ขึ้นสี่ค่ำเดือนเสี้ยวทอแสงริบหรี่รำไร ดวงดาวส่องประกายเจิดจรัสเป็นเจ้าฟ้า บรรยากาศปลอดโปร่งเย็นสบายกำลังดี ถ้าอยู่ที่เรือนไม้ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ปิ่นแก้วคงนอนหลับไปนานแล้วเพราะหล่อนเป็นคนหลับง่าย
ทว่าความรู้สึกแปลกถิ่นส่งผลให้หญิงสาวบังเกิดความคิดฟุ้งซ่าน ในหัวของหล่อนเต็มไปด้วยเรื่องราวของผู้ชายสองคนหรือสามคน ทั้งสามมีหลายสิ่งหลายอย่างคล้ายคลึงกัน รูปร่าง สีผิว เค้าโครงใบหน้า ทรงผมยาวเคลียไหล่ และกิริยาท่าทางการเคลื่อนไหว หากไม่ได้เจอกับผู้ชายเมื่อตอนกลางวันเสียก่อน ปิ่นแก้วอาจจะเพ้อฝันว่าแทนไทคือคุณโจร ซึ่งมันไม่สามารถเป็นไปได้
“ถ้าคืนนี้เป็นวันพระ คงดี”
หล่อนทอดถอนใจ พลางมองฝ่าความมืดออกไปนอกหน้าต่าง แว่วเสียงลมพัดใบไม้ดังมาเป็นระลอก ฟังคล้ายกับเสียงดนตรีขับกล่อม...
เมื่อหญิงสาวเคลิบเคลิ้มเข้าสู่ห้วงนิทรา เงาดำทะมึนก็ค่อย ๆ ปรากฏเป็นรูปร่าง ที่นี่คืออาณาจักรของนายแทนไท ชยางกุล และเขามีพลังอำนาจแข็งแกร่งมากพอที่จะสัมผัสร่างกายของหล่อนโดยไม่จำเป็นต้องใช้วิธีแทรกซ้อนมิติฝันหรือรอคอยให้ถึงวันพระ !
แทนไทได้ยินถ้อยคำที่ปิ่นแก้วรำพึงรำพันอย่างชัดเจน การได้รับรู้ว่าหล่อนคะนึงหา มันน่าปลาบปลื้มยินดีและน่าเศร้าสลดใจระคนกัน ช่างเป็นเรื่องตลกระยำที่เขาหึงหวงตัวเอง แต่จะกล่าวโทษใครได้เล่า เพราะผลพวงทั้งหมดทั้งมวล ล้วนเกิดจากการกระทำของเขาแทบทั้งสิ้น
ชายหนุ่มเปิดม่านมุ้งที่ปกคลุมก้าวขึ้นไปบนเตียงสี่เสาอย่างเงียบเชียบ ภาพการหลับใหลของหญิงสาวงดงามเกินบรรยาย
ปิ่นแก้วสวมชุดกระโปรงผ้าไหมแบบเปิดไหล่เผยให้เห็นผิวพรรณขาวเนียนละเอียดอ่อนและสัดส่วนโค้งเว้าอรชรน่าสัมผัส สองเต้าอวบอัดที่เบียดติดกันเป็นก้อนดูยั่วยวนเหลือใจ ทำเอาแทนไทรู้สึกร้อนรุ่มไม่เป็นสุข ถ้าหากว่ามีหางเขาคงโก่งคอส่งเสียงหอนออกมาแล้ว
ผู้หญิงอะไร ช่างน่าชำเราเสียจริง ! เขาสบถในใจ
“ผู้ชายขี้ขลาด... มัวรออะไรอยู่”
เสียงละเมองึมงำของปิ่นแก้ว ทำให้แทนไทหูผึ่ง มุมปากกระตุก
“จับทำเมียคืนนี้ซะเลยดีไหม” เขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
หญิงสาวพลิกตัวนอนหงาย ท่วงท่ากิริยาดูยั่วยวนกึ่งท้าทาย พลันถอนใจแล้วเอ่ยถ้อยทีประชดประชันออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ ทั้งที่เปลือกตายังปิดสนิท
“คุณมันกล้าแต่ปาก เก่งแต่ปาก”
ได้ยินประโยคนี้ ชายหนุ่มถึงกับสะอึก นี่ขนาดละเมอ หล่อนยังต่อปากต่อคำกับเขาฉอด ๆ เห็นทีจะต้องกำราบให้รู้ฤทธิ์เดชกันเสียบ้างว่า เขาไม่ได้เก่งกล้าแค่ปากอย่างที่หล่อนกล่าวหา แล้วเขาก็มีดีและเด็ดมากกว่าที่หล่อนคิด เขาจะทำให้หล่อนกรีดร้อง ดิ้นพล่านเลยทีเดียว !
แทนไทขึ้นคร่อมทับหญิงสาว ดวงตาสีน้ำตาลจ้องมองใบหน้าสวยหวานอย่างอันตราย แล้วใช้อำนาจจิตครอบงำหล่อนไว้ในห้วงความฝัน
“ผู้หญิงปากร้าย สมควรโดนลงโทษ” เขาก้มลงจูบหล่อนด้วยความรู้สึกโหยหาลึกซึ้ง ลมหายใจร้อนผ่าวที่พ่นออกมา ปลุกเร้าให้เกิดอารมณ์วาบหวิว
แม้ว่าปิ่นแก้วยังคงหลับใหลแต่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับหล่อนล้วนเป็นความจริง หล่อนรับรู้ถึงการมาของชายหนุ่ม เพียงแต่ไม่สามารถลืมตามองเขาให้ชัดเจนเช่นที่ปรารถนา
คืนนี้คุณโจรปล้นสวาทช่างทำอะไรเอาแต่ใจเหลือเกิน เขาถอดเสื้อผ้าออกจากตัวหล่อนอย่างไม่รีรอ ร่างสูงใหญ่เบียดติดกับร่างอรชรโดยไม่มีอาภรณ์ขวางกั้น ผิวกายเปลือยเปล่าของทั้งสองเสียดสีกันไปมา คลื่นความรู้สึกเร่าร้อนซ่านซ่าแทรกซึมไปทั่วทุกอณูรูขุมขน
หล่อนเปล่งเสียงครางประท้วงในลำคอ เขาจึงยอมถอนจูบและซุกหน้าฟ้อนเฟ้นทรวงอกอวบอัด ฝ่ามือหยาบใหญ่ที่ลูบไล้สัดส่วนโค้งเว้าอ่อนหวาน เลื่อนขึ้นมาบีบขยำก้อนเนื้อขาวสะล้างนุ่มหยุ่น พลางตวัดลิ้นวนรอบปลายถันสีแดงเรื่อ แล้วดูดเลียอย่างลามก
“อย่า... ฉันกำลัง... จะแต่งงาน”
หล่อนร้องประท้วงด้วยสุ้มเสียงกระเส่า เนื้อตัวเปลือยเปล่าสั่นเทาอย่างห้ามไม่อยู่ เมื่อรับรู้ว่าชายหนุ่มขยับเข้าประชิดหว่างขา เขาใช้สัดส่วนใหญ่โตชูชันถูไถบดเบียดกับเนินหนั่นโหนกนูน พลางกระซิบกระซาบถามหล่อน
“ร่างกายของคุณหนูปิ่นแก้ว แปดเปื้อนกลิ่นของกระผมหมดแล้ว คุณหนูคิดว่าจะสามารถไปแต่งงานกับผู้ชายอื่นได้อีกหรือ สองเต้ากลม ๆ คู่นี้กระผมก็ดูดเลียแล้ว และตรงนี้ด้วย...”
แล้วหล่อนมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร...“คุณพระ ดิฉันสงสารลูกเหลือเกิน แทนไทต้องเจ็บปวดไปอีกนานสักแค่ไหน” คุณหญิงกรองทองร้องไห้คร่ำครวญในอ้อมกอดของคุณพระปรีชา“จนกว่าเนื้อคู่ตุนาหงันของเขาจะพ้นครรภ์ผู้ให้กำเนิด แทนไทจำเป็นต้องแลกเลือดเนื้อสร้างชีวิตบริสุทธิ์ เช่นเดียวกับผมและผู้ชายทุกคนในตระกูลชยางกุล”ทั้งสองเฝ้ามองร่างของลูกชายซึ่งนอนดิ้นพล่านอยู่บนเตียงอย่างเวทนา ภาพของแทนไทค่อย ๆ เลือนรางจางหายเหมือนเงาสะท้อนบนผิวน้ำ จนกระทั่งเหลือเพียงก้อนอากาศในห่อผ้า คุณหญิงกรองทองร้องโฮ เพราะมองไม่เห็นลูกชาย“แทนไทอายุครบยี่สิบห้าปีเป็นหนุ่มใหญ่แล้วแท้ ๆ ดิฉันอุตส่าห์โล่งใจนึกว่าเขาจะไม่ได้รับการถ่ายทอดกรรมพันธุ์นี้มาจากคุณพระ”“คุณหญิงเลิกร้องห่มร้องไห้ฟูมฟายเถิด แทนไทไม่ใช่จะตายเป็นผี เขาเพียงแค่เสียสละกายเนื้อเพื่อพิสูจน์ความเป็นลูกผู้ชายเท่านั้นเอง พอถึงเวลาฟื้นคืนชีพ เขาก็มีร่างกายที่หนุ่มแน่นแข็งแรงเหมือนในวัยเบญจเพส”คุณพระปรีชาสรรหาเหตุผลมาปลอบโยนภรรยา แต่ลูกชายตัวดีกลับสอดขึ้นว่า“ถ้าต้
แทนไทถึงกับตะลึงในผลงานอันยอดเยี่ยมของตนเอง เขาประกบริมฝีปากดูดเลียรสชาติหอมหวานของสาวพรหมจรรย์อย่างเอร็จลิ้น ปิ่นแก้วเนื้อตัวสั่นเทาราวกับเป็นไข้หนาวเพราะถูกเขารีดเค้นน้ำในกายแบบต่อเนื่อง การดื่มกินหยาดหยดหล่อเลี้ยงชีวิตบริสุทธิ์ที่หลั่งรินออกมาจากร่างของหญิงซึ่งเป็นเนื้อคู่สวรรค์สร้าง ส่งผลให้แทนไทมีความเป็นมนุษย์มากยิ่งขึ้น“อื้อ... พี่แทนไท... ปิ่นใจจะขาดแล้ว” หล่อนครวญครางเว้าวอนเขาเหยียดหลังขึ้นพิศดูใบหน้าสวยหวานที่แดงระเรื่อ ดวงตาสีอำพันดุจสัตว์หากินกลางคืนสามารถมองเห็นได้อย่างแจ่มชัดท่ามกลางความมืดร่างกายเปลือยเปล่าของปิ่นแก้วช่างงดงามเย้ายวนราวกับถูกสร้างมาจากมนต์ดำฤษณา ในหัวสมองแทนไทอัดแน่นไปด้วยความคิดหมกมุ่น เขาทำให้หล่อนมีความสุขมากมายขนาดนี้ อย่างน้อยหล่อนก็ควรจะทำตามความปรารถนาของเขาบ้าง!เมื่อบังเกิดอารมณ์ฮึกเหิมบ้าบิ่น แทนไทก็อดใจไม่ไหวอีกต่อไป ร่างสูงใหญ่ผละออกจากระหว่างขาเรียวงาม ขยับขึ้นไปนั่งคร่อมเหนือใบหน้าขาวสวย ฝ่ามือหนาบีบกรามของหญิงสาวบังคับให้หล่อนอ้าปาก ก่อนจะส่งลำลึงค์แข็งร้อนเข้าไปในโพรงแก้มอุ่นชื้น
คราวนี้ปิ่นแก้วได้รับบทเรียนราคาแสนแพงเพิ่มอีกหนึ่งบทเรียน การพูดความจริงไม่ให้ผลดีเสมอไป แทนไทกดหล่อนนอนหงาย จากนั้นก็ลงมือปลดเปลื้องชุดกระโปรงออกจากร่างอรชรโดยไม่รีรอให้หล่อนมีโอกาสบ่ายเบี่ยง หญิงสาวหายใจหอบกระชั้น เนื้อตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวชายหนุ่มจับจิต แต่ก็ไม่กล้าต่อต้านขัดขืนร่างสูงใหญ่ผุดลุกขึ้นยืนเมื่อจัดท่วงท่าให้หล่อนนอนแยกขาชันเข่าสำเร็จ เขาเพ่งพิศเรือนร่างงดงามไร้ที่ติอย่างพึงพอใจ นัยน์ตาคมกริบฉายแววเร่าร้อนในความมืดการถูกจ้องมองโดยที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ ทำให้ปิ่นแก้วรู้สึกตื่นตระหนกและหวาดหวั่นยิ่งกว่าเดิม หัวใจดวงน้อยเต้นระทึกรุนแรง สองเต้าอวบอัดกลมกลึงสะท้อนสะเทือนขึ้นลงราวกับถูกจับเขย่า ผิวพรรณขาวนวลละเอียดอ่อนร้อนวูบวาบเหมือนมีเปลวไฟลามเลีย“พี่แทนไท ตรวจดูเสร็จหรือยังคะ”“พี่ยังไม่ได้เริ่มด้วยซ้ำ ในห้องมืดแบบนี้ ใช้ตามองแค่อย่างเดียวคงพิสูจน์อะไรไม่ได้หรอก”ปิ่นแก้วหุบขาเข้าหากันทันทีที่รู้ว่าชายหนุ่มต้องการตรวจดูความบริสุทธิ์ของหล่อนโดยวิธีการอื่นอีก แทนไทแกะกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด พลาง
ปิ่นแก้วเพิ่งจะสำเหนียกความจริงในวันนี้เอง ว่าบุคคลที่สามารถทำให้หล่อนรู้สึกเกรงกลัวมากที่สุดคือใคร เพียงแค่ได้รู้ว่าแทนไทกำลังรอให้หล่อนไปพบ เพื่อพูดคุยปรับความเข้าใจกันเท่านั้น มือเท้าของหล่อนก็เย็นเฉียบราวกับถูกนาบด้วยแผ่นน้ำแข็งภาพพจน์ของแทนไทในความทรงจำของปิ่นแก้ว เขาคือสุภาพบุรุษที่แสนดี อบอุ่นอ่อนโยน มีจิตใจโอบอ้อมอารี ไม่เป็นพิษภัยอันตรายกับใครทั้งสิ้น และหล่อนก็คิดเช่นนั้นเสมอมาจนกระทั่งเวลานี้ สิ่งที่ทำให้หล่อนรู้สึกยำเกรง คือคุณงามความดีของเขาต่างหากเมื่อเดินมาถึงหน้าห้องทำงานของชายหนุ่ม ประตูไม้สักก็เปิดได้เองเช่นเคย ปิ่นแก้วสูดอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนจะก้าวขาเข้าไปข้างในอย่างประหม่าแล้วประตูก็ปิดล็อคลงทันที!“พี่ พี่แทนไท...”“น้องปิ่นยังจำชื่อพี่ได้ด้วยหรือ”น้ำเสียงเคร่งขรึมเย็นชาที่ดังขึ้นทางด้านหลัง ทำให้หญิงสาวหัวใจสั่นขวัญผวา สองเท้าก้าวไปข้างหน้าด้วยสัญชาตญาณระวังภัย หล่อนยืนหันรีหันขวางพยายามมองหาเขา“พี่แทนไททำแบบนี้ ปิ่นตกใจหมดเลย”“ตกใ
“กระผมจะไม่มีวันลืมค่ำคืนสุดท้ายของเราทั้งสอง”แม้ว่าดวงตาของหล่อนจะมองเห็นเพียงความมืดมน แต่กลิ่นรสและสัมผัสที่หล่อนซึมซับมาจากเขากลับยิ่งแหลมคมปิ่นแก้วแลกจูบกับคุณโจรปล้นสวาทของหล่อนด้วยความเต็มใจ และตอบสนองการเคลื่อนไหวร้อนแรงอย่างเร่าร่าน ชายหนุ่มใช้หมอนหนุนสะโพกผายให้ลอยอยู่เหนือพื้น พลางสอดท่อนเอ็นแข็งร้อนเข้ามาตรงช่องขาหนีบและกระซิบบอกหล่อนให้หุบรัดเขาไว้แน่น ๆเขาเท้าศอกพยุงร่าง ก่อนจะเริ่มโยกแก่นกายบดเบียดเสียดสีกับกลีบแคมอวบอูม หัวหน่าวของเขากระทบกับหัวหน่าวของหล่อน เนื้อหนังเปียกเปลือยถูไถกันอย่างเร่าร้อนถึงอกถึงใจ“อ๊า... คุณโจร... ระ... แรงขึ้นอีกนิด...”“แรงกว่านี้หรือ” สุ้มเสียงเขาหยอกเย้า“ฉันใกล้แล้ว... ทำแรง ๆ เร็ว ๆ” หล่อนแอ่นรับความแข็งเร่า ๆแทนไทรีบถอนตัวออก ไม่ยอมให้หล่อนเสร็จสมล่วงหน้าไปก่อน เขาจับร่างอรชรหนีบขาคู้เข่า พลันเสือกกายเข้าไปในช่องขาหนีบ แล้วก็หวดห่มบั้นท้ายเข้าหาหล่อนด้วยอารมณ์หื่นกระหายรุนแรง ปลายลึงค์บานโร่แทงเสยลงตรงยอดติ่งคัดเต่งของหญิงสาวอย่างแม
“ร่างกายของคุณหนูปิ่นแก้ว แปดเปื้อนกลิ่นของกระผมหมดแล้ว คุณหนูคิดว่าจะสามารถไปแต่งงานกับผู้ชายอื่นได้อีกหรือ สองเต้ากลม ๆ คู่นี้กระผมก็ดูดเลียแล้ว และตรงนี้ด้วย...”เขาขบเม้มติ่งหูของหล่อน ลมหายใจระอุเป่ารดลงบนผิวพรรณบอบบางอ่อนไหว พลางแทรกนิ้วเขี่ยคลึงศูนย์รวมความรู้สึกกลางกลีบอวบอูม“ทำไมคุณหนูปิ่นแก้ว ไม่ตอบกระผม”“คุณโจรกระทำฉันอยู่ฝ่ายเดียว”หล่อนพยายามฝืนร่างกายไม่ให้แอ่นเชิงกรานตอบสนองการปลุกเร้าแสนเร่าร้อน แต่ชีพจรตรงจุดซ่อนเร้นกลับเต้นตุบตุบอย่างควบคุมไม่ได้“คุณหนูจะปฏิเสธว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับกระผมเลยอย่างนั้นหรือ”“ฉันไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น”“จริงหรือ? แล้วทำไม ...ของคุณหนูฉ่ำแฉะขนาดนี้” คราวนี้ชายหนุ่มเหิมเกริมถึงขั้น ใช้องชาตล้อเล่นกับความรู้สึกของหล่อน เขาประคองปลายลึงค์ถูไถผ่ากลางร่องกลีบอวบอูม ขยับให้ความแข็งขึงบดขยี้ความอ่อนนุ่ม แล้วก็จ่อส่วนหัวบวมบานคาค้ำไว้ที่แอ่งเว้า“หยุดเถิด ได้โปรด...”ปิ่นแก้วแทบจะลืมหายใจ ร่า