เหอหลันฮวา คุณหนูใหญ่ตระกูลเหอ ชาติที่แล้วตกตายเพราะความริษยาของน้องสาวต่างมารดา แต่ที่นางกลับมา ไม่ได้อยากล้างแค้นใคร ขอให้ข้าได้ใช้ชีวิตกับสามีอย่างสงบสุขได้หรือไม่
ดูเพิ่มเติมเหอหลันฮวา
เป็นบุตรสาวภรรยาเอกของเสนาบดีเหอแห่งแคว้นหลาน นางเป็นหญิงสาวที่สง่างามจะบอกว่าเป็นยอดบุปผาแห่งเมืองหลวงก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นองค์ชายหรือคุณชายในเมืองหลวงต่างก็หมายปองนางแต่ใจของเหอหลันฮวายึดติดเพียงแค่องค์ชายรองแคว้นหลาน มีนามว่าหลานหมิงฮ่าวซึ่งมีฐานะเป็นคู่หมั้นเพียงคนเดียวเท่านั้น ทั้งสองมีการหมั้นหมายตั้งแต่วัยเยาว์โดยความเห็นชอบจากบิดาของนางและฝ่าบาท
แต่ผู้ใดจะไปคิดว่าองค์ชายรองผู้แสนอ่อนโยนจะหักหลังนางด้วยการแอบไปผูกสมัครรักใคร่ และมีความสัมพันธ์ทางกายกับเหอชิงลี่น้องสาวต่างมารดาที่เป็นเพียงลูกอนุที่ขยับฐานะมาเป็นฮูหยินรองในจวน
ต่อให้เหอชิงลี่และองค์ชายรองหลานหมิงฮ่าวจะรักมั่นเพียงใด แต่อุปสรรคที่กั้นกลางทั้งสองคนไว้ คือคุณหนูใหญ่เหอหลันฮวาที่มีฐานะเป็นถึงคู่หมั้นเพียงหนึ่งเดียว
องค์ชายรองหลานหมิงฮ่าวไม่ได้สนใจว่าตัวเขาจะต้องหมั้นหมายหรือว่าต้องแต่งงานกับผู้ใด ต่อให้มีใจรักมอบให้กับเหอชิงลี่แค่ไหน แต่ด้วยฐานะของนางไม่สามารถสนับสนุนเขาได้ หากแต่งเข้ามาคงเป็นเพียงอนุภรรยาเท่านั้น
ซึ่งต่างกับคุณหนูใหญ่เหอหลันฮวา นางเป็นถึงบุตรสาวภรรยาเอกของท่านเสนาบดีเหอที่มาจากตระกูลฟ่าน
วันงานปักปิ่นของเหอชิงลี่เหตุการณ์ไม่คาดฝันจึงเกิดขึ้น เมื่อมีคนมาแจ้งท่านเสนาบดีเหอว่าคุณหนูใหญ่ลักลอบมีความสัมพันธ์กับชายตัดฟืนบ่าวไพร่ทำงานอยู่ในจวน ทำให้ท่านเสนาบดีโกรธและเสียหน้ามาก จึงรีบมุ่งหน้าไปยังเรือนนอนที่ใช้รับรองแขกทันที
แต่สิ่งที่เสนาบดีเหอเห็นนั้นทำให้เขาขาดสติกระชากตัวบุตรสาวลงมาและตบหน้านางอย่างแรง
“แพศยา! เจ้าเป็นถึงคุณหนูใหญ่ของตระกูลกลับชั่วช้าลักลอบมีความสัมพันธ์กับคนตัดฟืน ต่ำ! ต่ำจริง ๆ”
“คุณหนูไม่ผิดขอรับนายท่าน ข้าผิดเองขอรับ นายท่านอย่าทำร้ายคุณหนูเลยขอรับ”
อาเฟยชายตัดฟืนบ่าวรับใช้ในจวน เขารีบเอาผ้ามาคลุมร่างของคุณหนูใหญ่ไว้อย่างหวงแหน เขารู้ดีว่าคุณหนูนั้นหยิ่งยโสแค่ไหน การที่นางจะมีความสัมพันธ์กับชายตัดฟืนเช่นเขานั้นไม่มีทางเป็นไปได้ เรื่องนี้มันต้องมีเบื้องหลัง
แต่ที่รู้คือเขาและคุณหนูนั้นโดนวางยาอย่างไม่ต้องสงสัย และเขารู้ดีว่าเรื่องครั้งนี้เป็นแผนการของผู้ใด
“ใครก็ได้มาลากนังลูกชั่วคนนี้ไปให้พ้น ๆ หน้าข้า พรุ่งนี้ย้ายข้าวของทุกอย่างของลูกชั่วไปอยู่ที่กระท่อมท้ายจวนกับสามีตัดฟืนของมัน”
เสนาบดีเหอพูดจบจึงสะบัดแขนเสื้อเดินออกมาด้วยอารมณ์โกรธแค้นบุตรสาว แทนที่จะได้แต่งงานเป็นชายาขององค์ชายอย่างมีหน้ามีตา กลับใฝ่ต่ำมาลักลอบได้เสียกับคนตัดฟืนในจวน
หากข่าวนี้แพร่กระจายออกไป จวนตระกูลเหอแห่งนี้จะเอาหน้าไปไว้ไหน
เมื่อทุกคนจากไปแล้ว อาเฟยจึงยื่นมือไปหาคุณหนูใหญ่ท่าทางกล้า ๆ กลัว ๆ “คุณหนูขอรับ”
“ไปให้พ้นหน้าข้า เพราะเจ้า เจ้าทำให้ข้าต้องอับอายขายขี้หน้า ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้าอีก”
เหอหลันฮวาตวาดเสียงดัง ก่อนจะก้มหน้ากับฝ่ามือร้องไห้แทบขาดใจ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตนาง ทั้ง ๆ ที่เดือนหน้านางจะต้องเข้าพิธีแต่งงานกับองค์ชายรองแล้วแท้ ๆ ทำไมกัน ทำไม!
หลังจากที่ถูกบิดาขับไล่ออกมาอยู่ที่กระท่อมท้ายจวนพร้อมกับอาเฟยชายตัดฟืน เหอหลันฮวาจึงมีนิสัยร้ายกาจขึ้นมาก ทั้งด่าทอและทุบตีอาเฟยบ่อย ๆ เมื่อไม่ได้ดั่งใจ ตัวอาเฟยนั้นแม้ว่าจะถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจยังไง เขาไม่เคยปริปากบ่นก้มหน้ารับคำดุด่าแต่โดยดี
ส่วนลึก ๆ ในจิตใจของชายหนุ่ม เขานั้นหลงรักคุณหนูใหญ่มานานแล้วตั้งแต่วันที่คุณหนูซื้อชายความจำเสื่อมเช่นเขามาจากโรงค้าทาส
แต่เพราะฐานะต่ำต้อยจึงไม่เคยคิดอาจเอื้อม การที่คุณหนูใหญ่ตกต่ำเช่นนี้ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะเขาด้วย คงมีผู้ใดเกิดล่วงรู้ความในใจของเขาขึ้นมา ชายหนุ่มจึงได้แต่ก้มหน้ายอมถูกทำร้ายและคอยฟังเสียงด่าทอของภรรยาอย่างไม่คิดห้ามปราม คนที่นางไม่เคยยอมรับเขาว่าเป็นสามี
ภายในจวนของเสนาบดีเหอ เมื่อเรื่องของบุตรสาวภรรยาเอกเลื่องลือออกไปด้านนอกจวน ทำให้มีแต่คนซุบซิบนินทา จนทำให้คนภายในจวนแทบจะไม่กล้าออกมาพบปะผู้คน รวมถึงการตัดสัมพันธ์ขององค์ชายรองที่มีต่อตระกูลเหอด้วยเช่นกัน
“เพราะมัน องค์ชายรองจึงตัดสัมพันธ์กับข้า ท่านแม่ ท่านต้องช่วยข้ากำจัดนางแพศยานั่น”
เหอชิงลี่ขว้างปาข้าวของในห้องพร้อมกับด่าทอพี่สาวต่างมารดาด้วยความเกลียดชัง วางแผนไว้ดีแล้วและทุกอย่างสำเร็จดั่งใจ แต่องค์ชายรองกลับขอตัดความสัมพันธ์กับนางทั้ง ๆ ที่นางตกเป็นของเขาแล้วเช่นกัน
“นี่ลี่เอ๋อร์ เจ้าอย่าเพิ่งโวยวายได้ไหมเล่า แม่เองจะบ้าตายอยู่แล้ว ช่วยกันหาวิธีคิดก่อนว่าจะทำยังไงต่อไป ตอนนี้ท่านพ่อของเจ้าแทบจะเข้าหน้าไม่ติดกับคนในราชสำนัก แม่เตือนเจ้าแล้วว่าอย่าทำอะไรบุ่มบ่ามจนกลายมาเป็นผลเสียต่อฝ่ายของเราเอง เจ้าเองไม่เคยเชื่อแม่สักครา”
ฮูหยินรองเตือนสติบุตรสาว
“ก่อนที่ท่านแม่จะกล่าวตักเตือนข้า ท่านทำให้ท่านพ่อยกท่านมาเป็นภรรยาเอกเสียก่อนดีไหมเจ้าคะ ฮูหยินใหญ่ตายไปตั้งนานแล้ว ท่านยังเป็นเพียงภรรยารองเท่านั้น หากท่านได้เป็นฮูหยินใหญ่ ข้าคงไม่ต้องถูกผู้ใดดูหมิ่นหรือถูกเหยียดหยามเช่นนี้”
นางคิดว่าหากว่านางได้เป็นบุตรสาวภรรยาเอก นางคงจะได้เป็นพระชายาไปแล้ว ไม่ต้องถูกตัดสัมพันธ์จนช้ำใจ
“แม่มีวิธีที่จะให้นังนั้นตายไปอย่างง่ายดาย เจ้าช่วยอยู่อย่างสงบปากสงบคำก่อนเถอะ ในเมื่อข้ากำจัดแม่ของนางได้ ทำไมข้าจะกำจัดนางไม่ได้”
ฮูหยินรองหรือตู้เหนียงเอ่ยเสียงเย็น ในเมื่อตนสามารถจัดการฮูหยินเอกของท่านเหอได้ ทำไมนางจะจัดการคนเป็นลูกไม่ได้ อีกทั้งตอนนี้พี่ชายของเหอหลันฮวาอยู่ที่กองทัพ ไม่รู้เมื่อไหร่จะกลับมา นี่คือโอกาสดีที่นายท่านกำลังโกรธ หากเหอหลันฮวาตายไป นายท่านคงไม่คิดสืบสาวราวเรื่องเป็นแน่
“ท่านแม่ ท่านสัญญากับข้าแล้วนะว่าจะกำจัดมันให้กับข้า”
“แม่สัญญา”
จากนั้นไม่นานฮูหยินรองจึงให้บ่าวรับใช้วางยาในอาหารให้กับคุณหนูใหญ่เหอหลันฮวา คนที่เป็นหนามยอกอกของตนและบุตรสาว จวบจนวันหนึ่ง สิ่งที่หวังและกระทำไปสำเร็จลุล่วงเมื่อเหอหลันฮวาสิ้นชีพ
“ไม่นะขอรับ คุณหนูอย่าทิ้งข้าไป คุณหนูลุกขึ้นมาสิขอรับ อย่าทิ้งข้าไป ข้ารักคุณหนูนะขอรับ”
อาเฟยกอดร่างภรรยาร้องไห้คร่ำครวญปานจะขาดใจ ดวงวิญญาณของเหอหลันฮวากลั้นน้ำตาออกมาแทบจะเป็นสายเลือด
สุดท้ายแล้วคนที่รักนางที่สุดก็คือสามีที่เป็นเพียงชายตัดฟืนคนนี้สินะ
จากนั้นภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ผ่านเข้ามาให้หญิงสาวได้เห็น ว่าผู้ใดคือคนที่คอยทำร้ายตนเองมาตลอด แม้จะรู้อยู่แล้วแต่ไม่คิดว่าจะลงมือกันถึงขั้นทำร้ายกันจนตาย
แม้แต่ชีวิตของอาเฟยก็โดนบีบคั้นจนตายเช่นกัน กว่าพี่ชายร่วมอุทรจะกลับมา นางและสามีก็สิ้นชีพไปแล้ว
“เจ้าเห็นแล้วใช่หรือไม่ สุดท้ายคนที่รักเจ้าจริงนั้นเป็นผู้ใด มารดาเจ้าตายเพราะผู้ใด”
อยู่ ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นมา เหอหลันฮวามองซ้ายมองขวาเจอเข้ากับเงาสีดำที่ไม่รู้ว่าคืออะไร
“ท่านเป็นผู้ใด หรือว่าท่านมาเพื่อพาข้าไป”
เหอหลันฮวาถามกลับ นางยังไม่อยากไป เพราะหากนางไปแล้วอาเฟยชายผู้น่าสงสารคนนี้จะต้องตายเช่นกัน
“ข้าเป็นผู้ใดเจ้าไม่ต้องรู้ หากข้าให้โอกาสเจ้ากลับไปหาสามีของเจ้า เจ้ายินดีหรือไม่” เงาสีดำนั้นยังคงถาม
“กลับสิ ข้าอยากกลับไป”
“แต่เจ้าต้องละทิ้งความแค้นทั้งหมด อยู่กับปัจจุบันก่อร่างสร้างตัวกับสามีของเจ้าเพียงสองคน ใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุข เจ้าทำได้หรือไม่เล่า เหอหลันฮวา”
“ข้าสัญญา ขอเพียงได้กลับไปอยู่กับอาเฟยก็พอแล้ว”
เหอหลันฮวารับปากเงาดำตนนั้นโดยไม่ต้องคิดให้มากความ แค่ได้กลับไปนางก็พอใจแล้ว
“ดีมาก กลับไปครั้งนี้ ข้าจะมอบความรู้ต่าง ๆ ให้กับเจ้า เผื่อว่าเจ้าและสามีจะได้เอาไปสร้างตัว”
เงาดำตนนั้นพูดและจับหัวของเหอหลันฮวาก่อนจะมีความรู้สึกเหมือนมีอะไรกระชากดวงวิญญาณนางอย่างแรง
“ข้าช่วยท่านได้เท่านี้ อยู่ที่ตัวท่านจะกลับไปอยู่เหนือคนทั้งปวงได้หรือไม่ มีเพียงนางเท่านั้นที่จะทำให้ท่านพ้นภัยก่อนที่ความทรงจำจะกลับมา”
เงาดำพึมพำเพียงตนเดียว แค่นี้เขาก็ฝืนมิติของสวรรค์มากพอแล้ว
บทส่งท้าย ชีวิตที่สงบอย่างที่ต้องการเว่ยเฟยหลงพาภรรยาและบุตรชายทั้งสองกลับมาถึงเมืองหลวงของแคว้นเว่ย เขาก็ได้รับพระราชทานให้ไปอยู่ที่ตำหนักบูรพา ฮ่องเต้และฮองเฮาเสด็จมารับหลานทั้งสองและได้เจอลูกสะใภ้ ด้วยความเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่มาก่อน กิริยาของเหอหลันฮวาก็เพียบพร้อม ไม่มีใครกล้ามาตำหนินางได้ผู้เป็นใหญ่ทั้งสองรักและหลงหลานชายเป็นอย่างมาก ฮ่องเต้ประกาศราชโองการสละราชสมบัติ ให้เว่ยเฟยหลงขึ้นครองราชย์ต่อจากเขา จากที่ฮองเฮาเตรียมจัดงานแต่งตั้งพระชายาเอกขององค์รัชทายาท กลับกลายมาเป็นงานเฉลิมฉลองขึ้นครองราชย์ของเว่ยเฟยหลงเหอหลันฮวาถูกแต่งตั้งเป็นฮองเฮา บุตรชายทั้งสองได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์ชาย อดีตฮ่องเต้และอดีตฮองเฮา ยังคงอาศัยอยู่ที่เมืองหลวง มีตำหนักเป็นของตนเอง สิ่งที่ทั้งสองโปรดปรานในตอนนี้คือการเลี้ยงดูหลานทั้งสองในตอนนี้ เหอหลันฮวากำลังนั่งสนทนากับพี่ชายอยู่ตำหนักของนาง“พี่รองคิดดีแล้วหรือ?”นางกล่าวถามพี่ชายอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ หลังจากที่เหอซือเหวินบอกกล่าวกับนางเรื่องที่เขาต้องการจะลาออกจากราชการมาอยู่ใกล้นาง เพื่อปกป้องนางและหลานน้อยทั้งสอง เหอหลันฮวารู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่
บทที่ 64 กบฏแคว้นหลานหลังจากที่เหอหลันฮวาคลอดบุตรชายทั้งสองครบสามเดือน เว่ยเฟยหลงก็ตัดสินใจพานางและบุตรชายกลับไปที่แคว้นเว่ย เนื่องจากทางฮ่องเต้และฮองเฮาเร่งรัดมาเพื่ออยากเจอหน้าหลานชายทั้งสองและก็เกิดเหตุการณ์ขึ้นในแคว้นหลาน ฮ่องเต้สวรรคตเนื่องจากฝีมือขององค์ชายรองเป็นผู้กระทำ องค์ชายรองต้องการแต่งตั้งตนเองเป็นฮ่องเต้ แต่เพราะไม่มีราชโองการแต่งตั้ง และตอนนี้เขากำลังหาตราประทับของฮ่องเต้จึงยื้อเวลาเอาไว้หลานหยางคุนให้เว่ยเฟยหลงพาทุกคนกลับแคว้นเว่ยไป เพื่อความปลอดภัย เหตุการณ์ในครั้งนี้เหอหลันฮวาคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าต้องเกิดขึ้นสักวัน นางจึงวางแผนไว้ล่วงหน้า พร้อมกับเตรียมการตั้งรับ“องค์ชายสาม ท่านพาคนบุกเข้าไปในวังหลวงเถิด”เหอหลันฮวาที่นั่งฟังองครักษ์ขององค์ชายสามรายงานเสร็จ นางก็หันไปกล่าวกับองค์ชายสามที่นั่งกำหมัดอยู่ด้วยดวงตาแดงก่ำ“เขากำเริบเสิบสานยิ่งนัก” หลานหยางคุนกัดฟันเอ่ยขึ้นด้วยความเคียดแค้น“พวกท่านควรกลับไปก่อน” เขาเป็นห่วงความปลอดภัยของทุกคนในที่นี้ เพราะกลัวว่าจะได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะหลานทั้งสองที่เพิ่งลืมตาดูโลก จึงเร่งให้เว่ยเฟยหลงพาภรรยาและบุตรกลับไปก่อน“ข้าจะออ
บทที่ 63 รับภรรยากลับบ้านราชสำนักออกมาประกาศความผิดของตระกูลไช่ ตระกูลหม่า ตระกูลจงอย่างชัดเจน และยังมีการแห่นักโทษก่อนประหารเพื่อไม่ให้คนรุ่นหลังหลังเอาเป็นเยี่ยงอย่าง หลังจากประหารนักโทษเสร็จสิ้น ก็มีการประกาศแต่งตั้งองค์รัชทายาทขึ้นมาอีกครั้งสงครามกลางเมืองที่เพิ่งจะผ่านพ้นไป ไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก ไม่นานชาวเมืองก็กลับมาค้าขาย และบรรยากาศที่ครึกครื้นก็กลับมาองค์ชายสามที่ตอนนี้กลายเป็นคุณชายเว่ย และไช่ฮูหยิน อดีตเสียนเฟยก็ได้เดินทางไปที่แดนเหนือ เพื่อปกครองเมืองหน้าด่านเล็ก ๆ ตามราชโองการของฮ่องเต้เมื่อทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี เว่ยเฟยหลงก็ขอพระราชทานอนุญาตเดินทางไปที่แคว้นหลาน เพื่อไปรับเหอหลันฮวามาที่แคว้นเว่ยทางด้านฮองเฮาก็เตรียมตัวที่จะจัดงานแต่งตั้งชายาเอกของโอรสด้วยความตื่นเต้น ยิ่งรู้ว่าเหอหลันฮวากำลังตั้งครรภ์ ผู้ที่กำลังจะเป็นปู่ย่าก็รู้สึกตื่นเต้นยิ่งนักเนื่องจากอยากเจอหน้าหลานโดยเร็วเว่ยเฟยหลงและเว่ยอิ้งเหมยออกเดินทางจากแคว้นเว่ยมาที่แคว้นหลานก็ใช้เวลาหลายวัน และเมื่อมาถึงจวน เขาก็พบว่าตอนนี้ทั้งจวนกำลังตกอยู่ในความโกลาหล จนเขาเห็นแล้วก็ตกใจ รีบคว้าคอบ่าวคนหนึ่ง
บทที่ 62 ลงโทษเมื่อดาบขององค์ชายสามกระทบพื้น ทุกคนก็รู้ในทันทีว่าศึกในครานี้ที่เพิ่งจะเริ่มต้น ฝ่ายองค์ชายสามได้แพ้พ่ายแล้ว“องค์ชาย!!” แม่ทัพฝ่ายเสนาบดีไช่เห็นดังนั้นก็จะเข้ามาหาเพื่อเกลี้ยกล่อมให้เขายอมแพ้“จับกุมตัวให้หมด ใครขัดขืน ฆ่า!!!”แต่เว่ยเฟยหลงไม่ยอมให้ใครได้ขยับตัว เขาออกคำสั่งอย่างเด็ดขาด ผู้ใต้บังคับบัญชาก็รีบทำตามจับกุมเหล่ากบฏ หากมีใครกล้าขัดขืนก็ฆ่าได้ในทันทีเว่ยเฟยหลงละสายตาจากทหารเหล่านั้น หันมามองน้องชายที่ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมในตอนนี้อยู่“เจ้าตามข้ามาเถิด”เขาบังคับม้าให้นำไปที่ประตูเมือง องค์ชายสามเงยหน้าขึ้นเห็นแผ่นหลังที่องอาจของพี่ชายที่ควบม้านำหน้าเขาไปเดิมทีเขานึกว่าพี่ชายจะสั่งให้คนมาจับตัวเขาเสียอีก แต่พอคิดว่าพี่ชายไม่มีความแค้นอันใดกับเขา เว่ยหนิงเฉิงก็รีบควบม้าตามเว่ยเฟยหลงไปทันที“เสด็จพี่” เขาเรียกองค์รัชทายาทเอาไว้ด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล“???” ทำให้เว่ยเฟยหลงหันมามองเขาอย่างตั้งคำถาม“เสด็จแม่ของข้า”“นางกระทำสิ่งใดไว้ ก็ต้องได้รับโทษ ข้าไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจ เจ้าไปร้องขอเสด็จพ่อเถิด”เว่ยเฟยหลงย่อมรู้ว่าเว่ยหนิงเฉิงอยากจะร้องขอสิ่งใด เพียงแต่เ
บทที่ 61 ศึกพี่น้ององค์ชายสามกลับมาถึงตำหนักของตนเอง ก็เข้าไปขลุกตัวอยู่ในห้องหนังสือ เขาขบคิดอย่างหนักถึงความต้องการของตนเองในเวลานี้บัลลังก์นั่นเขาไม่ได้ต้องการ และเขาก็ไม่ได้มีความแค้นกับองค์รัชทายาท อีกฝั่งคือพี่ชาย ส่วนอีกฝั่งคือมารดาผู้ให้กำเนิด และท่านตา ที่คอยสนับสนุนเขาเสมอมา ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาย่อมรู้ว่ามารดาและท่านตากระทำสิ่งใดลงไปบ้างแต่เพราะมองว่าพวกเขาทำเพื่อให้เขามีชีวิตรอด และมีความมั่นคงในชีวิต จึงยอมปิดตาข้างหนึ่งมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้ไม่รู้ว่าเหตุใด เขาจึงไม่อยากกระทำตามที่มารดาและท่านตาสั่งให้ทำเลยสักนิด“องค์ชาย” องครักษ์ที่เดินตามเว่ยหนิงเฉิงเข้ามาเห็นเจ้านายมีสีหน้าที่คิดไม่ตก และนั่งเหม่อลอยอยู่นาน จึงร้องเรียกด้วยความเป็นห่วง“ข้าจะทำเช่นไรดี” เว่ยหนิงเฉิงพึมพำขึ้นเสียงเบา แต่สำหรับคนที่ฝึกวรยุทธ์ย่อมได้ยินเพียงองครักษ์เช่นเขาจะสามารถให้คำแนะนำองค์ชายที่ได้รับคำสั่งจากเสียนเฟยมาแล้วได้อย่างไร ถ้าเกิดเขากล่าวอันใดที่ขัดพระทัย จะไม่เป็นการฆ่าตนเองหรอกหรืออีกทั้งเรื่องนี้ล้วนแต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจขององค์ชายทั้งสิ้นเว่ยหนิงเฉิงไม่ได้สนใจใคร เขาเพียงแค่พึม
บทที่ 60 หลังชนฝาข่าวการกลับมาขององค์รัชทายาท ทำให้ตระกูลไช่ และเสียนเฟยเริ่มร้อนตัวถึงการกระทำของตนเองไช่เสียนเฟยเมื่อทราบเช่นนั้น นางแทบจะทรุดลงอีกครั้ง เรื่องมาถึงขั้นนี้ได้อย่างไร ไม่ใช่ว่าองค์รัชทายาทตายไปแล้วหรอกหรือ แล้วนี่เขายกทัพมาประชิดเมืองหลวงได้ทำไมคนของสกุลไช่ถึงไม่รู้เรื่องกันล่ะ หรือสายข่าวของท่านพ่อจะมีปัญหา“ท่านพ่อไม่ใช่สกุลไช่หละหลวมหรอกหรือ ทำให้คนพวกนั้นมาประชิดเมืองหลวงได้ แล้วคนของเราล่ะเจ้าคะ ทำไมถึงไม่มีใครส่งข่าว พี่ใหญ่เช่นกัน ท่านบอกว่าจะให้บุตรสาวของท่านตีสนิทกับคุณชายเหวินคนดูแลหอมู่ตาน หรือว่าบุตรสาวของท่านไม่มีความสามารถ”นางหันไปกล่าวกับบิดาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ออกแนวจะตำหนิที่เขาไม่รอบคอบ อีกทั้งแผนการง่าย ๆ เรื่องให้สาวงามไปล่อลวงคุณชายเหวิน เรื่องแค่นี้เขายังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นางอดไม่ได้ที่จะมองเขาอย่างดูแคลน“พระสนมกล่าวเช่นนั้นก็มิถูกนะพ่ะย่ะค่ะ มีผู้ใดไม่รู้บ้างว่าคุณชายเหวินมีสัญญาหมั้นหมายกับบุตรีของอดีตแม่ทัพจง เรื่องนี้สกุลจงมิอาจก้าวก่ายได้เช่นกัน”เสนาบดีไช่ส่งสายตาบุตรสาว ที่ตนส่งเข้าวังหลวงด้วยตนเอง อีกทั้งยังหนุนหลังนางจนได้ตำแหน่งเ
ความคิดเห็น