สองเดือนต่อมา
ณ โรงเรียนมัธยมเอกชนชื่อดัง
วันนี้เป็นวันที่ทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมปัจฉิมนิเทศขึ้น สำหรับนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาประจำปีของทางโรงเรียน
“หริ่ง ดีใจด้วยน่ะ ในที่สุดพวกเราก็ได้เรียนมหาลัยเดียวกัน ได้เจอหน้ากันอีกจนได้” ไลลา เพื่อนร่วมห้องและเพื่อนสนิทของหญิงสาวพูดขึ้นอย่างดีใจ เมื่ออทราบข่าวว่าพีรดาได้ศึกษาต่อมหาวิทยาลัยเดียวกันกับเธอ
“คุณลงเป็นคนจัดการให้น่ะ” พีรดาตอบกลับไปเพียงแค่นั้น เพราะไม่อยากพูดอะไรมากถึงเรื่องนี้ แค่ได้ศึกษาต่อก็ถือเป็นบุญมากพอแล้ว
“แล้วสรุปแกจะเรียนสาขาไหนล่ะ เลือกได้ยัง” ไลลาถามกลับมาอีกคำถาม เพราะหญิงสาวยังไม่ลงเลือกสาขาที่ต้องการ
“ฉันมีสิทธิ์เลือกด้วยหรือ ขนาดฉันขอลงมหาลัยเปิด ท่านยังไม่ให้เรียนเลย” พีรดาพูดออกมาด้วยใบหน้าที่รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ในโชคชะตาของตัวเอง แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกเสียจากทำตามความต้องการของผู้มีพระคุณ
“แกยังโชคดีน่ะหริ่ง ที่มีผู้อุปการะเลี้ยงดูแกมาดีขนาดนี้ แถมได้เรียนโรงเรียนเอกชน มหาลัยดังๆอีกด้วย” ไลลาเอ่ยชมออกมา อย่างน้อยๆ หญิงสาวก็ยังได้รับโอกาสที่ดีแบบนี้
“แกก็ได้เรียนที่ดีๆเหมือนกันนี้ ถึงฉันจะยังไม่รู้ว่าตัวเองได้อยู่คณะไหน แต่ก็ยังดีที่มีแกเรียนที่เดียวกันด้วย” หญิงสาวพูดขึ้นมา และรู้ใจดีใจอยู่ไม่น้อยที่มีไลลาได้ศึกษาที่เดียวกันอีกถึงจะยังไม่ทราบก็ตามว่าตัวเองได้อยู่สาขาไหน
“โน้นสุดหล่อของแก ดูสิมีแต่สาวๆ ล้อมรอบ” ไลลาเปลี่ยนเรื่องคุยทันที เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นร่างสูงใบหน้าฟ้าประทานดุจเทพในนิยายที่หลุดออกมา ซึ่งก็ดาวเด่นของห้อง และของโรงเรียน ที่ครบเครื่องเก่งไปเสียรอบด้าน อย่างพจีพัฒน์นั้นเอง
“ของฉันอะไรกัน เขาเป็นลูกของผู้มีพระคุณต่างหากล่ะ” พีรดารีบถ่อมตนทันที ที่เพื่อนพูดออกมาแบบนั้น เพราะเธอไม่อยากเอาตัวไปเทียบเท่ากับชายหนุ่ม
“ไม่ไปถ่ายรูปด้วยกันไว้หน่อยเหรอ อย่างน้อยๆ ก็เพื่อนร่วมห้องกันน่ะ” ไลลาถามออกมา
“ไม่ล่ะ จะถ่ายทำไมกัน แค่เจอหน้ากันทุกวันอยู่แล้ว และอีกอย่างไม่เข้าใกล้ไม่อยากจะมองหน้าด้วย” พีรดารีบปฏิเสธขึ้นมาทันที
“เถอะน่า...ไปกัน” ไลลาไม่พูดอะไรให้มากความ รีบดึงมือพีรดา เดินไปยังกลุ่มเพื่อนที่มีพจีพัฒน์อยู่ทันที
ทั้งสองเดินฝ่ากลุ่มของเพื่อนเข้าไปยังจุดหมาย ตามความประสงค์ที่ต้องการทันที โดยไม่สนใจเพื่อน ๆและสาวๆรุ่นน้องคนอื่นๆที่มาล้อมรอบเลย
“พีท...ถ่ายรูปด้วยกันหน่อยสิ ไหนๆก็จบกันแล้ว” ไลลาพูดขึ้นทันที ที่เดินเข้าฝ่าฝูงชนไปถึงตัว ของพจีพัฒน์ได้
“เอาสิ” พจีพัฒน์มองหน้าทั้งสอง ก่อนจะพยักหน้ารับ เชิงเป็นคำตอบว่าอนุญาต
“หรีดหริ่ง เข้ามาสิ เร็วๆ” ไลลากวักมือเรียกทันที เมื่อเห็นว่าพีรดาไม่ยอมมาเข้าร่วมถ่ายรูปหมู่ด้วยกันกับเพื่อนๆ
“ยืนบื้ออยู่ทำไม ยัยเปีย” เสียงเข้มของพจีพัฒน์ดังขึ้นมาทันที เมื่อเห็นว่าพีรดาไม่เข้ามาถ่ายรูปด้วยกัน
พีรดาจึงเดินเข้าไปในกลุ่มของเพื่อนๆ โดยที่มีพจีพัฒน์ยืนอยู่ตรงกลาง ทามกลางเพื่อนๆสี่ห้าคน ที่มีทั้งชายและหญิง
“โอ้ยยย...คุณพีท” หญิงสาวร้องออกมาทันที เมื่อรู้ว่าใครที่เป็นคนดึงหางผมเปียของเธอ
“มายืนข้างหน้า ตัวเตี้ยขนาดนั้นจะไปยืนอยู่ข้างหลังทำไม ใครเขาจะมองเห็น” พจีพัฒน์จึงขยับเพียงเล็กน้อย เพื่อให้พีรดาได้มายืนอยู่ข้างหน้า
พีรดาจึงได้ยืนอยู่ในตำแหน่งข้างหน้าของพจีพัฒน์แทน และเมื่อเห็นว่าที่มือของหญิงสาวว่าง ไม่มีดอกไม้สักช่อ พจีพัฒน์จึงได้ยื่นดอกไม้ที่เขาถืออยู่ไปให้เธอถือแทน
“ทำไม” พีรดาเลิกคิ้วขึ้น พร้อมกับถามออกไป ที่จู่ๆพจีพัฒน์ยื่นช่อดอกไม้มาให้
“แค่ถือถ่ายรูป” พจีพัฒน์พูดเพียงแค่นั้น
หญิงสาวจึงต้องรับไว้ แล้วไม่พูดอะไรต่อ เพราะคิดเพียงแค่ว่าพจีพัฒน์ให้ยืมถือถ่ายรูป ถ่ายรูปเสร็จก็คงจะเอาคืน จึงไม่ได้ต่อความอะไรกันต่อ
“พร้อมน่ะทุกคน” กวิน หรือ กวินพัทธ์ เพื่อนร่วมห้อง และเป็นเพื่อนสนิทของพจีพัฒน์ พูดขึ้น เมื่อจัดเตรียมตั้งเวลาของกล้องได้แล้ว ก่อนจะวิ่งมาเข้ากลุ่มเพื่อถ่ายรูปกับเพื่อนๆ
แชะ แชะ
“เอาคืนไป” พีรดายื่นดอกไม้ให้กับพจีพัฒน์คืนทันที ที่ถ่ายรูปกันเสร็จ
“เอาไปสิ ฉันได้เยอะแล้ว ถือกลับไม่ไหว” พจีพัฒน์ปฏิเสธที่จะรับคืน แล้วยกดอกมือที่ถืออยู่เต็มมือให้ดู แล้วกำลังจะเดินหันหลังกลับไป
“อย่าพึ่งไป พีท หริ่ง ถ่ายรูปด้วยกันก่อนสิ” นัชชา ที่เดินหาทั้งคู่อยู่นานสองนาน เมื่อเห็นว่าทั้งคู่อยู่ด้วยกันจึงได้เรียกเอาไว้เสียก่อน
“...” พจีพัฒน์ต่างมองหน้ากัน แล้วจึงยอมทำตามที่นัชชาขอโดยไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะรู้จุดประสงค์ของนัชชาดี ที่เข้ามาตีสนิทพีรดา เพื่อเป็นสะพานเข้าหาพจีพัฒน์ได้ง่ายขึ้น
บ้านเรืองพาณิชยากุล
“หริ่งกลับมาแล้วหรือ ถืออะไรมาตั้งเยอะแยะ” พิมพาถามขึ้นทันที ที่เห็นพีรดาเดินเข้ามาในครัว พร้อมกับถุงเต็มไม้เต็มมือไปหมด
“มะม่วงจ้าป้าพิมพ์ พอดีวันนี้แดดร้อนมาก เลยรู้สึกเพลียๆ อยากทานอะไรเปรี้ยวๆหน่อย ป้าทานได้น่ะ ไม่เปรี้ยวเลย” พีรดายื่นให้กับพิมพาดู แล้ววางลงที่ตะ เพื่อแกะออกใส่จาน
“อี๋...แกทานลงไปได้ยังไงว่ะ เปรี้ยวขนาดนี้ เข็ดฟันแย่” พิมพาที่พึ่งจะกัดไปเพียงแค่นิดเดียว ต้องจี๊ดปากขึ้นมาทันที เพราะความเปรี้ยวของสิ่งที่ที่กินเข้าไป
“ไม่เปรี้ยวนี้ป้า พี่ดาลองชิมดูสิค่ะ ป้าพิมพ์มั่วหรือเปล่า หริ่งทานหมดไปตั้งลูกหนึ่งแล้วไม่เห็นว่ามันเปรี้ยวเลยค่ะ” พีรดาพูดออกมา พร้อมกับยื่นไปให้แก่ลัดดาได้ลองชิมดูบ้าง
“หรีดหริ่ง...นี้น่ะไม่เปรี้ยว ฉันว่านี้ส้มทั้งสวนมันก็สู้มะม่วงลูกนี้ขอเธอไม่ได้หรอก” ลัดดาตาหยีขึ้นมาทันที ที่ได้ชิมไปแค่นิดเดียว
“หริ่ง” พิมพาเลิกคิ้วขึ้น อย่างสงสัย
“จ๋าป้า” พีรดาขานรับ แต่มือก็ยังไม่ยอมวางมะม่วงลง แถมยังเคี้ยวไม่ยอมหยุดอีก จนแก้มป๋องไปข้างหนึ่ง
“ประจำเดือนแกมาหรือเปล่า” พิมพาถามเข้าประเด็นทันที ตามความสงสัยของตัวเองที่คาดเดาเอาไว้
“ไม่รู้สิ ช่วงนี้ยุ่งๆ เลยไม่ได้สนใจ แต่น่าจะไม่มาสองเดือนได้แล้วมั้ง” พีรดาตอบออกไปอย่างน่าตาเฉย เพราะไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย
“หริ่ง...แกท้องหรือเปล่า” พิมพาจึงถามออกมาอีกครั้ง เมื่อพีรดาตอบออกมาแบบนี้
พีรดาชะงักนิ่ง อ้าปากค้าง แล้วหยุดทุกการกระทำนั้นไว้ทันที ที่พิมพาถามคำถามนี้ออกมา เพราะไม่ได้คิดที่จะเตรียมใจไว้เลยตั้งแต่แรก หญิงสาวมีใบหน้าเป็นกังวลขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
ครอบครัวสุขสันต์(จบ)หนึ่งปีต่อมาเข้าปีที่สามของการเป็นนักศึกษาของทั้งคู่แล้ว โดยพจีพัฒน์ตั้งเป้าเอาไว้ว่า จะพาหญิงสาวจบภายในปีนี้ให้ได้ เพราะวางแผนว่าจะมีหลานให้กับแม่ของเขาเพิ่มอีก และเขาก็อยากมีด้วย เพราะไม่อยากให้ลูกอายุห่างกันมากตอนนี้ลูกชายของเขาอายุได้สองขวบกว่าแล้ว และเข้าโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อย นิษฐาเลยว่างในช่วงกลางวัน เพราะหลานไปโรงเรียน เลยมาเย้าแหย่ให้พจีพัฒน์มีหลานให้เลี้ยงอีก เหตุผลเพราะว่าเหงาเพราะพี่ชายและพี่สาว ก็ไม่เห็นท่าทีว่าจะมีแฟนกันเลย ผลเลยมาตกอยู่ที่ลูกชายคนเล็กอย่างเขาที่ยังเรียนไม่จบ แต่แม่อยากที่จะมีหลานเพิ่ม จึงต้องทำให้ทั้งคู่เร่งให้จบภายในปีนี้“ดึกมากแล้วนะพักผ่อนเถอะ พีทอย่าฝืนร่างกายตัวเองเลย ปีนี้เราไม่จบปีหน้าก็รอจบพร้อมกันกับเพื่อนๆก็ได้นี้” พีรดาเอ่ยบอกร่างสูง เมื่อเห็นว่าดึกมากแล้ว แต่ร่างสูงเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับการทำวิจัยจบอย่างเดียว“ใกล้จะเสร็จแล้ว หริ่งหริ่งง่วงก็ไปนอนก่อนเถอะ” พจีพัฒน์ตอบออกมาโดยไม่หันหน้าไปมองหญิงสาวเลย“ไม่ค่ะ หริ่งจะเอาเปรียบพีทคนเดียวได้ยังไงกัน แค่พีทอดหลับอดนอนช่วยทำวิจัยให้หริ่ง แค่นี้ก็เกรงใจอยู่แล้ว” หญิงสาวรีบป
เปิดตัวอย่างเป็นทางการซึ่งก็เป็นการชื่นชอบ มีทั้งชื่นชมและทั้งวิจารณ์บ้างต่างๆนาๆ และก็ทำเอาตกใจเป็นอย่างมากในวงเพื่อนฝูงอยู่ไม่น้อย เพราะบางคนที่สนิทต่างไม่มีใครทราบข่าวมาก่อน แม้กระทั้งกวินพัทธ์เอง ที่สนิทกันมามากพอสมควร ก็พึ่งจะทราบข่าวมาก่อนหน้านี้เอง จึงอดไม่ได้ที่จะคอมเมนต์แซวทั้งคู่ออกมาไม่ได้ ‘เปิดตัวทั้งที ทำเอาคนอึ้งไปเลยน่ะมึง ทำไมไม่รอให้ลูกบวชก่อนวะ...ค่อยเปิดตัว 555’“พีท โพสต์อะไรลงไปแบบนั้นค่ะ...” หญิงสาวต่อว่าออกมาทันที เมื่อโทรศัพท์มือถือดังขึ้นมาไม่หยุด เพราะเสียงแจ้งเตือนข้อความ แม้กระทั้งสายเรียกเข้า“ก็โพสต์ความจริงยังไงล่ะ” ร่างสูงเอ่ยตอบได้แค่นั้น เพราะตอนนี้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เหลือล้นมีความสุขมากมาย ที่ได้ปลดล็อคออกมา“แต่เรา...” หญิงสาวยังคงมีใบหน้าที่วิตกอยู่ไม่น้อย“ไม่มีอะไรต้องกลัวทั้งนั้นแหล่ะ ความจริงก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำ ไม่ช้าก็เร็วคนต้องรู้อยู่ดีแหล่ะหริ่งหริ่ง” พจีพัฒน์ได้แต่ปลอบให้หญิงสาวเชื่อมั่นในตัวเอง พร้อมกับมือที่ยกขึ้นลูบศีรษะของเธออย่างเอ็นดู ถึงแม้ว่าหญิงสาวจะอายุเยอะกว่าเขาตั้งสามเดือน แต่หญิงสาวในสายตาเขาก็ยังเป็นน้องเขาอ
จากนี้และตลอดไป NCทางด้านของพจีพัฒน์เอง ตอนนี้ขับรถพาพีรดาออกจากเมืองกรุงในเวลากลางดึก มุ่งหน้าตรงสู่ยังภาคเหนือของประเทศ ในเมื่อสัปดาห์ไม่สามารถที่จะกลับบ้านไปได้ จึงถือโอกาสนี้พาหญิงสาวไปพักผ่อน และปรับความเข้าใจกันเสียเลย โดยที่หญิงสาวไม่อาจที่จะปฏิเสธได้“พีทจะพาหริ่งไปไหน...นี้มันดึกมากแล้วน่ะ” หญิงสาวถามขึ้นมาทันที เมื่อเห็นว่าพจีพัฒน์ขับรถออกนอกเส้นทาง“...” ชายหนุ่มไม่เอ่ยใดๆ กลับขับรถไปตามเส้นทางเรื่อยๆ เพราะเส้นทางที่ไม่ค่อยชิน“พีท...ทางมันมืดมากเลยน่ะ แถมยังปลอดรถคันอื่นอีกด้วย” หญิงสาวถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะกับมองไปตามเส้นทางเรื่อยๆ ที่ไม่คุ้นชินเอาเสียเลย แถมไม่มีรถคันอื่นๆอีก“กลัวเหรอ...ไม่ต้องกลัวหรอก พีทไม่ให้หริ่งหริ่งเป็นอะไรหรอกน่า” ชายหนุ่มถามออกมาเมื่อสังเกตุเห็นอาการวิตกของหญิงสาว แล้วพูดติดตลกออกมาเพื่อให้หญิงสาวสบายใจ และคลายความกังวล“ไม่ใช่แบบนั้น หริ่งเป็นห่วงพีทต่างหาก ที่ขับรถมานานแล้ว กลัวพีทจะง่วงเอา” หญิงสาวเอ่ยบอกออกไปด้วยความเป็นห่วง“เดี๋ยวก็ถึงแล้ว...ขอบคุณน่ะ ที่คุยเป็นเพื่อนมาตลอดทาง ถึงแม้ว่าจะเป็นคำพูดที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็ช่วยได้ดีเลย ไม
ความจริงก็คือ...พจีพัฒน์ตามหญิงสาวออกมาจนทัน เห็นหญิงสาวกำลังยืนโบกแท็กซี่อยู่พอดี จึงรีบวิ่งเข้าไปใกล้ พากลับมายังรถของเขาที่จอดอยู่ แต่ไปยังไม่ถึงหญิงสาวก็สะบัดแขนออก เดินหน้างอไปที่รถเองโดยไม่พูดไม่จาสักคำ“หริ่งหริ่ง...” เสียงนุ่มเอ่ยเรียกชื่อของหญิงสาวเมื่อเดินมาถึงรถ“ไม่ต้องมาพูดเสียงหวานใส่เลยน่ะ...ไอ้คนโกหกกะล่อนปลิ้นป้อนไปทั่ว ที่แท้ก็แอบไปมีแฟนอยู่แล้ว ฮึก...” ใบหน้างอยับยู่ยี่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจนักร่างสูงไม่พูดพร่ำ รีบเดินเข้าไปใกล้ๆ กับหญิงสาวแล้วสวมกอดเธอไว้จากทางด้านหลังทันที โดยที่เธอไม่สามารถที่ขยับหนีไปไหนได้อีก“หริ่งหริ่งครับ...” พร้อมกับน้ำเสียงที่อ่อนละมุนเอ่ยเรียกชื่อของเธอ“ไอ้คนบ้า...” พีรดาพยายามที่จะขยับและดิ้นหนีออกจากอ้อมแขนนั้น“หริ่งหริ่งครับ ช่วยมีเหตุผลหน่อย” เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นมาที่ข้างหูของเธอ “ปล่อย...ใช่สิหริ่งมันคนไม่มีเหตุผล งี่เง่าเอาแต่ใจตัวเอง ปล่อย...หริ่งจะกลับบ้านไปหาลูก” หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีที่ประชดประชัน และพยายามที่จะดิ้นออกจากอ้อมแขนเพื่อให้เป็นอิสระ“ไม่ให้กลับ...ขึ้นรถครับ เรามีเรื่องต้องเคลียร์กันอีกยาว” ร่างสูง
เข้าใจผิด“แต่งตัวโป๊เกินไปหรือเปล่า แค่จะไปรับไลลาเองน่ะ ทำไมต้องจัดเต็มขนาดนี้ด้วย พีทไม่เข้าใจผู้หญิงเลยจริงๆ” พจีพัฒน์พูดขึ้นมาทันที เมื่อเห็นว่าวันนี้หญิงสาวแต่งตัวนุ่งน้อยห่มน้อยจนเกินไป และหุ่นก็เริ่มที่จะอวบขึ้น เนื้อหนังเต่งตึงขึ้นมาบ้างแล้ว ทุกสัดส่วนช่างยั่วยวนเหลือเกิน ไม่พอแค่นั้นยังโชว์ไหล่ขาวเนียนๆนั้นอีก“พูดมาก พีทก็ไม่ต้องไป หริ่งจะไปหาไลลาคนเดียวเอง” หญิงสาวเอ่ยคำขาดขึ้นมาขู่ทันที เมื่อเห็นว่าร่างสูงเริ่มจะบ่นเธอ“ได้ยังไงกัน หริ่งหริ่งเป็นเมียพีทน่ะ ใครจะยอมปล่อยให้แต่งตัวแบบนี้ออกไปเป็นอาหารตาของคนอื่นได้ยังไงกัน พีทต้องไปคุมสิ แล้วอีกอย่างไลลาก็เป็นเพื่อนของเราทั้งคู่น่ะ” พจีพัฒน์ยกเหตุผลขึ้นมาอ้างกับหญิงสาวทันที“จะไปหรือไม่ไปค่ะ” หญิงสาวหันมาร่างสูงที่ตอนนี้ทำหน้างอเหมือนเด็กใส่เธออยู่“ไปครับ” ร่างสูงรีบลุกขึ้น แล้วหยิบเอากุญแจรถ เดินตามหญิงสาวออกจากห้องไปทันที อย่างไม่อาจที่มีสิทธิ์คัดค้านหรือปฏิเสธอะไรได้เลยเดิมทีวันนี้ทั้งคู่จะต้องกลับไปค้างที่บ้านกับลูกเพราะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่พีรดาขอปฏิเสธที่จะไม่ไป เพราะพึ่งจะมีเรื่องที่เข้าใจผิดกัน และไม่อยากให้พจ
ไม่อาจทนทางด้านของไลลาที่พึ่งจะเลิกกับแฟนหนุ่มมาหมาดๆ เพราะจับได้ว่าธันวาแอบไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหญิงอื่น และยังมารู้อีกว่าตลอดเวลาที่ชายหนุ่มคบอยู่กับเธอ ก็แอบไปมีสัมพันธ์กับคนอื่นตลอด โดยที่เธอไม่เคยรู้เลย เพราะเธอไม่ยอมมอบความสาวนั้นให้เขาคืนนี้เลยตัดสินใจออกมาดื่มคนเดียวตั้งแต่ร้านพึ่งจะเปิด เพราะอยากลืมทุกอย่าง และทิ้งไม่ไปให้หมดภายในวันนี้“มันก็แค่ไอ้ผู้ชายเฮงซวยละว่ะ ไปได้เร็วๆสะยิ่งดี ฮึก...” ใบหน้าเคียดแค้นก้นด่าออกมา พร้อมกับเสียงเค้นหัวเราะอยู่ในลำคอ“พี่สาว...เมาหรือเปล่าค่ะ” ปรียาภัทร หรือ เอิงเอย หญิงสาววัย 20 ปี สาวเสิร์ฟที่พึ่งจะมาทำงานที่นี่ได้ไม่กี่วันมานี้เอง เพราะต้องการหารายได้ระหว่างเรียน“พี่ไม่เป็นอะไรค่ะน้อง พี่แค่อยากดื่มเพื่อให้ลืมสิ่งที่ไม่ดีเฉยๆค่ะ ถ้าพี่เมาน้องช่วยโทรหาเพื่อนพี่ที่เบอร์นี้ทีน่ะค่ะ” ไลลาพูดขึ้นด้วยใบหน้าเยือกเย็น พร้อมกับยื่นกระดาษโน๊ตให้แก่ปรียาภัทรทันทีหญิงสาวรับไว้โดยที่ไม่พูดอะไรตอบ แล้วจึงขอตัวกลับไปทำหน้าที่ของเธอต่อ ปล่อยให้ไลลาได้นั่งดื่มอยู่คนเดียว แต่เธอก็จะคอยมาสอดส่องดูตลอดหากว่างจากโต๊ะอื่นคอนโดฯหรูของพจีพัฒน์พจีพัฒน์พา