“ก็แกนอนกับเขา แกจะไม่รู้ได้ไงหาาา แกกับเขาทำกันไปกี่ครั้ง กี่รอบ ป้องกันไหม หลั่งนอกหรือเปล่า แล้วแกอะ ตั้งแต่นอนกับเขามา แกกินยาคุมฉุกเฉินหรือยัง แล้วแกไปตรวจโรคหรือเปล่า ถ้าแกติดโรคมาจะทำไง โอ๊ยยยย นี่ฉันจะบ้าตายฉันไม่ควรจะพาแกไปสถานที่แบบนั้นเลย”
แอนนี่ร่ายยาวอย่างหัวเสีย เริ่มรู้สึกผิดที่เป็นตัวต้นเหตุของเรื่อง ไม่น่าพาเพื่อนรักที่อ่อนต่อโลกไปเที่ยวเลยจริง ๆ
“…”
“ว่าไง ที่ฉันถามมาทั้งหมดเนี่ย แกทำอะไรไปแล้วบ้าง”
มารีอาส่ายหัวช้า ๆ พร้อมทำตาปริบ ๆ
“ที่แกพูดมาทั้งหมด ฉันจำอะไรไม่ได้เลย”
“เฮ้อออออ จะบอกว่า ยาคุมฉุกเฉินแกก็ยังไม่ได้กินเฮ้อออออ… แล้วแกจะท้องไหมเนี่ย”
“ท้อง !”
“ใช่ ! ท้อง ! แล้วแกต้องกินภายในเจ็ดสิบสองชั่วโมงด้วย ไม่งั้นไม่ได้ผล เดี๋ยวขากลับออฟฟิศจะพาแวะไปซื้อ”
มารีอาพยักหน้าหงึก ๆ
“แล้วไอ้หมอนั่นเป็นใคร หมอนั่นเก็บแหวนของแกไปเหรอ”
“มะ ไม่รู้”
“อ้าววววว”
“หน้าตาเขาเป็นยังไง ฉันก็ไม่รู้เลย พอดีตอนนั้นคอนแทกต์เลนส์ฉันหาย แถมเมาอีกต่างหาก” มารีอายิ้มแห้ง
“ม า รี อ า” แอนนี่เรียกชื่อมารีอาชัด ๆ แบบเน้น ๆ
“หืมมม”
“แล้วแกว่าแบบนี้ แกจะเจอแหวนหมั้นของแกไหมเนี่ย ถามอะไรคือแกไม่รู้สักอย่าง โอ๊ยยเนาะ”
“ก็คงเจอ… มั้ง… เอ่อคือ ฉันคิดว่าฉันน่าจะถอดเอาไว้ตอนที่นอนกับผู้ชายคนนั้น พอดีตอนเช้าที่เขาอาบน้ำอยู่ ฉันรีบออกมาก่อนที่เขาจะออกมา ฉันว่าเขาน่าจะเจอบนที่นอนแล้วเก็บเอาไว้”
“แล้วถ้าเขาไม่เจอล่ะ”
“ฉันก็จะชวนเขาไปถามหาที่โรงแรม เพราะทางโรงแรมต้องเก็บเอาไว้แน่ ๆ แต่ฉันจะไปถามโรงแรมคนเดียวได้ไงล่ะ ชื่อเขาที่จองห้องฉันก็ไม่รู้จัก ห้องเลขที่อะไรฉันก็จำไม่ได้” มารีอาทำหน้าหงอ
“อย่างกับงมเข็มในมหาสมุทรเลยแก เฮ้ออออ”
แอนนี่กอดอกกับความใสซื่อของมารีอา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้นเหตุก็มาจากเธอล้วน ๆ อย่างไรเสียเธอก็มีส่วนต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วย
สุดท้ายออกจากร้านอาหาร แอนนี่รีบไปส่งมารีอาให้ซื้อยาคุมฉุกเฉินมากิน พร้อมสอนและกำชับถึงวิธีกินเพื่อไม่ให้เพื่อนเธอลืม
“กินเม็ดแรกให้เร็วที่สุดภายหลังมีเพศสัมพันธ์แบบที่ไม่ได้ป้องกันภายในเจ็ดสิบสองชั่วโมง และรับประทานเม็ดที่สองหลังจากเม็ดที่หนึ่งภายในสิบสองชั่วโมง”
แอนนี่อ่านข้างกล่อง พร้อมกำชับมารีอาห้ามลืม
“อย่าลืมเด็ดขาดไม่งั้นแกท้องแน่”
“อือฮึ”
“กลับไปถึงออฟฟิศต้องกินเลยนะ นี่ผ่านมากี่ชั่วโมงแล้วเนี่ย ตั้งแต่แก จุด จุด จุด”
“น่าจะวันนี้วันที่สอง”
“เออให้ไวเลย”
“จ้า เออแล้วนี่แกจะพาฉันไปตามหาผู้ชายคนนั้นเมื่อไหร่” มารีอาถามเพื่อน ในขณะที่อยู่ในรถเกือบจะถึงออฟฟิศ
“คืนนี้เลยเป็นไง พอเขาเห็นแก ผู้ชายคนนั้นอาจจะจำแกได้ แล้วเป็นฝ่ายเข้ามาทักแกเอง”
“อือ หวังว่าเขาคงไม่ใช่คนไม่ดีอะไรนะ”
“เออ ฉันก็หวังแบบนั้น สงสารแกว่ะ ฉันไม่น่าพาแกไปเลย” แอนนี่ยังเสียใจไม่หายที่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์นี้กับเพื่อน
...ที่โต๊ะทำงานของมารีอา หลังจากที่เธอแยกกับแอนนี่ที่เพิ่งกลับเข้าทำงานในตอนบ่าย มารีอาหยิบถุงยาขึ้นมาบนโต๊ะ ก่อนจะเอามือล้วงเข้าไปเพื่อหยิบกล่องยาออกมา แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่กล้าหยิบ เมื่อเห็นพนักงานคนอื่นที่ยังเดินไปมาผ่านโต๊ะทำงานของเธอ สุดท้ายเธอได้แต่รอจนปลอดคนเตรียมจะหยิบยาออกมาออก ผู้จัดการก็ดันเรียกเธอเสียก่อน จนมารีอาต้องรีบเก็บถุงยาเข้าไปในลิ้นชักโต๊ะทำงาน ก่อนเข้าไปพบผู้จัดการของเธอ
“ค่ะ ผู้จัดการ เรียกมาร์หรือคะ”
“เธอลืมอะไรหรือเปล่า ว่าวันนี้บ่ายสองเรามีประชุมกันต่อ”
“ประชุมต่อ ! อ๋อ ๆ ใช่ค่ะ” มารีอาลืมเสียสนิท เพราะเรื่องวุ่น ๆ ที่ประเดประดังเข้ามา ทำให้เธอลืมไปเสียสนิท ในตอนเช้าเธอก็เข้างานสาย เพราะมัวเจอตาอนิรุตคู่หมั้น แถมยังติดอยู่ในลิฟต์กับท่านประธาน พอมาถึงโต๊ะก็มัวแต่เคลียร์งานที่ค้างอยู่ จนลืมไปเลยว่ามีประชุมต่ออีกรอบ
แต่สติสตังตอนนี้ของมารีอาแทบจะเป็นศูนย์ เรื่องราวหลายอย่างเหมือนมันรุมกระหน่ำเธอทีเดียว
ภายในระยะไม่กี่วัน ต้องมาเจอคู่หมั้นนอกใจ แถมตัวเองก็เมาจนนอนกับใครมาไม่รู้ อาการอ่อนเพลียยังไม่ค่อยหายดี แต่ก็ต้องรีบมาทำงานมาเจอประชุมหฤโหดทำให้เครียดจนถึงเย็น พอกลับมาบ้านเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองทำแหวนหาย แถมเมื่อเช้าก็ดันเจอตาอนิรุตมาวุ่นวายจนต้องบอกถอนหมั้นเขาไปอีก ซ้ำร้ายในตอนนี้ก็ยังต้องไปประชุมต่อ
~โอยยยยยย ราวกับสมองจะระเบิด~
ทุกคนรัวถามเธอชนิดพูดเออตอบเอง แอนนี่ได้เพียงแต่พูดอ้าปากค้างเพราะพูดอะไรไม่ทัน ก่อนทุกคนจะเห็นท่านประธานลี่หานเดินมาที่แผนก ทำให้ทุกคนต้องหยุดคุยกันแล้วรีบก้มหน้าคำนับท่าน แต่เขากลับมาหยุดยืนตรงที่แอนนี่ยืนอยู่“เก็บของเสร็จหมดหรือยัง”“เสร็จแล้วค่ะ ของแอนนี่มีไม่เยอะ”“นี่กาแฟของโปรดเรา พี่ให้คนลงไปสั่งมาให้” เขาพูดพลางส่งแก้วน้ำในมือมาให้ นี่แค่ได้ยินเธอคุยกับมารีอาว่าอยากกินเฉย ๆ ก็รีบหามาให้ เล่นเอาใจกันเสียขนาดนี้ ไม่หลงก็แย่แล้ว“แล้วไม่รอแอนนี่ลงไปสั่งเองล่ะคะ ถือมาให้ถึงที่นี่ทำไม”“ก็เห็นเมื่อกี้บอกว่าอยากกินไม่ใช่เหรอ พี่กลัวน้ำแข็งมันละลายเลยรีบเดินเอามาให้”“ไม่เห็นพี่หานต้องทำถึงขนาดนี้เลยนี่คะ” แอนนี่ยิ้มเขิน“ไหนของมีอะไรบ้าง มีอะไรให้พี่ช่วยถือไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้เอง”“อืม งั้นเดี๋ยวพี่ให้ผู้ช่วยยกของเราเอาไปไว้ที่รถดีกว่า”“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”เธอส่งยิ้มให้เขาในขณะที่เขาก็ยิ้มอ่อนโยนกลับมาที่เธอ ภาพที่ทุกคนมองเห็นประหนึ่งว่ามีไฟสปอตไลต์ฉายส่องลงมาที่คนทั้งคู่แล้วพวกเธอและเขาเหล่านั้นเป็นตัวประกอบ~อย่าบอกนะว่า~ ทุกคนเริ่มส่งสายตามองหน้ากันไปมาเลิ่กลั่ก“ขอบคุณทุก
ผู้จัดการจินพูดรัวมาก รัวจนทุกคนเงียบสนิท เพราะพูดแทรกไม่ทัน ในขณะที่ผู้จัดการจินก็ไม่ได้สนใจยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาป้อย ๆ ตอนมารีอาอยู่กลับไม่เคยทำดีต่อเธอ พอไม่มีเธอขึ้นมา ก็นะ… เลยรู้ซึ้งถึงคุณค่าสิ้นเสียงของผู้จัดการจิน ตามด้วยเสียงเริ่มฮือฮาเพราะเริ่มคล้อยตามเพราะรู้สึกสงสารมารีอาขึ้นมาแต่ทว่า จู่ ๆ ผู้หญิงสวยคนนั้นกลับผละแขนจากลี่คุน แล้วเดินเข้ามาสวมกอดผู้จัดการจิน ท่ามกลางความตะลึงของทุกคน“มาร์ก็คิดถึงผู้จัดการจินนะคะ”~เอ๊ะ ! เสียงคุ้น ๆ~ผู้จัดการรีบเช็ดน้ำตา ในขณะที่มารีอาขยับตัวออกจากอ้อมกอด ผู้จัดการจินเริ่มเพ่งมองใบหน้าของมารีอาอย่างชัด ๆ“มาร์ มารีอา นี่ นี่ คือมารีอาจริง ๆ เหรอ”“ว่าไงครับ จะลาออกอีกไหม ?” ลี่คุนถามย้ำอีกรอบด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ“คะ คือ คือว่า… โอยจะเป็นลม” ...ในขณะที่ฝ่ายการตลาด ไม่รู้ว่าที่ข้างล่างเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เพราะพนักงานบางส่วนโดยเฉพาะที่ตำแหน่งต่ำลงมาก็ไม่ได้ลงไปต้อนรับทั้งหมดเนื่องจากต้องจำกัดพื้นที่“เฮ้อ คิดถึงยัยแอนจังเมื่อไหร่จะกลับมาน้า” เจ้อาร์ตบ่นพึมพำในขณะที่คนน้ำแข็งในแก้วกาแฟคาปูชิโน่เย็นที่ถืออยู่ในมือไปมา ยิ่งเป็นเครื่องดื่มกาแฟ
แต่อย่างน้อย วันนี้ก็ไม่มีแล้ว …มารีอาสาวพนักงานบัญชีที่ใส่แว่นหนา ๆ หน้าจืด ๆ คนที่ขี้เกียจแต่งหน้าแล้วใช้คำว่างานเยอะเอาแต่เฝ้าอยู่หน้าคอม คนเฉิ่ม ๆ ที่สวมเสื้อตัวโคร่ง ๆ ชอบทาแค่แป้งฝุ่นกับลิปมันมาทำงาน ตอนนี้เธออยู่กับเจ้าแม่สายแซ่บอย่างแอนนี่ เลยถูกจัดการแปลงโฉมเพื่อนเบา ๆ ด้วยการแต่งหน้าอ่อน ๆ รับกับใส่คอนแทกต์เลนส์สีน้ำตาลเข้ม ผมที่เคยมัดเรียบจนตึงเป๊ะ ถูกปล่อยมันออกมาให้เห็นความเงางามจนเหมือนเธอเป็นเคลือบมาอย่างไรอย่างนั้น ยิ่งผมดำเงาของเธอในตอนนี้ตัดกับสีผิวขาว ๆ ของมารีอา ดูผ่าน ๆ แบบไม่สังเกตดี ๆ ราวกับคนละคนกับสาวแว่นคนนั้นอย่างลิบลับแต่กลับกัน สาวแสบอย่างแอนนี่ที่ชอบใส่กระโปรงสั้นแค่คืบ หรือถ้ามีตรงไหนพอจะโชว์ได้เธอจะต้องใส่วับแวม ๆ อยู่เสมอ กลับโดนว่าที่เจ้าบ่าวหวงจนเธอต้องเปลี่ยนมาแต่งตัวมิดชิดขึ้น อย่างชุดรัดรูปเซ็กซี่ ๆ โดนเขาสั่งเองให้เอาไปเก็บหมด แต่ถ้าเธออยากจะใส่ก็ได้นะ แค่แลกกับคำขู่พร้อมการกระทำจากลี่หานที่ว่า...ถ้าแต่งตัวเซ็กซี่ออกจากบ้านเมื่อไหร่… จะโดนเขาจับถอด ! ช่วยไม่ได้ พอเห็นเมียตัวเองแต่งตัวเซ็กซี่แล้วมันเกิดอารมณ์ เลยต้องขอจัดการเธอก่อนเบา ๆ เล่นเอาแ
ข่าวลือเรื่องบริษัทใหญ่ระดับเอเชียอย่าง Lee Group ว่าสองพี่น้องตระกูลลี่จะมีการจัดแต่งงานเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ติดก็แค่… ทางสองพี่น้องตระกูลลี่ ต้องเดินทางกลับมาสู่ขอคนรักของพวกเขาที่เมืองไทยอย่างเป็นทางการก่อน จึงค่อยประกาศกำหนดวันแต่งงานให้ทราบโดยทั่วกันสำหรับเมืองไทย พนักงานหลาย ๆ คนทราบว่าประธานหนุ่มหล่ออย่างลี่คุนเป็นที่แน่ชัดอยู่แล้วว่าเจ้าสาวคือมารีอา พนักงานสาวบัญชีจอมเฉิ่ม กระนั้นหลายคนก็ยังคงจดจำภาพมารีอาสาวแว่นคนนั้นอยู่ดี หรือต่อให้บางคนที่เคยเห็นตอนเวลาทั้งคู่ออกเดตหรือตอนไปฝากท้อง ก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงสวย ๆ คนคนนั้นคือมารีอาและแน่นอนข่าวลือก็คือข่าวลือ มักจะโดนแต่งแต้มจนเกินความเป็นจริงเสมอ โดยเฉพาะสาวออฟฟิศอย่างเรา ๆ เพราะต่อให้เรื่องมีความจริงแค่หนึ่งเดียว แต่พวกเราก็มีความพิเศษสามารถพูดต่อ ๆ กันจนคนสุดท้ายที่ได้ยิน สรุปเป็นตัวเลขที่ร้อยได้… พวกเราเก่ง ^ ^และก็ตามข่าวที่ลือกันสุดฮิตในตอนนี้ คือเรื่องที่ประธานลี่คบซ้อน ! และที่ประธานลี่เลือกมารีอาแต่งงานด้วยเพราะว่าเธอพลาดท้องแค่นั้นเอง ส่วนผู้หญิงสวย ๆ อีกคน ที่หลายคนเคยเห็นก็เป็นแค่คู่ขาผู้จัดการจินเองก็ไม่ต่
เพียงครู่ก็มีเสียงดนตรีบรรเลงมาจากด้านหลังของเรือยอชต์“อะ เสียงอะไรน่ะ” มารีอาหันขวับไปตามต้นเสียง เพราะอยู่ ๆ ก็มีเสียงไวโอลินบรรเลงดังขึ้นมา แถมอยู่ ๆ ก็มีกลุ่มคนแต่งกายด้วยชุดสูทเต็มยศ แต่กลับพากันยกกระถางดอกไม้เป็นพุ่ม ๆ มาวางตกแต่งบริเวณรอบ ๆ ด้านหน้าของเรือที่พวกเธอนั่งอยู่ จนสองสาวลุกขึ้นยืนแบบงง ๆ“อะไรอะแก” แอนนี่หันไปมองหน้ามารีอาด้วยความแปลกใจ ก่อนที่สองสาวจะหันรีหันขวางไปตามเสียงเพลงด้วยสีหน้าประหลาดใจ ไม่ช้า นักสีไวไอลินก็เดินบรรเลงออกมา พร้อมกับลี่หานและลี่คุนที่เปลี่ยนเป็นชุดสูทเรียบร้อย พาเดินออกมาพร้อมกับช่อดอกไม้ช่อใหญ่แอนนี่กับมารีอาถึงกับนิ่งอึ้งไปพักใหญ่ ก่อนที่แอนนี่จะคลี่ยิ้มออกมา เธอมองสบตากับลี่หานที่ส่งยิ้มมาให้เธอด้วยสายตาแวววาวส่วนมารีอาไม่ต้องพูดถึง แค่เห็นลี่คุนที่เดินออกมาพร้อมช่อดอกไม้ช่อใหญ่ เธอถึงกับยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเอง ดวงตาคู่ใสมีน้ำตาซึมเอ่อออกมาด้วยความตื้นตันสองหนุ่มยื่นช่อดอกไม้ให้พวกเธอรับไว้ ก่อนจะนั่งคุกเข่าตรงหน้า พร้อมยื่นกล่องแหวนเพชรให้กับสองสาว“แต่งงานกันนะครับ” สองพี่น้องตระกูลลี่เอ่ยขึ้นแทบจะพร้อม ๆ กัน แม้อะไร ๆ สำหรับพวกเขาแล
“นั่นสิเนอะ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อ จากผู้ชายที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะเอื้อมถึง กลับมาเป็นคนที่ใกล้ตัวที่สุด แต่ก็นะเรื่องทั้งหมดก็เริ่มมาจากแกนั่นแหละแอนนี่ ถ้าวันนั้นแกไม่จับฉันแปลงโฉมจนไปเจอลี่คุน วันนี้ฉันกับเขาอาจจะแค่เดินสวนทางกันธรรมดา ๆ ในฐานะเจ้านายกับลูกน้องก็ได้”“แหมแก ก็ว่าไป ไม่หรอก… ระหว่างแกกับท่านประธานมันเป็นเรื่องของพรหมลิขิตต่างหากล่ะ ที่ทำให้แกกับประธานลี่ได้รักกัน”“ใช่เหรอ แต่ส่วนนึงก็มาจากแกนะ อืมแต่ก็นะ บางทีโชคชะตาหรือพรหมลิขิตอาจทำให้ฉันกับเขาได้รักกันจริง ๆ ก็ได้ แต่… ของแกไม่ใช่นะแอนนี่ แกกับพี่หานเป็นความตั้งใจล้วน ๆ ไม่ใช่พรหมลิขิต” มารีอายิ้มเมื่อนึกถึงเรื่องที่รู้มาจากลี่คุน“บ้าน่า… ถ้าไม่ใช่พรหมลิขิต แล้วจะเป็นความตั้งใจได้ยังไง”“ก็ตอนแรก ฉันก็นึกว่าเป็นเพราะว่าลี่คุนกับฉันอยากจับคู่ให้แกกับพี่หาน เขาถึงยอมแต่งกับแก ที่ไหนได้ มาตอนหลังถึงรู้ว่าเพราะพี่หานเขาแอบปิ๊งแกจากรูปในไอจีก่อนต่างหากล่ะ ไม่งั้นคนอย่างพี่หานจะยอมตกลงไปเมืองไทยทำไม”“ชิ ทำมาพูดไป” แอนนี่ยิ้มเขิน ถึงลี่หานเองก็เคยบอกว่าแอบชอบเธอจากไอจี “เอาจริงนะยัยมาร์ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไรว