สองร่างกายอันเปลือยเปล่าที่โยกขย่มกันอย่างเมามัน ภายใต้แสงสลัวจากดวงจันทร์ ที่สาดส่องลงมามาทางช่องหน้าต่าง ที่มีม่านผืนบางปกป้องอยู่ ในเงามืดอันสลัวนั้นที่พอจะสามารถมองเห็นร่างอันเปลือยเปล่าของกันและกันอยู่พอรางๆ แต่ทั้งสองร่างไม่ทราบเลยว่าคนที่ร่วมรักด้วยนั้นเป็นใครกัน เพราะด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ผสมกับยาปลุกเซ็กส์ เมื่อเข้าสู่ร่างกาย จึงไม่สามารถที่จะควบคุมสติได้ และไม่ได้สนใจอะไรทั้งสิ้น เพราะต่างคนต่างต้องการการปลดปล่อยเป็นสิ่งแรก
รุ่งเช้า
“ตาพีทไปไหน ทำไมยังไม่ลงมาสักที วันนี้มีรายงานที่มหาวิทยาลัยไม่ใช่เหรอ หรือเปลี่ยนใจไม่อยากเรียนแล้ว” พัฒน์พงษ์ ผู้อาวุโส แห่งบ้านเอ่ยขึ้นถาม ภรรยาของเขาที่นั่งอยู่ข้างๆ เตรียมจะรับประทานอาหารเช้ากัน
“ไม่รู้สิค่ะ” นิษฐา ภรรยาของพัฒน์พงษ์เอ่ยตอบกลับอย่างเฉไฉ และพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด
“แล้วหนูนัชชาล่ะ เมื่อคืนกลับยังไง ใครเป็นคนไปส่ง” พัฒน์พงษ์เปลี่ยนเรื่องถามภรรยาทันที
“หนูนัชน่าจะค้างที่นี่แหล่ะ” นิษฐา ตอบสามีออกมา พร้อมกับใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุข
“ห๊า...ค้างที่นี่ แล้วนอนที่ไหนกัน ที่ห้องรองรับแขกก็ว่างนี้ ไม่เห็นมีใครใช้เลย” พงศกร หรือ เพชร ลูกชายคนโตของบ้านพูดขึ้นมา เพราะเขาเดินลงมาผ่านห้องเอาไว้รองรับแขกของบ้าน และพบว่าไม่มีการใช้งาน หรือใครเข้าไปพักใดๆ
“หรือว่า...” พจีกานต์ หรือ แพท ลูกคนกลาง และเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของบ้าน พูดขึ้น ชวนให้ทุกคนสงสัย
ทุกคนมองหน้ากันสลับไปมา ต่างคิดวิตกไม่แพ้กัน และพากันลุกขึ้น เดินขึ้นไปชั้นบนของบ้าน และมุ่งหน้าตรงสู่ห้องลูกชายคนเล็กของบ้านทันที
ณ บนที่นอนเตียงกว้าง ภายในห้องนอนสุดหรูของบ้านหลังอันใหญ่โตที่เต็มไปด้วยคราบน้ำรักผสมกับเลือดอันบริสุทธิ์ ที่ไหลเปรอะเปื้อนเป็นวงกว้างอยู่บนผ้าปูที่นอนอันสีขาวสะอาดตา พร้อมกับสองร่างที่นอนเปลือยกายกอดกันแน่นแฟ้น เพราะหมดฤทธิ์ลงอย่างเหน็ดเหนื่อย
“ตาพีท...” เสียงนิษฐาผู้เป็นแม่เอ่ยขึ้นทันทีที่เข้ามาภายในห้องนอนส่วนตัวของลูกชายคนเล็ก
ชายหนุ่มปรี่ตาขึ้นตาเสียงเรียกของนิษฐา ผู้เป็นแม่อย่างช้าๆ
“อืม หาววว" พร้อมกับยกมือขึ้นปิดปากหาว
ทุกคนที่เข้ามาภายในห้องยืนตาค้างทันทีกับสภาพของลูกชายที่เปลือยท่อนบน เพราะท่อนล่างยังคงมีผ้าห่มผืนหนาปกคลุมเอาไว้อยู่
"มีอะไรกันหรือครับ คุณพ่อ คุณแม่ พี่เพชร พี่แพท แล้วนี้ทุกคนเข้ามาที่ห้องผมทำไมกันครับ” พจีพัฒน์ หรือ พีท คือลูกคนเล็กของบ้านถามออกไปอย่างงุนงง ไม่เข้าใจที่ทุกคนเข้ามาที่ห้องนอนของเขา แถมยังจ้องจะเอาผิดกับเขาอีก
“หนูนัชชาไม่ได้อยู่ที่ห้องรองรับแขก” พัฒน์พงษ์ พูดเข้าประเด็นทันที ตามจุดประสงค์ที่เข้ามาถึงห้องของลูกชาย
“ไม่ได้อยู่ที่ห้องรองรับแขก แล้วเข้ามาบอกผมทำไมกันครับ รบกวนการนอนของผม” พจีพัฒน์พูดโพล้งออกมาทันที อย่างหัวเสีย เมื่อได้ยินพ่อบอกว่าหญิงสาวที่มาสังสรรค์ด้วยเมื่อคืนไม่ได้อยู่ที่ห้องรองรับแขกของบ้าน และกำลังจะทิ้งตัวลงนอนคืน
“แล้วแกพาใครมานอนด้วย” พัฒน์พงษ์ถามขึ้นมา เพราะเห็นร่างใต้ผ้าห่ม และขาที่ลอดออกมา อย่างเห็นได้ชัดว่ามีคนอยู่กับลูกชาย
“ก็...” พจีพัฒน์มองไปที่ร่างบาง ที่มุดหลับสนิทอยู่ใต้ผ้าห่มอย่างลังเล เพราะไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นใคร
นิษฐาที่ทนไม่ไหว เดินเข้าไปกระชากผ้าห่มที่ปกคลุมอีกร่างหนึ่งออกมาอย่างแรง จนผ้าเปิดออกมาถึงเอวของหญิงสาว
"ว้าย..." เสียงร้องดังขึ้นมาอย่างตกใจ และรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปกปิดร่างกายไว้ทันที
“หรีดหริ่ง!” เป็นเสียงเดียวกันที่ทุกคน ที่อยู่ในเหตุการณ์นั้น เอ่ยขึ้นเป็นเสียงเดียวกันทันที อย่างสามัคคีกัน
“เฮ้ย...นี้เธอเข้ามาอยู่ที่ห้องของฉันได้ยังไงกันยัยเปีย” พจีพัฒน์ เมื่อได้ยินดังนั้นรีบหันหลังกลับไปมอง เป็นอันต้องตกใจ เพราะมีหญิงสาวร่างกายเปลือยเปล่าเหมือนกับเขามุดใต้ผ้าห่มอย่างเอียงอาย
“หริ่ง...โอ้ยยย ซีดดด” หญิงสาวโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม และกำลังจะขยับตัวหนี แต่ก็ต้องซีดปากร้องออกมาเพราะความเจ็บปวดของร่างกาย
“หึ...ไม่ต้องพูดอะไรกันแล้ว รีบพากันแต่งตัว แล้วลงมาคุยกันข้างล่าง” พัฒน์พงษ์ด่วนสรุปทันที เมื่อเห็นสภาพร่างกายของทั้งสอง
“นี่เธอเข้ามาที่ห้องฉันได้ยังไงกันยัยเปีย” พจีพัฒน์ หันมาถามความจริงจากหญิงสาวทันที เมื่อทุกคนออกไปกันหมดแล้ว
“หริ่งจะไปรู้ได้ยังล่ะ โอ้ย..เจ็บชะมัดเลย ซีดดด” พีรดา หรือ หรีดหริ่ง หญิงสาวที่อยู่ในห้องนี้กับชายหนุ่มพูดขึ้น พร้อมกับซีดปากร้องทุกที ที่ขยับร่างกาย
“เฮ้อ...จบแล้วชีวิตฉัน นั่งเหม่อทำไม ไม่รีบลุก” พจีพัฒน์ได้แต่กุมขมับตัวเอง แล้วขยี้ผมแรงๆอย่างคนสิ้นหวัง
“คือ...” หญิงสาวอ้ำอึ้ง ไม่กล้าบอก แต่กลับใช้สายตามองหาเสื้อผ้าของเธอแทน
ชายหนุ่มจึงลุกลงมาจากเตียงอย่างโทงๆไม่รู้สึกอายแม้แต่น้อย เดินไปหยิบเสื้อผ้าของหญิงสาว แล้วโยนให้เธอได้สวมใส่ทันที
“รีบใส่สิ” เสียงเข้มตวาดสั่ง เมื่อเห็นหญิงสาวนั่งนิ่ง ไม่ยอมทำอะไร
“คือ...ลุกไม่ได้เจ็บ” หญิงสาวพูดออกไปอย่างรู้สึกอาย เพราะเธอเจ็บตรงนั้น
“สำออย” พจีพัฒน์พูดพร้อมกับสลัดผ้าห่มออกอย่าง จนทำให้หญิงสาวเซไปตามแรงของผ้าห่มทันที
“โอ้ยยย...เจ็บน่ะ” เสียงร้องโอดโอยของเธอดังขึ้นเมื่อนอนแนบอยู่บนที่นอน
พจีพัฒน์ตาค้างทันที ที่เห็นสิ่งตรงหน้าบนที่นอนสีขาว ที่เต็มไปด้วยคราบเลือด และน้ำรักเปรอะเปื้อนเป็นวงกว้าง ไหนจะร่างกายของหญิงสาวที่เปลือยเปล่า แถมตรงนั้นยังบวมแดงอีก
“...นี่ฉันรุนแรงขนาดนี้เลยเหรอ” ชายหนุ่มพูดขึ้นอย่างไม่อยากกเชื่อในสายตาของตัวเอง
“ปิดตาน่ะไอ้บ้า จะมองทำไม” หญิงสาวพ่นคำด่าออกมาทันที เมื่อรู้ตัวว่าชายหนุ่มกำลังจ้องมองมาที่เธอ
“อยากมองตายแหล่ะ จะเป็นตากุ้งยิงหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“หันหลัง” หญิงสาวสั่งขึ้นมาทันที
“ชิ...ใครอยากมอง” พจีพัฒน์มองบน แต่ก็ต้องทำตามที่หญิงสาวบอก
ชายหนุ่มจึงจัดการสวมเสื้อผ้าของตัวเองทันที อย่างเร่งรีบ เพราะรีบลงไปเคลียร์กับทุกคนที่ด้างล่างต่อ
“เสร็จแล้ว” หญิงสาวเอ่ยขึ้น เมื่อสวมใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วแต่ไม่ยอมลุกออกจากที่นอน
“เสร็จแล้วก็...เธอนี้น่ะ เข้ามาห้องฉัน แล้วยังลำบากฉันอีก นี้มันเวรกรรมอะไรของฉันว่ะ” พจีพัฒน์กำลังจะพูดขึ้น แต่เมื่อเห็นว่าหญิงสาวนั่งนิ่งไม่ยอมขยับ ก็รับรู้ได้ทันที
ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้ๆกับหญิงสาว แล้วย่อตัวลงเพียงเล็กน้อย ยอมเสียสละให้เธอได้ขึ้นหลัง เพื่อจะพาลงไปด้านล่าง เพราะดูจากสภาพแล้วคงจะเดินลงบันไดไม่ได้แน่
ครอบครัวสุขสันต์(จบ)หนึ่งปีต่อมาเข้าปีที่สามของการเป็นนักศึกษาของทั้งคู่แล้ว โดยพจีพัฒน์ตั้งเป้าเอาไว้ว่า จะพาหญิงสาวจบภายในปีนี้ให้ได้ เพราะวางแผนว่าจะมีหลานให้กับแม่ของเขาเพิ่มอีก และเขาก็อยากมีด้วย เพราะไม่อยากให้ลูกอายุห่างกันมากตอนนี้ลูกชายของเขาอายุได้สองขวบกว่าแล้ว และเข้าโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อย นิษฐาเลยว่างในช่วงกลางวัน เพราะหลานไปโรงเรียน เลยมาเย้าแหย่ให้พจีพัฒน์มีหลานให้เลี้ยงอีก เหตุผลเพราะว่าเหงาเพราะพี่ชายและพี่สาว ก็ไม่เห็นท่าทีว่าจะมีแฟนกันเลย ผลเลยมาตกอยู่ที่ลูกชายคนเล็กอย่างเขาที่ยังเรียนไม่จบ แต่แม่อยากที่จะมีหลานเพิ่ม จึงต้องทำให้ทั้งคู่เร่งให้จบภายในปีนี้“ดึกมากแล้วนะพักผ่อนเถอะ พีทอย่าฝืนร่างกายตัวเองเลย ปีนี้เราไม่จบปีหน้าก็รอจบพร้อมกันกับเพื่อนๆก็ได้นี้” พีรดาเอ่ยบอกร่างสูง เมื่อเห็นว่าดึกมากแล้ว แต่ร่างสูงเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับการทำวิจัยจบอย่างเดียว“ใกล้จะเสร็จแล้ว หริ่งหริ่งง่วงก็ไปนอนก่อนเถอะ” พจีพัฒน์ตอบออกมาโดยไม่หันหน้าไปมองหญิงสาวเลย“ไม่ค่ะ หริ่งจะเอาเปรียบพีทคนเดียวได้ยังไงกัน แค่พีทอดหลับอดนอนช่วยทำวิจัยให้หริ่ง แค่นี้ก็เกรงใจอยู่แล้ว” หญิงสาวรีบป
เปิดตัวอย่างเป็นทางการซึ่งก็เป็นการชื่นชอบ มีทั้งชื่นชมและทั้งวิจารณ์บ้างต่างๆนาๆ และก็ทำเอาตกใจเป็นอย่างมากในวงเพื่อนฝูงอยู่ไม่น้อย เพราะบางคนที่สนิทต่างไม่มีใครทราบข่าวมาก่อน แม้กระทั้งกวินพัทธ์เอง ที่สนิทกันมามากพอสมควร ก็พึ่งจะทราบข่าวมาก่อนหน้านี้เอง จึงอดไม่ได้ที่จะคอมเมนต์แซวทั้งคู่ออกมาไม่ได้ ‘เปิดตัวทั้งที ทำเอาคนอึ้งไปเลยน่ะมึง ทำไมไม่รอให้ลูกบวชก่อนวะ...ค่อยเปิดตัว 555’“พีท โพสต์อะไรลงไปแบบนั้นค่ะ...” หญิงสาวต่อว่าออกมาทันที เมื่อโทรศัพท์มือถือดังขึ้นมาไม่หยุด เพราะเสียงแจ้งเตือนข้อความ แม้กระทั้งสายเรียกเข้า“ก็โพสต์ความจริงยังไงล่ะ” ร่างสูงเอ่ยตอบได้แค่นั้น เพราะตอนนี้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เหลือล้นมีความสุขมากมาย ที่ได้ปลดล็อคออกมา“แต่เรา...” หญิงสาวยังคงมีใบหน้าที่วิตกอยู่ไม่น้อย“ไม่มีอะไรต้องกลัวทั้งนั้นแหล่ะ ความจริงก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำ ไม่ช้าก็เร็วคนต้องรู้อยู่ดีแหล่ะหริ่งหริ่ง” พจีพัฒน์ได้แต่ปลอบให้หญิงสาวเชื่อมั่นในตัวเอง พร้อมกับมือที่ยกขึ้นลูบศีรษะของเธออย่างเอ็นดู ถึงแม้ว่าหญิงสาวจะอายุเยอะกว่าเขาตั้งสามเดือน แต่หญิงสาวในสายตาเขาก็ยังเป็นน้องเขาอ
จากนี้และตลอดไป NCทางด้านของพจีพัฒน์เอง ตอนนี้ขับรถพาพีรดาออกจากเมืองกรุงในเวลากลางดึก มุ่งหน้าตรงสู่ยังภาคเหนือของประเทศ ในเมื่อสัปดาห์ไม่สามารถที่จะกลับบ้านไปได้ จึงถือโอกาสนี้พาหญิงสาวไปพักผ่อน และปรับความเข้าใจกันเสียเลย โดยที่หญิงสาวไม่อาจที่จะปฏิเสธได้“พีทจะพาหริ่งไปไหน...นี้มันดึกมากแล้วน่ะ” หญิงสาวถามขึ้นมาทันที เมื่อเห็นว่าพจีพัฒน์ขับรถออกนอกเส้นทาง“...” ชายหนุ่มไม่เอ่ยใดๆ กลับขับรถไปตามเส้นทางเรื่อยๆ เพราะเส้นทางที่ไม่ค่อยชิน“พีท...ทางมันมืดมากเลยน่ะ แถมยังปลอดรถคันอื่นอีกด้วย” หญิงสาวถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะกับมองไปตามเส้นทางเรื่อยๆ ที่ไม่คุ้นชินเอาเสียเลย แถมไม่มีรถคันอื่นๆอีก“กลัวเหรอ...ไม่ต้องกลัวหรอก พีทไม่ให้หริ่งหริ่งเป็นอะไรหรอกน่า” ชายหนุ่มถามออกมาเมื่อสังเกตุเห็นอาการวิตกของหญิงสาว แล้วพูดติดตลกออกมาเพื่อให้หญิงสาวสบายใจ และคลายความกังวล“ไม่ใช่แบบนั้น หริ่งเป็นห่วงพีทต่างหาก ที่ขับรถมานานแล้ว กลัวพีทจะง่วงเอา” หญิงสาวเอ่ยบอกออกไปด้วยความเป็นห่วง“เดี๋ยวก็ถึงแล้ว...ขอบคุณน่ะ ที่คุยเป็นเพื่อนมาตลอดทาง ถึงแม้ว่าจะเป็นคำพูดที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็ช่วยได้ดีเลย ไม
ความจริงก็คือ...พจีพัฒน์ตามหญิงสาวออกมาจนทัน เห็นหญิงสาวกำลังยืนโบกแท็กซี่อยู่พอดี จึงรีบวิ่งเข้าไปใกล้ พากลับมายังรถของเขาที่จอดอยู่ แต่ไปยังไม่ถึงหญิงสาวก็สะบัดแขนออก เดินหน้างอไปที่รถเองโดยไม่พูดไม่จาสักคำ“หริ่งหริ่ง...” เสียงนุ่มเอ่ยเรียกชื่อของหญิงสาวเมื่อเดินมาถึงรถ“ไม่ต้องมาพูดเสียงหวานใส่เลยน่ะ...ไอ้คนโกหกกะล่อนปลิ้นป้อนไปทั่ว ที่แท้ก็แอบไปมีแฟนอยู่แล้ว ฮึก...” ใบหน้างอยับยู่ยี่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจนักร่างสูงไม่พูดพร่ำ รีบเดินเข้าไปใกล้ๆ กับหญิงสาวแล้วสวมกอดเธอไว้จากทางด้านหลังทันที โดยที่เธอไม่สามารถที่ขยับหนีไปไหนได้อีก“หริ่งหริ่งครับ...” พร้อมกับน้ำเสียงที่อ่อนละมุนเอ่ยเรียกชื่อของเธอ“ไอ้คนบ้า...” พีรดาพยายามที่จะขยับและดิ้นหนีออกจากอ้อมแขนนั้น“หริ่งหริ่งครับ ช่วยมีเหตุผลหน่อย” เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นมาที่ข้างหูของเธอ “ปล่อย...ใช่สิหริ่งมันคนไม่มีเหตุผล งี่เง่าเอาแต่ใจตัวเอง ปล่อย...หริ่งจะกลับบ้านไปหาลูก” หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีที่ประชดประชัน และพยายามที่จะดิ้นออกจากอ้อมแขนเพื่อให้เป็นอิสระ“ไม่ให้กลับ...ขึ้นรถครับ เรามีเรื่องต้องเคลียร์กันอีกยาว” ร่างสูง
เข้าใจผิด“แต่งตัวโป๊เกินไปหรือเปล่า แค่จะไปรับไลลาเองน่ะ ทำไมต้องจัดเต็มขนาดนี้ด้วย พีทไม่เข้าใจผู้หญิงเลยจริงๆ” พจีพัฒน์พูดขึ้นมาทันที เมื่อเห็นว่าวันนี้หญิงสาวแต่งตัวนุ่งน้อยห่มน้อยจนเกินไป และหุ่นก็เริ่มที่จะอวบขึ้น เนื้อหนังเต่งตึงขึ้นมาบ้างแล้ว ทุกสัดส่วนช่างยั่วยวนเหลือเกิน ไม่พอแค่นั้นยังโชว์ไหล่ขาวเนียนๆนั้นอีก“พูดมาก พีทก็ไม่ต้องไป หริ่งจะไปหาไลลาคนเดียวเอง” หญิงสาวเอ่ยคำขาดขึ้นมาขู่ทันที เมื่อเห็นว่าร่างสูงเริ่มจะบ่นเธอ“ได้ยังไงกัน หริ่งหริ่งเป็นเมียพีทน่ะ ใครจะยอมปล่อยให้แต่งตัวแบบนี้ออกไปเป็นอาหารตาของคนอื่นได้ยังไงกัน พีทต้องไปคุมสิ แล้วอีกอย่างไลลาก็เป็นเพื่อนของเราทั้งคู่น่ะ” พจีพัฒน์ยกเหตุผลขึ้นมาอ้างกับหญิงสาวทันที“จะไปหรือไม่ไปค่ะ” หญิงสาวหันมาร่างสูงที่ตอนนี้ทำหน้างอเหมือนเด็กใส่เธออยู่“ไปครับ” ร่างสูงรีบลุกขึ้น แล้วหยิบเอากุญแจรถ เดินตามหญิงสาวออกจากห้องไปทันที อย่างไม่อาจที่มีสิทธิ์คัดค้านหรือปฏิเสธอะไรได้เลยเดิมทีวันนี้ทั้งคู่จะต้องกลับไปค้างที่บ้านกับลูกเพราะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่พีรดาขอปฏิเสธที่จะไม่ไป เพราะพึ่งจะมีเรื่องที่เข้าใจผิดกัน และไม่อยากให้พจ
ไม่อาจทนทางด้านของไลลาที่พึ่งจะเลิกกับแฟนหนุ่มมาหมาดๆ เพราะจับได้ว่าธันวาแอบไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหญิงอื่น และยังมารู้อีกว่าตลอดเวลาที่ชายหนุ่มคบอยู่กับเธอ ก็แอบไปมีสัมพันธ์กับคนอื่นตลอด โดยที่เธอไม่เคยรู้เลย เพราะเธอไม่ยอมมอบความสาวนั้นให้เขาคืนนี้เลยตัดสินใจออกมาดื่มคนเดียวตั้งแต่ร้านพึ่งจะเปิด เพราะอยากลืมทุกอย่าง และทิ้งไม่ไปให้หมดภายในวันนี้“มันก็แค่ไอ้ผู้ชายเฮงซวยละว่ะ ไปได้เร็วๆสะยิ่งดี ฮึก...” ใบหน้าเคียดแค้นก้นด่าออกมา พร้อมกับเสียงเค้นหัวเราะอยู่ในลำคอ“พี่สาว...เมาหรือเปล่าค่ะ” ปรียาภัทร หรือ เอิงเอย หญิงสาววัย 20 ปี สาวเสิร์ฟที่พึ่งจะมาทำงานที่นี่ได้ไม่กี่วันมานี้เอง เพราะต้องการหารายได้ระหว่างเรียน“พี่ไม่เป็นอะไรค่ะน้อง พี่แค่อยากดื่มเพื่อให้ลืมสิ่งที่ไม่ดีเฉยๆค่ะ ถ้าพี่เมาน้องช่วยโทรหาเพื่อนพี่ที่เบอร์นี้ทีน่ะค่ะ” ไลลาพูดขึ้นด้วยใบหน้าเยือกเย็น พร้อมกับยื่นกระดาษโน๊ตให้แก่ปรียาภัทรทันทีหญิงสาวรับไว้โดยที่ไม่พูดอะไรตอบ แล้วจึงขอตัวกลับไปทำหน้าที่ของเธอต่อ ปล่อยให้ไลลาได้นั่งดื่มอยู่คนเดียว แต่เธอก็จะคอยมาสอดส่องดูตลอดหากว่างจากโต๊ะอื่นคอนโดฯหรูของพจีพัฒน์พจีพัฒน์พา