ติ้ง…
xxx-x-x0000-x จำนวน 100,000 บาท… กึกก เธอมองการแจ้งเตือนเงินเข้าผ่านหน้าจอโทรศัพท์ที่เด้งขึ้นมาเมื่อครู่อย่างอึ้งๆ ก่อนจะหันไปมองรามิล ไม่บอกก็รู้ว่าเงินจำนวนนี้มาจากใคร ไม่คาดคิดว่าเขาจะโอนเงินจำนวนนี้มาจริงๆ ที่พูดไปเพียงแค่อยากทำให้เขารำคาญและเบื่อหน่ายกับความหน้าเงินของเธอ ทว่าเขากลับโอนมาจริงๆเสียนี่ เงินใครจะไม่อยากได้บ้าง แต่กรณีนี้คงโอนกลับคืน ถ้ารับมาเท่ากับคืนนี้เธอต้องไปกับเขา “เอาเลขบัญชีคุณมา ฉันจะโอนคืน” “ไม่ต้องคืน แต่ไปกับฉัน” “ฉันไม่รับงานแล้ว” “แค่ไปดื่ม” “เหอะ! แค่ไปดื่มถึงกับต้องโอนมาแสนนึงเลยเหรอคะ” “เธอเป็นคนเสนอมาเอง” “ฉันประชด” “ไปดื่มกับฉัน” “ฉันยังไม่เลิกงาน” “ฉันรอเธอได้” เธอถอนหายใจเบาๆ นอกจากช่างตื้อแล้วยังเอาแต่ใจตัวเองอีกด้วย ถ้าแค่ดื่มเธอสามารถไปนั่งดื่มกับเขาได้ กลัวมันจะไม่จบแค่นั้นน่ะสิ กลัวจบลงที่เตียงเหมือนคืนนั้น… “ตกลง แต่ฉันไม่รับเงินของคุณ” “ทำไม” ทำตัวเหมือนร้อนเงิน แต่พอมีคนยื่นเงินมาให้กลับปฏิเสธ เขาเดาผู้หญิงคนนี้ไม่ออกเลยจริงๆ “เพราะฉันเองก็มีเรื่องจะคุยกับคุณเหมือนกัน ฉันเลิกงานสี่ทุ่ม เราจะเจอกันที่ไหน” “เธอทำงานที่ไหน เดี๋ยวไปรับ” “ร้านอาหารA ใกล้ๆกับไนต์คิงส์” “โอเค” “เอาเลขบัญชีของคุณมา” “ค่อยว่ากันตอนเจอกัน” เขาเป็นฝ่ายตัดจบบทสนทนา หันหลังแล้วเดินกลับเข้าไปในไนต์คลับ อันดามองตามแผ่นหลังแกร่งของรามิลกระทั่งหายเข้าไปข้างใน ก้มมองจำนวนเงินที่อีกฝ่ายโอนเข้ามาแล้วได้แต่ถอนหายใจ ก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าแล้วเดินออกไป รามิลกลับมาหาเพื่อนที่โต๊ะ หย่อนตัวนั่งลงที่เดิมของตัวเอง “สูบบุหรี่นานจังวะ” เคียนติถาม “ไปนานๆแบบนี้มีอยู่อย่างเดียว” คิระพูดขึ้นมาเสียงเรียบ ไม่เจอผู้หญิงถูกใจแล้วดีลก็มีผู้หญิงเข้ามาคุยด้วย ส่วนใหญ่เห็นแต่มีผู้หญิงเข้าหารามิล น้อยมากที่เพื่อนของตนจะเป็นฝ่ายเข้าหาผู้หญิง ถ้าไม่ถูกใจและอยากได้จริงๆ เสือตัวนี้ไม่เคยเข้าหาเหยื่อก่อน เพราะปกติเหยื่อมักวิ่งเข้ามาติดกับเสียเอง… “คนไหนวะ” เคียนติถามด้วยความอยากรู้ “ยังบอกตอนนี้ไม่ได้ว่ะ เพราะคนนี้แม่งโคตรยากเลย” คิระและเคียนติมองหน้ากัน ก่อนจะหันไปมองรามิลที่กำลังยกแก้วน้ำสีเหลืองอำพันขึ้นดื่มพลางยกยิ้มมุมปาก “ยากกว่าทุกคนที่ผ่านมาของมึง?” “อือ แต่อะไรที่ได้มายากๆ กูโคตรอยากได้เลยว่ะ” “ใครคือผู้หญิงที่โชคร้ายคนนั้น” เคียนติพูด เพราะรู้จักนิสัยของเพื่อนสนิทดีว่าเป็นคนแบบไหน ผู้หญิงคนไหนหลวมตัวเข้ามาอยู่ในความสัมพันธ์กับรามิลหรือเผลอใจให้ พอเดาได้ทันทีว่าจุดจบของผู้หญิงคนนั้นจะเป็นอย่างไร คนที่เสียใจและเจ็บปวดคือคนที่เป็นฝ่ายรู้สึก… “ทำอะไรก็นึกถึงความรู้สึกเขาด้วยละคุณหมอ” “ครับผมไลฟ์โค้ชทั้งหลาย” เคร้ง! ทั้งสามคนยื่นแก้วเครื่องดื่มมึนเมาชนกัน ก่อนจะต่างคนต่างยกขึ้นกระดกจนหมดแก้ว “กูอยู่ด้วยถึงสี่ทุ่มนะ” “มึงจะไปไหน” “มีธุระ” “กูว่านัดเด็กไว้ชัวร์” เคียนติหันไปพูดกับคิระ “คราวนี้ใครล่ะ” “ความลับ” “กูสงสารผู้หญิงคนนั้นจริงๆเลยที่มาเจอมึง” คิระพูด รามิลไม่ตอบอะไรเพียงแค่ยกยิ้มเท่านั้น ชินแล้วกับคำพูดกระแนะกระแหนของเพื่อนสนิท สิ่งเดียวที่กำลังสนใจตอนนี้ก็คือ… เรื่องอันดา ••• “กลับก่อนนะคะพี่เพย์” “กลับดีๆนะอันดา” อันดาเดินออกจากร้านหลังจากบอกลากับเจ้าของร้านอาหารที่ตัวเองทำงานเสร็จ ยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูพบว่าตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มกับอีกสิบห้านาที ก้าวออกจากร้านอาหารเพื่อเตรียมกลับบ้าน เพราะความเหน็ดเหนื่อยทำให้เผลอลืมไปเลยว่านัดกับรามิลเอาไว้ รู้ตัวว่ามีนัดต่อก็ตอนที่เดินออกจากร้านอาหารแล้วเห็นรามิลยืนพิงรถหรูรออยู่ ความหล่อบวกกับออร่าของคนรวยทำให้รามิลกลายเป็นจุดสนใจจากคนรอบข้าง ลืมสนิทเลยว่ามีนัดกับเขา “รอนานไหมคะ” “ไม่นาน ขึ้นรถสิ” เธอมองรถหรูราคาคันละสิบล้านของเขา นี่คงเป็นครั้งแรกที่เธอได้นั่งรถราคาแพงๆแบบนี้ แถมเจ้าของรถยังเปิดประตูให้อีกด้วย “ขอบคุณค่ะ” เธอหันไปพูดกับเขา ก่อนจะก้าวเข้าไปนั่งในรถหรู แอบเกร็งอยู่เหมือนกัน ไม่เคยนั่งรถราคาแพงขนาดนี้มาก่อน วางตัวไม่ถูกและไม่กล้าขยับตัวเยอะ กลัวทำส่วนใดส่วนหนึ่งของรถเขาเป็นรอยเข้าแล้วจะลำบาก ความจริงไม่ได้อยากมากับรามิลเท่าไรนัก แค่อยากคุยเรื่องนี้กับเขาให้จบๆ ไม่อยากให้เขาตามตื้อเธอเหมือนที่ผ่านมา “เราจะไปดื่มที่ไหนคะ” “เพนท์เฮาส์ของฉัน” หัวใจเธอกระตุกวูบกับคำตอบ คืนแรกที่เจอกันรามิลพาเธอไปดื่มที่โรงแรมหรูระดับห้าดาว ส่วนคืนนี้…พาเธอไปเพนท์เฮาส์ของตัวเองเลยหรือ เริ่มไม่แน่ใจแล้วสิว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่ยอมตกลงไปกับเขา “ทำไมต้องเพนท์เฮาส์ของคุณ” “กลัว?” “เปล่าค่ะ แค่สงสัย” “งั้นก็สงสัยต่อไป” ปกติแล้วเขาไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนไปเพนท์เฮาส์ของตัวเอง เพื่อป้องกันความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นตอนไหนก็ได้ เพราะอันดาไม่เหมือนผู้หญิงที่เขาเคยเจอ เธอเลยได้รับสิทธิพิเศษมากกว่าคนอื่น “ตอนโอนเงินแสนมาให้คุณคิดอะไรอยู่” “อยากได้…” เธอหันขวับไปมองรามิลทันที จังหวะรถหยุดไฟแดงเขาเริ่มหันหน้ามามองเธอ “อยากได้เธอ” ตรงดีเหมือนกัน… รามิลไม่พูดอ้อมค้อมแต่พูดในสิ่งที่คิดกับเธอตรงๆ ชอบนะคนพูดตรงๆ แต่บางเรื่อง…ตรงมากไปก็ไม่ดี “คืนนี้แค่ดื่มค่ะ แค่ดื่ม” เธอย้ำชัดเจน มุมปากหยักของคุณหมอหนุ่มเหยียดไปด้านข้างกับประโยคนั้นของอันดา รถหรูเริ่มออกตัวเมื่อสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว บรรยากาศในรถเต็มไปด้วยความเงียบ ต่างคนต่างเงียบไม่มีใครปริปากพูดอะไร รามิลไม่เท่าไร อันดานี่สิที่กำลังอึดอัดกับความเงียบนี้ “อีกนานไหมคะกว่าจะถึง” เธอพูดเพื่อทำลายความเงียบที่กำลังปกคลุมอยู่ “ใกล้ถึงแล้ว ทำไม? ทนไม่ไหวแล้วเหรอ?” “เปล่าค่ะ ฉันแค่ปวดฉี่” อ้างไปอย่างนั้นแหละ เธอแค่หาเรื่องพูดเพื่อทำลายความเงียบเท่านั้น ไม่นานก็มาถึงจุดหมาย เธอตะลึงกับย่านเพนท์เฮาส์ที่รามิลอาศัยอยู่ ย่านนี้คนรวยอยู่เยอะมาก ราคาเพนท์เฮาส์ไม่ต้องพูดถึงเพราะแพงหูฉี่แน่นอน ต่ำๆร้อยล้านขึ้นได้ มหาเศรษฐีชัดๆไรอันและมีญ่าหัวเราะเบาๆ ให้กัน ก่อนที่ทั้งสองจะหยิบแหวนแต่งงานออกมา ค่อยๆ สวมให้กันและกัน เมื่อแหวนบนนิ้วนางข้างซ้ายของทั้งคู่ส่องประกายภายใต้แสงอาทิตย์ ไรอันยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วก้าวเข้าไปใกล้เจ้าสาวคนสวย มีญ่าเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาสั่นระริก แต่ยังไม่ทันที่เธอจะตั้งตัว เขาก็โน้มตัวลงประกบจูบอ่อน
ใครจะเชื่อว่าเธอถูกขอแต่งงานแล้ว… มีญ่านั่งอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ภายในห้อง ดวงตากลมโตคู่สวยจับจ้องไปยังแหวนเพชรบนนิ้วนางข้างซ้าย ราวกับว่ายังไม่อยากเชื่อว่าสิ่งนี้เป็นของเธอจริงๆ แสงไฟในห้องสะท้อนกับเพชรเม็ดงามจนเป็นประกายระยิบระยับ แต่มันกลับไม่สว่างไสวเท่าความรู้สึกในหัวใจของเธอ เธอถูกขอแต่งงานแล้
ท้องฟ้าในวันนี้สดใสเป็นพิเศษ แสงแดดอบอุ่นแต่ไม่ร้อนจนเกินไป สายลมเอื่อยๆ พัดผ่าน สร้างบรรยากาศรื่นรมย์ให้กับพิธีพระราชทานปริญญาบัตรที่จัดขึ้นอย่างเป็นทางการ มีญ่าอยู่ในชุดครุยเต็มยศ วันนี้เป็นวันที่เธอรอคอยมาโดยตลอด วันที่ความพยายามของเธอสัมฤทธิ์ผล รอยยิ้มสดใสแต่งแต้มบนใบหน้าขณะเธอเดินไปหาครอบครัวท
“ครับ พี่ตั้งใจทำให้มีญ่า” “มีญ่าไม่รู้จะพูดอะไรเลย…” “ไม่ต้องพูดอะไรก็ได้ แค่มีญ่ามีความสุขพี่ก็ดีใจแล้ว” ไรอันดึงเก้าอี้ออกให้แฟนสาวนั่ง ส่วนตัวเองเดินไปดึงเก้าอี้ข้างๆ มีญ่าออกแล้วนั่งลง “ลองชิมดูสิ ฝีมือพี่พอใช้ได้ไหม” มีญ่ายิ้มบางๆ ก่อนจะหยิบมีดขึ้นมาหั่นสเต๊กชิ้นพอดีคำแล้วใช้ส้อมจิ้มเข้าป
บรรยากาศในคอนโดหรูวันนี้ของไรอันแตกต่างไปจากทุกวัน กลิ่นหอมอ่อนๆ ของวานิลลาลอยคลุ้งไปทั่วห้องครัว คุณหมอหนุ่มที่อยู่ในชุดลำลองสบายๆ ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ครัว มือหนากำลังจับตะกร้อมือคนส่วนผสมของแป้งเค้กในอ่างผสมอย่างตั้งใจ “ให้ตายสิ ทำไมมันเหลวแบบนี้วะ…” เขาพึมพำกับตัวเองพลางขมวดคิ้วมองแป้งที่ดูเหมื
มีญ่าเงยหน้าขึ้นสบตาเขา ดวงตาคู่นั้นสะท้อนภาพของเธอเอาไว้ทั้งหมด “คะ?” “อย่ากอดพี่แน่นแบบนี้สิ” “ทำไมล่ะคะ?” เธอย้อนถามอย่างไม่เข้าใจ ไรอันไม่ตอบ แต่ดวงตาคมกริบที่มองเธออยู่กลับทำให้หัวใจของมีญ่ากระตุกวูบ ราวกับถูกดึงดูดให้จมดิ่งลงไปในห้วงอารมณ์บางอย่างที่ร้อนระอุขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว ปลายนิ