เมื่อฉันสาวมั่นในยุคปัจจุบันทะลุมิติมาอยู่ในยุค 70 ที่มีสามีเลวทรามต่ำช้า มีหรือที่ฉันจะยอมทนชีวิตครั้งนี้ฉันจะขอหย่าและพาน้องออกมาใช้ชีวิตไม่ให้ผู้ใดมารังแกจิกหัวใช้อีกต่อไป
더 보기บทนำ
ซิ่งผิง สาวมั่นในยุคปัจจุบันกำลังใช้ชีวิตของเธออย่างเคยเป็นจู่ ๆ ถูกดูดเข้าไปในทีวีและเข้าไปอยู่ในร่างของนางเอกเรื่องที่เธอกำลังดูอยู่ แม่สามีเฮงซวยสามีหลอกลวงเลวทรามต่ำช้าปกป้องชู้รักจนทำให้เธอแท้งลูก เมื่อตอนนี้ซิ่งผิงเข้ามาอยู่ในร่างของหวังเสี่ยวอิงมีหรือที่เธอจะยอมทนรับใช้คนตระกูลโจวที่ไม่เคยมองเห็นว่าเธอเป็นคนในครอบครัว ให้เธอทำงานสารพัด เธอจึงแสร้งแกล้งเป็นบ้าทำให้แม่สามีอย่างเหม่ยฉีไม่อยากรับเธอกลับบ้านแค่หนี้ที่มีอยู่ก็มากโขแล้ว หากเอาตัวเธอที่เสียสติหลังจากเสียลูกในท้องแถมยังมีน้องของเธออีกสองคนคงเปลืองข้าวเปลืองน้ำจึงคิดทิ้งเธอไว้ที่โรงพยาบาล
สามีห่วยแตกก็ลอยหน้าลอยตากับหญิงชู้ทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซิ่งผิงกลับดีใจเสียอีกที่ไม่ได้กลับไปเหยียบบ้านตระกูลโจว ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีเมื่อเธอทะลุมิติมาพร้อมระบบมิติ แม้จะมีภารกิจก็ตามแต่เธอไม่เกรงกลัวเพราะภารกิจที่ระบบให้มาแค่เพียงเลี้ยงดูเด็กทั้งสองคนให้เติบโตเมื่อนั้นเธอจะได้กลับมิติของตนเอง
ชีวิตของซิ่งผิงที่อยู่ในร่างของเสี่ยวอิงจะเป็นอย่างไรต่อไปเมื่อเธอกลับมาอยู่บ้านเกิดทำกิจการขายซาลาเปา แต่ไม่วายที่แม่สามีเก่ายังตามมารังควานแต่โชคดีที่มีนายอำเภอหนุ่มปกป้องดูแลอยู่ไม่ห่าง เธอจะทำภารกิจสำเร็จและได้กลับโลกเดิมหรือไม่ติดตามไปพร้อม ๆ กันในนิยายเรื่องนี้นะคะ
นิยายเรื่องนี้แต่งตามความเข้าใจของนักเขียนเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน อ่านเพื่อความบันเทิง หากขาดตกบกพร่องตรงไหนขออภัยไว้ ณ ที่นี่ด้วยนะคะ
@สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537
บทที่ 1 ชีวิตของหวังเสี่ยวอิง
สายลมฤดูหนาวเริ่มพัดผ่านร่างบางที่มุ่งมั่นทำงานอย่างไม่ปริปากจะเอ่ยบ่นคำว่าเหน็ดเหนื่อยเลยสักครา แม้ว่ายามนี้ตนเองจะอุ้มท้องย่างเข้าเดือนที่ห้า เพราะคำว่ารักของชายหนุ่มขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของเธออีกทั้งแม่สามีที่พูดกรอกหูทุกวัน ที่เขาพาเธอเข้ามาที่ตระกูลเป็นความโชคดีของเธอกับน้อง ๆ ไม่มีใครในมณฑลนี้จะใจดีเหมือนครอบครัวของเธอแล้ว แต่ทว่าเมื่อเข้ามาอยู่ในตระกูลกลับพบว่าความใจดีของแม่สามีที่แสดงตอนที่เธอยังไม่ได้เข้ามาอยู่ที่นี่เป็นเพียงแค่การเสแสร้งแกล้งทำเท่านั้น เพราะครอบครัวตระกูลโจวนั้นมีหนี้สินมากมายที่รับเธอเข้ามาเพราะเห็นว่าเธอเป็นคนขยันทำมาหากิน จึงให้ลูกชายคนโตของตนเองเข้าหาและมอบความรักหลอกล่อให้หวังเสี่ยวอิงตกหลุมรักและแล้วก็เป็นอย่างที่ตระกูลโจวคิดเอาไว้
เมื่อได้เธอเข้ามาอยู่ในบ้านชายหนุ่มที่แสนดีเอาอกเอาใจอย่างโจวหยางเจี้ยนเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือทั้งดุด่าเย็นชามิหนำซ้ำยังทำเหมือนว่าเขาเบื่อหน่ายเธอเต็มทน แต่กระนั้นหวังเสี่ยวอิงก็ไม่อาจจะพูดออกมาได้เพราะเธอตั้งท้องลูกของเขาอยู่ เธอต้องฝืนทนอยู่ในบ้านหลังนี้อย่างกล้ำกลืนฝืนทนแถมยังมีน้องหญิงและชายที่เธอต้องดูแลอีกด้วย ครอบครัวของเธอเป็นชาวนาไม่ได้ร่ำรวยแต่พ่อกับแม่ก็ไม่เคยให้ลำบากแต่แล้วก็เกิดเรื่องร้ายขึ้นกับครอบครัวตระกูลหวังเมื่อพ่อกับแม่ของเธอจู่ ๆ เกิดอุบัติเหตุระหว่างทางกลับจากการขายข้าว พ่อกับแม่ถูกปล้นเอาเงินและฆ่าทิ้งกลางทางตอนนั้นราวกับว่าชีวิตของหวังเสี่ยวอิงหมดสิ้นหนทางมองไปทางใดก็มืดไปหมดแต่เมื่อได้ยินเสียงน้องสาวกับน้องชายเรียกเธอพร้อมสะอึกสะอื้นไห้ พี่สาวคนโตอย่างเธอต้องเข้มแข็งเพื่อน้องทั้งสอง เธอทำงานทุกอย่างเท่าที่จะทำได้พื้นที่ที่อยู่เป็นเพียงชนบทการเรียนของน้อง ๆ ก็คงเข้าไม่ถึงเพียงแค่เลี้ยงปากท้องไปวัน ๆ แค่นี้เธอก็พอใจแล้ว
"พี่เสี่ยวอิงตะวันส่องลงกลางหัวแล้วกินข้าวกลางวันก่อนเถอะค่ะ" เสียงเรียกของน้องสาวที่นั่งอยู่ในร่มกวักมือเรียกพี่สาวที่กำลังใช้เคียวเกี่ยวข้าวตามฤดูกาล เธอเงยหน้าขึ้นมาปาดเหงื่อส่งยิ้มกลับไปยังหวังจิ่งเหยาและเดินมาหาเพื่อกินข้าวกลางวันค่อยกลับมาทำงานต่อ ตอนนี้น้อง ๆ ของเธอมีอายุ 6-7 ขวบกันแล้วโตพอที่จะช่วยเหลือเธอไม่มากก็น้อย
"จิ่งเหยาของพี่ช่างเป็นเด็กดีจริง ๆ แล้วนี่จ้าวเหวินไปอยู่ไหนล่ะ" เธอวางเคียวถอดหมวกออกจากหัวหันซ้ายขวามองหาหวังจ้าวเหวินน้องชายอีกคน
"เห็นว่าจะไปเอาแตงโมที่สวนของป้าเฟยค่ะ เมื่อเช้าตอนออกมาจากบ้านป้าเฟยบอกเอาไว้ให้ไปเอาที่ไร่ได้เลย พี่เสี่ยวอิงทำไมพี่ต้องยอมทำงานทุกอย่างด้วยล่ะ แล้วพี่หยางเจี้ยนไม่เห็นจะมาช่วยพี่ทำงานเลย พี่กำลังอุ้มท้องอยู่ด้วย"
"เป็นเพราะพี่เป็นคนเอ่ยปากเอง จิ่งเหยาอย่าพูดถึงพี่หยางเจี้ยนอีกเลยเขาเองก็มีงานของเขาที่ต้องทำ"
"งานเหรอ ? ฉันไม่เห็นว่าพี่หยางเจี้ยนจะทำงานอะไรเลยวัน ๆ เอาแต่แต่งตัวออกไปข้างนอก ป้าเหม่ยฉีแม่สามีของพี่ก็เอาแต่จิกหัวใช้งานพี่อย่างกับทาส แถมยังให้ซักผ้าให้พี่เซี่ยเหมยหลงอีกด้วย ฉันไม่ชอบใจคนบ้านนี้เลย" เสี่ยวอิงจ้องมองหน้าน้องสาวก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ หากเลือกได้อีกครั้งเธอจะไม่ขอรู้จักและหลวมตัวกับคำพูดหวาน ๆ ของผู้ชายคนนี้แน่นอน
"อดทนเอานะอีกไม่นานทุกอย่างคงดีขึ้นที่ตอนนี้พี่ต้องทำงานเพราะต้องใช้หนี้ เมื่อไหร่ที่หนี้หมดวันนั้นพี่คงจะสบายเอง กินข้าวกันเถอะ" เสี่ยวอิงไม่รู้ด้วยซ้ำว่านั้นจะเป็นคำพูดสุดท้ายของเธอ เพราะหลังจากนี้ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป
หลังจากที่กินข้าวเสร็จไม่นานจ้าวเหวินได้เดินกลับมาพร้อมกับแตงโมลูกโต ๆ ทั้งสามกินกันอย่างเอร็ดอร่อยพอคลายความเหนื่อยลงบ้าง เมื่อมองท้องฟ้าเสี่ยวอิงตัดสินใจที่จะเกี่ยวข้าวอีกสักหน่อยจะได้กลับบ้านไปทำอาหารเย็นให้แก่ทุกคน พอถึงเวลาทั้งสามพี่น้องได้พากันกลับบ้าน แต่ที่น่าแปลกใจคือบ้านเงียบเชียบเสี่ยวอิงคิดว่าเวลานี้แม่สามีกับน้องสาวคงออกไปข้างนอกยังไม่กลับ
“จิ่งเหยา จ้าวเหวินทั้งสองไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ ไปช่วยพี่มาทั้งวันไม่รีบอาบน้ำจะคันคายเอาได้ ”
“ได้ค่ะเดี๋ยวฉันจะรีบมาช่วยพี่เตรียมอาหารเย็นนะคะ ” จิ่งเหยาบอกพี่สาวตัวเองพลางเดินไปอาบน้ำ
“ผมรอจิ่งเหยาอาบน้ำเสร็จก่อนแล้วกันค่อยตามไป พี่เสี่ยวอิงอาบก่อนผมก็ได้นะ เดี๋ยวผมจะไปขอบคุณป้าเฟยก่อน”
“นั่นสิ อย่าลืมขอบคุณป้าเฟยแทนพี่ด้วยนะ”
“ได้ครับ ” เสี่ยงอิงวางของที่ถือกลับมาจากทำงานลงที่โต๊ะก่อนจะเดินเข้าครัวเพื่อมองหาอาหารที่ต้องทำเย็นนี้ แต่ทว่าวันนี้แม้จะมีลมพัดของฤดูหนาวกลางวันยังคงแสงแดดจ้าทำให้ร่างกายของเธอเหนียวเหนอะนะเพราะความร้อน จึงตัดสินใจขึ้นไปที่ห้องเพื่อเอาผ้าอาบน้ำล้างตัวแล้วค่อยกลับมาทำอาหารเย็น
สองเท้าของเธอเดินขึ้นไปอย่างช้า ๆ เพราะต้องระวังเรื่องท้องแต่เมื่อเดินใกล้เข้ามาถึงห้องนอนของเธอกลับเห็นว่าประตูเปิดแง้มอยู่ ภายในห้องมีเสียงพูดคุยหัวเราะคิกคัก หนึ่งเสียงนั้นคือเสียงของสามีเธอแต่ทว่ามีเสียงผู้หญิงอยู่ในนั้นด้วย ใจของเสี่ยวอิงเริ่มสั่นระรัวสองเท้าเริ่มก้าวไม่ออก ไม่อยากจะเดินเข้าไปดูเลยแม้แต่น้อย
“พี่หยางเจี้ยนเบา ๆ สิคะ ฉันระบมไปหมดแล้วน่ะทำเหมือนว่าพี่ไม่ได้นอนกับภรรยาพี่อย่างนั้นแหละ”
“มีมี่เธอก็รู้ว่าพี่ไม่ได้รักเสี่ยวอิงเลยนะ เรื่องที่เสี่ยวอิงมาอยู่ในบ้านหลังนี้เธอเองก็รู้ทุกอย่าง ตอนนี้เราอย่าพูดเรื่องคนอื่นเลย ที่รักของพี่ช่างเย้ายวนจนพี่ทนไม่ไหวแล้ว”
ตึก ตึก ใจของเสี่ยวอิงคล้ายว่ามีระเบิดที่ดังอยู่ด้านใน ร่างกายของเธอสั่นเทาด้วยความเสียใจไม่คิดเลยว่าสามีที่บอกว่ารักเธอนักหนาจะเล่นชู้แถมผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นเพื่อนของเซี่ยเหมยหลงน้องสาวของหยางเจี้ยน เธอเสมือนคนโง่ที่ได้ถูกเขาหลอกด้วยคำว่ารัก ใจของเธอแตกสลายเจ็บช้ำ ดวงตาเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาที่กำลังไหลรินออกมาอย่างช้า ๆ เธอตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปด้านในเพื่อจะได้เห็นเต็มสองตาว่าชายที่เธอรักและยอมเสมอมาหักหลังเธอได้อย่างเจ็บแสบ
บทที่ 32 ภารกิจสำเร็จเหตุการณ์ที่ตำรวจไปจับตัวหยางเจี้ยนเพราะเสวียนเฉินให้ตำรวจไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งและมีวัยรุ่นสองคนมาให้ปากคำเพิ่มเติมว่าเห็นชายรูปร่างเหมือนหยางเจี้ยนมาคอยเฝ้าอยู่ตรงนั้นตั้งแต่ท้องฟ้ายังไม่มืด ตอนที่เขาทำร้ายตีหัวของนายอำเภอทั้งสองเห็นเต็มตาแต่ทำได้เพียงปิดปากไม่กล้าพูดออกมากลัวจะโดนทำร้ายอีกคน ตอนนี้หยางเจี้ยนจนมุมเพราะหลักฐานมัดตัวถูกจับโดยที่ไม่สามารถประกันตัวได้อีกเลย และโทษครั้งนี้ที่เขาได้รับคือติดคุกตลอดชีวิต เสวียนเฉินรับรู้เรื่องก็พอใจในสิ่งที่หยางเจี้ยนได้รับโทษ ต่อจากนี้ก็จะไม่มีใครมารบกวนชีวิตของเสี่ยวอิงได้อีกเลย3 วันต่อมางานแต่งงานของทั้งสองได้เริ่มขึ้นทุกคนต่างมีความสุขเสียงหัวเราะคิกคักของน้อง ๆ ที่เห็นพี่สาวยิ้มแย้มรอยยิ้มวันนี้ของเธอสดใสเท่าที่เคยเห็นมาเลย แขกต่างพากันมาร่วมยินดีชีวิตของเสี่ยวอิงต่างทำให้ทุกคนต้องอิจฉา“วันนี้เป็นวันที่เธอสวยที่สุดเลย จนฉันไม่อยากให้ใครมาเห็นเธอตอนแต่งหน้าแบบนี้เลย”“คนอื่นไม่ได้มองฉันแบบนายนี่น่า ดูสิคนอื่นสนใจอาหารที่อยู่ต่อหน้ามากกว่าจ้องมองฉันอีก”“ช่างคนอื่นสิ ฉันนะไม่สนใจอาหารต่อหน้าเลยสักนิดสนใจแต
บทที่ 31 หยางเจี้ยนถูกจับเสวียนเฉินกลับมาบ้านยังคงเอะใจเลยไปหาเสี่ยวอิงที่บ้านเพื่อแจ้งข่าวการตายของเหม่ยฉีให้เธอได้รับรู้“วันนี้ไปเลือกชุดแต่งงานกับคุณแม่ถูกใจมั้ย”“ดูดีเลยล่ะ วันนี้ทำไมกลับมาถึงบ้านไม่ตรงเวลาล่ะมีงานเยอะเหรอ ? ฉันกับคุณแม่เตรียมกับข้าวไว้ตั้งมากมาย แต่เด็ก ๆ รอไม่ไหวเลยให้กินกับคุณแม่ไปก่อนหน้านี่แล้ว”“เอ่อไม่ใช่งานเยอะหรอก เธอจำสิ่งที่เธอพูดได้มั้ยเรื่องหยางเจี้ยนฉันตรวจสอบแล้ววันนั้นเขาถูกปล่อยตัวจริง ๆ ไม่แน่อาจจะเป็นเขาที่มาทำร้ายฉันแต่ว่าวันนี้ที่ฉันมาช้านะฉันไปบ้านตระกูลโจวมา เกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้นนะ”“เรื่องน่าเศร้าอะไรกัน”“พลัดตกบันได้คอหักตาย”“ห่ะ! เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นได้ยังไงคนอย่างเหม่ยฉีนะหรือ ร่างกายของเธอยังแข็งแรงนี่ตอนนั้นคุณก็เห็นใช่มั้ยตอนที่เธอมายืนด่าอยู่หน้าบ้านฉัน”“ใช่แต่ว่าเย็นวันก่อนเธอถูกหามเข้าโรงพยาบาลและพบว่าเธอเป็นเส้นเลือดตีบทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ สมองไม่สั่งการทำให้เป็นคนพิการที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ อีกอย่างตอนที่เธอตกบันไดคงเป็นเพราะเธอมีเพิ่งจะมีกำลังขึ้นมาอยากขึ้นไปชั้นบนด้วยตัวเอง”“ตอนนั้นไม่มีใครอยู่ที่บ้านเลยหรือไง
บทที่ 30 เหม่ยฉีตกบันไดบ้านตระกูลหวังเสี่ยวอิงใบหน้าเบิกบานเพราะความรักของเธอกับเสวียนเฉินก่อตัวอย่างรวดเร็ว ตอนนี้หัวใจของเธอชุ่มช่ำราวกับรักแรกแย้ม เธอปิดร้านตั้งแต่เที่ยงของที่ลงขายวันนี้มีไม่มากนัก เพราะเธอกับเสวียนหนี่นัดกับเอาไว้ไปเลือกชุดแต่งงานกัน ในใจของเธออยากจะเลือกชุดที่อยู่ในยุคปันจุบันโดยใช้มิติแต่ก็กลัวจะถูกจับไปและอยากให้เสวียนหนี่แม่สามีคนใหม่เป็นคนเลือกด้วยตัวเองเป็นความสุขของคนแก่เสี่ยวอิงจึงยอมตามใจ“หนูเสี่ยวอิงเสร็จหรือยังจ๊ะ"“เสร็จแล้วค่ะคุณแม่หนูปิดร้านสักครู่นะคะ” เสี่ยวอิงปิดประตูบ้านทั้งสองพากันเดินไปที่ตลาด ร้านชุดแต่งงานมีไม่มากนักในมณฑลที่เธออยู่เสวียนหนี่ขอเลือกจัดงานแบบสมัยก่อน เจ้าสาวจะสวมชุดกี่เพ้า ส่วนเจ้าบ่าวจะสวมสูทซุนยัดเซ็น ที่เป็นสูทแบบจีนสมัยใหม่ พิธีแต่งงานและสถานที่จัดงานเสวียนเฉินให้จัดที่โรงแรมมีโรงแรมที่รับจัดงานแต่งมีของทุกอย่างครบครันจะมีราคาให้เลือก ขั้นต่ำ 2000 หยวน และแพงสุด 5000 หยวนจะมีอาหารการกินแตกต่างกันไป ส่วนเสวียนเฉินเลือกเป็น 3000 หยวน แขกจะมีเพียงแค่คนใหญ่คนโตในมณฑลและญาติพี่น้องไม่มากนักแต่เขาอยากจัดงานให้สมเกียรติเมื่อ
บทที่ 29 งูพิษรุ่งเช้าวันต่อมามีมี่ตื่นมาเตรียมของให้หยางเจี้ยนไปทำงานเหมือนทุกวัน หลังจากที่ส่งสามีไปทำงานเธอก็มาดูเหม่ยฉีที่นอนจมกองฉี่ตัวเองอยู่บนเตียงสภาพน่าอนาจเหลือเกิน ตอนนั้นนั่นเองที่เหมยหลงเดินลงมาข้างล่าง“เหมยหลงเธอตื่นมาก็ดีแล้ว ตอนนี้คุณแม่ฉี่เปื้อนที่นอนเต็มไปหมดมาช่วยกันยกคุณแม่หน่อยได้มั้ย ? และมาช่วยกันซักผ้าเปลี่ยนให้คุณแม่จะได้ไม่นอนจมกองฉี่ตัวเองอยู่แบบนี้”“อุ้ย! ไม่เอาหรอกแม่นะหนักจะตายไปอีกอย่างตอนนี้ฉันอาบน้ำแต่งตัวแล้วถ้าให้ไปจับตัวคุณแม่กลิ่นฉี่ฉุนติดเสื้อผ้าจะทำยังไง เธอเป็นลูกสะใภ้ก็ทำไปสิฉันนัดลูกชายเจ้าของตลาดเอาไว้ ในเมื่อไม่ได้นายอำเภอเอากับลูกชายเจ้าของตลาดก็คงไม่น้อยหน้าไปก่อนนะที่เหลือเธอก็จัดการด้วยถ้าฉันหลอกให้มันหลงรักหัวปักหัวปำฉันจะเอาเงินมันมาให้เธอเป็นค่าจ้างก็แล้วกัน” เหมยหลงสะบัดผมเดินออกจากบ้านโดยไม่สนใจว่าคนที่นอนอยู่คือแม่ของตัวเองตอนนี้ใจของเหม่ยฉีแตกสลายไม่คิดว่าลูกสาวที่เธอรักมากจะทำแบบนี้กับเธอได้ลงคอ มีมี่หันมามองเหม่ยฉีด้วยความสมเพชก่อนจะหัวเราะออกมา“ฮึ ฮึ ลูกแต่ละคนไม่เคยมีใครสนใจใยดีเลย ดูสิลูกสาวที่คุณแม่รักนักรักหนาทิ้งแม่ที
บทที่ 28 ยาออกฤทธิ์บ้านตระกูลโจวหลายวันมานี้หยางเจี้ยนอารมณ์ดีเป็นพิเศษเขาออกไปทำงานทุกเช้าและกลับมาพร้อมอาหารเต็มมือ จนทำให้มีมี่แปลกใจแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร มีเพียงแต่แม่สามีที่ชมลูกชายไม่หยุดปาก“ตั้งแต่ที่ฉันเสียเงินไปมากหยางเจี้ยนดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย ดีจริง ๆ อีกอย่างตอนนี้หนี้เถ้าแก่ซ่งก็เหลืออีกก้อนเดียวเราก็จะหมดหนี้แล้ว ตอนนี้ชีวิตช่างดีจริง ๆ ถึงแม้จะอยากได้บ้านของนังเสี่ยวอิงมาเป็นของเราก็เถอะ ตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้มากสินะหรือจะให้หยางเจี้ยนไปขอโทษด้วยความจริงใจแต่เจ้าหน้าที่ก็ข่มขู่ไม่ให้เสนอหน้าไปอีกไม่อย่างนั้นครั้งนี้จะจับไม่ปล่อย เฮ้อ!”“คุณแม่คะ คุณแม่เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”“อะไรกันกลับมาจากข้างนอกทำไมต้องโวยวายด้วย”“จะไม่ให้โวยวายได้ยังไงกันคะ ในเมื่อตอนนี้ความฝันของฉันพังทลายมาหมด นายอำเภอเฉินนะสิคะกำลังจะแต่งงานฉันไปเดินเล่นที่ตลาดได้ยินชาวบ้านพูดคุยกัน ไม่ยอมนะฉันต้องเป็นภรรยาเขาสิทำไมต้องเป็นคนอื่นด้วย”“แล้วเธอเหมาะสมกับเขาตรงไหนกันว่าแต่ใครกันที่ได้เป็นเจ้าสาวของนายอำเภอเฉิน” มีมี่เดินเอาน้ำมาให้ทั้งสามคนที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ แอบสะใจจริงที่เหมยหลงไม่ได้ดีและถูกผู
บทที่ 27 ฉันชอบนาย"อย่ามาทำแบบนี้นะ ทำไมอย่างอื่นนายจำได้หมดยกเว้นฉันคนเดียวเรื่องนี้ฉันไม่ยอมหรอกนะ นายทั้งอ่อยทั้งหยอดคำหวานชอบทำให้คนอื่นหวั่นไหว นายขอฉันแต่งงานไม่ใช่หรือไงทำไมมาพูดจาแบบนี้ ฉันไม่ยอมหรอกนะตาบ้า ฉันรอนายด้วยใจที่ตื่นเต้นทั้งวันทั้งคืนเพื่อรวบรวมความกล้าบอกความรู้สึกกับนาย แต่นายมาบอกว่าไม่รู้จักฉันจำฉันไม่ได้แบบนี้มันจะเกินไปแล้ว”“เสียงดังโวยวายจริง ๆ ฉันเนี้ยะนะขอเธอแต่งงานไม่มีทาง ขนาดชื่อยังจำไม่ได้แท้ ๆ อีกอย่างใครบอกให้เธอรอฉันกันล่ะ ไม่ได้บอกเสียหน่อยหรือต่อให้ฉันกลับมาฟังคำตอบของเธอทุกอย่างจะเปลี่ยนไปอย่างนั้นหรือ?”“เปลี่ยนสิ ทำไมจะไม่เปลี่ยนในเมื่อตอนนี้ใจของฉันมันหวั่นไหวไปกับนายแล้วตอนที่รู้ว่านายถูกทำร้ายรู้มั้ยว่าฉันกลัวมากแค่ไหนที่จะเสียนายไป เอาแต่โทษตัวเองที่ไม่ยอมตอบรับความรู้สึกของนาย เอาแต่โทษสมองกลวง ๆ ที่เอาแต่กลัวว่านายจะจริงจังหรือเปล่า จนฉันคิดได้ว่าฉันนะชอบนายเหมือนกัน และคำตอบที่นายต้องการคือฉันชอบนายและยอมเปิดใจให้นายเข้ามาโลดแล่นอยู่ที่อกข้างซ้ายของฉัน แล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้เป็นแบบนี้แล้วฉันจะต้องทำยังไง” เสี่ยวอิงพูดจาฉะฉานแต่ก็เคลือบไ
บทที่ 26 เธอเป็นใครมาถึงโรงพยาบาลเสี่ยวอิงพาเสวียนหนี่ไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ตอนนี้ตัวเสวียนเฉินนอนอยู่ในห้องฉุกเฉิน เสี่ยวอิงจึงพาคุณป้าไปนั่งรอที่หน้าห้องฉุกเฉินก่อนจะกลับมาหาเถ้าแก่ซ่งเพื่อจ่ายค่ารถ“เถ้าแก่ซ่งขอบคุณนะคะที่ช่วยเหลือพวกเรา ค่ารถมาที่นี่คุณต้องการเท่าไหร่คะ”“ฉันนะถึงแม้จะชอบกลิ่นเงินแต่เรื่องแบบนี้ฉันก็มีน้ำใจพอ เก็บเงินของเธอเอาไว้เถอะนะถือว่าฉันช่วยเหลือนายอำเภอแล้วใครกันนะกล้าลงมือทำร้ายนายอำเภอเฉิน”“นั่นสิคะ เรื่องนี้ฉันยังไม่ได้ถามตำรวจที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเลย ทำแบบนี้เหมือนพยายามฆ่าได้เลยยังไงถ้าจับตัวคนร้ายได้ต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ขอบคุณเถ้าแก่มากนะคะบุญคุณครั้งนี้ฉันไม่ขอลืมจะสำนึกในใจเสมอวันหนึ่งฉันจะตอบแทนนะคะ”หลังจากพูดคุยกับเถ้าแก่ซ่งพักใหญ่ก่อนจะเดินไปหาเสวียนหนี่ที่นั่งรอร้องไหว้อ้อนวอนพระเจ้าอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน“ป้าเสวียนหนี่คะอย่าร้องเลยนะคะยังไงเสวียนเฉินต้องไม่เป็นอะไรเขาต้องกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม”“ป้ากลัวเหลือเกิน ทำไมต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับลูกชายฉันด้วย ถ้าเสวียนเฉินไม่ฟื้นขึ้นมาจะทำยังไงป้าจะอยู่ยังไง” เสียงสะอึกสะอื้นไห้ของผู้เป็นแ
บทที่ 25 สั่งสอนเช้าวันต่อมาบ้านตระกูลโจวมีมี่ตื่นแต่เช้าตรู่ลุกขึ้นมาทำกับข้าวให้ทุกคนได้กินเพราะความเจ็บใจเมื่อวานนี้ทำให้เธอมีแรงบันดาลใจที่จะลงมือให้เร็วขึ้นมากกว่าเดิม เธอใส่ยาลงไปในชามข้าวของทุกคน ส่วนของเธอนั้นจะตักทีหลังคนอื่นเสมอ“มีมี่ตื่นแต่เช้าแบบนี้คงปรับความเข้าใจกับหยางเจี้ยนแล้วใช่มั้ย ผู้ชายก็เป็นแบบนี้แหละอะไรทนได้ก็ทนหน่อย”“ค่ะคุณแม่”“จริงสิวันนี้เธอช่วยซักผ้าของเหมยหลงให้หน่อยนะ เห็นว่าปวดหัวจนแทบลุกจากที่นอนไม่ได้เลย ฉันเองก็เช่นกันไม่รู้ช่วงนี้เป็นอะไรร่างกายเหนื่อยแปลก ๆ อีกสองวันฉันจะต้องไปเจอเถ้าแก่ซ่งแล้วจะหาเงินที่ไหนไปคืนนะหรือว่าจะออกไปหาผักไปขายดี หยางเจี้ยนก็เจ็บแผลอยู่จะไปเกี่ยวข้าวไหวหรือเปล่านะ ช่วงนี้ข้าวก็เริ่มจะหมดแปลงแล้วด้วย มีมี่หากฉันจะขอยืมสร้อยของเธอไปขายก่อนจะได้มั้ย เอาไว้ฉันใช้หนี้หมดเมื่อไหร่ฉันจะซื้อมาคืนเธอก็รู้นี่น่าเงินที่ฉันเตรียมไว้ใช้หนี้ต้องไปจ่ายค่าปรับให้หยางเจี้ยน”‘นังแก่นี่ขี้งกจริง ๆ เห็นว่าตัวเองเสียเงินไปมากกับลูกชายก็รีบมาขอของจากฉันคืนแถมยังอ้างเรื่องหนี้อีก ที่จริงเป็นพวกแกไม่ใช่หรือไงที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น คิดว
บทที่ 24 รอคำตอบหยางเจี้ยนอารมณ์เสียแต่ใจของเขาก็มีความอาลัยอาวรณ์ในตัวมีมี่ที่รีบวิ่งตามขึ้นไปขอโทษเธอทันที“มีมี่ฟังพี่ก่อนนะ พี่ทุกอย่างเพื่อเราทั้งนั้นตอนนี้คุณแม่ติดหนี้เถ้าแก่ซ่งจำเป็นต้องใช้เงินในเร็ววันพี่ก็จนหนทางเลยไปหาเสี่ยวอิงหวังให้เธอเห็นใจ ไม่คิดว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้”“หยุดพูดเถอะคำพูดของพี่มีคำไหนที่ฉันสามารถเชื่อได้อีกบ้าง”“มีมี่จะต้องทำยังไงเธอถึงจะเชื่อพี่ต่อจากนี้เธอตามติดตัวพี่เลยก็ได้ หากทำอย่างนั้นแล้วเธอจะเชื่อว่าพี่จะไม่ไปหาเสี่ยวอิงอีก” เขาเข้ามาโอบกอดเธอแน่นซุกหน้าลงซอกคอ‘ต้องพูดถึงขนาดนี้เพื่อให้ฉันเชื่อคำพูดเหรอ ถ้าฉันไม่เห็นของที่มี ฉันคงเชื่อหรอกแต่ตอนนี้ฉันรู้และเห็นหมดทุกอย่าง ครอบครัวของพี่ไม่ได้จนตรอกจนต้องไปหาเสี่ยวอิง แต่เป็นเพราะความมักมากของพี่มากกว่า ได้ในเมื่อต้องการแบบนี้ฉันเองก็จะยอมทน ต่อจากนี้ไม่มีอีกแล้วความรักที่แสนดีจากฉันจะมีเพียงความต้องการและชำระแค้นของฉันเท่านั้น’“ครั้งนี้ฉันจะยอมให้อภัยพี่และเชื่อคำพูดของพี่ ถ้ามีอีกครั้งฉันพร้อมจะหย่าทันที”“ในที่สุดเธอก็เข้าใจพี่ มีมี่มีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้นที่พี่อยากจะอยู่ด้วยต่อจากนี้พี่จะ
댓글