เย่หรงยิ่งพูดยิ่งเดือดดาล “ท่านอาหลิน ถึงตอนนั้นท่านก็ให้เสี่ยวหู่ไปบอกพวกทหารว่าให้ทำงานแบบขอไปที ทำพอเป็นพิธีก็พอแล้ว!”“เมื่อนักโทษหนีไปมากขนาดนั้น ก็มิใช่ความผิดของพลทหารฝ่ายเดียวแล้ว แม่ทัพหลี่เองก็หนีมิพ้นความผิดฐานควบคุมดูแลหละหลวม!”หลิงอวี๋ได้ยินดังนั้นก็เอ่ยขึ้น “ความคิดนี้ใช้ได้!”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วกล่าวอย่างมิสบายใจ “แต่คนที่ถูกขังในคุกน้ำบางคนก็มิใช่ผู้บริสุทธิ์นะ!”“หากปล่อยพวกเขาออกมาเช่นนี้ เมืองหลวงต้องโกลาหลวุ่นวายแน่!”เย่หรงแค่นเสียงหัวเราะอย่างฉุนเฉียว “ท่านหญิงช่างจิตใจดีเกินไปแล้ว จวนเจ้าแห่งทิศใต้ของท่านยังจะเอาตัวเองมิรอด ยังจะมีแก่ใจไปห่วงว่าราชบัลลังก์ของตระกูลหลงจะมั่นคงอยู่อีกหรือ?”“อีกอย่าง เจ้าแห่งทะเลก็ทรงมีอำนาจล้นฟ้า กุมอำนาจราชสำนักไว้ในมือ ถึงเมืองหลวงจะวุ่นวายขึ้นมาจริง ๆ คนที่ปวดหัวก็คือเขาเอง!”“ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ถูกขังในคุกน้ำ ต่อให้เคยชั่วช้าสามานย์เพียงใด ตอนถูกจับเข้าไปก็ถูกทำลายวรยุทธ์ไปแล้ว พลังของพวกเขาลดลงไปมาก จะสร้างความวุ่นวายอะไรได้เท่าใดกัน?”“อีกอย่าง พวกเขามีความผิดจริงหรือไม่ ก็เป็นตระกูลหลงมิใช่หรือที่ชี้ถ
เซียวหลินเทียนที่ยืนฟังอยู่เงียบ ๆ มาโดยตลอดนั้น พลันเกิดความคิดขึ้นมาจึงเอ่ยว่า“พวกเจ้าสังเกตหรือไม่ เมื่อครู่ท่านอาหลินบอกว่า ขอเพียงมีคนเข้าไปในคุกน้ำ แม่ทัพหลี่ก็จะเฝ้าอยู่ที่ด่าน นั่นหมายความว่ากลไกควบคุมตั้งอยู่ใกล้กับด่านใช่หรือไม่!”“พูดอีกอย่างก็คือ ขอเพียงเราจัดการทหารรักษาการณ์ที่ประตูได้ ก็จะหาที่ควบคุมกลไกเจอ!”หลิงอวี๋พยักหน้าเห็นด้วย นางเองก็คิดถึงจุดนี้เช่นกัน เพียงแต่เซียวหลินเทียนชิงพูดขึ้นมาก่อน“คุณหนูหลิง พวกท่านวางแผนจะลงมือเมื่อใดหรือขอรับ?”ท่านอาหลินกล่าว “ข้าหยุดพักเวรยามครานี้สิบวัน แต่หากอาการของเลี่ยวหงเสียมิดีขึ้น เกรงว่าจะทนมิถึงสิบวัน!”“อีกสามวันเสี่ยวหู่ก็จะออกเวร หากพวกท่านจะลงมือ ก็ต้องเลือกวันใดวันหนึ่งในสามวันนี้! เขาสามารถเป็นไส้ศึกให้พวกท่านได้!”เย่หรงมองหลิงอวี๋อย่างร้อนรน “พี่หญิงหลิงหลิง วันพรุ่งเราลงมือกันเลยได้หรือไม่?”“หากช้าไป กว่าเราจะไปช่วยได้ข้าเกรงว่าท่านแม่จะทนรอมิไหว!”วันพรุ่งหรือ?เวลาจะกระชั้นชิดเกินไปหรือไม่?หลิงอวี๋หันไปมองเซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนยิ้มให้นางอย่างให้กำลังใจ “วันพรุ่งก็วันพรุ่ง! อย่างไรเสียก็ต้
เมื่อเย่หรงได้ยินเช่นนั้นก็ใจหายวาบ แล้วเอ่ยออกไปอย่างร้อนใจ “แม่ของข้าเป็นโรคกระไร? คุกน้ำมิเชิญหมอมาให้นางหรือ?”“นางยังมีประโยชน์กับตระกูลหลงมิใช่หรือ? พวกเขาจะปล่อยให้นางตายไปเองเช่นนั้นหรือ?”ท่านอาหลินยิ้มออกมาอย่างขมขื่นแล้วส่ายหัว “เชิญหมอมาแล้ว แต่ว่าแม่ของเจ้าถูกแช่อยู่ในน้ำเย็นมาเป็นเวลาหลายปี จนข้อต่อผิดรูปไปเสียหมดแล้ว!”“ได้ยินมาว่าปวดขึ้นมาราวกับตายทั้งเป็น แต่นางก็มิเคยร้องออกมาเลย!”“ตอนที่ตาเฒ่าจางมาบอกข้าก็ยังน้ำตาไหลพรากออกมา คงจะทนดูมิไหวเช่นกัน!”ท่านอาหลินพูดแล้วก็หยิบแผนที่ที่ตนวาดด้วยมือออกจากอก แล้วกางบนโต๊ะชี้ให้หลิงอวี๋ดู“คุณหนูหลิง ท่านดูนี่ นี่คือแผนที่ที่วาดจากทางเข้าถ้ำลับที่ท่านอยู่ในวันนั้น เมื่อเดินไปตามเส้นทางนี้ประมาณสามสี่ลี้ ก็จะถึงค่ายทหารของพวกเราที่ตั้งอยู่”“หากเดินไปทางขวาก็จะเป็นทางออกด่านตรวจ ซึ่งบริเวณโดยรอบจะมีทหารเฝ้าอยู่อย่างแน่นหนา”“หากเดินไปทางซ้ายสามสี่ลี้ ก็จะเป็นตำแหน่งที่คุกน้ำตั้งอยู่ คุกน้ำเหล่านี้ล้วนสร้างไปตามภูเขา ข้างในนั้นมีห้องขังขนาดเล็กและใหญ่อยู่หลายสิบห้องทีเดียว!”“แม้จะเรียกว่าคุกน้ำ แต่คุกน้ำที่แท้จริงมีอ
กระทั่งพวกเขามาถึงบ้านของท่านอาหลิน ท่านอาหลินก็เลิกงานกลับมาถึงบ้านแล้วเขาได้ยินมาว่าพวกหลิงอวี๋มาแล้ว ก็รีบออกมาต้อนรับทันที“คุณหนูหลิง ท่านหญิงฉางเล่อ ข้ากำลังรอพวกท่านมาเลยขอรับ!”บนใบหน้าของท่านอาหลินเต็มไปด้วยรอยยิ้ม พร้อมเอ่ยกับหลิงอวี๋อย่างเอาใจใส่ “ภรรยาข้ากินยาที่ท่านให้ไว้แล้ว เมื่อคืนนี้มิได้ไอมีเลือดออกมากแล้ว ร่างกายก็มีแรงขึ้นด้วยขอรับ!”“คุณหนูหลิง เหลียงจื่อบอกกับข้าว่าท่านได้บอกไว้ว่า อาการป่วยนี้ต้องกินไก่กับเนื้อจึงจะดีขึ้นเร็ว เหลียงจื่อบอกว่ายินดีจะไปเป็นองครักษ์ให้ท่านหญิงฉางเล่อที่จวนเจ้าแห่งทิศใต้ เรื่องนี้ยังนับเป็นจริงได้หรือไม่ขอรับ?”หลงเพ่ยเพ่ยตอบอย่างตรงไปตรงมา “แน่นอนว่านับสิ! ขอเพียงเหลียงจื่อยอมไป ก็สามารถไปได้ทุกเมื่อ!”ท่านอาหลินจึงเรียกเหลียงจื่อมาอย่างมีความสุข “เหลียงจื่อ รีบขอบคุณท่านหญิงฉางเล่อเร็วเข้า!”เหลียงจื่อเดินเข้ามาคุกเข่าเสียงดังตุ้บอยู่เบื้อหน้าหลงเพ่ยเพ่ย และโขกหัวคำนับให้นางสามครั้ง“ขอบพระคุณท่านหญิงฉางเล่อ ต่อจากนี้ข้าเหลียงจื่อจะขยันศึกษาเล่าเรียนและทำงานให้ดี จะมิทำให้ท่านหญิงต้องอับอายเป็นอันขาดขอรับ!”หลิงอวี๋เห็นว่
หลิงอวี๋พูดไปถึงท้ายประโยคแล้วก็เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา“พระชายาเจ้าแห่งทะเลให้เถาจื่อใช้ตัวนางเองเป็นข้ออ้างมาถามข้าว่ารักษาอย่างไรมิใช่หรือ?”“แค่เรื่องนี้ ข้าก็สามารถดำเนินการบางอย่างได้แล้ว เสนอวิธีรักษาด้วยอาหารให้เจ้าแห่งทะเล เพื่อช่วยให้เขาสูญเสียพลังโดยเร็วที่สุด!”หลงเพ่ยเพ่ยรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาด้วยคำพูดของหลิงอวี๋ แม้ว่านางจะมิรู้ว่าจะทำอย่างไร แต่ในเมื่อหลิงอวี๋บอกว่านางมีวิธี เช่นนั้นนางก็ต้องมีวิธีอย่างแน่นอน!“พี่หญิงหลิงหลิง ท่านเป็นดาวนำโชคของพวกเราจริง ๆ!”หลงเพ่ยเพ่ยกอดหลิงอวี๋อย่างตื่นเต้น พร้อมยิ้มอย่างเอาใจแล้วเอ่ยออกไป “หลังจากนี้ข้าเรียนแพทย์กับท่านดีหรือไม่?”“ตอนนี้ข้าค้นพบว่าสิ่งที่มีประโยชน์ที่สุดก็คือทักษะการแพทย์ สามารถช่วยชีวิตคนได้ และยังสามารถทำร้ายคนอย่างเงียบ ๆ ได้ด้วย!”เย่หรงอดมิได้ที่จะเอ่ยออกไป “นั่นก็ต้องดูที่คนด้วย ท่านดูหยางหงหนิงสิ นางชำนาญเครื่องยาสมุนไพรมิใช่หรือ?”“แต่ความฉลาดของนางล้วนนำไปใช้ทำร้ายคนทั้งสิ้น!”เมื่อเอ่ยถึงหยางหงหนิง หลงเพ่ยเพ่ยก็นึกถึงเรื่องของเสิ่นฮ่าวขึ้นมาทันที จึงตะโกนออกไปอย่างหงุดหงิด“เสด็จพ่อ หากเสิ่นฮ่า
สีหน้าเจ้าแห่งทิศใต้มิสู้ดีนัก เขาเห็นทุกคนต่างมองมาที่ตน จึงครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยออกมา“ก่อนหน้านี้รู้ว่าเจ้าแห่งทะเลเข้าวัง ข้าก็คาดการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้บ้างแล้ว”“ข้าจะบอกพวกเจ้าทั้งหมดก็แล้วกัน เช่นนี้ทุกคนจะได้เตรียมใจไว้ด้วย”“ข้าคาดการณ์ไว้ว่า ขั้นแรกเจ้าแห่งทะเลอาจจะช่วยล้างมลทินให้เสิ่นฮ่าว… ด้วยวิธีของเจ้าแห่งทะเล การหาแพะรับบาปสักสองสามคนมารับผิดแทนเสิ่นฮ่าวนั้นเป็นเรื่องง่ายดายยิ่งนัก!”“ยิ่งไปกว่านั้น คืนนี้ท่านอู่สังหารโค่วกวงไปแล้ว ทำให้เจ้าแห่งทะเลสูญเสียแม่ทัพใหญ่คนหนึ่งไป เขาจะต้องรีบทำให้เสิ่นฮ่าวออกมาช่วยเหลือตนโดยเร็วเป็นแน่!”“ขั้นที่สอง เจ้าแห่งทะเลอาจจะแนะนำให้มหาเทพสั่งย้ายข้าออกจากเมืองหลวงแดนเทพไป!”เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยได้ยินเช่นนั้นก็รีบเอ่ยขึ้นมาทันที “เสด็จพ่อ เขามีสิทธิ์อะไรมาทำเช่นนั้นเล่า?”“พี่ใหญ่และพี่รองของจวนเจ้าแห่งทิศใต้ล้วนอยู่ที่ชายแดน ตอนนี้แม้แต่พี่สามก็ไปช่วยหวงฝู่หลินแย่งชิงวังเทพกลับมาเพื่อตระกูลหลง!”“นี่หากให้ท่านไปอีก จวนเจ้าแห่งทิศใต้ของเราก็เหลือแต่ชื่อแล้ว!”เจ้าแห่งทิศใต้ยิ้มให้หลงเพ่ยเพ่ยอย่างขมขื่น “หากเจ้าแห่งทะเลป่วยด้วยโ