Share

บทที่ 5

last update Last Updated: 2025-06-12 02:25:30

บทที่ 5

คหบดีหลี่และฮูหยินที่ยืนอยู่ข้างในจวนหันมองหน้ากันก่อนจะถอนหายใจออกมา แม้จะพยายามยิ้มแย้มแต่ใบหน้าพวกเขากลับเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ

“เราควรทำอย่างไรดี” ฮูหยินหลี่ถามเสียงเบา สายตาจับจ้องไปยังขบวนสินสอดที่กำลังขนเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย พวกเขาไม่ได้ตื่นเต้นกับมูลค่าของมันเลยแม้แต่นิด

เพราะตระกูลหลี่ก็เป็นหนึ่งในตระกูลที่ร่ำรวย พวกเขาค้าขายได้ดี มีเงินทองมากมาย ร้านขายข้าวของพวกเขาก็เรียกได้ว่าเป็นร้านที่ขายได้ดีที่สุดในเมืองร้านหนึ่ง แต่ถึงอย่างไรก็เป็นเพียงพ่อค้า

คหบดีหลี่ถอนหายใจหนักอีกครั้งก่อนจะตอบกลับไปอย่างไร้หนทาง

“เราไม่มีทางเลือกอื่น ขุนนางใหญ่โตอย่างตระกูลโจวจะทำอะไร ใครจะสามารถขัดขวางได้ ถ้าเราปฏิเสธ... พ่อค้าทุกคนในเมืองคงจะหันหน้าหนีไม่ทำการค้ากับพวกเรา ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ต้องเป็นเรื่องแน่ ๆ เรื่องนี้ค่อยหาวิธีแก้ไขกันภายหลังก็แล้วกัน”

ทั้งคู่ตกลงจะตามน้ำไปก่อนเพราะรู้ดีว่าพวกเขาไม่มีอำนาจมากพอที่จะต่อต้านตระกูลโจว ตระกูลแม่ทัพที่ยิ่งใหญ่ แม้ในใจจะไม่เต็มใจแต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมจำนน

โดยมิได้รู้เลยว่าไม่ได้มีแต่พวกเขาที่ไม่ต้องการให้งานหมั้นหมายครั้งนี้เกิดขึ้น

โจวอี้หลงที่เดินตามพ่อแม่เข้ามาในตระกูลหลี่ทำหน้าบอกบุญไม่รับ เขาเองก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าคนตระกูลนี้ไม่ได้ต้องการมาหลอกลวงอะไรแม่ของเขาก็ตอนที่ได้เจอกับทั้งคู่

ไม่รู้ว่ามารดาเขาไปทำอย่างไรเข้า แต่สุดท้ายตระกูลหลี่ก็ยอมรับหมั้น แม้แต่ว่าที่คู่หมั้นเขาก็ไม่รู้ว่านางอยู่ที่ไหนหรือหน้าตาเป็นอย่างไรเลยด้วยซ้ำ

ตอนนี้ทั้งเขาและตระกูลหลี่ก็ไม่ต่างกัน ต่างต้องทำตามคำของมารดาของเขาเช่นเดียวกัน โจวอี้หลงส่ายหน้า ว่าจะหลุดพ้นจากเรื่องนี้แล้วแท้ ๆ แต่แม่ของเขาก็จัดการหาคนตามคำทำนายมาจนได้

ถึงเป็นอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำให้เขาวิตกกังวลอะไร วันข้างหน้าไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น วันนี้เขาก็แค่ทำตามคำขอของแม่ให้จบ ๆ ไป ส่วนวันข้างหน้าก็แค่หาทางยกเลิกมันก็เท่านั้น

พี่ชายทั้งสองตบบ่าน้องชายคนเล็กราวกับจะให้กำลังใจ และในทันทีที่พิธีเสร็จสิ้นพวกเขาก็เร่งเดินทางออกไปยังค่ายนอกเมืองในทันที

โจวอี้หลงรีบเดินออกจากจวนหลี่จนไม่เห็นเด็กน้อยที่ในวันข้างหน้าจะต้องมาเป็นคู่ชีวิตของเขา

ทุกอย่างรวดเร็วจนไม่มีใครทันตั้งตัว แม้แต่คนที่จัดการอย่างซ่งอวี้หลินเอง หลังจากเสร็จเรื่องนางจึงยังรั้งรออยู่ที่จวนตระกูลหลี่เพื่อดูตัวคนที่นางตามหามาเพื่อบุตรชายของตน

ก่อนหน้านี้เพราะความรีบร้อนจึงเผลอลืมไปเสียสนิทว่า หากบุตรสาวของคหบดีหลี่คนนี้ขี้ริ้วขึ้นมาเล่า แม้จะเอาแต่ใจเรื่องที่ซินแสว่า แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงบุตรชาย และตอนนี้ถึงได้ย้อนกลับมานึกกังวลเรื่องเล็กน้อยเข้าเสียได้

“ข้าขอพบบุตรีของท่านได้หรือไม่ ข้าอยากเห็นว่าผู้ที่มีวาสนาเกี่ยวข้องกับบุตรชายของข้าเป็นเช่นไร”

คหบดีหลี่ทำได้เพียงแค่พยักหน้ารับ แม้จะมีฮูหยินของเขากระตุกชายเสื้อของอีกฝ่ายเบา ๆ คล้ายจะไม่ต้องการให้บุตรสาวออกมาเจอกับคนตระกูลโจวก็ตาม

“อย่างไรสักวันก็ต้องได้เจอ” คหบดีกระซิบบอกกับภรรยา และเพราะคำนั้นจึงยอมสั่งสาวใช้ให้ไปตามหลี่หว่านเอ๋อร์บุตรสาวคนเล็กออกมาพบกับคนตรงหน้า

ไม่นานนักเด็กหญิงในชุดสีชมพูอ่อนก็เดินเข้ามาพร้อมกับกิริยาที่ดูเรียบร้อย

“ท่านแม่ให้คนไปตามลูกมีอะไรหรือเจ้าคะ” ระหว่างที่สามพ่อแม่ลูกกำลังอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ให้เด็กน้อยพอเข้าใจ

ซ่งอวี้หลินก็แอบลอบมองเด็กน้อยตรงหน้าด้วยความประทับใจ แม้จะยังเยาว์วัยแต่กลับมีท่าทางที่ดูงดงามแฝงอยู่ ใบหน้าก็ชวนให้เอ็นดู “หลี่หว่านเอ๋อร์สินะ” นางเอ่ยพลางส่งยิ้มอบอุ่น

“เจ้าค่ะ” เสียงของหลี่หว่านเอ๋อร์นุ่มนวล กิริยามารยาทที่แสดงออกมาก็ทำให้คนมองยิ่งรู้สึกชื่นชอบ “อ่านเขียนอักษรได้หรือไม่”

“ได้เจ้าค่ะ แต่ยังไม่เก่ง ช่วงนี้ข้าจึงชอบอ่านตำราต่าง ๆ มากกว่า แต่ก็กำลังฝึกเขียนอักษรเจ้าค่ะ ท่านพ่อบอกว่าอักษรข้าเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว” เด็กน้อยตอบพร้อมรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

“เช่นนั้นหรือ” สองสามีภรรยาเห็นอีกฝ่ายหัวเราะเอ็นดูบุตรสาวก็รู้สึกเบาใจอยู่บ้าง “เจ้าเขียนอักษรได้ดีตั้งแต่ยังเด็กเช่นนี้ ช่างน่าภูมิใจยิ่งนัก คหบดีหลี่กับฮูหยินคงจะดูแลเจ้ามาอย่างดีสินะ”

“ท่านพ่อท่านแม่ดูแลข้าอย่างดีเจ้าค่ะ แต่ถึงอย่างนั้นข้าเองก็ยังมีเรื่องที่ต้องเรียนรู้อีกมาก” หลี่หว่านเอ๋อร์กล่าวอย่างถ่อมตัว

ยิ่งได้มาเจอตัว ซ่งอวี้หลินก็ยิ่งมั่นใจว่าเด็กคนนี้เหมาะสมกับอี้หลงอย่างแท้จริง นางไม่เพียงแต่น่ารัก แต่ยังฉลาดและมีกิริยามารยาทงดงาม

“ข้ารู้สึกโล่งใจนักที่บุตรชายข้าจะได้คู่หมั้นที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้” สองสามีภรรยาหลี่ได้แต่ยิ้มรับอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ตอนนี้เป็นพวกเขาต่างหากที่ต้องคิดมากเรื่องว่าที่ลูกเขยในวันข้างหน้าจะเป็นเช่นไร

“วันนี้รบกวนมากแล้ว เรื่องสินสอดหากต้องการเพิ่ม...”

“พวกเรามีมากพอมิได้ต้องการอะไร เพียงแค่อยากให้ทางตระกูลโจวทำเรื่องนี้ให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้เป็นข่าวลือไม่ดี อย่างไรบุตรสาวของข้าก็ยังเด็กนัก”

“มิต้องห่วงทางเราจะบอกว่ามีการพูดคุยเรื่องนี้เอาไว้แล้วแต่เพราะเรื่องบ้านเมืองจึงเร่งรีบเช่นนี้”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ยามเมื่อใจ เพรียกหาเพียงเจ้า   บทที่ 29

    บทที่ 29ในเรือนเก่าของหว่านเอ๋อร์ แสงแดดยามบ่ายส่องลอดผ่านหน้าต่างไม้เก่าที่เปิดไว้ให้ลมพัดผ่าน อี้หลงเดินสำรวจรอบ ๆ ด้วยความสนใจ เขาลูบมือไปตามกรอบหน้าต่างที่มีรอยถลอกเล็ก ๆ ก่อนจะหันไปมองหว่านเอ๋อร์ที่กำลังหยิบจับของบางอย่างอยู่กลางห้อง “นี่หรือ...คือที่ที่เจ้าคุ้นเคยตั้งแต่เด็ก” หว่านเอ๋อร์พยักหน้า “ข้ามักชอบนั่งมองออกไปที่นอกหน้าต่างในยามค่ำ กลางวันก็มักจะอ่านหนังสือที่ตรงนี้ หรือไม่ก็ออกไปนั่งอ่านที่ศาลากลางสวน” หว่านเอ๋อร์บอกพร้อมทั้งลูบมือไปตามขอบหน้าต่างเก่าที่บางวันนางก็สะกิดมันเบา ๆ เมื่อความรู้สึกล่องลอยไปแสนไกล “เจ้าคงคิดถึงที่นี่มาก” หว่านเอ๋อร์พยักหน้า “ข้าอยู่มาตั้งแต่เด็ก จะไม่คิดถึงได้อย่างไร ที่นี่มีความทรงจำมากมาย ล้วนเป็นเรื่องดี ๆ ทั้งนั้น”อี้หลงยิ้มและขยับตัวเข้าไปใกล้หญิงสาว เขาเอื้อมมือไปแตะแก้มของอีกฝ่ายเบา ๆ ก่อนจะมองเข้าไปในดวงตาสวยราวกับจะบอกใบ้อะไรบางอย่าง "หว่านเอ๋อร์ หากที่นี่มีแต่ความทรงจำดี ๆ ของเจ้า เช่นนั้นข้าขอเป็นอีกหนึ่งความทรงจำดี ๆ ของเจ้าที่นี่จะได้หรือไม่" หว่านเอ๋อร์มองชายหนุ่มด้วยสายตาสงสัย แต่เพียงไม่นานนางก็ต้องเริ่มขืนตัวเมื่อรู้สึก

  • ยามเมื่อใจ เพรียกหาเพียงเจ้า   บทที่ 28

    บทที่ 28"อาเฟยหลง ช้า ๆ หน่อยสิหลานยาย ยายแก่แล้ว วิ่งตามเจ้าไม่ทันหรอกนะ" หว่านเอ๋อร์ที่พาบุตรชายมาเยี่ยมพ่อแม่ของนางอดยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อเห็นเฟยหลงที่อายุกำลังย่างเข้าขวบที่สามวิ่งเล่นหยอกล้อกับตายายของเขา "แต่ข้ายังตามเฟยหลงทันนะ” คหบดีหลี่รีบเอ่ยแย้งภรรยา พร้อมทั้งกึ่งเดินกึ่งวิ่งและพยายามไล่ตามจับหลานชายที่ดูเหมือนจะอยากเล่นไล่จับ เฟยหลงหัวเราะคิกคักก่อนจะซุกหน้ากับอกของท่านยายของเขา "ท่านตาช้า จับข้าไม่ทันหรอกขอรับ" ทุกคนในสวนของจวนหลี่หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ รวมถึงมารดาของอี้หลงที่นั่งมองหลานชายตัวเองด้วยสายตาเอ็นดู "เด็กคนนี้ ช่างเจื้อยแจ้วเหมือนแม่ของเขาไม่มีผิด" ซ่งอวี้หลินเองก็พยักหน้าเห็นด้วยกับคำของมารดาของหว่านเอ๋อร์ “แต่ข้าไม่เห็นรู้สึกว่าหว่านเอ๋อร์จะเจื้อยแจ้วเลยนะท่านแม่” อี้หลงเอ่ยออกมา“นั่นเพราะนางยังไม่ค่อยอ้อนเจ้าน่ะสิ ใช่หรือไม่หว่านเอ๋อร์” หญิงสาวที่เป็นแม่คนแล้วแต่ก็ยังเขินอายก้มหน้านิ่งเพราะเป็นอย่างที่ว่าจริง ๆ เวลาที่นางอยู่กับอี้หลงจะค่อนข้างเก็บปากเก็บคำไม่เหมือนเวลาอยู่กับบรรดาพ่อแม่ทั้งหลาย“จริงหรือหว่านเอ๋อร์” อี้หลงหันมาถามภรรยาและก็ได้คำตอ

  • ยามเมื่อใจ เพรียกหาเพียงเจ้า   บทที่ 27

    บทที่ 27"เอาไว้หาโอกาสพาลูกของเราไปให้ซินแสตรวจดวงชะตาดีหรือไม่” อี้หลงพูดขึ้นด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ พลางอุ้มเฟยหลงที่กำลังหัวเราะอย่างสดใส หว่านเอ๋อร์เหลือบมองสามีอย่างขบขัน คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อยราวกับถามว่านี่พูดจริงหรือ “ท่านพี่คิดจะทำเช่นนั้นจริง ๆ หรือเจ้าคะ ข้าคิดว่าท่านพี่ล้อเล่นเสียอีก มิใช่ว่าท่านพี่ไม่เชื่อเรื่องดวงชะตาหรอกหรือ" อี้หลงยิ้มแล้วขยับเข้ามาใกล้คนรัก "ก็ไม่เชื่อทั้งหมด ยิ่งก่อนหน้านี้ยิ่งไม่เชื่อ แต่เมื่อมาเจอเจ้า" อี้หลงตอบแล้วก็ยิ้มออกมา “ตอนนี้เรียกว่าข้างมงายกว่าท่านแม่อีก ลองดูก็ไม่เสียหายอะไรไม่ใช่หรือ เผื่อซินแสจะทำนายอะไรดี ๆ ให้เฟยหลง แล้วก็...บางทีข้าก็อยากรู้เรื่องของเราเหมือนกัน"หว่านเอ๋อร์ส่ายหน้าอย่างเอ็นดูพลางหัวเราะเบา ๆ กับท่าทางของสามีนักรบที่ครั้งหนึ่งนางเคยคิดว่าเขาเป็นคนที่ดูจะจริงจังกว่านี้ "ข้าว่าท่านพี่คงอยากได้คำยืนยันจากฟ้าเบื้องบนว่าข้าคือภรรยาที่ถูกกำหนดมาแล้วมากกว่าใช่หรือไม่”“ข้าจะต้องให้ใครมายืนยันอีก ต่อให้ตอนนี้ฟ้าบอกว่าข้ากับเจ้าไม่เหมาะสมข้าก็ไม่เชื่อแล้ว แต่ข้าก็แค่คิดว่าคำทำนายก็เป็นการนำทางที่ดีไม่ใช่น้อย เพราะมันทำให้ข้าม

  • ยามเมื่อใจ เพรียกหาเพียงเจ้า   บทที่ 26

    บทที่ 26"กังวลเรื่องอะไรอยู่หรือ" หว่านเอ๋อร์เงียบไปก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นน้อย ๆ "ท่านพี่จะไม่ต้องไปจริง ๆ ใช่หรือไม่" อี้หลงพยักหน้า “ข้าไปขอกับฝ่าบาทแล้ว พระองค์เข้าใจดี อีกอย่างคงคิดจะหาตำแหน่งให้ท่านพี่รองอยู่กระมัง เจ้ามิต้องกังวลใจไป” “พี่รองจะไม่โกรธใช่หรือไม่” อี้หลงส่ายหน้า “ไม่หรอก พี่รองไม่โกรธหรอก เขาได้เป็นหัวหน้าราชองครักษ์แล้ว บางทีคงอยากได้ตำแหน่งอะไรที่ใหญ่กว่านั้น บรรดาทหารก็รักท่านพี่ หากครั้งก่อนไม่ต้องติดตามมาอารักขาท่านพ่อบางทีคนที่ได้ตำแหน่งแม่ทัพครานั้นอาจจะเป็นท่านพี่ก็ได้” หว่านเอ๋อร์ได้ฟังก็รู้สึกสบายใจขึ้น “เป็นเช่นนั้นก็ดี เพราะหากท่านพี่ไปจริง ๆ กลับมาลูกของเราคงโตไปแล้ว หรือไม่...ถ้าข้าเกิดเป็นอะไรระหว่างคลอด..." ไม่ทันที่หว่านเอ๋อร์จะพูดจบ อี้หลงก็ยื่นหน้าเข้ามาจูบเบา ๆ ที่ริมฝีปากของนาง เขาหยุดหญิงสาวจากคำพูดที่ไม่เป็นมงคล "อย่าพูดอะไรแบบนั้น ข้าไม่มีวันปล่อยให้เจ้าหรือบุตรของเราต้องเจอกับอะไรที่เลวร้ายเด็ดขาด มิใช่ว่ากว่าจะมีเขาพวกเราต้องผ่านอะไรมามากมาย”“ท่านพี่ ข้ารักท่าน” อยู่ ๆ หว่านเอ๋อร์ก็พูดออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำเอาคนฟังอ

  • ยามเมื่อใจ เพรียกหาเพียงเจ้า   บทที่ 25

    บทที่ 25วันเวลาผ่านไปนานนับปี ทั้งสองใช้ชีวิตแบบสามีภรรยาทั่วไป อี้หลงยังคงดูแลหว่านเอ๋อร์เป็นอย่างดี เขาเป็นสามีที่ซื่อสัตย์และมั่นคงต่อหญิงสาว ส่วนหว่านเอ๋อร์ก็ทำหน้าที่ภรรยาอย่างไม่บกพร่อง ทั้งคู่ต่างเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน แม้หว่านเอ๋อร์จะไม่ได้เอ่ยถึงความรู้สึกให้ชัดเจน แต่อี้หลงก็ยังคงชัดเจนกับความรู้สึกของตัวเองเสมอมา ส่วนหว่านเอ๋อร์นั้นดูเหมือนจะมีความสุขกับชีวิตตอนนี้จนไม่ได้เอ่ยบอกกับชายหนุ่มถึงความรู้สึกที่เปลี่ยนไปในใจของตน หญิงสาวไม่ได้คิดถึงเรื่องที่อยากจะเอาคืนอีกฝ่ายอีกแล้ว เพราะมันไม่ได้รบกวนจิตใจอีกแล้ว“ท่านแม่สอนให้ข้าทำอาหารที่ท่านพี่ชอบ” หว่านเอ๋อร์ยกจานอาหารมาให้กับสามีของตนด้วยรอยยิ้ม “ข้าไม่ยักรู้มาก่อนว่าท่านแม่จำได้ว่าข้าชอบอะไร” หญิงสาวมองหน้าชายหนุ่มอย่างไม่พอใจ“แม่ทุกคนย่อมจำได้อยู่แล้วว่าลูกของตัวเองชอบอะไร ลองชิมดูหน่อยไหมเจ้าคะ แต่ข้าไม่รับประกันว่ามันจะอร่อยนะ ข้าไม่ค่อยได้ทำอาหารมากนัก แม้ท่านแม่จะสอนแต่ข้าชอบอ่านตำรามากกว่า”พออยู่ด้วยกันนานวันทั้งสองก็สนิทสนมกลายเป็นคู่ชีวิตที่สมบูรณ์แบบในสายตาของทุกคน ความผูกพันและความเข้าใจค่อย ๆ สั่งสมและเพ

  • ยามเมื่อใจ เพรียกหาเพียงเจ้า   บทที่ 24

    บทที่ 24เสียงประตูเรือนเปิดออกในยามดึก พร้อมกับเงาร่างของโจวอี้หลงที่เดินเข้ามา แม้จะเป็นการปะทะที่หนักหน่วงแต่ก็จบอย่างรวดเร็วเพราะมันเกิดขึ้นเพียงแค่เพราะความไม่พอใจจากคนกลุ่มหนึ่งที่เสียเปรียบทางการค้าก็เท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้บรรดาคนที่ออกไปจัดการบาดเจ็บกันเล็กน้อย รวมถึงตัวของอี้หลงด้วย ใบหน้าของเขามีร่องรอยของการปะทะ และแขนข้างหนึ่งของเขาก็มีคราบเลือดจาง ๆ รวมถึงที่หน้าอกแกร่งด้วยหว่านเอ๋อร์ที่นั่งรออยู่รีบลุกขึ้นทันทีที่เห็นชายหนุ่ม "ท่านบาดเจ็บ เกิดอะไรขึ้นหรือ เป็นอะไรมากหรือเปล่า ให้ข้าเรียกหมอหรือไม่" หว่านเอ๋อร์เร่งตรวจดูร่างกายของสามีและพาอีกฝ่ายมานั่งอยู่บนเตียง ใบหน้าของนางซีดเผือดด้วยความกังวล"ข้าไม่เป็นไร แค่รอยข่วนเล็กน้อยเท่านั้น" อี้หลงพยายามยิ้มปลอบ แต่เขากลับสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมือของหว่านเอ๋อร์จับไปโดนตรงที่เป็นแผล หว่านเอ๋อร์เร่งถอดเสื้อของชายหนุ่มออก "เล็กน้อยอะไร ท่านมีเลือดออกขนาดนี้!" แม้ปากจะบ่นแต่ในตากลับมีน้ำใสคลออยู่ มือที่ค่อย ๆ ถอดเสื้อออกเริ่มสั่นไหว แต่หญิงสาวก็พยายามควบคุมมันเมื่อเสื้อหลุดออกก็เผยให้เห็นบาดแผลที่ไหล่พาดลงมาถึงหน้าอกและ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status