Share

บทที่ 15 จงยับยั้งชั่งใจตนเองเสีย ลุค ครอว์ฟอร์ด

เบียงก้าเดาว่าเรนนี่น่าจะชอบกระดาษลายสปอนจ์บ๊อบ

เธอวางกระดาษแผ่นอื่น ๆ ไว้แล้วเลือกหยิบกระดาษลายสปอนจ์บ๊อบ ก่อนจะลุกขึ้นยืน

“อ๊า-”

เมื่อลุกขึ้นยืน เธอก็มุ่งความสนใจทั้งหมดไปกับการห่อหนังสือด้วยกระดาษลายสปอนจ์บ๊อบ ทำให้เธอหลงลืมไปเสียสนิทใจว่ามีชายอีกคนยืนอยู่ข้างกายเธอ

เข็มกลัดที่เธอติดเสื้อทำงานมาด้วย บัดนี้ไปเกี่ยวอยู่กับเข็มขัดหนังของชายหนุ่มเสียแล้ว

“ข-ขอโทษค่ะ ฉัน…”เบียงก้าจ้องมองของสองชิ้นที่ติดอยู่ด้วยกันด้วยความอึดอัดใจ

ชายหนุ่มค้อมศรีษะลงมา มีบางสิ่งปรากฏขึ้นในส่วนลึกของแววตา

“สักครู่ค่ะ อีกนิดเดียวก็จะเรียบร้อยแล้วค่ะ...” เบียงก้าพัดมือไปทั่วเข็มขัดของเขาด้วยความลนลาน

นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เธอได้สัมผัสกับเข็มขัดของผู้ชายด้วยมือของตัวเอง

ในคืนนั้นเมื่อห้าปีก่อน เธอก็ไม่ได้จับเข็มขัดของผู้ชายคนนั้น และไม่เคยมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นตอนที่เธออยู่กับฌองเช่นกัน

เธอไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดเรื่องนี้ขึ้นที่นี่ แล้วทำไมเรื่องน่าประหลาดพวกนี้ต้องเกิดขึ้นในตอนที่เธอกับลุค ครอว์ฟอร์ดอยู่ด้วยกันทุกที

ราวกับปฏิกิริยาเคมีที่เธอไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้

เข็มกลัดถูกออกแบบมาอย่างซับซ้อนและมีช่องมากมาย มีอยู่ก้านหนึ่งของเข็มกลัดที่เกี่ยวอยู่กับหัวเข็มขัดของลุค ช่างโชคร้ายเหลือเกินที่ต้องพบว่าเข็มกลัดนั้นติดอยู่กับหัวเข็มขัดอย่างแน่น!

ยิ่งเบียงก้าร้อนรนมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งดูจะเอาออกยากมากขึ้นเท่านั้น อากาศรอบตัวค่อย ๆ ร้อนขึ้นอย่างมาก...

“ต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนเหรอ?” ลุคถาม

เบียงก้าเงยหน้าขึ้นมามองชายหนุ่ม

ลุคตัวสูงมาก วันนี้เขาสวมสูทสีดำ โดยปกติแล้วเขาจะเขาสวมเสื้อเชิ๊ตสีขาวด้านในโดยปล่อยกระดุมไว้สองเม็ด แต่เพราะวันนี้เขาต้องทำงานอยู่ในห้องกับพิมพ์เขียว เขาจึงปลดกระดุมเพิ่มอีกหนึ่งเม็ดเพื่อระบายอากาศ เบียงก้าเกือบจะเห็นแผงอกอันแข็งแกร่งของเขาแม้ว่าเธอจะไม่ต้องการเห็นมันก็ตาม

ชายหนุ่มมีเอวที่คอดจนเกือบจะสมบูรณ์แบบ หากเขาไม่ได้มีอุณหภูมิร่างกายอันแสนจะอบอุ่นเป็นหลักฐานว่าเขาเป็นคนที่มีชีวิตอยู่จริง ๆล่ะก็ ใครหลาย ๆคนอาจจะเข้าใจผิดว่าเขาเป็นหุ่นที่ถูกปั้นแต่งขึ้นมาด้วยความรักอันล้นเปี่ยมของศิลปินผู้มากประสบการณ์ก็เป็นได้

“ฉัน...ฉันไม่ได้สนเรื่องเข็มกลัดเท่าไหร่หรอกค่ะ” เบียงก้าพ่ายแพ้ต่อการที่จะสรรหาคำพูดที่ถูกที่ควรในขณะที่ต้องหลบสายตาของลุคไปด้วย “แต่ถ้าฉันไม่ทำอย่างนี้ มันอาจจะลงท้ายด้วยการที่ฉันจะทำให้เข็มขัดของคุณเป็นรอยนะคะ”

เมื่อครั้งที่เธอไปเรียนที่ต่างประเทศ เธอและเพื่อน ๆ เคยออกค้นหาสินค้าแบรนด์ดังมากมายเพื่อให้ตัวเองมีความเข้าใจต่อแบรนด์เหล่านั้น และทั้งหมดที่เธอและเพื่อน ๆ ทำก็เพื่อให้รู้จักแบรนด์ต่าง ๆ ให้มากขึ้นเท่านั้นเอง

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงรู้ว่าเข็มขัดที่ลุคสวมใส่อยู่มีราคาแพงเพียงใด

มันแพงมากถึงขนาดที่เธอไม่มีปัญญาชดใช้ให้เขาได้

“หัวเข็มขัดผมจะเป็นรอย ยังไงก็น่าจะดีกว่าให้คุณมาผูกติดกับผมอย่างนี้นะ” ลุคมองไปยังหญิงสาวผู้โง่เขลาที่กำลังสาละวนอยู่กับเข็มขัดของเขาอยู่นานสองนานโดยที่ไม่เห็นว่าเข็มกลัดจะหลุดออกมาแต่อย่างใด

มันเป็นเวลาเย็นเสียแล้ว

แสงของยามเย็นสาดส่องมายังลุค นั่นยิ่งทำให้เขาดูสง่างามเกินจริงยิ่งกว่าเดิม นับตั้งแต่ที่เขาอนุญาต เบียงก้าเม้นริมฝีปากแล้วก้มลงไปจัดการกับเข็มกลัดของตัวเองต่อ

ลุคมองไปยังเบียงก้าราวกับกษัตริย์ที่มองข้าทาสบริวารของตน

เบียงก้ารู้สึกหงุดหงิดขึ้นทุกขณะที่เธอล้มเหลวในการพยายามจะแกะเข็มกลัดของตัวเองออกมา เธอเผยอริมฝีปากของตัวเองออกเล็กน้อย ลมหายใจอุ่นเป่าไปยังหน้าท้องแบนราบของชายหนุ่ม บางอย่างในร่างกายค่อย ๆ ขยายตัวขึ้น ก่อนที่เขาจะรู้ตัวเสียด้วยซ้ำไป

มีเสียงดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

ทันใดนั้นเอง หัวเข็มขัดของเขาและเข็มกลัดของเธอก็แยกจากกันในที่สุด

เบียงก้ายิ้มออกอีกครั้ง รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าสีชาดของเธอ เธอสวมเข็มกลัดที่พังไปแล้วของเธอหลับเข้าตรงบริเวณหน้าอกดังเดิม พร้อมลุกขึ้นยืน

มีบางอย่างที่ดู…ประหลาดไป

เธอก้มลงมองตามสัญชาตญาณ

เพียงแต่แวบเดียวก็เพียงพอจะทำให้เธอตระหนกตกใจจนต้องถอยกรูดให้ห่างจากเขา ร่างกายของเธอสั่นเทิ้ม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มอีกครั้งด้วยสายตาแห่งความหวาดกลัวและไม่สบายใจ...

บุรุษรูปงามที่สูงราว ๆ 180 หรือ 190 เซนติเมตรหรืออาจจะมากนั้น ยืนตัวตรงสีหน้าของเขาเคร่งขรึมละจริงจังราวกับคุณครูที่กำลังจะลงโทษนักเรียนหญิงที่ทำผิดอย่างไรอย่างนั้น

เมื่อเธอสบเข้ากับนัยน์ตาสีดำที่ลึกล้ำของเขา เบียงก้ารู้สึกอัดอัดอย่างน่าประหลาด ริมฝีปากของเธอแห้งผาก สิ่งเดียวที่เธอควรทำในตอนนี้มีเพียงแค่การกล่าวขอโทษเขาเท่านั้น “ขอโทษค่ะ! ฉันจะกลับไปห่อหนังสือต่อค่ะ คุณครอว์ฟอร์ด!”

หลังจากขอโทษเสร็จ เบียงก้าก้มลงไปหยิบกระดาษลายสปอนจ์บ๊อบขึ้นมาจากพื้น ก่อนจะเดินกลับไปห่อหนังสือต่อตามเดิม

จากนั้น นับแต่วินาทีที่เธอกลับไปห่อหนังสือจนเสร็จเรียบร้อยและเดินออกมา เบียงก้าตัวแข็งทื่อและดูไม่เป็นธรรมชาติเอาเสียเลย

ทุก ๆ วินาทีผ่านไปอย่างยากลำบากราวกับถูกทรมาณเป็นปีเป็นชาติ สถานภาพ รูปลักษณ์ภายนอกและวุฒิภาวะของเขาเป็นราวกับกำแพงที่ก่อขึ้นรอบตัวเขา ยากที่ใครจะย่างกรายเข้าไปได้

เบียงก้ากลับลงมาด้านล่าง เธอใช้เวลาอยู่พักใหญ่กว่าที่ชีพจรจะกลับมาเต้นตามปกติ

เบียงก้าตัดสินใจแล้วว่าเธอจะอยู่ให้ห่างจากชายหนุ่มที่ชั้นบนสุดนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เพราะเมื่อเธออยู่ใกล้เขา ทุกสิ่งที่อย่างก็ดูผิดที่ผิดทางไปเสียหมด

เพราะการห่อหนังสือใช้เวลานาน ตอนนี้โต๊ะของเธอจึงถูกกองเต็มไปด้วยงาน

ข้อดีเพียงอย่างเดียวของงานที่ยุ่งก็คือการที่เธอไม่ต้องมานึกถึงเรื่องน่าอัดอึดที่เกิดขึ้นในห้องของประธานที่ชั้นบนสุดได้

“คืนนี้ ไปทานมื้อค่ำที่บ้านฉันกันนะ พี่ชายกำลังจะมารับ” นีน่าที่แบกกองเอกสารพยายามหาโอกาสที่จะกระซิบบอกกับเบียงก้า

เบียงก้ามองนีน่าแล้วจึงพยักหน้ารับ

สายตาของนีน่ากวาดไปเห็นเข็มกลัดบนหน้าอกของเบียงก้าโดยไม่ได้ตั้งใจ

“อ้าว? เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?” นีน่าถามด้วยความประหลาดใจ

ไม่ใช่เพราะเข็มกลัดชิ้นนี้เป็นของราคาแพงหรือมียี่ห้ออะไร หากแต่มันเป็นของล้ำค่าสำหรับเบียงก้ามาตั้งแต่สมัยมัธยม

นีน่าไม่รู้ว่าใครเป็นคนมอบเจ้าสิ้งนี้ให้แก่เบียงก้า แต่เธอรู้ว่าเบียงก้าเป็นเจ้าของเข็มกลัดนี้มาตั้งแต่ปีแรกของชีวิตมัธยม และเธอเองก็ไปที่บ้านของเบียงก้าบ่อยครั้ง เธอถึงได้รู้ว่าทำไมเบียงก้าถึงพกกล่องกล่องหนึ่งไว้กับตัวตลอดเวลา

สิ่งที่อยู่ในกล่องใบนั้นก็คือเข็มกลัดนี่

เบียงก้าก้มลงมองเข็มกลัดที่หน้าอกของตัวเอง แล้วโกหกออกไป “ฉันเดินชนเด็กคนนึงเข้าน่ะ พอฉันก้มลงไปคุยกับเขา เขาก็คว้าเข็มกลัดของฉันเอาไว้ไม่ยอมปล่อย มันก็เลย…”

“เฮ้อ ฉันละเกลียดเด็กประเภทนี้จริง ๆ” นีน่าคิดว่าเบียงก้าคงจะหัวใจสลาย เพราะเบียงก้าทะนุถนอมสมบัติชิ้นนี้มานานหลายปี แต่ตอนนี้มันกลับบิดเบี้ยวผิดรูปไปเสียแล้ว

นีน่าส่ายศีรษะก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง

เบียงก้ายกมือขึ้นลูบเข็มกลัดพัง ๆของตัวเองอย่างเบามือ

จนกระทั่งถึงเวลาเลิกงาน

วันนี้เป็นวันหยุดของฌอง ซึ่งเป็นแนวทางของบริษัทที่จัดให้มีการเดินทางไปทำงานต่างเมืองขึ้น ฌองกำลังวุ่นกับการซื้อรถอยู่ตลอดทั้งวัน เขาจมอยู่กับการเตรียมเอกสารด้วยความเร่งรีบ แล้วจึงขับรถมายังบริษัท

“ขอโทษ…” ทางด้านนอกของบริษัท ฌองจ้องมองเบียงก้าด้วยความเสน่หา ในขณะที่เปิดประตูให้เธอปากของเขาก็เอ่ยคำขอโทษและมองเธอเข้าไปในรถ

นีน่าขับรถของตัวเองไป

ในขณะที่เบียงก้านั่งไปในรถของฌอง ทั้งคู่มุ่งหน้าไปยังบ้านของครอบครัวแลงดอน

ในระหว่างทาง ฌองจดจ่ออยู่กับการขับรถจึงไม่ได้พูดอะไร คิ้วของเขาขมวดมุ่นอย่างต้องการตั้งสมาธิ เบียงก้าเองก็ไม่มีอะไรจะพูดเช่นกัน เธอเพียงแค่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างของรถเท่านั้น

รถแล่นมาถึงระแวกบ้านแล้ว

พ่อแม่ของฌองเดินลงมาต้อนรับเบียงก้าถึงด้านล่าง

“คุณลุงคุณป้า ทำไมถึงมาที่นี่ได้คะ?” เบียงก้าค่อนข้างรู้สึกไม่ดีที่ทำให้พวกเขาต้องลงมารับถึงที่นี่

แม่ของฌองตบเข้าที่หลังมือเบียงก้าเบา ๆ อย่างต้องการกระตุ้นเธอ “เป็นเพราะเราคิดถึงหนูน่ะสิ”

“แม่ใจดีกับเบียงก้ามากกว่าที่ใจดีกับพี่ฌองเสียอีกนะ!” นีน่าเอ่ยล้อแม่ของเธอ

ฌองเดินมาอยู่ข้างหลังสมาชิกในครอบครัว มือข้างหนึ่งล้วงไปในกระเป๋า

กล่องเครื่องประดับที่ทำจากผ้าไหมสีดำราคาแพงอยู่ในมือของฌอง การขอแต่งงานครั้งนี้ของเขาเป็นราวกับการโยนเหรียญหัวก้อยที่เขาไม่อาจคาดเดาว่ามันจะมีผลลัพธ์เช่นไร

คู่รักคู่อื่นอาจจะไม่ได้รู้สึกเช่นนี้ แต่สถานการ์ระหว่างเขากับเบียงก้าในตอนนี้เป็นเช่นนั้น

แน่นอนว่านั่นทำให้เขาเป็นกังวล
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Piyapatta Samungkun
บทที่15งงพระเอกมายืนอยู่ข้างๆแล้วนางเอกลุกขึ้นไม่ระวังอย่างมากก็แค่ไหล่นางเอกชนกับไหล่พระเอกทำไมเข็มกลัดนางถึงไปเกี่ยวกับเข็มขัดพระเอกนึกภาไม่ออกงงพระเอกจะเข้ามาไกล้มากขนาดนั้นแล้วนางติดเข็มกลัดไว้ส่วนไหนของร่างกายมันถึงไปเกี่ยวหัวเข็มขัดที่อยู่ตรงเองและส่วนกลางลำตัวของพระเอกได้ฉากนี้ดูน้ำเน่าไป
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status