Share

๖.๑ ถึงเวลา

last update Last Updated: 2025-04-27 18:00:34

“ไปกันใหญ่แล้วมึง เห็นกูเป็นพระถังซัมจั๋งเหรอถึงได้คิดว่ามันเคารพกูน่ะ” นรินทร์พูดตอบนิลนนท์ด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริงอย่างยิ้มๆ ก่อนจะหันมาส่ายหน้าไปมากับสิ่งที่นิลนนท์พูด 

“แต่กูเชื่ออย่างนั้นนะ...” นิลนนท์ตอบพร้อมกับรอยยิ้มขี้เล่น นรินทร์จึงหัวเราะออกมาเบาๆ คิดว่านิลนนท์คงพูดหยอกล้อต่อมุขเธอเล่น เธอจึงไม่ได้ตอบอะไรออกไปก่อนจะมีเพื่อนรุ่นน้องในทีมจะกล่าวเสริม

“พี่นิลนนท์พูดเหมือนกับอ่านใจงูได้อย่างนั้นแหละ” มินตราที่นั่งติดกระจกรถข้างๆนิลนนท์พูดขึ้นแล้วมองนิลนนท์อย่างสงสัย เพราะเธอก็เห็นเขาจ้องมองงูเหมือนกับกำลังคุยกับมันอย่างไรอย่างนั้น 

“มินตรา มึงเชื่อเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ...สาวคลั่งเทคโนโลยีอย่างมึงเนี่ยนะ” เทวินที่นั่งอยู่ข้างหลังกับภากรณ์พูดขึ้นและมองมินตราอย่างไม่อยากเชื่อ คนอื่นๆก็มองเทวินก่อนจะหันกลับมามองมินตราเช่นกัน

“เปรียบเปรยจ้ะ เขาเรียกว่าเรียกว่าเปรียบเปรย” มินตราตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก

“อาจจะคุยรู้เรื่องก็ได้ พวกอสรพิษ…เลี้ยงไม่เชื่องอยู่แล้ว…พวกมันชอบสุ่มเงียบแล้วค่อยแอบฉกเหยื่อที่จ้องไว้ซะด้วยสิ...”

ภากรณ์ที่นั่งเงียบอยู่นานพูดขึ้นเขาตั้งใจจะจิกกัดนิลนนท์ ทุกคนต่างหันไปมองภากรณ์อย่างไม่สบอารมณ์นักและทุกคนก็ต่างสงสัยว่าเขาตามนรินทร์มาทำไมที่นี่ อีกอย่างใครจะชอบนรินทร์หรือมาจีบเธอก็ไม่ผิดเสียหน่อย เพราะเธอนั้นเซ็นใบหย่าเรียบร้อยแล้วเท่ากับว่าเป็นหม้ายเนื้อหอม

“งูไปหมดแล้วครับ…ผมนี่ตกใจแทบแย่”

ลุงคนขับรถร้องบอกคนในรถอย่างนึกโล่งอกก่อนจะเช็ดเหงื่อในมือกับกางเกงยีนส์เกิดมาเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นงูตัวใหญ่ขนาดนี้หากว่าไม่ได้อยู่บนรถเขาคงจะทำอะไรไม่ถูก นรินทร์เองก็รู้สึกไม่ต่างจากลุงคนขับรถเธอเห็นด้วยในใจแต่ไม่แสดงออกเพราะไม่อยากให้คนในทีมใจเสีย

“งั้นเราก็ไปกันต่อเถอะค่ะ” 

หนทางยังอีกยาวไกลกว่าจะถึงที่หมายนรินทร์ตัดบทเพื่อให้ถึงที่หมายก่อนมืดค่ำ ลุงคนขับทำใจแข็งจับพวงมาลัยไปต่อพลางสายตามองสอดส่องสองข้างทางอย่างระแวดระวัง กลัวจะเจออย่างเมื่อครู่ที่ทำเอาใจหายใจคว่ำไปเสียหมด

ไม่เกินอึดใจรถตู้กระจกทึบก็แล่นเข้ามาในเขตของหมู่บ้านบูรบุรี หมู่บ้านที่ตั้งอยู่หลังภูเขาลูกหนึ่งของภาคตะวันออก เส้นทางเข้าคดเคี้ยวลำบากยากเข็ญจนไม่คิดว่ารถยนต์จะเข้ามาได้ เพราะเหตุนี้หมู่บ้านนี้จึงถูลืมเลือนราวกับว่าไม่มีอยู่ในแผนที่ประเทศไทยและเป็นหมู่บ้านที่ความเจริญเข้าไม่ถึงแม้ว่าโลกภายนอกจะพัฒนาไปไกลแค่ไหนก็ตาม 

รถตู้แล่นเข้ามาจอดหน้าที่ว่าการผู้ใหญ่บ้านสถานที่สำคัญของชุมชนที่คอยคุมกฏระเบียบของคนในหมู่บ้านเพื่อให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข 

ทีมนิตยสารของสำนักพิมพ์ชื่อดังลงจากรถมาทักทายผู้ใหญ่บ้านที่ยืนรอต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่ใส่แค่โสร่งพันรอบเอว ด้านบนถอดเสื้อพาดผ้าขาม้าบนบ่าเนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยสักราวกับชายยุคโบราณยกมือรับไหว้พวกเธอ

แม้แต่ภรรยาของผู้ใหญ่บ้านก็ดูสวยสง่าในชุดผ้าซิ่นแบบพื้นบ้านเสื้อคอจีนสีขาวพอดีตัวแขนสามส่วนส่งเสริมให้บุคลิกของเธอดูมีราศีกว่าชาวบ้านทั่วไป หน้าตายังดูสะสวยอายุอานามของเธอคงจะห่างกับผู้ใหญ่บ้านหลายปี

“สวัสดีพวกคนเมือง นึกว่าจะพากันมาไม่ถูกเสียแล้ว” 

ผู้ใหญ่บ้านเอ่ยทักทายขึ้นด้วยรอยยิ้มก่อนจะหันหน้าไปมองนรินทร์นิ่งค้างไปชั่วขณะแล้วพยักหน้ากลมใหญ่นั้น  ไม่ต่างจากภรรยาของผู้ใหญ่บ้านที่เธอเองก็กำลังจ้องมองนรินทร์อย่างไม่ละสายตามาได้พักใหญ่

“เกือบจะมาไม่ถึงแล้วผู้ใหญ่ ระหว่างทางมีงูตัวเบ่อเร่อขวางรถเอาไว้ ใจผมนี่ตกไปถึงตาตุ่มเลยเชียว” คนขับรถอดไม่ได้ที่พูดถึงเรื่องที่น่าระทึกใจยังจำได้ติดตาอยู่เลย รีบฟ้องผู้ใหญ่บ้านทันที

“งั้นรึ? …บ้านป่าเมืองเถื่อนก็เป็นอย่างนี้แหละ เอาล่ะ…ข้าเตรียมบ้านไว้ให้แล้ว เดี๋ยวแม่สายเมียข้าจะนำทางไป” 

ผู้ใหญ่บ้านพูดแค่นั้นก่อนจะหันไปพยักหน้าให้ภรรยาที่ยืนอยู่ข้างกาย แม่สายภรรยาผู้ใหญ่ก็พยักหน้าก่อนจะเดินนำทางเหล่าคณะทีมของนรินทร์ไปด้านหลังบ้านของผู้ใหญ่บ้าน แอบเดินชะลอคอยให้หญิงสาวที่เจ้าหล่อนได้จ้องมองไว้เดินตามมาได้ทันก่อนจะเอียงหน้าไปถามชื่อแส้บ้านเกิดเมืองนอน

“คุณมาจากที่ไหนเหรอ?” แม่สายเอ่ยถามนรินทร์ที่เดินอยู่ข้างหลังเธอเพียงเล็กน้อยใกล้ๆ

“กรุงเทพค่ะ…”

“ไม่ใช่ ข้าหมายถึงบ้านเกิด”

“อ๋อ…เป็นคนทางเหนือค่ะ นครพล...เมืองแพรก”

“จริงรึนี่…ไม่น่าเชื่อ” 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๖๖. รอคอยอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

    หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นจิตใจของนรินทร์ก็ไม่เคยสงบยังคงนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นบางครั้งก็เหม่อลอยอยู่นานไม่ได้สติ เธอแทบไม่มีสมาธิในการทำงาน แม้ว่าสภาพร่างกายของนรินทร์จะฟื้นตัวจนเกือบจะหายดี แต่สภาพจิตใจของนรินทร์ไม่ได้ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อยยังคงเซื่องซึมหวาดผวาทุกครั้งที่ได้ยินเสียงดังตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาเธอพยายามทุกวิถีทางที่จะหาเขาให้เจอแม้กระทั่งเดินทางไปยังหมู่บ้านบูรบุรีทุกๆสุดสัปดาห์แต่ทว่าทางที่เธอเคยไปกลับไม่มีอยู่ ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่สามารถไปถึงที่นั่นได้เธอพยายามติดต่อพชรและแสงศรทั้งข้อความทั้งโทรศัพท์แต่สิ่งที่ได้ยินคือไม่มีเลขหมายที่เธอต้องการติดต่อ นรินทร์พยายามหาข้อมูลทุกสิ่งทุกอย่างที่จะเชื่อมโยงกับพชรแต่ก็ไม่คืบหน้าเลยเหมือนเธอกำลังวนอยู่ในอ่าง ตั้งแต่วันนั้นนรินทร์ไม่เคยได้พบพชรหรือแสงศรอีกเลยราวกับว่าพวกเขาไม่เคยเดินเข้ามาในชีวิตเธอ แต่รอยแผลบนตัวเธอยังคงย้ำเตือนว่าเรื่องราววันนั้นมันเกิดขึ้นจริงๆเขามีตัวตนจริงๆ ‘ฮือ...ทำยังไงฉันถึงจะติดต่อคุณได้คะพชร ฉันคิดถึงคุ

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๖๕. พญาทศยันต์ เทวิน

    “ข้ามิได้มาเพื่อเข่นฆ่าผู้ใด ท่านจงวางใจในข้า” พญานกเอ่ย ก่อนจะกระพือปีกสีน้ำเงินนั้นพัดเข้าหาพญานาคทั้งสองมีเพียงมันตราที่กระเด็นกลิ้งออกไปตามแรงพัดนั้น มิอาจต้านแรงพญาครุฑาได้ พญาเพชรแก้วเหลียวมองพญานกนั้นก่อน พญาทศยันต์จ้องมองพญาเพชรแก้วก่อนจะเอ่ยขึ้น“ข้าจักจัดการนางเอง” ว่าแล้วก็กระพือปีกบินขึ้นสง โฉบเฉี่ยวคว้าร่างของนาคีสีเขียวตองอ่อนนั้นขึ้นสู่น่านฟ้า มุ่งหน้าไปยังอีกฝากฝั่งของมหานทีพระครูบามันที่เห็นว่าเรื่องราวสงบลงแล้ว ท่านจึงเดินเข้ามาหาพญาเพชรแก้วที่กลับร่างกายหยาบเป็นพชรด้วยท่าทีสงบนิ่ง มองดูจ้าวจอมผู้เป็นใหญ่ช้อนกอดร่างของนางอันเป็นที่รักร่ำไห้ปานจะขาดใจอย่างเวทนาสงสาร“นางยังมิสิ้นใจหรอกท่าน…จิตของนางยังคงช่วยค้ำยันชีวิตและร่างกายนี้เอาไว้อยู่” พระครูบามันเอ่ยว่าแล้วร่างโปร่งใสของนรินธราก็ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขา ร่ำไห้นั่งลงเคียงข้างพชร พลางเอื้อมมือไปจับมือหนาของเขาที่กำลังพยายามช่วยชีวิตของนรินทร์ พลังเหนือธรรมชาติของทั้งสองดวงจิตผสมผสานกันเพื่อช่วยหญิงสาวตรงหน้า&l

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๖๔. พระครูบามัน

    “ข้าคอยตักเตือนเจ้าแล้ว…คีภัทรา!! แต่เจ้ากลับไม่มีทีท่าจักสำนึก!! จงกลับลงไปจมสู่ใต้ธาราชั่วนิรันดร์เสีย” ดวงตาสีน้ำผึ้งจ้องมองคีภัทราอย่างเกรี้ดกราด โกรธแค้นเคืองใจนางตรงหน้าที่เคยรักเหมือนดั่งพี่น้อง ค่อยวางร่างของนรินทร์ลงกับพื้นอย่างเบามือทั้งน้ำตา ลุกขึ้นมาหุนหันย่างก้าวเข้าหาพญานาคีห้าเศียรตรงด้วยโทสะ ดวงตาฉายแววอาฆาตต้องการจักปลิดชีพนางเสีย“หยุดก่อนท่าน…จงระงับโทสะแล้วไตร่ตรองดูเสียเถิดท่านพญานาคราชผู้ยิ่งใหญ่ หากท่านพลาดพลั้งไปสิ่งที่ท่านทำมามันก็สูญเปล่า…อย่าได้ต่อเวรต่อกรรมกันเลย ให้มันเป็นหน้าที่ของเวรกรรมที่นางจะต้องได้รับผลนั้นเองเสียเถิด”เสียงนุ่มเย็นดังขึ้นอยู่กึ่งกลางระหว่างทั้งสอง ก่อนจะปรากฏร่างของพระครูบามันเดินเข้ามาขวางทางทั้งคู่ด้วยท่าทีที่นิ่งสงบ พชรยังคงไม่คลายโทสะลงจ้องมองพระครูและคีภัทราสลับกันไปมา“มันมิใช่กิจของท่าน จงอย่าได้แส่!” คีภัทราเอ่ยขึ้นอย่างไม่เคารพ เวลานี้นางเองก็อยากจะทวงขอความรักจากชายตรงหน้าเช่นกัน หากมิได้ความรักก็ขอต่อเวรต่อกรรมจองจำพบเจอกันมันไปทุกภพทุกช

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๖๓. เดิมพันด้วยชีวิต

    รถตู้หยุดอยู่ที่ขอบหน้าผาหมิ่นเหม่เหมือนจะตกลงไปอยู่รอมร่อ แต่เพราะลำกายของงูใหญ่นั้นพันเกี่ยวรถตู้เอาไว้ ชูคอหันหน้ามาทางรถที่พชรและนรินทร์นั่งอยู่ราวกับกำลังต่อรอง ท่ามกลางเสียงกรีดร้องด้วยความกลัวของคนในรถดังออกมาจนได้ยินชัดคนในรถต่างพากันหาที่ยึดเหนี่ยวไว้อีกฝั่งก็พญานาคอีกฝั่งก็หน้าผาทุกคนต่างเริ่มร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวมีเพียงนิลนนท์ที่พอจะมีสติแต่เขาเองก็ปฎิเสธไม่ได้ว่ากลัวไม่ต่างกันสายตาของนิลนนท์มองไปรอบรถตู้อย่างน้อยน่าจะมีอะไรพอช่วยได้บ้างแต่ทว่ามีเพียงเข็มขัดนิรภัยเท่านั้นอย่างน้อยหากตกลงไปก็ยังพอมีโอกาสรอด“ทุกคนรัดเข็มขัด! ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นอย่าถอดออกเด็ดขาด” นิลนนท์พยายามทำเสียงแข็งทั้งที่ในใจหล่นวูบ“ฮืออ พี่นิลมินกลัวนี่มันฝันใช่ไหม” มินตราร้องไห้ด้วยความกลัว“กูอยู่นี่ไม่ต้องกลัว” เทวินปลอบมินตราก่อนจะรีบรัดเข็มขัดของตัวเองและหันไปสำรวจของมินตรา“นายท่านครับ…” แสงศรหันไปเรียกผู้เป็นเจ้านายด้วยสีหน้าจริงจัง พชรพยักหน้าก่อนที่แสงศรจะหักรถกลับไปยังที่เกิดเหตุ

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๖๒. แรงแค้นที่ต้องแลก

    ในคราวแรกความสัมพันธ์ของเธอและเขานั้นพึ่งจะได้ตกลงปลงใจกันได้เพียงวันเดียวก็เกิดเรื่อง เธอรับรู้ความจริงในตัวตนของเขาและปฏิเสธเขาด้วยความกลัวและเกรงขามในบทบาทที่เขาเป็น แต่คราวนี้เธอรับรู้ถึงตัวของเขาทั้งหมดและยอมรับมัน ยอมรับใจตัวเองที่หลงรักเขาไปแล้วตั้งแต่แรกเจอทั้งที่เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนอีกทั้งเรื่องราวความสัมพันนธ์ของเธอและเขามันก็เลยเถิดมาถึงขนาดนี้แล้ว เธอก็อยากจะลองดูสักตั้งเหมือนกัน อยากมองเขาในฐานะผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่ใช่สิ่งศักดิ์หรือสิ่งลี้ลับอะไรทำนองนั้นแม้ว่าเธอไม่รู้เลยว่า…อะไรจะเกิดขึ้นกับอนาคตความรักของเธอ…“เลิกหวานกันสักแป๊บได้ไหมคะ มินอิจฉาไปหมดแล้วเนี่ย” มินตราเอ่ย ขณะที่ทุกคนนั่งทานอาหารกันพร้อมหน้ารวมถึงภากรณ์และพนิตาที่ลอบมองพชรและนรินทร์เป็นระยะด้วยสีหน้าไม่พอใจเท่าไหร่นักที่เห็นทั้งสองคนตักอาหารให้กันไปมองตากันหวานเชื่อมโดยไม่สนใจคนรอบข้างราวกับว่าโลกทั้งใบมีแค่พวกเขา“ไม่กงไม่กินมันละ เลี่ยน!” พนิตาวางช้อนส้อมลงอย่างใส่อา

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๖๑. ความรู้สึกแปลกใหม่

    ภากรณ์ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเมื่อยล้าเขามองไปรอบๆห้องก็พบว่านี่คือห้องของเขาไม่ใช่ห้องของนรินทร์และคนที่นอนอยู่ข้างๆคือพนิตา“นิตา นิตา!”“อื้ม อะไรคะกรณ์เสียงดังจังเลย”“ทำไมคุณมาอยู่นี่ แล้วไอ้พชรล่ะ”“ไม่รู้สิคะ เมื่อคืนนิตาจำได้ว่าอยู่กับคุณพชร”พนิตารวบรวมสติพยายามนึกถึงเมื่อคืนเธอจำได้ว่าพชรกำลังจะจูบเธอแล้วแท้ๆ พนิตานึกเสียดายและมองไปที่ภากรณ์อย่างหัวเสีย “แล้วคุณล่ะ กลับมาตอนไหนเรื่องนรินทร์ล่ะว่าไง?” ภากรณ์ได้ยินอย่างนั้นก็ฉุกคิดในหัวพอตั้งสติได้ก็ไม่รอช้ารีบลุกพรวดออกไปยังห้องของนรินทร์ทันทีด้วยความหงุดหงิด ต้องเป็นพชรทุกทีที่เข้ามาได้ทันเวลามันเสียทุกครั้ง คิดๆแล้วก็เจ็บใจทางด้านมันตราได้แอบออกมาพบคีภัทราด้วยเส้นทางด้านหลังของคฤหาสน์ เห็นผู้มีพระคุณยืนรออยู่ก็รีบเข้าไปหาด้วยความดีอกดีใจ แต่ทว่านางตรงหน้าก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status