Home / แฟนตาซี / สงครามรักในเงามืด / ผู้ชายแปลกหน้า...

Share

สงครามรักในเงามืด
สงครามรักในเงามืด
Author: มูมูมิ

ผู้ชายแปลกหน้า...

last update Last Updated: 2024-11-20 21:13:02

ยามราตรีกาลโลกซินด์เธีย.......

เสียงฝีเท้าหนักๆ ดังกระทบพื้นถนนเป็นจังหวะ ใบหน้าของหญิงสาวซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว เธอหอบหายใจแรงขณะที่พยายามเร่งฝีเท้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เงาดำที่ไล่ตามเธอมาติดๆ ทำให้หญิงสาวไม่สามารถหยุดวิ่งได้แม้แต่วินาทีเดียว

"ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยฉันที!" หญิงสาวร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่ในยามวิกาลเช่นนี้ ดูเหมือนจะไม่มีใครได้ยินเสียงของเธอ

เงาดำมืดนั้นเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ หญิงสาวรู้สึกได้ถึงลมหายใจเย็นยะเยือกที่เป่ารดต้นคอ ตัวหญิงสาวแข็งทื่อขาที่จะก้าวหนีไม่ขยับไปไหนทันใดนั้น จู่ๆ ชายผู้นั้นก็พุ่งเข้ามาคว้าตัวเธอจากด้านหลัง เขาลากเธอเข้าไปในตรอกมืด ร่างของหญิงสาวกระแทกกับกำแพงอย่างแรง เธอพยายามดิ้นรนสุดชีวิตแต่ ก็ไม่สามารถสู้ได้ เขาแข็งแกร่งเกินกว่าที่เธอจะต่อกร

"อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ได้โปรดนะ ขอร้อง" 

หญิงสาวอ้อนวอน แต่เสียงของเธอถูกกลืนหายไปในความมืดมิด

เขาฉีกยิ้ม ก้มลงไปใกล้ๆ คอของหญิงสาวได้กลิ่นคาวเลือดจางๆ จากลมหายใจของเขา เขี้ยวแหลมคมของเขาจมลงไปในผิวเนื้อของเธอ หญิงสาวร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่เสียงของเธอกลับค่อยๆ เงียบลงเรื่อยๆ ร่างกายของเธอซีดราวกับศพ เขาดูดเลือดของเธออย่างตะกละตะกลาม จนกระทั่งเธอแน่นิ่งไป

เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมาดวงตาของเขาเป็นสีแดง เขายิ้มอย่างพึงพอใจก่อนจะเลียริมฝีปากตัวเอง จากนั้นเขาหายตัวไปในความมืด ทิ้งไว้เพียงร่างไร้ชีวิตของหญิงสาวที่นอนอยู่บนพื้นดิน....

หนึ่งชั่วโมงถัดมา....

ขณะเดียวกันชายคนหนึ่งยืนนิ่งสงบ บนดาดฟ้าตึกสูงสายลมเย็น พัดร่างของผมแต่ไม่อาจทำให้ผมรู้สึกหนาวเหน็บได้ดวงตาสีโลหิต  เส้นผมสีไข่มุก ใบหน้าคมหล่อ ผิวที่ซีดเผือด ภายใต้แว่นกันแดดสีดำทอดมองลงไปยังเมืองแสงไฟระยิบระยับ ราวกับดวงดาวบนผืนผ้ากำมะหยี่แต่ท่ามกลางความงดงามนั้น ผมกลับสัมผัสได้ถึงความมืดที่กำลังคืบคลานเข้ามา

ผมเคียร์เนย์ แวมไพร์ที่อยู่มาพันปีเป็นราชาแห่งโลกพรีโม่ นับเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เสียงหัวเราะ เสียงพูดคุย เสียงรถรา เสียงทั้งหมดขึ้นประสานกันจนราวกับเป็นเสียงเดียว แต่สำหรับหูอันเฉียบคมของแวมไพร์อย่างผม เสียงเหล่านั้นกลับแตกต่างชัดเจนดุจดังว่าอยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือ ผมได้ยินเสียงหัวใจเต้นของผู้คนมากมาย เสียงลมหายใจแผ่วเบาแม้กระทั่งเสียงกระซิบที่แทบไม่ได้ยิน

"พวกหนูสกปรกเพิ่มจำนวนขึ้นมากเลยนี่"

รายงานที่ผมได้รับนั้นไม่เกินจริงปีศาจที่เคยหลบซ่อนตัวอยู่ในเงามืด บัดนี้กลับกล้าออกมาเพ่นพ่านในโลกมนุษย์อย่างเปิดเผย ผมถอดแว่นกันแดดออก มือเสยผมสูดกลิ่นอายของเมืองเข้าปอดกลิ่นคาวเลือดจางๆ ลอยมาตามลมทำให้ผมมั่นใจว่าพวกเขากำลังออกล่า

"อยู่ดีๆ ไม่ชอบกันใช่ไหม ข้าที่อยู่โลกมนุษย์มาตั้งนานดันต้องมาเจอเรื่องปวดหัว"

ผมที่ยิ้มมุมปากกำลังจะกระโดดแต่โดนขัดขึ้นซะก่อน

"เดี๋ยวก่อนครับ เอาเสื้อโค้ตไปด้วย กลางคืนอากาศหนาว" มาร์ชินลูกน้องของผมพูดขึ้น

"จะให้ฉันออกเท่ๆ หน่อยไม่ได้เลยหรือไง! ชอบขัดทุกเรื่อง จะขัดอยู่ไหม"

"ไม่ๆ แล้วครับ เชิญไปได้เลยครับ"

จากนั้นร่างผมก็หายวับไปในความมืด ราวกับเป็นเพียงภาพลวงตา

สำนักงานองค์กรซีไอเอภาคปฏิบัติ...

หญิงสาวนั่งหลังพิงเก้าอี้ในห้องทำงานอันแสนจะไม่สุขสบาย ฉันมินาโกะ ผู้ไม่เคยกลัวใครนอกจากพ่อแม่  เป็นคนที่ชอบทำอะไรบุ่มบ่ามจนเพื่อนเอือมระอา ดวงตากลมโต สีช็อกโกแลต ผมสีเพลงนิล (ไฟสีดำ) ใบหน้างดงามดั่งเทพี อายุ ยี่สิบสามปี มีไฝใต้ตาสองจุด

ความเคร่งเครียดทำเอากระเพาะอาหารไม่ย่อยขณะที่สายตาไล่อ่านรายงานคดีล่าสุดที่วางอยู่ตรงหน้า

"เหยื่อรายที่ห้าในรอบเดือนนี้....จะทำสถิตแข่งกันหรือยังไง ไม่ใช่โอลิมปิกนะ"

รายงานระบุว่าเหยื่อแต่ละรายเสียชีวิตด้วยสาเหตุที่ไม่สามารถอธิบายได้แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ รอยแผลสองรอยที่ปรากฏบนต้นคอของเหยื่อทุกราย ฉันขมวดคิ้วเล็กน้อยการที่ฉันเป็นนักข่าวกรองไม่ค่อยเชื่อเรื่องผีสางหรือปีศาจ แต่รอยแผลประหลาดเหล่านี้ทำให้ฉันอดคิดไม่ได้ว่าอาจจะมีสิ่งที่เหนือธรรมชาติอยู่เบื้องหลัง

"มันต้องได้อะไรมาบ้างสิ"

ฉันหยิบเสื้อโค้ตและกุญแจรถเตรียมตัวออกไปยังที่เกิดเหตุ  พอมาถึงเป็นตรอกเล็กๆ สังเกตเห็นร่องรอยการต่อสู้ รอยเลือดและรอยเท้าที่ดูเหมือนจะลากไปตามพื้น ฉันย่อเข่าลงตรวจสอบรอยเท้ากับเลือด ก็พบว่ารองเท้ามีขนาดเท่ากับมนุษย์ทั่วไปและมีรอยเล็บที่แหลมคมปรากฏอยู่บนกำแพง

"ดูท่าแรงจะเยอะไม่ใช่เล่น ทำให้เป็นรอบข่วนได้ขนาดนี้ " จู่ๆ ในหัวก็มีคำหนึ่งปรากฏขึ้นมา

"บ้าน่าจริงเหรอ?!"

เล่นทำเอาฉันขนลุกซู่ ทันใดนั้นฉันก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังมาจากด้านหลัง ฉันหันหลังกลับไปมองแต่ก็ไม่เห็นอะไรเลย

"ใครน่ะ! อย่ามาเล่นตุกติกนะ จะเป็นผีอะไรก็ช่างฉันไม่เชื่อทั้งนั้น!"

"ออกมาเดี๋ยวนี้นะ!"

ฉันถามกลับแต่ไม่มีเสียงตอบรับ มีเพียงความเงียบสงัดที่น่ากลัว ทำให้ฉันรู้สึกว่ามีใครบางคนหรือบางสิ่ง กำลังเฝ้ามองฉันอยู่ในเงามืด ฉันรีบเก็บหลักฐาน แล้วออกจากตรอกนั้นทันที 

กลับมาที่ห้องทำงาน ฉันนั่งทบทวนรูปภาพบนจอภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ฉันไม่สามารถสลัดความคิดที่ว่ามีใครบางคนกำลังเฝ้ามองฉันจากที่ไกลๆ

ฉันหยิบคีย์บอร์ดมาพิมพ์บนหน้าจอค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับตำนานและเรื่องเล่าต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับรอยแผลสองรอยบนต้นคอ ยิ่งฉันค้นคว้ามากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งรู้สึกว่าคดีนี้อาจจะไม่ใช่คดีที่ฉันจะสามารถแก้ไขได้  มันอาจจะต้องเผชิญหน้ากับบางอย่างที่ฉันไม่เคยคิดถึงมันมาก่อน...

ผมที่นั่งอยู่บนหลังคาเฝ้ามองหญิงสาวที่เอาแต่ทำหน้าเคร่งขรึม ผมนึกถึงภาพเมื่อครู่ในซอยมืด เห็นความมุ่งมั่นและความกล้าหาญในแววตาของเธอแม้ว่าเธอจะรู้สึกหวาดระแวง แต่เธอก็ไม่ยอมถอยหนี ยังพูดด้วยน้ำเสียงดังฟังชัดว่าไม่กลัวผีสาง

ขณะที่เธอออกจากตรอกนั้น สายตาเห็นป้ายชื่อของเธอหล่นลงพื้น จึงก้าวออกมาจากเงามืดและเก็บมันขึ้นมามือหันป้ายชื่อ ของเธอจึงตามมาถึงที่ทำงาน

"เป็นสายลับของข่าวกรองนี่เอง"

ผมยิ้มร้ายๆ ในขณะมองเธออยู่ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผม

"ไหนมาดูหน่อยสิ ว่าคนธรรมดาแบบพวกเธอจะรับมือกับปัญหายังไง"

ผมชักจะสนุกกับเกมนี้แล้ว รู้ว่าเธอกำลังตามล่าหาฆาตกรที่ฆ่าคนไปหลายศพแต่เธอไม่รู้ว่าฆาตกรที่เธอตามล่าอยู่นั้นไม่ใช่มนุษย์ อยากจะเห็นปฏิกิริยาของเธอเมื่อรู้ความจริงกลับกลายเป็นผมที่ตัดสินใจมองดูเธอต่อไป ทำให้ผมอยากรู้ว่าเธอจะสามารถไขคดีนี้ได้หรือไม่ถ้าเธอพบกับความจริงที่ทว่าพวกนั้นคือแวมไพร์เธอจะทำหน้าตายังไง

แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านม่านบังตาเข้ามาในห้องทำงาน ฉันยังคงหลับสนิทอยู่บนโต๊ะ เอกสารกองโตและแฟ้มคดีวางระเกะระกะ รอบตัวบ่งบอกถึงการทำงานหนักตลอดทั้งคืน

"มินาโกะตื่นได้แล้ว"

เสียงใสๆ ของซากุระผมสีเหล้าองุ่น ดวงตาสีแอปเปิลเขียว ผิวขาวผ่อง ใบหน้าอ่อนหวานใส่แว่นตา เธอคือเพื่อนสนิทของฉันเป็นพยาบาลที่นี่ กลิ่นหอมหวานของขนมอบอวลไปทั่วห้อง ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย มือขยี้ตาและบิดขี้เกียจ พลางมองไปยังซากุระที่ยืนถือกล่องขนมปังอบสดใหม่มาให้...

"ซากุระเหรอ นี่กี่โมงแล้วเนี่ย"

"เก้าโมงแล้วจ้ะ"

ซากุระตอบพลางวางกล่องขนมลงบนโต๊ะ

"เป็นหัวหน้าทำไมถึงได้ทำงานหนักกว่าลูกน้อง ฉันเห็นเธอยังไม่ตื่นเลยแวะซื้อขนมปังมาเพื่อเธอหิวจะได้กินเลย"

ฉันลุกขึ้นไปกอดซากุระ"เอาน่า เป็นหัวหน้าก็ต้องทำงานหนักถูกต้องแล้ว ขอบใจนะ ซากุระ แล้วพวกผู้ชายล่ะ"

"พวกผู้ชายเดี๋ยวก็คงจะมากันแหละ"

เท้าเดินไปหยิบขนมปังขึ้นมากิน กลิ่นหอมหวานของเนยและน้ำตาลช่วยให้ฉันรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้าง สายตาสังเกตเห็นได้ชัดจึงเดินเอามือเอื้อมเปิดกระจกลงเล็กน้อย ชายคนนั้นที่ยืนมองมาตั้งแต่ตอนไหนกัน ทำไมฉันถึงพึ่งมาสังเกตเอาตอนนี้

"ไปสืบที่เกิดเหตุมาอีกแล้วใช่ไหม ได้อะไรมาบ้างไหมมินาโกะ "

ฉันส่ายหน้า"คดีฆาตกรรมต่อเนื่องนั้นยังไม่คืบหน้าเลย ไม่ว่าจะทำงานหนักแค่ไหนมันก็ยังไม่พบอะไร"

ซากุระมาบีบแก้มทั้งสองข้างส่ายไปมา "อย่าทำให้ฉันต้องเป็นห่วงจะได้ไหมยัยบ้า"

"โอ๊ย!! เจ็บนะ รู้แล้วน่า" ฉันอมยิ้มให้เพราะรู้ว่าเธอเป็นห่วงฉันมาตลอด

ค่ำคืนอันงดงามดั่งห้วงฝัน...

ขณะที่ฉันกำลังเดินกลับบ้านหลังเลิกงานอันเหน็ดเหนื่อย ได้เดินผ่านผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูแปลกตา เธอแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีดำสนิทและมีผ้าคลุมศีรษะปิดบังใบหน้าเกือบมิดชิดเวลานั้นเอง ผู้หญิงคนนั้นก็เอ่ยขึ้นเสียงแหบพร่า

"เธอนั้นนะ มาดูดวงกับฉันหน่อยเป็นไง"

ฉันหยุดชะงักทันที หันไปตามเสียงผู้หญิงคนนั้นด้วยความสงสัย

"ฉันเหรอ?...คุณกำลังหมายถึงฉันใช่ไหม"

"จะใครอีกล่ะ ก็เธอนั่นแหละ เดินผ่านอยู่คนเดียว"

ผู้หญิงคนนั้นยิ้มและใช้มือกวักเรียกฉัน...เลยเดินไปนั่งตรงหน้าของเธอ 

"ดูฟรีปะเนี่ย ยิ่งเงินเดือนยังไม่ออกเหลือไม่กี่บาทเอง"

"ยัยหนูนี่ ฉันดูให้ฟรีไหนบอกมาสิว่าจะดูอะไร"

"เอ่อ...ความรักแล้วกัน ฉันอยากรู้ว่าจะมีเนื้อคู่ไหม"

"โอ้วใจกล้าดี เลือกไพ่มาสามใบ"

ฉันหลับตาตั้งสมาธิหยิบไพ่กลางซ้ายขวามาสามใบ แม่หมอเปิดออกมาเป็นรูปหัวกะโหลกสองตนที่คลุมผ้าอยู่กับหัวกะโหลกที่จับมีดแทงกลางอกแล้วไพ่สุดท้ายเป็นรูปผู้ชายสวมชุดสีดำใบหน้าใส่หน้ากากรูปยิ้ม

"อื้มไม่ธรรมดาเลยนะ โชคชะตาของเธอมันยุ่งเหยิงไปหมด ถ้าจะให้พูดคือ ยังไม่มีความรักที่จริงใจ เพราะชีวิตของเธอนั้น กำลังเดินมาถึงทางตัน ที่ไม่มีใครสามารถจะตัดสินใจได้นอกจากตัวเธอ "

"ฮะ!! พูดให้เข้าใจหน่อยได้ไหมแม่หมอ"

"พูดง่ายๆ สามไพ่นี้ บ่งบอกถึงความรักที่เสียสละ เลือด หัวใจที่อันบริสุทธิ์ สิ่งที่ฉันเห็นในอนาคตนั้น ดวงวิญญาณเธอแตกสลายกลายเป็นเถ้าธุลี"

"......."

"ไพ่นี้ระวังผู้ชายแปลกหน้าให้ดี ไม่งั้นเธออาจจะต้องเสียใจชั่วชีวิตของเธอเลยก็ได้ เพราะเขาจะมาในรูปแบบที่เธอคาดไม่ถึงเลย"

"นี่คือที่อยู่ของฉันถ้าเธอเจอผู้ชายคนนั้นตามที่ฉันบอกมาหาฉันได้เสมอ"

สิ้นสุดคำพูดของ แม่หมอคนนั้นก็หายไป ทิ้งให้ฉันยืนอยู่คนเดียวด้วยความงง ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ คำพูดของเธอคนนั้นยังคงอยู่ในหัวของฉัน

"ผู้ชายแปลกหน้า? ใครจะมายุ่งกับฉัน วันๆ แทบจะไม่มีเวลาให้ใครเลย  อีกอย่างฉันจะตาย?" 

ฉันส่ายหัว พยายามปัดความคิดนั้นออกไป ไม่อยากจะเชื่อเรื่องอะไรแบบนี้ แต่ฉันก็เก็บที่อยู่แม่หมอคนนั้นไว้ในกระเป๋า

"ถ้ามาจริงก็ขอหล่อๆ แบบดาราระดับโลกไปเลย ฉันจะดีใจมาก ฮ่าๆๆ เชื่อก็บ้าแล้ว!!"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สงครามรักในเงามืด   อย่าเจอกันอีกเลยนะ

    ฉันถลกแขนเสื้อขึ้นเพิ่มความทะมัดทะแมงเตรียมพร้อมกระชับมือที่กุมเอาไว้ให้แนบแน่นมากขึ้น สูดลมหายใจเข้าออกตั้งสติแวมไพร์อีกหลายตน พวกมันจ้องมองฉันด้วยสายตาหิวกระหาย"นี่น่ะเหรอ คนที่มีพลังบริสุทธิ์ เป็นผู้หญิงที่งดงามแต่น่าเสียดายคิดจะสละชีวิตตัวเองเพื่อช่วยมนุษย์"ฉันยิ้มยวน "ถ้าใช่แล้วจะทำไม พวกนายมันก็ต้องการให้ฉันตายอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง!""โง่จริงๆ เธอไม่รู้หรอกว่าพลังของเธอมีค่ามากแค่ไหน ถ้าได้พลังนั้นมา มันสามารถชุบชีวิตคนตายได้ แทบยังทำให้มีพลังเหนือกว่าคนอื่น ที่ใครไม่สามารถต้านทานได้ ก็นะ เธอก็แค่มนุษย์เลยไม่ได้รับรู้ถึงพลังนั้น!"โครนอสหันไปสั่งเหล่าแวมไพร์ "จับตัวเธอมา!"พวกเหล่าแวมไพร์กำลังจะพุ่งเข้าใส่ฉันแต่ก่อนที่พวกมันจะทันได้แตะต้องฉัน เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านหลังพวกเขา"หยุดนะ! ใครกล้าแตะต้องเธอ ฉันฆ่าทิ้งแน่!"ผมเดินแหวกกลางมาหยุดตรงหน้าของเธอ ผมหันไปจ้องมองโครนอสด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว ก่อนจะหันกลับมาหามินาโกะฉันที่มองใบหน้าของเคียร์ ด้วยแววตาที่ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว"นายก็หลอกฉัน หลอกให้รัก หลอกให้เชื่อใจ หลอกว่านายจะจริงใจ แต่สุดท้ายนายก็ไม่ได้รักฉัน! สิ่งที่นายรักก็ค

  • สงครามรักในเงามืด   เริ่มสงครามกันเถอะ...

    เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวไปทั้งเมือง ตำรวจเอฟบีไอที่มาถึงที่เกิดเหตุต่างตกเป็นเป้าหมายของเหล่าแวมไพร์กระสุนปืนแลกเปลี่ยนกันอย่างดุเดือดฉันหลบอยู่หลังรถตำรวจเปลี่ยนชุดที่ถนัดในการต่อสู้ พอเปลี่ยนเสร็จฉันยิงสกัดแวมไพร์เดินถือปืนยิงแวมไพร์ที่เข้ามาใกล้ พวกมันมีจำนวนมากเกินไปการใช้ปืนคงจะเป็นไปได้ยาก สายตาหันไปทางพี่เรียวจิ กำลังฉีดยาที่อิซามูทำขึ้นมาเป็นควันสลบที่รุนแรง รีบสวมหน้ากากกันแก๊สทันใดนั้น ฉันเห็นซากุระ ล้มลงเธอกำลังจะถูกแวมไพร์ทำร้ายฉันไม่รอช้า รีบวิ่งออกไปขวางหน้า ย่อลงแล้วเล็งปืนแล้วเหนี่ยวไกทันทีกระสุนพุ่งเข้าเจาะทะลุกลางหัวใจของแวมไพร์ มันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะล้มลงไปนอนกองกับพื้น"ซากุระ! ไม่เป็นไรนะ"ซากุระพยักหน้า "ฉันไม่เป็นไร ขอบใจนะมินาโกะ"สายตามองซากุระตัวสั่นเหมือนลูกนก สีหน้าของเธอซีดเผือดราวกับคนตาย"ยูกิ! พาซากุระกับอิซามูไปห้องใต้ดินของเอฟบีไอซะ นี่กุญแจแล้วฉันจะตามไปที่หลัง"ยูกิพยักหน้า เขาคว้ามือซากุระแล้วพาเธอนั่งรถขับออกไปทันที ฉันหันกลับไปเผชิญหน้ากับฝูงแวมไพร์ ต้องถ่วงเวลาให้เพื่อนๆ หนีไปให้ได้ฉันยกปืนขึ้นมาเล็งไปที่แวมไพร์ที่อยู่ใกล้ที่สุด ฉั

  • สงครามรักในเงามืด    พระจันทร์สีเลือด

    ฉันที่มองเคียร์คล้ายกับว่าสีหน้าท่าทางเหมือนกำลังโกรธรังสีอำมหิตแผ่ออกมาจากร่างเขาฉุนเฉียวไม่เป็นตัวของตัวเอง"ลุง...อย่าบอกนะว่า กำลังหึงฉันที่ไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่นใช่ไหม"ผมชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำเป็นไม่ใส่ใจ"ไม่ใช่ ฉันไม่ได้หึง"แต่แววตาของเขาเลิ่กลั่กขาและแขนแกว่งไปทางเดียวกันอย่างไม่เป็น ธรรมชาติ เวลาเขาไม่พูดความจริงเขาชอบทำท่าทางแบบนี้ตลอด ฉันเลยเอื้อมมือไปจับมือของเขามาทาบบนอกของฉัน"ทำอะไรของเธอเนี่ย ยัยบื้อ ไม่อายคนเหรอ""ลุงตรงนี้หัวใจของฉัน มันอยู่ตรงนี้ ได้ยินใช่มั้ย หัวใจดวงนี้ฉันมอบให้ลุงทั้งหมดที่มี"จู่ๆ ใบหูของผมก็ร้อนขึ้นมา ควันร้อนแทบจะพวยพุ่งขึ้นบนศีรษะ ใบหน้าด้านข้างผมเปลี่ยนเป็นสีเข้ม"ยัยบื้อ ฉัน...ไม่...ช่างเถอะ"เคียร์วาร์ปหายหัวตัวไปต่อหน้าต่อตาฉัน ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ ทำให้อมยิ้มเล็กน้อยถึงในคำพูดของฉันจะบอกใบ้ให้กับเขาแต่เขาก็คงไม่สงสัยอะไรฉันเงยหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้า..."เหลือเวลาไม่มากแล้วสินะ"องค์กรซีไอเอ...ทันทีประตูบริษัทเปิดออกฉันเดินเข้ามาจะไปห้องทำงานคาโอรุก็รีบเดินเข้ามาหาฉันสีหน้าไม่สบายใจ"มินาโกะ เธออย่าเพิ่งเข้า

  • สงครามรักในเงามืด   แฟนเก่าเธอ?

    เช้าวันรุ่งขึ้นของวันที่สี่...ฉันขยี้ตาไปมาเพื่อไล่ความง่วงงุนออกไปจากร่างกาย ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นยืนและเดินไปยังกระจกบานใหญ่ริมห้อง ฉันมองเงาสะท้อนของตนเองในกระจกใบหน้าที่ยังคงมีคราบง่วงอยู่จางๆ ดวงตาที่ปรืออยู่เล็กน้อย แล้วคำพูดของเคียร์ยังคงอยู่ในหัวฉัน"รักฉัน ให้ตายเถอะ อยากจะดีใจแต่ก็ดีใจไม่สุด อยากจะบ้าจริงๆ"ฉันก้าวออกจากประตูคอนโดฉันสวมเสื้อโค้ตสีดำส่วนข้างในใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวกระโปรงสีดำ รองเท้าส้นสูงสีครีม ผมยาวสลวยปล่อยตรงและใส่สร้อยคอที่เคียร์ให้มาฉันอมยิ้มสายตาฉันสะดุดกับร่างสูงโปร่งของชายคนหนึ่งผมสีทอง ดวงตาสีม่วง สวมสูทสีเทาเข้มดูภูมิฐานมือของเขาถือช่อดอกไม้สีแดงสดขนาดใหญ่"เรเวน? "ฉันอุทานออกมาและนิ่งอึ้งไปหลายวินาทีเรเวน ยิ้มกว้างเมื่อเห็นฉัน "มินาโกะไม่ได้เจอกันนานเลยนะ"ฉันรีบเดินเข้าไปหาเขา ในมือของเขายื่นดอกไม้มาให้ฉัน มือจึงรับช่อดอกไม้จากมือเขาด้วยรอยยิ้มบ้างๆ"ซื้อดอกไม้มาทำไมเนี่ย เปลืองเงิน""ไม่เปลืองเงินเลย ผมแค่อยากจะมาเซอร์ไพรส์คุณ และจำได้ว่าคุณชอบดอกกุหลาบสีแดง"ฉันยิ้มเต็มใบหน้า "มีอะไรหรือเปล่าถึงมาหากันถึงที่นี่เลย"เรเวน ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขามองต

  • สงครามรักในเงามืด   ของขวัญสำหรับเธอ

    สำนักงานใหญ่เอฟบีไอ....ผมกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของผมสายตาจดจ่ออยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งกำลังแสดงภาพถ่ายของมินาโกะและเคียร์ที่กำลังเดินออกจากสำนักงานด้วยกันวันนี้ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ผมจะทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ทุกครั้งที่เธอทำเกินหน้าเกินตา ผมกลับต้องเป็นคนแบกรับผลกระทบทั้งหมดจากพวกที่ชอบโอ้อวดไม่ยุติธรรมเลยสักนิด ความโกรธเริ่มสะสมในใจของผมเหมือนน้ำในแก้วที่ใกล้จะล้นออกมาผมขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ ไม่คิดว่าน้องสาวของผมจะกล้าคบหากับประธานเคียร์ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วส่งภาพถ่ายนั้นไปให้แม่ดู พร้อมกับข้อความว่า"แม่ครับมินาโกะกำลังคบกับประธานเคียร์อยู่ครับ"ไม่นานนัก แม่ก็โทรกลับมา"เรียวจินี่มันเรื่องจริงเหรอ?"เสียงของแม่พูดขึ้นจากปลายสายด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก"ครับแม่ ภาพนักข่าวก็เอาไปลงโซเซียลตอนนี้คงจะเป็นข่าวใหญ่แล้วล่ะครับ""ไม่ได้น่ะ มินาโกะจะไปคบกับประธานไม่ได้ทำไมไม่รู้จักเจียมตัวต้องคบคนฐานะที่ต่ำกว่าตัวเองสิ""แต่ทั้งสองก็เหมาะสมกันนะครับแม่""ไม่! นางจะต้องไม่ได้ดีไปกว่าลูกเข้าใจนะ แม่จะรีบกลับไป"ผมวางสายจากแม่แล้วนั่งพิงเก้าอี้ ยิ้มแบะปากผมรู้ว่าแม่ไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้

  • สงครามรักในเงามืด   รักเขาไปแล้ว

    ฉันรีบดึงมือเคียร์ให้เดินตามฉันเข้าไปในห้องทำงานทันทีพอหลุดจากสายตาของเพื่อนๆ ฉันปิดประตูห้องแล้วเดินไปหยิบรีโมทปิดหน้าต่างให้เป็นสีดำสนิทจากนั้นหันกลับมาหาเขาด้วยสีหน้าหงุดหงิดเล็กน้อย"ทำไมลุงถึงพูดออกไปอย่างนั้น เราไม่ได้เป็นแฟนกันทั้งที่มันไม่ใช่"ผมที่ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงต้องโมโหขนาดนี้ด้วย"ทำไมล่ะ เธอคือแฟนฉันนะ ยัยบื้อ เธอกับฉันก็ได้กันตั้งสองครั้ง จะให้เป็นคนแปลกหน้าหรือไง"กลายเป็นว่าเขาพูดออกมาทำให้ฉันถึงกับพูดไม่ออก มือกำแน่นจิกเข้าเนื้อตัวเอง ฉันรู้สึก ลำบากใจกับคำถาม เม้มปากเข้าหากันแน่น เขาก้าวเข้ามาใกล้ฉันเพียงก้าวเดียว ฉันที่ถอยจนติดโต๊ะทำงาน สายตาของเขาจ้องมาที่ฉัน เลยเบี่ยงเบนสายตาไปทางอื่น"ฉันรู้ว่ามันอาจจะทำให้เธอตั้งตัวไม่ทัน แต่ฉันไม่อาจจะปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว"เขายิ้มบางๆ ฉันที่อ้าปากแล้วก็หุบลงไปอีกครั้งเขายกมือขึ้นเชยคางฉันขึ้นมาบังคับให้ฉันมองหน้าเขา"มองตาฉันสิ แล้วบอกฉันว่าเธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉัน"เป็นสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกในขณะที่เคียร์กำลังจมอยู่ในห้วงอารมณ์ประตูห้องทำงานก็เปิดออกอย่างกะทันหัน อิซามูก้าวเข้ามาพร้อมกับแฟ้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status