Home / โรแมนติก / พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก / บทที่ 17 ราวกับพวกเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน

Share

บทที่ 17 ราวกับพวกเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน

Author: พะเนินเทินทึก
“พวกเรามาที่นี่ เพราะว่า…” ลุคยังพูดไม่ทันจบประโยค เขาก็มองไปเห็นหญิงชราคนหนึ่งเดินมาทางพวกเขา

หรือคุณยายท่านนี้จะเป็นแม่ของคุณบี?

“สวัสดีครับ คุณยาย!” ลานี่ทักทายหญิงชราอย่างสุภาพ

คุณยายอย่างนั้นหรือ...?

เบียงก้ามองตามลานี่ไปยังด้านหลังของเธอ

หญิงชราวัยห้าสิบเศษ สวมชุดวอร์มอะดิดาสสีชมพูขาว เธอเดินมาหยุดอยู่ตรงพวกเขาสามคน

ลุครู้ดีว่าหญิงชราคนนี้ไม่ใช่แม่ของเบียงก้า เขาจึงไม่ได้พูดอะไร

“คุณน้ามีอะไรรึเปล่าคะ?” เบียงก้ากังวลกับสายตาที่หญิงชรามองมาที่เธอ

หญิงชราขมวดคิ้วก่อนจะเริ่มแนะนำบางอย่างแก่เบียงก้า “เมื่อแต่งงานแล้ว เธอต้องเรียนรู้วิธีดูแลเอาใจใส่คนในครอบครัวของเธอด้วยสิ อย่าทำให้สามีและลูกของเธอโกรธ ที่ฉันจะพูดก็คือ ดูเธอสิ! นี่มันกี่โมงกี่ยามกันแล้ว แต่เธอเพิ่งกลับน่ะรึ?”

คำว่า “สามีของเธอ” คงจะหมายถึงชายหน้าตายที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอเป็นแน่

เบียงก้าทั้งอับอายและอึดอัดที่สุด

เบียงก้าพยายามจะอธิบายให้หญิงชราเข้าใจ แต่หญิงชราหันไปมองลุคด้วยสายตาอันไร้ความปราณีเช่นกัน “คุณเองก็ไม่ได้เป็นสามีที่ดีนักหรอกนะ คุณไม่ควรจะโกรธภรรยาของคุณ เพียงเพราะเธอเข้มงวดกับคุณ อย่างนี้แล้วคุณจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกคุณได้ยังไง? ผู้ชายสมัยนี้ก็ควรจะเรียนรู้วิธีทำอาหารเหมือนกัน ไม่ใช่ผลักภาระงานบ้านทุกอย่างให้ภรรยาทำอยู่ฝ่ายเดียว เธอแต่งเข้ามาเป็นภรรยาไม่ใช่คนใช้!”

เบียงก้าคิดไม่ตกว่าหญิงชราคิดไปไกลเช่นนี้ได้อย่างไร

ทำไมเธอถึงเข้าใจอะไรไปในทางนั้นได้

ใคร ๆ ก็น่าจะมองออกว่าระหว่างเขากับเธอนั้นเหมือนมาจากคนละโลกกัน

“คุณน้าคะ คุณกำลังเข้าใจผิด เขาเป็นเจ้านาย ส่วนฉันเป็นลูกน้องของเขาเท่านั้นค่ะ” เบียงก้าอธิบายอย่างรวบรัด

มีวูบหนึ่งที่หญิงชราจะเปิดปากพูดต่อ แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอมองเบียงก้า ลุค และเด็กผู้ชายตัวเล็กอย่างชั่งใจ

พวกเขาน่ะหรือจะไม่เกี่ยวข้องกัน คนพวกนี้เห็นว่าเธอโง่รึ?

‘มันชัดเจนอยู่แล้วว่าเธอน่ะมีอะไรบ่างอย่างกับพ่อรูปหล่อนี่’

‘ให้ตายเถอะ โลกนี้มันเป็นอะไรไปแล้วกันแน่นะ? ฉันไม่ยักรู้ว่าก่อนว่าที่นี่มีพวกผู้หญิงอย่างว่าอาศัยอยู่ที่นี่ด้วย...’

เบียงก้าถูกเข้าใจผิดอย่างไม่มีเหตุผล เธอได้แต่เม้มปากตอนที่หญิงชราเดินจากไป เธอคงไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรกับพ่อลูกคู่นี้ ถ้าหากเธอหันหลังกลับไป

เพราะว่าเธอไม่ได้สนิทชิดเชื้ออะไรกับเขาสองคนเลยสักนิดเดียว

เบียงก้ารู้ดีว่าสาวโสดเช่นเธอควรหรือไม่ควรทำอะไร มันเป็นเรื่องปกติที่จะต้องมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานต่างเพศ แต่มันคงไม่เหมาะนักที่จะนัดพบกับชายอื่นเป็นการส่วนตัวในเวลากลางค่ำกลางคืนเช่นนี้

ลุคก้มลงมองลูกชายที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แล้วพูดกับเขา “ลูกมีอะไรจะบอกเธอใช่ไหม? พูดออกไปสิ!”

เบียงก้าหมุนตัวกลับมา

บรานช์ ครอว์ฟอร์ด เหลือบตามองผู้ใหญ่ทั้งสองคน เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรด้วยซ้ำ... แต่พ่อบอกว่าเขามีบางอย่างจะต้องพูด... และดูเหมือนพ่อจะอยากให้เขาพูดเดี๋ยวนี้!

อ๋อ ในที่สุดลานี่ก็จำได้!

เขามาที่นี่ก็เพราะผู้เป็นพ่อต้องการเพื่อนสักคนก็เท่านั้น

เด็กชายตัวเล็กเดินออกไปด้วยขาสั้น ๆ ของตัวเอง แล้วกลับออกมาจากมุมอับแสงพร้อมกับกล่องใหญ่สองกล่องที่อุ้มมาด้วยแขนสั้น ๆ ของเขา

กล่องหนึ่งมีสีฟ้าอ่อน ในขณะที่อีกกล่องมีสีขาว ทั้งสองกล่องประดับด้วยริบบิ้นที่ทำจากผ้าไหมราคาแพง “คุณบีครับ นี่เป็นของขวัญสำหรับคุณนะครับ” ลานี่หันกลับไปมองพ่อของตัวเองหลังจากพูดจบ เพราะกลัวว่าตัวเองจะพูดอะไรผิดไป

บลองช์เป็นเด็กตัวเล็ก ๆ เบียงก้าได้ยินในสิ่งที่เขาพูด แต่ไม่ได้เห็นสีหน้าของเขาแต่อย่างใด

ถึงแม้ว่าเธอจะไม่อยากได้ของขวัญอะไรจากลุค ครอว์ฟอร์ดอีก แต่เธอก็ตัดสินใจรับมันเพราะเห็นว่าเด็กชายต้องแบกของขวัญหนัก ๆ เอาไว้ ในตอนนั้นเองที่เธอเห็นสีหน้าของเด็กชาย...

เบียงก้าเห็นแววตาของเด็กชายที่มองมาอย่างเธอ ก่อนจะส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรมาให้

“ทำไมหนูบลองช์ถึงให้ฉันล่ะ?” เบียงก้าถามเด็กชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า แต่เธอกำลังรอให้ผู้เป็นพ่อเป็นคนตอบคำถาม

เธอไม่ได้ล่วงรู้เลยว่า ชายหนุ่มผู้แสนเย็นชามองเห็นแหวนเพชรที่นิ้วนางของเธอเข้าแล้ว...

แหวนที่หมายความว่าเธอหมั้นกับชายอื่นไปแล้ว

“หืม… หนูบลองช์ก็ไม่รู้เหมือนกันอย่างนั้นเหรอคะ?” บลองช์ไม่สามารถปิดบังเบียงก้าได้อีก สีหน้าของเขาแสดงออกถึงความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาสมวัย เขาเกามือตัวเองอย่างเขอะเขินแล้วหันไปมองผู้เป็นพ่ออย่างสับสน

“หมดเรื่องของลูกแล้ว เราก็กลับกันเถอะ!” ลุคบอกลูกชาย เขาส่งสายตาสีดำแสนลึกลับไปยังเบียงก้าที่บัดนี้มีกล่องของขวัญเต็มไม้เต็มมือ เขายังมองเธออีกครั้งก่อนจะเดินจากไป

ทั้งเบียงก้าและลานี่มองชายหนุ่มที่เดินจากไปดื้อ ๆ

“พ่อผม คือ…” ลานี่อยากจะพูดบางอย่าง หากแต่ต้องสงบปากสงบคำเมื่อพูดได้เพียงครึ่งประโยค แววตาของเขาฉายแววผิดหวัง

เบียงก้าเคืองอยู่หน่อย ๆ “จริง ๆ แล้วฉันรับของขวัญของคุณไม่ได้หรอกค่ะ”

“ทำไมล่ะครับ?”

เธอไม่ได้อธิบายเหตุผลที่แท้จริงให้แก่เด็กอายุห้าขวบฟัง เพราะอย่างไรเขาก็คงไม่เข้าใจ

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงได้หาเหตุผลที่เด็กคนหนึ่งจะเข้าใจขึ้นมาแทน “ฉันไม่รับของขวัญที่ตัวเองไม่สมควรจะได้หรอกค่ะ”

ด้วยเหตุนั้น เธอยัดกล่องของขวัญกลับใส่มือของลานี่ไปด้วยรอยยิ้ม

“หนูควรเดินตามพ่อของหนูไปก่อนที่เขาจะห่างมากเกินไปนะ”

รถปอร์เช่สีขาวแล่นเข้ามาจอดที่ริมทางเข้าหมู่บ้าน

สีหน้าของชายคนนั้นเคร่งขรึม เมื่อเขานั่งอยู่บนเบาะคนขับ มือข้างหนึ่งอยู่บนพวงมาลัย ในขณะที่อีกข้างคีบบุหรี่ไว้ในมือ เขายกบุหรี่ขึ้นสูบอย่างดุดัน

“ลูกเห็นถังขยะข้างหลังไหม? โยนทิ้งไว้ตรงนั้นแหละ!” ลุคกล่าวอย่างเย็นชา เมื่อเห็นว่าลูกชายยกกล่องพวกนั้นกลับมาที่รถ

เมื่อพวกเขากลับมาถึงคฤหาสน์ครอว์ฟอร์ด

ลุคปลดเข็มขัดนิรภัยออกบ้างเมื่อเขาเห็นว่าลูกชายปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วเดินลงจากรถไป เด็กชายไม่ได้พูดอะไรอีกตลอดทางที่เขาเดินเข้าบ้านไป

ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดที่กำลังดื่มชาอยู่ที่สวนเห็นว่าหลานชายคนโตรีบเดินลงจากรถแล้วรีบขึ้นบันไดกลับไปอย่างเงียบ ๆก็ค่อนข้างเป็นกังวล

“เกิดอะไรขึ้นกับเหลนชายคนโตของฉัน ใครทำอะไรให้เขาไม่พอใจ?”

ในสายตาของเขา ลุคและลานี่ไม่เคยทะเลาะกันแม้แต่ครั้งเดียวตลอดห้าปีที่ผ่านมา

ลุคคลายเนคไทของเขาก่อนจะเดินเข้าไปในคฤหาสน์

“ลูกพาลานี่ของแม่ไปเป็นกันชนเรื่องผู้หญิงอีกแล้วเหรอ?” อลิสัน แทนเนอร์เดินมาช่วยถอดเสื้อให้ลูกชาย เธอพยายามคาดเดา

ลุคส่ายหน้า

เพียงเท่านั้น อลิสันถึงกับนิ่งไป แล้วนี่มันเรื่องอะไรกัน?

ตามปกติแล้ว นั่นเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้ลานี่เป็นเช่นนี้

ตั้งแต่เล็กจนโต ลานี่และเรนนี่ได้รับการปกป้องดูแลอย่างดี พวกเขาไม่ได้พบเจอใครต่อใครมากนัก พวกเขาไม่รู้จักคำว่าแม่ด้วยซ้ำ

มีเพียงครั้งเดียวที่พวกเขาได้รับรู้ว่าเด็กคนอื่น ๆ มีทั้งพ่อและแม่ของตัวเอง

วันนั้นเอง ลานี่กลับมาที่บ้านแล้วถามขึ้นมา “แม่ของพวกเราอยู่ที่ไหนครับ?”

ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดยังคงโกหกเด็กน้อยต่อไป เขาบอกเด็กทั้งสองว่าพวกเขาไม่มีแม่

ลานี่เข้าใจสิ่งอื่นมากกว่าเด็กห้าขวบทั่วไป และครั้งนี้ปู่ก็ไม่สามารถโกหกเขาได้อีก

สายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าของลานี่ทำให้ชายชราพ่ายแพ้ เขาถอนหายใจออกมา “แม่ของหลานจากไปในที่ที่ไกลแสนไกล ถ้าหากวันหนึ่งแม่หลานกลับมา ปู่ทวดจะให้พ่อแนะนำหลานให้ผู้หญิงคนนั้นรู้จัก”

ลานี่ที่ได้ฟังดังนั้นจึงจดจำทุกถ้อยคำฝังไว้ในหัวใจ

อลิสันส่งต่อเสื้อของลูกชายให้สาวรับใช้

เธอเดินไปที่หน้าต่าง อลิสันมองลงไปยังข้างล่าง ในฐานะแม่ของลูกและย่าของเด็กทั้งสองคน เป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะไม่กังวลเรื่องตัวตนที่แท้จริงของแม่ของหลาน ๆ

และเพราะว่าเวลาได้ล่วงเลยมามากกว่าห้าปีแล้ว มันจึงไม่ง่ายเลยที่จะออกตามหารายละเอียดของข้อตกลงในอดีต

ในฐานะแม่ของลุค เธอไม่เคยถามเขามาก่อน และเขาเองก็ไม่เคยปริปากพูดอะไรเกี่ยวกับข้อตกลงนั้นแม้แต่คำเดียว

สำหรับเฟย์ โทมัส และชาร์ลส์ ฟินน์ ผู้ที่เคยเป็นดั่งมือขวาและมือซ้ายของลูกชายของเธอ ผู้ซึ่งเกษียณออกไปนานแล้วเนื่องด้วยปัญหาสุขภาพ บางทีเธออาจจะไปเยี่ยมพวกเขาในสักวันหนึ่ง และถ้าหากเธอได้ไปที่นั่น บางทีพวกเขาอาจจะยอมเปิดปากออกมา...
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Piyapatta Samungkun
พระเอกมีเงินล้นฟ้าแต่ไม่เคยคิดที่จะแอบไปดูหรือติดตามข่าวคราวนางจนผ่านไป5ปีมาเจอกันถึงเริ่มสนใจนางก็ตอนนางมีคู่หมั้นตอนเขาโสดไม่เห็นสนใจหยิ่งอยู่บนฟ้าไร้สาระ ทำไมพอเห็นหน้าก็รู้สึกชอบแม่ของลูกแต่ไม่เห็นหน้าก็ไม่สนใจไม่ชอบงี้เง่าปัญญาออ่นทำไมทำให้ทุกอย่างมันยุ่งยากด้วยนาเอกก็มีแฟนเพราะผู้รักตัวบ้าบอ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 207 ครอบครัวทั้งสี่คนนอนอยู่ด้วยกัน

    เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เบียงก้าจึงเปิดประตูอย่างแผ่วเบา เด็ก ๆ ยังคงนอนในห้องเล็ก ๆ ขนาดสามร้อยตารางฟุตใต้แสงจันทร์ แต่ตอนนี้ผู้ใหญ่สองคนกลับกอดกันอยู่ตรงประตู เบียงก้าต้องการหันหลังกลับและมุ่งหน้าเข้าไปในห้อง แต่ชายหนุ่มก็กอดร่างอันบอบบางของเธอไว้แน่นอย่างร้ายกาจ “อย่าทำอย่างนี้สิคะ เด็ก ๆ จะเห็นเราถ้าพวกเขาตื่น…” เธอเหนื่อยหอบในอ้อมแขนของลุค ลุคเป็นสัตว์ร้ายอยู่แล้วตั้งแต่ตอนที่ยังเขาไม่ดื่ม แต่ตอนนี้เขาดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปแล้ว… เบียงก้าไม่อยากจะจินตนาการ เธอทำได้เพียงอธิษฐานว่าเขาจะไม่ดำดิ่งลงไป “ผมไม่บังคับคุณหรอกถ้าคุณไม่เต็มใจ คุณต้องบอกผมถ้าผมกำลังทำร้ายคุณอยู่ ต้องรีบบอกออกมาเลยนะ” ลุคเอาริมฝีปากบางและเย้ายวนของเขามาแนบใบหูของเธอ ก่อนจูบผิวที่ขาวเนียน เขาพยายามอย่างหนักที่จะระงับความอยากที่จะครอบงำเธอ เบียงก้าเงียบงันอยู่ในอ้อมแขนของเขา เธอรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อยเมื่อชายหนุ่มสัญญากับเธอ เธอคิดว่ามันน่าขันที่ลุคมักจะเป็นสัตว์ร้าย แต่เขาก็ยังเห็นอกเห็นใจมากขึ้นทั้งที่อยู่ในสภาพเมาเช่นนี้ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนในตอนที่พวกเขากอดกัน เรนนี่หลับใหลและพึมพำห

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 206 คุณเมารึเปล่า

    เบียงก้าส่ายหน้าอย่างงุ่มง่ามเพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอไม่เป็นไร เธอกังวลว่าใบหน้าที่บูดบึ้งของเขาอาจทำให้เด็กชายหวาดกลัว เธอจึงรีบขยับออกจากอ้อมแขนของเขาและพยักหน้าให้เขาเพื่อเป็นการขอบคุณ แขนของลุคว่างเปล่าในทันใด เขามองไปที่เบียงก้าซึ่งกำลังพาลูก ๆ ไปเล่นที่อื่นด้วยความห่วงใยและความไม่พอใจที่ก่อตัวขึ้นในหัวใจของเขา เขาไม่พอใจที่เบียงก้าตอบโต้เขาอย่างเย็นชาก่อนหน้านี้ แม้ว่าเขาจะคิดว่าเธอทำเช่นนั้นก็เพราะกลัวคนอื่นจะเห็น ความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะอ้างตัวเธอว่าเป็นของเขาเองนั้นก็ทำให้เขาไม่พอใจด้วย เขาอยากจะเดินไปกอดเธอในอ้อมแขนและประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเบียงก้า เรย์นเป็นผู้หญิงของลุค ครอว์ฟอร์ขนาดไหนใครจะรู้! ไม่เพียงเท่านั้น ผู้หญิงคนนั้นยังให้กำเนิดลูกของเขาด้วย! ไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่ถึงสอง! เบียงก้าก้มศีรษะลงที่เท้าของผู้บริหารเมืองเป็นการทักทาย แล้วก้มหน้าก้มตาวิ่งหนีไปราวกับว่าเธอกำลังหลบหนี เธอกังวลว่าผู้บริหารเมืองจะเข้าใจผิด “ช่างอ่อนโยนและอบอุ่นเหลือเกินนะ ท่านประธานครอว์ฟอร์ด! เราก็ทานอาหารเย็นกันบ่อย ๆ ทำไมผมไม่เห็นด้านนั้นของคุณเลยล่ะ?” ผู้บริหารเมืองชายวัยกลางคนหัวเราะ

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 205 ลุคแสดงความรักต่อหน้าสาธารณชน

    “น้าบี… จริงเหรอคะ?” เรนนี่มองไปที่เบียงก้าด้วยแววตาลูกสุนัขที่มีน้ำตาเอ่อคลอ เบียงก้าก้มศีรษะลงจูบที่หน้าผากของเรนนี่ และขยี้ผมของเธอ “ไม่เลย น้าไม่เคยคิดว่าหนูน่ารำคาญเลยนะ” น้ำเสียงของเบียงก้าอาจจริงจังเกินไป ไม่เพียงแต่จะโน้มน้าวใจเด็กน้อยอย่างเต็มที่ แต่คำพูดของเธอยังทำให้เจสันซึ่งกำลังขับรถอยู่ตกใจไปด้วย เจสันถือว่าตัวเองเป็นคนที่ผ่านอะไรมามาก เขาเคยเห็นคนทุกประเภทตั้งแต่ผู้สูงศักดิ์และยิ่งใหญ่ไปจนถึงคนอนาถาและน่ารังเกียจ ในช่วงหลายปีที่ทำงานกับเจ้านายมา เขาคิดว่าเขาเชี่ยวชาญในการอ่านนิสัยของคนอื่นและสามารถบอกความจริงจากการโกหกได้อย่างง่ายดาย ในขณะนั้น เจสันไม่รู้สึกถึงคำโกหกใด ๆ จากปากของเบียงก้าเลย เขาอดไม่ได้ที่จะแอบมองเบียงก้าผ่านกระจกมองหลัง ครู่หนึ่ง เขาคิดว่าตัวเองกำลังเห็นแม่ผู้ให้กำเนิดเด็กทั้งสองคน... โรงพยาบาลในเมืองเอ เมื่อผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดตื่นขึ้น เขาไม่เห็นแม้แต่หลานชายหรือเหลนทั้งสองคนของตัวเอง เขาเริ่มกังวลทันที อลิสันเข้ามาในนาทีนั้นและพยายามปลูกฝังความคิดในหัวของชายชรา “พ่อจะโทรไปถามลุคไหม?” “ฉันควรถามอะไรล่ะ?” ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดตอบกลับระหว่

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 204 เขาอยากครอบครองเธอใจจะขาด

    เบียงก้ากับแวนด้าขึ้นไปชั้นบนเพื่อคุยกันเป็นการส่วนตัว ลุคกำลังอยู่ในสายของการประชุมธุรกิจระหว่างประเทศ ขณะกำลังคุยโทรศัพท์ เขาสามารถเห็นได้จากท่าทางของคนทั้งสองว่าการสนทนาระหว่างเบียงก้าและแวนด้านั้นไม่ปกติ แต่เขาไม่ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนกำลังพูดกันเท่าไหร่นัก เมื่อเขาวางสาย ลุคเห็นจากหางตาว่าเบียงก้าและแวนด้าหายตัวแถวหัวมุม “เธอบอกว่าเธอเป็นน้าของเบียงก้า” เจสันเข้ามารายงานสถานการณ์ตามความจริง ลุคหันไปสั่งเจสันว่า "ไปสืบประวัติของน้าคนนั้น" เจสันโค้งคำนับ ลุคมองเข้าไปทางหน้าต่างชั้นสองที่เปิดทิ้งไว้ เขายังคงนิ่งเฉยไม่แสดงออก แม้ว่าความต้องการของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ในห้องบนชั้นสอง เบียงก้ารู้สึกเขินอาย ไม่เพียงเพราะเป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับน้าที่เธอเคยได้ยินผ่านเรื่องเล่า แต่ยังเป็นเพราะเธอกลัวว่าน้าจะรับรู้ถึงฮอร์โมนเพศชายที่แผ่ซ่านไปทั่วห้อง เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองทำอะไรผิด แวนด้าเหลือบมองไปรอบ ๆ ห้องและถามด้วยความสงสัย “ผู้ชายที่ลงมาข้างล่างกับเธอ…” “เขาเป็นเจ้านายของฉัน” เบียงก้าตอบก่อนที่น้าของเธอจะถามคำถามเสร็จ เบียงก้ายังเด็กและไม่ค่อยรู้จักวิธี

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 203 ทำไมคุณถึงขี้อายนักเล่า ผมก็เห็นทุกอย่างไปหมดแล้วนิ

    เบียงก้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของการข่มใจที่เล็ดลอดออกมาจากร่างของชายผู้นั้น แม้ว่าเธอจะได้รับการเตือนว่าชายผู้นี้มีความรู้สึกตรงกันข้ามก็ตาม เขาน่ะหรือจะห้ามใจ มีแต่จะทำตามใจตัวเองมากกว่า หัวใจของเธอเต้นแรง และปากเริ่มมีน้ำลายสอ เมื่อนึกถึงสัตว์ร้ายที่ซ่อนอยู่ใต้กางเกงของชายหนุ่ม “คุณ… ออกไปรอข้างนอก… ฉันอาบน้ำเองได้ค่ะ” หลังจากระเริงไปหลายครั้งเมื่อคืน เบียงก้าอายเกินกว่าจะเงยหน้ามองเขา บ้านหลังเก่าที่รกร้างและมืดมิดนั้นทั้งอบอุ่นและร้อนแรงเพราะมีเขาอยู่ กลิ่นของความสกปรกและความชื้นส่งกลิ่นแรงอยู่ตรงหน้าบ้าน แม้ว่าชายผู้นั้นจะจุมพิตและหายใจแรง แต่เธอก็ได้ให้ทุกสิ่งแก่เขาไป ราวกับว่าเธอได้หลอมรวมตัวเองเข้ากับร่างกายที่เร่าร้อนของเขาไป จากนั้น ก็ร่วมรักกันในรถอีกรอบ เบียงก้าคิดว่าลุคเป็นปีศาจที่หิวกระหายเนื้อมนุษย์ ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนเขามักจะหิวโหยร่างกายของเธอเสมอ แต่ถึงกระนั้น เธอก็พลีกายให้เขาไปหลายครั้ง! โชคดีที่ความมืดมิดในยามค่ำคืนได้บดบังใบหน้าที่แดงก่ำของเธอ เพื่อที่เธอจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดใจนักเมื่ออยู่กับเขาตามลำพัง แต่เธอไม่อาจหลบซ่อนมันจากการร่วมรักที

  • พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก   บทที่ 202 ตัณหาอันแรงกล้าในยามเช้าของลุค

    ชั้นล่างบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน เพื่อนร่วมงานบางคนซื้อซาลาเปาสำหรับการทำงานกะเช้า ในขณะที่เพื่อนร่วมงานหญิงกำลังเตรียมข้าวโอ๊ตอยู่ในครัว ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าข้าวโอ๊ตที่ซื้อจากร้านมีเนื้อหยาบเกินไป เป็นครั้งแรกที่ลูก ๆ ของเจ้านายลิ้มลองซาลาเปาแป้งทำมือจากเมืองเล็ก ๆ พวกเขารับประทานคนละสองชิ้น แต่เหมือนจะยังไม่พอ เรนนี่ยัดขนมปังเต็มปากแล้วกะพริบตาอย่างไร้เดียงสาใส่คุณลุงดอยล์ของเธอ ก่อนขอเพิ่มทั้งที่ยังเคี้ยวอยู่เต็มปาก “ทานช้า ๆ ก็ได้ครับ เดี๋ยวลุงจะไปซื้อมาเพิ่ม” เจสันขยี้ผมของเรนนี่ เมื่อเขาลุกขึ้น เขาหันไปหาเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ แล้วพูดว่า "ผมจะซื้อมาฝากทุกคนเหมือนกัน" ขนมปังไม่เพียงพอสำหรับทุกคน การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเจ้านาย ผู้ช่วย และลูกสองคนของเขาทำให้เพื่อนร่วมงานต้องแบ่งอาหารให้ ในเมืองกำลังพลุกพล่าน เจสันยืนอยู่หน้ารถขายอาหารและซื้อซาลาเปาใส่ไส้ไก่มากว่าสิบห้าชิ้น เมื่อเขาหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาและกำลังจะจ่าย เขาสังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดทำงานแสนเรียบร้อยเดินเข้าไปในสนามหญ้าหน้าบ้าน เธอดูเหมือนจะอยู่ในวัยสามสิบ "ชิ้นละ 1.80 เหรียญ ซื้อ 15 ชิ้นก็เป

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status