาพฝันและเลือนรางปานนั้น หากแต่กลับทุกข์ระทมเด่นชัดในห้วงคะนึงนิทรานางทำราตรีนี้ยังคงทรมาน.

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 29 โดดเดี่ยวเดียวดาย1

    ค่ำคืนอากาศเย็นเยียบ บุรุษร่างใหญ่นั่งดื่มเหล้าอยู่คนเดียวเงียบๆ แววตาจับจ้องเพียงสิ่งหนึ่งเนิ่นนานภายในห้องหนังสือ มีแสงเทียนนวลลออส่องสะท้อนภาพวาดของสตรีงดงามวางอยู่บนโต๊ะ ฝ่ามือหยาบกร้านของซ่งเสวียนชิงลูบไล้อย่างคิดถึง หวนคะนึงโหยหามิสร่างซา“โม่เหลียน ในที่สุดข้าก็ได้บุตรสาวของเรากลับมา ข้าดูแลนางอย่างดี” เขาแค่นยิ้ม “เจ้าอย่าโกรธข้าอีกเลย เลิกโกรธข้าเสียที...ข้ารักเจ้าถึงเพียงนี้...โม่เหลียน...”เปลือกตาหนักอึ้งของบุรุษค่อยๆ ปิดลงอย่างเชื่องช้า นานครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาใหม่อีกครา จอกเหล้าถูกยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมด เป็นอยู่เช่นนี้หลายครั้งหลายครา“ท่านพี่...” สุ้มเสียงอ่อนหวานดังขึ้นข้างกาย ซ่งเสวียนชิงจึงปรายตามองแต่แล้วเขาพลันชะงักวูบหนึ่ง เท้ามือกับพนักเก้าอี้เพื่อพยุงตัวลุกขึ้น สองตาเหม่อมองเจ้าของเสียงหวานนิ่งงัน“เหลียนเอ๋อร์”รอยยิ้มสตรีแข็งค้าง ทว่าชั่วแวบเดียวเท่านั้นกลับปรับให้ริมฝีปากสีแดงเรื่อแย้มยิ้มเฉิดฉันอ่อนโยนดุจเดิมส่งผลให้ผู้มองรับรู้ได้ว่ากลีบปากภายใต้รอยยิ้มนี้ นุ่มหวานปานใด “เหลียนเอ๋อร์ เจ้ากลับมาหาข้าแล้ว...”ซ่งเสวียนชิงตวัดแขนโอบรัดเจ้าของรอย

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 28 รักใคร่อบอุ่น4

    ซิงเยว่ยังไม่เดินเข้าไป เพียงยืนมองภาพเบื้องหน้าด้วยกิริยานิ่งเงียบภาพที่สะท้อนเข้าสู่ม่านตาคือบิดานั่งยิ้มในหน้า แววตาอบอุ่นมากล้น เขาก้มมองบุตรสาวผู้น่ารักน่าชังอย่างเอื้อเอ็นดูสุดหัวใจ ส่วนมารดานั่งพะเน้าพะนอลูบหลังเบาๆ กล่าวสนับสนุนบุตรสาวทุกวาจาเป็นภาพของครอบครัวรักใคร่ปรองดองอย่างแท้จริงซ่งหลันจวิ้นยังไม่มา คงกำลังอาบน้ำผลัดอาภรณ์ทว่าเพียงสามคนพ่อแม่ลูกนี้ก็เพียงพอแล้วถึงกระแสความรักที่ท่วมท้น“ท่านพ่อ นี่คือหยกพกที่พี่หย่งปินมอบให้ข้าเจ้าค่ะ”ซ่งหลันอวี้ส่งเสียงกังวานใสไม่ขาดสายพร้อมล้วงเอาหยกเนื้อดีขึ้นมาโอ้อวดแก่สายตาบิดาเป็นหยกพกพาประจำกายของหย่งปินจริงๆหญิงสาวกล่าวอีกว่า “พี่หย่งปินบอกว่าภายหน้าจะมีข้าเป็นภรรยาเพียงผู้เดียว พวกท่านเป็นพยานนะ หากมีสตรีใดกล้าสานสัมพันธ์กับเขา ต้องช่วยกันขับไล่ไปให้ไกล”จูซิ่วเห็นเช่นนั้นรีบส่งเสริม “สองคนนี้สนิทสนมกันตั้งแต่เด็ก เผยท่าทีต่อกันชัดเจน เห็นทีคงต้องหมั้นหมายกันเสียแล้วกระมัง ท่านพี่คิดเห็นอย่างไรเจ้าคะ?”ซ่งเสวียนชิงพยักหน้ายิ้ม กล่าวคำว่าดีๆ ติดกันซ่งหลันอวี้เปลี่ยนท่าทีจากสดใสเป็นกระเง้ากระงอด “ท่านแม่ แต่พี่ซิงหลานมักจ

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 28 รักใคร่อบอุ่น3

    เรือนซิงเยว่หญิงสาวกลับเรือนมาออกแบบกลไกใช้ยิงขนาดเล็ก เหมาะสำหรับเด็กไว้ยิงไม่ต่างจากธนูคันใหญ่และหน้าไม้ สิ่งนี้มีช่องเก็บลูกดอกเล็กๆ บรรจุติดกับกลไก เพียงยึดให้มั่นแล้วพลิกมือจนเกิดเสียงดังกริ๊ก ลูกดอกคล้ายธนูจะเข้าสลัก ยิงได้ไกลในเสี้ยวเวลา“ข้าจะทำให้หลันจวิ้น”หญิงสาวบอกเสี่ยวชางผู้เป็นลูกมือประกอบกลไกตามคำสั่ง ทั้งสองนั่งอยู่ที่โต๊ะในเรือน ขะมักเขม้นกับกลไกนี้“ดูเจ้าเชี่ยวชาญยิ่งนัก เคยประกอบกลไกหรือ?”ซิงเยว่ถามเสี่ยวชางที่มีท่าทางปราดเปรื่องเหลือเกิน มองประเมินภาพแบบร่างกลไกของนางเพียงแค่ชั่วครู่เดียว กลับประกอบออกมาได้อย่างคล่องแคล่วสมบูรณ์แบบหลิวไท่หยางแทบทำไม้ปักมือตนเองขณะเผลอไผลแสดงความสามารถของตนออกไป ทว่าพริบตาก็ยกยิ้มโง่งม แล้วกล่าวเยี่ยงคนเขลาว่า “เมื่อก่อนตอนยังเป็นเด็กชาย ไม่มีข้าวกิน ข้าจึงชอบเข้าป่าล่าสัตว์ ชอบการยิงนกตกปลา เคยทำกับดักมากมายขอรับ”แท้จริงกลไกเยี่ยงนี้ในกาลก่อนล้วนเป็นเขาเองที่เพียรศึกษาแล้วนำมาสอนนางเพื่อเพิ่มการจู่โจมยามปล้นชิง ซิงเยว่ยามนั้นชอบมาก นางนำไปดัดแปลงอย่างชาญฉลาด ทว่ามิได้ทำเพื่อการปล้นชิง หากแต่กลับทำแล้วนำไปขาย จากนั้นก็เรียก

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 28 รักใคร่อบอุ่น2

    เขาผู้นี้คือเสี่ยวชางหย่งปินถอนหายใจเฮือก นึกชังกับบ่าวชายคนสนิทของคุณหนูใหญ่เหลือเกิน แต่จนใจที่ทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้ เพราะผู้นี้คือคนโปรดของนางชายหนุ่มเบี่ยงตัวเลี่ยงออกหลบเจ้าท่อนไม้ยักษ์ เพื่อยื่นใบหน้าขาวๆ ของตนให้พ้นใบหน้าดำทะมึนของอีกคน ทว่าทำอยู่นานล้วนไร้ผล คนสูงสองคนจึงยืนประจันหน้ากัน หลิวไท่หยางไม่มีทางยอมให้บุรุษใดเกี้ยวพาซิงเยว่ทั้งนั้น ส่วนหย่งปินเองก็ไม่ยอมให้ใครขัดขวางทางรักของตนเช่นกัน ไม่ง่ายเลยที่จะได้เจอสตรีถูกใจเช่นนี้บุรุษแค่นเสียงลอดไรฟันใส่หน้ากันในระยะเผาขน“เจ้าทาสชั้นต่ำ หลบไป!” หย่งปินมองเหยียดหลิวไท่หยางแค่นเสียงเย็นชา “ข้าไม่ปล่อยคนถ่อยเข้าใกล้นางแน่!”“เจ้าว่าใครถ่อย?”“อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้ามักแสดงท่าทีกับซ่งหลันอวี้” น้ำเสียงหลิวไท่หยางเจือกระแสเหยียดหยันแววตาเยียบเย็น “มีแต่คนถ่อยเท่านั้นที่ทำพี่น้องต้องแย่งชิง ช่างไร้ยางอาย!”“เจ้า!” หย่งปินยิ่งเดือดดาล เขายิ้มเยาะ “พี่น้องแย่งชิงแล้วอย่างไร ข้าย่อมดูแลได้ดีทั้งหมด ทุกคน!”หลิวไท่หยางหรี่ตา สุ้มเสียงหยาบกระด้างมากขึ้น “คิดอยากเลี้ยงดูสตรีทั้งเมืองก็เรื่องของเจ้า แต่ต้องไม่ใช่คุณหนูของข้า ไสห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status