Beranda / โรแมนติก / พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก / บทที่ 16 การมาเยือนของคู่พ่อลูก

Share

บทที่ 16 การมาเยือนของคู่พ่อลูก

Penulis: พะเนินเทินทึก
ฌองรู้ว่าเบียงก้าเองก็รักเขา และยังรู้ว่าเธอไม่ได้รักเขาเท่าที่เขารักเธออีกด้วย

เพื่อให้การขอแต่งงานครั้งนี้ไม่มีอะไรผิดพลาด เมื่อเขาตัดสินใจที่จะขอเธอแต่งงานในตอนเที่ยงนั้น ฌองจึงขอให้พ่อและแม่ของเขาเชิญคนในครอบครัวมาด้วยกัน

สมาชิกในครอบครัวกว่าสิบชีวิตทั้งแก่และเด็กเบียดเสียดรวมกันอยู่ที่นี่

หลังจากที่เบียงก้าเดินตามครอบครัวแลงดอนขึ้นไปที่ชั้นบน เธอยืนนิ่งไปในทันทีที่พวกเขาเปิดประตู...

ในตอนนั้น นีน่าจ้องมองญาติ ๆ ของตัวเองที่กำลังเบียดเสียดกันอยู่ในบ้านราวกับเห็นผี

“มาแล้ว เธอกลับมาแล้ว!” น้าเล็กของฌองตะโกนทันทีที่เห็นเบียงก้ายืนอยู่หน้าประตู เบียงก้าในตอนนี้คือคนเดียวกับหญิงสาวในรูปที่เธอเคยได้เห็น ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่าคว้าเอาแขนแม่ของตัวเองไว้แล้วพูด “นั่นแฟนสาวของฌองค่ะ เบียงก้า เรย์น เธอยืนอยู่ตรงประตูนั่นค่ะ! ตายแล้ว ตัวจริงสวยมากเลยนะคะ มาค่ะ ไปดูกันค่ะแม่...”

เบียงก้าถึงกับพูดไม่ออก

“เข้ามาสิ” ฌองมองเบียงก้าด้วยแววตาอ่อนโยน เขาจูงมือเธอ

เบียงก้าต้องฝืนยิ้มให้กับญาติของฌองตามมารยาท คุณย่าของฌองไม่ยอมปล่อยมือจากเบียงก้าด้วยซ้ำ เธอจับมือของเบียงก้าไว้แล้วตบเบา ๆ เวลาที่เธอพูดกับเบียงก้า

เบียงก้ารู้สึกสังหรณ์ใจอย่างไรชอบกล

เบียงก้าสอดส่ายสายตาเพื่อมองหาฌอง ก่อนจะพบว่าเขากำลังสูบบุหรี่อยู่ที่ริมระเบียง มือข้างหนึ่งของเขาล้วงไปในกระเป๋า เขาดูเครียดราวกับมีบางสิ่งหนักอึ้งอยู่ภายในใจ

อาหารค่ำคืนนี้ดูหรูหรามาก

“อาหารคืนนี้วิเศษมากจริง ๆ ดีกว่าอาหารช่วงปีใหม่ด้วยซ้ำไป…” นีน่ากล่าว

ปู่ย่าของฌองนั่งร่วมโต๊ะกับพ่อแม่อยู่ที่โต๊ะหลัก

ฌองและเบียงก้าพากันมานั่งตาม

ฝูงชนพากันนั่งลงที่โต๊ะของตัวเอง

ระหว่างรับประทานอาหาร พวกเขาพูดคุยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยกัน

เบียงก้าเกือบจะรับประทานจนอิ่ม เธอทำท่าจะวางช้อนส้อมในมือลง ในตอนนั้นเองที่ฌองมองตาเธอแล้วพูดขึ้น “มากับพี่หน่อยสิ”

ฌองและเบียงก้าเดินเข้าไปในห้องนอนเล็กด้วยกัน

ห้องนอนของฌองนั่นเอง

“มีอะไรคะ?” เธอถามด้วยน้ำเสียงอันแสนอ่อนโยนราวกับแสงอันอบอุ่นในยามสาย

สายตาของฌองที่มองไปยังเบียงก้านั้นแน่วแน่ทว่าอ่อนโยน เขาจับมือของเธอ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ “พี่ขอโทษสำหรับเรื่องเมื่อเช้า เป็นความผิดของพี่เอง”

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ได้โกรธเรื่องนั้นแล้ว”

นั่นเป็นคำตอบของเบียงก้า

“ขอบคุณนะ ขอบคุณที่เธอเข้าใจในความกังวลของพี่” ฌองเข้าไปดึงเธอมากอดไว้ เขาหลับตาแล้วพูดเสียงอ่อน “เธอไม่รู้หรอกว่าพี่กลัวที่จะเสียเธอไปมากแค่ไหน”

เบียงก้าได้แต่เงียบ

ฌองยังพูดต่อ “เธอรู้ไหมว่าพี่ตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น ตกหลุมรักตั้งแต่วินาทีแรกที่เธอก้าวเท้าเข้ามาในบ้านของพี่ ตอนนั้นเธอยังเป็นแค่นักเรียนมัธยมอยู่เลยด้วยซ้ำ ความรู้สึกพี่บอกว่ามันบาปที่ไปคิดอะไรกับเด็กนักเรียนอย่างนั้น พี่พยายามที่จะไปรักคนอื่นแล้ว แต่ไม่เคยรู้สึกกับใครแบบเธอแม้แต่คนเดียว พี่ได้แต่หวังให้เธอเติบโตขึ้นอย่างเงียบ ๆเท่านั้น”

“แล้วในที่สุดเธอก็โตขึ้น แถมเรายังได้ไปเรียนต่างประเทศด้วยกันอีก”

“ตอนที่เธอเข้ามาทำความสะอาดแล้วเล่าแผลใจในอดีตให้พี่ฟัง บอกตามตรงว่าพี่เสียใจกับเรื่องนั้นมาก…”

เมื่อเธอได้ยินที่ฌองพูด ร่างกายของเธอเริ่มสั่นน้อย ๆ

ทันใดนั้น เขาก็นึกขึ้นได้

“ฟังพี่นะ” ฌองสวมกอดเบียงก้าแบบหลวม ๆแล้วพูดต่อ “พี่ไม่ได้รู้สึกแย่เพราะเธอไม่บริสุทธิ์หรอกนะ แต่พี่โกรธตัวเอง พี่โกรธตัวเองที่ไม่ได้ก้าวเข้าไปในชีวิตของเธอตั้งแต่แรก พี่เกลียดที่ดูแลเธอให้ดีเท่าที่ควรไม่ได้ จนปล่อยให้เธอต้องทุกข์ทรมาณแบบนั้น”

“เบียงก้า เธอก็รู้นี่ว่าไม่มีใครที่รักเธอมานานเท่าพี่ ไม่มีใครมั่นคงกับเธอเท่าพี่อีกแล้ว”

เป็นเพราะฌองกลัวจะเสียเบียงก้าไป เสียงสะอื้นของเขาจึงแปรเปลี่ยนเป็นความละล่ำละลักที่จะพูดแทน

เบียงก้ารู้สึกสะท้อนใจ

หัวใจของเธอค่อย ๆ รู้สึกอบอุ่นขึ้น

ในที่สุดคำอธิษฐานของเธอก็เป็นจริง มีคนที่รักเธอจนหมดหัวใจเสียที

เธอพยายามอย่างหนักที่จะลืมเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา ชายผู้ร่ำรวยและทรงอำนาจคนนั้นก็คงจะคิดเหมือนกัน

เธอยังจำคำพูดของแม่บ้านคนนั้นได้ดี “ฉันหวังว่าคุณจะมีชีวิตที่ดีจากนี้ไป”

หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านพ้นไป เบียงก้าได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเองว่าเธอจะได้มีชีวิตดี ๆหลังจากนี้ไปได้จริง ๆ หรือ

นั่นเป็นเส้นทางที่เธอเลือกเอง และเธอจะไม่เสียใจที่เลือกเส้นทางนั้น ถ้าหากชีวิตเธอดีกว่านี้ได้จริง ก็ถือว่าเป็นโชคของเธอเอง แต่หากไม่ เธอก็จะไม่โทษใครทั้งนั้ัน

เบียงก้าตระหนักว่าชีวิตที่มีความสุขไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับความมั่งคั่งหรืออำนาจแต่อย่างใด เธอแค่ต้องการมีใครสักคนให้ได้รัก คนที่คิดเหมือนกันกับเธอ เธออยากจะมีใครสักคนให้ห่วงหา และเขาคนนั้นก็จะห่วงหาเธอเช่นเดียวกัน ขอแค่ใครสักคนให้ได้แบ่งปันเรื่องราวทั้งดีและร้ายในชีวิตไปจนแก่เฒ่าและจนนิรันด์

คน ๆ นั้นต้องเป็นฌอง แลงดอนโดยไม่ต้องสงสัย

เบียงก้าคลายอ้อมกอดออกแล้วมองเข้าไปในแววตาของฌอง “อย่าขาดความมั่นใจอย่างนี้สิคะ พี่ทำให้ฉันรู้สึกผิดนะ ฉันไม่ใช่คนวิเศษวิโสมาจากไหน ไม่มีใครสนใจฉันหรอกค่ะ”

ฌองอดไม่ได้ที่จะนึกย้อนไปถึงช่อดอกไม้ช่อโตที่ถูกส่งมาให้เบียงก้า

“ถึงจะมีใครบางคนทำแบบนั้น แต่ฉันมั่นใจค่ะว่าฉันจะไม่หวั่นไหวไปกับมันหรอก” เบียงก้ากล่าว

ความมั่นใจของฌองค่อย ๆ กลับมาแล้ว เขาคว้ามือขึ้นมาจับไว้อีกครั้ง

คนทั้งคู่เดินออกจากห้องไป

เบียงก้าหวังจะเดินไปนั่งที่โซฟา แต่ฌองกลับรั้งเธอไปกอดไว้ที่กลางห้องนั่งเล่นแทน

“คุณจะทำอะไรคะเนี่ย?” เบียงก้ามองฌองด้วยแววตามีคำถาม สีหน้าของเขาดูแปลกไป

ต่อหน้าเหล่าญาติของฌอง กล่องผ้าไหมสีดำถูกล้วงออกมา ฌองเปิดกล่องนั้นออกต่อหน้าเธอ

“ว้าว ตอนนี้เลยนะ!?” นีน่าส่งเสียงออกมาก่อนจะยกมือขึ้นป้องปาก

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเรียกเหล่าญาติมาเพื่อขอเบียงก้าแต่งงานนี่เอง

ฌองคุกเข่าลงหนึ่งข้างต่อหน้าเบียงก้า ต่อหน้าสมาชิกในครอบครัวทุกคน เขาเอ่ยปากอ้อนวอนเธอ “แต่งงานกับผมนะ เบียงก้า เรย์น มาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวที่น่ารักของผม มาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมเถอะนะ”

“...” เบียงก้าไม่ได้ตอบ

เธอไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะมีใครมาขอเธอแต่งงาน เธอคิดอยู่เสมอว่าการแต่งงานเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับเธอเกินไป

“ตอบตกลงสิจ๊ะ!” แม่ของฌองกลัวว่าเบียงก้าจะปฏิเสธ

นีน่ากระตุ้นเบียงก้าอีกแรง

เธอไม่มีทางเลือกอื่นเลย

นับจากวันที่เธอตอบตกลงที่จะคบกับฌอง เบียงก้ารู้ดีว่าเหตุการณ์ไม่คาดฝันนั้นจะทำให้เธอกับฌองต้องแต่งงานกัน

เบียงก้าอยู่พูดคุยกับปู่และย่าของฌองจนเลยเวลาสามทุ่ม เธอถึงได้ขอตัวกลับก่อน

ฌองขับรถมาส่งเธอในระแวกบ้าน

เบียงก้าลงจากรถ

“พี่ส่งฉันที่นี่ก็พอค่ะ เดี๋ยวฉันเดินต่อไปเอง”

มีเรื่องราวมากมายขึ้นเกิดขึ้นราวกับรถไฟเหาะตีลังกา เธอต้องการเวลาเพื่อทบทวนกับตัวเองสักหน่อย

“อื้ม อย่านอนดึกนะ” ฌองไม่ได้คัดค้านอะไรเธอ

หลังจากที่ลากัน เบียงก้าได้แต่มองดูรถออดี้คิวไฟฟ์ของฌองแล่นจากไป

เพื่อนบ้านที่อยู่ติดถนนยังไม่ปิดไฟ ดังนั้นถนนทั้งเส้นจึงยังสว่างอยู่ ยังพอมีคนมาเดินออกกำลังกายอยู่รอบบ้าง

เบียงก้าเดินไปยังตึกที่เธออาศัยอยู่ เมื่อเธอเดินไปถึงหน้าประตู และกำลังควานหากุญแจในกระเป๋า เสียงของเด็กผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยเรียกเธอ “คุณผู้หญิงครับ!”

เธอหมุนตัวหันไปตามเสียงเรียกนั้น

สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าทำให้เธอหยุดชงัก

หลังเสาไฟริมถนน ปรากฏคนสองคนยืนอยู่อย่างเงียบ ๆ คนหนึ่งเป็นผู้ใหญ่ ส่วนอีกคนเป็นเพียงเด็กชายตัวน้อย

ใบหน้าคมเข้มของลุค ครอว์ฟอร์ดถูกความมืดซ่อนเอาไว้จนมิด สีหน้าปราศจากความปราณีของเขาจ้องมองเบียงก้า สายตาเย็นชาจ้องมองเธออย่างกำลังจะหมดความอดทน

ขณะเดียวกันนั้น เด็กผู้ชายที่มาด้วยกันกลับเม้มริมฝีปากราวกับจะร้องไห้ ไม่มีร่องรอยความเย่อหยิ่งอย่างที่เธอเคยเห็นมาที่โรงแรมก่อนหน้านี้เลย เด็กชายมองพ่อของเขาสลับกับเบียงก้า

“ทำไม...ทำไมพวกคุณมาอยู่ที่นี่คะ?” เบียงก้าไม่เข้าใจอย่างที่สุด
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 207 ครอบครัวทั้งสี่คนนอนอยู่ด้วยกัน

    เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เบียงก้าจึงเปิดประตูอย่างแผ่วเบา เด็ก ๆ ยังคงนอนในห้องเล็ก ๆ ขนาดสามร้อยตารางฟุตใต้แสงจันทร์ แต่ตอนนี้ผู้ใหญ่สองคนกลับกอดกันอยู่ตรงประตู เบียงก้าต้องการหันหลังกลับและมุ่งหน้าเข้าไปในห้อง แต่ชายหนุ่มก็กอดร่างอันบอบบางของเธอไว้แน่นอย่างร้ายกาจ “อย่าทำอย่างนี้สิคะ เด็ก ๆ จะเห็นเราถ้าพวกเขาตื่น…” เธอเหนื่อยหอบในอ้อมแขนของลุค ลุคเป็นสัตว์ร้ายอยู่แล้วตั้งแต่ตอนที่ยังเขาไม่ดื่ม แต่ตอนนี้เขาดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปแล้ว… เบียงก้าไม่อยากจะจินตนาการ เธอทำได้เพียงอธิษฐานว่าเขาจะไม่ดำดิ่งลงไป “ผมไม่บังคับคุณหรอกถ้าคุณไม่เต็มใจ คุณต้องบอกผมถ้าผมกำลังทำร้ายคุณอยู่ ต้องรีบบอกออกมาเลยนะ” ลุคเอาริมฝีปากบางและเย้ายวนของเขามาแนบใบหูของเธอ ก่อนจูบผิวที่ขาวเนียน เขาพยายามอย่างหนักที่จะระงับความอยากที่จะครอบงำเธอ เบียงก้าเงียบงันอยู่ในอ้อมแขนของเขา เธอรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อยเมื่อชายหนุ่มสัญญากับเธอ เธอคิดว่ามันน่าขันที่ลุคมักจะเป็นสัตว์ร้าย แต่เขาก็ยังเห็นอกเห็นใจมากขึ้นทั้งที่อยู่ในสภาพเมาเช่นนี้ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนในตอนที่พวกเขากอดกัน เรนนี่หลับใหลและพึมพำห

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 206 คุณเมารึเปล่า

    เบียงก้าส่ายหน้าอย่างงุ่มง่ามเพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอไม่เป็นไร เธอกังวลว่าใบหน้าที่บูดบึ้งของเขาอาจทำให้เด็กชายหวาดกลัว เธอจึงรีบขยับออกจากอ้อมแขนของเขาและพยักหน้าให้เขาเพื่อเป็นการขอบคุณ แขนของลุคว่างเปล่าในทันใด เขามองไปที่เบียงก้าซึ่งกำลังพาลูก ๆ ไปเล่นที่อื่นด้วยความห่วงใยและความไม่พอใจที่ก่อตัวขึ้นในหัวใจของเขา เขาไม่พอใจที่เบียงก้าตอบโต้เขาอย่างเย็นชาก่อนหน้านี้ แม้ว่าเขาจะคิดว่าเธอทำเช่นนั้นก็เพราะกลัวคนอื่นจะเห็น ความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะอ้างตัวเธอว่าเป็นของเขาเองนั้นก็ทำให้เขาไม่พอใจด้วย เขาอยากจะเดินไปกอดเธอในอ้อมแขนและประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเบียงก้า เรย์นเป็นผู้หญิงของลุค ครอว์ฟอร์ขนาดไหนใครจะรู้! ไม่เพียงเท่านั้น ผู้หญิงคนนั้นยังให้กำเนิดลูกของเขาด้วย! ไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่ถึงสอง! เบียงก้าก้มศีรษะลงที่เท้าของผู้บริหารเมืองเป็นการทักทาย แล้วก้มหน้าก้มตาวิ่งหนีไปราวกับว่าเธอกำลังหลบหนี เธอกังวลว่าผู้บริหารเมืองจะเข้าใจผิด “ช่างอ่อนโยนและอบอุ่นเหลือเกินนะ ท่านประธานครอว์ฟอร์ด! เราก็ทานอาหารเย็นกันบ่อย ๆ ทำไมผมไม่เห็นด้านนั้นของคุณเลยล่ะ?” ผู้บริหารเมืองชายวัยกลางคนหัวเราะ

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 205 ลุคแสดงความรักต่อหน้าสาธารณชน

    “น้าบี… จริงเหรอคะ?” เรนนี่มองไปที่เบียงก้าด้วยแววตาลูกสุนัขที่มีน้ำตาเอ่อคลอ เบียงก้าก้มศีรษะลงจูบที่หน้าผากของเรนนี่ และขยี้ผมของเธอ “ไม่เลย น้าไม่เคยคิดว่าหนูน่ารำคาญเลยนะ” น้ำเสียงของเบียงก้าอาจจริงจังเกินไป ไม่เพียงแต่จะโน้มน้าวใจเด็กน้อยอย่างเต็มที่ แต่คำพูดของเธอยังทำให้เจสันซึ่งกำลังขับรถอยู่ตกใจไปด้วย เจสันถือว่าตัวเองเป็นคนที่ผ่านอะไรมามาก เขาเคยเห็นคนทุกประเภทตั้งแต่ผู้สูงศักดิ์และยิ่งใหญ่ไปจนถึงคนอนาถาและน่ารังเกียจ ในช่วงหลายปีที่ทำงานกับเจ้านายมา เขาคิดว่าเขาเชี่ยวชาญในการอ่านนิสัยของคนอื่นและสามารถบอกความจริงจากการโกหกได้อย่างง่ายดาย ในขณะนั้น เจสันไม่รู้สึกถึงคำโกหกใด ๆ จากปากของเบียงก้าเลย เขาอดไม่ได้ที่จะแอบมองเบียงก้าผ่านกระจกมองหลัง ครู่หนึ่ง เขาคิดว่าตัวเองกำลังเห็นแม่ผู้ให้กำเนิดเด็กทั้งสองคน... โรงพยาบาลในเมืองเอ เมื่อผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดตื่นขึ้น เขาไม่เห็นแม้แต่หลานชายหรือเหลนทั้งสองคนของตัวเอง เขาเริ่มกังวลทันที อลิสันเข้ามาในนาทีนั้นและพยายามปลูกฝังความคิดในหัวของชายชรา “พ่อจะโทรไปถามลุคไหม?” “ฉันควรถามอะไรล่ะ?” ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดตอบกลับระหว่

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 204 เขาอยากครอบครองเธอใจจะขาด

    เบียงก้ากับแวนด้าขึ้นไปชั้นบนเพื่อคุยกันเป็นการส่วนตัว ลุคกำลังอยู่ในสายของการประชุมธุรกิจระหว่างประเทศ ขณะกำลังคุยโทรศัพท์ เขาสามารถเห็นได้จากท่าทางของคนทั้งสองว่าการสนทนาระหว่างเบียงก้าและแวนด้านั้นไม่ปกติ แต่เขาไม่ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนกำลังพูดกันเท่าไหร่นัก เมื่อเขาวางสาย ลุคเห็นจากหางตาว่าเบียงก้าและแวนด้าหายตัวแถวหัวมุม “เธอบอกว่าเธอเป็นน้าของเบียงก้า” เจสันเข้ามารายงานสถานการณ์ตามความจริง ลุคหันไปสั่งเจสันว่า "ไปสืบประวัติของน้าคนนั้น" เจสันโค้งคำนับ ลุคมองเข้าไปทางหน้าต่างชั้นสองที่เปิดทิ้งไว้ เขายังคงนิ่งเฉยไม่แสดงออก แม้ว่าความต้องการของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ในห้องบนชั้นสอง เบียงก้ารู้สึกเขินอาย ไม่เพียงเพราะเป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับน้าที่เธอเคยได้ยินผ่านเรื่องเล่า แต่ยังเป็นเพราะเธอกลัวว่าน้าจะรับรู้ถึงฮอร์โมนเพศชายที่แผ่ซ่านไปทั่วห้อง เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองทำอะไรผิด แวนด้าเหลือบมองไปรอบ ๆ ห้องและถามด้วยความสงสัย “ผู้ชายที่ลงมาข้างล่างกับเธอ…” “เขาเป็นเจ้านายของฉัน” เบียงก้าตอบก่อนที่น้าของเธอจะถามคำถามเสร็จ เบียงก้ายังเด็กและไม่ค่อยรู้จักวิธี

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 203 ทำไมคุณถึงขี้อายนักเล่า ผมก็เห็นทุกอย่างไปหมดแล้วนิ

    เบียงก้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของการข่มใจที่เล็ดลอดออกมาจากร่างของชายผู้นั้น แม้ว่าเธอจะได้รับการเตือนว่าชายผู้นี้มีความรู้สึกตรงกันข้ามก็ตาม เขาน่ะหรือจะห้ามใจ มีแต่จะทำตามใจตัวเองมากกว่า หัวใจของเธอเต้นแรง และปากเริ่มมีน้ำลายสอ เมื่อนึกถึงสัตว์ร้ายที่ซ่อนอยู่ใต้กางเกงของชายหนุ่ม “คุณ… ออกไปรอข้างนอก… ฉันอาบน้ำเองได้ค่ะ” หลังจากระเริงไปหลายครั้งเมื่อคืน เบียงก้าอายเกินกว่าจะเงยหน้ามองเขา บ้านหลังเก่าที่รกร้างและมืดมิดนั้นทั้งอบอุ่นและร้อนแรงเพราะมีเขาอยู่ กลิ่นของความสกปรกและความชื้นส่งกลิ่นแรงอยู่ตรงหน้าบ้าน แม้ว่าชายผู้นั้นจะจุมพิตและหายใจแรง แต่เธอก็ได้ให้ทุกสิ่งแก่เขาไป ราวกับว่าเธอได้หลอมรวมตัวเองเข้ากับร่างกายที่เร่าร้อนของเขาไป จากนั้น ก็ร่วมรักกันในรถอีกรอบ เบียงก้าคิดว่าลุคเป็นปีศาจที่หิวกระหายเนื้อมนุษย์ ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนเขามักจะหิวโหยร่างกายของเธอเสมอ แต่ถึงกระนั้น เธอก็พลีกายให้เขาไปหลายครั้ง! โชคดีที่ความมืดมิดในยามค่ำคืนได้บดบังใบหน้าที่แดงก่ำของเธอ เพื่อที่เธอจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดใจนักเมื่ออยู่กับเขาตามลำพัง แต่เธอไม่อาจหลบซ่อนมันจากการร่วมรักที

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 202 ตัณหาอันแรงกล้าในยามเช้าของลุค

    ชั้นล่างบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน เพื่อนร่วมงานบางคนซื้อซาลาเปาสำหรับการทำงานกะเช้า ในขณะที่เพื่อนร่วมงานหญิงกำลังเตรียมข้าวโอ๊ตอยู่ในครัว ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าข้าวโอ๊ตที่ซื้อจากร้านมีเนื้อหยาบเกินไป เป็นครั้งแรกที่ลูก ๆ ของเจ้านายลิ้มลองซาลาเปาแป้งทำมือจากเมืองเล็ก ๆ พวกเขารับประทานคนละสองชิ้น แต่เหมือนจะยังไม่พอ เรนนี่ยัดขนมปังเต็มปากแล้วกะพริบตาอย่างไร้เดียงสาใส่คุณลุงดอยล์ของเธอ ก่อนขอเพิ่มทั้งที่ยังเคี้ยวอยู่เต็มปาก “ทานช้า ๆ ก็ได้ครับ เดี๋ยวลุงจะไปซื้อมาเพิ่ม” เจสันขยี้ผมของเรนนี่ เมื่อเขาลุกขึ้น เขาหันไปหาเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ แล้วพูดว่า "ผมจะซื้อมาฝากทุกคนเหมือนกัน" ขนมปังไม่เพียงพอสำหรับทุกคน การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเจ้านาย ผู้ช่วย และลูกสองคนของเขาทำให้เพื่อนร่วมงานต้องแบ่งอาหารให้ ในเมืองกำลังพลุกพล่าน เจสันยืนอยู่หน้ารถขายอาหารและซื้อซาลาเปาใส่ไส้ไก่มากว่าสิบห้าชิ้น เมื่อเขาหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาและกำลังจะจ่าย เขาสังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดทำงานแสนเรียบร้อยเดินเข้าไปในสนามหญ้าหน้าบ้าน เธอดูเหมือนจะอยู่ในวัยสามสิบ "ชิ้นละ 1.80 เหรียญ ซื้อ 15 ชิ้นก็เป

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status