"ผมรักพลอยใสเหมือนน้องสาวเท่านั้นครับไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่น" ธารารีบบอกคนเป็นนายออกไปทันที “ก็ดี ต่อไปจะได้ไม่เสียการปกครอง” “ครับ สมภารย่อมไม่กินไก่วัด..เดี๋ยวจะเสียการปกครอง” เข้าถ้ำเสือในฐานะเหยื่อก็ต้องยอมเป็นผู้ถูกล่า คิดจะเป็นเสืออย่าใจดีกับเหยื่อจนเกินไป
Lihat lebih banyakตอนที่ 1 เข้าถ้ำเสือ
บ้านเด็กกำพร้า
ห้าปีก่อน
“พลอยใสเสร็จหรือยังวันนี้มีผู้ใหญ่ใจดีจะมาเลี้ยงขนมและมีของเล่นมาแจกพวกเรานะ ตอนนี้แม่แก้วเรียกให้ไปรวมกันที่โรงอาหาร ไปกันเถอะเดี๋ยวเราค่อยมาล้างกันต่อ” เสียงเรียกของเพื่อนรุ่นเดียวกันในขณะที่พลอยใสยังคงทำหน้าที่ไม่เสร็จเพราะวันนี้เป็นเวรทำความสะอาดห้องน้ำของเธอและเพื่อน
“ไปก่อนได้เลยจ้ะ พลอยล้างพื้นใกล้เสร็จแล้วเดี๋ยวพลอยรีบตามไป” เสียงเล็กตะโกนบอกเพื่อนที่กำลังทำความสะอาดอยู่อีกห้องหนึ่ง
“ถ้าอย่างนั้นเราไปก่อนนะ พลอยอย่าช้าล่ะเดี๋ยวแม่แก้วดุเอา” แก้มใสเด็กหญิงวัยเดียวกันตะโกนกลับมา
“จ้า เดี๋ยวพลอยจะรีบตามไป” พลอยใสส่งเสียงออกมาจากห้องน้ำ หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของเพื่อนวิ่งออกไปจากบริเวณนั้น หลังจากเพื่อนของเธอวิ่งไปรวมกับเด็กคนอื่นที่โรงอาหารพลอยใสจึงรีบจัดการหน้าที่ของตนเองให้แล้วเสร็จเพื่อจะได้รีบตามเพื่อนไป
“นายมีเรื่องอะไรจะคุยกับคุณแก้วไหมครับผมจะได้ให้คนของเราจัดเตรียมห้อง” ธารามือขวาคนสนิทของชาร์วี ไลก้า ฮาร์เปอร์ เอ่ยถามผู้เป็นนายเมื่อรถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวมาจอดบริเวณบ้านเด็กกำพร้าที่มาเฟียหนุ่มอุปถัมภ์อยู่
“ไม่ต้อง วันนี้แค่มามอบขนมและของเล่นเท่านั้น จัดการให้คนเอาของไปให้คุณแก้วแจกเด็ก ๆ ได้เลยฉันขอเดินดูรอบ ๆ สักหน่อย” เสียงเรียบบอกความประสงค์ชัดเจน เท้ายาวก้าวลงจากรถเดินมุ่งหน้าไปยังด้านหลังของสถานสงเคราะห์ซึ่งเป็นโซนพักผ่อนของเด็ก ๆ
“ครับนาย จัดการขนของเข้าไปแจกเด็ก ๆ ข้างในได้เลย” ธาราหันไปสั่งเหล่าบอดี้การ์ดที่ตามมาอีกหลายคน ก่อนจะเดินตามผู้เป็นนายที่ตอนนี้เดินนำหน้าห่างออกไป
“เสร็จสักที” พลอยใสพูดขึ้นมาคนเดียวเมื่อล้างห้องน้ำเสร็จเรียบร้อย พร้อมยืนยิ้มกับผลงานของตัวเอง ตอนนี้ห้องน้ำที่เธอล้างนั้นสะอาดหมดจด ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ทุกคนคงไปรวมตัวกันที่โรงอาหารกันหมดแล้วคงเหลือเพียงตัวเธอเท่านั้น คิดได้ดังนั้นเด็กหญิงก็รีบจัดการเก็บอุปกรณ์ที่ใช้ทำความสะอาดเข้าที่อย่างรวดเร็วและรีบวิ่งไปสมทบกับเพื่อน ๆ
ตึก! ตึก! ตึก!
เสียงฝีเท้าที่กำลังวิ่งตามทางเดินจากด้านหลังไปยังโรงอาหารด้านหน้า เร่งความเร็วเท่าที่เด็กหญิงวัยแปดขวบจะทำได้ โดยไม่ทันมองว่าข้างหน้าเธอนั้นมีชายหนุ่มร่างกำยำกำลังเดินขวางทางอยู่กลางถนน
“โอ๊ย!!” เด็กหญิงร้องออกมาทันทีที่รู้สึกถึงการกระแทกกับบางสิ่งจนตัวเธอกระเด็นและล้มลงกองอยู่ที่พื้น หัวเข่าที่กระแทกกับพื้นปูนจนถลอกตอนนี้กำลังมีเลือดสีแดงสดไหลซึมออกมา รองเท้าแตะคู่เก่ากระเด็นออกไปคนละทิศคนละทาง เด็กหญิงเงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อยแต่ก็เพียงแค่ครึ่งตัวของคนที่เธอวิ่งชนเท่านั้น เพราะความที่เริ่มรู้สึกแสบตรงแผลที่ถลอกจึงต้องก้มหน้าลงมองดูแผลของตัวเองก่อนเลยไม่ได้เห็นหน้าคนที่เธอวิ่งชน
ชาร์วีก้มมองดูเด็กน้อยที่วิ่งชนตนเองก่อนจะเหลือบไปเห็นแผลสดที่เริ่มมีเลือดซึมออกมาจากหัวเข่าเล็กนั้น เขาจึงก้มลงไปประคองเด็กน้อยและทำท่าจะอุ้มเธอขึ้นจากพื้น
“ให้ผมจัดการดีกว่าครับนาย” ธาราเอ่ยบอกคนเป็นนาย ชาร์วีมองดูเด็กหญิงหน้าตาจิ้มลิ้มที่เขากำลังประคองอยู่ก่อนจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของธารา
“รีบพาเธอไปทำแผลแล้วเอาตุ๊กตากับขนมมาให้เธอด้วย” เสียงทรงอำนาจบอกมือขวาและบอดี้การ์ดที่ยืนรอรับคำสั่ง ธาราจึงอุ้มพลอยใสไปยังห้องปฐมพยาบาลที่อยู่ไม่ไกลจากโรงอาหาร พลอยใสที่ถูกนำตัวมาห้องพยาบาลก็มีพี่ ๆ ของบ้านเด็กกำพร้าคอยช่วยดูแลและทำแผลให้โดยมีธารายืนดูอยู่ด้วย
“คราวหน้าอย่าวิ่งแบบนี้อีก เดี๋ยวจะเจ็บตัวเหมือนวันนี้” เสียงทุ้มไร้ความอ่อนโยนบอกพลอยใสออกไปเมื่อทำแผลเสร็จเรียบร้อย
“ขอโทษค่ะ คราวหน้าหนูจะระวังกว่านี้ค่ะ” พลอยใสตอบกลับเสียงสั่นเพราะกลัวโดนชายหนุ่มนั้นดุมากไปกว่านี้
“ไม่ต้องกลัวพี่ไม่ได้ดุพี่แค่เตือนเพราะไม่อยากให้เจ็บตัวแบบนี้อีก ถ้าขามีแผลแบบนี้โตมาขาจะไม่สวยเอานะครับ” ธาราบอกเด็กน้อยน้ำเสียงอ่อนลงเมื่อรู้สึกว่าเด็กนั้นกลัวเขาจนตัวสั่น
“ไม่เจ็บแล้วใช่ไหมครับ”
“ไม่เจ็บแล้วค่ะ หนูขอไปเอาขนมและของเล่นกับเพื่อน ๆ ได้ไหมคะ” เด็กน้อยไร้เดียงสาลืมความเจ็บก่อนหน้าเป็นปลิดทิ้งเมื่อนึกถึงขนมและของเล่นที่ผู้ใหญ่ใจดีนำมาแจกในวันนี้
“นั่งรออยู่ตรงนี้แหละเดี๋ยวพี่ให้คนไปเอามาให้” ชายหนุ่มนั่งลงกับขอบเตียงข้าง ๆ เด็กหญิง ฝ่ามือหนายื่นไปปัดกลุ่มผมที่หลุดลงมาบดบังใบหน้า
“ขอบคุณนะคะ พี่ใจดีจังเลยค่ะขอบคุณที่เอาขนมและของเล่นมาให้พวกหนูนะคะถ้าไม่มีคนใจดีแบบพี่พวกหนูคงไม่มีโอกาสได้กินขนมอร่อยและได้ของเล่นแบบนี้” คำพูดขอบคุณที่ธาราสัมผัสได้ว่ามันมาจากใจที่บริสุทธิ์ของเด็กหญิงคนหนึ่ง
“ไม่ต้องขอบคุณพี่หรอกเพราะเจ้าของขนมและของเล่นที่นำมาแจกให้วันนี้เป็นของเจ้านายพี่ คุณชาร์วีที่หนูพึ่งวิ่งชนเขานั่นแหละ เนทไปเอาขนมและของเล่นมาให้เด็กคนนี้ด้วย” ธาราบอกพลอยใสออกไปพร้อมกับหันไปสั่งลูกน้องเสียงเข้ม
“คุณชาร์วี” เสียงเล็กพึมพำกับตัวเอง
“เขาเป็นคนช่วยเหลือหนูและน้อง ๆ ด้วยใช่ไหมคะ” เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเคยได้ยินแม่แก้วเคยพูดถึงเขาให้ฟังอยู่บ่อย ๆ แต่เธอไม่เคยเจอหน้าเขาเลยสักครั้ง ถึงแม้ครั้งนี้เขาจะมาปรากฏตัวที่นี่และเธอเองก็พึ่งวิ่งชนเขามาแต่ก็ไม่ทันได้มองหน้าเธอก็ถูกกลุ่มบอดี้การ์ดกันเธอออกเสียก่อน
“ใช่ครับ คุณชาร์วีเป็นคนอนุเคราะห์สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้” ธาราตอบเด็กน้อยเสียงทุ้มอ่อนโยนขัดกับมาดบอดี้การ์ดมาเฟียใหญ่
“หนูชื่อพลอยใสนะคะ แล้วพี่ชายล่ะคะชื่ออะไร?” พลอยใสยิ้มกว้างถามธาราเมื่อรู้สึกว่าเขาคือคนใจดีไม่น่ากลัวเหมือนหน้าตาภายนอกที่เธอเห็นตอนแรก
“พี่ชื่อธารา เป็นคนติดตามคุณชาร์วีครับ”
“ลูกพี่รักเด็กด้วยเหรอวะ” บอดี้การ์ดที่ติดตามธารามองหน้ากันเมื่อเห็นมุมอ่อนโยนของชายหนุ่มที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
“แล้วคุณชาร์วีใจดีเหมือนพี่ธาราหรือเปล่าคะ” เด็กน้อยถามออกไปด้วยความใสซื่อ
“หึ หึ ครับ คุณชาร์วีเป็นคนใจดี” ธาราที่ได้ยินในสิ่งที่เด็กหญิงถามเขาถึงกับต้องอมยิ้ม เพราะถ้าหากจะบอกความจริงว่าเจ้านายเขานั้นโหดและเถื่อนแค่ไหนก็คงจะไม่ใช่สิ่งที่เด็กคนนี้จะเข้าใจได้ในตอนนี้ พลอยใสที่รู้สึกสนุกที่ได้คุยกับพี่ใจดีก็หมั่นหาเรื่องมาคอยถามจนธารารู้สึกเอ็นดูเป็นพิเศษ
“มึงจะพากลับไปเลี้ยงที่บ้านด้วยเลยไหม” เสียงเรียบดังขึ้นจากทางประตู พลอยใสหันมองตามเสียงนั้นแต่ก็ไม่เห็นว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นใครเพราะมีธารายืนบังสายตาเธออยู่
“เดี๋ยวพี่ต้องไปแล้วนะ ไว้วันหลังมีโอกาสพี่จะแวะมาหาใหม่ หายเร็ว ๆ นะครับ” ธาราขยี้ผมพลอยใสเบา ๆ ก่อนจะเดินตามหลังผู้เป็นนายออกไป ดวงตากลมสวยได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างในระยะไกลจนสุดสายตา
“เป็นยังไงบ้าง” ชาร์วีหันมาถามทันทีที่ธาราเดินมาหยุดอยู่ด้านหลัง
“เรียบร้อยดีครับ” ธารารายงานผู้เป็นนาย
“เรียบร้อยดีคืออะไร” ชาร์วีถามกลับเสียงเข้ม คิ้วหนาได้รูปขมวดเข้าหากันเมื่อได้รับคำตอบจากมือขวาคนสนิท
“ทุกอย่างเรียบร้อยดีไงครับ เด็ก ๆ ได้รับขนมและของเล่นกันครบทุกคน” ธาราขยายความให้คนเป็นนายฟังอีกรอบ
“กูหมายถึงเด็กคนนั้น อาการเป็นอย่างไรบ้าง” ความหงุดหงิดเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อคำตอบที่ได้รับนั้นยังไม่เป็นที่ต้องการ
“ครับ ทำแผลให้เรียบร้อยแล้วครับ”
“ออกรถ” เสียงเข้มตะโกนสั่งออกไปจนบอดี้การ์ดที่ทำหน้าที่ขับรถวันนี้สะดุ้งโหยงรีบลนลานออกรถทันที โดยมีธารานั่งคู่คนขับอยู่ด้านหน้าสีหน้าเรียบนิ่งไม่สะทกสะท้านอะไร
ปัจจุบัน
“แฟ้มประวัติเด็กที่จะต้องย้ายออกจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ทางเราอนุเคราะห์อยู่ครับ” ธาราวางแฟ้มประวัติที่พึ่งไปเอามาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากว่าสิบแฟ้มลงตรงหน้ามาเฟียหนุ่ม
“วันนี้นายจะเข้าไปผับหรือเปล่าครับเห็นไอ้ลุคค์บอกว่าวันนี้คุณฉลามกับคุณมังกรจะเข้ามาดื่มที่ผับครับ”
“ไม่ไปกูมีงานอย่างอื่นสำคัญมากกว่าที่ต้องไปต้อนรับพวกมัน” ชาร์วีตอบกลับเสียงเรียบ มือหนาหยิบแฟ้มประวัติตรงหน้าขึ้นมาเปิดอ่าน ธาราได้รับคำตอบดังนั้นก็เดินกลับออกไปโทรสั่งงานลุคค์ก่อนจะเดินกลับเข้ามานั่งทำงานต่อในห้อง
“รับเด็กสามคนนี้เข้ามาช่วยป้าณีทำงาน ส่วนเด็กที่เหลือจัดการส่งต่อให้มูลนิธิที่จะดูแลต่อด้วย” แฟ้มประวัติสามแฟ้มถูกแยกออกมาจากกองวางไว้อีกฝั่ง
“ครับ” ธาราหยิบแฟ้มทั้งสามมาเปิดดูว่าหนึ่งในนั้นมีเด็กที่ชื่อพลอยใสหรือไม่
“กลัวไม่มีเด็กมึงหรือไง เริ่มโตเป็นสาวแล้วนี่อีกไม่กี่ปีก็โตเต็มวัย” ชาร์วีพูดขึ้นลอย ๆ เมื่อเห็นสีหน้าโล่งอกที่ลูกน้องเผลอแสดงออกให้เห็นเพียงแว็ปเดียว ชาร์วีได้ยินชื่อพลอยใสบ่อย ๆ ทุกครั้งที่ธาราไปจัดการธุระที่บ้านเด็กกำพร้าแทนก็จะกลับมารายงานทุกครั้ง และทุกครั้งก็มักได้ยินชื่อนี้ที่ธาราพูดถึงแทบทุกครั้ง
“ผมรักพลอยใสเหมือนน้องสาวเท่านั้นครับไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่น” ธารารีบบอกคนเป็นนายออกไปทันที
“ก็ดี ต่อไปจะได้ไม่เสียการปกครอง”
“ครับ สมภารย่อมไม่กินไก่วัด..เดี๋ยวจะเสียการปกครอง” ธาราย้ำคำพูดเจ้านายอีกครั้งน้ำเสียงมีเลศนัย เมื่อก่อนหน้านั้นสังเกตเห็นคนเป็นนายดูประวัติของพลอยใสนานเป็นพิเศษใช้เวลามากกว่าของคนอื่นหลายนาทีจึงเดาได้ว่ามาเฟียหนุ่มนั้นต้องสนใจเด็กสาวคนนี้เป็นพิเศษ
“รีบไปจัดการตามที่กูสั่ง แล้วบัญชีที่ผับมึงตรวจเสร็จหรือยังมายืนย้อนคำพูดกูอยู่แบบนี้” เสียงกร้าวตะโกนใส่หน้าธาราเสียงดังเมื่อรับรู้ว่ากำลังโดนลูกน้องพูดจายอกย้อนใส่
“เสร็จแล้วครับ ที่เหลือเป็นหน้าที่ของนายครับ ไอ้ลุคค์มันฝากบอกว่ารายการสต๊อกของขอพรุ่งนี้เช้านะครับเดี๋ยวมันสั่งของไม่ทัน ถึงเวลาเลิกงานแล้วผมขอตัวก่อน” แฟ้มหนาสีดำถูกวางลงตรงหน้ามาเฟียหนุ่มพร้อมคำพูดแดกดันของลูกน้อง ธาราพูดเสร็จก็หยิบแฟ้มประวัติทั้งสองกองเดินออกไปโดยไม่สนใจว่าเจ้านายต้องการจะพูดอะไรกับเขาต่อหรือไม่
เช้าวันรุ่งขึ้น
“คุณชาร์วีประสงค์จะรับเด็กไปอุปการะที่บ้านฮาร์เปอร์จำนวนสามคนนะครับ ส่วนเด็กที่เหลือเดี๋ยวผมจะช่วยจัดการประสานมูลนิธิต่าง ๆ ที่จะรับเด็กไปดูแลต่อ และเด็กที่มีผู้ประสงค์จะอุปการะก็ให้ทางคุณแก้วจัดการได้เลยนะครับ” ธาราบอกกับแก้วหรือแม่แก้วของเด็ก ๆ ตามคำสั่งของเจ้านาย
“แล้วไม่ทราบว่าคุณชาร์วีเลือกใครไปบ้างคะ” แก้วถามขึ้นเพื่อจะได้บอกให้เด็กที่ถูกเลือกเตรียมตัวและอบรมสั่งสอนครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินออกจากบ้านแห่งนี้ไปสู่บ้านหลังใหม่
“สองคนนี้ครับ” ธาราพูดขึ้นและส่งประวัติเด็กสาวสองคนที่เลือกให้แม่แก้ว
“แล้วอีกคนล่ะคะ?” แก้วถามขึ้นมาเมื่อประวัติเด็กพร้อมรูปถ่ายที่ธารายื่นมาให้นั้นมีเพียงสองคน
“พลอยใสครับ อีกคนคือพลอยใส แล้วทำไมวันนี้ผมไม่เห็นพลอยใสเลยครับ” ธาราหันมาบอกและถามอย่างแปลกใจที่พยายามกวาดตามองไปรอบบริเวณแล้วก็ยังไม่เห็นเด็กสาวที่คุ้นตา ก่อนจะยิ้มเมื่อเด็กสาวที่กำลังถามหาเดินถือถาดน้ำดื่มเข้ามาพอดี
“มานั่นพอดีเลยค่ะ สงสัยพึ่งรู้ว่าคุณธารามาเห็นบอกว่าวันนี้จะช่วยสอนการบ้านให้น้อง ๆ น่าจะยุ่ง ๆ ค่ะ” ธาราที่ได้ยินแก้วพูดถึงพลอยใสก็รู้สึกว่าตนเองคงเลือกคนไม่ผิดแน่
“สวัสดีค่ะพี่ธาราวันนี้มีขนมอร่อยมาให้อีกหรือเปล่าคะ” เมื่อเห็นหน้าพี่ชายใจดีเด็กสาวก็วางถาดน้ำดื่มแล้วยกมือไหว้ไม่เฉพาะธาราเท่านั้นแต่บอดี้การ์ดที่มากับธาราวันนี้พลอยใสก็ยกมือไหว้ทุกคน
“เห็นหน้าก็ถามหาแต่ขนมเลยนะเราน่ะ ถ้าไม่มีขนมมาให้สงสัยคงไม่ออกมาเจอพี่ใช่หรือเปล่าหืม..” ธาราแกล้งพูดหยอกจนพลอยใสต้องรีบแก้ตัว
“ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย พลอยไม่ได้เห็นแก่กินนะคะถึงไม่มีขนมมาให้แค่พี่ธารามาเยี่ยมพวกเราก็ดีใจแล้วค่ะ”
“เอาตัวรอดเก่งนะเราน่ะ วันนี้พี่ไม่ได้มีขนมมาให้หรอกแต่พี่มีข่าวดีมาบอก” เสียงอ่อนโยนบอกออกไป สายตาเอ็นดูที่ธารามองพลอยใสแม่แก้วเห็นถึงกับอมยิ้มอย่างมีความสุขที่เด็กในความดูแลมีคนรักคนเอ็นดูแบบนี้
“ข่าวดีอะไรคะ” พลอยใสทำหน้าเหมือนรอลุ้นผลการเรียน จนธาราต้องส่ายหัวเบา ๆ ขนาดว่าอายุ 13 ปีแล้วแต่เด็กสาวที่เขาเห็นมาตั้งแต่ห้าปีก่อนยังดูเป็นเด็กน้อยไม่เปลี่ยน
“พลอยรู้ใช่ไหมว่าถึงเวลาแล้วที่พลอยและเพื่อนรุ่นเดียวกันจะต้องย้ายบ้าน นั่นหมายถึงต้องออกจากที่นี่ไปเพื่ออยู่ที่อื่น” ธาราทำสีหน้าจริงจังแล้วพูดกับเด็กสาว
“ค่ะ พลอยรู้ดีแต่พลอยยังทำใจไม่ได้เพราะตั้งแต่จำความได้พลอยก็มีแต่แม่แก้วที่เลี้ยงดูมา พลอยไม่รู้จักใครเลยข้างนอกและอีกอย่างก็ไม่รู้ว่ามูลนิธิที่จะรับพลอยไปอยู่จะเป็นยังไงบ้าง” พลอยใสมีสีหน้าเศร้าหมองลงทันทีที่ธาราเอ่ยถึงเรื่องที่ยังทำใจไม่ได้
“พลอยไม่ต้องไปอยู่มูลนิธิไหนหรอก เพราะคุณชาร์วีประสงค์จะอุปการะเด็กไปดูแลที่บ้านฮาร์เปอร์สามคนและหนึ่งในนั้นคือพลอยใส”
ตอนที่ 40 เปลี่ยนบรรยากาศ+ครอบครัว (จบ)“คุณจะให้หนูทำตรงนี้เลยเหรอคะ” พลอยใสถามกลับไม่เต็มเสียงนักเพราะตอนนี้ทั้งสองนั่งอยู่บนรถ และชาร์วีเองก็ทำหน้าที่เป็นคนขับซึ่งตอนนี้รถกำลังแล่นด้วยความเร็ว“ฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เธอจะปล่อยให้ผัวเธอลงแดงตายตรงหน้าเลยหรือไง อยากเป็นหม้ายอย่างนั้นเหรอ”“มันจะไม่อันตรายแน่นะคะ คุณอดทนอีกหน่อยได้ไหมคะ” พลอยใสพยายามต่อรองกับชาร์วีถึงแม้จะสงสารชายหนุ่มมากก็ตาม“ถ้าอดทนได้ฉันจะขอร้องเธอแบบนี้เหรอ หรือต้องให้ฉันจอดรถข้างทางแล้วลากเธอไปกระแทกเบาะด้านหลังรถ” ชาร์วีพูดขึ้นเมื่อความอดทนของเขานั้นแทบจะเหลือไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์“คุณตั้งใจขับรถดี ๆ นะคะ”“อมมันสักทีพลอยใส ผัวเธอจะใจขาดตายอยู่แล้ว”มือเล็กเอื้อมไปปลดเข็มขัดและกระดุมกางเกงพร้อมกับรูดซิปลง แท่งเนื้อสีแดงก่ำถูกควักออกมาพ้นจากบ็อกเซอร์ราคาแพงมาสัมผัสกับอุณหภูมิที่หนาวเย็นภายในรถ“อ่าส์ ปากเธอทำให้ฉันคลั่งได้เลยนะ” เสียงร้องครางออกมาเมื่อปลายลิ้นสัมผัสกับส่วนหัวที่บานราวดอกเห็ด“คุณต้องการมากขนาดนั้นเลยเหรอคะ เราแค่จูบกันเองนะ” เสียงหวานเอ่ยถามสลับกับดูดเลียแท่งเนื้อที่ผลิตน้ำหล่อลื่นสีใสออกมาไม่ขา
ตอนที่ 39 คลั่ง“ชาร์ถ้ามึงจะขับช้าขนาดนี้มึงไม่ต้องซื้อมาให้เปลืองเงินหรอกนะรถคันละสามสิบสี่สิบล้าน” ธาราพูดขึ้นน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อวันนี้มาเฟียหนุ่มมาทำหน้าที่คนขับรถด้วยตัวเอง“มึงจะรีบไปไหน ขับรถเร็วมันอันตราย” เป็นคำตอบที่ฟังดูไม่จริงใจเอาซะเลย เพราะความเร็วที่ชาร์วีใช้ประจำเวลาที่จับพวงมาลัยเองต้องไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบ“ฟังดูตอแหลนะ ถ้ามึงไม่รีบก็จอดรถแล้วเดินไปกูจะขับไปกับพลอยใสแค่สองคน อีกสิบนาทีไอ้ลุคค์ก็จะขึ้นร้องเพลงแล้วเดี๋ยวพาพลอยใสไปไม่ทัน” ธาราที่หมดความอดทนกับการถ่วงเวลาโง่ ๆ ของเจ้านายด่าออกไปโดยไม่เกรงใจว่าชาร์วีนั้นคือเจ้าของรถ“รถคันนี้ของกู ถ้ามึงรีบก็ลงไปเรียกแท็กซี่”“ถ้างั้นก็จอดรถกูกับพลอยใสจะลงไปเรียกแท็กซี่เอง”“ถ้าหนูไปไม่ทันพี่ลุคค์ร้องเพลงรางวัลที่เราตกลงกันไว้เป็นโมฆะค่ะ”บรึ๊น! บรึ๊น! บรึ๊น!สิ้นเสียงพลอยใสรถยนต์คันหรูก็เร่งความเร็วขึ้นไปแตะที่ระดับปกติที่ควรจะเป็นหรืออาจจะเร็วไปด้วยซ้ำ ฝีมือการขับรถของชาร์วีที่ชำนาญเรื่องการทำความเร็วก็สามารถพาพลอยใสมาทันเวลาที่ลุคค์ขึ้นร้องเพลงพอดี“ไอ้ธาราทำไมมึงพาเมียกูเดินเบียดผู้คนเข้ามาแบบนี้ ประตูด้านหลังมี
ตอนที่ 38 อำนาจเปลี่ยนมือของขวัญวันแต่งงานที่ชาร์วีมอบให้ภรรยาตัวน้อยของเขาทั้งคืนจนเกือบสว่าง ส่งผลให้หญิงสาวนอนหมดแรงและตื่นขึ้นมาอีกทีในช่วงบ่ายของวันใหม่“คุณอื้อ..คุณวี” ดวงตากลมโตกะพริบไล่แสงเพื่อปรับโฟกัสสายตา มาเฟียหนุ่มนั่งพิงหัวเตียงพร้อมกับถือไอแพดอยู่ในมือ“ตื่นแล้วเหรอ..หิวน้ำไหม” ชาร์วีวางไอแพดในมือลงรีบพยุงหญิงสาวให้ลุกขึ้นนั่ง“กี่โมงแล้วคะ” หลังจากดื่มน้ำไปอึกใหญ่ก็เอ่ยถามขึ้นเพราะมองจากแสงที่ลอดผ่านม่านสีขาวเข้ามาบ่งบอกว่าเป็นช่วงสายหรือไม่ก็ช่วงบ่ายของวัน“บ่ายสองแล้ว หิวข้าวหรือเปล่า”“บ่ายแล้วเหรอคะ ทำไมคุณไม่ปลุกหนูล่ะคะ”“ปลุกทำไม เมื่อคืนเธอใช้พลังงานไปตั้งเยอะนอนหลับพักผ่อนเอาแรงน่ะดีแล้ว คืนนี้จะได้มีแรงทำต่อ” ชาร์วีพูดขึ้นสีหน้าเรียบนิ่ง“พอเลยค่ะ หนูไม่ไหวแล้วคุณกินจุเกินไป”“ไม่ไหวเหรอ ก็เห็นเรียกร้องเอาอีกหนูต้องการคุณอยู่ไม่ใช่เหรอ”“หยุดพูดเลยนะคะ” ใบหน้าเรียวเล็กซุกเข้าที่อกแกร่งด้วยความอายเมื่อถูกพูดถึงกิจกรรมรักที่เร่าร้อนเมื่อคืนที่ผ่านมา“ไปอาบน้ำไปจะได้ลงไปทานข้าว ธารามันขึ้นมาตามหลายรอบแล้ว” น้ำเสียงอ่อนนุ่มที่ชาร์วีใช้พูดกับหญิงสาวเป็นน้ำเสียงท
ตอนที่ 37 คืนเข้าหอคืนเข้าหอ“เหนื่อยไหมหืม..” เสียงทุ้มอบอุ่นเอ่ยถามขณะที่กำลังช่วยภรรยาตัวน้อยถอดชุดเจ้าสาวหลังจากเสร็จจากงานเลี้ยงฉลองค่ำคืนนี้“นิดหน่อยค่ะ แต่มีความสุขมากกว่า” เสียงหวานตอบกลับไปตามที่รู้สึกรอยยิ้มแห่งความสุขฉายเด่นชัดอยู่บนใบหน้าหญิงสาวตั้งแต่งานเริ่มจนถึงป่านนี้ ความสุขที่เธอไม่เคยได้รับ วันนี้ชาร์วีเป็นคนเข้ามาเติมเต็มส่วนที่เธอขาดทั้งหมด“ขอบคุณนะคะ ที่เข้ามาเป็นความสุขของหนู” ร่างบางหันหน้ากลับมาสบตากับสามีหมาด ๆ ของเธอ“เธอก็เข้ามาเป็นความสุขของฉันเหมือนกัน ฉันมีของขวัญแต่งงานให้เธอด้วยนะ” แขนแกร่งรั้งเอวคอดเข้าหาตัวและโอบกอดไว้หลวม ๆ ใบหน้าคมก้มลงกระซิบข้างใบหู“ของขวัญอะไรคะ” ดวงตากลมโต แพขนตางอนเหลือบขึ้นมองสบตาก่อนจะเอ่ยถามออกไปสีหน้าตื่นเต้น“ไปอาบน้ำให้เสร็จก่อน แล้วค่อยมาแกะของขวัญของฉัน” น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ตอบกลับไป พร้อมกับอุ้มร่างบางในท่าเจ้าสาวเดินเข้าห้องน้ำไป“คุณจะอาบน้ำพร้อมหนูเลยเหรอคะ”“อาบพร้อมกันนี่แหละจะได้ไม่เสียเวลา ฉันอยากให้เธอแกะของขวัญจะแย่หรือจะแกะในห้องน้ำเลยก็ได้นะ”“หนูก็อยากเห็นของขวัญที่คุณจะให้หนูแล้วค่ะ” แววตาใสซื่อไม่ทันคนข
ตอนที่36 สู่ขอชาร์วีในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวดูแปลกตาจูงมือเดินมากับพลอยใสและมีธารามือขวาคนสนิทเดินตามหลังมาห้องรับแขกที่มีป้าณีและแขกคนสำคัญของบ้านฮาร์เปอร์คือ แม่แก้ว คนที่ดูแลพลอยใสเมื่อตอนที่เธออาศัยอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้า“แม่แก้วสวัสดีค่ะ แม่แก้วสบายดีนะคะ” หญิงสาวนั่งลงกับพื้นตรงหน้าผู้มีพระคุณที่เลี้ยงดูเธอมา“แม่สบายดีจ้ะ” หญิงสูงวัยที่แก่ขึ้นตามกาลเวลาตอบกลับเสียงเบา มือเหี่ยวย่นยกขึ้นลูบศีรษะทุยด้วยความรัก“ลุกขึ้นเถอะลูก”“มานั่งลงตรงนี้” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกเมื่อหญิงสาวทำตัวไม่ถูกว่าเธอต้องนั่งลงตรงไหน จะนั่งด้านบนตรงโซฟา หรือลุกไปยืนข้าง ๆ ธาราที่ด้านหลังร่างอรชรลุกขึ้นนั่งข้าง ๆ ชายหนุ่มในที่ที่เธอไม่คุ้นเคยมาก่อน เป็นครั้งแรกที่เธอมีโอกาสนั่งข้างชายหนุ่มเจ้าของบ้านต่อหน้าลูกน้องและคนในบ้านอย่างวันนี้“ดิฉันในฐานะผู้ใหญ่ของบ้านนี้ขอเข้าเรื่องที่เชิญคุณแก้วมาวันนี้เลยนะคะ” ป้าณีผู้ใหญ่ที่เลี้ยงดูชาร์วีมาตั้งแต่เด็กพูดขึ้น“อย่างที่เคยแจ้งให้คุณแก้วทราบก่อนหน้านั้นว่าตอนนี้คุณวีและพลอยใสอยู่ในฐานะสามีและภรรยา ทางเราจึงอยากสู่ขอกับผู้ใหญ่ให้ถูกต้องตามประเพณีไทย คุณแก้วในฐานะที่เ
ตอนที่35 เสือสาวเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงบทรักในห้องน้ำจบลง และกำลังเริ่มขึ้นอีกครั้งบนเตียง“เอาสิ เธออยากจัดการฉันยังไงก็ทำตามอย่างที่ต้องการได้เลย” ชายหนุ่มนอนแผ่หลาความเป็นชายตั้งโด่ล่อตาล่อใจเสือสาว“ถ้าหนูทำอะไรผิด คุณจะไม่ลงโทษหนูแบบแก้มใสใช่ไหมคะ” พลอยใสถามขึ้นขณะที่กำลังคลานขึ้นไปบนตัวชายหนุ่ม“เอาอะไรคิด ฉันจะเอาเมียตัวเองไปให้คนอื่นทำไม โดนกระแทกจนเสียสติแล้วหรือไง” ชาร์วีว่ากลับพร้อมยกคนตัวเล็กลอยขึ้นนั่งบนตัก“ก็แก้มใสทำผิดคุณยังลงโทษเธอแบบนั้นเลย”“ผู้หญิงคนนั้นบ้าเซ็กขนาดไหนเธอไม่รู้เหรอพลอยใส เพื่อนเธอมันชอบไปปาร์ตี้เซ็กหมู่หลายครั้งแล้ว แล้วที่เธอเห็นในห้องใต้ดินนั้นผู้หญิงคนนั้นก็เป็นคนเริ่มเองฉันไม่ได้บังคับ” ชาร์วีเล่าความจริงที่เขารับทราบมาตลอดว่าเด็กในการปกครองชอบไปปาร์ตี้มั่วเซ็กอยู่บ่อยครั้ง แต่เขาก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว“แก้มใสนะเหรอคะ ชอบไปปาร์ตี้เซ็กหมู่” พลอยใสถามกลับอย่างไม่อยากเชื่อที่ชายหนุ่มพูด“ใช่ ถ้าฉันจะบอกว่าผู้หญิงคนนั้นนอนกับผู้ชายมานับร้อยคนเธอจะเชื่อหรือเปล่า”“ไม่ค่ะ หนูไม่เชื่อเด็ดขาด” พลอยใสส่ายหัวไม่เชื่อสิ่งที่ชาร์ว
ตอนที่34 คลั่งรักบอดี้การ์ดร่างกำยำนับสิบคนเดินเข้ามาตามเสียงเรียกคนเป็นนาย แก้มใสเห็นดังนั้นก็รู้สึกตื่นเต้น หันไปมองหน้าบอดี้การ์ดที่กำลังมองเธอด้วยสายตาหื่นกระหาย“แสดงฝีมือลีลาบนเตียงของเธอให้ฉันดูหน่อยสิ ว่าจะเร้าใจพอที่ฉันจะพาขึ้นเตียงด้วยหรือเปล่า”“คุณวี แต่ว่า..”“ฉันไม่ถือสาเรื่องนี้ เอาสิแสดงให้ฉันเห็นว่าเธอเก่งมากแค่ไหน”หญิงสาวค่อย ๆ คลานเข่าเข้าไปหาบอดี้การ์ดที่ยืนรายล้อมรอบตัวเธอ มือบางค่อย ๆ ปลดเข็มขัดแล้วรูดซิปกางเกงและควักแท่งเนื้อที่ขยายตัวเต็มที่พร้อมใช้งานออกมา ปากบางค่อย ๆ กลืนกินแท่งเนื้อนั้นราวไอติมแท่งโปรด น้ำลายผสมน้ำหล่อลื่นไหลเปื้อนมุมปาก ขณะที่เธอกำลังใช้ปากอยู่นั้นบอดี้การ์ดคนที่เหลือที่ตอนนี้ปลดเปลื้องเสื้อผ้าพร้อมภารกิจเสพสวาทครั้งนี้ก็เดินเข้าหาเธอ บั้นท้ายงอนถูกกางออกลิ้นสากส่งเข้าไปสัมผัสทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เต้าอวบทั้งสองข้างถูกดูดกินด้วยบอดี้การ์ดอีกสองคน แก้มใสร้องครางออกมาด้วยความสุขสม เธอกลายเป็นคนติดเซ็กหมู่มาหลายปีตั้งแต่ครั้งเรียนอยู่ปีหนึ่งที่เธอมีโอกาสได้เข้าร่วมปาร์ตี้สวิงกิ้งและเธอก็ติดใจและทำบ่อยทุกครั้งที่คนในกลุ่มจัดขึ้นภาพหญิงสาว
ตอนที่33 จัดการการเดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ ของพลอยใสได้สิ้นสุดลงพร้อมกับประสบการณ์มากมายที่เธอได้สัมผัส เครื่องบินลำใหญ่ของฮาร์เปอร์กำลังเทคออฟออกจากสนามบินฮ่องกงมุ่งหน้าสู่ประเทศไทยเมืองไทยร่างบางนอนหลับในอ้อมแขนแกร่งของชาร์วีตั้งแต่ขึ้นรถมายังไม่ถึงสิบนาที ร่างกายเพลียจากการนั่งเครื่องเป็นเวลานานและเวลาที่ต่างกันของแต่ละประเทศจึงทำให้ร่างกายปรับเวลานอนไม่ทันจึงเกิดสภาพอย่างที่เห็น“นายไม่ปลุกเธอเหรอครับ” ธาราหันไปถามคนเป็นนายที่กำลังตั้งท่าจะอุ้มหญิงสาวลงจากรถ“ไม่”“นายจะอุ้มเธอเข้าบ้านไปแบบนี้ บอดี้การ์ดจะพากันเอาไปพูดเอาได้นะครับ” ธาราเอ่ยเตือนเพราะความสัมพันธ์ของเจ้านายกับเด็กในการปกครองที่เปลี่ยนไปทุกคนในบ้านยังไม่มีใครทราบ“ใครมันกล้าเอาไปพูดกูจะไล่ออกให้หมด” เสียงกร้าวบอกออกไปพร้อมกับอุ้มหญิงสาวลงจากรถเดินเข้าบ้านใหญ่ไป ท่ามกลางสายตาของบอดี้การ์ดและแม่บ้านคนเก่าคนแก่อย่างป้าณี“คุณวีพลอยใสเป็นอะไรคะ”“ไม่ได้เป็นอะไรครับ” คำตอบสั้น ๆ ที่ไม่ขยายความให้คนถามเข้าใจ ก่อนจะอุ้มหญิงสาวเดินผ่านหน้าขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านซึ่งเป็นห้องส่วนตัวของมาเฟียหนุ่ม“คุณธาราพลอยใสเป็นอะไรคะ ทำ
ตอนที่32 ไหว้พ่อแม่หลังจากเสร็จธุระเรื่องงานที่เมืองหลวงแล้วชาร์วีก็พาหญิงสาวไปบ้านที่ตั้งอยู่ชานเมืองห่างไกลผู้คนเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินจากกรุงลอนดอนทะยานสู่เขตนอกเมืองที่โอบล้อมด้วยทะเลและภูเขา คฤหาสน์หลังใจที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางทุ่มหญ้าเขียวขจี เฮลิคอปเตอร์ลงจอดที่ลานหญ้าบริเวณหน้าบ้าน“ที่นี่บ้านคุณเหรอคะ” ดวงตากลมโตมองสำรวจบริเวณรอบ ๆ ที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติไกลสุดลูกหูลูกตา“ใช่ บ้านของแด๊ดกับมัม” ร่างสูงเดินนำเข้าไปด้านในที่มีคนดูแลบ้านมายืนรอต้อนรับตรงประตูทางเข้า“สวัสดีค่ะนาย/นายหญิง” ทั้งหมดก้มหัวให้และกล่าวทักทายชายหนุ่มเมื่อเดินผ่านไป รวมทั้งกล่าวทักทายพลอยใสด้วย“สวัสดีค่ะคุณธารา” อยู่บ้านนี้ธาราจะอยู่ในฐานะลูกชายบุญธรรมของบ้านฮาร์เปอร์เพราะครั้งยังเด็กธาราและชาร์วีเกิดและโตที่นี่ ก่อนที่พ่อของชาร์วีจะวางมือจากธุรกิจที่นี่และย้ายถิ่นฐานไปอยู่เมืองไทย“ชาร์วีมึงจะให้พลอยใสพักห้องไหน” ธาราถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาหย่อนสะโพกลงนั่งตรงโซฟาห้องรับแขก“นอนกับกู”“ไอ้ชาร์” ทั้งสองฟาดฟันกันด้วยสายตา ต่างไม่มีใครยอมใคร“พลอยใสขึ้นห้อง” พลอยใสจำเป็นต้องเดินตามชาร์วีขึ้นไปชั้นบนซึ่งเป็นห้
Komen