ยามเช้าใกล้สาย คาริสาบิดขี้เกียจด้วยความเหนื่อยและความง่วงเล็กน้อย เมื่อขยับตัวเธอกลับรู้สึกว่าแขนทั้งข้างเธอถูกมัดขึงไว้กับขอบเตียง และรู้สึกว่าช่วงล่างมันคับแน่นไปหมด เธอค่อย ๆ ลืมตาอย่างช้า ๆ
ปึก! ปึก! ปึก!
“เป็นไง เธอชอบไหม” คาริสาถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงของแดเนียล
ปึก! ปึก! ปึก!
แดเนียลที่คร่อมอยู่บนตัวของเธอพลางทำหน้าฟิน เมื่อคาริสามองเห็นอย่างนั้นเธอส่งเสียงกรี๊ดออกมาดังลั่น
“แดน! นี่นายลักหลับฉันเหรอ” คาริสาพูดพลางสีหน้าหงุดหงิด
“เมื่อวานเรายังไปได้ทำกิจกรรมก่อนนอนเลยนะ เธอดันเล่นเป็นลมไปก่อนนี่ยังมาตื่นสายอีก ฉันทนรอไม่ไหวแล้วขอหน่อยแล้วกันนะ”
เมื่อวานจำได้ว่าจูบอยู่กับแดเนียลแล้วก็ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย
“ไม่ขัดขืนแบบนี้แปลว่าชอบใช่ไหม”
“ทุเรศ! นายมันลามกบ้ากามวิปริตผิดมนุษย์ นายทำได้ยังไง”
“ฉันก็ทำไม่ได้ขนาดนั้นหรอก แต่ฉันทำได้มากกว่านั้น”
“นายจะทำอะไร” แดเนียลหยิบแส้ออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ เขาทำท่าฟาดแส้ใส่คาริสา แต่มีหรือที่หญิงสาวจะยอมเธอได้แต่ส่งเสียงกรี๊ดออกมาดัง ๆ
กรี๊ดดดดด!
คาริสากรีดร้องจนสะดุ้งตื่น เธอหอบหายใจด้วยความเหนื่อยล้า ก่อนจะก้าวขาลงจากเตียงเพื่อไปจัดการธุระส่วนตัวแล้วออกมาเดินเล่นข้างนอก
คาริสามองแดเนียลโยนก้อนหินลงน้ำทะเลอยู่ห่าง ๆ เธอต้องคิดหนักทุกครั้งที่เห็นหน้าของแดเนียล ความรู้สึกลำบากใจที่มองหาทางออกไม่เจอ
“ถ้าแดนรู้ความจริงว่าฉันเป็นใคร ถึงตอนนั้นเรื่องระหว่างเราสองคนจะเป็นยังไง” คาริสาบ่นออกมาอย่างใจลอย อยู่ ๆ เขาก็โผล่หน้ามาหลังจากที่หายไปหลายปี เธอตั้งตัวไม่ทันจริง ๆ เมื่อรู้ว่าแดเนียลคือคนที่เธอตามสืบหาตัวมาตลอดค่อนปี
เธอจะทำอย่างไรให้เขาเปลี่ยนใจ
คาริสายังคิดไม่ตก สายตาก็เหลือบไปเห็นคนร้ายร่างกายบึกบึนสองคนกำลังจะเล็งปืนไปที่แดเนียล
“แดน ระวัง!”
ปัง!!!
เมื่อได้ยินคาริสาตะโกนเตือนมาจากไกล ๆ แดเนียลจึงไหวตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งลูกกระสุนก็เฉียดศีรษะเขาไปนิดเดียว
มาเฟยหนุ่มรีบวิ่งตรงไปหาคาริสาโดยเร็ว เนื่องจากเห็นว่าคนร้ายอีกสามคนวิ่งมาจับตัวเธอไว้ คนไม่ได้ตั้งตัวทั้งตกใจและสับสน ใจอยากจะจัดการพวกนั้นให้หนีเตลิดเปิดเปิง แต่อีกใจก็เธอกลัวเหลือเกินว่ามันเป็นเพียงแผนการของแดเนียล คาริสาจึงทำได้แค่ร้องขอชีวิตและร้องตะโกนให้อดีตคนรักมาช่วย
“ปล่อยฉันนะอย่าทำอะไรฉันเลย ฮือ ๆ แดนช่วยฉันด้วย” คนร้ายจับคาริสาไว้แน่นพร้อมเอาผ้าอาบยาสลบอุดจมูกจนเกือบขาดอากาศหายใจ เพียงไม่นานเธอก็หมดสติไป
“ปล่อยเธอ!” คนบงการออกคำสั่งเสียงนิ่งเรียบ คนร้ายพวกนั้นเป็นคนของเขา ที่ทำไปก็เพราะต้องการทดสอบอะไรบางอย่าง ก่อนจะเดินมาคว้าตัวเธอไว้ในอ้อมกอด “หมดหน้าที่ของพวกมึงแล้ว กลับไปได้แล้ว”
ทุกคนก้มหน้ารับคำก่อนจะเดินออกไปอย่างรู้งาน แดเนียลอุ้มร่างเล็กเข้าไปภายในบ้าน แต่หารู้ไม่ว่าคาริสาไม่ได้หมดสติไปจริง ๆ ในขณะที่คนร้ายเอาผ้าอาบยาสลบอุดจมูกเธอ เธอกลั้นหายใจไว้แล้วแกล้งทำเป็นสลบไป
“ฉันไว้ใจเธอได้แล้วใช่ไหม เราไม่ได้เป็นศัตรูกันใช่ไหมเคส” แดเนียลทวงถามขณะที่มือของเขาลูบศีรษะอดีตคนรักอย่างอ่อนโยน
อยู่ ๆ มาเฟียหนุ่มก็นึกโทษตัวเองที่ทำอะไรแบบนั้นลงไป มันไม่เข้าท่าเอาเสียเลย เมื่อจิตใจไม่สงบนิ่งเขาจึงลุกขึ้นแล้วเดินออกไปปรับอารมณ์นอกห้อง
คาริสาค่อย ๆ ลืมตาขึ้น น้ำสีใสไหลนองแก้มสวยทั้งสอง เมื่อรู้ว่าแดเนียลไม่ไว้ใจเธอ
เธอไม่อยากหลอกลวงเขาแบบนี้เลย มันเจ็บปวดใจทุกครั้งที่ต้องโกหกเขา
หลังจากที่แดเนียลพาคาริสาไปพักผ่อนที่เกาะส่วนตัวด้วยกันตามลำพัง แดเนียลอ้างเอาความไม่ปลอดภัยที่เกิดขึ้นเพื่อพาคาริสากลับไปยังบ้านพักส่วนตัว ระหว่างทางเดินเรือเขาไม่ปล่อยให้เธออยู่ห่างกายแม้แต่วินาทีเดียว
“เธอโอเคหรือเปล่าเคส” แดเนียลเป็นฝ่ายชวนคาริสาคุยก่อน ทั้งคู่มองหน้ากันเหมือนมีความในใจจะบอกกันและกัน ก่อนที่น้ำตาของคาริสาจะค่อย ๆ ไหลออกมานองหน้า
“เธอร้องไห้ เธอร้องไห้ทำไม” แดเนียลถามด้วยความร้อนใจพลางรีบเอื้อมมือไปซับน้ำตาให้กับเธอ
“ฉันขอโทษ ฉันขอโทษนะแดน” คาริสาพูดเสียงสะอื้น
“เธอขอโทษฉันเรื่องอะไร”
“คือฉันไม่ได้อยากร้องแต่น้ำตามันไหลเอง” คาริสาพูดแล้วพลางนึกถึงอดีต อดีตที่ทำให้เธอและเขาต้องจากกัน วันนั้นเธอควรจะทำอะไรสักอย่าง ไม่น่าปล่อยให้เขาไปอยู่กับแอเรียลพ่อของเขาที่ฮ่องกงเลย
“คิดอะไรอยู่เหรอ” แดเนียลมองเธออยู่นาน เขาเดาใจเธอไม่ออกเสียทีจึงเอ่ยถาม
คาริสาหันไปยิ้มให้แดเนียลแบบฝืน ๆ พร้อมกับน้ำตาที่ยังไหลไม่หยุด
มาเฟียหนุ่มค่อย ๆ โน้มใบหน้าเข้าหาเธอหวังจะปลอบโยน เขาใช้มือทั้งสองข้างโอบรัดเอวคอดไว้ ริมฝีปากทั้งคู่ก็ค่อย ๆ เข้าหากันและกันแล้วประกบแนบชิดในที่สุด
นานนับนาทีที่เขาและเธอต่างคนก็ต่างให้ความร่วมมือ รสจูบดูดดื่มแฝงไปด้วยความคิดถึง ห้าปีที่จากกันมันเนิ่นนานเหลือเกิน ขอบคุณที่วนกลับมา
“ฉันดีใจที่ได้เจอเธออีกนะ” แดเนียลเลื่อนริมฝีปากขึ้นไปจูบหน้าผากมนเบา ๆ แล้วสวมกอดเธอไว้
คาริสางุดหน้าลงด้วยความเขินจนหูแดงไปหมด แต่แล้วอยู่ ๆ สีหน้าของเธอก็ซีดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แค่ว่าเธอและเขาคือศัตรูที่อยู่กันคนละฝั่ง หัวใจดวงน้อยมันล้นไปถึงตาตุ่ม
“หัวใจเธอเต้นแรงจัง เขินเหรอ” แดเนียลกระซิบถาม
“แดน ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม”
“ว่ามาสิ”
“นายกำลังทำงานอะไรอยู่เหรอ”
“ถามแบบนี้หมายความว่าไง” แดเนียลพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ พร้อมผละเธอออกจากอ้อมกอดเล็กน้อย
“ที่ฉันเจอนายบนเรือเมื่อวันก่อน...” คาริสาเริ่มพูดเสียงสั่น ก่อนจะถูกอีกคนเอ่ยแทรกอย่างเสียมารยาท
“เธอพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้วนะ ก็บอกแล้วไงว่ามันไม่เกี่ยวกับเธอ”
“เกี่ยวสิ เมื่อเช้าฉันเกือบตายนะแดน” แดเนียลถึงกับเงียบไปชั่วขณะ เขาจะบอกกับเธอได้อย่างไรว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามันเป็นแค่แผนการของเขา “งานนี้มันสำคัญมากเลยเหรอ นายถึงบอกฉันไม่ได้ มันต้องเก็บเป็นความลับขนาดนั้นเลยเหรอ”
คาริสาพยายามเค้นถามเพื่อให้แดเนียลยอมบอกอะไรกับเธอบ้าง เธอยินดีที่จะช่วยเหลือเขา ถ้าหากเขาต้องการความช่วยเหลือ
“มันไม่มีอะไรหรอก เธออย่าไปใส่ใจมันอีกเลยนะ แล้วอีกอย่างฉันจะไม่มีวันปล่อยให้เธอเป็นอะไรอีกแน่นอน เชื่อใจฉันนะเคส”
“เราเคยคุยกันได้ทุกเรื่องไม่ใช่เหรอ แต่ทำไม...”
“หยุดถามเรื่องไร้สาระได้แล้ว”
“แดน”
“ถ้าเธอไม่หยุดถาม ฉันจะจัดการกับเธอยังไงดีนะ” ว่าแล้วดันศีรษะหญิงสาวมาจุ๊บเหม่ง “ฉันว่าเราอย่ามาทะเลาะกันเรื่องนี้อีกเลยนะ”
แดเนียลมองหน้าคาริสาด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย ก่อนจะเอ่ยความในใจออกมา
“ฉันยังคิดถึงเธอนะเคส”
“แดน...”
“เธอไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น เพราะฉันรู้ว่าเธอก็คิดถึงฉันเหมือนกัน”
“หลงตัวเอง”
“หลงเธอมากกว่า” เขาสวมกอดเธออีกครั้งอย่างอารมณ์ดี
แดเนียลอุ้มคาริสาลงจากเรือ ทำให้เอกรวมทั้งลูกน้องคนอื่น ๆ มองเป็นตาเดียวกัน เนื่องจากที่ผ่านมาพวกเขาไม่เคยเห็นแดเนียลยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน
“แดน ปล่อยได้แล้ว ดูสิคนมองเต็มไปหมดเลย” คาริสาพูดแล้วหลบสายตาทุกคนที่มองมา
“เธออายเหรอ”
“อืม”
“จะอายทำไม มีแต่คนของฉันทั้งนั้น”
“จะใครก็เถอะ ฉันไม่โอเคทั้งนั้นแหละ” แดเนียลมองคาริสาแล้วยิ้มแฝงความเจ้าเล่ห์
“หอมแก้มฉันก่อนแล้วจะยอมปล่อย”
“ไม่เอา คนเยอะ”
“แปลว่าถ้าไม่มีคน เธอจะ...” แดเนียลยังพูดไม่จบคาริสาก็พูดแทรกและเปลี่ยนเรื่องทันที
“ไม่เอาอะไรทั้งนั้นแหละ ปล่อยฉันเลยนะแดน ถ้าไม่ปล่อยฉันจะโกรธแล้วนะ”
“กล้าโกรธเหรอ” แดเนียลพูดแล้วโน้มใบหน้าเข้าหาคาริสา เธอไหวตัวทันจึงใช้ศีรษะตัวเองกระแทกกับศีรษะของเขา ซึ่งก็แรงพอที่จะทำให้แดเนียลโอนเอนไปมาจนต้องยอมปล่อยคาริสาลง เมื่อเขาตั้งหลักได้คาริสาก็หัวเราะชอบใจใหญ่
“ทีใครทีมันก็แล้วกันนะ” ว่าแล้วเธอก็รีบวิ่งจากไป
“ยัยตัวแสบ” แดเนียลมองตามหลังคาริสาจนสุดทางพลางเผลอยิ้มออกมา เธอยังเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้เขายิ้มได้เสมอ
หนึ่งปีต่อมา...“อะ อั๊วะ อ้วก!”“พี่โอเคขึ้นไหม” คาริสาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับลูบหลังคนเป็นสามีเบา ๆ เนื่องจากเขาคลื่นไส้อาเจียนแบบนี้มาตลอดทั้งวัน “ไปหาหมอดีกว่านะ”“ไม่ไปนะเคส พี่ไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย” แดเนียลทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างหมดเรี่ยวแรง ก่อนจะดึงคาริสาให้นั่งบนตักของเขา“ไม่เป็นอะไรที่ไหนกัน อ้วกซะหมดไส้หมดพุงขนาดนี้”“พี่ไม่เป็นอะไรจริง ๆ” เขาโอบกอดเธอแล้วดึงมือเรียวมาสัมผัสเข้าที่หน้าผาก “แค่ปวดหัวนิดหน่อย”คาริสาอมยิ้มละไมเมื่อถูกสามีออดอ้อน เธอพรมจูบไปทั่วหน้าผากของเขาให้คลายอาการปวด“หนูมีอะไรจะให้พี่ดูด้วยนะ” มือเรียวเอื้อมไปหยิบเอกสารฝากครรภ์ก่อนจะยื่นมันให้กับเขา“มะ...หมายความความว่าไง หนูท้องเหรอ?”คาริสาพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เธอก็เพิ่งจะรู้เมื่อไม่นานนี้เอง ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันตอนที่รู้ว่ากำลังจะเป็นแม่คน“สองเดือนแล้วค่ะ”“คนดี พี่รักหนูที่สุดเลย” แดเนียลตะโกนพูดด้วยความดีใจ ก่อนจะหอมแก้มซ้ายหอมแก้มขวาของเมียรักไปหลายฟอดเป็นการขอบคุณ มือหนาลูบที่ท้องน้อยเบา ๆ “พี่จะมีลูกแล้ว พ
วันต่อมา…(ความลับของคาริสา คือยัยขี้แยที่ชอบน้อยใจผัว) คำพูดไม่น่าฟังกรอกเข้ามาในสายทันทีที่คาริสากดรับ“พูดอะไรของแก!”(ก็พูดเรื่องจริงไง ฉันรู้นะ ว่าทำไมแกถึงไม่ยอมมีลูกให้แดเนียลสักที)“แล้ว...”(เคส แกแต่งงานกับแดเนียลมาครึ่งปีแล้วนะ ไม่คิดมีตัวเล็กให้แดเนียลหน่อยเหรอ)“ฉันยังไม่พร้อมจะแบ่งความรักให้ใคร”(แม้แต่ลูกของแกเองนะเหรอ)“เฮ้อ! ฉันมันเห็นแก่ตัวใช่ไหมเรย์”(เชื่อฉันเถอะ! แดเนียลรักแกจะตาย เขาไม่มีวันรักแกน้อยลงหรอก มีแต่จะคลั่งรักแกมากกว่าเดิม ถ้าแกยอมมอบของขวัญที่ล่ำค่าที่สุดให้กับเขา)“ของขวัญที่ล่ำค่าเหรอ?”(ฉันไม่รู้จะพูดยังไงดี แกต้องสัมผัสมันด้วยตัวเองเคส แล้วแกจะรู้ว่าการที่มีลูกนั่นแหละ คือความรักและความสุขที่แท้จริง)หลังจากที่พูดคุยกับเพื่อนรักนานนับชั่วโมง คาริสาก็กดวางสาย ก่อนจะเห็นแดเนียลเดินผ่านหน้าของเธอไปนั่งบนโซฟาคาริสาวางถ้วยชาที่ถือติดมือมาด้วยลงบนโต๊ะกระจก แล้วหย่อนสะโพกนั่งลงบนตักของแดเนียล สองแขนเรียวโอบรัดลำคอหนาพลางซบใบหน้าลงบนบ่าแกร่ง“ยังโกรธหนูอย
“แต่งตัวสวยเชียว” แดเนียลเอ่ยชมพร้อมไล้สายตามองเรือนร่างขาวผ่อง เดรสสายเดี่ยวสีดำที่เธอสวมสะกดสายตาคนมอง“ทำไมถึงรู้ว่าเป็นหนู” คาริสาเอ่ยถามอย่างข้องใจ เพราะไม่ว่าเธอจะอยู่ภายใต้หน้ากากของใคร สามีที่รักก็จับได้เสมอ“เมียคนเดียวทำไมจะจำไม่ได้ พี่จำหนูได้ทุกตารางนิ้วของร่างกายเลยนะ เริ่มจากตรงไหนก่อนดี” คาริสาขมวดคิ้วสงสัย เธอแหงนหน้ามองเขา ก่อนจะถูกจูบหน้าผากกลับมา “กลิ่นตัวกลิ่นหัวพี่ก็จำได้ แค่กอดก็จำได้แล้ว”แดเนียลหอมแก้มเมียรักอย่างเอาใจ ทำเอาแก้มนวลที่เคยขาวผ่องแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อด้วยอาการเขินอาย“ไม่เชื่อหรอก พี่ขี้โม้”เมื่อถูกสปอยมากเกินไป คาริสาจึงกลายเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง ซึ่งแดเนียลก็ไม่ขัดพร้อมเอาอกเอาใจเมียรักเสมอ“หนูมีใฝ่เม็ดเล็กตรงหัวแม่มือข้างขวาด้วยนะ รู้หรือเปล่า”ไม่เพียงแค่พูดแต่มือหนายังจับพลิกมือเรียวมาชี้จุดให้เธอดู ก่อนจะยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นจูบคาริสาทำหน้าประหลาดใจ เพราะแม้แต่ตัวเธอเองยังไม่เคยสังเกตรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามร่างกายขนาดนี้เลย“หนูอยากรู้ตรงไหนอีก” มือหนาปัดผมที่ยาวสลวยออก
ณ ห้องทำงานส่วนตัวของประธานบริษัทซินเนอร์แกรนเนสกรุป‘แดเนียล’ ผันตัวจากมาเฟียฮ่องกงมาเป็นนักธุรกิจหนุ่มพันล้าน โปรเจกต์ใหญ่ที่ทุ้มทุนสร้างด้วยเม็ดเงินมหาศาล กำลังเป็นที่จับตามองของนักธุรกิจคู่แข่งหลายรายทว่าเรื่องนั้นกลับไม่ได้ทำให้ประธานหนุ่มเป็นกังวลแต่อย่างใด เรื่องเดียวที่ทำให้เขาเป็นทุกข์ในตอนนี้ คือ...“เมื่อไหร่เคสจะท้องสักทีวะ”เกือบครึ่งปีแล้วที่แดเนียลแต่งงานอยู่กินกับคาริสาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ทำไมเมียสุดที่รักถึงไม่มีวี่แววจะมีเบบี้ตัวน้อยให้เขาสักทีไม่ใช่ว่าเขาไม่ขยันทำการบ้านสักหน่อย ทำก็ออกจะบ่อย ทำทุกวันเลยก็ว่าได้คาริสาแทบจะต้องคลานลงจากเตียงไปทำงานทุกเช้า บางทีต้องลางานเป็นอาทิตย์ เพราะลุกออกจากเตียงไม่ไหวก็หลายครั้งหลังจากที่นั่งครุ่นคิดอยู่นานสองนาน แดเนียลก็อดสงสัยไม่ได้ว่าตัวเขาไม่มีน้ำยาหรือเปล่า เมียรักถึงไม่ท้องสักที นึกแล้วก็ขำ ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ เขาจะทำยังไงดีชีวิตหลังแต่งงาน บ่อยครั้งที่เขาและเธอต้องทะเลาะกันเรื่องเดิม ๆ ซ้ำ ๆ แดเนียลพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้คาริสาลาออกจากงานขององค์กรที่
หลังจากกลับมาจากบ้านพักตากอากาศได้สองสัปดาห์ งานแต่งของเขาและเธอถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โต งานแต่งงานของหลานชายสุดที่รักเพียงคนเดียวมีหรือที่คุณย่าจะจัดให้น้อยหน้าต้นตระกูลของคุณย่าท่านเรียกได้ว่ามีคนนับหน้าถือตา และเป็นที่รู้จักในแวดวงสังคมไฮโซ แขกเหรื่อมากมายต่างมาร่วมเป็นสักขีพยานรัก คนในองค์กรลับก็มาร่วมแสดงความยินดีในรูปแบบที่แต่งต่างกันออกไปภาคิน วิวัฒน์ และเคคิว มาเป็นแขกผู้ใหญ่ฝั่งเจ้าสาว เตชินและเรติกามาในฐานะเพื่อนรักของเธอ เซน ซาน และนาวิน แฝงตัวมาในชุดเด็กเสิร์ฟ แม้แต่หัวหน้าศูนย์ศูนย์หนึ่งก็แฝงตัวเป็นใครสักคนในงานดอกไม้ช่อเล็กถูกถืออยู่ในมือของคนที่สวยที่สุดในงาน เธอสวมชุดเดรสไหล่ปาดแขนยาวลายลูกไม้ สีขาวนวลแบบออฟไวท์ กระโปรงผ้าซาตินแบบตาข่ายยาวซ้อนกันเจ็ดชั้น มีเชือกร้อยด้านหลังที่ปรับให้กระชับหุ่นเพรียวระหง สายตาทุกคู่ภายในงานต่างก็จับจ้องไปที่เธอเคคิวเดินควงแขนน้องสาวมาหาแดเนียลที่สวมชุดสูทสีเดียวกันกับเธอ เขายินดีที่จะยกน้องสาวที่เขารักสุดดวงใจให้กับผู้ชายคนนี้ แม้หลายครั้งที่เคยเห็นแดเนียลทำให้คาริสาน้องรักของตนต้องเจ็บช้ำน้ำใจ แต่ก็คือคนเ
“เมื่อคืนหลับสบายไหม?” แดเนียลพูดในขณะที่มือหนาค่อย ๆ นวดศีรษะให้คนตัวเล็กอย่างเบามือ“คะ?” เธออุทานอย่างสงสัย ตื่นขึ้นมาเขาก็อุ้มเธอให้มาอาบน้ำด้วยกัน แถมยังเป็นคนสระผมให้เธอด้วยตัวเอง“นอนบนอกอุ่น ๆ ของพี่ หลับสบายไหมครับ” คาริสาพยักหน้าเป็นคำตอบพร้อมเอี้ยวหน้าไปคลี่ยิ้มหวานให้คนข้างหลังก่อนหันกลับไปอยู่ท่าเดิม“ทำไมวันนี้ดูแลเอาใจใส่หนูเป็นพิเศษ”“พี่อยากดูแลหนูแบบนี้ทุกวัน ขอโทษที่เอาแต่ทำงาน ไม่ค่อยมีเวลาให้หนูนะ” ผ่านมาเกือบเดือนหลังจากที่คาริสาตกลงจะแต่งงานด้วย แดเนียลก็เอาสนใจงานของบริษัทที่เขาเพิ่งได้รับตำแหน่งประธาน แทบไม่ได้แบ่งเวลามาดูแลเรื่องงานแต่งปล่อยให้คุณย่ากับคาริสาจัดการทุกอย่างกันเอง “หนูเหนื่อยไหมที่ต้องวุ่นวายเรื่องงานแต่งคนเดียว”เธอส่ายหัวไปมาเบาพร้อมโกยฟองน้ำในอ่างมาเป่าเล่นอย่างนึกสนุก“คุณย่าจัดการให้ทุกอย่าง หนูแค่ทำตามที่คุณย่าบอก” คิดไว้อยู่แล้วว่าเธอต้องตอบแบบนี้ เขาอมยิ้มให้กับคำตอบของเธอ ในขณะที่มือลูบไล้ปลายผมที่ยาวสลวย“หนูอยากไปเที่ยวไหม”“เที่ยวเหรอ?” น้ำเสียงตื่นเต้นดังออกมาจากปากของคนที่ก