/ โรแมนติก / พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก / บทที่ 15 จงยับยั้งชั่งใจตนเองเสีย ลุค ครอว์ฟอร์ด

공유

บทที่ 15 จงยับยั้งชั่งใจตนเองเสีย ลุค ครอว์ฟอร์ด

작가: พะเนินเทินทึก
เบียงก้าเดาว่าเรนนี่น่าจะชอบกระดาษลายสปอนจ์บ๊อบ

เธอวางกระดาษแผ่นอื่น ๆ ไว้แล้วเลือกหยิบกระดาษลายสปอนจ์บ๊อบ ก่อนจะลุกขึ้นยืน

“อ๊า-”

เมื่อลุกขึ้นยืน เธอก็มุ่งความสนใจทั้งหมดไปกับการห่อหนังสือด้วยกระดาษลายสปอนจ์บ๊อบ ทำให้เธอหลงลืมไปเสียสนิทใจว่ามีชายอีกคนยืนอยู่ข้างกายเธอ

เข็มกลัดที่เธอติดเสื้อทำงานมาด้วย บัดนี้ไปเกี่ยวอยู่กับเข็มขัดหนังของชายหนุ่มเสียแล้ว

“ข-ขอโทษค่ะ ฉัน…”เบียงก้าจ้องมองของสองชิ้นที่ติดอยู่ด้วยกันด้วยความอึดอัดใจ

ชายหนุ่มค้อมศรีษะลงมา มีบางสิ่งปรากฏขึ้นในส่วนลึกของแววตา

“สักครู่ค่ะ อีกนิดเดียวก็จะเรียบร้อยแล้วค่ะ...” เบียงก้าพัดมือไปทั่วเข็มขัดของเขาด้วยความลนลาน

นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เธอได้สัมผัสกับเข็มขัดของผู้ชายด้วยมือของตัวเอง

ในคืนนั้นเมื่อห้าปีก่อน เธอก็ไม่ได้จับเข็มขัดของผู้ชายคนนั้น และไม่เคยมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นตอนที่เธออยู่กับฌองเช่นกัน

เธอไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดเรื่องนี้ขึ้นที่นี่ แล้วทำไมเรื่องน่าประหลาดพวกนี้ต้องเกิดขึ้นในตอนที่เธอกับลุค ครอว์ฟอร์ดอยู่ด้วยกันทุกที

ราวกับปฏิกิริยาเคมีที่เธอไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้

เข็มกลัดถูกออกแบบมาอย่างซับซ้อนและมีช่องมากมาย มีอยู่ก้านหนึ่งของเข็มกลัดที่เกี่ยวอยู่กับหัวเข็มขัดของลุค ช่างโชคร้ายเหลือเกินที่ต้องพบว่าเข็มกลัดนั้นติดอยู่กับหัวเข็มขัดอย่างแน่น!

ยิ่งเบียงก้าร้อนรนมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งดูจะเอาออกยากมากขึ้นเท่านั้น อากาศรอบตัวค่อย ๆ ร้อนขึ้นอย่างมาก...

“ต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนเหรอ?” ลุคถาม

เบียงก้าเงยหน้าขึ้นมามองชายหนุ่ม

ลุคตัวสูงมาก วันนี้เขาสวมสูทสีดำ โดยปกติแล้วเขาจะเขาสวมเสื้อเชิ๊ตสีขาวด้านในโดยปล่อยกระดุมไว้สองเม็ด แต่เพราะวันนี้เขาต้องทำงานอยู่ในห้องกับพิมพ์เขียว เขาจึงปลดกระดุมเพิ่มอีกหนึ่งเม็ดเพื่อระบายอากาศ เบียงก้าเกือบจะเห็นแผงอกอันแข็งแกร่งของเขาแม้ว่าเธอจะไม่ต้องการเห็นมันก็ตาม

ชายหนุ่มมีเอวที่คอดจนเกือบจะสมบูรณ์แบบ หากเขาไม่ได้มีอุณหภูมิร่างกายอันแสนจะอบอุ่นเป็นหลักฐานว่าเขาเป็นคนที่มีชีวิตอยู่จริง ๆล่ะก็ ใครหลาย ๆคนอาจจะเข้าใจผิดว่าเขาเป็นหุ่นที่ถูกปั้นแต่งขึ้นมาด้วยความรักอันล้นเปี่ยมของศิลปินผู้มากประสบการณ์ก็เป็นได้

“ฉัน...ฉันไม่ได้สนเรื่องเข็มกลัดเท่าไหร่หรอกค่ะ” เบียงก้าพ่ายแพ้ต่อการที่จะสรรหาคำพูดที่ถูกที่ควรในขณะที่ต้องหลบสายตาของลุคไปด้วย “แต่ถ้าฉันไม่ทำอย่างนี้ มันอาจจะลงท้ายด้วยการที่ฉันจะทำให้เข็มขัดของคุณเป็นรอยนะคะ”

เมื่อครั้งที่เธอไปเรียนที่ต่างประเทศ เธอและเพื่อน ๆ เคยออกค้นหาสินค้าแบรนด์ดังมากมายเพื่อให้ตัวเองมีความเข้าใจต่อแบรนด์เหล่านั้น และทั้งหมดที่เธอและเพื่อน ๆ ทำก็เพื่อให้รู้จักแบรนด์ต่าง ๆ ให้มากขึ้นเท่านั้นเอง

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงรู้ว่าเข็มขัดที่ลุคสวมใส่อยู่มีราคาแพงเพียงใด

มันแพงมากถึงขนาดที่เธอไม่มีปัญญาชดใช้ให้เขาได้

“หัวเข็มขัดผมจะเป็นรอย ยังไงก็น่าจะดีกว่าให้คุณมาผูกติดกับผมอย่างนี้นะ” ลุคมองไปยังหญิงสาวผู้โง่เขลาที่กำลังสาละวนอยู่กับเข็มขัดของเขาอยู่นานสองนานโดยที่ไม่เห็นว่าเข็มกลัดจะหลุดออกมาแต่อย่างใด

มันเป็นเวลาเย็นเสียแล้ว

แสงของยามเย็นสาดส่องมายังลุค นั่นยิ่งทำให้เขาดูสง่างามเกินจริงยิ่งกว่าเดิม นับตั้งแต่ที่เขาอนุญาต เบียงก้าเม้นริมฝีปากแล้วก้มลงไปจัดการกับเข็มกลัดของตัวเองต่อ

ลุคมองไปยังเบียงก้าราวกับกษัตริย์ที่มองข้าทาสบริวารของตน

เบียงก้ารู้สึกหงุดหงิดขึ้นทุกขณะที่เธอล้มเหลวในการพยายามจะแกะเข็มกลัดของตัวเองออกมา เธอเผยอริมฝีปากของตัวเองออกเล็กน้อย ลมหายใจอุ่นเป่าไปยังหน้าท้องแบนราบของชายหนุ่ม บางอย่างในร่างกายค่อย ๆ ขยายตัวขึ้น ก่อนที่เขาจะรู้ตัวเสียด้วยซ้ำไป

มีเสียงดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

ทันใดนั้นเอง หัวเข็มขัดของเขาและเข็มกลัดของเธอก็แยกจากกันในที่สุด

เบียงก้ายิ้มออกอีกครั้ง รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าสีชาดของเธอ เธอสวมเข็มกลัดที่พังไปแล้วของเธอหลับเข้าตรงบริเวณหน้าอกดังเดิม พร้อมลุกขึ้นยืน

มีบางอย่างที่ดู…ประหลาดไป

เธอก้มลงมองตามสัญชาตญาณ

เพียงแต่แวบเดียวก็เพียงพอจะทำให้เธอตระหนกตกใจจนต้องถอยกรูดให้ห่างจากเขา ร่างกายของเธอสั่นเทิ้ม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มอีกครั้งด้วยสายตาแห่งความหวาดกลัวและไม่สบายใจ...

บุรุษรูปงามที่สูงราว ๆ 180 หรือ 190 เซนติเมตรหรืออาจจะมากนั้น ยืนตัวตรงสีหน้าของเขาเคร่งขรึมละจริงจังราวกับคุณครูที่กำลังจะลงโทษนักเรียนหญิงที่ทำผิดอย่างไรอย่างนั้น

เมื่อเธอสบเข้ากับนัยน์ตาสีดำที่ลึกล้ำของเขา เบียงก้ารู้สึกอัดอัดอย่างน่าประหลาด ริมฝีปากของเธอแห้งผาก สิ่งเดียวที่เธอควรทำในตอนนี้มีเพียงแค่การกล่าวขอโทษเขาเท่านั้น “ขอโทษค่ะ! ฉันจะกลับไปห่อหนังสือต่อค่ะ คุณครอว์ฟอร์ด!”

หลังจากขอโทษเสร็จ เบียงก้าก้มลงไปหยิบกระดาษลายสปอนจ์บ๊อบขึ้นมาจากพื้น ก่อนจะเดินกลับไปห่อหนังสือต่อตามเดิม

จากนั้น นับแต่วินาทีที่เธอกลับไปห่อหนังสือจนเสร็จเรียบร้อยและเดินออกมา เบียงก้าตัวแข็งทื่อและดูไม่เป็นธรรมชาติเอาเสียเลย

ทุก ๆ วินาทีผ่านไปอย่างยากลำบากราวกับถูกทรมาณเป็นปีเป็นชาติ สถานภาพ รูปลักษณ์ภายนอกและวุฒิภาวะของเขาเป็นราวกับกำแพงที่ก่อขึ้นรอบตัวเขา ยากที่ใครจะย่างกรายเข้าไปได้

เบียงก้ากลับลงมาด้านล่าง เธอใช้เวลาอยู่พักใหญ่กว่าที่ชีพจรจะกลับมาเต้นตามปกติ

เบียงก้าตัดสินใจแล้วว่าเธอจะอยู่ให้ห่างจากชายหนุ่มที่ชั้นบนสุดนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เพราะเมื่อเธออยู่ใกล้เขา ทุกสิ่งที่อย่างก็ดูผิดที่ผิดทางไปเสียหมด

เพราะการห่อหนังสือใช้เวลานาน ตอนนี้โต๊ะของเธอจึงถูกกองเต็มไปด้วยงาน

ข้อดีเพียงอย่างเดียวของงานที่ยุ่งก็คือการที่เธอไม่ต้องมานึกถึงเรื่องน่าอัดอึดที่เกิดขึ้นในห้องของประธานที่ชั้นบนสุดได้

“คืนนี้ ไปทานมื้อค่ำที่บ้านฉันกันนะ พี่ชายกำลังจะมารับ” นีน่าที่แบกกองเอกสารพยายามหาโอกาสที่จะกระซิบบอกกับเบียงก้า

เบียงก้ามองนีน่าแล้วจึงพยักหน้ารับ

สายตาของนีน่ากวาดไปเห็นเข็มกลัดบนหน้าอกของเบียงก้าโดยไม่ได้ตั้งใจ

“อ้าว? เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?” นีน่าถามด้วยความประหลาดใจ

ไม่ใช่เพราะเข็มกลัดชิ้นนี้เป็นของราคาแพงหรือมียี่ห้ออะไร หากแต่มันเป็นของล้ำค่าสำหรับเบียงก้ามาตั้งแต่สมัยมัธยม

นีน่าไม่รู้ว่าใครเป็นคนมอบเจ้าสิ้งนี้ให้แก่เบียงก้า แต่เธอรู้ว่าเบียงก้าเป็นเจ้าของเข็มกลัดนี้มาตั้งแต่ปีแรกของชีวิตมัธยม และเธอเองก็ไปที่บ้านของเบียงก้าบ่อยครั้ง เธอถึงได้รู้ว่าทำไมเบียงก้าถึงพกกล่องกล่องหนึ่งไว้กับตัวตลอดเวลา

สิ่งที่อยู่ในกล่องใบนั้นก็คือเข็มกลัดนี่

เบียงก้าก้มลงมองเข็มกลัดที่หน้าอกของตัวเอง แล้วโกหกออกไป “ฉันเดินชนเด็กคนนึงเข้าน่ะ พอฉันก้มลงไปคุยกับเขา เขาก็คว้าเข็มกลัดของฉันเอาไว้ไม่ยอมปล่อย มันก็เลย…”

“เฮ้อ ฉันละเกลียดเด็กประเภทนี้จริง ๆ” นีน่าคิดว่าเบียงก้าคงจะหัวใจสลาย เพราะเบียงก้าทะนุถนอมสมบัติชิ้นนี้มานานหลายปี แต่ตอนนี้มันกลับบิดเบี้ยวผิดรูปไปเสียแล้ว

นีน่าส่ายศีรษะก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง

เบียงก้ายกมือขึ้นลูบเข็มกลัดพัง ๆของตัวเองอย่างเบามือ

จนกระทั่งถึงเวลาเลิกงาน

วันนี้เป็นวันหยุดของฌอง ซึ่งเป็นแนวทางของบริษัทที่จัดให้มีการเดินทางไปทำงานต่างเมืองขึ้น ฌองกำลังวุ่นกับการซื้อรถอยู่ตลอดทั้งวัน เขาจมอยู่กับการเตรียมเอกสารด้วยความเร่งรีบ แล้วจึงขับรถมายังบริษัท

“ขอโทษ…” ทางด้านนอกของบริษัท ฌองจ้องมองเบียงก้าด้วยความเสน่หา ในขณะที่เปิดประตูให้เธอปากของเขาก็เอ่ยคำขอโทษและมองเธอเข้าไปในรถ

นีน่าขับรถของตัวเองไป

ในขณะที่เบียงก้านั่งไปในรถของฌอง ทั้งคู่มุ่งหน้าไปยังบ้านของครอบครัวแลงดอน

ในระหว่างทาง ฌองจดจ่ออยู่กับการขับรถจึงไม่ได้พูดอะไร คิ้วของเขาขมวดมุ่นอย่างต้องการตั้งสมาธิ เบียงก้าเองก็ไม่มีอะไรจะพูดเช่นกัน เธอเพียงแค่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างของรถเท่านั้น

รถแล่นมาถึงระแวกบ้านแล้ว

พ่อแม่ของฌองเดินลงมาต้อนรับเบียงก้าถึงด้านล่าง

“คุณลุงคุณป้า ทำไมถึงมาที่นี่ได้คะ?” เบียงก้าค่อนข้างรู้สึกไม่ดีที่ทำให้พวกเขาต้องลงมารับถึงที่นี่

แม่ของฌองตบเข้าที่หลังมือเบียงก้าเบา ๆ อย่างต้องการกระตุ้นเธอ “เป็นเพราะเราคิดถึงหนูน่ะสิ”

“แม่ใจดีกับเบียงก้ามากกว่าที่ใจดีกับพี่ฌองเสียอีกนะ!” นีน่าเอ่ยล้อแม่ของเธอ

ฌองเดินมาอยู่ข้างหลังสมาชิกในครอบครัว มือข้างหนึ่งล้วงไปในกระเป๋า

กล่องเครื่องประดับที่ทำจากผ้าไหมสีดำราคาแพงอยู่ในมือของฌอง การขอแต่งงานครั้งนี้ของเขาเป็นราวกับการโยนเหรียญหัวก้อยที่เขาไม่อาจคาดเดาว่ามันจะมีผลลัพธ์เช่นไร

คู่รักคู่อื่นอาจจะไม่ได้รู้สึกเช่นนี้ แต่สถานการ์ระหว่างเขากับเบียงก้าในตอนนี้เป็นเช่นนั้น

แน่นอนว่านั่นทำให้เขาเป็นกังวล
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
댓글 (1)
goodnovel comment avatar
Piyapatta Samungkun
บทที่15งงพระเอกมายืนอยู่ข้างๆแล้วนางเอกลุกขึ้นไม่ระวังอย่างมากก็แค่ไหล่นางเอกชนกับไหล่พระเอกทำไมเข็มกลัดนางถึงไปเกี่ยวกับเข็มขัดพระเอกนึกภาไม่ออกงงพระเอกจะเข้ามาไกล้มากขนาดนั้นแล้วนางติดเข็มกลัดไว้ส่วนไหนของร่างกายมันถึงไปเกี่ยวหัวเข็มขัดที่อยู่ตรงเองและส่วนกลางลำตัวของพระเอกได้ฉากนี้ดูน้ำเน่าไป
댓글 모두 보기

최신 챕터

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 207 ครอบครัวทั้งสี่คนนอนอยู่ด้วยกัน

    เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เบียงก้าจึงเปิดประตูอย่างแผ่วเบา เด็ก ๆ ยังคงนอนในห้องเล็ก ๆ ขนาดสามร้อยตารางฟุตใต้แสงจันทร์ แต่ตอนนี้ผู้ใหญ่สองคนกลับกอดกันอยู่ตรงประตู เบียงก้าต้องการหันหลังกลับและมุ่งหน้าเข้าไปในห้อง แต่ชายหนุ่มก็กอดร่างอันบอบบางของเธอไว้แน่นอย่างร้ายกาจ “อย่าทำอย่างนี้สิคะ เด็ก ๆ จะเห็นเราถ้าพวกเขาตื่น…” เธอเหนื่อยหอบในอ้อมแขนของลุค ลุคเป็นสัตว์ร้ายอยู่แล้วตั้งแต่ตอนที่ยังเขาไม่ดื่ม แต่ตอนนี้เขาดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปแล้ว… เบียงก้าไม่อยากจะจินตนาการ เธอทำได้เพียงอธิษฐานว่าเขาจะไม่ดำดิ่งลงไป “ผมไม่บังคับคุณหรอกถ้าคุณไม่เต็มใจ คุณต้องบอกผมถ้าผมกำลังทำร้ายคุณอยู่ ต้องรีบบอกออกมาเลยนะ” ลุคเอาริมฝีปากบางและเย้ายวนของเขามาแนบใบหูของเธอ ก่อนจูบผิวที่ขาวเนียน เขาพยายามอย่างหนักที่จะระงับความอยากที่จะครอบงำเธอ เบียงก้าเงียบงันอยู่ในอ้อมแขนของเขา เธอรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อยเมื่อชายหนุ่มสัญญากับเธอ เธอคิดว่ามันน่าขันที่ลุคมักจะเป็นสัตว์ร้าย แต่เขาก็ยังเห็นอกเห็นใจมากขึ้นทั้งที่อยู่ในสภาพเมาเช่นนี้ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนในตอนที่พวกเขากอดกัน เรนนี่หลับใหลและพึมพำห

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 206 คุณเมารึเปล่า

    เบียงก้าส่ายหน้าอย่างงุ่มง่ามเพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอไม่เป็นไร เธอกังวลว่าใบหน้าที่บูดบึ้งของเขาอาจทำให้เด็กชายหวาดกลัว เธอจึงรีบขยับออกจากอ้อมแขนของเขาและพยักหน้าให้เขาเพื่อเป็นการขอบคุณ แขนของลุคว่างเปล่าในทันใด เขามองไปที่เบียงก้าซึ่งกำลังพาลูก ๆ ไปเล่นที่อื่นด้วยความห่วงใยและความไม่พอใจที่ก่อตัวขึ้นในหัวใจของเขา เขาไม่พอใจที่เบียงก้าตอบโต้เขาอย่างเย็นชาก่อนหน้านี้ แม้ว่าเขาจะคิดว่าเธอทำเช่นนั้นก็เพราะกลัวคนอื่นจะเห็น ความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะอ้างตัวเธอว่าเป็นของเขาเองนั้นก็ทำให้เขาไม่พอใจด้วย เขาอยากจะเดินไปกอดเธอในอ้อมแขนและประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเบียงก้า เรย์นเป็นผู้หญิงของลุค ครอว์ฟอร์ขนาดไหนใครจะรู้! ไม่เพียงเท่านั้น ผู้หญิงคนนั้นยังให้กำเนิดลูกของเขาด้วย! ไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่ถึงสอง! เบียงก้าก้มศีรษะลงที่เท้าของผู้บริหารเมืองเป็นการทักทาย แล้วก้มหน้าก้มตาวิ่งหนีไปราวกับว่าเธอกำลังหลบหนี เธอกังวลว่าผู้บริหารเมืองจะเข้าใจผิด “ช่างอ่อนโยนและอบอุ่นเหลือเกินนะ ท่านประธานครอว์ฟอร์ด! เราก็ทานอาหารเย็นกันบ่อย ๆ ทำไมผมไม่เห็นด้านนั้นของคุณเลยล่ะ?” ผู้บริหารเมืองชายวัยกลางคนหัวเราะ

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 205 ลุคแสดงความรักต่อหน้าสาธารณชน

    “น้าบี… จริงเหรอคะ?” เรนนี่มองไปที่เบียงก้าด้วยแววตาลูกสุนัขที่มีน้ำตาเอ่อคลอ เบียงก้าก้มศีรษะลงจูบที่หน้าผากของเรนนี่ และขยี้ผมของเธอ “ไม่เลย น้าไม่เคยคิดว่าหนูน่ารำคาญเลยนะ” น้ำเสียงของเบียงก้าอาจจริงจังเกินไป ไม่เพียงแต่จะโน้มน้าวใจเด็กน้อยอย่างเต็มที่ แต่คำพูดของเธอยังทำให้เจสันซึ่งกำลังขับรถอยู่ตกใจไปด้วย เจสันถือว่าตัวเองเป็นคนที่ผ่านอะไรมามาก เขาเคยเห็นคนทุกประเภทตั้งแต่ผู้สูงศักดิ์และยิ่งใหญ่ไปจนถึงคนอนาถาและน่ารังเกียจ ในช่วงหลายปีที่ทำงานกับเจ้านายมา เขาคิดว่าเขาเชี่ยวชาญในการอ่านนิสัยของคนอื่นและสามารถบอกความจริงจากการโกหกได้อย่างง่ายดาย ในขณะนั้น เจสันไม่รู้สึกถึงคำโกหกใด ๆ จากปากของเบียงก้าเลย เขาอดไม่ได้ที่จะแอบมองเบียงก้าผ่านกระจกมองหลัง ครู่หนึ่ง เขาคิดว่าตัวเองกำลังเห็นแม่ผู้ให้กำเนิดเด็กทั้งสองคน... โรงพยาบาลในเมืองเอ เมื่อผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดตื่นขึ้น เขาไม่เห็นแม้แต่หลานชายหรือเหลนทั้งสองคนของตัวเอง เขาเริ่มกังวลทันที อลิสันเข้ามาในนาทีนั้นและพยายามปลูกฝังความคิดในหัวของชายชรา “พ่อจะโทรไปถามลุคไหม?” “ฉันควรถามอะไรล่ะ?” ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดตอบกลับระหว่

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 204 เขาอยากครอบครองเธอใจจะขาด

    เบียงก้ากับแวนด้าขึ้นไปชั้นบนเพื่อคุยกันเป็นการส่วนตัว ลุคกำลังอยู่ในสายของการประชุมธุรกิจระหว่างประเทศ ขณะกำลังคุยโทรศัพท์ เขาสามารถเห็นได้จากท่าทางของคนทั้งสองว่าการสนทนาระหว่างเบียงก้าและแวนด้านั้นไม่ปกติ แต่เขาไม่ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนกำลังพูดกันเท่าไหร่นัก เมื่อเขาวางสาย ลุคเห็นจากหางตาว่าเบียงก้าและแวนด้าหายตัวแถวหัวมุม “เธอบอกว่าเธอเป็นน้าของเบียงก้า” เจสันเข้ามารายงานสถานการณ์ตามความจริง ลุคหันไปสั่งเจสันว่า "ไปสืบประวัติของน้าคนนั้น" เจสันโค้งคำนับ ลุคมองเข้าไปทางหน้าต่างชั้นสองที่เปิดทิ้งไว้ เขายังคงนิ่งเฉยไม่แสดงออก แม้ว่าความต้องการของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ในห้องบนชั้นสอง เบียงก้ารู้สึกเขินอาย ไม่เพียงเพราะเป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับน้าที่เธอเคยได้ยินผ่านเรื่องเล่า แต่ยังเป็นเพราะเธอกลัวว่าน้าจะรับรู้ถึงฮอร์โมนเพศชายที่แผ่ซ่านไปทั่วห้อง เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองทำอะไรผิด แวนด้าเหลือบมองไปรอบ ๆ ห้องและถามด้วยความสงสัย “ผู้ชายที่ลงมาข้างล่างกับเธอ…” “เขาเป็นเจ้านายของฉัน” เบียงก้าตอบก่อนที่น้าของเธอจะถามคำถามเสร็จ เบียงก้ายังเด็กและไม่ค่อยรู้จักวิธี

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 203 ทำไมคุณถึงขี้อายนักเล่า ผมก็เห็นทุกอย่างไปหมดแล้วนิ

    เบียงก้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของการข่มใจที่เล็ดลอดออกมาจากร่างของชายผู้นั้น แม้ว่าเธอจะได้รับการเตือนว่าชายผู้นี้มีความรู้สึกตรงกันข้ามก็ตาม เขาน่ะหรือจะห้ามใจ มีแต่จะทำตามใจตัวเองมากกว่า หัวใจของเธอเต้นแรง และปากเริ่มมีน้ำลายสอ เมื่อนึกถึงสัตว์ร้ายที่ซ่อนอยู่ใต้กางเกงของชายหนุ่ม “คุณ… ออกไปรอข้างนอก… ฉันอาบน้ำเองได้ค่ะ” หลังจากระเริงไปหลายครั้งเมื่อคืน เบียงก้าอายเกินกว่าจะเงยหน้ามองเขา บ้านหลังเก่าที่รกร้างและมืดมิดนั้นทั้งอบอุ่นและร้อนแรงเพราะมีเขาอยู่ กลิ่นของความสกปรกและความชื้นส่งกลิ่นแรงอยู่ตรงหน้าบ้าน แม้ว่าชายผู้นั้นจะจุมพิตและหายใจแรง แต่เธอก็ได้ให้ทุกสิ่งแก่เขาไป ราวกับว่าเธอได้หลอมรวมตัวเองเข้ากับร่างกายที่เร่าร้อนของเขาไป จากนั้น ก็ร่วมรักกันในรถอีกรอบ เบียงก้าคิดว่าลุคเป็นปีศาจที่หิวกระหายเนื้อมนุษย์ ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนเขามักจะหิวโหยร่างกายของเธอเสมอ แต่ถึงกระนั้น เธอก็พลีกายให้เขาไปหลายครั้ง! โชคดีที่ความมืดมิดในยามค่ำคืนได้บดบังใบหน้าที่แดงก่ำของเธอ เพื่อที่เธอจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดใจนักเมื่ออยู่กับเขาตามลำพัง แต่เธอไม่อาจหลบซ่อนมันจากการร่วมรักที

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 202 ตัณหาอันแรงกล้าในยามเช้าของลุค

    ชั้นล่างบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน เพื่อนร่วมงานบางคนซื้อซาลาเปาสำหรับการทำงานกะเช้า ในขณะที่เพื่อนร่วมงานหญิงกำลังเตรียมข้าวโอ๊ตอยู่ในครัว ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าข้าวโอ๊ตที่ซื้อจากร้านมีเนื้อหยาบเกินไป เป็นครั้งแรกที่ลูก ๆ ของเจ้านายลิ้มลองซาลาเปาแป้งทำมือจากเมืองเล็ก ๆ พวกเขารับประทานคนละสองชิ้น แต่เหมือนจะยังไม่พอ เรนนี่ยัดขนมปังเต็มปากแล้วกะพริบตาอย่างไร้เดียงสาใส่คุณลุงดอยล์ของเธอ ก่อนขอเพิ่มทั้งที่ยังเคี้ยวอยู่เต็มปาก “ทานช้า ๆ ก็ได้ครับ เดี๋ยวลุงจะไปซื้อมาเพิ่ม” เจสันขยี้ผมของเรนนี่ เมื่อเขาลุกขึ้น เขาหันไปหาเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ แล้วพูดว่า "ผมจะซื้อมาฝากทุกคนเหมือนกัน" ขนมปังไม่เพียงพอสำหรับทุกคน การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเจ้านาย ผู้ช่วย และลูกสองคนของเขาทำให้เพื่อนร่วมงานต้องแบ่งอาหารให้ ในเมืองกำลังพลุกพล่าน เจสันยืนอยู่หน้ารถขายอาหารและซื้อซาลาเปาใส่ไส้ไก่มากว่าสิบห้าชิ้น เมื่อเขาหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาและกำลังจะจ่าย เขาสังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดทำงานแสนเรียบร้อยเดินเข้าไปในสนามหญ้าหน้าบ้าน เธอดูเหมือนจะอยู่ในวัยสามสิบ "ชิ้นละ 1.80 เหรียญ ซื้อ 15 ชิ้นก็เป

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status