Home / วาย / พาลินโดรม / 10.อยู่คนเดียวก็มีความสุข

Share

10.อยู่คนเดียวก็มีความสุข

last update Last Updated: 2024-11-12 14:40:59

กลับมาถึงหอก็วิดีโอคอลคุยกับเพื่อนทั้งสองคน พาลินไม่มีอะไรปิดบังเพื่อนทั้งสองคนอยู่แล้ว เขาเลยเล่าทุกอย่างที่ได้เห็นในวันนั้นให้กับทั้งสองคนฟัง

ตั้งแต่เลิกกับกันต์ธีร์หัวใจของพาลินก็ปิดตาย เขาไม่คิดจะคบใครอีกแล้ว เพราะตอนนี้ก็มีความสุขดี การไม่มีแฟนก็ใช่ว่าชีวิตจะดำเนินต่อไปไม่ได้ สองเดือนแล้วที่พาลินไม่มีกันต์ธีร์ในชีวิต

ชายหนุ่มยังคงไปสอนที่โรงเรียนสอนภาษา ตกเย็นก็ไปสอนเบจิงที่บ้านเหมือนเดิม แต่พาลินไม่ต้องเดินออกมาที่ปากซอยคนเดียวแล้ว เพราะช่วงนี้ดลธรรมมักจะไปทานข้าวเย็นที่บ้านพี่สาวและชวนเขาติดรถมาด้วยทุกครั้ง

แต่ถ้าวันไหนชายหนุ่มไม่มาพาลินก็จะเรียกแกรปให้มารับ ถ้าเป็นแต่ก่อนก็คงจะกังวลว่ากันต์ธีร์จะมารับไหม แต่พอตัดเขาออกไปจากชีวิตการตัดสินใจทุกอย่างก็ง่ายขึ้น

วันนี้พาลินมีนัดกับโชว์รูมรถแห่งหนึ่ง เขาจะไปลองขับดูสักครั้ง ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ

“ว่าไง โอเคไหม” ดลธรรมถามหลังจากเขาลองขับรถและพากันมาทานข้าวที่ร้านแห่งหนึ่งบนศูนย์การค้า

“ก็ดีครับ คันเล็กคล่องตัวดี”

“ก็ดี หมายความว่ายังไม่ค่อยดีใช่ไหม”

“พูดไม่ถูกครับ มันก็ชอบอยู่หรอก คันเล็กคล่องตัว การตกแต่งก็โอเค แต่เริ่มลังเลนิดหน่อย”

“ลังเลอะไร เรื่องเงินหรือเปล่า”

“ไม่ใช่เรื่องเงินครับ คือถ้าผมซื้อตอนนี้ก็ยังไม่มีที่จอด พี่เห็นแล้วนี่ครับว่าหอผมเป็นยังไง”

“อือ ก็ว่าจะถามอยู่ว่าจะเอารถไปจอดที่ไหน”

“บางทีผมว่าน่าจะดูก่อนว่าต้องฝึกงานที่ไหน หรือว่าอาจจะซื้อตอนเรียนจบและได้ที่ทำงาน ถึงตอนนั้นก็หาคอนโดสักที่”

“ยังไม่รู้อีกเหรอว่าฝึกงานที่ไหน”

“ยังเลยครับ ว่าจะถามอาจารย์ก็เกรงใจ รอให้เปิดเทอมทีเดียวดีกว่าครับ”

“ถ้าไม่ถามอาจารย์ก็ถามรุ่นพี่สิว่าเขาไปฝึกกันที่ไหน ส่วนใหญ่ก็คงบริษัทเดิมนั่นแหละ”

“ผมจะลองถามดูครับ”

“พี่ยังไม่รู้เลยว่าเราเรียนคณะอะไร”

“บัญชีครับ”

“เหรอ นึกว่าเรียนอักษรศาสตร์เห็นสอนภาษาอังกฤษ”

“เรื่องภาษาได้มาจากพ่อครับ พ่อผมเป็นลูกครึ่งครับ”

“ถ้าพี่รู้มาก่อนจะชวนไปฝึกงานที่บริษัทแล้ว กำลังอยากได้คนช่วยอยู่เลย”

“ผมจะช่วยอะไรพี่ล่ะครับ ยังเรียนไม่จบเลย”

“ถ้าจบแล้วไม่สมัครงานที่บริษัทสิ เงินเดือนอาจไม่สูงเท่าบริษัทใหญ่ แต่รับรองเลยว่าทำงานสบาย”

บริษัทของดลธรรมเปิดได้ไม่ถึงห้าปี พนักงานส่วนใหญ่ก็จะเป็นเด็กที่จบใหม่และเริ่มทำงานพร้อมกับเขาทั้งนั้น

“ผมไม่อยากเป็นเด็กเส้นครับ เอาไว้หางานไม่ได้จริงๆ ค่อยไปให้พี่ช่วย”

“ได้สิ ว่าแต่กินข้าวเสร็จแล้วไปไหนต่อไหม”

“ยังไม่รู้เลย ถ้าพี่มีธุระก็แยกกันตรงนี้ก็ได้เดี๋ยวผมกลับเองได้ ใกล้นิดเดียวเองครับ”

“พี่ก็ไม่มีธุระไปไหนเหมือนกัน ปกติพาลินทำอะไรในวันหยุดล่ะ”

“เล่นเกมกับนอนครับ พี่ล่ะ”

“ถ้าไม่ออกต่างจังหวัดกับเพื่อนก็นอนตายอยู่ที่คอนโดนั่นแหละ”

“ผมคงไม่รบกวนเวลานอนของพี่ใช่ไหม”

“ไม่หรอก แต่ไหนๆ ก็ออกมาแล้วไปเดินเล่นกันดีไหมยังไม่อยากกลับ”

“งั้นไปโซนคอมพิวเตอร์ได้ไหม”

“จะซื้อใหม่เหรอ”

“เปล่าครับ ว่าจะไปสืบราคาดูหน่อย เทอมหน้าชมรมค่ายอาสาจะไปปรับปรุงห้องสมุดครับ”

“อยู่ชมรมอาสาเหรอ”

“ครับ”

“ดูท่าทางไม่น่าจะไปเข้าค่ายไหวนะ” ดลธรรมมองเด็กหนุ่มผิวขาวจัดแล้วนึกภาพไม่ออกว่าจะไปทนอยู่กลางแดดร้อนหรือทนลำบากได้ยังไง

“อย่ามาดูถูกกันนะครับ ผมไปค่ายทุกปีเลย”

พาลินชอบไปออกค่าย ได้ทั้งเพื่อนได้ทั้งประสบการณ์ถึงแม้บางที่จะค่อนข้างใช้ชีวิตลำบากแต่เขาก็ไม่เคยบ่น เพราะคนที่อาศัยอยู่ที่นั่นลำบากกว่าเขาหลายเท่า

“ไม่ได้ดูถูกก็แค่สงสัยครับ ตัวขาวอย่างนี้เวลาออกแดดไม่แย่เลยเหรอ”

“กันแดดก็มีครับจะกลัวอะไรล่ะ”

“ก็จริงนะ”

ทั้งสองคนพากันเดินมายังโซนที่เป็นร้านคอมพิวเตอร์ที่มีทั้งโน้ตบุ๊กและคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะที่มีทั้งแบบประกอบสำเร็จรูปยี่ห้อต่างๆ และแบบที่ซื้อเป็นชิ้นและเอามาประกอบเอง

พาลินไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้เท่าไหร่ เพราะตัวเองใช้แต่โน้ตบุ๊ก แต่ที่ชมรมบอกว่าอยากแบบตั้งโต๊ะเพราะอยากให้เด็กได้ใช้กันนานและเครื่องหนึ่งก็คงต้องใช้กันหลายคน

“ปีนี้ไปออกค่ายที่ไหนครับ” ดลธรรมถามด้วยความสนใจ

“พิษณุโลกครับ หมู่บ้านที่เราจะไปอยู่ไกลออกจากตัวเมืองไปมากเหมือนกันครับ”

“ไปเมื่อไหร่เหรอ”

“ก็คงจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกาครับ”

“อีกหลายเดือนเลย เอาไว้จะไปเราค่อยมาดูก็ได้”

“ผมแค่อยากได้ราคาคร่าวๆ ครับจะได้กะงบประมาณถูก”

“พาลินรู้ไหม บริษัทพี่ทำอะไร” จู่ๆ เขาก็เปลี่ยนเรื่อง

“พี่แพรเคยบอกว่าบริษัทพี่แพรรับสร้างทุกอย่างครับ คอนโด บ้าน อาคารศูนย์ราชการครับ”

“นั่นมันของพี่แพร พี่หมายถึงของพี่”

“อ้าว ไม่ได้ทำงานด้วยกันเหรอครับ”

“เปล่า พี่เปิดบริษัทเอง”

“เจ๋งอะ บริษัทของพี่โดมทำอะไรครับ”

“นำเข้าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์”

“จริงเหรอครับ งั้นผมก็คิดถูกแล้วที่ให้พี่มาช่วยเลือก”

“พี่ถึงบอกว่าอย่าเพิ่งซื้อ พี่จะลองดูนะว่าที่บริษัทมีงบสำหรับช่วยเหลือสังคมไหม” เขาจำได้ว่าถ้าเอาเงินไปบริจาคหรือช่วยเหลือสังคมจะนำมาลดหย่อนภาษีให้บริษัทได้ ซึ่งเรื่องนี้คงต้องถามพี่สาวอีกที เพราะเธอเป็นคนช่วยดูเรื่องนี้ให้ที่บริษัท

“ผมเกรงใจจัง ขอบคุณครับ”

“ยังไม่ได้บอกเลยว่าจะมีงบให้ ไม่ต้องรีบขอบคุณหรอก”

“แค่พี่อยากจะช่วยก็โอเคแล้วครับ”

“จริงสิ ถ้าออกค่ายก็ต้องไปสร้างพวกห้องสมุดห้องน้ำอะไรอย่างนี้ใช่ไหม”

“ครับ ปีนี่เราจะไปปรับปรุงห้องสมุดเดิมปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้น แล้วก็สร้างห้องน้ำกับเพิ่มตู้กดน้ำเย็นให้เด็กๆ ครับ”

“ลองเอาโครงการเสนอพี่แพรสิ เผื่อจะได้สนับสนุนพวกวัสดุอุปกรณ์นะ”

“ได้เหรอครับ”

“ได้สิ”

“งั้นผมจะลองไปปรึกษาประธานชมรมดูนะครับ ถ้าได้เรื่องแล้วจะบอกอีกที พี่โดมก็ต้องช่วยผมด้วยนะ”

“แน่นอน” เพราะตอนที่ตัวเองเรียนอยู่ก็ชอบไปออกค่าย แค่ได้ยินเข้าก็นึกสนุกแล้ว บางที่เขาอาจจะขอไปด้วยในฐานะผู้สนับสนุนก็ได้

พาลินไม่ได้หวังจะได้รับความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่อยากปล่อยโอกาสดีแบบนี้ไป เขาคงต้องรีบปรึกษาประธานชมรมซึ่งเดิมทีเป็นรุ่นพี่ปีสี่แต่ เปิดเทอมคงต้องเลือกกันใหม่ แต่ตำแหน่งนี้ก็คงจะเป็นรองประธานเพราะดูแล้วเขาน่าจะทำงานนี้ดีที่สุด

ออกมาจากโซนคอมพิวเตอร์พาลินก็ยังไม่รู้จะไปไหน ต่อ จะกลับไปที่หอก็ไม่รู้จะทำอะไรในขณะที่กำลังคิดว่าจะชวนดลธรรมไปร้านหนังสือเขาก็รับโทรศัพท์เสียก่อน

ดลธรรมกลับมาอีกครั้ง สีหน้าของเขาดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่

“มีอะไรหรือเปล่าครับพี่โดม”

“เพื่อนพี่มีปัญหานิดหน่อย พาลินกลับเองได้ใช่ไหม”

“ได้ครับ พี่โดมมีอะไรให้ช่วยไหม” พาลินถามแล้วก็อยากจะเขกหัวตัวเองเพราะอย่างเขาจะไปช่วยใครได้

“ไม่เป็นไรพี่คิดว่าคงไม่หนักมาก พี่ไปก่อนนะ เดินคนเดียวได้ใช่ไหม”

“สบายมากครับพี่ ไม่ต้องห่วง”

ดลธรรมรีบวิ่งมายังลานจอดรถ ก่อนจะรีบขับตรงไปยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่งด้วยความร้อนใจ

มาถึงก็ตรงไปยังแผนกฉุกเฉินทันที

“คุณคะ เข้าไปไม่ได้นะคะ” พยาบาลวัยกลางคนรีบเดินมาห้ามเมื่อดลธรรมจะเดินเข้าไปด้านใน

“ผมมาหาเพื่อนครับ เขาอยู่ในนั้น”

“เพื่อนคุณชื่ออะไรคะ ฉันจะช่วยเข้าไปดูให้”

“ปณิชญาครับ เพื่อนผมชื่อปณิชญา”

คุณพยาบาลเดินเข้าไปในห้องไม่นานก็กลับออกมาบอกเขาว่าคนที่เขากำลังตามหานั้นตอนนี้ไปนั่งรอรับยาอยู่ที่หน้าห้องจ่ายยาแล้ว

“ขอบคุณครับ” ดลธรรมเดินไปที่หน้าห้องจ่ายยาก็เห็นว่าคนที่เขารีบร้อนมาหานั้นไม่ได้เป็นอะไรมากเลยสักนิด

“พี่โดม” ปณิชญาหรือโอปอดีใจที่เห็นดลธรรมรีบมาหา

“ไหนว่าเจ็บหนัก” เขาถามคนที่มีผ้าก็อซปิดแค่ปลายคางอย่างไม่เข้าใจ

“ก็ถ้าโอปอบอกว่าเป็นแค่นี้พี่จะมาหาเหรอคะ”

“ทำแบบนี้เพื่ออะไร”

“ไปหาที่นั่งคุยกันหน่อยได้ไหมครับ ที่คอนโดพี่ก็ได้”

“ร้านกาแฟตรงนั้นก็น่าจะได้ จะคุยไหม ถ้าจะคุยก็ตามมา” เขาเดินตรงไปยังร้านกาแฟของโรงพยาบาลที่ตอนนี้มีคนนั่งอยู่ในร้านแค่สองคน

ปณิชญารับยาแล้วก็เดินตามเขามาด้วยรอยยิ้ม นานแล้วที่ไม่ได้เจอกับดลธรรม นานแล้วที่เขาไม่เห็นหน้าหล่อเหล่าของอดีตคนรัก และตอนนี้เธอก็กำลังคิดว่าจากนี้จะต้องให้ดลธรรมไม่ใช่แค่อดีตอีกต่อไป

“มีอะไรจะคุยกับพี่ ว่ามาสิ”

“โอปอกำลังจะเลิกกับเขาแล้วนะคะ” เธอเพิ่งทะเลาะกับสามีและคิดว่าครั้งนี้คงจะเลิกกันจริงๆ หลังจากทะเลาะกันมาหลายครั้งแล้ว

“แล้วมาบอกพี่ทำไม”

“โอปออยากกลับไปเป็นเหมือนเดิม” ปณิชญาไม่อยากอ้อมค้อม

“แต่พี่ไม่อยาก” ครั้งหนึ่งเคยรักมาก เคยอยากให้ชีวิตด้วยแต่ตอนนี้เขากลับไปเป็นแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว

“พี่โดมอย่าทำเป็นใจแข็ง โอปอรู้นะตั้งแต่เลิกกันพี่ก็ไม่มีคนอื่นเลย พี่รอโอปออยู่ใช่ไหมคะ”

“พี่ไม่มีคนอื่นก็จริง แต่ไม่ใช่เพราะพี่รอโอปอหรอกนะ”

“แล้วเพราะอะไรล่ะคะ”

“เพราะพี่มีความสุขที่อยู่คนเดียวไงล่ะ”

“พี่โดมมีความสุขแน่เหรอ พี่ลืมเรื่องของเราได้จริงๆ เหรอคะ”

“แล้วที่เห็นอยู่ตอนนี้พี่มีความสุขไหมล่ะ”

“ใครจะรู้ว่าที่พี่ยิ้มก็แค่ปิดความเศร้า” หญิงสาวพูดเข้าข้างตัวเอง เพราะตอนที่เลิกกันเธอจำได้ว่าดลธรรมเสียใจมากแค่ไหน

“พี่จะทำอย่างนั้นทำไม”

“พี่โกรธโอปอเหรอที่เลือกคบกับเขาเลือกแต่งงานกับเขา”

“ตอนแรกโกรธ ตอนนี้ไม่คิดอะไรแล้ว”

“แต่พี่ก็รีบมาหาโอปอ ตอนที่โทรบอกว่าเจ็บหนัก”

“ก็เพราะพี่ยังเห็นว่าเราเป็นน้องไงล่ะ อีกอย่างก็เห็นแก่พี่ปรานต์”

“แค่น้องเหรอ พี่คิดแค่นั้นจริงๆ ใช่ไหมคะ”

“อือ คิดแค่นั้น มันจบไปนานแล้วโอปอ อย่าคิดจะกลับมายังไงมันก็เป็นไปไม่ได้” ดลธรรมได้บอกว่าตอนนี้เขาไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว

“โอปอจะทำให้พี่เปลี่ยนใจ”

“อย่าเลย มันจะเสียเวลาเปล่า พี่ไปก่อนนะเจ็บแค่นี้คงดูแลตัวเองได้” อีกเหตุผลหนึ่งที่ดลธรรมรีบมาโรงพยาบาลก็เพราะเห็นแก่ปรานต์พี่เขยของเขาเนื่องจากเธอเป็นน้องสาวของพี่ปรานต์ เขาจึงเห็นว่าปณิชญาเป็นญาติอีกคน

“ไปส่งโอปอหน่อยได้ไหมคะ” ปญิชญาทำเสียงอ้อนอย่างที่เคยทำ แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้ดลธรรมจะไม่ได้ใจอ่อนอย่างเคย

“เรียกแท็กซี่ก็ได้มั้ง”

“โอปอไม่มีเงิน”

ดลธรรมวางธนบัตรสีเทาลงบนโต๊ะก่อนจะเดินออกไปโดยไม่คิดจะหันมามอง เขาเลยไม่รู้ว่าตอนนี้ปณิชญามองตามหลังด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าเสียดายมากแค่ไหน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พาลินโดรม   33.รักผมเพราะเซ็กซ์หรือเปล่า (จบ)

    สัมผัสที่เร่าร้อนของเรียวปากหยักจูบแลกลิ้นกันอยู่อย่างนั้น พาลินหลงใหลไปกับรสจูบที่คนรักมอบให้ สองมือดันผนังห้องน้ำเอี้ยวคอมาจูบ สะโพกกลมขาวกดแนบชิดกับท่อนเอ็นร้อนเสียงคนพี่ครางในลำคอ เขาอยากกลืนกินคนช่างยั่วตั้งแต่เห็นรูปที่ส่งไปให้ ดลธรรมไม่ลังเลเลยที่จะรีบขับรถกลับมาที่คอนโด แล้วเขาก็ไม่ผิดหวังเมื่อรู้ว่าพาลินกับเขาต่างมีความต้องการเหมือนกัน“พาลินยั่วพี่เองนะครับ”“ถ้าน้องยั่วแล้วพี่ไม่อยากพี่จะกลับมาเหรอ”“นั่นยั่วอีกแล้ว”“น้องยั่วแล้วพี่อยากไหม”“ไม่ยั่วก็อยากครับ ยันผนังไว้นะครับพี่จะลงโทษคนยั่วแล้ว”ดลธรรมจูบไซร้ไปตามท้ายทอยและซอกคอ กัดติ่งหูคนด้านหน้าเบาๆ เพราะเป็นจุดอ่อน แค่นั้นพาลินก็ร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งตัวฝ่ามือร้อนไล้ไปทั้งแผงอกบีบคลึงเบาๆ บนยอดสีสวย สะโพกก็กดลงไปยังบั้นท้าย เสียงหวานครางแผ่วเบา สะโพกแอ่นโค้งเด่นคนตัวโตกดครีมอาบน้ำสูตรอ่อนโยนลงบนปลายนิ้วกลางจากนั้นลากไปตามช่องทางสีสวยกดลงไปช้าๆ ค่อยเพิ่มจำนวนนิ้วเป็นสองและสาม พาลินครางสะท้านรู้สึกถึงความคับแน่นที่กำลังนวดผนังด้านใน“อื้อ...พี่”เขาสะดุ้งเมื่อจุดอ่อนไหวด้านในถูกกระตุ้นเพียงแค่นั้นตัวตนของเขาก็ปวดหนึบ ม

  • พาลินโดรม   32.Peppa Pig

    หลังจากตรวจเสร็จและรับยาแล้วรถกระบะคันเดิมก็มาส่งดลธรรมและพาลินที่สนามบิน“พี่หน้าผมยังมีผื่นอยู่ไหม”“ยังมีอีกนิดหน่อย ใส่มาสก์ไปก่อน”“หมอบอกว่าเดี๋ยวมันก็หายไงครับ”“มันต้องใช้เวลาไง เดี๋ยวกลับถึงกรุงเทพถ้าผื่นยังไม่ยุบลงพี่จะพาไปหาหมออีกรอบ”“ไม่เอาแล้วไม่หาแล้ว ไปอีกก็โดนฉีดยาอีก”พาลินทานยาแก้แพ้ตั้งแต่อยู่บนเขาแต่พอมาถึงโรงพยาบาลผื่นก็ยังไม่หายและดูเหมือนจะขึ้นมากกว่าเดิมหมอเลยต้องฉีดยาเพราะมันได้ผลเร็วกว่า รวมถึงให้ยาทาแก้คันมาด้วยตอนนี้พาลินเลยสีชมพูไปทั้งตัว ยังดีที่เขามีเสื้อคลุมแขนยาวเลยไม่ค่อยอายคนเท่าไหร่แต่ที่ต้องอายก็คงจะเป็นคนที่นั่งอยู่ข้างเพราะเขาเป็นคนทายาให้กับตนเองทั้งตัว“ยามันง่วงเดี๋ยวขึ้นเครื่องเราจะหลับเลยก็ได้ ถึงแล้วพี่จะปลุกเอง”“บินนานไหมครับ” เพราะขามาเขานั่งรถมาเพื่อนๆ เลยไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่“ไม่นานครับ ประมาณชั่วโมงหนึ่งครับ หลับแป๊บเดียวก็ถึงกรุงเทพแล้ว”“ผมหวังว่าถึงกรุงเทพแล้วผมจะหายนะ”“แต่พี่ว่าอย่าเพิ่งหายเลย ชมพูไปทั้งตัวแบบนี้ก็น่ารักดี”“ไม่ตลกนะครับพี่ มันคันไปทั้งตัวเลย”“อดทนอีกนิดนะครับ ถึงคอนโดจะเอาน้ำเย็นเช็ดให้”พอขึ้นเครื่อง

  • พาลินโดรม   31.ผมเอาอาหารมาส่ง

    ดลธรรมไม่อยากให้พาลินพลาดการเข้าค่ายอาสาซึ่งเป็นกิจกรรมที่ชายหนุ่มทำมาทุกปีตั้งแต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย และถ้าปีสุดท้ายมาได้เข้าร่วมคงจะเป็นอะไรที่น่าเสียดายมากถึงแม้จะทั้งหวงทั้งห่วงแต่เขาก็ไม่อยากพรากความทรงจำในวัยเรียนของคนรัก และนั่นก็คือเหตุผลที่ตอนนี้เขามานั่งอยู่ข้างคนขับรถกระบะสีประตูขับเคลื่อนสี่ล้อซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังจุดที่นักศึกษามาออกค่ายเดิมทีก็ตกลงจะมาด้วยกัน แต่เพราะเขามีงานที่ยังเคลียร์ไม่เรียบร้อยจึงต้องยอมปล่อยให้คนน้องมาเข้าค่ายกับเพื่อนพาลินงอนนิดหน่อยที่เขาไม่ทำตามที่พูด แต่ก็ตัดสินใจมากับเพื่อน เพราะอยากใช้ชีวิตในช่วงเรียนมหาวิทยาลัยให้คุ้มค่าที่สุด ส่วนตัวเขาก็รีบเคลียร์งานแล้วตามมาทีหลังโดยไม่ได้บอกพาลินแค่สองสามที่ต้องนอนอยู่คนเดียวเขาก็ทรมานเกินไปแล้ว“อันที่จริงมันก็ไม่ไกลหรอกนะครับ แต่ทางมันค่อนข้างลำบากมันเลยดูเหมือนไกล” เสียงคนขับรถกระบะทำให้เขาหลุดออกจากภวังค์“ครับ”ดลธรรมให้ลูกน้องที่บริษัทซึ่งบังเอิญเป็นคนพื้นที่ช่วยติดต่อเช่ารถพร้อมคนขับไปส่งที่หมู่บ้านบนเขาชายหนุ่มนั่งเครื่องมาลงที่สนามบินพิษณุโลกตั้งแต่เช้าจากนั้นก็ให้คนขับรถพาไปซื้อไก่ทอด โด

  • พาลินโดรม   30.ไม่ต้องทุกครั้งก็ได้ nc

    ดลธรรมและพาลินย้ายกลับมาอยู่ที่คอนโดเพราะอยากให้มารดาได้ทำความรู้จักและปรับตัวกับเบจิงได้มากขึ้นแต่เขากับพาลินก็ยังแวะไปทานอาหารเย็นด้วยอยู่บ่อยๆ ดูเหมือนว่าเบจิงจะเข้ากันได้ดีกับคุณยายของตนเองแม้พาลินจะมีรถเป็นของตัวเองแล้ว แต่ดลธรรมก็ยังมารับส่งที่มหาวิทยาลัยเป็นบางวัน“พี่โดม ขอโทษทีครับคุยกับเพื่อนนานไปหน่อย”“ไม่เป็นไร แล้วตกลงเอาไงเราจะไปค่ายกับเพื่อนไหม” ช่วงวันหยุดยาวติดกันชมรมค่ายอาสาจะพากันไปออกค่ายที่พิษณุโลก“กำลังตัดสินใจอยู่ครับ”“ทำไมดูตัดสินใจยากจัง แต่ก่อนเห็นตื่นเต้นจะไป”“ก็ตอนนั้นยังไม่มีแฟน ตอนนี้มีแฟนแล้วติดแฟนครับ”“ฟังคำตอบแล้วชื่นใจจัง”“ถ้าผมไปพี่จะคิดถึงผมไหม”“ถ้าเราไปพี่ก็ไปด้วยครับ ไม่อยากนอนคนเดียว”“ถ้าผมไม่ไปก็เหมือนจะเอาเปรียบคนอื่นอยู่ที่ไม่ช่วยออกแรงอะไรเลย”“แต่พี่ก็ช่วยเรื่องคอมไปตั้ง 10 ชุดแล้วนะครับ”“นั้นมันส่วนของพี่ แต่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย”“ถ้าอยากรู้สึกมีส่วนร่วมกับคอมห้าชุดนั่นก็แค่..”“แค่อะไรครับ” พาลินหันมามองคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย พอเห็นหน้าเขาก็เดาออกทันทีว่าตอนนี้สิ่งที่คนพี่ต้องการคืออะไร เพียงแค่คิดพาลินก็หน้าแดงขึ้นมาทันที“นานเ

  • พาลินโดรม   29.ย่ากับยาย

    คุณแพรเพ็ญและจอห์นสามีใหม่บินกลับมาทันทีหลังจากดลธรรมโทรไปบอกว่าย่าของเบจิงจะพาเบจิงไปอยู่ด้วยเธอเสียลูกสาวไปคนหนึ่งแล้วจึงไม่อยากจะเสียหลานชายไปอีกคน เพราะรู้ว่าที่ฝ่ายนั้นอยากพาเบจิงไปก็เพื่อต่อรองกับดลธรรมให้รับผิดชอบเด็กในท้องของปณิชญาเท่านั้น“คุณยายครับ ตาจอห์นบอกว่าที่บ้านตามีหิมะด้วยจริงไหมครับ”“จริงสิ เบจิงอยากไปดูหิมะไหม”“อยากไปครับ แต่เบจิงต้องไปโรงเรียนคงไปกับคุณยายไม่ได้”“ที่นั่นก็มีโรงเรียนครับ เดี๋ยวยายจะให้เบจิงดูนะครับว่าโรงเรียนที่นั่นเป็นยังไงบ้าง อยากดูไหมครับ”“อยากดูครับ พี่ลินมาดูด้วยกันไหม” เบจิงเรียกพาลินที่กำลังเดินถือผลไม้จานใหญ่ให้มาดูด้วยกันอีกคนแพรเพ็ญเปิดคลิปแนะนำโรงเรียนประถมในประเทศออสเตรียให้กับหลานชายดู เพราะเธอกับสามีคุยกันแล้วว่าจะรับเบจิงไปอยู่ที่นั่นในฐานะลูกชายของทั้งสองคนดลธรรมก็เห็นด้วยกันมารดาเพราะอยากให้เบจิงมีอนาคตที่ดี ลำพังเขากับพาลินคนดูแลเด็กชายได้ไม่ดีพอแต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับเบจิงว่าอยากจะย้ายไปอยู่ที่นั่นไหม ตอนนี้ทั้งมาลีและป้าสายก็เริ่มฝึกภาษาอังกฤษกับจอห์นเพราะแพรเพ็ญอยากให้สองนั้นย้ายไปอยู่ด้วยกันทุกคนที่นี่เตรียมวางแผนก

  • พาลินโดรม   28.ข้อแลกเปลี่ยน

    สามเดือนแล้วที่แพรรดาจากไปและเบจิงอยู่กับดลธรรมและพาลินในบ้านหลังใหญ่ ชีวิตของเด็กชายกลับมาสดใสอีกครั้ง เสียงหัวเราะดังออกมานอกบ้านจนคนที่เพิ่งมาถึงยิ้มอย่างพอใจ“สวัสดีครับคุณย่า” เบจิงยกมือทักทายผู้เป็นย่าที่เจอกันครั้งสุดท้ายในงานศพของผู้เป็นมารดา“น้าชายเราไปอยู่ไหนแล้วล่ะ”“มีธุระอะไรกับผมเหรอครับแม่” ดลธรรมยังเรียกเธอว่าแม่อย่างเดิมเพราะอยากให้เกียรติในฐานะที่เธอเป็นย่าของเบจิงเขาค่อนข้างแปลกใจที่คุณปราณีมาหาถึงที่บ้าน เพราะตลอดหลายเดือนมานี้ท่านไม่เคยแวะมาที่นี่เลยสักครั้ง“แม่เรากลับไปแล้วใช่ไหม” คุณปราณีถามถึงแพรเพ็ญ“เพิ่งบินกลับไปสองวันก่อนมีธุระอะไรกับท่านหรือเปล่าครับ”“เปล่า แม่แค่อยากคุยกับโดมสักหน่อย”“ได้ครับ เบจิงไปหาพี่ลินก่อนนะครับน้าขอไปคุยธุระกับคุณย่าก่อน”“ครับน้าโดม”ชายหนุ่มพาคุณปราณีมายังห้องทำงานของตนเองที่ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นของพี่สาวและพี่เขย“โดม แม่จะคุยกับเราเรื่องเบจิง”“มีอะไรเหรอครับ“แม่จะพาเบจิงไปอยู่ด้วย”“แต่เบจิงอยู่กับผมก็มีความสุขดี แม่ก็เห็นว่าเขากลับมาร่าเริงแล้ว”“แต่แม่อยากให้หลานไปอยู่กับแม่”“ผมว่าแม่ไม่มีสิทธิ์จะทำแบบนั้นนะครับ“มีสิ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status