"พิรุณ ปรมะเมคินทร์" คือ ทายาทหนึ่งเดียวของเจ้าสัวเทิดวิช และเจ้าของเลานจ์หรูใจกลางมหานคร ผู้รอคอยรักแท้ที่ซื่อสัตย์ ฉากหน้าเขาทำตัวเป็นเลขาพูดน้อย แต่เบื้องหลังกลับแฝงด้วยมนต์เสน่ห์สุดอันตราย "ปาลิน หาญหิรัญ" ลูกสาวเจ้าของตลาดสดขนาดใหญ่ที่โหยหาใครสักคนที่แสนดี เธอคือ พนักงานสาวออฟฟิศที่ทำงานได้ไม่เพียงกี่วันก็ดันจับพลัดจับผลูได้เป็นนายหญิงแห่งปรมะเมคินทร์
Lihat lebih banyakพิรุณ ปรมะเมคินทร์ตัดสินใจกลับมารับตำแหน่งเลขาของบริษัท อธิกะ คอนสตรัคชั่นที่เมืองไทยหลังจากที่ตนนั้นได้ให้คำมั่นสัญญากับพี่ธิ รุ่นพี่ชาวไทยที่ช่วยเหลือเขาไว้ที่ริมแม่น้ำฮัดซันในอเมริกา ตอนนั้นเขาถูกกลุ่มอันธพาลซ้อมปางตาย
โชคดีที่ได้รุ่นพี่คนนี้ช่วยไว้และติดต่อหาลุงที่เมืองไทยเพื่อแจ้งว่าเขารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล จากนั้นชายหนุ่มจึงรับปากกว่าถ้าเคลียร์งานของพ่อที่ลาสเวกัสเสร็จเรียบร้อย ตนจะกลับมาช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ของพี่ธิเพื่อตอบแทนที่ไม่ทอดทิ้งเขาในช่วงเวลานั้น
ทายาทรุ่นสองของ PMK Group กลับมาบริหารงานของตระกูลได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องรวมทั้งเปิดบริษัทที่นั่งแท่นเป็นประธานบริษัทที่ชื่อว่าเครซี่เรนด้วยน้ำพักน้ำแรงตนเอง และยังปลุกปั้นผับเรดเรนกับเลานจ์หรูใจกลางมหานครกรุงเทพอันพลุกพล่านจนโด่งดั่งภายในระยะเวลาห้าปีเท่านั้น
ถึงช่วงเวลากลางวันเขาจะเป็นเลขาทั่วไปที่ทำงานอยู่ในบริษัทรับเหมาก่อสร้างราวกับพนักงานออฟฟิศคนหนึ่ง แต่ตกเย็นเมื่อตะวันลาลับขอบฟ้า เลขามาดนิ่งก็กลายเป็น ‘ฝนคลั่ง’ ที่พร้อมเอาชนะศัตรูทุกคนที่เข้ามายุ่งวุ่นวาย และดูเหมือนว่าศัตรูคนล่าสุดจะเป็น ‘ปาลิน หาญหิรัญ’ เด็กสาวมหาลัยคณะบริหารที่เข้ามาฝึกงานที่บริษัทก่อสร้างชื่อดังแห่งนี้แถมยังสร้างวีรกรรมร้อยแปดให้เขาต้องปวดหัวปวดขมับอยู่เรื่อย
แต่ช่วงเวลาแสนสั้นที่ได้เจอหน้าเธอและมีปากเสียงกันอยู่บ่อยครั้งทำให้เขารู้สึกว่าเธอเป็นสีสันของชีวิต จนรู้สึกโหยหาอย่างบอกไม่ถูก กระทั่งจบโครงการฝึกงานเธอก็หายหน้าหายตาไปมุมานะเรียนจนจบมหาวิทยาลัย
********************************************
บ้านหลังใหญ่สไตล์นอร์ดิกตั้งตระหง่านอยู่หลังซอยที่เงียบเชียบไร้ผู้คน ซึ่งก่อนถึงบ้านหลังดำลึกลับด้านหน้ามีตลาดสดขนาดใหญ่เรืองทรัพย์999 ของเจ๊กัลยา ทุกเช้าพิรุณจะปั่นจักรยานมาเพื่อซื้อปาท่องโก๋น้ำเต้าหู้กลับไปฝากลูกน้องที่ยืนตัวนิ่งเฝ้าบ้าน แต่เช้านี้เป็นวันแรกที่เขาได้พบกับลูกสาวคนเล็กของเจ๊กัลยา หาญหิรัญที่เพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยมาหมาด ๆ และยังเคยมีประเด็นกับเขาสมัยตอนที่เคยฝึกงานในบริษัทอธิกะ คอนสตรัคชั่น
ปาลินที่อยู่ใสชุดเสื้อยืดตัวใหญ่โคร่งกางเกงยีนส์ขาสั้นเดินตามแม่ต้อย ๆ ไปตามแผงขายของ เมื่อเจ๊กัลเห็นลูกค้าน้ำเต้าหู้หนุ่มสุดหล่อก็จำได้แม่นยำว่า เด็กหนุ่มคนนี้เป็นลูกเพียงคนเดียวของเจ้าสัวเทิดวิช
"พ่อหนุ่มเธอใช่ พิรุณ ลูกคุณเทิดหรือเปล่า" ใบหน้าชุ่มเหงื่อที่เพิ่งวิ่งจ๊อกกิ้งมาเหลือบมองหน้าเจ๊กัลยาแล้วจึงเหล่มองเด็กสาวด้านหลังที่กำลังกลอกตามองบนใส่เขาอยู่
"ใช่ครับ" เจ๊กัลยาฉีกยิ้มอย่างมีนัยนะแอบแฝง
"โสดหรือเปล่า แต่งงานหรือยัง"
เอาแล้วไงปาลินคิดในใจงานหลักของแม่คือเก็บค่าเช่าแผง ส่วนงานอดิเรกคือหาผัวให้พวกพี่สาวของเธอ
"แม่ไม่คิดจะถามหนูบ้างเหรอว่าหนูโสดไหม อยากแต่งงานหรือเปล่า" ปาลินพูดขึ้นแกมประชดประชัน
"หืม..พี่แกมันยังโหนคานกันอยู่เลย ให้พี่แกได้แต่งงานก่อน แล้วแกค่อยแต่ง"
"เหอะ...ลำเอียงชัด ๆ " เจ๊กัลยาหมั่นไส้กับคำพูดลูกสาว จึงได้หันไปดึงหูลูกสาวจนกาง "โอ๊ย..แม่แม๊หนูเจ็บนะ"
"หึหึ" พิรุณหลุดขำ แล้วรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติตามเดิม "ผมโสดครับ" เมื่อเจ๊กัลยาได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ส่งให้ชายหนุ่มอายุ 29 ปีแล้วรีบปล่อยใบหูของปาลินอย่างเร็ว
"น้าดีใจที่เธอยังโสด อีกไม่นานคงได้ดองกันนะพ่อหนุ่มหล่อ" เจ๊กัลยาตบบ่าของพิรุณแล้วปล่อยทิ้งให้ปาลินยืนทำหน้าเจื่อนเบื่อโลกอยู่ตรงนั้นคนเดียว
"กินข้าวหรือยัง" ปาลินมองซ้ายมองขวานี่เขาถามเธอหรือถามใครอยู่
"ถามฉันเหรอ"
"แล้วตรงนี้มีคนอื่นหรือไง"
"ยังไม่ได้กิน" พิรุณเลิกคิ้วสูงส่งถุงปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้ให้ปาลิน เธอก้มมองของในมือเขา แล้วเหลือบมองหน้าเขาอย่างง ๆ
"เธอมันงี่เง่า!" เขาสบถใส่หย่อนถุงของกินลงไปในตะกร้ากับข้าวของเธอ เดินจากไปไม่พูดอะไรต่อ การกระทำที่ผีเข้าผีออกของเขามันทำให้เธอร้อน ๆ หนาว ๆ อยู่ตลอด ทีเมื่อก่อนเธอฝึกงานอยู่ที่บริษัทอธิกะ เขาทำอย่างกับว่าเธอเป็นต้วร้าย แต่เธอก็ยอมรับว่าเธอเป็นแบบนั้นจริง ๆ แต่นั่นเป็นเพราะเธอหาอะไรสนุกทำเพื่อข้ามเวลาเหงา ๆ ของตัวเอง และการที่ได้รุกจีบผู้ชายสักคนที่ดูมีภูมิฐานแบบเจ้านายของอิตาพิรุณนี่ก็ดูจะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากที่สุด และเขาก็ดูเป็นผู้ใหญ่ที่เธอคิดว่าน่าจะฝากผีฝากไข้ได้ และเพื่อทำให้แม่กับพี่สาวต่างพ่อคิดว่าคนแบบเธอก็มีคนอยากคบหาด้วย
ที่ผ่านมาไม่ว่าเธอจะรักจะชอบใครก็ไม่มีใครคบเธอได้นานเกินสามเดือน นั่นเพราะว่าแม่กับพี่สาวจอมจุ้นนั่นเอง
เพราะพวกเขากลัวว่าเธอจะพลาดท่าเหมือนตอนที่ยังเรียนอยู่ปีหนึ่ง ตอนนั้นเธอเคยคบเพื่อนผิด การคบเพื่อนโดยไม่ดูคุณภาพของเพื่อนให้ดีเสียก่อน มันมักจะนำพาหายนะมาให้เรา
หายนะที่ว่านั้นก็สร้างปมในใจของเธอและครอบครัวอย่างมาก เพราะเพื่อนกลุ่มนั้นหลอกพาเธอไปขายตัวให้รุ่นพี่ปีสี่คนหนึ่ง นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ว่าทำไมแม่ถึงยังไม่ยอมให้เธอคบหาใครก็ตาม แม้กระทั่งคบเพื่อนสักคนยังแทบจะแสกนกรรมทุกตารางนิ้ว ถามหมอดูไม่ต่ำกว่าสองสำนัก
ปาลินทรุดตัวนั่งลงเช็คอีเมล์ในคอมแล้วเสมองถุงน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ ว่าไปเธอก็หิวอยู่เหมือนกันแต่กำลังรอจดหมายตอบรับจากบริษัทอธิกะเรื่องการสัมภาษณ์งาน เพราะเธอรออีเมล์มาตั้งแต่เมื่อวานแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าพวกเขาจะตอบกลับมา หรือว่าบางทีอาจจะไม่ได้ทำงานที่นี่แล้ว เพราะเธอเคยสร้างวีกรรมกับครอบครัวพี่ครีมและคุณธิไว้จนเกือบทำเขาแตกคอกัน
บนโต๊ะทำงานเนื้อไม้สีดำที่อยู่ใจกลางบ้านทรงสูงนัยน์ตาเรียวเย็นชากำลังนั่งมองอีเมล์ฉบับหนึ่งที่มาลี ผู้จัดการทั่วไปที่อาสาจัดการไปทั่วได้ส่งอีเมล์ของปาลิน หาญหิรัญมาให้เขาช่วยพิจารณาดู ไม่ว่าอะไรหรือใครที่จะมาข้องเกี่ยวกับผู้มีพระคุณอย่าง พี่ธิ หรือบอสธิ เขาจะต้องระมัดระวังและตรวจทุกคนทุกสิ่งอย่างละเอียด
ฟากเดียวกันหญิงสาวที่เริ่มรออีเมล์ไม่ไหวได้ตัดสินใจกินน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ของพิรุณจนหมดเกลี้ยง แล้วพลันใดนั้นบางอย่างก็เด้งเข้ามาในกล่องข้อความ ปาลินมือไม้สั่นรีบเปิดดูด้วยความตื่นเต้น
"ยินดีต้อนรับนะปาลิน รอบหน้าเธอต้องเลี้ยงข้าวฉัน ขอให้มีความสุขกับการทำงานที่บริษัท จาก พิรุณ"
"หา...ไหงนายนั่นมาตอบจดหมายการสัมภาษณ์งานของฉันได้เนี่ย ละลาบละล้วงใหญ่แล้ว แล้วใครจะไปเลี้ยงข้าวนายกันฝันไปเหอะ"
ปาลินเคี้ยวปาท่องโก๋แหง่บ ๆ ด้วยสีหน้าหงุดหงิด ถึงเธอจะกินของที่เขาซื้อมาให้ แต่เธอไม่ได้บอกให้เขาซื้อให้สักหน่อยเรื่องอะไรต้องเลี้ยงข้าวด้วย
ขณะที่ปาลินกำลังจะเตรียมตัวอาบน้ำนอนเพราะพรุ่งนี้จะได้ไปทำงานกับบริษัทที่เคยฝึกงาน หญิงสาวจึงรีบเตรียมร่างกายให้พร้อมรับมือกับการเป็นพนักงานออฟฟิศวันแรกอย่างเต็มที่ ทว่าจู่ ๆ ใครบางคนก็กระชากประตูห้องของเธอเข้ามา อาการที่สะลืมสะลืออยู่นั้นก็สว่างจ้าจนลืมไปเลยว่าเคยง่วง
"ไอ้ลิน..แม่จะให้พี่ไปดูตัวว่ะ แกไปแทนได้ไหมวะ" พี่พุดพี่สาวอายุย่าง 27 ปีของเธอที่ติดสตรีมเกมส์อย่างหนักจนตาดำเป็นเบ้าเหมือนไปเช่าชุดแพนด้ามาใส่ตลอดเวลาบอกด้วยสีหน้าเว้าวอนปานขาดใจ
"เรื่องอะไรต้องเป็นลิน แม่ให้ใครไปก็คนนั้น ไปดูตัวนะคะ ไม่ใช่ไปส่องสัตว์โลกถึงจะแทนกันได้อ่ะ" ปาลินบอกแล้วเลิกผ้าคลุมโป่งนอนต่อโดยไม่สนใจพี่สาว
"โถแกช่วยพี่คนนี้หน่อยนะ ไม่มีใครช่วยฉันได้แล้ว เพราะบ้านเราก็เหลือแค่แกกับฉันที่ยังนั่งแกว่งขาอยู่บนคานอยู่เท่านั้น"
"ไม่เอาอ่ะลินเพิ่งจะเริ่มใช้ชีวิตเองนะ ยังไม่ทันได้ไปทำงานเป็นเรื่องเป็นราวเลย จะให้ไปดูตัวแล้วมีผัวเลยลินไม่เอาเด็ดขาด"
"แกก็รู้นี่ว่าฉันเป็นอะไรอ่ะ" ปาลินฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าพี่สาวเป็นสายหญิงรักหญิงที่คบหญิงมากกว่าสองคน ต้องเรียกว่าคาสโนวี่ตัวแม่เลยมั้งถ้าเป็นผู้ชายล่ะก็เธอจะจับตัดไอ้จ้อนแล้วโยนให้แพะกินให้หมดเกลี้ยงเลย
"พี่ก็บอกกับแม่ไปตามตรงสิว่าพี่ชอบผู้หญิงไม่ชอบผู้ชายอ่ะ"
"แล้วแกคิดว่าแม่จะยอมรับได้เหรอวะ"
พี่พุดพูดทั้งน้ำตาแล้วทรุดตัวนั่งถ่างขากว้างขวางประตูห้องนอนของเธอ เพราะในบ้านนี้มีแค่เธอคนเดียวที่สนิทกับพี่พุดมากที่สุด และเป็นเธอคนเดียวที่คอยรับฟังปัญหาของพี่สาว
"เออๆ หนูไปให้ก็ได้ค่ะ ก็แค่ดูตัวเอง บางทีถ้าลินทำไรเปิ่น ๆ โก๊ะ ๆ เดี๋ยวฝั่งผู้ชายก็วิ่งจุกตูดกลับเองล่ะเนอะ" ปาลินพูดให้กำลังใจตัวเองโดยที่ไม่รู้เลยว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าเธอจะไม่มีวันได้ใช้ชีวิตแบบปกติอีกต่อไป
"แม่หนูมาเสนอให้น้องไปดูตัวแทน" พุดจับน้องสาวแต่งหน้าทำผมจนสวยแปลกตาทำให้เจ๊กัลยาที่กำลังนั่งกดเครื่องคิดเลขอยู่นั้นถึงกับต้องถอดแว่นออกมากวาดมองดูลูกสาวคนเล็กตั้งแต่หัวจรดเท้า
"แกจะให้น้องตัดหน้าได้ไงยัยพุด มันยังเด็กอยู่เลย" เจ๊กัลยาทักท้วง
"มัน 22 แล้วนะแม่ ไม่เด็กแล้วนะ นี่ดู! อกเอวตูดมีครบหมด มันเด็กตรงไหนอ่ะแม่ แล้วแม่ดูหนูกับน้องนะ แม่ว่าใครมันประดับหน้าตาของแม่ได้มากกว่ากันคะ " พี่พุดพยายามบอกใบ้แม่ว่าน้องสาวอย่างเธอนั้นสวยพอที่จะเป็นหน้าเป็นตาให้ครอบครัวได้เหมือนกัน ยังไงก็ต้องขอบคุณพี่สาวที่คอยชมน้องคนนี้เสมอ
1 ปี 8 เดือน ผ่านไป (ไวเหมือนว๊าปมา)"โอ๊ย!.....อย่าดึงสิหมื่น พี่เจ็บนะ ก็บอกว่าอย่าดึงไงเล่า" พราวมนต์ยื้อยุดเส้นผมบนหัวของตนคืนจากน้องชายคนสุดท้องของบ้านที่กำลังกำทึ้งผมเธอเอาไว้เป็นกำใหญ่ ดึงไปซ้ายทีขวาทีจนพี่สาวเจ็บจนหน้าเบี้ยว"หมื่นหล้าครับปล่อยผมพี่มนต์ก่อนสิลูก พี่เจ็บจะแย่แล้ว ถือว่าแม่ขอนะครับ" ปาลินที่เพิ่งจะทำเมนูโปรดของสามแสบเสร็จปรี่เข้ามาแกะมือน้อยของลูกชายวัยหนึ่งขวบห้าเดือนออกจากหัวของลูกสาวคนโต"หม่ำหม่ำ....แฮ่!! แฮ่!!" เจ้าหนูชูมือขึ้นสูงชี้มือไปยังโต๊ะกินข้าวแล้วทำหน้าขู่เลียนแบบโอเลี้ยง"มะม๊าหมื่นขู่ทำไมคะ" พราวมนต์ที่ได้หัวคืนจากน้องชายรีบจัดทรงผมให้เข้าที่เข้าทาง"สงสัยจะติดมาจากหมามั้งลูก เอ้....มะม๊าก็เพิ่งจะเห็นว่าหมื่นขู่" ปาลินเกาหัวแกรก ๆ"ทุกคนปะป๊ากลับมาแล้วคร้าบบบบ แล้วปะป๊าก็ซื้อขนมมาเยอะแยะเลยด้วย" พิรุณเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับถุงขนมมากมาย ทันใดที่เห็นคุณพ่อหมื่นหล้าตัวร้ายก็ปีนลงจากโซฟารีบเดินเตาะแตะเข้าไปกอดขาของชายหนุ่มด้วยความดีใจ"ป้าป้าาาาา ปะป้าาา ปุ้งปุ้ง"แป๊ดดดดด~กลิ่นและเสียงแสนเหม็นเขียวคละคลุ้งไปทั่วทั้งบ้าน"อุแว้ก!" กลเมฆที่นั่งอ่านห
บ้านปรมะเมคินทร์ฝ่ายใต้พิรุณทำตามสัญญาของปู่พงศกรที่ต้องการให้พาลูกสาวและลูกชายฝาแฝดของเขามาประทับลายนิ้วมือเพื่อเป็นผู้นำคนใหม่ รวมทั้งเปิดรายละเอียดต่าง ๆ ให้หลานชายและหลานสะใภ้ได้รับรู้พร้อมกันว่า พราวมนต์กับกลเมฆมีสิทธิ์มีส่วนในทรัพย์สินใดของตระกูล"มาลูกนั่งตรงนี้ประทับนิ้วลงไปเลยทั้งสองคน" ทนายกริช ทนายประจำตระกูลจับนิ้วโป้งของแฝดผู้พี่ลงมาบนตลับหมึกแล้วทาบนิ้วเล็กลงไปบนแผ่นกระดาษ แล้วจึงจับนิ้วของกลเมฆลงมาประทับอีกครั้งเป็นอันเสร็จสิ้น"เรียบร้อยครับ นายน้อยทั้งสองจะได้รับมรดกเป็นบ้านหลังนี้ บริษัทและธุรกิจทั้งหมดในเครือ PMK Group ทั้งหมด แล้วที่เหลือก็ยกให้เป็นการตัดสินใจในอนาคตอีกทีครับ เพราะตอนนี้คุณหนูแฝดยังเด็กด้วยกันทั้งคู่" ทนายรุ่นลุงกล่าว"คุณปู่ขา มนต์ไปเล่นกับหมาสีดำตัวนั้นได้ไหมคะ" พราวมนต์ชี้ไปยังลูกสุนัขลาบราดอร์สีดำวัยกำลังซุกซนที่ดาเนียหลานสาวเอามาแบ่งให้ช่วยกันเลี้ยง"ตามสบายเลยลูก เจ้าเปียกปูนมันไม่ดุหรอกใจดีมาก ๆ" ผู้เฒ่าวัยย่างเก้าสิบเอ่ยพลางลูบหัวเหลนสาว"โอเคค่า...ไปเร็วเมฆไปเล่นกับเปียกปูนกันเถอะ" แฝดผู้พี่ที่มีแววเป็นมังกรสาวที่จะกุมอำนาจของปรมะเมคินทร์
เพียงแค่ถูกเล้าโลมที่กึ่งกลางลำตัวสะโพกผายก็แอ่นร่อนบิดส่ายจนสติพร่าเลือน ไม่รู่ว่าคุณย่าดาหลา ย่าของสามีเอายาสูตรไหนมาให้เธอกับพี่เรนกิน มันถึงได้ร้อนสลับหนาวจนใจว้าวุ่นไปหมดยิ่งไปกว่านั้นพี่เรนของเธอก็ไม่มีท่าทีจะให้ค่ำคืนนี้จบลงง่าย ๆ ยังคงยืนหยัดยึดปณิธานอันแรงกล้าว่าจะปั๊มลูกคนที่สามให้สำเร็จ หรือสามีตกลงเงื่อนไขสำคัญข้อใดกับเถ้าแก่พงศกรและย่าดาหลา ถึงได้อุตสาหะและมานะต่อการสร้างผลผลิตอันน่ารักนี้ซะเหลือเกินสำหรับเธอที่ต้องทำหน้าที่แม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยอยู่บ้างที่จะต้องแบกท้องไปอีกเก้าเดือน ทว่าเมื่อคิดถึงความรัก ความภักดี และความซื่อสัตย์ที่ตราตรึงอยู่ภายในใจ ก็ไม่มีเหตุผลใดมาหักล้างความดีของพี่เรนได้เลยสักข้อ มีแต่ความยินยอม ความเต็มใจทุ่มและเทให้เขาไปแทบทั้งสิ้น"ตัวเล็กเงียบทำไม ลินครับเป็นลมหรือเปล่า" ชายหนุ่มยอดรามือจากกลีบเนื้อที่ฉ่ำวาวแล้วลุกขึ้นประคองแผ่นหลังเล็กขึ้นมาโอบอุ้มในวงแขนกว้าง"เปล่าค่ะแค่คิดอะไรเพลินไปหน่อย" ยิ้มแฉ่งแล้วซุกหัวแนบกับแผงอกขาวเนียน ปลายนิ้วชี้เขี่ยไปที่ตุ่มไตสีชมพูเพื่อแหย่เล่น"อยากกินนมพี่ก็ไม่บอก""อยากกินพี่เรนทั้งตัวเลยต่างหาก" คล้องวงแขน
พิรุณยืนเป่าผมในห้องน้ำอยู่นานกระทั่งได้ยินเสียงเคาะประตูแบบทุบรัว ๆ เหมือนกับมีเรื่องคอขาดบาดตายที่ด้านนอก เขาหยุดเป่าผมและเปิดประตูออกไป ไม่ทันไรก็ถูกกระชากเข้าไปหา ฝ่ามือนุ่มที่รุ่มร้อนพันเลื้อยสอดเข้ามาใต้กางเกงนอนรั้งบั้นท้ายแน่นให้เบียดกับเนื้อตัวที่กำลังครางอยู่ในลำคอ"อื้ม....พี่เรนขา พี่เรนหล่อจังเลย""ห๊า....จู่ ๆ ก็ชม" ชายหนุ่มเหลือบมองบริเวณรอบบ้านให้แน่ใจว่าบรรยากาศข้างนอกเงียบสงัด ไร้ผู้คนพลุกพล่านแน่ชัด เขาจะได้เสพสุขทุกซอกทุกมุมของบ้าน และทุกซอกทุกตารางนิ้วของปาลินที่โหยหามาตลอดหนึ่งเดือน"พี่เรนลินร้อนวูบวาบแปลก ๆ พี่เรนช่วยลินหน่อยสิคะ" มือไม้ที่ล้วงไปกุมซันนี่ของเขาเคลื่อนออกมาเลื่อนขึ้นมาถึงหน้าอกที่เปลือยเปล่า หรือนี่จะเป็นเพราะยาสมุนไพรจีนม้าศึกฉบับสามก๊กของคุณย่า แม่ตัวเล็กถึงได้คึกคักถึงเพียงนี้"ก็ลินกินยานั่นไปเยอะ" รวบยกบั้นท้ายนุ่มขึ้นแล้วหย่อนลงข้างอ่างล้างมือที่มีจานเลมอนสีเหลืองกับเมลอนสองลูกวางอยู่"มันคือยาอะไรเหรอคะ.....อ๊า" กระดุมเสื้อนอนถูกปลดออกจนถึงเม็ดสุดท้ายอย่างว่องไว ปากที่ไร้ความอดกลั้นก็ตะโบมดูดลงมารวดเร็วไม่แพ้กัน ยอดถันออกสีแดงเหมือนเม็ดเก
ขบวนขันหมากจัดขึ้นที่บ้านหลังใหม่เอี่ยมของพิรุณและปาลิน เจ้าบ่าวหน้าตาหลอเหลายิ้มแย้มแจ่มใสขณะที่เดินมาพร้อมกับเครือญาติของปรมะเมคินทร์เกือบสามสิบชีวิต พิรุณในชุดสูทสีครีมแบบเป็นทางการเดินถือพานธูปเทียนแพ โดยมีเจ้าสัวเทิดวิช คุณเพชรไพร พ่อแม่ของเขาที่กลับมารักกันหวานชื่นในรอบยี่สิบปีคอยเดินขนาบข้างลูกชายไปพร้อมกันด้านหลังมีลุงโทนธรรมเดินฉีกยิ้มกว้าง มาพร้อมกับลูกเขยที่ยังไม่ได้ตบแต่งเข้าบ้านของเขาอย่างสุริยะ อัครภูรินทร์เดินถือพานขันหมากเอก และมีหมอเอลวินถือขันหมากโท ตามด้วยเหล่าเพื่อน ๆ ในกลุ่มเดอะเซฟเฟอะเช่นพนาธีร์ ผอ.ทัพฟ้า และท่านชายภูวสินคอยช่วยถือพานแหวนหมั้น คู่พานสินสอด ร่วมเดินในขบวนขันหมากในฐานะเพื่อนเจ้าบ่าวคุณพ่อที่เป็นเจ้าบ่าวเดินเข้ามาถึงบริเวณหน้าบ้านเพื่อสู่ขอคุณแม่คนสวยของพราวมนต์กับกล พิรุณเมฆชะงักฝีเท้าในทันใดเมื่อลูกแฝดทั้งสองยืนเคียงข้างดาเนียและผิงผิงที่กำลังทำหน้าที่กั้นประตูเงินประตูทองตรงหน้าปากทางเข้าบ้านหลายร้อยเมตร เขาเห็นด่านกั้นเกือบหกเจ็ดด่านยาวไปถึงตัวบ้านด้านในสุดก็รู้สึกนึกขำขันในใจว่าเมียจ๋าคิดจะทดสอบผัวคนนี้ให้หอบรับประทานกันไปข้างหนึ่งเลยใช่ไหม"พ
"ฮ่าฮ่า คุณจะบอกว่าคุณเป็นคนดีงั้นสิ" นภาธรขำเสียงดังด้วยความสะใจแล้วควักปืนออกมาเล็งมาที่หน้าของพิรุณโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว ลูกน้องทั้งสองฝ่ายรีบชักกระบอกปืนขึ้นมาจ่อไปยังฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่มีใครยอมใคร"ไม่มีใครอยากบอกว่าตัวเองเลวหรอกค่ะ แหม...โชคดีจังที่เธอเสนอหน้ามาร่วมงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ เพราะฉันจะได้ไม่ต้องกลับไปจัดการที่กรุงเทพ ยังไงก็ขอบคุณนะที่เธอมา" กล่าวขึ้นอย่างเยาะเย้ยแล้วกดปลายกระบอกปืนแนบกับขมับหนึ่งข้าง สาวในชุดเดรสปาดไหล่สีแดงก้าวขาขึ้นมายืนเบื้องหน้าของนภาธร"ก....แกนังปาลิน!" นภาธรชะงักตัวแข็งทื่อขณะที่กลุ่มบอดี้การ์ดสาวจากจีโพรเทคชั่นที่เถ้าแก่พงศกรยกให้หลานสะใภ้ไปดูแลในฐานะผู้บริหารคนใหม่ ต่างล้อมวงเข้ามายืนซ้อนหลังลูกน้องของนภาธรและล็อกใส่กุญแจมือด้วยความรวดเร็วจนไม่มีไหวตัวทัน"หนีไปก็เท่านั้น อีกไม่กี่นาทีตำรวจก็จะมาถึงแล้ว และครั้งนี้อย่าคิดว่าตำรวจที่นี่จะกลายเป็นคนของเธออีก อย่าคิดว่าคนอย่างเธอจะเล่นพรรคเล่นพวกได้อยู่คนเดียวนะ เพราะฉันก็ทำได้เหมือนกัน"กรี๊ด!!!"ปล่อยฉันนะนังลิน แกไอ้พวกลูกกระจ๊อกโทรหาพ่อกูสิ พวกมึงจะยืนค้างอยู่ทำไม โทรสิวะ!"เพียะ!!หลังมื
Komen