ทุกคนที่ยังคงนั่งรอกันที่ห้องรับแขกกันอย่างใจเย็น เพื่อรอให้คนทั้งสองลงมาจากชั้นบนของบ้าน เพื่อรอฟังคำอธิบาย และความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับทั้งคู่
จะมีก็แต่พงศกร ที่ของตัวออกเดินไปตามหานัชชา แถวรอบๆบริเวณบ้าน เพื่อที่จะได้พาหญิงสาวกลับไปส่งบ้านก่อน ก่อนที่หญิงสาวจะมาเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้ กลัวจะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นตามมาอีก เพราะเขาก็พอจะทราบมาบ้างว่า นัชชาก็ปลื้มน้องชายเขาอยู่ไม่น้อย เพียงแต่พจีพัฒน์ไม่เล่นด้วย บอกเพียงแค่ว่าไม่อยากยุ่งกับคนใกล้ตัว กลัวจะมีเรื่องวุ่นวายตามทีหลัง
“หึ นี้ถึงขั้นแบกกันลงมาเลย คงจะจัดหนักกันล่ะสิท่า” พัฒน์พงษ์ เค้นหัวเราะออกมา พร้อมกับพูดขึ้นทันที เมื่อเห็นลูกชายคนเล็กแบกหญิงสาวขึ้นหลังลงมาจากบันได
“ยัยหริ่ง...ใครสั่งใครสอนแกห๊ะ ทำไมไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงแบบนี้ ยัยเด็กคนนี้นี้ ป้าจะตีให้หลังหักเลย” พิมพา หรือ ป้าพิมพ์ ดุหลานสาวทันที ที่พจีพัฒน์วางเธอลงจากหลัง แล้วหยิกแขนของหลานสาวเข้าไปหนึ่งที
“โอ้ยยย ป้าพิมพ์จ๋า หริ่งเจ็บเด้” เสียงร้องโอดโอยภาษาบ้านเกิดดังขึ้นมาจากปากของพีรดา เพราะขณะยืนแทบจะทรงตัวไม่อยู่อยู่แล้ว ยังจะถูกผู้เป็นป้าหยิกเข้าอีก
พิมพาจึงได้แต่ประคองพีรดานั่งลงยังพื้นตรงนั้น เพื่อรับฟังเจ้าของบ้านจะเอ่ยหรือทำโทษอะไรพีรดาหรือเปล่า
“มากันครบทุกคนแล้ว ฉันในถานะเจ้าของบ้าน จะเป็นคนสอบถามและตัดสินใจเอง” พัฒน์พงษ์ พูดขึ้นทันที ที่ทุกคนอยู่รวมตัวกันครบ
“ตาพีท เรื่องมันเป็นมายังไง ทำไมถึงเอาหนูหริ่งเข้าไปนอนด้วย แล้วปู้ยี่ปู้ยำกันจนยับเยินสภาพดูไม่ได้ขนาดนี้” พัฒน์พงษ์หันมาถามเอาความจริงจากลูกชายก่อนเป็นคนแรก
“คุณพี่ค่ะ...น้องว่าเป็นยัยหริ่งมากกว่ามั้งค่ะ ที่เข้าไปอ่อยลูกชายของเรา” นิษฐากำลังจะค้านขึ้นมา
“คุณหยุดก่อน ผมกำลังสอบถามลูก” แต่ถูกพัฒน์พงษ์สั่งห้ามเอาไว้เสียก่อน พร้อมกับจ้องมองภรรยาอย่างคาดโทษ
“คือ...” พจีพัฒน์ ไม่รู้จะเริ่มเล่าจากตรงไหนก่อน เพราะจำเรื่องราว และเหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมดไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
“หนูผิดเองค่ะ ที่ดื่มจนขาดสติไป...” พีรดาจึงเป็นฝ่ายที่จะยอมรับผิดเอง
“หนูหริ่งเงียบก่อน ลุงขอถามตาพีทก่อน หนูค่อยตอบที่หลัง” แต่พัฒน์พงษ์สั่งให้หญิงสาวยังไม่ต้องพูดอะไร เพราะรอคำตอบจากปากของลูกชายก่อน
“คือผมก็จำไม่ได้ครับ ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้แค่ว่าควบคุมตัวเองไม่ได้ คิดแค่ว่าต้องการที่จะปลดปล่อยอย่างเดียว” พจีพัฒน์รวบรวมความกล้าพูดออกมาตามตรง เมื่อเห็นว่าพ่อเริ่มจะดุทุกคนที่พูดขัดขึ้นมา
“เมา” พัฒน์พงษ์เลิกคิ้วมอง พร้อมกับถามไปเพียงแค่สั้นๆ
“ไม่เชิงกับเมาหรอกครับ แต่แค่เหมือนมีความต้องการเรื่องอย่างว่ามากจริงๆ” พจีพัฒน์พูดออกมาตามตรง
“แล้วหนูหริ่งล่ะ จำอะไรได้บ้าง” พัฒน์พงษ์จึงหันมาถามทางพีรดา ที่นั่งก้มหน้านิ่งอยู่กับพื้น
“หนูจำได้แค่ว่า กำลังเอาจะไปนอน แล้วก็มีคนมาดึงแขนไป จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้แล้วค่ะ รู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังฝันเรื่อง....เอ่อ...” พีรดาอธิบายบอกตามเท่าที่ตัวเองพอจะจำได้ ตามความรู้สึกของตัวเอง
“แล้วพากันดื่มอะไรลงไปบ้าง” พัฒน์พงษ์ ถามทั้งสองออกมา
“ก็เครื่องดื่มที่แม่กับพี่แพทเตรียมให้ทั้งนั้นเลยครับ” พจีพัฒน์จึงเป็นฝ่ายตอบออกมา เพราะทุกอย่างเมื่อคืน เป็นแม่และพี่สาวเป็นคนเตรียมการไว้ให้ทั้งหมด เพื่อเลี้ยงฉลองหลังจากที่สอบเสร็จ และแม่ได้พาหญิงสาวลูกของเพื่อนสนิท ที่แม่อยากจะผูกดองมาด้วย
“ไอ้เอก เอาเครื่องดื่มที่พวกเด็กๆกินกันเมื่อคืนมาให้ฉันที” พัฒน์พงษ์ จึงเรียกหาไม้เอก ลูกน้องคนสนิทของเขาที่ยืนอยู่หน้าประตูทางเข้า ให้ไปนำเครื่องดื่มที่พากันดื่มเข้าไปเมื่อคืนมาให้
“คือ...” ไม้เอกได้แต่อ้ำอึ้ง ไม่กล้าพูด พร้อมกับหันไปมองหน้านิษฐา
“คืออะไร” พัฒน์พงษ์ ตวาดเสียงดังถามขึ้นอีกครั้ง
“คุณนายบอกให้คนเก็บกวาดทำความสะอาดตั้งแต่เช้าแล้วครับ” ไม้เอกบอกออกไปตามตรง เพราะคุณผู้หญิงของบ้าน ได้สั่งให้คนทำรายหลักฐานทิ้งทั้งหมดแล้ว
“ดีให้มันได้อย่างนี้สิ” พัฒน์พงษ์ได้บ่นออกมาอย่างหัวเสีย
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว หนูขอตัวไปอาบน้ำก่อนน่ะค่ะ วันนี้ต้องเอาเกรดไปรายงานตัวที่มหาวิทยาลัยด้วย” พีรดา พูดออกมาเป็นคนแรก เมื่อทุกคนต่างพากันนั่งเงียบ และกำลังจะลุกขึ้น
“เดี๋ยว..” เสียงเข้มของพัฒน์พงษ์ดังขึ้นมาเสียก่อน
พีรดาจึงได้แต่นั่งลงอยู่ที่เดิม อย่างเงียบๆไม่กล้าที่จะเอ่ยปากขึ้นมาถามอะไรต่อ เมื่อเสียงผู้มีอำนาจสูงสุดของบ้านดังขึ้นมา
“ในเมื่อเรื่องมันเป็นมาแบบนี้แล้ว หนูหริ่งเอาเอกสารทั้งหมดมาให้ลุง ลุงจะได้เอาไปยื่นให้เอง เรียนที่เดียวกันกับตาพีทเลย" พัฒน์พงษ์พูดขึ้นมา
ทำให้ทุกคนที่ได้ยินอยู่ตรงนั้น ต่างตาลุกวาวมองหน้ากันสลับไปมา แต่ไม่มีใครกล้า หรือค้านอะไรขึ้นมาเลยแม้แต่ภรรยาของเขา
“...คุณลุงค่ะ หนูว่าค่าเทอมมันแพงเกินไป ขอเรียนมหาลัยเปิดดีกว่าค่ะ” พีรดาจึงเป็นคนพูดออก เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเธอ
“กล้าขัดคำสั่งลุงหรือ” เสียงเข้มปนความเอ็นดูของพัฒน์พงษ์ดังขึ้นมา พร้อมกับจ้องไปที่พีรดา
พีรดานิ่งเงียบทันที ที่เจอสายตาพิฆาตผู้มีอำนาจของบ้าน ได้แต่น้อมรับโดยที่ปฏิเสธอะไรไม่ได้เลย เพราะไม่มีสิทธิ์ใดๆทั้งสิ้น เพราะคำว่าบุญคุณมันค้ำคออยู่
“ผมขอตัวไปนอนต่อก่อนนะครับ ถ้าพ่อไม่มีอะไรแล้ว” พจีพัฒน์ จึงพูดขึ้นมา แล้วลุกขึ้น กำลังจะเดินขึ้นไปชั้นบนของบ้าน
“แล้วแกไม่ไปรายงานตัวเหรอตาพีทวันนี้” พัฒน์พงษ์ถามขึ้นมาเสียก่อน
“ไปวันหลังก็ได้ครับ มีเวลาตั้งเกือบสามเดือน รอปัจฉิมนิเทศที่โรงเรียนก่อนค่อยไปรายงานตัวทีเดียวเลยก็ได้นี้ครับ ผมเรียนนะ พ่อไม่ได้เรียน” พจีพัฒน์พูดบอกมาอย่างใจเย็น โดยไม่ได้รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจอะไร แล้วเดินขึ้นบันไดไปทันที ที่เอ่ยจบ
“แพทขอตัวไปทำงานก่อนดีกว่านะค่ะ” พจีกานต์ที่นั่งเงียบอยู่นาน จึงขอตัวออกไปบ้าง เมื่อทุกอย่างจบลง
“คุณพี่จะทานข้าวเช้าก่อนไปทำงานไหมค่ะ” นิษฐาจึงหันมาถามทางสามี เมื่อทุกคนต่างทยอยกันออกไปทำหน้าที่ของตัวเอง
“ไม่ทานมันแล้ว เกิดเรื่องวุ่นวายขนาดนี้ใครมันจะทานลง” พัฒน์พงษ์เอ่ยตอบภรรยา แล้วลุกขึ้นเดินออกไปนอกบ้านทันที
“พิมพ์ขอโทษแทนหลานสาวด้วยนะค่ะคุณนาย เดี๋ยวพิมพ์จะสั่งสอนมันให้ค่ะ” พิมพาจึงเอ่ยขอโทษขอโพยนิษฐาทันที ที่ทุกคนออกไปกันหมดแล้ว
“หัดเจียมตัวเสียบ้างน่ะ ทั้งป้าทั้งหลาน ต่อไปนี้ห้ามให้ฉันเห็นนังหรีดหริ่งเดินเพ่นพ่านกลางดึกในบ้านหลังนี้อีก” นิษฐาพูดออกมาอย่างแหนบแนม พร้อมกับมองด้วยสายตาที่เหยียดหยาม
“ค่ะ คุณนาย พิมพ์ขอตัวน่ะค่ะ” พิมพาได้แต่น้อมรับ แล้วขอตัวออกไปทำหน้าที่ของเธอต่อทันที
ความลับไม่มีอีกต่อไปช่วงบ่ายของวันร่างสูงที่เป็นฝ่ายตื่นลืมตาขึ้นมาก่อน เพราะไอร้อนจากร่างบางในอ้อมกอด ที่แพร่มาสู่ตัวของเขา พร้อมกับอาการละเมอเพ้อจากพิษไข้ของหญิงสาว กับน้ำตาที่ไหลออกมาจากหางตาของเธอ แถมหัวใจของหญิงสาวยังเต้นเร็วระรัวอีก“แม่ขอโทษนะครับ ฟอร์ยู” เสียงหอบเหนื่อยเพ้อละเมอออกมาจากปากอันสั่นเทาของร่างบาง ที่นอนสั่นเทาเหมือนร่างเข้าทรง พร้อมกับใบหน้าที่มีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นมาเปียกชุ่มเต็มไปทั่วใบหน้า“หริ่งหริ่ง” ร่างสูงตบหน้าของเธอเบาๆ พร้อมกับเอยเรียกชื่อเธอขึ้น เพื่อเรียกสติให้เธอรู้สึกตัว“แม่ขอโทษ ที่แม่กับพ่อไม่สามารถเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ให้ลูกได้ แม่ขอโทษครับ” หญิงสาวยังคงละเมอเพ้อไม่หยุดร่างสูงที่ไม่รู้จะทำเช่นไร รีบดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอนทันที แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือต่อสายหาใครบางคนอย่างร้อนรน โดยไม่อาจทนรอได้อีกต่อไป และก็ไม่รู้ด้วยว่าจะต้องทำเช่นไรไม่นานนักคนที่พจีพัฒน์โทรฯตามเมื่อสักครู่ก็มาถึงที่คอนโดฯของเขา แล้วก็จัดการธุระตามที่พจีพัฒน์บอกทุกอย่างจนแล้วเสร็จเรียบร้อย ตามหน้าที่ของเขาเอง จึงเก็บอุปกรณ์เข้าที่ และเตรียมตัวที่จะกลับไปทำหน้าที่ของเขาต่อ“ขอบคุณ
แฮปปี้เบิร์ธเดย์ NCกลับมาทางด้านของผับที่ทุกคนเริ่มทยอยกันกลับไปทีละคน เพราะร้านใกล้จะปิด และทุกคนก็เริ่มเมากันแล้ว บางคนก็สลบคอพับคาโต๊ะ จนเพื่อนบางคนต้องหิ้วปีกกันออกไปส่งถึงรถ“กลับกันดีๆน่ะ เว้ย” ชนาภัทรเอ่ยบอกเอกณัฐ เมื่อสองทั้งสองขึ้นแท็กซี่ เพราะตอนนี้อารยาเมาคอพับหลับไปแล้วชนาภัทรขอแยกตัวออกไปทำธุระต่อ เมื่อทยอยส่งเพื่อนๆขึ้นรถกลับกันจนเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงแค่พจีพัฒน์กับพีรดา หญิงสาวที่เมาหน้าแดงระเรื่ออยู่ตอนนี้“ยัยแสบกลับบ้าน...” ร่างสูงเอ่ยบอก เมื่อเห็นหญิงสาวยืนโบกไม้โบกมือไม่ยอมขึ้นรถสักที“อื้มมม ฟอร์ยู...” หญิงสาวยังคงยืนโบกมือพร้อมกับโยกย้ายส่ายสะโพกไปมาอยู่อย่างนั้น“เบาๆหน่อย คนหันมามองกันแล้ว” พจีพัฒน์เดินเข้าไปใกล้และพยายามเอามือปิดปากของหญิงสาวเอาไว้เมื่อเริ่มพูดไม่รู้เรื่อง และยังเสียงดังออกมาอีก“ฟอร์ยู หริ่งจะไปหาฟอร์ยู หริ่งคิดถึงลูก...” เสียงอู้อี้ พร้อมกับใบหน้าแดงก่ำที่ทำหน้ายู่เหมือนกับเด็กยังไม่โต ใส่เขาตอนนี้ช่างน่ารักเอ็นดูเสียเหลือเกิน“รู้ว่าตัวเองไม่เคยดื่ม จะดื่มทำไม เมาแบบนี้คงไปหาลูกไม่ได้หรอก...” เสียงต่อว่าออกมาอย่างเอ็นดู เพราะไม่ได้ขึ้นเส
สารภาพรัก“หรีดหริ่ง...มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้คนเดียว ข้างนอกมีแต่กลิ่นบุหรี่ทั้งนั้นเลยน่ะ” ชนาภัทรที่ตามพีรดาออกมาจนถึง ถามขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวมานั่งลงข้างๆกับรถของพจีพัฒน์“ภัทร...มีอะไรเหรอ?” พีรดาถามขึ้น เมื่อเห็นว่าเสียงร่างสูงนั้นเป็นใคร แล้วลุกขึ้นยืนทันที“ฟู่ว์...เอาตรงๆเลยนะ เราชอบหริ่งน่ะ มาเป็นแฟนกับเราได้ไหม” ชนาภัทรเป่าลมออกทางทันที เพื่อรวบรวมความกล้าที่จะพูดออกมา“ภัทร” หญิงสาวทำตัวไม่ถูกขึ้นมา หันหน้ามองไปมาทางอื่น เพราะไม่คิดว่าชนาภัทรจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา“เดิมทีเราให้ไอ้พีทมันช่วย เพราะเห็นว่าหริ่งกับมันสนิทกัน แถมอยู่บ้านหลังเดียวกันอีก แต่มันไม่ยอมทำอะไรเลย แม้แต่เบอร์โทร ที่เราเคยขอเบอร์หริ่งไปกับมันตั้งนานแล้ว แต่มันก็ไม่ยอมให้อ้างเหตุผลตลอด วันนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี และตรงกับวันเกิดเราด้วย เราเลยอยากจะขอโอกาสกับหริ่งดูสักครั้ง” ชนาภัทรร่ายยาวออกมาอธิบายถึงถึงความในใจของเขา ที่มีต่อหญิงสาวอย่างจริงใจ“ภัทร...เราบอกตรงๆน่ะ เราไม่อยากให้ภัทรหรือใครมาเสียเวลากับเราเลย...” พีรดาพูดออกมาตามตรง เพราะตอนนี้ชีวิตเธอไม่ได้ตัวคนเดียว“หริ่งยังไม่ต้องตอบ หรือปฏิเสธเราตอนน
พ่อสื่อ(รัก)ทุกคนยังคงนั่งดื่ม และคุยกันอย่างเพลิดเพลิน บางคนก็ลุกขึ้นไปโยกเต้นบ้าง เพราะนานๆที ที่จะได้ออกมาปลดปล่อยแบบนี้ และก็มารวมตัวกันต่ออยู่ที่เดิม จวบจนถึงเวลเดินทางมาถึงเกือบเที่ยงคืน“เวลานี้ เรามาฉลองกันน่ะภัทร ไม่ใช่เวลามาถามแต่เรื่องเรียนกัน อยู่ข้างนอกเราไม่คุยเรื่องเรียนกันน่ะ เข้าใจนะทุกคน” อารยาขัดขึ้นมาเสียก่อน เมื่อชนาภัทรเอาแต่พูดเรื่องเกี่ยวกับแต่การเรียน และสังเกตุเห็นท่าทีอ้ำอึ้งของพีรดาที่ลำบากใจด้วย“ใช่แล้ว หนึ่งพูดถูก สุขสันต์วันเกิดกับเพื่อนทั้งสองด้วยน่ะ มีความสุขมากๆน่ะสุดหล่อทั้งสองของฉัน” เอกณัฐเอ่ยชมเพื่อนสาวทันที แล้วหันไปทางเจ้าของวันเกิดทั้งสอง“ขอโทษด้วยน่ะทุกคน เต็มที่ได้เลยไม่ต้องเกรงใจ คืนนี้เรากับไอ้พีทเป็นเจ้าภาพเอง” ชนาภัทรพูดขึ้นมา พร้อมกับชูแก้วเครื่องดื่มขึ้นด้านณิชาที่แอบมาตามหลัง เพราะพึ่งทราบว่าวันนี้เป็นวันเกิดของพจีพัฒน์ และทราบว่าทุกคนฉลองกันที่ไหน จึงรีบตามมา ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครเชิญมาก็ตามเมื่อทุกคนต่างกินดื่มกันอย่างสนุกสนาน แต่เจ้าของวันเกิดกลับไม่ยอมดื่ม เอาแต่สั่งการกัน เพราะวันนี้เป็นวันที่ชนาภัทรทวงคำตอบจากพจีพัฒน์ ที่เคยให
For Youตกเย็นร่างบางอันเปลือยเปล่ายังคงหลับสนิทอยู่แนบอกแกร่งของร่างสูง โทรศัพท์มือถือของเธอและเขาดังขึ้นมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ร่างสูงไม่กล้ารับ เพราะเป็นเพื่อนๆที่โทรฯมา คงจะโทรฯมาถามว่าทำไมพวกเขาถึงไม่เข้าเรียนละสิสายตาคมจ้องมองสำรวจใบหน้าหวานที่หลับสนิทอยู่แนบอกอย่างพิจารณา เพราะนี้ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้สำรวจทุกรูขุมขนบนใบหน้าของเธอเป็นครั้งแรก มือสากลูบแก้มนวลเบาๆ พร้อมกับสายตาที่สื่อถึงความห่วงใยออกมาอย่างเห็นได้ชัดและเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้ ร่างสูงดึงลิ้นชักที่หัวเตียงออกมา พร้อมกับหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงสดไม่ใหญ่มากออกมา ซึ่งภายในประกอบไปด้วย สร้อยข้อมือที่ผลิตจากทองคำขาวที่เขาสั่งทำเป็นพิเศษ มีจี้ประดับตกแต่ง ซึ่งมีตัวอักษรภาษาอังกฤษในจี้ระบุว่า ‘For you’ ซึ่งเป็นชื่อเล่นของลูกชายของเขาและเธอนั้นเอง มือหนาหยิบขึ้นมามองสำรวจอีกที แล้วจึงบรรจงสวมให้แก่ข้อมือด้านซ้ายของร่างบาง โดยที่เธอยังคงหลับสนิท ไม่รับรู้อะไรเลย“อื้อพีท...” เสียงอู้อี้ดังออกมาจากร่างบาง เมื่อถูกรบกวนการนอน“อื้ม...คิดว่าเป็นใครล่ะ” เสียงนุ่มตอบรับกลับไป แล้วถามร่างบางตรงหน้าที่ยังนอนแนบอยู่กับอกแกร่ง“
บทลงโทษ NCคอนโดฯหรูกลางเมืองกรุงเมื่อลากหญิงสาวออกมาจากมหาวิทยาลัยได้แล้ว พจีพัฒน์ขับรถตรงมายังคอนโดหรูสูงเสียดฟ้าของพวกเขาทันที เพราะไม่รู้ว่าจะพาหญิงสาวไปที่ใด เพราะทั้งคู่ก็ยังสวมใส่ชุดนักศึกษากันทั้งคู่“พากลับมาที่คอนโดฯทำไม” หญิงสาวถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ เมื่อร่างสูงพาเธอกลับมาที่คอนโดฯคืน แทนที่จะพาไปที่อื่น“แล้วจะให้ไปไหนละ...ชุดก็ยังเป็นชุดนักศึกษาอยู่” ร่างสูงเปิดประตูเข้ามาตามหลังร่างบาง แล้วพูดขึ้นพร้อมกับเปลี่ยนรองเท้า“...” หญิงสาวไม่เอ่ยตอบกลับมา เอาแต่เดินไปทางห้องของเธออย่างเบื่อหน่ายร่างสูงรีบก้าวเท้ายาวตามหญิงสาวไปอย่างเร่งรีบ แล้วเอาตัวเขามาขวางทางหญิงสาวเอาไว้ทันที ไม่ให้เธอได้เข้าห้องของตัวเอง แล้วจับแขนเธอไว้“เดี๋ยว...ใครอนุญาตให้เข้าห้องนี้” พร้อมกลับถามขึ้น“อ้าว...ก็นี้มันห้องหริ่งนะ ว้ายยยย” ร่างบางไม่ทันที่จะได้ถามอะไรให้มากความ ก็ต้องร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อร่างสูงอุ้มเธอขึ้นมาในท่าเจ้าสาวโดยไม่พูดอะไร“จะ จะทำอะไร” หญิงสาวถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ติดขัดอยู่ในลำคอ“ทำโทษ...” เสียงเข้มตอบกลับเพียงแค่สั้นๆพจีพัฒน์อุ้มหญิงสาวเดินไปทางห้องนอนของเขาต่อทันที โ